การเตรียมตัว เตรียมใจ ไปสู่ยุคภัยพิบัติ

เห็นด้วยกับคุณ Saychl ว่าหลายอย่างรุนแรงและเกิดถี่ขึ้นจริงๆ

เมื่อวันที่ 27-28 สิงหาคม 2555ที่ผ่านมา ที่เมือง Brawley, CA
ห่างจากแอลเอ ไปประมาณ 4 ชม. แผ่นดินไหว เกือบ 300 ครั้งภายใน 24 ชม. เห็นแล้วขนลุก กลัวว่า....จริงๆๆ...

ขอบคุณ คุณ Aunyasit สำหรับคำตอบด้วยครับ
ถึงแม้ผมจะย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ แต่ผมก็ต้องขับรถมาทำงานที่ Casino ที่เมือง Hawaiian Garden ซึ่งอยู่ห่างจากทะเลประมาณ 20 ไมล์อยู่ดีครับ ไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะเกิดตอนกลางวัน หรือ กลางดึก เพราะผมจะเข้างานช่วง บ่าย 2.00หรือ บ่าย 4.00 โมงเย็น จะมีเหตุการณ์เตือนล่วงหน้า หรือไม่ครับ ผมจะได้อยู่กับบ้านไม่ออกไปไหนเลย

 

อ่านตอนนี้แล้ว อยู่ก็ขนลุกซู่ซู่เลยครับ...อนิจจัง...ทุกขัง...อนัตตา...

พวกเราที่มาอยู่แดนไกล คงต้องทำพุทธานุสติ เพื่อเป็นที่พึ่งในยามขับขัน

 

ขอกราบอนุโมทนากับคุณ Aunyasit และผู้ถอดเทปบทการสนทนาที่่ท่านปู่อชิตะ และหลวงปู่ทวดท่านเมตตาเตือนเรื่องภัยพิบัติ ออกมาเป็นตัวหนังสือมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

 

ด้วยหลักแล้วผมคิดว่า โอกาสของการเกิดมีมากครับ แค่พิจารณาจากปฏิทินมายันอย่างเดียวก็หาคำตอบได้แล้ว เพราะในยุคสมัยนั้นความเจริญทางวิทยาศาสตร์ไม่มีโอกาสที่จะคำนวณและเข้าใจระบบดวงดาวได้ดีขนาดนั้น เป็นการก้าวกระโดดแบบสุดโต่งครับ ทุกอย่างมีคำตอบในตัวของมันเองครับ อยู่ที่ว่าเราจะเตรียมตัวต่อไปยังไงแค่นั้น ผมก็ว่าผมโชคดีอยู่อย่างหนึ่งนะครับ ที่ได้รู้ทั้งวิทยาศาสตร์และเกิดใต้พุทธศาสนา ภายใต้พระบรมศาสดาของเรา พระพุทธเจ้าของเราครับ ผมว่าเป็นสุดยอดของสุดยอดของทุกสิ่งทุกอย่าง จากแต่ก่อนที่ไม่ค่อยสนใจพระพุทธศาสนาเท่าไหร่ แต่เดี๋ยวนี้เข้าใจแล้วครับ ว่าทุกอย่างที่พระพุทธเจ้าของเราตรัสไว้ คือความจริงตลอดกาลครับ ยังมีอะไรอีกมากครับ ที่ให้เราต้องหาคำตอบจากมันมาให้ได้ ถึงแม้จะไม่มีปัญญารู้แจ้งเหมือนพระองค์ แต่เราก็เตรียมตัวได้ด้วยหลักของเหตุและผลครับ ศึกษาจากหลายๆด้านแล้วจะเข้าใจ

 

