การเตรียมการอพยพมนุษย์โลก เพื่อช่วยเหลือระหว่างการชำระโลก ของมิตรจากต่างพิภพ และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก

Becoming a Cosmic Telepath - a message from Archangel Michael
มาเป็นนักโทรจิตแห่งจักรวาล – ข้อความจากท่านไมเคิล หัวหน้าทูตสวรรค์ (Archangel Michael)

ที่มา: International Spirit Guide - Spiritual Articles - Becoming a Cosmic Telepath - a message from Archangel Michael_Ronna Herman channelling Archangel Michael(38)


ผู้สื่อสารทางโทรจิต: ท่านไมเคิล หัวหน้าทูตสวรรค์ (Archangel Michael)
ผู้รับการสื่อสารทางโทรจิต: Ronna Herman
วันที่ : จันทร์, 30 พฤศจิกายน 2009
โพสต์โดย: Margaret Corrigan



ตอนที่ 1 / 3

<!--[endif]-->
สวัสดีท่านกูรูที่รักทั้งหลาย พวกเราได้เคยบอกข้อความนี้แก่พวกคุณมาก่อนหน้านี้แล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม พวกเราต้องขอทบทวนความทรงจำของพวกคุณอีกครั้งหนึ่ง
เพื่อให้พวกคุณเข้าใจการเตรียมการต่างๆในอดีต ได้ส่งผลมาสู่ขั้นตอนแห่งวิวัฒนาการ
ที่พวกคุณกำลังเผชิญอยู่นี้อย่างไรบ้าง

ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ยุคแห่งราศีมีน (Age of Pisces) และ รังสีลำดับที่ 6 (Sixth Ray)
ได้ส่งอิทธิพลต่อการมาถึงของยุคแห่งราศีกุมภ์ (Age of Aquarius) และรังสีลำดับที่ 7 (Seventh Ray)
ซึ่งเป็นรังสีแห่งเสรีภาพ ความบริสุทธิ์ และเปลวสีม่วงแห่งการเปลี่ยนรูป
ภายใต้การกำกับของหัวหน้าทูตสวรรค์ ท่านซาดเคียว (Zadkiel) และเลดี้อะเมทิสต์ (Lady Amethyst)
อันเป็นที่รัก และเป็นเทวบิดา/เทวมารดาของพวกเรา ซึ่งพวกท่านได้รับการเพิ่มเติมอนุภาคแห่งแสงสว่าง
“อนุภาคอะดามันไตน์” (Adamantine Particles of Light) จำนวนมหาศาล จากพระผู้สร้างผู้ยิ่งใหญ่
ในช่วงเวลานั้น พลังงานแห่งความรัก/พลังงานแห่งชีวิตแห่งการสรรสร้าง
ได้เริ่มต้นแผ่กระจายออกมาสู่จักรวาล ในปริมาณที่มากมายมหาศาลกว่าแต่ก่อน
ดาวเคราะห์โลก และมนุษยโลกได้ค่อยๆสัมผัสกับคลื่นความถี่ที่สูงขึ้นและสูงขึ้น แห่งแสงสว่างของพระผู้สร้าง
แต่อย่างไรก็ตาม เพราะว่าแสงสว่างที่ละเอียดอ่อน ได้ค่อยๆแทรกซึมเข้าสู่โลก และหัวใจของมนุษย์โลก
ทำให้ความสับสนวุ่นวายเข้ามาครอบงำดาวเคราะห์โลก เหมือนอย่างที่โลกและสิ่งมีชีวิตบนโลกทั้งหลาย
กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ นั่นคือ มันได้เกิดสงครามโลกขึ้นหลายครั้ง ทำให้ความหายนะแพร่ระบาดไปทั่วโลก,
เกิดความเหี้ยมโหดชนิดที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน, เกิดการทำลายล้างรูปแบบของสภาพภูมิอากาศครั้งรุนแรงที่สุด,
และเกิดความตกต่ำทางเศรษฐกิจไปทั่วโลก ทำให้เกิดความทุกข์ยากแสนสาหัสของมหาชนทั่วโลก

ในครั้งนั้น ยังได้เกิดการปฏิวัติทางวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม และประเพณี ของชนรุ่นใหม่ขึ้น
สิ่งที่เคยยึดถือกันมายาวนานนับพันๆปี ได้ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้น หรือทิ้งไปเลย

ซึ่งเมื่อแสงสว่างแห่งการสรรสร้างใหม่ ได้แทรกซึมเข้ามาสู่โลก และสนามออร่าของมวลหมู่มนุษยชาติในครั้งนั้น
ได้ทำให้มีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนเกิดขึ้นมากมาย เช่น เกิดการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งต่างๆ
และเกิดการคิดเชิงนวัตกรรมขึ้น ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างเห็นได้ชัด
ในช่วงกลางของปี 1980 ได้มีการตรวจวินิจฉัยแล้วพบว่า มนุษย์โลกและดาวเคราะห์โลก
ได้สัมผัสกับคลื่นความถี่แห่งแสงสว่างของพระผู้เป็นเจ้า ที่ละเอียดอ่อน มามากมายเพียงพอ
ที่จะสามารถทำให้รวมกันได้แล้ว โดยไม่ก่อให้เกิดความวุ่นวายและความทุกข์ทรมานมากกว่านี้

ในช่วงนั้น เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาวจำนวนมากมาย ได้เริ่มต้นกระบวนการตื่นขึ้น
และได้เกิดอาการกระสับกระส่าย ไม่พึงพอใจในสิ่งที่ตนเองกำลังเป็นอยู่ เพราะว่าพวกเขา
อยู่ในระหว่างการ “รวมจิตวิญญาณ” และตัวตนที่สูงส่งกว่า (Higher self) ของพวกเขา
กำลังกระตุ้นพวกเขาอยู่ กำลังปลุกใจ และให้แรงบันดาลใจแก่พวกเขา บนเส้นทางแห่งการเลื่อนระดับครั้งนี้อยู่

มีงานเขียนมากมายเกี่ยวกับปรากฏการณ์ “การมาบรรจบกันอย่างสอดคล้องลงตัว”
(Harmonic Convergence – ปรากฏการณ์ที่ดาวเคราะห์ 8 ดวงในระบบสุริยจักรวาลของเรา
มาเรียงตัวกันเป็นรูปสามเหลี่ยมจัตุรัสเมื่อมองจากโลก ซึ่งมีความหมายในทางที่ดีด้านโหราศาสตร์ – Chayutt)
ซึ่งได้เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 1987 และได้มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในช่วงนั้น

แต่อย่างไรก็ตาม หนึ่งในเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดที่ได้เกิดขึ้นแล้ว ก็คือ ระบบโครงข่ายคริสตอล
ได้ถูกกระตุ้นให้กลับมาทำงานได้อีกครั้งหนึ่งแล้ว เพราะฉะนั้น มนุษย์โลกที่กำลังเลื่อนระดับขึ้น
ก็จะเริ่มส่งแสงสว่างแห่งการสรรสร้างอันละเอียดอ่อน ที่เรียกว่า “อนุภาคอะดามันไตน์” (Adamantine Particles)
ขึ้นไปสู่โครงข่ายนี้ได้อีกครั้งหนึ่ง

ทุกๆคนมีอะตอมต้นกำเนิดของจิตสำนึกแห่งพระผู้เป็นเจ้า (Seed Atom of God Consciousness)
ถูกเก็บอยู่ภายในใจกลางเพชรของเซลแห่งพระผู้เป็นเจ้า (Diamond Core God Cell)
และกระบวนการตื่นเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตของแต่ละบุคคล จะเกิดขึ้นได้ เมื่อบุคคลนั้น
สามารถเข้าถึงระดับแห่งความสมดุุล และความกลมกลืนกับระบบร่างกายที่ต่ำกว่าทั้ง 4
(ร่างกายเนื้อ, จิตใจ, อารมณ์ และ กายทิพย์ – จริงๆแล้วศัพท์เขาจะบอกว่า
physical body, mental body, emotional body และ etheric body
เว้นแต่กายเนื้อแล้ว อีก 3 กายที่เหลือ ศัพท์ภาษาไทยที่ผมเจอก็จะเรียกว่า “กายทิพย์” ด้วยกันทั้งนั้น
และความแตกต่างของกายทั้ง 4 นี้ กูรูหลายท่าน ก็ยังมีความเห็นไม่ตรงกันนัก
เพราะฉะนั้น ก็สมมุติว่าเข้าใจไปก่อนนะครับ - chayutt) ของตนเองได้ระดับหนึ่งได้แล้วเท่านั้น

ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา คลื่นความถี่ที่สูงกว่าแห่งแสงสว่างของพระผู้สร้าง
ก็ได้พุ่งตรงลงมา และแพร่ผ่านเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว ที่กำลังตื่นขึ้นทั่วโลก
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเราจึงเรียกพวกคุณว่า ผู้พิทักษ์แห่งแสงสว่าง (Sentinel of Light),
เสาค้ำแห่งแสงสว่าง (Pillar of Light), ผู้เปลี่ยนรูปแบบแห่งแสงสว่าง (Transformers of Light)
และ ผู้แปลงกระแสแห่งแสงสว่าง (Transducers of Light)

ในช่วงเวลานั้น มีผู้ที่ก้าวหน้าแล้ว และกล้าหาญบางคน ที่เราเรียกว่า “กองหน้า”
ได้เริ่มต้นติดต่อกับผู้นำ หรือคุรุทางจิตวิญญาณของพวกเขา ซึ่งเป็นคุรุผู้รู้แจ้งแล้ว บ้างก็เป็นพวกเทพทั้งหลาย
ซึ่งแต่ละคน จำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการชำระล้าง และฝึกอบรมที่เข้มข้น
แต่อย่างไรก็ตาม หลายคนที่เคยอยู่ในหลักสูตรฝึกอบรมนี้ ได้กลายเป็นร่างสื่อที่บริสุทธิ์
สำหรับรับการสั่งสอน จากรูปธรรมชีวิตทรงภูมิปัญญาชั้นสูงทั้งหลาย ซึ่งสิ่งนี้
ได้มีบทบาทสำคัญอย่างมาก ต่อผู้ที่กำลังพยายามพัฒนาตัวเอง ไปสู่ความเป็นผู้มีคุณวุฒิทางจิตวิญญาณ
และเป็นผู้ที่บังคับบัญชาตัวเองได้ในขณะนั้น

