การเดินทางและความคิดของกาขาว (เตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ)

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย karan20, 19 เมษายน 2012.

  1. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379

    ก่อนอื่นขอยืนยันว่ายังไม่ควรด่วนเชื่อหรือด่วนปฏิเสธ
    เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง
    อย่างไรก็ตามข้อสังเกตที่ท่านตั้งไว้นั้นตอบแก้ได้
    แต่ผู้ตอบแก้ก็ยังหนักใจอยู่ เพราะตอบแล้วท่านผู้รับคำตอบต้องไปศึกษาเพิ่มเติม


    ข้อที่ 1 เรื่องปีนักษัตร
    เรื่องนี้สามารถแก้ได้หลายทาง
    1.1 อย่าว่่าแต่เรียกปีนักษัตรไทยเลย แม้แต่เมืองไทยท่านก็เคยมา
    แม้แต่ภาษาไทยพระองค์ก็พูดได้
    แต่อันที่จริงตอนนั้นเรียกภาษาชาวสุวรรณภูมิ แถบนี้เรียกว่าสุวรรณภูมิ
    เรื่องนี้พระองค์ตรัสไว้กับหมอชีวก (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง ท่านเล่าไว้)
    ขออภัยที่ไม่ได้ลงลิ้งค์อ้างอิงไว้เนื่องจากไม่สะดวกเพราะผมตอบผ่านมือถือ
    1.2 ปีนักษัตรนั้นไม่ได้มีใช้แต่ในไทย ให้ท่านลองไปค้นดู
    วิชาโหราศาสตร์นั้นมีมาก่อนพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
    1.3 พวกเราต่างก็ไม่ได้มีโอกาสเห็นต้นฉบับ ถึงเห็นก็คงอ่านไม่ออก
    อย่างไรก็ตามควรทราบว่าการแปลนั้น แบ่งออกเป็นการแปลแบบคำต่อคำ
    กับการแปลแบบเอาเนื้อความ ดังเช่น เราจะเห็นเวลาเข้าไปดูภาพยนตร์ต่างประเทศ
    เราจะเห็นว่าไม่ใช่การแปลแบบคำต่อคำ
    ดังนั้น พระพุทธเจ้าอาจไม่ได้ตรัสเป็นภาษาไทยว่า มะโรง
    แต่คนแปลคงแปลออกมาว่าเทียบตรงกับปีมะโรง

    2.เรื่องการสวดมนต์ภาวนาป้องกันภัยหรือขับไล่สิ่งไม่ดีนั้นไม่แปลก
    สมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้าให้พระอานนท์สวดรัตนสูตรและทำน้ำมนต์เพื่อแก้ไขภัยพิบัติใน
    สมัยนั้น การเขียนยันต์ถ้าทำด้วยพุทธคุณใช้พุทธมนต์ไม่จัดว่าเป็นไสยศาสตร์
    ต้องเข้าใจว่าไสยศาสตร์ ซึ่งแบ่งเป็นสายดำและสายขาวนั้นต่างจากพุทธมนต์

    3.เรื่องกระดาษนั้นตอบแก้ได้สองทางคือ
    3.1ถูกเพิ่มเข้าไปจากการแปล แบบเอาเนื้อความ ไม่ใช่การแปลแบบคำต่อคำ
    3.2สมัยที่ตรัสนั้นมีกระดาษแล้วหรือเพิ่งตรัสในสมัยที่มีกระดาษแล้ว

    ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการสันนิษฐาน
    ลูกขอขมาต่อพระรัตนตรัยหากผิดพลาดล่วงเกิน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2013
  2. webang906

    webang906 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +1,759

    คุณต้องชั่งผลดีผลเสีย บุญกรรมที่จะได้รับดีๆว่าที่เขาเขียนว่าพระพุทธเจ้าตรัสว่าปีมะโรงคนจะคลานเป็นส่วนที่ต่อเติมกันขึ้นเองมั้ย ถ้าครบรอบปีมะโรงนี้ไม่มีคนคลาน แล้วคนตำหนิติเตียนพระพุทธเจ้า ผลกรรมที่จะตกกับคนเผยแพร่คงไม่น่าจะน้อยๆ