ความเร้นลับของธาตุ โลก และจักรวาล รวมทั้งของพระศาสนายังมีอีกมากมายที่เรายังไม่สามารถไปรับรู้ได้ อย่างธาตุสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่เราสัมผัสได้ด้วยอายตนะภายนอกก็ยังมีสิ่งเร้นลับที่มีหน้าที่ควบคุมธาตุแต่ละธาตุอีก เหนือขึ้นไปก็ยังมีผู้ควบคุมธาตุทั้งสี่ โลกและจักรวาล เป็นลำดับ เพียงแต่เรามักจะศึกษากันไม่ถึงเท่านั้นเอง ในความเป็นจริงภัยพิับัติที่จะเกิดขึ้นนั้นมีสาเหตุหลักมาจากเหตุบนโลกนี้ ไม่ได้มีสาเหตุมาจากนอกโลกแต่อย่างใด ธรรมธาตุบนโลกมีการเปลี่ยนแปลงก็เพราะกรรมทั้งหลายที่มนุษย์โลกได้สร้างสรรค์กันขึ้นมา เป็นเหตุให้โลกมีการปรับเปลี่ยนธรรมธาตุเพื่อรักษาสันติของโลกมนุษย์อีกวาระนึง แน่นอนว่าการปรับเปลี่ยนของธรรมธาตุบนโลกนั้นจะส่งผลต่อมนุษย์ผู้ประกอบกรรมดีและมนุษย์ที่กรรมชั่วในทิศทางที่แตกต่างกัน

แต่สิ่งที่ควรจดจำไว้ก็คือ ครูบาอาจารย์ท่านเคยบอกไว้ว่า หากใครตายด้วยเหตุแห่งภัยพิบัติในครั้งนี้ จะมีทุคติภูมิเพียงอย่างเดียวเป็นที่ไป ความหมายก็คือ ใครตายจากเหตุภัยพิบัติจะตกอบายภูมิทั้งหมด เพราะเป็นการทำงานของธรรมธาตุด้วยอาศัยกฏแห่งกรรม ครับ

 

แต่ก่อนผมไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์ ไม่เชื่อเรื่องกรรมดีกรรมชั่ว เลยลองศึกษาดู เพราะเดื๋ยวนี้ข้อมูลหาง่ายมาก ยิ่งค้นหาก็ยิ่งเข้าใจเหมือนกับ ดร.สนอง วรอุไร ประวัติท่านก็คล้ายกับความเข้่าใจของผมคือวิทยาศาสตร์..จ๋า แต่เดี๋ยวนี้เริ่มเข้าใจแล้วว่า พุทธศาสนาของเราเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมากๆ ความเจริญทางวิทยาศาสตร์ไม่สามารถเข้าถึงได้ พอนึกถึงตัวเองว่าที่ผ่านๆมาทำไมผมถึงไม่สร้างความดีมาตั้งแต่แรก นี่เราปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยที่เราไม่เข้าใจว่า "มนุษย์นั้นเกิดมายากแสนยาก ไม่รู้ว่าหลังจากเราตายไปอีกกี่ชาติกว่าเราจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์อีก ยิ่งเราปล่อยเวลาให้ผ่านไปเวลาในการสร้่างบุญของเราก็น้อยลง " ผมก็เลยคิดว่าทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความต่างๆเหล่านี้คือคนที่อาจจะเข้าใจอะไรมากกว่าผม ในเรื่องของกรรมดีกรรมชั่ว ในเรื่องของเจ้ากรรมนายเวร แต่ผมก็ยังโชคดีอยู่อย่างที่เกิดมามีปัญญา ถึงไม่ใช่ปัญญารู้แจ้งก็ตาม ทำให้ผมเข้าใจทั้งทางโลกและทางธรรม แต่ความเข้าใจทางธรรมก็ยังไม่ลึกมากพอ แต่ผมเชื่อเหมือนคุณอาญาสิทธิ์ครับว่า คนที่ไม่ดีไม่มีศีลธรรมจะถูกล้างให้หมดไป และผมเชื่อว่าคนที่อ่านบทความตางๆเหล่านี้ คือคนที่เข้าใจหลักธรรมคำสอนอยู่บ้างไม่มากก็น้อย ผมพยายามบอกคนรอบข้างให้เข้าใจในสิ่งเหล่านี้ จากข้อมูลที่ผมหาและวิเคราะห์ออกมาด้วยหลักของเหตุและผล ด้วยหลักของวิทยาศาสตร์ ทุกอย่างค่อนข้างจะสัมพันธ์กัน แต่ก็ไม่มีใครเข้าใจ เพราะสิ่งที่จะเกิดผมคิดว่ามันน่าจะยิ่งใหญ่จริงๆ บางครั้งผมก็คิดนะว่า เราก็โชคดีนะที่ได้เกิดมาเห็นในยุคของการเปลี่ยนแปลงของโลก เป็นยุคที่ไม่เคยมีการบันทึกในประวัติศาสตร์มนุษย์ ขอให้ทุกๆคนที่เข้ามาอ่านทำความดีกันให้มากๆ รวมทั้งการสวดมนต์เจริญสมาธิ ระลึกถึงคุณของพุทธองค์ เผื่ออะไรๆจะได้เบาบางลง ข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่กรรมของเราครับ ถ้าเราสร้างกรรมดีอยู่บ้าง กรรมดีก็จะส่งผลให้เราไม่ประสบอะไร อย่าคิดว่าคนเราเกิดมาแล้วต้องตาย คนอื่นก็ตายเหมือนๆเรา เพราะว่าการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ได้อยู่ใต้พุทธศาสนามันยากจริงนะครับ ผมเพิ่งเข้าใจคำพูดตรงนี้