มวลหมู่มนุษย์ ได้ทะยอยตื่นขึ้น จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆจนน่าประหลาดใจ
เมื่อได้รับการเติมพลังแห่งความรัก และพลังแห่งแสงสว่างจากพระผู้สร้างสูงสุด
ผ่านทางเทวบิดา/เทวมารดาของเรา และท่านเมทาตรอน หัวหน้าทูตสวรรค์ (Archangel Metatron) ผู้ยิ่งใหญ่
ซึ่งเป็นผู้ที่แปรงกระแสพลังดังกล่าวนั้น ให้อ่อนลง อยู่ในระดับที่มนุษย์โลกสามารถทนรับได้
เพื่อให้ปลอดภัยต่อทั้งตัวมนุษย์โลกและต่อดาวเคราะห์โลก

ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้นั้น คุณลักษณะ, คุณภาพ
และคุณงามความดีของรังสีลำดับที่ 7 ซึ่งบรรจุเปลวสีม่วงแห่งการเปลี่ยนรูปแบบ
กำลังสาดส่องลงมาจากหออะเมทิสต์บนสรวงสวรรค์ โดยท่านซาดเคียว (Zadkiel)
และเลดี้อะเมทิสต์ (Lady Amethyst) ในปริมาณที่มากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ
เทพแห่งไฟสีม่วงทั้งสององค์นั้น กำลังขะมักเขม้นแผ่เปลวกระแสพลังแห่งการเปลี่ยนรูปแบบลงมาสู่โลก
และแผ่ตรงเข้าสู่สนามพลังของผู้ที่ร้องขอเปลวสีม่วงนั้น เพื่อความดีงามที่ยิ่งใหญ่กว่า

(ยังมีต่อครับ)
..........................................
<!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
<!--[endif]-->

 

สวัสดีค่ะ เพิ่งเคยเข้ากระทู้นี้
ก่อนอื่นขอขอบคุณสำหรับข้อมูล ความรู้ ที่นำมาแบ่งปันกันนะคะ ขอผลบุญจงสะท้อนกลับไปหาคุณ ผู้เพียรพยายามด้วยค่ะ ขออนุโมทนาด้วยค่ะ

 

ดิฉันสัญญาจะไม่โพสเรื่องนอกเรื่องจากกระทู้นี้ ขอโพสเกี่ยวกับกระทู้นี้ก็แล้วกัน

ดิฉันมีความสงสัยมานานแล้วคะแต่ไม่กล้าถาม บทความต่างๆในกระทู้นี้ผู้เขียนเขียนขึ้นเองหรือไปก็อปปี้มาจากที่อื่นคะ ถ้าไปเอามาจากที่เวปอื่นๆและหนังสืออื่นๆแล้วได้ขออนุญาติจากผู้แต่งและเจ้าของเวปมาสเตอร์แล้วหรือยังคะ ตามที่ดิฉันเข้าใจถ้าไปก็อปปี้มาเป็นบางส่วนมาอ้างอิงและประชาสัมพันหนังสือหรือบทความนั้นๆก็ไม่เป็นไรคะ แต่ถ้าก็อปปี้มาทั้งเล่มหรือหลายๆบทมันสุภาพไหมคะ มันผิดกฏหมายไหมคะ คึอดิฉันไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรเกี่ยวกับกฏหมายทางทรัพสินปัญญาหรือว่ากฏหมายลิขสิทย์ทางอินเตอร์เน็ต

คุณผู้เขียนและผู้แปลสื่อความหมายได้ตรงตามจุดประสงของผู้เขียนดั้งเดิมได้ดีเพียงไหนคะ คือดิฉันเข้าใจภาษาอังกิดได้บางส่วน ส่วนคำศัพย์ยากๆดิฉันแปลไม่ออกคะ ยอมรับว่าโง่คะ ก็เลยถามแบบคอนเฟิมว่าดิฉันจะสามารถเชื่อเนื้อความในกระทู้ได้เพียงไร ถ้าสื่อผิดออกมามันบาปไหมคะหรือว่าให้ผู้อ่านรับผิดชอบกันเอาเอง ดิฉันจะได้เผื่อใจเอาไว้

แล้วอีกอย่างคุณผู้เขียนและผู้แปลนับถือศาสนาอะไรกันคะ เพราะว่ามีเนื้อเรื่องพูดถึงพระเจ้าบ่อยๆในกระทู้นี้คะ สำหรับตัวดิฉันเป็นคริสเตียน พระเจ้าสูงสุดดิฉันเคารพรักและนับถือเช่นเดียวกับศาสนาพุทธที่ไม่ชอบให้ใครนำคำสอนมาบอกเล่าหรือมาเปรียบเทียบแบบเล่นๆหรือว่าเอาพระพุทธเจ้ามาเขียนเล่นๆเช่นกัน มันเป็นเรื่องอ่อนไหวมากๆคะ นึกถึงหัวอกเค้าหัวอกเรากันนะคะ

ถ้าไม่เป็นคริสเตียนและไม่นับถือหรือไม่เชื่อในพระเจ้าก็ไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ในการตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาทำไมแล้วเนื้อเรื่องภายในก็มีแต่เรื่องพระเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้องมากๆ เนื้อเรื่องในกระทู้นี้เกี่ยวกับของสูงหวังว่าไม่ใช่ตั้งขึ้นมาเล่นๆนะคะ

ถ้าเป็นคริสเตียนด้วยเหมือนกัน ไม่ทราบว่าได้เข้าถึงพระผู้เป็นเจ้าได้มากน้อยเพียงไหนอยากเรียนรู้ด้วยคนคะเพราะข้อความที่นำมาเสนอน่าสนใจและแปลกมาก

ดิฉันเพิ่งได้รับอีเมลย์ฉบับหนึ่ง มีข่าวว่ามีคนแอบโขมยก็อปปี้บทความที่แปลกันแล้วสร้างบล็อคส่วนตัวแล้วจะทำหนังสือขายกัน มันบาปและผิดกฎหมายไหมคะ ไม่ทราบต้นกำเนิดมาจากคนในนี้หรือผู้อ่านเพราะนี้เป็นเวปเปิดสาธารณะมีคนเข้ามาอ่านมากมาย จิตใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึงจริงๆคะ

ถ้าไม่ผิดกฏหมาย ศีลธรรม จรรยาบรรณ และสุภาพชน ก็เยี่ยมไปเลยคะถึงแม้ว่าดิฉันไม่เข้าใจและไม่เห็นด้วยบางข้อความและไม่ชอบที่นำพระเจ้ามาอ่านล่นเหมือนนิทานแต่บางข้อความทำให้ดิฉันได้เปิดความคิดใหม่ๆเกี่ยวกับจักรวาลและพระเจ้าสูงสุดที่ดิฉันเคารพบูชา

 

เอ่อ...Transformers of Light ไม่มีเหตุบังเอิญจริงๆนะนี่ โซ่เพิ่งพูดถึงเรื่อง transformer ไป กะหนังเรื่อง transformers และเมื่อคืนตอนอาบน้ำก็คิดถึงเรื่องที่รูปกายของมนุษย์มีหลายระดับและถ้ารวมทุกรูปกายของตนเองได้ จะเป็นยังไงต่อ โอ้ว..อะเมซซิ่ง *0*

 

Becoming a Cosmic Telepath - a message from Archangel Michael
มาเป็นนักโทรจิตแห่งจักรวาล – ข้อความจากท่านไมเคิล หัวหน้าทูตสวรรค์ (Archangel Michael)

ที่มา: International Spirit Guide - Spiritual Articles - Becoming a Cosmic Telepath - a message from Archangel Michael_Ronna Herman channelling Archangel Michael(38)


ผู้สื่อสารทางโทรจิต: ท่านไมเคิล หัวหน้าทูตสวรรค์ (Archangel Michael)
ผู้รับการสื่อสารทางโทรจิต: Ronna Herman
วันที่ : จันทร์, 30 พฤศจิกายน 2009
โพสต์โดย: Margaret Corrigan



ตอนที่ 2 / 3


ในปี 1991 และ 1992 เป็นปีมหัศจรรย์แห่งการเปลี่ยนรูปแบบของทั้งดาวเคราะห์โลกและของมนุษยชาติ
เปลวสีม่วง ได้แทรกซึมเข้าสู่สนามพลังออร่าของโลก และได้ทำให้คลื่นความถี่ด้านลบ
เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบไป ทำให้ “ไกอา” (Gaia – หรือไกย่า ในทางตำนาน
หมายถึงเทพแห่งดาวเคราะห์โลก, ในที่นี้หมายถึงดาวเคราะห์โลกเองเลยหละครับ – Chayutt)
สามารถรวบรวมพลังงานแสงสว่างแห่งพระผู้สร้าง ได้มากพอที่จะทำให้เริ่มสั่นสะเทือน
อยู่ในระดับคลื่นความถี่ของมิติที่ 4 ซึ่งนั่นจะช่วยให้เธอสามารถค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าสู่วงโคจรที่เหมาะสม
เพื่อเลื่อนระดับขึ้นไปสู่มิติที่ 5 ให้ได้ในที่สุด

มีหลายคนได้แปลความหมายเกี่ยวกับประตูมิติรหัส 11:11 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระหว่าง
วันที่ 11 กรกฎาคม 1991 และวันที่ 11 มกราคม 1992 ว่ามันหมายความว่าอย่างไร เกี่ยวข้องกับอะไร

รหัส 11:11 สามารถแปลความหมายว่า เป็นทางผ่านของอะไรบางอย่างก็ได้ ซึ่งก็เป็นสมมุติฐานที่ถูกต้องเหมือนกัน

ในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 เยื่อหุ้มของแสงสว่างที่ทำให้เกิดการกักกัน หรือวงล้อมห้ามผ่าน
ได้ถูกทำให้หายไปหมดแล้ว และพลังงานด้านลบมากมายในระนาบทิพย์หลายระนาบ
ได้ถูกเปลี่ยนสภานะและถูกทำให้มีคุณสมบัติใหม่

ตั้งแต่นั้นมา มนุษยชาติจึงได้รับมอบวิถีทาง เพื่อเข้าถึงข้อมูลข่าวสารแห่งจักรวาลอีกครั้งหนึ่ง
และสามารถมีปฏิสัมพันธ์ และติดต่อสื่อสารกับรูปธรรมชีวิตทรงภูมิปัญญาชั้นสูงกว่าจากต่างมิติได้
มนุษย์หลายคนบนโลก ที่ได้เยียวยารักษา และเปลี่ยนแปลงแบบแผนการสั่นสะเทือนด้านลบของตนเองเสียใหม่
ทำให้สัญลักษณ์ทางพลังงานของพวกเขา เริ่มสอดประสานเข้ากันได้กับคลื่นความสั่นสะเทือนที่กลมกลืนกัน
ของระดับพลังงานย่อยๆที่สูงขึ้นๆ ในมิติที่ 4 และเพราะเหตุนี้ ชีวิตของพวกเขาจึงเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด

มนุษย์หลายล้านคน ได้หลุดออกมาจากวงล้อแห่งกรรมของตนเอง และเข้าสู่สภาวะแห่งความดีงาม
และเริ่มต้นค้นหา และเดินบนเส้นทางสู่การรู้แจ้งอย่างเอาจริงเอาจัง และช่วงเวลานี้
ยังเป็นช่วงเวลาที่หลายคน ที่เคยทำพันธะสัญญาเอาไว้ก่อนมาถือกำเนิดบนโลกใบนี้
ว่าจะมาเป็นร่างสื่อหรือผู้นำสารให้กับจิตวิญญาณชั้นสูงทั้งหลาย ได้ถูกเรียกตัวมาใช้งาน
ให้มาทำภารกิจศักดิ์สิทธิ์ของตัวเอง

อันที่จริงแล้ว มันก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันนั่นแหละ คือ วันที่ 11 มกราคม 1992
ที่ผม ได้เริ่มติดต่อกับผู้นำสารอันเป็นที่รักของผม เป็นครั้งแรก ซึ่งในภพชาตินี้เธอมีชื่อเรียกว่า Ronna Herman
พวกเราได้เป็นเพื่อนร่วมงานกันตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา และเธอก็ได้อุทิศชีวิตของเธอ
เพื่อภารกิจทางจิตวิญญาณนี้ของเธออย่างแน่วแน่

เธอและคนอื่นๆ ผู้ที่ได้อุทิศตนแล้วอีกมากมายทั่วโลก ได้ทำหน้าที่เป็นแรงบันดาลใจ
และเป็นตัวอย่างหนึ่งของแสงที่เปล่งประกาย ให้แก่มวลหมู่มนุษย์ชาติ
ทุกๆปีนับตั้งแต่ประตูมิติรหัส 11:11 ได้ถูกเปิดขึ้นเป็นครั้งแรก ประตูทางผ่านพิเศษรหัส 11:11 นี้
ก็จะถูกเปิดขึ้นอีกครั้งเป็นเวลาสั้นๆ เพื่อให้คุรุผู้รู้แจ้งและรูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่างทั้งหลาย
สามารถติดต่อกับผู้ที่ได้บรรลุแบบแผนแห่งการสั่นสะเทือนอย่างกลมกลืนถึงระดับที่ต้องการแล้ว
เพื่อให้พวกเขาได้สามารถเริ่มต้นสื่อสารกับผู้นำทาง ครูบาอาจารย์ และญาติมิตรจากสรวงสวรรค์ได้
และบางที พวกเขาอาจจะกลายเป็นผู้นำสารอีกคนหนึ่งด้วยก็ได้ และพวกเราอยากให้คุณใจเย็นๆ
และจะช่วยให้คุณเข้าใจว่า อะไรกำลังเกิดขึ้นอยู่ และพวกเรากำลังขอให้คุณทำอะไร

มันเป็นพรสวรรค์ที่ดีเยี่ยม เปี่ยมด้วยความรัก และมันไม่มีอะไรจะต้องกลัว เพราะว่า
พวกคุณแค่นำส่วนหนึ่งของ “สภาวะตามธรรมชาติของความเป็นคุณ” กลับมาใช้ใหม่เท่านั้นเอง

การสื่อสารกับรูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่าง เป็นขั้นตอนแห่งวิวัฒนาการที่สำคัญมากสำหรับมนุษย์อย่างพวกคุณ
เพราะว่ามันจะช่วยให้เข้าถึงความตระหนักรู้ในจิตสำนึกใหม่ และการเปลี่ยนรูปแบบที่ทรงพลัง
ภายในตัวคุณได้อย่างรวดเร็ว

ที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด คือ คุณจะได้สื่อสารเป็นครั้งแรกและได้เรียนรู้ที่จะมีปฏิสัมพันธ์/สื่อสาร
กับผู้นำทางส่วนตัวของคุณ (ผู้นำทางนี่ ในทางพุทธเรา ผมว่าน่าจะเป็น เทวดาประจำตัวนะครับ – Chayutt)
หรือบางครั้ง ครูบาอาจารย์ของคุณ อาจจะเริ่มทำการสื่อกับคุณเร็วขึ้นก็ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณ ได้ทำพันธะสัญญากับรูปธรรมใดรูปหนึ่งเอาไว้ ก่อนการมาถือกำเนิดในภพชาตินี้ก่อนแล้ว

พวกคุณไม่เคยมีโอกาสแบบนี้มาก่อน ที่จะได้ทำเพื่อมนุษยชาติ และพระผู้สร้าง
พวกคุณกำลังอยู่ที่ทางแยก ของกระบวนการวิวัฒนาการของพวกคุณ
เพราะว่าโลกในแบบที่พวกคุณเคยรู้จัก มันกำลังค่อยๆลางเลือนหายไป

ในฐานะที่พวกคุณแต่ละคน เป็นประกายไฟอันศักดิ์สิทธิ์ประกายหนึ่งของพระผู้สร้าง
พวกคุณได้รับมอบของขวัญอันยิ่งใหญ่ พวกคุณได้รับมอบหีบสมบัติแห่งแก่นแท้ของพระผู้สร้าง
เพื่อนำมันไปใช้ทำอะไรก็ได้เท่าที่พวกคุณปรารถนา

พวกคุณเริ่มต้นภพชาตินี้ ด้วยส่วนหนึ่งของอนุภาคอะดามันไตน์แห่งแสงสว่าง
ที่ถูกเก็บอยู่ในหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณ และที่เก็บสำรองไว้อย่างมิดชิดอยู่ภายในจักระที่ 1 ของพวกคุณ

มันคืออะตอมต้นกำเนิดแห่งไฟศักดิ์สิทธิ์ หรือบางทีเรียกว่า “กุณฑลิณี” และมักจะถูกบรรยายออกมา
ในลักษณะของงูที่ขดเป็นเกลียว

พวกคุณได้เข้าถึงไฟศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกเก็บอยู่ในหัวใจของพวกคุณ มาอย่างสม่ำเสมอ และนานมาแล้ว จนกระทั่งบัดนี้
แต่อย่างไรก็ตาม พวกคุณจำเป็นต้องจดจำให้ได้ก่อนว่า จะใช้ “กุญแจสู่อาณาจักรนั้น”
ของพวกคุณอย่างไร เพื่อที่จะจุดขุมพลังแห่งแสงสว่างศักดิ์สิทธิ์นี้ ขึ้นมาใช้ให้ได้อย่างมีประสิทธิผล

แต่กุณฑลิณีหรืองูไฟนี้ เป็นอะไรที่แตกต่างออกไป เพราะว่าพวกคุณจะต้องขจัด 51% ของพลังงานที่ผิดรูปร่าง
ที่พวกคุณได้สร้างสมมันขึ้นมาตั้งแต่อดีต ออกไปให้ได้ก่อน เพื่อที่จะให้ “ภาชนะบรรจุ” พลังนี้
เป็นที่บรรจุพลังงานแสงสว่างเต็มสเป็กตรัมแห่งเมตาตรอน (Metatronic Full Spectrum Light) แทน
รูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่างผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย ได้ช่วยแบกรับภาระของดาวเคราะห์โลก
และมนุษย์โลกมานานนับล้านๆปีแล้ว ถึงกระนั้นก็ตาม ตอนนี้ มันเป็นเวลาที่มนุษย์โลก จะต้องก้าวออกมาข้างหน้า
และยอมรับภาระ ในหน้าที่ความรับผิดชอบของตัวเองไปเสีย

พวกคุณจะต้องเริ่มเข้าให้ถึง ใช้ให้เป็น และรู้จักแบ่งปันแสงสว่างอันศักดิ์สิทธิ์
ที่พวกคุณถูกสร้างมาให้มีความสามารถโดยธรรมชาตินั้นๆอยู่แล้ว

มันจะต้องมีการแลกเปลี่ยนพลังงานอย่างใดอย่างหนึ่งเสมอ มันเป็นกฎของจักรวาล

เวลาสำหรับมนุษยชาติ ที่จะวิวัฒน์ไปสู่ความเป็นผู้บรรลุนิติภาวะทางจิตวิญญาณได้มาถึงแล้ว
และเวลาที่มนุษย์จะต้องยอมรับเอา ภาระหน้าที่ความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นรูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่าง
แห่งจิตสำนึกของพระผู้เป็นเจ้าได้มาถึงแล้ว

พวกเราได้สนับสนุนให้ผู้นำสารของพวกเรา ให้ความช่วยเหลือพวกคุณ ในการขจัดสิ่งกีดขวางทั้งหลาย
และช่วยเปิดช่องทางเพื่อการติดต่อสื่อสารทั้งหลาย ตามความสะดวก และความกรุณาของพวกเขาเอง

(ยังมีต่อครับ)
....................................................

<!--[if !supportLineBreakNewLine]--> <!--[endif]-->

 

Becoming a Cosmic Telepath - a message from Archangel Michael
มาเป็นนักโทรจิตแห่งจักรวาล – ข้อความจากท่านไมเคิล หัวหน้าทูตสวรรค์ (Archangel Michael)

ที่มา: International Spirit Guide - Spiritual Articles - Becoming a Cosmic Telepath - a message from Archangel Michael_Ronna Herman channelling Archangel Michael(38)


ผู้สื่อสารทางโทรจิต: ท่านไมเคิล หัวหน้าทูตสวรรค์ (Archangel Michael)
ผู้รับการสื่อสารทางโทรจิต: Ronna Herman
วันที่ : จันทร์, 30 พฤศจิกายน 2009
โพสต์โดย: Margaret Corrigan



ตอนที่ 3 / 3

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg">
</o:smarttagtype><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> Opening to Channel
การเปิดช่องการสื่อสารทางโทรจิต


*คำแนะนำเพื่อช่วยเหลือพวกคุณ ให้สามารถติดต่อสื่อสารกับตัวตนที่สูงส่งกว่า (Higher self)
หรือผู้ชี้นำทางจิตวิญญาณทั้งหลาย (Spiritual Guides) และเทวดาประจำตัวทั้งหลาย(Angelic Helpers) ของพวกคุณเองได้


การสื่อสารทางโทรจิต หรือ การสื่อสารทางจิต คือการติดต่อสื่อสารโดยปราศจากคำพูด
หรือคือการถ่ายทอดกระแสความคิดจากจิตสู่จิต ด้วยวิธีที่นอกเหนือจากการรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5