    ลองมาดูข้อความที่เอามาจากหนังสือของหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
    จะเห็นว่าไม่มีข้อความที่ยกขึ้นมาข้างต้น ปีมะโรงคนคลาน คาถาให้เขียนลงกระดาษปะหน้าบ้าน ไม่มีทั้งนั้น


    พุทธทำนาย: ถอดความจากศิลาจารึก เชตมหาวิหาร สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย

    หนังสือ " ศาสนาอยู่ที่ไหน " หน้า ๑๗๓ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน

    "สาธุ อรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นพระสัพพัญญูรู้แจ้งโลกทั้งในอดีตและในอนาคต ทรงมีเมตตากรุณาแก่สัตว์โลกเป็นล้นพ้นเมื่อครั้งพระองค์ดำรงพระชนม์อยู่ ได้ตรัสแก่พระอานนท์ว่า

    ดูก่อนอานนท์ เมื่อศาสนาของของตถาคตล่วงเลยไปถึง กึ่งพุทธกาล สัตว์โลกทั้งหลายที่เกิดในยุคนั้น จะพบแต่ความลำบาก ทุกชาติทุกศาสนา ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนไปใกล้ความแตกสลาย แผ่นดินแผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทุกทิศ คนในสมัยนั้นจะมีนิสัยโหด ดุจกำเนิดจากสัตว์ป่า อำมหิตจะรบราฆ่าฟันกันเองถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ ส่วนเวไนยสัตว์ ผู้ขวนขวายในกุศลตามวจนะของตถาคตก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงในพระรัตนตรัยและคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจะเบาบาง แต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น

    เริ่มแต่พุทธศาสนาล่วงเลย ๒,๕๐๐ ปี เป็นต้นไป ไฟจะรุกรามมาทางทิศตะวันออก ไหม้วัดวาอาราม สมชีพรามณ์จะอดอยากยากเข็ญ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้า จะทะยานจากน้ำ มหาสมุทธจะชอกซ้ำ สงครามจากทั่วทิศศึกจะติดเมืองข้าวจะขาดแคลนทั่วแคล้นจะอดอยาก ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมือง ทรงเมือง จะหนีเข้าไพร ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจ จะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ ยักษ์หินที่ถูกสาบเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาทโลก ดินฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเล โลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะนักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สิ้นสูญ

    ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตจะเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัทไม่ต้องอยู่ในศิลธรรม เชื่อคำคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพรักธรรมนิยม คนประจบสอพลอได้รับความเชื่อถือในสังคม ผู้ที่มีศิลธรรม ประพฤติดี ประพฤติชอบ กลับไม่มีใคร เคารพยำเกรง พระธรรมจะเริ่งเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกอีกวาระหนึ่งก็ต่อเมื่อ มี ธรรมิกราชโพธิญาณ บังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของ พระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ทั้งสองพระองค์สถิตย์ ณ เบื้องต้นตะวันออกของมัชฌิมประเทศ จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของตถาคต ให้รุ่งเรืองสืบไปถึง ๕,๐๐๐ พระวัสสา

    ดูก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อย คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรมของสัตว์ ที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศิล ๕ ประการ เจริญเมตตาภารนา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดดรู้จักพอ ไม่โป้ปดคตโกง ไม่หลงมัวเมาอำนาจและลาภยศ ตั้งใจปฏิบัติตน ตามคำสอนของตถาคต ให้มั่นคง จึงจะพ้นอันตรายในกึ่งพุทธกาล"

