การเจริญสติและเจริญปัญญาที่แสดงโดยพระอรหันต์หาฟังได้จากคลิปยูทูป

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 6 พฤศจิกายน 2018.

  1. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    การแสดงธรรมที่เกี่ยวกับสติปัฏฐาน4
    อัน เป็นแนวทางเจริญสติและเจริญปัญญา
    ที่ัถูกแสดงไว้
    โดยพระอริยะเจ้าทุกยุคสมัย
    ที่ศิษยานุศิษย์นำมาลงไว้
    เพื่ิิอเป็นธรรมทาน
    ก็มีไม่น้อยสำหรับผู้ขวนขวายที่ต้องการศึกษา
    ดังนั้น เพื่อเกื้อกูลอนุเคราะห์สงเคราะห์
    ต่อโยคีใหม่ๆ
    ท่านโยคีซีเนียร์
    ที่ได้พบและได้รับฟัง
    คลิปของพระอริยเจ้า ที่มีสาระตรงกับกะมู้
    โปรดนำมาเผื่อแผ่กันได้
    ครับผม
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ไม่ต้องขนาดนั้นครับ
    เอาที่เหมาะ เลือกส่วนที่ตรงกับเรา
    ในข่วงนั้นๆ จากแต่ละท่าน
    ที่เราดูแล้วว่า ท่านได้มาจากประสบ
    การณ์ในการปฎิบัติของท่านก็พอครับ

    เวลาเราปฎิบัติ
    จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว
    ตามจริต อนุสัย และวิบากของเรา
    จึงไม่มีท่านใดที่จะสอนตรงกับวิถีจิต
    เราได้ตลอดทั้งสายครับ
    แม้จะบอกเป้าหมายได้เหมือนกันครับ

    ฝากไว้เป็นแง่คิดครับ
     
  3. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    อ้อ.. ครับ
     
  4. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ร่วมแสดงความเห็น
    ยุคนี้สะดวกในการฟังธรรมจากยูทูปฯลฯ
    ไม่เหมือนเมื่อก่อน

    แต่ปัญหา
    ขาดคนชี้ ว่าฟังของใครเหมาะกับตัวเอง
    ขาดคนบอกอุบายต่างๆ ขณะภาวนา

    เหมือนคนไข้ไปหาหมอ
    หมอต้องถามคนไข้ก่อนจะให้ยา
    ยามีมากมาย

    ขึ้นอยู่กับหมอมีความรู้แค่ไหน
    ในการวิเคราะห์ให้ยาที่เหมาะกับคนไข้

    เดํวนี้หมอเถื่อนมีเยอะ
    วิเคราะห์โรคไม่เป็น

    ให้ยามั่วไปหมด
    สุดท้ายคนไข้ตาย

    เหมือนหมอเถื่อนในเวปนี้แหละ
    จ่ายยามั่วไปหมด

    ธรรมคำสอนเหมือนตัวยารักษา
    มีอยู่ทั่วไปทั้งในตำรานอกตำรา

    ครูบาอาจารย์ก็เหมือนหมอรักษา

    เดํวนี้คนอยากเป็นอาจารย์
    อยากสอนคนอื่นแต่ไม่ดูความสามารถตัวเอง

    ยิ่งเข้าใจว่าตัวบรรลุธรรมยิ่งอันตราย!!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤศจิกายน 2018
  5. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
     
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ข้อคิดจากวัดป่าครับฝากไว้
    ให้พิจารณาครับ ท่านลุง


    “ปล่อยวาง ไม่ใช่ว่าอะไรมัน
    จะจืดชืดไปหมดนะครับ
    มะนาวก็ยังเปรี้ยว
    น้ำตาลก็ยังคงหวานอยู่
    เกลือมันก็ยังคงเค็มเหมือนเดิม
    ปล่อยวาง คือ
    ปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่น
    ตาก็ดูไป หูก็ฟังไป เพียงแต่ว่า
    ใจเรานั้น ไปยินดี ไปยินร้ายด้วยหรือไม่
    ไม่ใช่จะไปปิดหู ปิดตาเลย
    มันเป็นไปไม่ได้หรอก
    เพราะมันเป็นการฝืนธรรมชาติ....

    ใหม่ๆแรกๆเลย
    ก็อยากไปวัดโน้นไปวัดนี้
    เพราะใจมันอยากแสวงหาบุญ
    ก็ไปกันบ้างเถอะครับ ดีกว่าอยู่เฉยๆ
    ถือว่าไปสร้างบารมีกันเป็นเรื่องธรรมดา....

