การเดินทางและความคิดของกาขาว (เตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
บุญใหญ่มาแล้ว! 3 มิ.ย. 55 ขอเรียนเชิญหล่อหลวงปู่ดู่หน้าตัก 86 นิ้ว ณ โรงหล่อลาดหลุมแก้ว

 

ข้อมูลที่ช่วยเตือนสติ การใช้ชีวิต และกลับมาสู่ฐานเศรษฐกิจพอเพียงขององค์พ่อหลวงของประชาชนคนไทย ที่จะว่าไปก็มีจำนวนคนไม่น้อยเลยทีเดียวที่มีสิ่งเหล่านี้อยู่ในตัวอยู่ ตามเท่าที่ได้เดินทางและพูดคุยกับคนหลากหลายระดับ หลายชนชั้น แต่เพราะภาระครอบครัว ธุรกิจที่เกี่ยวดองพัวพันทำให้ปลดล๊อคไม่ได้ ...

บางส่วนก็ไม่มีพื้นฐานเหล่านี้อยู่เลย ติดโลก ติดความสะดวกสบาย ความรื่นเริงบันเทิง โดยเฉพาะคนในเมืองใหญ่ ไม่ใช่แค่กรุงเทพ ที่ตอนนี้หลายจังหวังไม่ว่าจะภาคไหนๆ กลาง เหนือ ออก ตก ตต.เฉียงเหนือ ใต้ เพราะฉะนั้นจะว่าไปแล้ว ทุกพื้นที่มีการผสมของคนคิดดีและคิดสบายอยู่ทุกพื้นที่ ...

การที่ได้มาเกิดและต้องเจออุปสรรคต่างๆ ไม่ว่าจะด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม ความรัก ครอบครัว สิ่งแวดล้อม มหันตภัย ล้วนมีที่ีมาของเหตุในอดีต ส่งผลมายังปัจจุบัน ...

การที่รู้ปัญหาในปัจจุบันแล้วคิดหาทางแก้ไขไปที่ภายนอกนั้นทำได้ยาก เช่น การเตือนให้ผู้อื่นรู้ถึงเหตุเภทภัยต่างๆ ในอนาคตที่ยังมาไม่ถึงนั้นมีแต่ทำให้ผู้คนกระเสือกกระสน ดิ้นรน เพราะคนมากมายมหาศาล มิได้ถูกฝึกในการอยู่แบบอดอยาก อดทน อดออม รู้ประโยชน์และคุณค่าของทุกสรรพสิ่งที่ทำให้เกิดความสะดวกสบายเท่าทุกวันนี้ ...

ผลกรรมที่ได้มาทำนายทายทักเหตุอนาคตที่ยังมาไม่ถึงนั้น เป็นกรรมหนักที่ส่งผลแล้วในปัจจุบัน ที่ทำให้ดวงจิตส่วนใหญ่วิตกจริต มีเพียงผู้ปฏิบัติแน่วแน่เท่านั้นที่นำสารมาบอกด้วยการให้หันกลับมาพึ่งตนเองให้มากที่สุด และเป็นแบบอย่างให้ผู้อื่นเห็นและนำไปปฏิบัติตาม ซึ่งการช่วยกันมาดำเนินการด้วยวิธีนี้ เช่นคุณ Karan 20 และอีกหลายท่าน จะเป็นการยกระดับจิตใจของแต่ละบุคคลตามจริตนิสัย มากกว่าเฮโลตามแบบกัน เป็นกระแสแฟชั่นกันไป ...

ดิฉันมิได้เป็นผู้รู้ ผู้วิเศษ หรือมีครูบาอาจารย์ดีหนุน แต่จากการได้เข้ามาหาข้อมูล แลกเปลี่ยน กับผู้รู้หลายๆท่าน ที่มีจิตเมตตาและอุเบกขาต่อเหตุต่างๆ แล้ว ทำให้ได้เข้าใจถึงความเป็นไปในปัจจุบัน และผู้ใดที่ต้องการอนาคตที่ดี เพื่อแผ่นดินของเหล่าชนอารยะแล้ว โปรดช่วยกันมีวิจารณญาณในการรับข้อมูล ขยายข้อมูล เผยแพร่ข้อมูล เพราะอิทธิพลจากคำพูดนั้น ถ้าออกจากคนมีศีลมีธรรมมักจะไม่ตกแต่งข้อมูลด้วยอารมณ์จนเกินไป มาช่วยกันสร้างกรรมปัจจุบันที่เหมาะสม ที่เกื้อกูลต่อการอยู่ร่วมกัน ตามหลักคำสอน ๓ ประการ

๑.ไม่ทำบาปทั้งปวง
๒.ทำความดีให้ถึงพร้อม
๓ ทำจิตใจให้ผ่องใส สะอาด สว่าง สงบ

สาธุธรรม ขอให้ท่านทั้งหลายเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นเทอญ _/|\_

 

ขอแผนที่ไปโรงหล่อด้วยครับ เข้าไปแล้วเวปวัดถ้ำเมืองนะไม่ปรากฏรูปแผนที่ ขอโพสต์อีกครั้งในเวปพลังจิต ผมเคยไปวัดถ้ำเมืองนะกับคณะพลังจิต ได้พระรูปหลวงปู่ดู่พร้อมสร้อยประคำ ผมอยู่ในเมืองตัวจังหวัดอยุธยา

 

วันที่ 3 มิถุนายน 2555 เวลาประมาณ 9:00 น. เชิญร่วมงานหล่อหลวงปู่ดู่
หน้าตัก 86 นิ้ว 1 องค์ ที่โรงหล่อพระพุทธปฎิมากร อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี

หลวงตาม้าเป็นประธานในการจัดสร้างฝ่ายสงฆ์
ท่านสามารถมาร่วมงานบุญใหญ่ในครั้งนี้ได้เป็นมหากุศลยิ่งนัก
ในงานมีการแจกพระผงจักรพรรดิ และสวดจักรพรรดิตลอดงาน

ใน งานหล่อหลวงปู่ดู่ครั้งนี้ หลวงตาม้าได้สร้างเหรียญรุ่นปราบไตรภพ ด้านหน้าเป็นหลวงปู่ดู่นั่งบัว ด้านหลังเป็นพระศรีสยามเทวาธิราช เพื่อทำการแจกให้แด่ญาติธรรมทุกท่านที่มาร่วมงาน และร่วมบุญใหญ่ในครั้งนี้ นับเป็นความเมตตาอย่างสุดซึ้งของท่านหลวงตาม้า ครับ (แจกเฉพาะผู้ที่ไปร่วมงานเท่านั้น)






ท่านใดที่มีความประสงค์ต้องการจะร่วมบุญในครั้งนี้กับหลวงตาม้า
สามารถทำบุญเข้ากองทุนพุทธพรหมปัญโญได้ที่

ชื่อบัญชี : พระวรงคต วิริยะธโร (หลวงตาม้า)
ธนาคาร : กสิกรไทย บัญชีออมทรัพย์ สาขามูลเมือง จ.เชียงใหม่
หมายเลขบัญชี : 383 223 9258​

ทีมงานจะทำการถ่ายทอดสดพิธีการหล่อหลวงปู่ดู่ ในครั้งนี้ตั้งแต่ต้้นจนจบพิธี
ไปทั่วโลกออกทางหน้าเว็บ www.watthummuangna.com/home
ท่านสามารถรับชมผ่านมือถือ, IPAD และ Tablet หรือโปรแกรม VLC,
Vplayer and Windows Media Player ได้ที่ Link ต่อไปนี้
mms://radio.thaidhost.com/me2broadcast