    พุทธทำนายนี้ ข้าพเจ้าพบเมื่อปี 2535 และปรากฏอีกครั้งในหนังสือ "ศาสนาอยู่ที่ไหน " หน้า ๑๗๓ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน

    โดย อหิงสะกะ / ๒๔ มิถุนายน ๒๕๔๖
    ถอดความจากศิลาจารึก เชตมหาวิหาร สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย | MThai Webboard

    ข้างบนเป็นของหลวงตามหาบัว

    ข้างล่างนี้มีรูปส่วนหนึ่งของพุทธทำนายบนศิลา ในเขตมหาวิหารสวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย
    ข้อความก็ไม่ได้มีปีมะโรงคนคลาน เขียนคาถาใส่กระดาษปะหน้าบ้านอะไร เพียงแต่มีวงเล็บการตีความตามใจคนที่เอามาลงไว้

    จาก พุทธทำนายตรงกับมายัน 2012 ยังไม่เชื่อนักแต่ไม่ประมาท ใครรู้อะไรดีๆบอกกันบ้าง | MThai Webboard

    [​IMG]

    สาธุ อรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นพระสัพพัญญูรู้แจ้งโลกทั้งในอดีตและในอนาคตพระองค์นั้น ทรงตรัสแก่พระอานนท์ สรุปว่า "ดูก่อนอานนท์ เมื่อศาสนาของตถาคตถึงกึ่งพุทธกาล (พ.ศ. ไทยเร็วกว่าความเป็นจริงประมาณ ๕๐ ปี) ดินฟ้าอากาศจะแปรปรวน มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทิศ (น้ำท่วม แผ่นดินไหว ไฟไหม้ โรคภัย วิกฤติต่างๆจะเกิดมากขึ้น) คนในสมัยนั้นจะมีนิสัยโหดดุจกำเนิดจากสัตว์ป่า พุทธศาสนาล่วงเลย ๒,๕๐๐ ปี ไฟจะลุกลามไหม้วัด (พระสงฆ์เสื่อม) คนบ้านรุกรานป่า สัตว์ป่าหากินในเมือง สงครามต่างๆทั่วทิศ ทหารจะเป็นเจ้า ข้าวจะขาดแคลน ยักษ์หินที่ถูกสาบ (คนเลวคนชั่ว) จะตื่นขึ้นมาอาละวาด คนไม่อยู่ในศีลธรรม ติดสินบน คดโกง ผู้คนถืออำนาจไม่เป็นธรรม คนเชื่อคำคนโกงคนกล่าวเท็จ คนประจบสอพลอได้รับความเชื่อถือในสังคม ผู้มีศีลธรรมประพฤติชอบกลับไม่มีใครเคารพยำเกรง พระธรรมจะเริ่มเปล่งรัศมีอีกวาระหนึ่งก็ต่อเมื่อมีธรรมมิกราช (ผู้ใช้ธรรมะเอาชนะอธรรมหรือพระศรีอารย์) ซึ่งอยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระโพธิสัตว์ผู้ทรงธรรม (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชเจ้า) ซึ่งทั้งสองพระองค์จะสถิตย์ ณ เบื้องทิศตะวันออกของมัชฌิมประเทศ (คือประเทศไทยนั้นอยู่ตรงกลางชมพูทวีป และเป็นประเทศเดียวที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข) จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของตถาคต ให้รุ่งเรืองสืบไปถึง พ.ศ. ๕,๐๐๐ (แต่ถ้าคนไม่สนใจสิ่งดีจะเกิดโลกาวินาศล้างคนบาปแทน ดังนี้) ดูก่อนอานนท์ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเล โลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ นักปราชญ์จะถูกทำลายให้สิ้นสูญ (ผู้คนถูกทำลาย) คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรมของสัตว์ ที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน"