    ครูบาร์อาจารย์ท่านดีกันหมดทุกท่านหละครับเพียงแต่แรกๆเรา
    อาจจะยังไม่เข้าใจธรรมที่ท่านสอน เพราะปัญญาทางธรรมเรายังไม่เพียงพอ
    และบารมีเรายังไม่พอ
    เราจึงยังไม่ทราบ เราจึงเข้าไม่ถึง
    เราก็มาสร้างบุญสร้างบารมี
    ตามวิถีของเราต่อไป
    เด่วต่อไปเราก็จะเริ่มเข้าใจ
    สิ่งที่ท่านสอน สิ่งที่ท่านแนะ
    และเข้าใจอะไรๆได้เองนั่นหละครับ.....

    และต่อไปถ้าเราพอเข้าใจอะไรแล้ว
    เราก็ไม่ต้องไปไหนหรอกครับ
    อยู่บ้าน อยู่ที่ทำงานเรานี่หละครับ
    เราก็จะสามารถเข้าใจอะไรได้เอง
    ทำบ้านทำที่ทำงานให้เป็นวัดซะ
    เอารอบตัวเอาเพื่อน
    ที่ทำงานเรานี่หละครับ
    เป็นการสอบอารมย์ตัวเราเอง....
    สตินี่หละครับ ที่จะเป็นอาจารย์เราเอง
    ที่จะคอยตรวจสอบใจเราเอง...

    ถ้าใจเราดี แม้ภายนอกไม่ดี
    ยังไงใจเรามันก็สงบ
    ถ้าภายนอกดีแค่ไหน แต่ใจเรามันไม่ดี
    มันก็คับข้องใจเหมือนเดิมนั่นหละครับ

    ไม่ใช่ว่า ไปวัดโน้นวัดนี่ไปโน้นไปนี่
    แล้วมัวแต่คอยไปสังเกตุว่า
    หลวงพ่อองค์โน้นองค์นั้นท่าน
    เป็นอย่างโน้นอย่างนี้...
    หรือไปนอนวัดโน้นนี่นั้น นอนที่นั่นโน่นนี่
    แล้วคอยไปสังเกตุว่าคนนั้นคนนี้
    เป็นอย่างโน้นเป็นอย่างนี้....
    พวกนี้มันเป็นเรื่องภายนอก
    เป็นการคอยไปเพ่งโทษผู้อื่น
    ถ้าท่านจะไม่ดีก็เรื่องของท่าน
    ถ้าใครจะไม่ดีก็เรื่องของเค้า

    ไม่ต้องไปแก้ที่ไหนหรอกครับ
    มาแก้ที่ใจเราเองนี่หละครับ
    คนเรามันสอบตกกันได้ธรรมดา
    เป็นเรื่องปกตินั่นหละครับ

    ถ้าตกแล้วก็รีบแก้ไขมันซะ
    เราก็จะพัฒนาไปได้ของเราเอง
    และอยู่ร่วมกับสังคม อยู่ร่วมกับ
    ธรรมชาติที่มีอยู่แล้วปกติ
    ได้ของเราเองนั่นหละครับ”

    ปล.เล่าให้ฟังเล่นๆครับ
     
  7. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    โอเคคับนั่นเป็นความคิดเห็น
    ที่จะเอาหลักฐานมาแสดงประกอบด้วยก็ได้
    หรือไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันเลยก็ได้

    ส่วนโยคีที่ขวนขวายค้นหาหลักการปฏิบัติ
    ย่อมจะต้องคัดแยกเอาเอง
    ว่าเม้นต์ใดเป็นความคิดเห็นเพียวๆ
    หรือ
    เม้นท์ใดออกมาจากผู้ได้รู้
    ได้เห็นคือเป็นเม้นต์
    ของเหล่าปัจจัตตัง
    ดังนั้น จึงแล้วแต่วาสนาบารมีของโยคี
    แต่ละท่านจะมีมา
    หนุนนำแยกแยะได้มากน้อยเพียงฮับ
     