 

ไปขุดกระทู้นี้ขึ้นมา เนื่องจากเมื่อวาน(3 ต.ค.) ได้โพสต์กระทู้ไป 2 กระทู้ โพสต์เสร็จกระทู้ 2 กระทู้นั้นหายไปจากหน้าเวปบอร์ดเลย เข้าใจว่าเวปมาสเตอร์กำลังปรับปรุง server ทำให้กระทู้บางกระทู้ตกหล่นไปจากหน้าเวปบอร์ด ยังไงก็รบกวนเวปมาสเตอร์/ผู้ดูแล server ช่วยกู้กระทู้ที่หายไป คืนกลับมาด้วยครับ

มีญาติธรรมท่านนึง ถามว่า คนเราต้องมีบุญขนาดไหนจึงจะรอดจากภัยพิบัติ

คำถามนี้ตอบยากครับ เพราะมีตัวแปรเรื่องกรรม(ไม่ดี) เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งเป็นมาแต่อดีตต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันและเป็นสิ่งที่จะหยั่งรู้ได้ยาก

รวมทั้งคำถามที่ว่า คนที่มีศีลห้าครบ ศีลต้องดีระดับไหนจึงจะรอด ก็น่าคิดเช่นกันเพราะบางครั้งคนเราก็คิดว่าเราทำดีแล้ว มีศีลดีแล้ว แต่ก็อาจจะยังไม่พอสำหรับการที่จะอยู่รอดในยุคภัยพิบัติก็เป็นได้ เนื่องจากองค์ประกอบในเรื่องของกรรมนี่ซับซ้อนมากครับ

 

จะเกิดภัยใหญ่หรือเปล่าคงไม่มีใครระบุได้แน่นอน แต่เราสามารถร่วมทำบุญกันได้ อยากจะร่วมทำบุญกับทางวัดโดยตรง ก็มีรายชื่อวัด เลขที่บัญชี รายละเอียดต่างๆ ของทางวัด พร้อมบอกวัตถุประสงค์การบอก บุญของแต่ละวัด หรือจะทำบุญผ่าน กลุ่มลูกศิษย์พระพุทธเจ้า ก็ได้ เชิญทางนี้เลยจ๊ะ ทอดกฐิน 85 กองปีที่1 กับกลุ่มลูกศิษย์พระพุทธเจ้า | Facebook
เข้าไปที่หน้าหลัก เลือกดูตามนั้นเลย มีครบ ๘๕ วัด

 

เรียนถามคุณ Aunyasit

มีตัวเลือกสำหรับสถานที่ที่จะเตรียมไว้หลบภัยคือ

1 อ.ชนแดน
2 อ.สีกาย หนองคาย
3 อ.ลี้ ลำพูน
4 บริเวณเขาสมโภชน์ ลพบุรีค่ะ

รบกวนขอคำวิจารณ์หน่อยนะคะว่าที่ได้ดี และข้อควรเตรียมมีอะไรบ้าง
ขอบพระคุณค่ะ

 