แผนที่ โรงหล่อพระ ที่จะดำเนินการหล่อหลวงปู่ดู่หน้าตัก 86 นิ้ว ในครั้งนี้ครับ















​

ใครเอารถเติม NGV แนะนำให้เติมแถวสระบุรี บนถนนมิตรภาพ(สาย 2.) กม.ที่ 79 หรือ กม.ที่ 78 ก็ได้
(ปั๊มที่ กม.78 ใหญ่กว่า แต่ถ้าหมด ต้องไปย้อนรถกลับไปที่ กม. 79)
แต่ถ้าพลาดจริงก็เข้าไปเติมแถวสามโคก แต่รถแท็กซี่เยอะมาก




ท่านใดต้องการร่วมบุญสามารถนำมวลสารโลหะทุกชนิดมาร่วมบุญได้ครับ หรือส่งมาที่วัดถ้ำเมืองนะก็ได้ครับ

ส่งมาที่วัดถ้ำเมืองนะก็ได้ครับ
ที่แม่ชีหนูนา วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ)
ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ 50170

จ่าหน้าว่า ส่งแผ่นทองร่วมหล่อพระ

 

ไม่ปรากฏแผนที่ในโพสต์ ขอเลขที่/ชื่อโรงหล่อ... ถนน.. ซอย.. หมู่ที่.. ตำบล... อำเภอ ....จังหวัด.. จุดสังเกตก่อนถึงโรงหล่อ

 

ผมโพสต์แผนที่และรูปให้แล้ว
ถ้าสงสัยยังไงลองโทรสอบถาม แม่ชีหนูนา 0817315303

 

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

พระอาจารย์กล่าวว่า "เกี่ยวกับบรรดาคำทำนายต่าง ๆ พวกเราอย่าเพิ่งไปแตกตื่นตามนั้น เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราทรงรู้ดีที่สุด ถ้าพระองค์ท่านขยับเรื่องใดแล้วเราค่อยขยับตาม อย่างพระองค์ท่านให้ทำทางด่วนระบายน้ำมาตั้งแต่ปี ๒๕๓๘ แต่ไม่มีใครทำ พอน้ำท่วมแล้วค่อยนึกขึ้นมาได้ว่าในหลวงมีรับสั่งไว้นานแล้ว

ขอให้พยายามช่วยกันประคับประคองในหลวงของเราอยู่ให้นานที่สุด เพราะว่าบุคคลที่เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ซึ่งผีและเทวดาเกรงใจ ตอนนี้มีอยู่ไม่มากแล้ว ถ้าสิ้นพระองค์ท่านไปแล้วเขาเลิกเกรงใจ พวกเราอาจจะเดือดร้อนหนักกว่านี้"

พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๕๕ - หน้า 2 - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน



.

 

ทันทีที่เราต้องพึ่งระบบที่ต้องซื้ออาหารกิน นั่นคือการเริ่มต้นของความเป็นท<wbr>าส เป็นขี้ข้าเค้าตลอดไป
ไม่ว่าอยู่ที่ไหนต้องหาเงินซื้อ<wbr>อาหาร ตลอดเวลา
“การเก็บเมล็ดพันธุ์" คือ การเก็บอิสรภาพ หรือเสรีภาพไว้ให้กับเราเอง
และคนรุ่นต่อไป ถ้าเรามีเมล็ดพันธุ์ นั่นคือ อิสรภาพที่แท้จริง
“เพราะมันอยู่ในมือเรา” ... โจน จันได

อ่านเพิ่มเติมได้ที่

https://docs.google.com/file/d/0B_V3EIRsNpWFam05WE8xYTRtR28/edit?pli=1

 

ให้พยายามภาวนาไปเรื่อย ๆ ไม่ว่ายืน เดิน นั่ง นอน ทำได้ตลอดเวลาถ้าเราจะทำ ดีกว่านั่งร้องเพลง
จะซักผ้า หุงข้าว ต้มแกง นั่งรถ ทำได้ทั้งนั้น เขาเรียกว่าพยายามเกลี่ยจิตใจให้เข้าที่
ถ้าจะรอเวลาปฏิบัติ (นั่งสมาธิ) ทีเดียวมันยาก เพราะจิตมันแตกมาตลอด

คำสอนของ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ








ภายใน 1 วันเราอาจสวดมนต์บทจักรพรรดิได้ 300 - 500 จบหรือมากกว่านั้น


ผู้เขียนตกลงกับแฟนว่า เรามาแข่งกันสวดมนต์กัน
สวด 1 จบก็กดเครื่องนับ 1 ที แล้วเรามาดูกันว่า ใน 1 วันใครสวดมนต์ได้มากกว่ากัน



( อุปกรณ์ชิ้นนี้ราคา 60 บาท จำหน่ายที่ร้าน Daiso Shop )

การสวดนมนต์ที่ดีนั้นอันที่จริงไม่ได้อยู่ที่ปริมาณเพียงอย่างเดียว
คุณภาพ คือ การทำใจให้สบายและมีความตั้งใจและศรัทธาก็เป็นสิ่งสำคัญ
ดังนั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงจึงไม่ใช่ว่าจะแข่งเพื่อมุ่งเอาชนะกัน
แต่เป็นกุศโลบายในการเตือนให้ทำความเพียร เร่งรัดตัวเองในการปฏิบัติภาวนา


แนะนำกระทู้ คลิกที่นี่...แก้ปัญหานานาประการเกี่ยวกับพิบัติด้วยกำลังจักรพรรดิ

 

<table id="post6128528" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175">ZZ
ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด



วันที่สมัคร: Apr 2005
ข้อความ: 4,946
Groans: 11
Groaned at 7 Times in 6 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 20,471
ได้รับอนุโมทนา 42,165 ครั้ง ใน 2,928 โพส
พลังการให้คะแนน: 3515


</td> <td class="alt1" id="td_post_6128528" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> ทั้งนี้ได้เอาคำตอบ...ที่ท่านเคยถามไว้มาแปะให้ดูด้วย...ครับ (คำถามเกี่ยวกับอุตุนิยมวิทยา)


อ้างอิง:
<table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ สิงหราชพล
ยัง สงสัยอยู่ ว่าประเทศไทยเรามีกรมอุตุนิยมวิทยา และด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีดาวเทียมสำรวจอวกาศ สามารถคำนวณและตรวจการก่อตัวของพายุได้ทุกลูก แล้วพายุที่เกิดขึ้นที่ว่านี้นะ กรมอุตุจะไม่สามารถพยากรณ์อากาศ และออกประกาศเตือนเหมือนที่ทำเวลานี้ได้เลยเหรอ พายุนะครับ มันไม่ใช่ว่าก่อตัว 10 นาทีแล้วขึ้นฝั่งเลยได้ มันมีแนวทางการเคลื่อนตัว ไม่ใช่ฟ้ามืดแล้วพายุเกิดเลย ผมยังสงสัยจริงๆว่าพายุอะไรจะเกิดแล้วใหญ่โต ขึ้นฝั่งเร็วขนาดนั้น ขนาดทอร์นาโดที่อเมริกา เค้ายังสามารถใช้ดาวเทียมตรวจอากาศและย้ายคนทันเลย โลกเราทันสมัยมาก จากที่อ่านมาเค้าบอกว่าพัทยาชลบุรีท่วมหมดเลย พายุเข้ามาทางแถบๆนี้ เพราะฉะนั้นหลบที่ไหนก็ไม่พ้นหรอก เค้าบอกท่วมมิดหมดต้องไปจังหวัดอื่น พายุอะไรหวา ขนาดกรมอุตุยังใช้ดาวเทียม หาไม่เจอ งง ครับ........ใครมีความรู้บอกหน่อยนะครับ

