การเฝ้าดู"จิต"

​

วิธีเจริญจิตภาวนา (ตามวิธีหลวงปู่ดูลย์ อตุโล)​

คติธรรม ที่ท่านสอนอยู่เสมอ ​

"อย่าส่งจิตออกนอก"
"จงหยุดคิดให้ได้"​

จิตที่ส่งออกนอก เพื่อรับสนองอารมณ์ทั้งสิ้น เป็นสมุทัย​

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า​

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อนี้แลเป็นทุกขสมุทัยอริยสัจ คือตัณหาอันทำให้เกิดอีก ประกอบด้วยความกำหนัดด้วยอำนาจความเพลิน มีปกติเพลิดเพลินในอารมณ์นั้นๆ คือ กามตัณหาภวตัณหาวิภวตัณหา​

การดูจิตให้ถูกต้องจริงๆ โปรดพิจารณา ใครยังตามดู อารมณ์ อาการ​

การดูจิต ที่ถูกต้องนั้นคือการ ดู จิต ใน สมาธิ

ถ้าจิตยังไม่เป็นสมาธิ แล้วบอกว่าดูจิต ก็ไม่ใช่การดูจิต ของหลวงปู่ดูลย์ ครับ​

หลวงปู่ดูลย์ ท่านสอนให้ ภาวนาบริกรรม พุธโธ ทำความสงบ ให้จิตเป็นสมาธิก่อน​

เมื่อ อารมณ์ สงบ จิตเป็นสมาธิแล้ว ให้สติจดจ่ออยู่ที่ฐานเดิมเมื่อจิตเผลอคิดไปก็ให้ตั้งสติระลึกถึงฐานกำหนดเดิม รักษาสัมปชัญญะให้สมบูรณ์อยู่เสมอ​

 

มีสติ อยู่ตลอดเวลา อยู่กับ ปัจจุบัน ไม่แย่หรอกครับ

 

ที่คุณยกมา พอได้ครับ แต่คุณคงมี อัตวาทุปาทาน ในผู้อื่นมากไปหน่อย ว่าเขาคงภาวนาผิดแน่แน่ ซึ่ง จริงจริง แล้วเขาก็รู้เหมือนกัน.......ยกตัวอย่างส่งออกใช่ เป็นสมุทัย...พยายามแอ่นอกไปรับอารมณ์.......... ใช่อย่างคุณว่า แต่จริงจริง คน แถวนี้เขามี อินทรีย์สังวร(คุณคงเข้าใจ)เฝ้า ทวารอยู่ ไม่ใช่ตามใหลไปขึ้นวิถีจิต เสวย กิเลส ตัณหา เสมอไป อย่างที่คุณ คิด แต่ เอาละ ไม่ใช่เราจะ สังวรได้ 100เปอร์เซ็นต์ เราก็ต้อง รีบทิ้งกิเลสตัวนั้นให้ไวที่สุด แล้วก็กลับมาอยู่กับ กายคตาสติหรือ อานาปาณะสติ(พยายามไม่ส่งออก)รู้ตัวตลอดในปัจจุบันธรรม.........อย่างนี้พอใหวใหมครับคุณ thefool23....................................................................

 

ต้องขอให้ พี่พี่เขา เสริม เรื่อง การเจริญสัมมาสติให้คุณthe fool23ในรายละเอียดอีกแหละครับ ผม อาจ ยังอธิบายไม่ละเอียดพอ.........................

 

ถามกลับครับผม............... ในชีวิตประจำวันคนเรา ต้องรับอารมณ์ใช่ใหม(รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ธรรมมารมณ์)แล้ววิธีไม่ส่งออกของคุณ the fool23ที่ถูกต้องเป็นอย่างไรครับ แนะ นำหน่อยครับ?

 

...........คนแถวนี้ทำไมมาแถวนี้.....สาเหตุที่ต้องมาแสวงทุกข์แถวนี้ เพราะวิถีปกติไม่ค่อยมีทุกข์ให้เห็นจะๆเท่าไร....เหตุเพราะชีวิตสันโดษสมถะมันเหงาและทุกข์น้อย....คริคริ

 

ไม่หรอก ไม่ทุกข์ หรอก มันก็เหมือน จะไปห้างเพื่อไปดูหนังนั่นแหละ.................ชีวิตปรกติ.

 

รับอารมณ์ แล้วคุณเอา จิตไปรับ เสวยไหม ไปส่งออก ไหมครับ ขาดสติไม่รู้ตัว เพราะไปเสวยตามดู... จนรู้สึกตัวได้ทีหลัง

เห็น ของถูกตาถูกใจ เช่น ญ เอาจิตไปจับไหม ไปปรุงไปแต่ง คิดไปไกลขนาดมีลูกมีความสัมพันไหม.................