มนุษย์ เกิด โต ตายเป็นวัฎจักรของธรรมชาติ
อยู่ที่ว่าตอนอยู่ทำอะไรให้มีประโยชน์มากที่สุดกับมวลมนุษย์
รู้ธรรมแล้ว สามารถทำให้มนุษย์นั้นเจริญในธรรมได้มากน้อยเพียงใด
ภัยจากธรรมชาติมาเตือนแล้ว เวลาอาจเหลือไม่มาก
ตอนนี้สามารถช่วยผู้อื่นให้เจริญในธรรมได้ ตายไปก็ไม่เสียชาติเกิด

 

คุณ Ravitavan :- ถ้าจะให้แนะนำที่หลบภัยที่ปลอดภัย 1 แถว ต.สีกาย(ไม่ใช่ อ.สีกาย) อ. เมือง จ.หนองคาย ทางฝั่งถนนด้านที่ไกลจจากแม่น้ำโขง 2 อ.ลี้ ลำพูน ครับ ส่วนอีก 2 ที่ ไม่แนะนำครับ และให้เตรียมทุกอย่างที่สามารถเตรียมการได้ ครับ

คุณ บัวทิพย์ :- การกำเนิดมาของคนก็มีหลายแบบครับ หน้าที่แตกต่างกันตามบุญบารมีที่สั่งสมมา หากเรารู้ที่มาที่ไปของตนเองและรู้หน้าที่ของตนเอง ก็จะสามารถทำสิ่งที่ต้องทำได้สำเร็จเป็นลำดับไปครับ ปัจจุบันนี้คนจำนวนมากต้องการธรรมะแบบฟาร์ดฟู๊ด จึงสั่งสอนได้ยาก เพราะธรรมะของพระพุทธองค์นั้นมีพื้นฐานมาจากการสั่งสมบารมี 10 ประการ ของผมเองท่านให้ลงมา มีหน้าที่เพียงสองอย่างคือ มาสร้างศาสนสถาน/ศาสนวัตถุและปลดปล่อยวิญญาณ แน่นอนว่าเมื่อมาทำหน้าที่แล้วก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องต้องรับเอาทั้ง ศาสนสถาน ศาสนวัตถุ ศาสนาพิธี ศาสนาบุคคลและศาสนคำสอน มาเป็นองค์ประกอบในการสร้างบารมีด้วย

 

ขอบพระคุณค่ะ ถ้าโปรเจคที่ทำอยู่อนุมัติก็คงได้มีตังค์พอเตรียมค่ะ

 

ท่านใดที่ปรารถนาหาที่หลบภัย มีความพร้อมด้วยปัจจัยต่างๆ ก็ขออนุโมทนาตามเหตุนั้น
แต่เราความพร้อมไม่มี ปัจจัยเกื้อหนุนไม่มี ทำงานราชการ กทม.เช่นกันกับหลายท่าน แม้รู้ว่าอยู่ต้องตาย ก็ขอตายภายใต้บารมีฯ ก็ขอเร่งสร้างความดี อาทิ ๑.สร้างพระเพื่อบรรจุกรุ บางส่วนมีอยู่แล้ว บางส่วนจ้างโรงงานสร้างก็เสร็จแล้ว บางส่วนกำลังดำเนินการสร้าง(นี่ก็นับว่าได้บุญเช่นกัน)เพราะจิตเราไปถึงแล้วจิตเราตั้งใจแล้ว
๒.สร้างพระองค์ใหญ่กับหมู่คณะต่างๆ
๓.ทำบุญกฐินแสนกองกับกลุ่มพลัง
๔.ทำบุญ ทอดกฐิน๘๕กอง ปีที่๑กับกลุ่มลูกศิษย์พระพุทธเจ้า
๕.ซื้อผ้าไตรจีวร๙ขันธ์, ผ้าขาว สีย้อมผ้าฯลฯ สำหรับงานกฐิน๕๕ ของหลายๆวัดในปีนี้ และร่วมบุญต่างๆ กฐินปีนี้กับ กลุ่ม หมู่คณะต่างๆ อีก เพราะเชื่อว่า รู้ว่า ข้าพเจ้านั้นต้องตายแน่ ฯลฯ
ขอเร่งความความดีให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท ด้วยรู้ว่าการเกิดนั้นเป็นทุกข์
กรรมดี กรรมชั่วเท่านั้นที่ตามเราไปได้ ไม่มีใครให้อะไรเราได้ นอกจากกรรมดีที่เราสร้างจะหนุนเราไปทางที่ไม่ต้องมาเกิดอีก