ซึ่งคุณจะสามารถเข้าถึงได้ เฉพาะแต่สิ่งที่มีระดับการสั่นสะเทือนที่เข้ากันได้กับคุณ
และสัญญลักษณ์ทางพลังงาน (Energetic Signature) ของคุณเท่านั้น

นั่นแหละจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมมันจึงจำเป็นมาก ที่จะต้องเข้าไปสู่กระบวนการชำระ/กระบวนการล้างเสียก่อน
เพราะว่าจะได้เกิดความสมดุล และความสอดคล้องกลมกลืนมากขึ้น กับสภาวะของกายละเอียด? (mental body)
และกายทิพย์? (emotional body) ของคุณ

บางช่วงขณะและช่วงระหว่างการเปลี่ยนรูปแบบ จากยุคหนึ่งไปสู่อีกยุคหนึ่ง
กฎของจักรวาลได้อนุญาตให้คุรุผู้รู้แจ้งทั้งหลาย, รูปธรรมชีวิตต่างมิติชั้นสูงจากสรวงสวรรค์ทั้งหลาย,
และจิตวิญญาณชั้นสูงทั้งหลาย ให้สามารถผ่าน “เครื่องพราง” และติดต่อสื่อสารกับมนุษย์โลกผู้ที่ “ตื่นแล้ว” ได้

คุณต้องแสดงเจตจำนงของคุณ และความปรารถนาของคุณว่า คุณต้องการติดต่อกับรูปธรรมชีวิตชั้นสูงเหล่านี้
เพราะว่าพวกท่านเหล่านี้ จะไม่ยอมละเมิดความมีอิสระแห่งความปรารถนาของพวกคุณ

เมื่อคุณจดจ่อความสนใจไปที่คุรุทางจิตวิญญาณ, เทพ เทวดา หรือ รูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่างรูปธรรมใด
พวกท่านจะรับรู้ถึงความความคิดของคุณในทันที และจะตอบสนองคุณ

ยิ่งคุณมีความปรารถนาที่แรงกล้า จริงใจ และมั่นคงมากเท่าใด
พวกท่านเหล่านั้น ก็จะยิ่งมอบความเรืองรองสว่างไสว มาให้คุณมากเท่านั้นด้วย

เทพผู้นำทาง, ผู้นำทางจิตวิญญาณ และครูบาอาจารย์ของพวกคุณ จะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะช่วยเหลือพวกคุณ
เพื่อให้พวกคุณได้รับคลื่นความถี่แห่งสติปัญญาที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่งยวดในช่วงเวลานี้

พวกท่านจะพยายามเพิ่มความสนใจของพวกคุณ โดยการเพิ่มความเข้มข้นของแสงสว่าง
ภายในศูนย์กลางพลังงานแห่งสุริยะ และภายในจิตใจของพวกคุณในท้ายที่สุด

พวกคุณได้รอคอยมาเป็นเวลาหลายทศวรรษแล้ว เพื่อที่จะได้รับการเชื้อเชิญให้ติดต่อสื่อสารอย่างมีสติสัมปชัญญะ
กับคุรุผู้รู้แจ้งทั้งหลาย และกับเทพเทวาทั้งหลาย และพวกท่านทั้งหลายเหล่านั้นเอง
ก็ได้เฝ้าอดทนรอคอยช่วงเวลานี้อยู่เช่นกัน


นี่คือบางส่วนของวิธีการที่จะช่วยเร่งกระบวนการแห่งเป็นผู้นำสารที่ชัดเจน และเชี่ยวชาญ


-ในแต่ละภพชาติ ทุกๆคนมีเทพผู้นำทาง (เทวดาประจำตัว – Chayutt) อย่างน้อย 1 องค์อยู่แล้ว
และบางครั้ง ก็อาจจะมีมากกว่า 1 องค์

เทพผู้นำทางของคุณ จะเปลี่ยนไปได้ ขึ้นอยู่กับระดับพัฒนาการสู่มิติหลากระดับ (multi-level dimensions)
ของคุณเองในช่วงนั้นๆ

- คุณต้องสามารถ “ยกระดับจิตสำนึกของคุณ” ให้สูงขึ้น จนถึงระดับที่สามารถเข้ากันได้
กับเทพผู้นำทาง และครูบาอาจารย์ทั้งหลายของคุณ และพวกท่านทั้งหลายเหล่านั้นเอง
ก็จะพยายามลดระดับความถี่ของพวกท่านเองลงมา เพื่อให้อยู่ในระดับที่สามารถประสานเข้ากันได้กับของคุณด้วย


- คุณต้องเรียนรู้ที่จะตั้งจิตให้เป็นสมาธิ และจดจ่อความสนใจของคุณ

- คุณต้องเรียนรู้ที่จะทำใจให้นิ่งและทำจิตให้ว่างไม่คิดอะไรเลย เพื่อให้คุณสามารถรับกระแสจิต
จากเทพผู้นำทางและครูบาอาจารย์ของคุณได้

- มันต้องมีความเห็นชอบระหว่างวิญญาณของคุณ / ตัวตนที่สูงส่งกว่าของคุณ (your Soul / Higher Self)
กับรูปธรรมชีวิตใดๆที่คุณจะสื่อสารด้วยก่อน

- รูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่างทั้งหลาย จะไม่มีวันละเมิดความมีอิสระแห่งความปรารถนาของคุณโดยเด็ดขาด

- การสื่อสารทางโทรจิต จะทำให้เกิดสัมผัสแห่งความตระหนักรู้ที่ยิ่งใหญ่ขึ้น

- การสื่อสารทางโทรจิต คือทางลัดทางหนึ่ง ของการเจริญเติบโตทางด้านจิตวิญญาณ

- ผู้ชี้นำทางทั้งหลายของคุณ จะไม่เฉลยข้อสอบในบทเรียนของคุณ ให้กับคุณ

แต่อย่างไรก็ตาม พวกท่านจะให้ทางเลือกแก่คุณ และบางที ก็อาจจะให้มุมมองที่กว้างขวางมากขึ้น
เกี่ยวกับสถานการณ์นั้นๆแก่คุณ

- ผู้ชี้นำทางทั้งหลายของคุณ จะไม่พยากรณ์อนาคตให้แก่คุณ เพื่อให้คุณได้มีความอิสระแห่งความปรารถนา
และเพราะว่ามันมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องอยู่มากมายเหลือเกิน

แต่อย่างไรก็ตาม พวกท่านก็อาจจะชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้มากที่สุดในอนาคต
บนพื้นฐานของสถานการณ์ที่มีอยู่นี้ ให้คุณก็ได้ และอาจช่วยคุณเลือกทางที่ดีที่สุด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยก็ได้

- พวกเราจะทำให้การตัดสินใจของพวกคุณมีพลังมากขึ้น พวกเราจะดลใจพวกคุณ
และทำให้จิตใจของพวกคุณไหม้ด้วยไฟศักดิ์สิทธิ์แห่งพระผู้สร้าง เมื่อพวกคุณเดินข้ามเส้นทางแห่งมายานี้แล้ว


จงรู้ว่า มีแสงสว่างและคำอวยพรมากมายเหลือคณานับ ที่กำลังแผ่ส่งลงมาถึงพวกคุณแต่ละคนอยู่ชั่วนิรันดร์
ส่งตรงลงมาจากหัวใจของพระผู้เป็นเจ้า ผู้เป็นบิดา/มารดาของพวกเรา



ผมคือไมเคิล หัวหน้าฑูตสวร

...............................................

 

พออ่านมาถึงช่วงที่ 3/3 ของข้อความล่าสุดนี้แล้ว

ใครมีความรู้สึกปิติ และวูบๆวาบๆแบบผมบ้างไหม๊ครับ

ไม่รู้เป็นยังไง พอพูดถึงผู้ที่คอยช่วยเหลือพวกเราอยู่ในมิติอื่นๆแล้วนี่
มันจะรู้สึกตื้นตันขึ้นมาทันที มันจะสัมผัสได้ถึงความรัก ความเมตตา
ที่หลั่งไหลพรั่งพรู เข้ามาสู่ความรู้สึกของเราเอง อะไรแบบนั้นแหละ

แต่ก่อนก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เป็นแบบนี้มาซัก 2 ปีได้แล้วครับ

.......................................

 

<table id="post2197363" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">19-06-2009, 11:18 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> 1 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Chayutt<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2197363", true); </script>
ผู้สนับสนุนบริจาค



วันที่สมัคร: Aug 2005
สถานที่: Vietnam
อายุ: 37
ข้อความ: 2,527
พลังการให้คะแนน: 2237


</td> <td class="alt1" id="td_post_2197363" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <center><!-- google_ad_section_start -->การเตรียมการอพยพมนุษย์โลก เพื่อช่วยเหลือระหว่างการชำระโลก ของมิตรจากต่างพิภพ และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก<!-- google_ad_section_end -->

</center>
<hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start -->เนื้อหาและภาพประกอบเกือบทั้งหมดในกระทู้นี้ ผมได้มาจากเวปไซท์
www.universe-people.com
<o></o>

(obr2638x)
<o></o>
แต่ก็มีบางภาพที่ผมนำมาจากแหล่งอื่นใน Internet
<o></o>
ผมเองก็เพิ่งได้ตั้งใจอ่านและแปลให้ท่านได้อ่านด้วย ก็ไม่กี่วันมานี้เอง
ดังนั้น ผมก็ยังไม่ค่อยรู้อะไรมากนักเช่นเดียวกันครับ
ด้วยความที่อ่านไป แปลไป พิมพ์ไป เลยแทบจะเรียกได้ว่าผมเองก็รู้พร้อมๆกับท่านนี่แหละครับ
ดังนั้น หากท่านสงสัยสิ่งใด ผมเองก็สงสัยเหมือนกับท่านหนะแหละครับ
<o></o>
และอีกอย่างหนึ่ง การที่เนื้อหาทั้งหมดนี้ มาจากประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์
มันก็เลยมีเรื่องของพระเจ้า,พระผู้สร้าง และพระเยซูคริสต์มาเกี่ยวข้องด้วยตลอด
<o></o>
และก็แน่นอนว่า..พวกเราชาวพุทธทั้งหลาย ไม่มีนโยบายที่จะเชื่อเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่นัก
<o></o>
...ไม่ยกเว้นแม้แต่ผมเองด้วย...
<o></o>
ดังนั้น หวังว่าท่านคงจะมีสติในการอ่านเพียงพอ..
ที่จะไม่ทำให้ตัวอักษรเหล่านี้ มาทำร้ายความเป็นผู้ทรงศีลทรงธรรมของท่านได้นะครับ
<o></o>
ส่วนไหนที่ไม่เชื่อ..อ่านแล้ว..รู้แล้ว..ก็วางมันลงซะ
อย่ายอมให้มันมาเป็นเหตุให้ท่านผลิตกระแสพลังงานความคิด
ที่มีการระดับการสั่นสะเทือนในด้านลบออกมาอย่างเด็ดขาด
<o></o>
เพราะนั่นหมายถึงท่านสอบตกแล้วหละครับ<o></o>
</td></tr></tbody></table>