ขนาดดาวเทียมตรวจอากาศไม่เจอ หรือเพราะเทวดาบังไว้
</td> </tr> </tbody></table>

ขอตอบคำถามนี้...อย่างง่ายๆ (ไม่เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้)






สหรัฐอเมริกา...ได้ชื่อว่ามีเทคโนโลยีอุตุนิยมวิทยาระดับแถวหน้า

สามารถ Tracking พายุเฮอร์ริเคนแคทารีน่า...ตั้งแต่เริ่มก่อตัว (23 AUG 2005)...จนกระทั่งสลายตัว (29 AUG 2005)...รวม 7 วัน

แต่ทำไมปล่อยให้คนอเมริกัน...เสียชีวิตไป 1,836 คน กว่า 374,000 คนไร้ที่อยู่อาศัย (ไม่รวมถึงความล้มเหลวในการกู้ภัยหลังเกิดเหตุ)

ทั้งๆ...ที่รู้ตัวล่วงหน้า ?

ทั้งๆ...พายุไม่ไ้ด้เข้าโจมตีทันทีทันใด...พายุลูกนี้ก็ไม่ใช่เล็กๆ...และมีการเตือนภัยพายุลูกนี้ตลอดเวลา (ตั้งแต่ที่ Bahamas แล้ว)

แล้วประเทศโลกที่สาม...อย่างประเทศเรา...หากโดนพายุระดับ CAT5 280 กม/ชม. แบบเดียวกัน ?



__________________
</td></tr></tbody></table>
ขอบพระคุณที่อุตส่าห์หาข้อมูลมาให้นะครับ
ความจริงข้อมูลพวกนี้เป็นข้อมูลเปิดเผย แต่น่าแปลกใจที่บางคนไม่รู้

อีกประการคือการไม่เคยมีไม่เคยเกิดในรอบกี่ปีก็แล้วแต่นั้น
ไม่ได้เป็นหลักประกันแน่นอนว่าจะไม่เกิดขึ้นในยุคภัยพิบัตินี้
เพราะเราก็ได้ยินกันบ่อยๆว่าภัยพิบัติร้ายแรงในรอบ 50 ปีบ้าง 100 ปีบ้าง
ตอนนี้ธรรมชาติแปรปรวนหนัก แผ่นดินไหวที่ก่อนหน้านี้ว่าจะไม่ค่อยเกิดในประเทศไทย
แต่เราก็ได้เห็นแล้วว่าสถิติเก่าๆเอามาใช้อ้างอิงไม่ได้แล้ว

 

จริงดังที่ท่านกล่าวครับ เตรียมกายนั้นแม้ดีแค่ไหน ก็ไม่อาจหนีกรรมได้ แต่เตรียมใจ มีสติ แม้ความตายมาถึงก็ยังยิ้มได้ จิตใจที่ตั้งไว้ดีด้วยสัมมาทิฐิ สามารถนำพาจิตวิญญาณข้ามภพชาติและแม้ข้ามสังสารวัฏนี้ไปได้

 

ช่วงนี้ผมเช็คจากแหล่งข้อมูลที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์
ก็ไม่ได้รับสัญญาณเตือนภัยพิบัติจากธรรมชาติประเภทมหาภัยพิบัติรุนแรง
หรือการเตือนว่าจะมีวันฟ้าดับแผ่นดินถล่มในช่วงนี้
โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 20 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 2555

ส่วนข้อมูลทางวิทยาศาสตร์นั้นก็เป็นไปตามที่หลายๆท่านช่วยกันโพสต์ข้อมูล

คำเตือนเรื่องภัยพิบัติธรรมชาติวันที่ 20 พฤษภาคม เป็นความเชื่อส่วนบุคคล (ของเจ้าของกระทู้นั้นๆ)...
ไม่ใช่มติหรือความเห็นของคนทั้งหมดในเว็บแห่งนี้

ตัวอย่างเช่น คุณฮั้วโต๋ / คุณตุ้ย อริยะบุญ / คุณปู interpoo (ขออภัยที่ต้องเอ่ยนาม)
และข้อมูลจากท่านที่เป็นนักปฏิบัติที่ได้มโนมยิทธิภายนอกเว็บนี้ ต่างก็ไม่มีการแจ้งเตือนในเีรื่องนี้

เท่าที่ผมทราบล่าสุดยังไม่มีคำเตือนจากพระอาจารย์รัตน์เช่นกัน

วันที่ 2 มิ.ย. พระอาจารย์รัตน์มีกำหนดเดินทางมากรุงเทพเพื่อสอนการปฏิบัติธรรม
วันที่ 3 มิ.ย. หลวงตาม้ามีกำหนดเดินทางมาปทุมธานีเพื่อเป็นประธานในพิธีหล่อรูปหลวงปู่ดู่

ด้วยความเคารพในการเตือนของทุกๆท่านที่มีเมตตาและบริสุทธิ์ใจ
ผู้เขียนเพียงนำความเห็นแย้ง มาแสดงไว้ในที่นี้เพื่อประกอบการพิจารณาโอกาสความเป็นไปได้
เพื่อการเตรียมกาย เตรียมใจ เตรียมจิต อย่างไม่ประมาทแต่มีสติ



อย่างไรก็ตามอย่าประมาทจากภัยพิบัติส่วนบุคคลและภัยพิบัติย่อยๆนะครับ
รวมถึงภัยพิบัติจากการกระทำของคนด้วย
น่าเป็นห่วงที่สุดคือเรื่องภัยพิบัติจากการกระทำของคน


ดีที่สุดคือเร่งรัดการปฏิบัตินะครับ

ภายใน 1 วันเราอาจสวดมนต์บทจักรพรรดิได้ 300 - 500 จบหรือมากกว่านั้น


ผู้เขียนตกลงกับแฟนว่า เรามาแข่งกันสวดมนต์กัน
สวด 1 จบก็กดเครื่องนับ 1 ที แล้วเรามาดูกันว่า ใน 1 วันใครสวดมนต์ได้มากกว่ากัน



( อุปกรณ์ชิ้นนี้ราคา 60 บาท จำหน่ายที่ร้าน Daiso Shop )

การสวดนมนต์ที่ดีนั้นอันที่จริงไม่ได้อยู่ที่ปริมาณเพียงอย่างเดียว
คุณภาพ คือ การทำใจให้สบาย มีความตั้งใจและศรัทธาก็เป็นสิ่งสำคัญ
ดังนั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงจึงไม่ใช่ว่าจะแข่งเพื่อมุ่งเอาชนะกัน
แต่เป็นกุศโลบายในการเตือนให้ทำความเพียร เร่งรัดตัวเองในการปฏิบัติภาวนา


แนะนำกระทู้ คลิกที่นี่...แก้ปัญหานานาประการเกี่ยวกับพิบัติด้วยกำลังจักรพรรดิ <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> </fieldset>

 