    อันนี้ก็เหมือนของหลวงตามหาบัวที่ไม่มีกล่าวถึงปีมะโรงคนคลาน คาถาแปะหน้าบ้าน เจ้าของบทความให้เครดิตขอบคุณข้อมูลข่าว : อมรรัตน์ เทพกำปนาท สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรมและข้อมูลจากหนังสือ พุทธทำนาย เรียบเรียงโดย อ.สุภาพ หอมจิตร
    BlogGang.com : : thammakittakon

    อย่างไรก็ดี ก็ยังมีพุทธทำนาย เพิ่มเติมที่มีผู้ถอดความจากศิลาจารึก เชตมหาวิหาร สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย ความว่า

    พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสกับพระอานนท์ว่า “....เมื่อศาสนาตถาคตล่วงเลยไปถึงกึ่งพุทธกาล สัตว์โลกทั้งหลายที่เกิดในยุคนั้น จะพบกับความลำบากทุกชาติทุกศาสนา ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนเวียนไปใกล้ความแตกทำลาย แผ่นดินแผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทิศ คนในสมัยนั้น (ปัจจุบัน) จะมีวิสัยโหดดุจกำเนิดจากสัตว์ป่าอำมหิต จะรบราฆ่าฟันกันถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ

    ส่วนเวไนยสัตว์ผู้ขวนขวายในกุศลตามวัจนะของตถาคต ก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงในพระรัตนตรัย และคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจักเบาบาง แต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น...

    ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัทไม่ตั้งอยู่ในศีลธรรม เชื่อคำของคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพหลักธรรมนิยม คนประจบสอพลอได้รับการเชื่อถือในสังคม ผู้มีศีลธรรมประพฤติชอบ กลับไม่มีคนเคารพยำเกรง

    พระธรรมจะเริ่มเปล่งแสงรัศมีฉายส่องโลกอีกวาระหนึ่งเมื่อมีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ จะเสด็จมาเสริมสร้างพระศาสนา ของตถาคตให้รุ่งเรืองสืบไปอีก 5,000 พระวรรษา…

    คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับเป็นกรรมของสัตว์โลกที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศีลห้าประการ เจริญเมตตากรุณา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดษ รู้จักพอ ไม่หลงมัวเมาในอำนาจและลาภยศ ตั้งใจประพฤติตนตามคำสอนของตถาคตให้มั่นคง จึงจะพ้นอันตรายในยุคกึ่งพุทธกาล”

    นี่คือพุทธทำนายที่ทรงตรัสไว้ กว่า 2500 ปีล่วงมาแล้ว ส่วนใครจะเชื่อ จะปฏิบัติหรือไม่อย่างไร ก็คงเป็นไปตามกรรมของแต่ละคน ดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้.

    ขอขอบคุณข้อมูลข่าว : อมรรัตน์ เทพกำปนาท สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม
    และข้อมูลจากหนังสือ พุทธทำนาย เรียบเรียงโดย อ.สุภาพ หอมจิตร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2013
  3. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ผมไม่ได้รังเกียจในการตอบเลยครับ
    ถ้าเป็นแต่ก่อนผมจะอ้างอิงและค้นคว้าให้มากกว่านี้
    พร้อมทั้งให้ลิงค์ไว้ศึกษาเพิ่มเติม
    แต่ตอนนี้ผมอยู่ในสถานที่ซึ่งไม่สะดวกในการใช้คอมพิวเตอร์
    การพิมพ์ผ่านโทรศัพท์เป็นเรื่องยุ่งยากลำบากมาก
    ทั้งที่ใจจริงผมอยากจะตอบทุกท่านให้มากกว่านี้ ละเอียดกว่านีิ้
    ไม่ได้รำคาญแต่ประการใด

    ปัจจุบันผมหันไปใช้เฟซบุ๊คในการสื่อสารมากขึ้นเพราะง่ายกว่าสำหรับการใช้โทรศัพท์พิมพ์
    อีกประการงานเรื่องภัยพิบัตินั้น ผมหันมาทำภาคสนามมากขึ้น
    โดยการเตรียมด้านการเตรียมช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูหลังภัยพิบัติ
    จึงอาจไม่ได้เข้ามาตอบที่นี่ หากมีโอกาสเชิญติดตามผ่านทางเฟซบุ๊ค
     