 

หลายๆคนที่เชื่อในเรื่องของภัยพิบัติว่าจะเกิดหรือไม่ ให้เราตั้งอยู่บนพื้นฐานของเหตุและผลเข้าไว้ครับ เราจะได้ไม่ต้องเครียด อยู่อย่างไม่ประมาทดีกว่า สำหรับผมแล้ว ผมคิดว่า ประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เยอะ น่าจะมีอะไรเตือนคนทีีมีบุญหรือผู้ทีีรับรู้ได้ ที่ผมคาดไว้น่าจะเป็น
1.แผ่นดินไหวในไทยบริเวณที่ไม่เคยเกิดมาก่อน
2.ซึนามิรอบสองซึ่งอาจจะรุนแรงกว่ารอบแรก
3.เสียงประหลาดเหมือนหลายๆที่ได้ยิน
ถ้าเกิดเหตุการณ์ต่างๆข้างต้นนี้ ไม่ต้องคิดมากครับเกิดแน่นอน หรืออาจจะมีอะไรทีีแปลกๆก็ให้เราวิเคราะห์เอา
หรือถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นให้ระวังตามวันที่พระอาจารย์รัตน์บอกไว้ แล้วหนีไปบนพื้นที่ๆสูงจากระดับน้ำทะเลมากๆคืออิสานกับเหนือ ถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างอื่นอีก ให้ดูตามที่พระอาจารย์รัตน์บอก น่าจะอยู่ประมาณนั้นแหละครับ แต่อยู่ที่การเตรียมตัวของเราและกรรมที่แต่ละคนสร้างมา

 

เวรกรรมจริงๆ:boo:

 

การเตรียมตัวเพื่อไปสู่ยุคภัยพิบัติ ไม่มีอะไรมากมายหรอกครับ ทำงานที่ทำอยู่ให้ดีที่สุด ได้เงินเดือนมาก็กันเงินส่วนหนึ่งซื้อข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน ให้พอในแต่ล่ะเดือนหรือซื้อเพิ่มเติมอีกซักนิดหน่อย เงินอีกส่วนเก็บไว้ใช้ในชีวิตประจำวันหรือจะเอาไปทำบุญบริจาคอะไรก็ได้ตามที่ศรัทธา เงินอีกส่วนก็เก็บไว้ในธนาคารเป็นเงินเก็บยามฉุกเฉินล้มป่วย พยายามออกกำลังกายทุกวันประมาณวันล่ะ 30 นาทีเป็นอย่างน้อยให้ร่างกายแข็งแรง ถ้าใครที่ชอบดื่มกับสูบบุหรี่ ก็พยายามลดลงแบบค่อยเป็นค่อยไป ใช้เวลาว่างทำกิจกรรมภายในครอบครัวเพื่อความสุข สามัคคี ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ วนไป วนมา ในทุกๆเดือน ผมเชื่อเลยว่าถ้าภัยพิบัติมาจริง ครอบครัวคุณรอดปลอดภัยแน่นอนครับ

 

บ่องตงว่า ข้อความพวกนี้ถ้าประกาศไว้เมื่อก่อนวันเวลาดังกล่าว มันจะน่าเชื่อถือ
เลยนะ แต่แล้ววันเวลาผ่านพ้นพิสูจน์ความจริงซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าไม่จริงเป็นเท็จ
แต่ก็ยังมีคนหลงเชื่ออยู่เรื่อยไป รอคอยในสิ่งที่ไม่มีวันจะเป็นจริง

ระหว่างนั้นมีคนสงสัยว่าทำไมไม่เกิด ผู้วิเศษก็บอกว่าอย่าลังเลสงสัยนะมันไม่ดี
พอถึงเวลานั้นเหตุไม่เกิด คนนั้นก็ยังถามอีกว่าอ้าวท่านไหนว่าจะเกิดไง ทำไม
มันไม่เห็นมีอะไรเลย ผู้วิเศษก็บอกว่าอย่าลังเลสงสัยบอกให้ทำอะไรก็ทำ
อย่าขัดขืน อย่ามีคว่ามคิดเป็นของตัวเอง กูพูดอะไร ฟังกูอย่างเดียวเข้าใจไหม
จากนั้นก็เป็นเช่นนี้เรื่อยไปไม่จบสิ้น