​

“กระแสจักรพรรดิเป็นพลังงานที่อยู่ในโลกนี้ตลอด เวลา สืบต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่มีประมาณ กระแสจักรพรรดิมีเกิดขึ้นเรื่อยๆ แม้จักรพรรดิผู้นั้นได้บรรลุเป็นพระอรหันต์หรือพระพุทธเจ้าไปแล้ว แต่พลังงานบุญก็ยังทิ้งไว้ในสมบัติจักรพรรดิ สมบัติจักรพรรดิเป็นสมบัติผลัดกันชม ยังมีอยู่ตลอดไม่หายไปไหน พลังงานบุญจึงฝากกระแสต่อไปสู่พระจักรพรรดิองค์ต่อไปเรื่อยๆ พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ พระโพธิสัตว์ทุกยุคทุกสมัย ต้องมาเกิดเป็นพระจักรพรรดิกันแทบทั้งนั้น พระจักรพรรดิจึงเกิดมีสืบต่อกันไปไม่ขาดสาย เป็นเครือข่ายพลังานบุญที่ปรากฏสืบทอดต่อเนื่องในโลกนี้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เวลาสวดจักรพรรดิไปนานๆกระแสแห่งพระจักรพรรดิจะเกิดขึ้นที่จิตเรา จะสะสมพลังงานหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี ไปเรื่อยๆ ยิ่งสวดดี สวดด้วยใจเบาสบาย พลังงานก็ยิ่งหนาแน่นขึ้น กระแสจักรพรรดิ กระแสหลวงปู่ดู่ที่หนาแน่นนั้นมีประโยชน์มาก นำมาอธิษฐานอะไรก็ได้ เป็นกระแสที่มีพลังงานสูง ส่งพลังงานไปได้ไกลไม่มีประมาณทั่วสามแดนโลกธาตุ สามารถเปลี่ยนกระแสที่ไม่ดีต่างๆเช่นวิญญาณไม่ดี ฮวงจุ้ยไม่ดี ร่างกายป่วยไข้ไม่ดี กรรมไม่ดี ฯลฯ ให้กลายเป็นดีได้ ใช้เป็นประโยชน์ในการอธิษฐานได้ทั้งทางโลกเช่น ธุรกิจการงาน การเงิน สุขภาพ ครอบครัว ฯลฯ และทางธรรมเช่น การใช้พระกำหนดถามตอบข้อธรรมต่างๆ

ความหนาแน่นของพลังงานในการสวดนั้น จิตสามารถบันทึกได้อย่างไม่มีประมาณ สวดไปด้วยคิดเรื่องธุรกิจการงานที่ติดขัดไปด้วยก็ได้ ถ้านึกไปสวดไป ก็คือการนำกำลังจักรพรรดิมาใช้เป็นครั้งๆไป การอัดความหนาแน่นของพลังงานก็จะช้าหน่อย แต่ถ้าไม่ได้ใช้แก้ปัญหาข้อขัดข้องใดๆ หมั่นสวดเป็นประจำ ก็อัดพลังงานได้เต็มเร็ว เพิ่มพลังงานความหนาแน่นของบุญบารมีในตัวเราได้มาก คนทำงานไม่มีเวลาว่าง แค่สวดตอนตื่นนอน กินข้าว อาบน้ำ ก่อนนอน ก็พอ สวดก่อนนอนจิตจะบันทึกบุญไว้ สามารถพิสูจน์ได้จริง ลองสวดดู ถ้าทำได้จริงแล้วจะไม่มีฝันร้ายเลย หากสวดจนนิ่งหลับไป จิตจะไม่ฝันเลย จะหลับเต็มอิ่ม ตื่นมาสดชื่นมาก กำหนดเวลาตื่นได้เอง หรือหากสวดด้วยใจสบาย จิตจะฝันว่าไปสวดมนต์ไปวัด ทำบุญ ไปส่งวิญญาณ แม้หลับอยู่จิตก็ยังได้บันทึกบุญ จิตฝันดีธาตุก็ดี ตื่นมาร่างกายสดชื่นแข็งแรง ถ้าจิตฝันร้าย ธาตุก็เสื่อม เหมือนเวลาฝันว่าวิ่งหนี ร่างกายเราก็รู้สึกเหนื่อยหอบจริงๆ

เราสวดจักรพรรดิ ระลึกถึงจักรพรรดิ สามารถอธิษฐานนำมากำหนดเป็นพลังงานให้เกิดเป็นทิพยอำนาจได้ ให้จิตอยู่ในจักรพรรดิ เราจะกำหนดไปที่ไหนก็ได้ จะมีคนเห็นเราปรากฏตัวในที่ต่างๆได้ สวดให้จริงแล้วจะหวังผลแบบไหนก็ได้ ปรารถนาจะบรรลุเป็นพระอรหันต์ไม่อยากเกิดแล้วก็ได้ หรือปรารถนาจะสร้างบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ก็จะสร้างบุญบารมีได้เร็วขึ้น เชื่อหรือไม่เชื่อ ต้องลองปฏิบัติดูเอาเอง...”


คัดลอกจาก ธรรมะหลวงตาเรื่องการสวดจักรพรรดิ

​

 

โลกแก้ไขไม่ได้ มีแต่แก้ที่ใจเรา เพื่อให้พ้นไปจากโลกแห่งภัยพิบัติ
พรหมวิหารสี่เป็นกำลังใหญ่ เป็นอาหารเลี้ยงทั้งศีล สมาธิ ปัญญา
การปฏิบัติจึงทิ้งพรหมวิหารไม่ได้ ต้องใช้พรหมวิหารควบคู่กับการปฏิบัติเสมอ
ใช้เมตตาเป็นตัวต้นไล่ไปจนถึงอุ<wbr>เบกขาเป็นตัวปลาย

 

ช่วงนี้ผมเช็คจากแหล่งข้อมูลที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์
ก็ไม่ได้รับสัญญาณเตือนภัยพิบัติจากธรรมชาติประเภทมหาภัยพิบัติรุนแรง
หรือการเตือนว่าจะมีวันฟ้าดับแผ่นดินถล่มในช่วงนี้
โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 20 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 2555

1. ศิษย์หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุงที่ได้มโนมยิทธิแจ่มชัดจนถึงระดับที่สามารถจัดพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรได้คือ
เจ้าอาวาสวัดท่าซุงองค์ปัจจุบันและอีกท่านคือหลวงพี่เล็ก วัดท่าขนุน ยังไม่มีการเตือนภัย
(ผู้ที่จะสามารถจัดพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรได้ ต้องมีทิพยจักขุแจ่มชัดถึงขนาดรับคำสั่งจากพระพุทธเจ้าได้)
นอกจากนี้ที่วัดท่าซุงและวัดท่าขนุนยังมีกำหนดการจัดงานใหญ่ที่วัดในช่วงต้นเดือนมิถุนายนตามปกติ

2. นักปฏิบัติที่ได้มโนมยิทธิที่ผมรู้จัก และคนทรงที่ผมรู้จักที่น่าเชื่อถือยังไม่มีการเตือนภัย

3. พระอาจารย์รัตน์ ซึ่งท่านมีองค์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติอย่างยิ่ง
ท่านยังไม่มีคำเตือนภัย และท่านยังมีกำหนดเดินทางมากรุงเทพเพื่อสอนการปฏิบัติธรรมในวันที่ 2 มิ.ย.

4. หลวงตาม้ามีกำหนดเดินทางมาปทุมธานีเพื่อเป็นประธานในพิธีหล่อรูปหลวงปู่ดู่ในวันที่ 3 มิ.ย.

