กำเนิดพระเจ้า

สมัยหนึ่งนานนัก คนเราใจเถื่อน กินกันเอง
เมื่อฟ้าฝ่าต้นไม้ ไฟใหม้ ไฟร้อนเผาผลาญ
ไฟศักดิ์สิทธิ์ สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์

แต่อาทิตย์ร้อนแรง ส่องแสงไกล เห็นทั่วไป
อาทิตย์ศักดิ์สิทธิ์กว่า

ผนตกพืชโต มีพันธุ์พืช แต่เมฆฝนไม่มีทุกคราว แต่อาทิตย์มีทุกทิวา
ฝนตกศักดิ์สิทธ์ แต่ไม่เท่าอาทิตย์

กลางคืน ไม่มีอาทิตย์ มีแต่พระจันทร์ พระจันทร์เห็นเฉพาะข้างขึ้น
ดวงจันทร์ศักดิ์สิทธิ์ แต่น้อยกว่าดวงอาทิตย์

ดวงดาว เล็กกว่าดวงจันทร์ ดวงจันทร์ ศักดิ์สิทธิ์น้อยกว่าดวงอาทิยต์

พระอาทตย์ ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด

คนที่เก่งฉกาจ แข็งแรงกว่าคนทั้งหลาย ไม่มีใครเทียมได้
ก็เข้าใจว่าเราแข็งแรงเพราะอาทิตย์
วันดีคืนดี แห้งแล้ง ก็คิดว่าอาทิตย์ ลองผิดเลองถูกเพื่อเอาใจอาทิตย์

คนมาก จากหัวหน้าเผา ขยายเป็นผู้นำ ขยายเป็นผูปกครอง
ก็เป็นบุตรของอาทิตย์ เวลาหลงอำนาจใดต้องการอะไรก็เป็นความต้องการของอาทิตย์ ดวงอาทิย์คือพระเจ้ายุคแรก

ความคิดคนก็คิดไปว่าอะไรจะใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ ก็ต้องสร้างดวงอาทิตย์
เมื่อเห็นอะไรที่เหนือธรรมชาติ ก็นั้นคือผู้สร้าง เพราะสร้างดวงอาทิตย์ได้ก็ต้องสร้างโลกและมนุษย์โลกได้

ต้องการไม่ให้ชาวเมืองทำอะไร ก็อย่าทำอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะพระเจ้าไม่ประสงค์ พอมีภัยพิบัติ ก็พระเจ้าลงโทษ จะฆ่าคนบูชายันก็พระเจ้า
ต้องการให้ตีเมืองนั้นยึดเมืองนี้ก็พระเจ้า

และเมื่อใดที่พระเจ้ามีผู้มาหักล้างที่ไม่ใช่คนชั้นสูงแน่นอนต้องโดนปราบปราม
พัฒนาการของพระเจ้าเริ่มมาเรื่อยๆ
จากที่ใช้สนองตันหาของผู้ปกครอง หรือผู้มีอำนาจ ผู้ปกครอง

เมื่อพัฒนาการของพระเจ้า มีหมอที่ติดต่อกับพระเจ้าได้ หมอที่ติดต่อกับพระเจ้าจึงเป็นผู้มียศศักดิ์

เมื่อพัฒนาการมาถึง ขั้นหนึ่งมนุษย์ เริ่มแยกแยะควาดี ความชั่วพระเจ้ากลายเป็นผู้ที่ใช้เผยแพร่ คำสอน ของนักปรัชญา
ที่พระเจ้า ประสงค์ให้ทำความดี คนกลัวพระเจ้าจึงทำความดี และเชื่อมคนเข้าด้วยกัน

เมื่อคนไปเจอ พวกที่ไม่ได้นับถือพระเจ้าแบบเราจึงแบ่งแยก ฆ่าฟันเพื่อพระเจ้าของตน เพื่อหลักการของตน และทุกอย่างก็เพื่อพระเจ้า

พระเจ้าบางทีก็ตกเป็นเครื่องมีสนองตัณหาของบางกลุ่ม เพราะความศรัธทา

พอทุกคนรู้จักพระเจ้าแล้ว ปรากฏการณ์อันใดคือประสงค์ของพระเจ้า
แต่เมื่อเงินสนองตัณหามากกว่าพระเจ้า เงินจึงสำคัญยิ่ง