 

ถ้าไม่ใช้อคติเป็นที่ตั้ง
ใจก็จะเปิดกว่านี้นะครับ

กระทู้นี้ หรือกระทู้ใดๆที่ผมตั้งขึ้นมา
ไม่มีเลย ที่ผมจะไม่ให้ความกระจ่างอะไรไว้ก่อน

และกติกามารยาทของการ "โค้ต" ข้อความมาจากเวปไซท์อื่น
หรือแหล่งอ้างอิงอื่น ก็คือ การบอกแหล่งที่มาไว้ให้ชัดเจน
เพื่อให้เครดิตเจ้าของเรื่องหนะครับ ซึ่งผมก็ทำอยู่แล้ว ทำมาตลอด

คำถามของคุณ ก็ได้คำตอบแล้วนะครับ
และก็อย่าลืมโยนอคติทิ้งไปก่อนอ่านกระทู้นี้ด้วยนะครับ

ส่วนตัวผมเอง อาจจะพูดตรงไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้โกรธ เกลียดอะไรคุณ
เพราะเราก็ยังอยู่บนเส้นทางแห่งการพัฒนาจิตวิญญาณด้วยกันทั้งคู่

มีสิ่งเดียวที่เป็นสาเหตุของความมีอคติของคุณ ก็คือ TVI เพราะฉะนั้น ยอมรับมันซะ
แล้วก็โยนมันทิ้งไปซะนะครับ เพราะกระทู้นี้ เราจะไม่พูดเรื่อง TVI กันอีกแล้ว

ดีไหม๊ครับ...

...................................

 

ไม่ค่อยได้วูบๆวาบๆอ่ะค่ะ แต่รู้สึกตื้นตันและซาบซึ้งมากกว่า กับการที่เต็มไปด้วยความรัก ความหวังดี และความเข้าใจซึ่งกันและกัน ตั้งแต่อ่าน 1/3 ก็รื้นๆแล้วค่ะ จะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่สัมผัสได้ถึงความดีที่แท้จริงที่ยังดำรงอยู่ในโลกนี้ *0*

เรื่องไฟศักดิ์สิทธิ์ อืม...น่าคิดนะคะ จนป่านนี้โซ่ก็แปลสัญญลักษณ์ภาพดวงไฟทรงพลังมหึมาที่เห็นไม่ค่อยออกเท่าไหร่ และทำให้ได้อ่านเรื่องการยอมรับและการปฏิเสธของท่านโนวา จากคุณเดรด และบทนั้นก็อยู่ในหนังสือ และหนังสือเล่มนั้นก็ชื่อว่า "อิสระแห่งความปรารถนา" ไม่บังเอิญกระมังคะ แบบนี้ 555 *0*

 

ถึง คุณ Spirit of Light และท่านที่เกี่ยวข้อง

ขออนุญาตคุณชยุตใช้พื้นที่สื่อข้อความ และหลังจากนั้นก็ขอให้เป็นดุลยพินิจของคุณชยุตในฐานะเจ้าของกระทู้
เรื่องที่ดิฉันอยากอธิบายคุณโดยตรงมี 2 ประเด็นด้วยกันค่ะ

1. เรื่องการนำข้อความจากเวปอื่นมาโพสท์ มาแปล

ประการแรกคือดังที่คุณกล่าวมา
"ดิฉันมีความสงสัยมานานแล้วคะแต่ไม่กล้าถาม บทความต่างๆในกระทู้นี้ผู้เขียนเขียนขึ้นเองหรือไปก็อปปี้มาจากที่อื่นคะ ถ้าไปเอามาจากที่เวปอื่นๆและหนังสืออื่นๆแล้วได้ขออนุญาติจากผู้แต่งและเจ้าของเวปมาสเตอร์แล้วหรือยังคะ ตามที่ดิฉันเข้าใจถ้าไปก็อปปี้มาเป็นบางส่วนมาอ้างอิงและประชาสัมพันหนังสือหรือบทความนั้นๆก็ไม่เป็นไรคะ แต่ถ้าก็อปปี้มาทั้งเล่มหรือหลายๆบทมันสุภาพไหมคะ มันผิดกฏหมายไหมคะ คึอดิฉันไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรเกี่ยวกับกฏหมายทางทรัพสินปัญญาหรือว่ากฏหมายลิขสิทย์ทางอินเตอร์เน็ต"

ตรงนี้มี 2 เรื่อง การก็อปปี้มาบางส่วนกับการก๊อปมาทั้งหมด และกฏหมายลิขสิทธิ์

ดิฉันเห็นด้วยนะคะว่าการนำข้อความบางส่วนมาแปล อาจสุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฏหมายลิขสิทธิ์ได้ แต่หากว่าผู้นำข้อความมาไม่ได้มีเจตนาจะหลอกลวงกล่าวอ้างว่าเป็นผู้เขียนข้อความนั้นขึ้นมาเอง และยังกรุณาลงลิงค์ถึงผู้เขียนหรือเวบไซต์ที่มานั้นดูจะน่ายกย่องกว่าการโจรกรรมความคิดข้อเขียนผู้อื่นมาทั้งดุ้นแล้วยังกล่าวอ้างว่าเป็นผู้คิดค้นและเขียนเองด้วยซ้ำ แบบนั้นน่าละอายใจและอดสูยิ่งกว่า ว่าไหมคะ

ดิฉันดีใจและแปลกใจมากที่คุณ Spirit มองเห็นประเด็นตรงนี้เพราะก่อนหน้านี้ไม่นานก็มีเหตุการณ์แบบที่คุณว่าเปี๊ยบเลยค่ะ ที่น่าละอายใจกว่านั้นคือผู้นำมาโพสต์กลับกล่าวอ้างว่าตนเป็นผู้เขียนข้อความนั้นทั้งหมดนี่สิคะ ทำแบบนี้ไม่แมนเลยค่ะ ไม่แมนจริงๆ

ดิฉันขออนุญาตยกตัวอย่างกระทู้ๆหนึ่งที่มีการโพสต์ลงอย่างต่อเนื่อง สร้างสีสันความน่าเชื่อถือต่อผู้โพสต์เป็นอย่างยิ่งจนถึงขั้นมีการหลงใหลได้ปลื้มติดตามผู้โพสต์และยกย่องต่างๆนานา บางคนถึงกับทำตนเป็นสาวกที่คอยปกป้องผู้โพสต์ถึงขั้นที่ใครไม่เห็นด้วยกับคนโพสต์ก็จะถูกต่อว่าหรือหนักเข้าถึงขั้นสาปแช่งก็มี ดูสิคะ คุณSpirit เป็นแบบนี้ก็มีด้วย

ถ้าคุณspirit of light อ่านมานานอย่างที่ว่าคงจะนึกถึงกระทู้ที่ดิฉันพูดถึงได้ ในกระทู้นั้นสุดท้ายเมื่อความจริงปรากฏขึ้นแบบเงียบๆ เพราะผู้คนในกลุ่มบางคนได้พบเจอว่านี่คือโจรกรรมวรรณกรรม คนที่ได้สติก็เริ่มถอยห่าง แต่พวกเขาช่างมีมารยาทเหลือเกินที่ไม่เปิดโปงแล้วสร้างความเสื่อมเสียให้กับผู้โพสต์ พูดง่ายๆก็รักษาหน้าให้นั่นละ เพราะคิดว่าหมดแค่นั้นก็คงจบ


ที่ไหนได้คะ กลับมีไตรภาคขึ้นมาอีก แต่ในที่สุดความจริงเป็นนิรันดร์เสมอค่ะ ผู้โพสต์ก็ลบแล้วเงียบหายไป อ้างโน่นนี่ แล้วถึงขั้นทำอย่างที่คุณว่าเลยละค่ะคือแอบไปเปิดบล๊อกส่วนตัวเพื่อสร้างกระแสต่อให้เหล่าผู้ติดตามอยู่ ส่วนถึงขั้นเขียนเป็นหนังสือไหมดิฉันไม่แน่ใจ เพราะให้พูดกันจริงๆแบบไม่เกรงใจก็คงต้องบอกว่า ภาษายังไม่เข้าท่าเท่าไหร่นัก เอาละตรงนั้นฝึกฝนกันได้แต่สิ่งที่ท่านผู้นั้นยังต้องฝึกคือฝึกใจให้ยอมรับความคิดเห็นที่ต่างแยก ตรงนี้ดิฉันยังหมายรวมไปถึงบรรดาผู้ติดตามที่ยังอาละวาดแง่งอนโวยวายเล็กน้อยด้วยนะคะนิดหน่อยก็พอน่ารักขำๆ มากไปก็...