5. สมาชิกในเว็บ เช่น คุณฮั้วโต๋ / คุณตุ้ย อริยะบุญ / คุณปู interpoo (ขออภัยที่ต้องเอ่ยนาม)
ยังไม่มีการเตือนภัยชนิดรุนแรงระดับมหาภัยพิบัติ

6. หมอดูอีที ทำนายว่าปี พ.ศ. 2555 ประเทศไทยยังไม่มีมหาภัยพิบัติรุนแรง

7. ยังไม่มีข้อมูลจาก ดร.ก้องภพ ว่าจะมีภัยระดับมหาภัยพิบัติ

ส่วนข้อมูลทางวิทยาศาสตร์นั้นก็เป็นไปตามที่หลายๆท่านช่วยกันโพสต์ข้อมูล

ด้วยความเคารพในการเตือนของทุกๆท่านที่มีเมตตาและบริสุทธิ์ใจ
ผู้เขียนเพียงนำความเห็นแย้ง มาแสดงไว้ในที่นี้เพื่อประกอบการพิจารณาโอกาสความเป็นไปได้
เพื่อการเตรียมกาย เตรียมใจ เตรียมจิต อย่างไม่ประมาทแต่มีสติ



อย่างไรก็ตามอย่าประมาทจากภัยพิบัติส่วนบุคคลและภัยพิบัติย่อยๆนะครับ
รวมถึงภัยพิบัติจากการกระทำของคนด้วย
น่าเป็นห่วงที่สุดคือเรื่องภัยพิบัติจากการกระทำของคน


ดีที่สุดคือเร่งรัดการปฏิบัตินะครับ

ภายใน 1 วันเราอาจสวดมนต์บทจักรพรรดิได้ 300 - 500 จบหรือมากกว่านั้น



แนะนำกระทู้ คลิกที่นี่...แก้ปัญหานานาประการเกี่ยวกับพิบัติด้วยกำลังจักรพรรดิ

<fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> </fieldset>

 

อนุโมทนา สาธุุค่ะคุณกาขาว

 

กระทู้นี้ไม่ใช่กระทู้รวมคำทำนายหรือคำเตือนภัยพิบัติ
แต่เป็นเรื่องของความคิดจากการเดินทางและการรับรู้ข่าวสาร
เป็นการวิเคราะห์และมุมมองของผู้เขียนถึงโอกาสความเป็นไปได้ต่าง ๆ
หากมีคัดลอกคำเตือนของท่านผู้อื่นมาลงไว้ก็เพราะเห็นว่ามีโอกาสเป็นไปได้หรือน่ารับฟังไว้

สิ่งที่น่าจับตามองคือเรื่องภัยพิบัติจากการกระทำของคนและภัยเศรษฐกิจ
เรื่องภัยเศรษฐกิจผมอาจจะเตือนช้าไป เพราะไม่ได้ทำความเสียหายขนาดสูญเสียชีวิต
แต่ตอนนี้หากใครติดตามข่าววิกฤตเศรษฐกิจโลกก็คงทราบดีว่าอาการน่าเป็นห่วง
หากใครคิดจะลาออกจากงานประจำมาทำธุรกิจส่วนตัวในช่วงนี้
ถ้าทุนไม่หนา สายป่านไม่ยาวก็น่าจะวางแผนให้รัดกุมและรอบคอบ

คำว่า "เศรษฐกิจพอเพียง" มีคุณค่ายิ่ง


ข้อความต่อไปนี้เป็นความเห็นของหมอนิด
คัดลอกจาก หมอนิด ตรวจดวงด้วยญาณ

สามสี่วันมานี้มีโทรศัพท์เข้ามาหาผมไม่ว่างเว้น แต่ละคนต่างก็ถามในเรื่องเดียวกัน ทั้งเรื่อง หุ้น และเรื่อง ทองคำ ทุกคน เพราะผมไปออกรายการทางโทรทัศน์เนชั่นฯเมื่อปลายปีพ.ศ.2554 ทำนายดวงเมืองและเศรษฐกิจปีพ.ศ.2555 ว่าปีนี้ราคาทองคำจะลดลงอย่างมาก ปัญหาประเทศ กรีซ ไม่สามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้ ประเทศจีนจะถอดถอยทางเศรษฐกิจในปีพ.ศ.2555นี้ และยังจะมีอีกหลายประเทศจะเจอปัญหาเศรษฐกิจอย่างรุนแรง จะเกิดสงครามขึ้นระหว่างประเทศอิสราเอล กับประเทศแถบอาหรับ ราคาน้ำมันตลาดโลกจะลดลง ฯลฯ ทุกอย่างที่ผมทำนายไว้ได้เกิดขึ้นมาเป็นลำดับ บางเรื่องก็เกิดขึ้นไปก่อนหน้านี้แล้วเช่นเรื่อง สงครามประเทศอิสราเอลกับประเทศแถบอาหรับ ผมจำไม่ได้แล้วว่าประเทศอะไร แม้แต่เรื่อง “ภัยธรรมชาติ” ที่ผมบอกไว้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหว และจะเกิด “ภัยธรรมชาติ” ขึ้นหลายประเทศ มันก็เกิดขึ้นมาให้เห็นแล้ว บางประเทศเจอ ภัยน้ำท่วม บางประเทศเจอ แผ่นดินไหว คำทำนายหลายอย่างค่อยๆปรากฎมาให้เห็นแล้ว ราคาทองคำก็ลงราคามาแล้วตามที่ทำนายไว้ และลงมาถึงจุดที่ผมได้บอกไว้แล้ว ทองคำจะลงอีกหรือไม่?ท่านที่ติดตามการทำนายของผมมาตลอดคงรู้ดี ว่าราคาทองคำต่อไปจะเป็นอย่างไร? และเมื่อปลายปีพ.ศ.2554ประมาณเดือน ธ.ค. ผมได้รับเชิญจากตลาดหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง ให้ไปบรรยายเรื่อง หุ้น และเรื่อง การเมือง ผมได้บอกว่าให้นักลงทุนจับตามองเดือน พฤษภาคม ให้ดี หุ้นจะลงอย่างรุนแรง คนที่ถืออยู่ถ้ามีกำไรให้รีบขายออกไป และอย่าเพิ่งรีบเข้าไปซื้อ คิดว่าผู้ที่ไปฟังการบรรยายของผมในวันนั้นคงจะจำได้ ต่อจากนี้ไปผมจะไม่ขอตอบคำถามของทุกคนว่า ราคาทองคำ จะลงต่อ หรือจะขึ้นแล้ว ผมจะไม่ตอบคำถามว่า หุ้น จะขึ้นหรือลง ผมคิดว่าผมได้นำทางทุกท่านมาถึงจุดนี้แล้ว ท่านคงสามารถที่จะเดินทางต่อไปได้ด้วยตัวเอง ทั้งนี้เป็นเพราะ “ดวง” ของแต่ละท่านไม่เหมือนกัน แม้แต่ความคิดของแต่ละท่านก็แตกต่างกัน บางท่านอาจจะคิดว่า ทองได้ลงราคามามากแล้วควรจะซื้อเอาไว้เก็งกำไรได้แล้ว แต่บางท่านอาจจะคิดว่าราคาทองน่าจะลงต่ำกว่านี้อีก รออีกหน่อยดีกว่า ยังไม่รีบซื้อตอนนี้ แม้แต่ หุ้น ก็เช่นกัน ต่างคนต่างมีทีเด็ดของตนเอง ผมจึงไม่ขอตอบคำถามใครทั้งสิ้น ถ้าผมตอบผิดไปจะทำให้ท่านเกิดความเสียหายได้ อย่างที่ผมบอก “ดวงไม่เหมือนกัน” ขอให้ท่านตัดสินใจกันเอง “อย่าเชื่อหมอดูเพียงอย่างเดียว” หมอดูไม่ใช่เทวดาจึงไม่สามารถรู้ไปหมดทุกเรื่อง