  8. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    ใช่ครับไม่จืด ไม่ชืดไม่เบื่อไม่เซ็ง
    ไปเสียจนหาบทเรียนบทฝีดบททดสอบ
    บนโลกนี้ไม่ได้เลย
    เมื่อจิตถูกฝึกดีแล้วไม่ยึดมั่นยินดียินร้าย
    ต่อกองธาตุขันธ์
    และวัตถุธาตุภายนอกได้แล้ว
    ก็จะมองสรรพสิ่งมีความเป็น
    เช่นนั้นๆ ตามธรรมชาติ
    โดยไม่มีการต่อเติมหรือลดทอนใดๆ
    ด้วยตัณหาอุปทานอีกต่อไป
    กล่าวตามสมมุติบัญญัติครับผม
     
  9. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ข้อดียุคปัจจุบัน
    คือสามารถบันทึกคำสอนในลักษณะของVDO
    มีทั้งภาพและเสียงชึ่งเหมาะการบันทึกคำสอนไว้นานๆ
    แม้ตายไปแล้วแต่คำสอนที่ดีงามยังปรากฏอยู่

    แต่มันก็มีปัญหา
    คำสอนทีผิดเพี้ยนจากบางท่านก็ถูกบันทึกไว้เช่นกัน

    คนที่เริ่มภาวนาจึงไม่สามารถแยกได้

    จะเอาเกฏที่ว่า ให้สังเกตุเอาจากท่านที่กระดูกอัฐิ
    เป็นพระธาตุก็ได้ไม่ได้อีก จะมีคนเอาพระธาตุเทียม
    แล้วอ้างว่า.."อาจารย์เรากระดูกเป็นพระธาตุไง"
    เช่นกรณีเณรคำ
     
  10. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    แต่ปัญหาใหญ่จริงๆ
    มันมาจากกิเลสภายในจิตเจ้าของนั้นแล

    คอยขว้างเจ้าของ พาให้เห็นผิดไป
    คำสอนที่ถูกมันบอกว่าผิด
    คำสอนที่ผิดมันบอกว่าถูก

    เพราะคำสอนที่ดีงามจะพุ่งเป้าไปเพื่อทำลายกิเลส
    กิเลสมันไม่ได้โง่ มันฉลาดมาก

    มันจะหลอกให้ไปฟังที่ผิดๆโดยยกเหตุผลมากมาย
    มารับรอง

    นักภาวนาจึงโดนหลอกง่ายมากๆ
    แล้วมันหลอกให้หลงทาง
     
  11. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    ก็จึงต้องฟังให้มากเพื่อคัดกรอง
    เอาแต่ของจริง
    ของจริงคือมาจากผู้จบกิจ หาฟังไปเหอะ
    มันต้องเจอของจริงสักวันฮับ
     
  12. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    เช่น ธรรมบรรยายของลพ.คำเขียน สุวัณโณ
    ฟังไปแล้วพิจารณาดูว่ายังจะมีอะไร
    เชื่อถือไม่ได้อีกบ้าง
    คนฟังมีสิทธิ์พิจารณาไตร่ตรองตาม
    สติปัญญาของตนของตน
     
  13. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ครูบาร์อาจารย์
    ไม่ควรยึดถือท่านใดท่านหนึ่ง
    ควรเปลี่ยนเป็นให้ความเคารพนับถือ
    ทุกๆท่านแทน

    ไม่งั้นเราจะแป๊ก ที่แนวทางปฎิบัติเดียว
    และส่งผลให้เราเป็นไปตาม จริต
    อนุสัย วิบาก ของเราได้อย่างคาดไม่ถึง
    กลายเป็นการพ่วงพันธ์ ก่อเชื้อ
    สร้างเหตุให้เราไม่รู้จบ

    ควรพิจารณาไว้เป็นแนวทางพอ
    แล้วเอาตัวเราเอง เอาใจเราเอง
    นี่หละครับ เป็นอาจารย์ตัวเอง
    เหตุเกิดจากภายในหรือภายนอก
    เราแก้ให้ตรงจุด
    เกิดจากภายใน ก็ดับมันซะ อย่ารับ
    อย่าส่งออกไปดึงเข้ามา
    เกิดจากภายนอกก็ใช้สติพากาย
    ไปแก้ปัญหาซะ

    ปล ตัวเราเองใจเราเอง
    เป็นครูบาร์อาจารย์ตัวเอง
    มันจะตัดเรื่องอัตตา ค่อยๆละ
    ความยึดมั่นถือมั่นได้
    แต่อย่าไปเผลอสร้าง ตั้งตัว
    ให้ตัวเองกลายเป็นอาจารย์
    หรือเป็นปรมาจารย์ขึ้นมา
    พวกนี้เป็นอัตตา ต้องระวังครับ

    แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง
     

แชร์หน้านี้

Loading...