เห็นก็สักว่าเห็น รู้ก็สักว่ารู้ เมื่อจิตเผลอคิดไปก็ให้ตั้งสติระลึกถึงฐานกำหนดเดิม เช่นคำบริกรรม พุธโธ กรรมฐานมี 40 ห้อง

 

..............เร็วจัง ทำได้ไง ประมาณสองเดือนที่แล้ว ตอนขับรถยังเกิดไม่ใช่หรือครับ ห้วงหนึ่งของอารมย์น่ะ

 

คุณไม่รู้จัก อินทรีย์สังวร ใช่ใหม? บางครั้ง ถ้าเราจะตำหนิใครสักคน....-ขอให้เราสังวรมากมากหน่อยนะครับ.........

 

http://www.sa-ngob.com/media.php?id=272&con=1

ลองฟังดูครับ เปิดเสียงนะถ้าไม่ได้ยิน

 

ยังมีครบ แหละครับ แล้วแต่ มันจะมา เมื่อไหร่..........!

 

แล้วก็ คน แถวนี้ ไม่ได้ ดูแบบ ที่คุณ ว่ามา ซะด้วย สิ!!!!

 

.........เพราะชีวิตคือชีวิต....เพลงที่พี่ชอบร้อง...
เกิดตั้งดับ ธรรมดา ใจรู้เห็นแต่ไม่เอา....เสะแล้วโกโป๋ยๆ....

 

โคตรโง่ เลย นี่ขนาดมันเห็นสักแต่ว่าเห็น รู้สักแต่ว่ารู้ ไอ้ระยำ มึงเผลอไปเพราะอะไร

นี่ขนาดมึงไม่ได้กระทบอะไรเลยนะ มึง กำ 40 ห้องไว้เต็มกำหนัดเลยนะ แต่ มึงเอาอะไร
มากระทบ แล้วเผลอออกไปว๊ะ

เนียะ โง่ ไหม ไม่มีอะไรให้กระทบ มันเผลอออกไป มันโง่กว่า คนที่กระทบไหม

มึงกระทบความว่าง หรือ กระทบ พุทโธ อยู่ ไม่ได้ กระทบ ญ เลย
แล้ว มึงทะลึงเผลอออกไป อยากมีลูก อยากมีความสัมพัน จน
กระทั้ง ต้องดึงกลับมา กำ40 ห้องเนี่ยะ

ใครโง่กว่ากัน ระหว่าง คนที่เขากระทบเหตุ กับ คนที่กระทบ กำ40 แล้ว
ทะลึ่งส่งออก เนียะ

โง่ออกจากสันดาน มึงเอง แล้ว ไม่ รู้ตัว ยังทำมาเป็น คุย ว่าบริสุทธิ

 

ผมรักพระทุกรูปในโลกนี้แหละครับ.........ผมว่าพระน่ารักทุกรูปแหละครับ.....................

 

​

วิธีเจริญจิตภาวนา (ตามวิธีหลวงปู่ดูลย์ อตุโล)​

ให้สติจดจ่ออยู่ที่ฐานเดิมเมื่อจิตเผลอคิดไปก็ให้ตั้งสติระลึกถึงฐานกำหนดเดิม รักษาสัมปชัญญะให้สมบูรณ์อยู่เสมอ​

 

.................อย่าร่าเริงมาก เดี๋ยว โดน ดุ.......ยังภาวนาอยู่ใหมครับ?

 

ก็นั่นไง เมื่อจิตเผลอไปคิด ให้กลับมา กลับมาที่อะไร กลับมาที่จิต

เอ้า ไหนหละ ทำเป็นพูดว่า ต้องมีสมาธิก่อน ถึงจะดูจิตได้ แล้วทำไม
ต้องอาศัย การเผลอ ซึ่ง มันเกิดขึ้นกับ ใคร ตอนไหนก็ได้ ไม่เห็นจะ
ต้องไปตั้งท่ามีสมาธิก่อนเลย

ทีนี้ เดี๋ยวนี้ ไม่ต้อง บริกรรมเลย มึงเผลอหรือยัง มึงเผลอแล้ว มึงกลับไปที่ จิต
หรือเปล่า หรือว่า มึงวิ่งไปบริกรรม แล้ว ค่อยดูเผลอ แล้วกลับไปที่จิต ไป
ดูจิต

แล้วมันจะต่างกับ คนที่เขาไม่ต้องตั้งท่า ว่ากูมีสมาธิ เอ้านับหนึ่ง แต่เขาเห็น
ไปเลยว่า ขณะนี้ เผลอ แล้วก็พิจารณา จิตไปเลย ว่า เป็นกุศล หรือ อกุศลนี่

ทำไมจะไม่ได้ ไหนหละ ตั้งท่ามากมาย อ้างว่า ดูเผลอไม่ได้ จะดูเผลอ
ต้องทำสมาธิก่อน เอ้า ทำสมาธิก่อน แล้วมึงเผลอได้ไง

เนียะ ไม่ งง ตัวเอง เหรอ