ยังมีเรื่องหนึ่งที่ผมทำนายไว้ แต่มันยังไม่เกิดขึ้น คิดว่าคงอีกไม่นานนี้จะได้เห็นกันแล้ว ใจหนึ่งก็ไม่อยากให้มันเกิดเพราะถ้าเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นคงมีคนตายเป็นเบือ บ้านเมืองคงหลีกไม่พ้นความสูญเสียครั้งใหญ่ ความสงบมันจะไม่จบลงง่ายๆ เศรษฐกิจจะเสียหายเป็นอย่างมาก แต่อีกใจหนึ่งเมื่อมองไปในอนาคตข้างหน้า ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ โดยไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง บ้านเมืองก็หนีไม่พ้นต้องพบกับความ “หายนะ” อย่างใหญ่หลวง เมื่อถึงวันนั้นประเทศคงหนีไม่พ้นต้องพบกับความ “ล่มจม” เหมือนประเทศ “กรีซ” หรือประเทศ “อาเจนติน่า” และประเทศแถบยุโรปที่กำลังเจอมรสุมอยู่ในขณะนี้ ประชาชนจะเดือดร้อนไปทั่วทั้งประเทศ ไม่เหลืออะไรอีกต่อไปเลยในอนาคต เพราะ ความเลวร้าย บวกกับ ความชั่วร้าย ของ มารแผ่นดิน แอบแฝงอยู่ทุกหย่อมหญ้า แต่รู้สึกว่าไม่ค่อยจะมีผู้หลักผู้ใหญ่ หรือผู้ที่มีอำนาจให้ความสนใจมากนัก เหมือนต่างคนต่างเอาตัวรอด ใครมือยาวสาวได้สาวเอา ประเทศชาติบ้านเมืองจะฉิบหายก็ช่างมัน
คนไทยจำนวนมากยังไม่รู้พิษภัยที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ผมคงไม่ว่าใครฝ่ายไหนที่ปล่อยให้เป็นแบบนี้ ผมถือว่า “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม” เพราะฉะนั้นผมจะอยู่เฉยๆ ในตอนนี้ ขอถือโอกาสพักไปในตัว ไปทำบุญดีกว่าที่จะมายุ่งเรื่องการเมือง ที่สุดแสนจะสกปรก ทุกคนต่างจ้องที่จะฮุบอำนาจ และผลประโยชน์เพื่อตัวเอง และพวกพ้องกันทั้งนั้น หาคนที่จะทำเพื่อประเทศชาติและบ้านเมืองโดยตรงไม่มีเลยสักคน คงจะเป็นเวรกรรมของประเทศ จึงมีแต่คนจำพวกนี้เข้ามาบริหารบ้านเมือง แม้แต่ข้าราชการจำนวนมากยังไม่ซื่อสัตย์ต่อตำแหน่งหน้าที่ คงไม่ต้องไปหวังอะไรอีกแล้วในประเทศนี้.....ชั่งแม่มัน
ด้วยความเคารพ หมอนิด (กิจจา ทวีกุลกิจ) 17 พ.ค. 2555

 

กระทู้นี้ไม่ใช่กระทู้รวมคำทำนายหรือคำเตือนภัยพิบัติ
แต่เป็นเรื่องของความคิดจากการเดินทางและการรับรู้ข่าวสาร
เป็นการวิเคราะห์และมุมมองของผู้เขียนถึงโอกาสความเป็นไปได้ต่าง ๆ
หากมีคัดลอกคำเตือนของท่านผู้อื่นมาลงไว้ก็เพราะเห็นว่ามีโอกาสเป็นไปได้หรือน่ารับฟังไว้


**********************************************************


ข้อความต่อไปนี้เป็นทัศนะของคุณ กาลปุตรา

‎" 21 พฤษภาคม 2555 นี้จะเกิดสุริยคราสแบบวงแหวนขึ้<wbr>นในรุ่งเช้า
ตอนที่พระอาทิตย์กำล<wbr>ังโผล่ขึ้นจากขอบฟ้า
ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไท<wbr>ยจะมองเห็นได้ชัดเจน
ยกเว้นทางภาคใต้ของประเทศไทยจะเ<wbr>ห็นได้เพียงแค่บางส่วน

ในคัมภีร์โบราณกล่าวถึงคราสว่า คราสที่เกิดขึ้นในราศีพฤษภ
ปศุสัตว์ตลอดจนเจ้าของปศุสัตว์จ<wbr>ะเดือดร้อนล้มตาย
ผู้มีตำแหน่งใหญ่โตในบ้านเมืองจ<wbr>ะประสบกับความวิบัติ
อีกทั้งราศีพฤษภนั้นยังเป็นเรือ<wbr>นการเงินและการกินอยู่ของโลก
จึงต้องระวังเกี่ยวกั<wbr>บการปัญหาใหญ่ทางการเงินของโลกก<wbr>ันให้ดี

คราสนี้จะเกิดในส่วนที่หนึ่งของ<wbr>ท้องฟ้า (06.00 น. – 07.44 น)
ผู้ที่มีอาชีพเกี่ยวกับความร้อน<wbr> นักบวชและนักการศาสนาที่ดีงามจะ<wbr>ได้รับความเดือดร้อนจากผู้ทุศีล<wbr>
ผู้คนจะต้องประสบความวิบัติแตกต<wbr>่างกันไปต่างๆ นานา

อีกทั้งเป็นคราสที่เกิดในเวลาที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นถือว่าเป็น<wbr>คราสที่อัปมงคล
พืชพันธุ์ธัญญาหารจะเสียหายขาดแ<wbr>คลน ผู้ปกครองประเทศจะได้รับภัยพิบั<wbr>ติถูกโค่นล้ม
และเป็นคราสแบบวงแหวนอีกก็ทำนาย<wbr>ว่าประชาชนในเมืองหลวงจะได้รับค<wbr>วามเดือดร้อนที่สุด
โดยจะเกิดโรคระบาดหรือการฆ่าฟัน<wbr>กันให้ล้มตายเป็นจำนวนมาก

สรุปว่าคราสที่จะเกิดขึ้นในวันท<wbr>ี่ 21 พฤษภาคม 2555 นี้เป็นคราสร้ายอย่างมาก
ซึ่งในปีนี้ในบ้านเราจะมีคราสร้<wbr>ายเกิดขึ้นติดกัน 2 ครั้ง
บ้านเมืองจะเป็นอย่างไรบ้างก็ต้<wbr>องดูกันต่อไปนะครับ "




" โดยในคราสครั้งนี้ดาวพฤหัสก<wbr>็มาถูกองศาของคราสดับลงไปด้<wbr>วย
การที่ดาวพฤหัสนั้นมาร่วมดั<wbr>บด้วย ทำนายว่านักปราชญ์ บัณฑิต ผู้ปกครองประเทศจะได้รับควา<wbr>มวิบัติ
ส่วนดาวศุกร์ที่มาร่วมดับด้<wbr>วยจะทำนายว่าพืชพันธุ์ธัญญา<wbr>หารจะพินาศ
บ้านเมืองจะประสบภัยพิบัติค<wbr>รั้งใหญ่แบบที่ไม่เคยปรากฏม<wbr>าก่อน
สตรีที่มีอำนาจจะประสบภัยพิ<wbr>บัติร้ายแรง "

ข้อความโดย กาลปุตรา

 