อย่างนี้คุณspirit น่าจะติดตามทวงถามดูนะคะว่าเขาได้จ่ายค่าลิขสิทธิ์หรือทำผิด พรบ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ ถ้าจะเอาหลักฐานดิฉันก็เก็บข้อเขียนรวมถึงเมล์ทุกอย่างไว้ด้วยค่ะหรือไม่ก็ส่งเรื่องไปฟ้องที่เวบนั้นเลยดิฉันมีเวบต้นทางด้วยนะเออ ดีเหมือนกันเอามาดูกันไปเลยว่าใครกันนะที่ทำเรื่องน่าอายแบบนี้ เจ้าของเขาก็คงขอบคุณคุณละ เพราะความคิดที่จะเขียนขึ้นมาได้มันต้องกลั่นกรองจะมาตู่เอาง่ายๆได้อย่างไรละ จริงไหม


ที่ดิฉันพูดแบบนี้ได้คือหนึ่ง ดิฉันมีอาชีพเป็นนักเขียนเช่นกันค่ะ วันดีคืนดีก็เห็นข้อความของตัวเองอยู่ในบล็อกคนนั้นคนนี้ก็ตกใจแต่พอดูก็น่าชื่นใจที่เขายังมีแก่ใจใส่ชื่อดิฉันลงไป ต่างกับเคสเมื่อครู่นี้มากเลย


2.ที่คุณกลัวว่าการแปลจะผิดจากที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อ

ทีนี้มามองดูส่วนที่คุณชยุตแปล ดิฉันในฐานะนักภาษาศาสตร์ผู้หนึ่ง คือใช้ภาษาหากิน สองจบอักษรศาสตร์ ตรี โท(ขอคั่นโฆษณานิดค่ะ เผื่อขายออก อิอิ) น่าจะมีความสามารถทางภาษาระดับหนึ่งอยู่ว่าไหมคะ ดิฉันยอมรับฝีมือการแปลของคุณชยุตมากตรงนี้ ส่วนข้อกังวลของคุณที่ว่าคุณชยุตจะสื่อได้เท่ากับเจ้าของข้อความนั้นไหม ตรงนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่คนอ่านตัดสินเถิดค่ะ เราสองคนมือไม่พาย ไม่ช่วยเขาแปล 300 หน้าแล้วอย่าเอาเท้าไปราน้ำเลยค่ะ คนอื่นที่เขาอยากอ่านจะสาปแช่งเราเอาว่าเจือก อุ้ย ขอโทษค่ะ คนอื่นเขาจะว่าเรามารความรู้เอาเปล่าๆ เหมือนกับที่ก่อนหน้านี้ดิฉันก็ไม่กล้าเอ่ยปากนั่นละค่ะว่า คุณคนนั้นขโมยวรรณกรรมเพราะกลัวไปขัดขวางเส้นทางจิตวิญญาณคนอื่น เราไม่ชอบแบบนี้ก็ไปที่ๆเราชอบ ที่ชอบๆดีกว่าเนอะ

นอกจากนั้นที่สำคัญดิฉันนับถื้อนับถือความแมนคุณชยุตที่คอยบอกว่าไปเอามาจากไหนมาโพสต์ ไม่ใช่ทำเอ๋อๆเหลอๆว่าตัวเขียนเองซะหน่อย อีกทั้งเอาภาษาอังกฤษมาลงให้อ่านด้วย ใครใคร่อ่านภาษาต่างด้าวอ่านไป ใครอยากอ่านไทยก็เอาเลย แหมม ขอบคุณจริงๆนะคะที่กรุณาเปิดทางสว่างจิตให้ดิฉันและผองเพื่อนในนี้ คุณ spirit ลองดูสิคะว่าคนแบบนี้น่ายกย่องกว่าคนที่วันๆเอาแต่จิกกัดคนอื่นตั้งเยอะนะ ไหนๆเวบนี้ก็มีคุณชยุตคนเดียว เราก็เอาใจไว้ดีกว่า ให้เขาแปลอะไรๆมาให้อ่านดีกว่าเนอะ

เดี๋ยวดีไม่ดีคุณชยุตแกเกิดงอน ไม่แมนแล้วปิดกระทู้หนีไปอีก ดิฉันกับเพื่อนๆก็ไม่มีอะไรอ่านสิคะ

ทั้งหมดนี้คือเรื่องเล่าสู่กันฟังและความรักที่ดิฉันส่งต่อถึงคุณ spirit นะ ในฐานะจิตวิญญาณหญิงด้วยกัน อย่าไปคิดเรื่องใครเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายแสงเสิงไรเลยค่ะ ก้มดูตัวเราดีกว่าว่าวันนี้เราได้ทำดีกว่าเมื่อวานรึยัง

มารยาททางสังคมในการอยู่ร่วมกันในคนหมู่มากคือรู้จักยอมรับความคิดเห็นผู้อื่น รวมถึงคิดดี พูดดี เหล่านี้เป็นสมบัติผู้ดีผู้เจริญที่ค่อยๆพูดกันด้วยเหตุด้วยผลว่าไหมคะ ดิฉันเลยคิดดีต่อคุณเสมอแต่หากว่าข้อเขียนดิฉันล่วงละเมิดคุณหรือผู้ใด ดิฉันก็ขอโทษด้วยนะคะ

รักทุกคนค่ะ

 

เคยช่วยคุณชยุตแปลอยู่นิดหน่อย การแปลต้องใช้ทั้งเวลา ความทุ่มเท และการขัดเกลา อย่างมากมาย ผู้ที่ช่วยกันแปลทุกคน ทราบตรงส่วนนี้ดี

หากไม่มีการเสียสละ และทำจากแรงบันดาลใจ ยากที่งานจะสำเร็จออกมาได้ครับ

เป็นกำลังใจให้คุณชยุตนะครับ ที่เสียสละเวลา แปลข้อความดีๆมาให้อ่านกัน

เห็นด้วยกับคุณริสานะครับ ในเรื่องฝีมือการแปลของคุณชยุต ผู้อ่านหลายๆท่านในที่นี้ ที่ติดตามมาตลอด คงประจักษ์ถึงความลื่นไหลได้เป็นอย่างดี
:cool:

 

มาให้กำลังใจ และขอบคุณ คุณชยุต ที่สร้างกระทู้นี้ขึ้นมา

และ ขอส่งความรัก แด่ทุกๆท่านด้วยค่ะ

Love You All​

 

ขออนุญาติบอกความในใจตรงนี้ค่ะว่า
คุณชยุตเป็นแรงบันดาลใจ ให้เราอยากแปลอีก (เคยช่วยแปลนิดนึง)
เพราะว่าเรามีเพื่อนที่ภาษาอังกฤษ ไม่แข็งแรง แต่ใฝ่หาอยากเรียนรู้
เขาขอบคุณเรามาก แค่คนคนเดียวที่อ่านงานแปลเรา ยังทำให้เราปลื้มขนาดนี้
นึกไม่ออกเลยว่า คุณชยุต จะปลื้มขนาดไหน กับสิ่งที่คุณชยุตได้เพียรทำไว้
ขอขอบคุณ คุณชยุต ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณเพื่อนร่วมทีมแปลด้วยจ้าาาาาาาา

ปล จริงจริงนะคุณชยุต นึกตามไม่ออก จริงจริง ว่าคุณชยุตจะปลื้มขนาดไหน คุณชยุตว่างๆก็มาเล่าให้ฟังบ้างนะ

 

โอ้...กำลังใจมาอื้อเลยนะเนี่ย
สงสัยจะไปชวนหรือไปนัดกันมากระมัง

แต่ถึงไม่ชวน ไม่นัดกันมา
แต่เพราะที่ความเป็นจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์แล้ว
ก็จะออกมาในทำนองนี้แหละครับ คือเข้าใจ และเห็นใจกัน

ขอบคุณมากๆนะครับทุกๆดวงจิตวิญญาณ ทุกๆกระแสจิตแห่งแสงสว่างทั้งหลาย
ที่หลั่งไหลพรั่งพรูมาถึงผม จนสัมผัสได้ด้วยใจเลยทีเดียว

แต่อย่ากังวลไปเลยนะครับ...เพราะว่า...ต้องขอบคุณเนื้อหาในกระทู้นี้ด้วยเหมือนกัน
(ไม่ได้ขอบคุณตัวเองที่แปลนะครับ แต่ขอบคุณเนื้อหาที่นำมาแปล)
ที่ทำให้ทุกวันนี้ จะวิปัสสนาดูตัวเองตลอด มากเท่าที่จะมากได้
จนมาประจักษ์ว่า "ความรู้สึก สุข ทุกข์" ที่เกิดขึ้นกับตัวเราทั้งหมดทั้งสิ้นนั้น
มันไม่ได้มีเหตุมาจากสิ่งภายนอกเลย แม้ว่าสิ่งภายนอกจะเป็นตัวกระตุ้นก็ตาม

แต่สุดท้าย ผู้ที่จะเลือกว่า จะสุข หรือ จะทุกข์ ก็คือตัวเราเองทั้ง 100%

เพราะฉะนั้น ผมจึงมีความกังวลน้อยลง เกี่ยวกับ คำพูด การกระทำ และความคิดของคนอื่นๆ


อีกประเด็นหนึ่งเกี่ยวกับ การพยายามแปลหรือโพสต์อะไรๆให้ใครต่อใครเขาอ่านนี่
มันเป็นอะไรที่เกิดขึ้นกับผมมาตั้งแต่เริ่มใช้งานอินเตอร์เน็ตเป็น ใช้อีเมลเป็นโน่นแหละครับ

เพราะสมัยก่อน ก่อนที่จะรู้จักเวปพลังจิต พอได้รับอีเมลดีๆอะไรมาแล้ว
มันก็จะอยากส่งให้เพื่อนที่รัก และคนที่เรารักใคร่ ห่วงใย ได้อ่่าน ได้รู้ด้วย
อันนั้นมันเริ่มต้นจากวงแคบๆก่อน

จนบัดนี้ อะไรก็ตามที่ตัวเองได้ไปอ่าน ได้ไปรู้มา
และเห็นว่า มันน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนอื่นๆด้วย
จิตใจมันก็จะเป็นอัตโนมัติเลย คือ มันจะมีแรงกระตือรือร้น ให้อยากแปล อยากโพสต์มากๆ
ไม่อย่างนั้นกระทู้นี้คงไม่เกิดหรอกนะครับ

ถ้าถามว่า ทำไปเพื่ออะไร ทำไมต้องมาแปล มาเหนื่อย มาโพสต์อะไรแบบนี้ด้วย
คำตอบที่เป็นเหตุเป็นผลทางตรรกะ ทางโลก หรือทางธุรกิจนั้นไม่มีเลยครับ

แม้แต่คำว่าอยากได้บุญหรือเปล่า? นั่นก็ยังไม่อยู่ในสายตาผมเลยแม้แต่น้อย

มันเป็นความสุขใจที่ได้ทำ ที่ได้ให้ นั่นแหละคำตอบสั้นๆ แต่เป็นอย่างนั้นจริงๆ

มีอยู่คำถามหนึ่ง ที่จริงๆแล้วผมอยากถามเพื่อนๆบางคนที่เรียนจบมาพร้อมๆกับผมมากกว่า
แต่ในนี้อาจจะมีคนประเภทอย่างนี้อยู่บ้างก็ได้ ก็เลยจะถามทิ้งไว้ให้คิดในนี้เลยนะครับ

ถ้าคุณเป็นคนๆหนึ่ง ที่ชอบอ่านข้อความ หรือชอบรับอีเมล ที่เพื่อนๆหรือใครๆส่งมาให้อ่านอย่างเดียว
โดยไม่เคยส่งต่อ หรือไม่เคย "สร้าง" อีเมลดีๆอะไรๆให้คนอื่นอ่านเลย หรือแม้แต่คิดว่าจะทำ คิดว่าจะส่งต่อ ก็ยังไม่มีเลย

นั่นคุณเคยสงสัย หรือ อยากรู้บ้างไหม๊ ว่าคนพวกนั้น
ที่เป็นต้นตอของเมลดีๆ เมลที่ให้กำลังใจผู้อื่น หรืออะไรทำนองนั้น
ทั้งจากต่างประเทศ และจากคนไทยเอง

พวกเขาคิดอย่างไร?
พวกเขาอยากได้อะไร? พวกเขาจึงทำเช่นนั้น
เขารู้สึกอย่างไร?
ทำไมความรู้สึกที่ว่านั้นมันถึงเกิดขึ้นกับพวกเขาได้?
ทำไมความรู้สึกแบบนั้นถึงไม่เคยเกิดขึ้นกับเราบ้างเลย?
เรากับพวกเขามีอะไรที่แตกต่างกัน?
แล้วเราควรจะไปรู้สึกแบบเขาบ้างหรือเปล่า?