ผู้วิเศษในเวปนี้ใครต่อต้าน ใครโต้แย้งจะหาว่าลบหลู่ปรามาส เลวชั่ว ไม่ดี
แต่ถ้ายอมรับและทำตามแต่โดยดีก็จะยกย่องสรรเสริญพร้อมทั้งแต่งตั้งให้
อยู่เหนือกฎแห่งกรรม

 

นายอัญญาสิทธิ์ มันก็แค่แก๊งส์ 18 มงกุฏ ที่หลอกได้เฉพาะคนที่ขาดปัญญา ครับ
แต่ก็หนีไม่พ้นกฏแห่งกรรมอยู่ดี เอาพระพุทธศาสนามาหลอกให้คนโอนเงิน ไม่พ้นนรกแน่นอน

 

ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ครูบาอาจารย์ท่านบอกไว้นานหลายปีแล้วว่าหลังจากท่านละสังขารสงครามจะเกิดแต่เป็นสงครามอาวุธเคมี ซึ่งประเทศไทยเราจะโดนแค่ส่วนหาง มันมาทางอากาศ ถูกที่ผิวหนังจะเป็นแผลพุพอง คนมีศีลจะแค่เกิดอาการวิงเวียนเท่านั้น คนที่รอดจะใช้ผ้าขาวห่อทรายแล้วปัสสวะใส่และเอาไว้สูดดมเพื่อแก้พิษแล้วจะรอดตาย จะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติมาล้างคราบเลือดคราบศพ ถ้าภัยเล็ก ๆ มันจะล้างไม่หมดก็เลยเกิดภัยใหญ่ ท่านบอกว่าตัวท่านเองยังไม่ทันเห็นหรอกท่านจะมรณะภาพก่อน อันนี้ฝากเตือนให้ท่านพิจารณาด้วย และท่านก็ละสังขารแล้วตอนต้นปีนี้ตัวใครตัวมันละกันค่ะ หาทางเอาตัวรอดทางจิตเอาเอง

 

ถ้าเป็นร่างทรงปู่นั้นปู่นี้ทายไม่ถูกหรอกครับ มารตัวปลายแถวมันไม่รู้มากหรอก ถ้าตัวพ่อมาอาจรู้บ้างแต่พ่อมัน ตัวต้นแถวก็ไม่มาทรงให้เสียเวลาทำมาหากิน ผมอยู่แถวฝั่งธนก็ต้องทายว่าแถวนี้ปลอดภัย ไม่หนีไปใหนทั้งนั้น ตอนน้ำท่วมโดนแค่ตาตุ่มเท่านั้น กรุงเทพนี่แหละศักสิทธิ์ที่สุดแล้ว อะไรๆก็อยู่กรุงเทพทั้งนั้น เทพมารสะท้านภพเชียวล่ะ มันถึงเจริญไง ต้นธาตุฝ่ายมารก็รักษาเพราะมีลูกหลานที่แบ่งตัวมาเกิดมากมาย ฝ่ายพระก็ส่งระดับต้นธาตุมาเกิดช่วยคนของเขาเหมือนกัน แต่ภพน้อยนี้เพิ่งโตเมื่อหน้ามะม่วงนี่เอง ต้นธาตุที่แก่ที่สุดของที่นี่ก็ยังเด็กๆกันอยู่ แต่เสียใจกับพวกพุทธด้วยเพราะต้นธาตุที่เก่งสุดคือมารจ้า ตัวปลายๆแถวยังมีบารมีเป็นหลักพันอสงไขยเลยจ้า ตัวใหญ่ๆไม่ต้องพูดถึง มัวโง่งมงายว่าไอ้ที่เรียกนิพพานมีแต่พุทธน่ะ ตื่นกันใด้แล้ว รู้ความจริงแล้วจะหนาว ว่าจะไม่พูดแล้วเชียว อ่านกระทู้แล้วมันอดไม่ใด้จริงๆ