กระทู้นี้ไม่ใช่กระทู้รวมคำทำนายหรือคำเตือนภัยพิบัติ
แต่เป็นเรื่องของความคิดจากการเดินทางและการรับรู้ข่าวสาร
เป็นการวิเคราะห์และมุมมองของผู้เขียนถึงโอกาสความเป็นไปได้ต่าง ๆ
หากมีคัดลอกคำเตือนของท่านผู้อื่นมาลงไว้ก็เพราะเห็นว่ามีโอกาสเป็นไปได้หรือน่ารับฟังไว้


**********************************************************


ข้อความต่อไปนี้เป็นทัศนะของคุณ กาลปุตรา


" แล้วต่อมาในวันที่ ๔ มิถุนายนก็จะเกิดจันทรุปราคาอีก
ซึ่งจุดศูนย์กลางของคราสนี้ก็จะอยู่ในช่วงพระอาทิตย์ตกดินอีก
ก็จะถือว่าเป็นคราสที่อัปมงคลมีผลคำทำนายเหมือนคราสที่เกิดในวันที่ ๒๑ พฤษภาคม
แต่คราวนี้จะเกิดขึ้นในราศีพิจิกทำนายว่าพวกค้าสารเคมีอันเป็นพิษ พวกนักรบ
พวกนักต่อสู้ พวกนักการเมือง จะประสบกับความพิบัติ
อีกทั้งการเกิดคราสครั้งนี้จุดเกิดคราสนั้นก็ใกล้กับตำแหน่งของดาวอังคารในดวงเมือง
ซึ่งหมายถึงผู้นำและความเสื่อมสลายด้วยจึงน่าจับตามองการเมืองในช่วงนี้
และในอนาคตไม่เกิน 6 เดือนนี้ให้เป็นพิเศษ

ต่อมาก็คือในวันที่ ๖ มิถุนายนจะมีปรากฏการณ์ดาวศุกร์ตัดหน้าพระอาทิตย์
ซึ่งก็คือดาวศุกร์นั้นจะดับสนิทถูกรัศมีของพระอาทิตย์เผาผลาญอย่างแรงในราศีพฤษภ
ซึ่งเป็นเรือนเกษตรของดาวศุกร์ ก็ทำนายว่าประเทศชาติจะต้องประสบกับปัญหาด้านการเงิน
และด้านความสุขของประชาชนในประเทศเป็นอย่างมาก

คราวนี้มาดูดาวสามดวงที่จะเคลื่อนย้ายราศีกันต่อ
ซึ่งก็คือในช่วงวันที่ ๑๖ – ๑๗ เดือนพฤษภาคม
ที่ดาวเสาร์จะเดินถอยหลังกลับเข้ามาสู่ราศีกันย์
และดาวพฤหัสจะเดินหน้าเข้ามาสู่ราศีพฤษภ แล้วทำตรีโกณโยคใส่กัน
อันดาวเสาร์นั้นผู้เขียนให้นิยามว่าเป็นดาวแห่งการหดตัว
ส่วนดาวพฤหัสเป็นดาวแห่งการขยายตัว

คราวนี้เรามาคิดถึงของที่เป็นวัตถุดูว่าถ้ากำลังเกิดการหดตัวอยู่แล้วอยู่ก็
เกิดการขยายตัวเข้ามาอย่างฉับพลันจะเป็นอย่างไร
ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่นแก้ว ถ้าเราเอามันมาใส่น้ำเย็นหรือแช่เย็นไว้ให้มันเกิดการหดตัว
แล้วอยู่ๆ เราก็เอาน้ำร้อนเทใส่ลงไปอะไรจะเกิดขึ้นก็คิดเอาเอง

อีกทั้งผู้เขียนยังให้นิยามของการมาเจอกันของดาว 2 ดวงนี้อีกว่า
คือการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงหรือทัศนะอันสุดโต่ง
(ไม่ได้หมายความโดยตรงถึงการปฏิวัติทางการเมืองนะครับ)
แต่ทั้งดาวเสาร์และดาวพฤหัสที่ส่งกระแสถึงกันเฉยๆ เช่นนี้ก็ยังไม่เกิดการแตก

มันต้องรอดาวอีกดวงมาสร้างปฏิกิริยาก่อน ซึ่งนั่นก็คือศัตรูคู่อาฆาตของดาวเสาร์นั่นเอง
ดาวที่เป็นศัตรูคู่ อาฆาตหรือไม้เบื่อไม้เมากับดาวเสาร์ก็คือดาวอังคาร
ซึ่งเมื่อไรที่ดาวเสาร์มาเจอกับดาวอังคารแล้วหมอดูทั่วไปจะฟันธงลงไปเลยว่า
ดวงชะตานั้นต้องเกิดเรื่องใดร้ายๆ แน่

ในวันที่ ๒๒ มิถุนายนนั้นดาวอังคารก็จะเคลื่อนมาทำปฏิกิริยากับดาวเสาร์ในราศีกันย์
เอาหล่ะครับคราวนี้ก็ถือว่าดาวเสาร์ ดาวพฤหัสและดาวอังคารมาทำปฏิกิริยากันครบแล้ว
และกำลังผสมสารเคมีกันเพื่อรอวันระเบิดออกมา
ซึ่งการระเบิดออกมาของปฏิกิริยานี้สามารถตีความได้ 2 แบบคือ
แบบที่มนุษย์สร้างขึ้นให้เป็นไปกับแบบที่ธรรมชาติสร้างขึ้นให้เป็นไป

แบบแรกนั้นก็จะตีความถึงเรื่องความแตกแยกทางการเมืองอย่างรุนแรง
เมื่อดาวพฤหัสผู้เป็นฝ่ายกุมอำนาจหรือนักมวยมุมแดงมาขึ้นเวที
พร้อมกับดาวเสาร์ผู้เป็นฝ่ายต่อต้านหรือนักมวยมุมน้ำเงิน
แล้วมีดาวอังคารผู้เป็นดั่งขุนศึกหรือระฆังสั่งชกเข้ามาร่วมด้วย
มันย่อมมีโอกาสเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองได้สูงมาก

แบบที่สองนั้นหลายครั้งแล้วที่ผู้เขียนคำนวณเรื่องของแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ๆ
ก็จะพบว่าดาวทั้งสามดวง คือ ดาวเสาร์ ดาวพฤหัสและดาวอังคารนั้นจะส่งโยคถึงกัน
โดยมีระยะองศาของดาวพฤหัสถูกดาวเสาร์กับดาวอังคารบีบอยู่ตรงกลางทุกครั้งไป
ซึ่งถ้าดูจากโยคของดาว พฤหัสในครั้งนี้แล้วพลังของมันก็จะส่งโยคห้า
มาอยู่ตรงกลางของดาวสองดวงนี้ด้วยในราศีกันย์
ซึ่งก็หมายถึงจุดทางภูมิศาสตร์ที่ประเทศไทยและประเทศในระแวกบ้านเราตั้งอยู่
ดังนั้นในปีนี้จึงเป็นปีที่น่ากลัวเกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวในแถบสุวรรณภูมิเราเป็นอย่างมาก

เมื่อดาวอังคารมาสถิตที่ราศีกันแล้ว เราต้องไม่ลืมว่าดาวอังคารนั้นจะมีโยคพิเศษของมัน
นอกจากกุมกับเล็งอยู่อีก 2 โยค คือ โยค 4 กับโยค 8
และโยคที่ 8 ของดาวอังคารนั้นตามตำราโหราศาสตร์ถือว่าเป็นโยคที่ร้ายมากโยคหนึ่ง
แล้วเมื่อเรานับจากราศีกันไป 8 ราศีก็จะไปตกที่ราศีเมษอันเป็นราศีแห่งลัคนาของประเทศไทยนั่นเอง