ความรู้สึกแบบนั้น มาน่าจะมาจากสภาวะจิตใจแบบไหนกัน?
สภาวะจิตใจแบบที่ว่านั้น มันดีหรือไม่ดี มันก่อให้เกิดประโยชน์อะไรได้บ้างไหม๊?

ถ้าคุณลองสมมุติตัวเอง ว่าเป็นคนเหล่านั้นดู
แล้ว "เริ่ม" ลองแกล้ง "สร้าง" หรือส่งต่ออีเมลดีๆ หรือข้อความดีๆให้คนอื่นดู
คุณจะค่อยๆตอบคำถามที่ผมถามนั้นได้ จนหมดในที่สุด

แต่ถ้าจิตใจคุณไม่ได้อยู่ในช่อง "อยากทำ" หรือ "ทำด้วยใจ" หละก็
คุณก็จะพบว่า คุณฝืนมันได้ไม่นานหรอก จริงไหม๊ครับ

เพราะฉะนั้น ก็อย่าเพิ่งไปดูหมิ่น ดูแคลน ผลงานการเผยแพร่ด้านแสงสว่าง อะไรๆ ของใคร เร็วนักนะครับ

เพราะบางที กว่าๆคนๆหนึ่ง ที่เขาจะมีสภาวะจิตอย่างที่เขามีอยู่ในปัจจุบันนี้ได้
ซึ่งอาจจะเริ่มต้นมาจาก สภาวะจิตที่ไม่เคยคิดจะส่งอะไร คิดจะให้อะไร คิดจะบอกอะไร
หรือจะหวังดีอะไร กับใคร สักเท่าไหร่เลย เหมือนๆกับคุณในตอนนี้ก็ได้

มันต้องใช้เวลา และพวกเขาต้องผ่านกระบวนการการชำระ / การล้าง จิตสำนึกมาบ้างแล้ว ไม่มากก็น้อย

.................................................

 

ขออนุญาตยกคำกล่าวของท่านอาจารย์ ว.วชิรเมธี ในหนังสือ "มองลึก นึกไกล ใจกว้าง" มาให้ได้พิจารณากันครับ

มองลึก: คือ เวลามองอะไร อย่ามองแค่ปรากฏการณ์ อย่ามองภาพลักษณ์ภายนอก ที่เราเห็นกันอย่างฉาบฉวย แล้วก็คิดเอาเองว่า สิ่งนั้นเป็นความจริงสูงสุดแล้ว กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ อย่าเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น เพราะสิ่งสำคัญไม่อาจเห็นด้วยตา

นึกไกล: คือ อย่านึกแต่ว่า ฉันจะได้อะไร โดยไม่เคยถามต่อไปว่า ในขณะที่ฉันกำลังได้อะไรอยู่นั้น คนอื่นเขาต้องเสียอะไร สังคมไทยที่วุ่นวายอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะเรานึกแต่ว่า ฉันจะได้อะไร แล้วคนอื่นจะเสียอะไรช่างหัวมัน

ใจกว้าง: คือ ใจที่ปราศจากอคติ สามารถอยู่ร่วมกับคนทั้งโลกฉันพี่น้อง เสมือนหนึ่งเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน อยู่กับชาวพุทธก็ได้ อยู่กับชาวคริสต์ก็ได้ อยู่กับคนสีผิวอะไรก็ได้ สวมเสื้อสีอะไรก็ได้ทั้งนั้น ถ้าเราใจกว้างได้อย่างนี้ ในโลกนี้ก็ไม่มีใครที่คู่ควรแก่ความโกรธ เกลียด หรือเข่นฆ่า แม้แต่เพียงคนเดียว

 

ดิฉันไม่ค่อยชอบข้อเขียนของคุณaxzon ladyoflight เท่าไร แต่ไม่เป็นไรคะไม่มีใครเปอเฟ็ค 100% ดิฉันให้อภัยแก่คุณ pasit_ok, axzon, ladyoflight และคุณอื่นๆ หรึอว่าอโหสิกรรมตามภาษาพุทธของพวกคุณ จะได้หมดกรรมกัน

ถึงแม้บางบทความของกระทู้นี้จะขัดกับความเชื่อในพระเจ้าที่ดิฉันเคารพแต่บางส่วนก็เพิ่มความรักได้เช่นกัน คิดถึงกระทู้เก่าๆของคุณavatarboy ผสมกับความรู้กระทู้นี้ไปได้สวยคะ เสียดายพี่เค้าตัดสินใจปิดแบบฟ้าแลบ

ตอนช่วงนั้นมีคนกลุ่มหนึ่งเข้าร่วมโครงการทีวีไอ แล้วจ่ายเงินไปตั้งแต่ 9,500 ถึง 30,000 บาทแล้วอีกกลุ่มต่อต้านแบบสุดๆ ช่วงนั้นเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เซนซิทีฟกันมาก ไม่มีใครรู้ว่าของจริงหรือหลอกลวง พี่เค้าเลยตัดสินใจปิดเพื่อแบ่งแยกผู้เข้าร่วมและไม่เข้าร่วม เพื่อดึงกำลังใจให้ผู้จ่ายเงินโฟกัสทางด้านบวกด้านเดียว แต่มีบางคนก่อกวนไม่หยุดจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตามแต่ ผลสุดท้ายการตัดสินใจก็ประสบความสำเร็จอย่างสุดยอด ได้อย่างก็ต้องเสีย (กระทู้ดีๆ) อย่างคะ

ก็ขอฝากให้เป็นอุทาหรณ์กันนะคะ ว่าการจะเขียนหรือนำแสดงอะไรให้คิดแล้วคิดอีกว่ามีผลกระทบต่อคนอื่นไม่มากก็น้อย ไม่ต้องตอบกลับมานะคะ เล่าให้ฟังเฉยๆ อาจนอกเรื่องไปหน่อย คุณ iamoness ก็ขออโหสิอนุโมทนาบุญแก่มารมาขวางกั้นการเป็นเสี่ยน้อยๆของน้องเค้าด้วยคะ จะได้จบๆกันไป

อีกอย่างมีบุคคลกลุ่มหนึ่งมาก็อปปี้เนื้อหาที่แปลกันแล้วทำบล็อกส่วนตัวแล้วนำไปทำหนังสือขาย ก็ขอให้ระวังตัวด้วยคะ ลองคลิก google แล้วจะรู้คะ ได้ติดต่อไปทางคุณavatar ก็ได้รับการยืนยันว่านั้นไม่ใช่บล็อกของพี่เค้า ก็ไม่ทราบเหมือนกันคะว่าของใครรวมทั้งบทแปลกระทู้นี้รวมอยู่ด้วย

และอีกอย่างการก็อปปี้หรือนำบทความจากหนังสืออื่นๆมาแปลกันโดยไม่ได้รับการอนุญาติหรือฝ่าฝืนทางลิขสิท ลองอ่าน terms condition policy copyright ตอนท้ายๆ แต่ละเวปไซตืๆนะคะมันต่างกัน เข้าใจคะว่าทำไปไม่ได้หวังผลทางพานิชแต่มันผิดกฎหมายคะ เป็นการโขมยทรัพสินทางปัญญา โดยเฉพาะกฎหมายต่างประเทศเคร่งครัดเข้มงวด

ancient secret1 เป็นข้อเขียนของพี่เค้าจริงๆ แต่ ancient secret2 พี่เค้าก็ก้อปปี้มาจากหนังสือแต่โชคดีที่พี่เค้าปิดไปก่อน ส่วนมากเวปไซต์เค้าอาจจะไม่เอาเรื่องแต่เค้ามีสิทธิเอาเรื่องเมื่อไรก็ได้ โทษปรับหนักคะก็ขอให้พิจารณากันเอาเองคะ

โล่งใจสบายใจแล้วขอเวลาไปฉลองฮอลิเดย์กับความสำเร็จ ไม่ได้เข้าคอมอีกก็ปีหน้าคะ ขอให้เรื่องร้ายๆ ผ่านไปเสียทีปีนี้

สวัสดีปีใหม่และแฮปปี้แก่ทุกคนคะ

 

*0* โอ้วว กำลังใจมาเพียบเลยค่ะคุณชยุต

ขอย้อนอดีตนิดนึงนะคะ แบ็ค ทู เดอะ ฟิวเจอร์ หน่อย *0* โซ่เคยยอมรับไปกับคุณชยุตตั้งแต่แรกเลยว่า โซ่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง ไม่เคยอยู่เมืองนอก ไม่เคยเรียนเมืองนอก แค่เรียนในชั้นเรียนธรรมดาๆ แบ่งรับแบ่งสู้ไปกับคุณชยุต แต่ก็ได้กำลังใจและข้อคิดจากคุณชยุต เลยตัดสินใจรับมาแปลบางส่วน พอแปลชิ้นแรกเสร็จ ก็ได้กำลังใจดีมาก ก็เกิดความมั่นใจมากขึ้น แล้วก็มีความคิดอยากจะช่วยทุกๆคนในทีมแปล เพราะเราก็อยากให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่โซ่จะทำได้ ทำให้โซ่ไปอ่านงานของคุณเดรดและถือวิสาสะช่วยเหลือตามที่ใจตัวเองคิด โดยไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นๆเลย ก็ไม่ทราบคุณเดรดจะคิดเป็นอื่นไปหรือเปล่า แต่ด้วยความหวังดีจริงๆเท่านั้นนะคะ เพราะโซ่ไม่เคยถามเรื่องนี้กับคุณเดรดตรงๆ แต่ก็ไม่สบายใจเรื่อยมา จนหลังๆไม่กล้าออกปากจะช่วยแปลงานในส่วนที่เหลือที่ยังแปลไม่เสร็จเพราะรู้ว่าตัวเองเรื่องภาษาไม่แข็งแรงพอและมีความสามารถน้อยที่สุดในทีมเลย ก็ทำได้มากที่สุดคือให้กำลังใจเพื่อนๆในทีม ถึงแรกๆจะมีความไม่เข้าใจซึ่งกันและกันบ้าง โต้ตอบกันบ้าง และโซ่ยอมรับเลยว่าโซ่ไม่มั่นใจ จิตใจสั่นคลอนมากตอนเข้าทีมแปล กังวลถึงความรู้สึกของทุกคนในทีมไปซะหมดทุกอย่าง กลัวที่จะไม่ถูกยอมรับ เรื่องนี้คุณชยุตน่าจะเข้าใจดี จนทำให้โซ่พูดจาไม่ดีต่อกันกับเพื่อนในทีมไป ต้องขอโทษทุกคนในทีมมาตรงนี้ด้วยเลยนะคะ ทั้งหมดนั้นคือพลังงานด้านลบของโซ่ และคุณชยุตอีกครั้งที่ช่วยเตือนสติให้ จนโซ่สามารถทำให้ความกลัว ความกังวล ความโกรธ ทั้งหมดหายไปสิ้นเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นโซ่ก็ขอขอบคุณคุณชยุตอย่างจริงใจและมากที่สุด สุดท้ายโซ่ก็เชื่อว่าทุกคนจะเป็นเพื่อนกันได้ เพราะเรามารวมกันอยู่ที่นั้น ต้องมีวัตถุประสงค์บางอย่างร่วมกัน พัฒนาไปด้วยกัน และเป็นแสงสว่างเหมือนๆกัน