  4. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    เป็นข้อมูลที่น่าสนใจครับ
    แต่ทั้งหมดคือการคาดคะเน จากหลักฐานเท่าที่มี
    เราไม่ทราบอยู่ดีว่าฉบับไหนแปลมาถูกต้อง เพราะเราต่างก็ไม่เห็นต้นฉบับ
    หรืออาจไม่ถูกหรือปลอมทั้งสองฉบับก็เป็นได้

    สิ่งที่ผมจะสื่อสารคืออย่าเพิ่งไปด่วนสรุป ด่วนเชื่อหรือปฏิเสธ
    เพียงเพราะว่ามันไม่ปรากฏในตำรา เช่น พระไตรปิฎก

    พระไตรปิฎกบันทึกความจริง สัจธรรมคำสั่งสอน
    แต่ไม่ได้มีหน้าที่บันทึกทุกสิ่งทุกอย่าง
    อีกไม่นานเราจะได้พิสูจน์ความจริง
     
  5. Ndantchor

    Ndantchor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,123
    บาปกรรมแท้ กับผู้แอบอ้างแต่งเติม ปลอมลายเซ็นต์
    หนังสือศาสนาอยู่ที่ไหน เป็นการรวบรวมกัณฑ์เทศน์ของครูบาอาจารย์ ในหลายๆกัณฑ์เข้าไว้ด้วยกัน

    ปฏิปทาครูบาอาจารย์ ท่านไม่นำมากล่าวอย่างนี้แน่นอน

    หากใครผู้เป็นศิษย์สายวัดป่า รับรองได้ว่า หากมาเห็น ข้อความแอบอ้าง ดังกล่าว
    แม้ไม่ต้องไปสืบค้นก็ตาม จะต้อง ขำก๊าก แน่นอน ว่าทำไปได้เนาะ

    ถ้าจะให้แน่ และเป็นโอกาสอันดี ที่จะสดับธรรมเทศนาพระหลวงตา ในทุกตัวอักษร ให้รู้จักพระศาสนา

    ลองไปเปิดหาดู ในไฟล์ pdf ลำดับที่ 17

    ชื่อกัณฑ์เทศน์ "ศาสนา ทำให้คนวิเศษกว่าสัตว์" ตั้งแต่หน้า 170-182
    หน้า 173 ก็ไม่มี กับข้อความแอบอ้าง เพราะความจริงเป็นไปไม่ได้เลย ในอย่างนั้น


     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 มกราคม 2013
  6. Ndantchor

    Ndantchor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,123
    หากอ่านจบแล้ว ก็ควรจะพิจารณาได้ว่า

    เหตุใด ศาสนา ทำไมจึงทำให้ คน วิเศษกว่าสัตว์ ที่จะให้เขาลากจูง ก็แค่นั้นเอง
     
  7. webang906

    webang906 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +1,759
    ต้องขออภัยที่ได้นำข้อมูลมาลงผิด เข้าใจว่าเรื่องนี้ลูกศิษย์หลวงตาคงรู้ได้ทันที ไปตามลิงค์อ่านดูพบว่าไม่ใช่จริงๆ

    จากการอ่านการโต้ตอบจากท่านหนึ่งในเว็ปนี้ ทำให้ไม่ใช่แค่สงสัยว่าข้อความที่เกี่ยวกับปีมะโรงคนคลานจะมีจริงมั้ย แต่สงสัยไปถึงว่าข้อความทั้งหมดเลยที่อ้างๆกันว่าเอามาจากศิลาจารึกนั้น ตัวศิลาจารึกแบบในรูปมันมีจริงหรือเปล่า หรือแค่แต่งเรื่องขึ้นมาให้เข้ากับปฏิทินมายัน
     