ดาวอังคารจึงพาเอาการทำปฏิกิริยาของดาวเสาร์ ดาวพฤหัสและของตัวมันส่งผลไปที่ดวงเมืองของเราด้วยเช่นกัน
คราวนี้จะแถมให้อีกดวงคือราหู ซึ่งยืนจังก้าคอยเสียบคอยสอยอยู่ในราศีพิจิก
อันราหูนั้นนักโหราศาสตร์หลายท่านรวมทั้งผู้เขียนด้วย มีทัศนะว่ามันมีโยคพิเศษนอกจากโยคกุมและเล็ง
ที่เหมือนกับโยคพิเศษของดาวเสาร์ คือ มีโยค 3 และโยค 10

แต่คราวนี้เราต้องเข้าใจก่อนว่าราหูนั้นมันโคจรไม่เหมือนชาวบ้านเขา คือจะโคจรย้อนจักร
ดังนั้นเมื่อมันสถิตอยู่ในราศีพิจิก โยค 3 ของมันก็ย่อมจะส่งกำลังเต็มที่ไปที่ราศีกันย์อย่างเต็มๆ
และเข้าร่วมผสมโรงกับดาวเสาร์ ดาวพฤหัสและดาวอังคารที่กำลังทำปฏิกิริยากันอยู่
โดยจะแยกปฏิกิริยาตามอาการดังนี้

ราหูกับดาวอังคาร ท่านทำนายว่าจะก่อให้เกิดการตายหมู่,
อันตรายจากยานพาหนะที่มีคนใช้เป็นจำนวนมาก, ภัยอันเกิดจากไฟ,
ภัยอันเกิดจากความใจร้อนหรือการถูกมอมเมาของคน
ราหูกับดาวพฤหัส ท่านทำนายว่าจะทำให้เกิดการเห็นผิดเป็นชอบ,
ทำให้เกิดการกระทำอันขัดต่อกฏหมายและศีลธรรมอันดีของบ้านเมือง,
การทำให้ลงผิดไปชั่วขณะ, การกำพร้าของบุตร
ราหูกับดาวเสาร์ ท่านทำนายว่าจะก่อให้เกิดอารมณ์อันหมกมุ่น, เกิดอารมณ์อันแปรปรวน,
ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทของชนกลุ่มใหญ่, ทำให้เกิดการกระทำที่ผิดศีลธรรมขอเพียงให้ได้มาซึ่งผลสำเร็จ,
ทำให้เกิดการหลอกลวงครั้งยิ่งใหญ่อย่างหน้าไม่อาย,
ทำให้เกิดความอำมหิตผิดมนุษย์


เอาหละครับก็ลองเราความหมายของราหูที่ ทำกับดาวทั้ง 3 ดวงในราศีกันย์นี้มารวมกันดูสิครับ
ท่านผู้อ่านจะตีความว่าอย่างไร? หรือจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นในช่วงนี้และอีก 6 เดือนต่อไป
ยิ่งถ้านำมารวมกับการเกิดคราสและเรื่องดาวศุกร์ดับครั้งยิ่งใหญ่บนท้องฟ้าในช่วงนี้ด้วยแล้ว
ก็แทบไม่อยากจะพูดถึงว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาในปีนี้


ผู้เขียนจึงได้นำเรื่องปรากฏการณ์บนท้องฟ้าทั้งหมดนี้มาเล่าสู่ท่านผู้อ่านให้ได้ทราบกันก่อนล่วงหน้า
จะได้มีเวลาเตรียมการไว้แต่เนิ่นๆ ว่าเรากำลังก้าวเข้าสู่ภัยครั้งยิ่งใหญ่ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ทั้งเรื่องการเมืองและเรื่องของภัยธรรมชาติที่เรานั้นต้องระวังให้มาก
อย่าไปหลงมัวเมากับคำหลอกลวงแล้วไปมีส่วนร่วมทำลายบ้านทำลายเมืองกับเขากันหละครับ
เพราะจุดเริ่มต้นที่เลวร้ายของมันกำลังจะแสดงให้เห็นในไม่ช้า

นับแต่กลางเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๕ นี้เป็นต้นไป
แล้วอย่าทำให้ประวิติศาสตร์ชาติไทยต้องซ้ำรอยร้ายกันอีกเลย ... สวัสดี "


ข้อความโดย กาลปุตรา

 

เกร็ดความรู้ประกอบการพิจารณา

*************************


ปรากฏการณ์บนท้องฟ้า
1. ในปี ๒๕๕๕ นี้โลกของเราจะมีสุริยุปราคาเกิดขึ้นทั้งหมด 2 ครั้ง
คือ เป็นสุริยุปราคาแบบวงแหวนในวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕
(พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทย ยกเว้นภาคใต้สามารถเห็นสุริยุปราคาบางส่วน
ได้ขณะที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นและ จะสิ้นสุดหลังพระอาทิตย์ขึ้นไม่นาน)

กับสุริยุปราคาเต็มดวงในวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
(ประเทศไทยเราจะไม่เห็นเนื่องจากเกิดในเวลาก่อนพระอาทิตย์ขึ้นตามเวลาใน
ประเทศไทยและเกิดทางซีกโลกใต้ใน เห็นได้ในประเทศฟิลิปปินส์ ทวีปออสเตรเรียและทวีปอเมริกาใต้)

2. ในปี ๒๕๕๕ โลกของเราจะเกิดจันทรุปราคาขึ้นทั้งหมด 2 ครั้ง คือ
จันทรุปราคาบางส่วนในวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๕
ซึ่งจะเริ่มเมื่อเวลา ๑๕.๔๘ น. – ๒๐.๑๘ น. ตามเวลาของประเทศไทย
ดังนั้นประเทศไทยเราจึงเห็นจันทรุปราคาครั้งนี้ได้ในเวลาตั้งแต่ ๑๘.๒๕ น. - ๒๐.๑๘ น.
เนื่องจากพระจันทร์จะสามารถมองเห็นโผล่พ้นจากท้องฟ้าในช่วงเวลาเริ่มต้นนั้น (จ.อุบลราชธานี)

กับจันทรุปราคาเงามัวในวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
(ตรงกับวันลอยกระทง) ประเทศไทยจะสามารถเห็นได้ตั้งแต่เวลา ๑๙.๑๕ น. – ๒๓.๕๑ น.

3. ในช่วงเย็นของวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕ นั้น
ดาวเสาร์จะเดินถอยหลัง (พักร์) จากราศีตุลย้อนกลับเข้ามาในราศีกันย์

4. ในช่วงเที่ยงวันของวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕ นั้น
ดาวพฤหัสจะเคลื่อนโคจรจากราศีเมษเข้าสู่ราศีพฤษภ

5. ในวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๕ ช่วงตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นถึงเที่ยงนั้น
จะเกิดปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าพระอาทิตย์ให้ได้เห็นกัน
ซึ่งภายใน 105 ปีหรือ 120 ปีจะเกิดขึ้นเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น
(แต่ละครั้งที่เกิดจะเกิดห่างกัน 8 ปี)
จากครั้งนี้ไปก็จะไปเกิดอีกในวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๖๖๐ กับวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๖๖๘ นั่นเลย

6. ในช่วงเริ่มเข้าสู่วันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๕ (ราวๆ ตี ๑) นั้น
ดาวอังคารจะเคลื่อนโคจรข้ามจากราศีสิงห์เข้าสู่ราศีกันย์

ข้อความโดย กาลปุตรา