เรื่องความจริงบางอย่างจากความไม่แมนที่คุณริสากล่าวมา คุณริสากล่าวได้ดีมากและถูกต้องทั้งหมด โซ่ก็รู้ดีค่ะ รู้ตั้งแต่จะมีการปิดโครงการนั้นครั้งแรกแล้วด้วยซ้ำไป และมีมารยาทมากเพียงพอที่จะไม่เอ่ยถึงความไม่แมนนั้น ดังที่คุณริสาพูดไว้ และต้องขอขอบคุณทุกคนเป็นอย่างมาก และโซ่สมควรจะเป็นผู้ที่ต้องขอบคุณทุกๆคนในทีมมากที่สุดเลยด้วยซ้ำไปที่ให้โอกาศได้ร่วมทีม

และขอยืนยันตรงนี้เลยว่าที่โซ่เคยโพสต์มาทั้งหมด เป็นกลางและไม่เคยเข้าข้างใคร จนผู้รับสามารถนำความคิดความรู้สึกของตนเองมาจับ ทำความเข้าใจไปในทางไหนก็ได้ และคิดลบไปว่าโซ่พูดล่วงเกินเป็นนัยๆ และโซ่ก็สัมผัสได้ด้วยว่ามีคนกำลังยัดเยียดข้อกล่าวหาบางประการให้ โซ่เป็นคนพูดตามความคิดและตรงมากๆนะ ใครยอมรับความจริงของตัวเองไม่ได้ ก็จะรู้สึกว่าเจ็บปวดหรือถูกดูถูกหรืออะไรก็แล้วแต่ที่เป็นด้านลบ แต่ถ้าผู้ใดมีความเข้าใจมากอย่างแท้จริง ก็จะไม่รู้สึกทางด้านลบเลยซักนิดเดียวเพราะโซ่ไม่โพสต์ไปด้วยพลังงานลบใดๆทั้งสิ้น

ที่พูดมาทั้งหมดนี่ ถึงทุกๆคนเลยนะคะ ไม่เฉพาะเจาะจง สิ่งที่คุณธรรมจิตต์ นำมาโพสต์ของท่าน ว.วชิรเมธี นั้น ดีมากๆเลยค่ะ จงมองให้ลึก นึกให้ไกล ใจให้กว้าง *0*

และขอขอบคุณคุณชยุตสำหรับทุกๆอย่างที่นำมาให้ ช่วยเตือนสติและให้ข้อคิด และจนโซ่สามารถกลับมาส่องแสงได้อีกครั้ง หลังจากจมอยู่กับอดีตที่ทรมานมา 2-3 ปีที่ผ่าน ทั้งๆที่เคยสว่างไสวมาแล้ว แต่ก็ติดกับดักของพลังงานมืด จนเหมือนหลอดไฟที่กระพริบ ติดๆดับๆ และตอนนี้ได้สว่างไสวอีกครา ขอบคุณจริงๆค่ะ

ขอเสริมอีกประการนะคะ เรื่องการจะเขียนหรือนำแสดงอะไร จะส่งผลกระทบต่อผู้อ่านอย่างไร ข้อนี้โซ่ยืนอยู่บนสมมติฐานของอินเตอร์เน็ตและการแสดงความเห็นอย่างเป็นอิสระและถูกที่ เพราะนี่คือห้องวิทยาศาสตร์ทางจิต ผู้ที่เข้ามาอ่านควรจะเปิดกว้าง มีสติ มีปัญญาเพื่อพิจารณา เพียงพอค่ะ และรู้ตัวตลอดเวลาว่าเข้ามาเพื่ออะไร หาอะไร วิเคราะห์อะไร สังเคราะห์อะไร คนที่เสียศูนย์ไปก็เพราะขาดสติ อีกอย่างก็มีหลายๆคนได้ย้ำอยู่เสมอในห้องนี้อยู่แล้วเรื่องให้ใช้ปัญญาในการพิจารณามากๆ ไม่ใช่อ่านปุ๊บเชื่อปั๊บ และถ้าจะกล่าวถึงเยาวชน เยาวชนคนไหนที่เข้ามาที่ห้องวิทยฯนี้ได้ ก็แสดงว่าเค้าพร้อมที่จะเรียนรู้ด้วยตัวของเค้าเอง ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆเพื่อสร้างประสบการณ์ นั่นคือหนทางของเค้า ถ้าไม่ถูกจริต ไม่ชอบใจ พวกเค้าก็ไม่ใส่ใจและทอดทิ้งมันไปเองนั่นแหล่ะ เพราะทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเอง

สุดท้าย พรุ่งนี้ก็เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของพวกเราชาวไทยแล้ว โซ่อยากให้พวกเรารู้รักสามัคคีกันไว้เพื่อพ่อหลวงของพวกเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่ามัวแต่จ้องจับผิดคิดค้นประเด็นขึ้นมาเพื่อทำลายผู้อื่นกันอยู่เลยค่ะ

ปล.อย่าลืมจุดเทียนชัยร่วมถวายพระพรกันด้วยนะจ้า *0*

 

มาส่งกำลังใจให้คุณชยุตด้วยอีกคนครับ *-*

ชื่นชมในความตั้งใจดีของคุณชยุตด้วยจริงๆที่เพียรส่งมอบของขวัญดีๆหลายชิ้นให้พวกเราตลอดในช่วงหลายเดือนมานี้ ช่วงที่แปลบทความคราวก่อนนั้น ก็มีงานมาเข้าจนมือแทบไม่ว่าง ตัวเองก็แปลเก่งซะเหลือเกิน อิอิ ต้องใช้เวลาและความพยายามมากอยู่เหมือนกัน ศัพท์บางตัวก็ไม่เจอในพจนานุกรมอีก ถึงแม้จะช่วยเพื่อนๆแปลไม่จบสักตอน แต่ก็เห็นความเป็นไปรวมถึงการช่วยเหลือกันทีมมาตลอด ขอชื่นชมทุกๆคนด้วยครับ

จริงๆช่วงนั้นพอจะทราบแล้วล่ะว่าบทความนั้นมีลิขสิทธิ์แต่ก็บอกใครไม่ได้เลย รับปากกันแล้วก็กลับมาแปลต่อจนกระทู้นั้นหายไปจึงหยุด (อิอิ) หากมองในแง่ดีก็เห็นถึงการร่วมแรงร่วมใจในทีม รวมถึงความตั้งใจที่จะแบ่งปันความรู้ให้กัน อยากจะขอบคุณๆๆๆๆอีกหลายๆหนกับเรื่องราวที่น่าสนใจเหล่านี้ เป็นประสบการณ์และความรู้ที่เราไม่ควรกระโดดข้ามครับ

มองให้ลึก นึกให้ไกล ใจให้กว้าง
ชอบประโยคนี้จริงๆครับคุณธรรมจิตต์ (หายไปนานเลย สบายดีนะครับ )

มีอีกประโยคนึงมาฝากครับ
การพยายามขัดขวางอิสระภาพของคนอื่น
จะทำให้เราสูญเสียอิสรภาพของตนเองเสมอ

 

สวัสดีอีกครั้งครับคุณชยุต ผมคิดตรึกตรองอยู่นานเหมือนกัน ที่จะเริ่มโพสต์ในกระทู้นี้ ครั้งแรกที่ผมโพสต์ผมพูดว่า "ผู้ทำงานแห่งแส่งสว่าง " ใช่สิ่งที่คุณทำอยู่มันคืองานแห่งแสง ทำไมผมจึงพูดอย่างนั้น???!!!..... ผมทำงานด้านแสงมาแล้ว 11 ปี ลิงค์ที่คุณนำมาแปล เมื่อเข้าหน้าหลักแล้วจะมีลิงค์หนึ่งที่เชื่อมต่อกับ "ครายออน" ถ้าคุณเคยอ่านงานของ ครายออนมาบ้างคุณจะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผมจึงกล่าวเช่นนั้นกับคุณ งานของครายออนเคยนำมาแปลแล้วเป็นภาษาไทยทั้งหมด 3 เล่ม โดยคุณ นนทกร ตอนนี้ผมก็ยังเก็บไว้อยู่ เป็นหนังสือที่ผมรักที่สุด มันทำจิตวิณญาณของผมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ที่ผมกล่าวขอบคุณ คุณครั้งแล้วครั้งเล่าแล้วมันยังน้อยไปด้วยซ้ำกับความรู้สึกที่มี มีหลายสิ่งที่ผมอยากพูดบอกกับคุณ แต่บางสิ่งคุณต้องเรียนรู้และประสบกับตัวคุณเองคุณจึงจะเข้าใจมันเอง.....!!!???

"เมื่อมีใครสักคนมากระตุ้นคุณให้เกิดความรู้สึกด้านลบ
เมื่อนั้นให้คุณจินตนาว่าเขามายืนอยู่ข้างหน้าคุณ
และคุณสามารถโอบกอดเขาด้วยความรักได้ใหม.....!!!!!!"


มันเป็นความลับง่ายๆที่ผมอยากบอกกับเพื่อนๆของผมทุกคน
ด้วยรัก

ปล.ผมตอบคำถามของคุณแล้วนะคุณชยุต............!!!!!