  8. webang906

    webang906 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +1,759
    อยากจะย้ำอีกครั้งว่าลองชั่งผลดีผลเสีย บุญกรรมที่จะได้รับดีๆว่าที่เขาเขียนว่าพระพุทธเจ้าตรัสว่าปีมะโรงคนจะคลานเป็นส่วนที่คิดกันขึ้นเองมั้ย ถ้าครบรอบปีมะโรงนี้ไม่มีคนคลาน แล้วคนตำหนิติเตียนพระพุทธเจ้า ผลกรรมที่จะตกกับคนเผยแพร่คงไม่น่าจะน้อยๆ
     
  9. Ndantchor

    Ndantchor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,123
    เรื่องความต่างในความเชื่อของแต่ละบุคคล บ้างก็พร้อมหลับหูหลับตา

    มีอยู่ครั้งหนึ่ง ในห้องวิทย์ ตอนนั้นรู้สึกจะมีเหตุการณ์ข่าว "ตะลึง!!! ฟ้าผ่าเศียรยักษ์ วัดอรุณ หัก 2 ท่อน"

    ทีนี้ ก็มีคนนำมาตั้งกระทู้ เสร็จแล้วเขาก็เอาข้อความ อะไรต่อมิอะไร
    มาแปะมาโพส อีรุงตุงนังไปหมดในความเชื่อ ทั้ง คริสต์ อิสลาม ฮินดู ระโยงระย้า

    ภายในเวลาไม่เท่าไหร่ กระทู้ขึ้นหน้าสอง หน้าสาม
    ด้วยข้อความของแกเพียงคนเดียว และกระทู้นั้น ถูกจับแขวนขึ้นกระทู้แนะนำซะด้วยสิ

    ไอ้เรานี่ก็ขำ เป็นไปได้เนาะ กับความเชื่อ แต่ก็นิ่งๆไว้ น้ำกำลังเชี่ยว

    ทำไมคนเราไม่น้อมเข้ามา ที่ตัวศาสนาพุทธ เพื่อเพียรพยายามไม่ถือมงคลตื่นข่าว

    แต่จะว่าไปแล้ว ปุถุชนทุกคน ก็ทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น เพื่อต้องการสุขอย่างแท้จริง

    จึงเป็นไปตามสถานะ เพื่อเจตนาอะไรก็แล้วแต่ ทางความรู้สึกนึกคิด ให้พาไปในแนวทางของบุคคล

    เห็นแล้ว ต้องถอนหายใจ ว่าไปแล้วหากเขารู้ เขาเองก็คงถอนหายใจใส่เช่นกัน

    นี่แหละโลกแห่งเราเขา มันเป็นเช่นนี้ หายใจทิ้งเปล่าๆ
     
  10. Ndantchor

    Ndantchor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,123
    ทุกวันนี้ ครูบาอาจารย์ ที่ใจเป็นธรรม ท่านก็ทยอยละสังขาร

    ส่วนท่านที่ละสังขารไปแล้ว

    เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า กุศโลบาย ที่แท้จริง ท่านกล่าวเพื่ออะไร หากท่านกล่าวจริง

    เปรียบเหมือนเด็กอนุบาล จะไปหยั่งรู้ภาษาของผู้จบปริญญาเอก ได้อย่างไร

    บ้างก็เอาคำท่านมาอ้างเรื่องภัยพิบัติ บ้างก็โดนแต่งเติมเสริมความ

    ทีนี้ แม้เราจะเจตนาดี จากปากต่อปาก จนเกิดกระแส
    แต่ไม่รู้เนื้อความในกุศโลบาย ที่แท้จริง ได้เลย และยังเอามาโพสกันมั่วไปหมด

    นี้แหละ ประเภทเนื้อแท้อันตธานในคำครูบาอาจารย์ต่างๆ

    ฝากไว้ให้พิจารณา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 มกราคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...