พระเจ้าจึงพัฒนาเป็นผู้ให้ที่มีค่ามากกว่าเงินเป็นทางใจ ยุคสมัยพัฒนาขึ้น
คนต้องการวัตถุมากขึ้น พระเจ้าให้วัตถุไม่ได้ พระเจ้าก็ต้องพัฒนาตามไป

วันใดวันหนึ่งวิทยาศาสตรืตอบโจทย์ของดลกได้แล้ว พระเจ้าก็ต้องพัฒนาการต่อไป ให้เหนือกว่าวิทยาศาสตร์


พระเจ้าไม่ได้ให้กำเนิดมนุษย์ แต่มนุษย์ให้กำเนิดพระเจ้า
พระเจ้าไม่ได้พัฒนาอะไร แต่มนุษย์พัฒนาพระเจ้า
พระเจ้าต้องพัฒนาไปตาม ค่านิยมวัตถุ อันเพิ่มมากขึ้นของใจคน
พระเจ้าต้องปรับตัว ตามใจหยาบช้าของคนไปเรื่อยๆ
พระเจ้าไม่เหนื่อย แต่คนที่สร้างศรัทธาให้พระองค์เหนื่อยมาก

 

อันนี้โดนใจ...........

 

พระเจ้าคงอยู่ได้ เพราะความศรัทธาของมนุษย์


เมื่อไม่มีลูกศิษย์ แล้วจะเป็นอาจารย์ได้อย่างไร......

 

เขียนได้ดีมากโดนใจใช่เลย

พระเจ้าไม่ได้สร้างมนุษย์

เเต่มนุษย์สร้างพระเจ้า

ทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

ไม่มีที่มา ไม่มีที่ไป ไม่มีต่ำกว่า ไม่มีเหนือกว่า

เพราะทุกอย่าง คือ สิ่งเดียวกัน

 

คมยิ่นักข้าน้อยขอคารวะหนึ่งจอก

 

ข่าวตัด.....

เหนือกว่านั้น เฟซบุ๊คยังเป็น "ค้อนยักษ์" ทุบทำลายปราการแห่งการซุบซิบนินทา ใน"สภากาแฟ" และ "ที่ลับ ๆ" ให้กลายมาเป็นภาษาพูดกันอย่างโจ่งแจ้งบนระบบเครือข่ายไอที (หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นการทุบทำลายพรมแดนระหว่าง "พื้นที่ส่วนตัว" กับ "พื้นที่สาธารณะ") ตั้งแต่ประเด็นในหมู่เพื่อนฝูง ไปถึงประเด็นสังคม และความขัดแย้งระดับชาติ เช่นเดียวกับการเกิดปรากฎการณ์ "ล่าแม่มด" ผ่านเฟซบุ๊คในหลายประเทศ ที่ส่งผลให้เหยื่อบางราย ต้องฆ่าตัวตายเพราะทนความอับอายไม่ไหว

1 ใน 10 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี : "ซัคเคอร์เบิร์ก"ยอดมนุษย์ผู้พลิกโลก ให้ถูกสยบใต้อิทธิพล"เ=

 

เต๋ากล่าวไว้ว่า

ในหยินมีหยาง ในหยางมีหยิน

อำนาจเหนือธรรมชาติ (Super Natural Power) มีอยู่จริง แต่ประชากรมนุษย์กระจัดกระจายอยู่ตามทวีปต่างๆ เป็นคนคล้ายกัน แต่ไม่เหมือนกัน มุมมองที่ตนเองเห็นก็แตกต่างกันไปตามภูมิศาสตร์โลก เมื่อประสบอำนาจเหนือธรรมชาติเหมือนกัน ก็คิดไปตามภาษาวัฒนธรรมและประสบการณ์ของตน จึงมีเทพที่แตกต่างกันไป แต่ก็มีภาวะเทพเหมือนกัน

ท่านที่มีเทพมีองค์ไม่ว่าท่านศาสนาอะไร หรือ ไม่มีศาสนา ลองถอดรหัสวันเกิดดูสิ

 

ขอนำไปติด facebook หน่อยนะ

 

ยังไงก็เพิ่มผมเป็นเพื่อนด้วยนะครับ
Freedom Freeman | Facebook

 

นำพรแด่ทุกท่าน ..




ด้วยรัก ..ศุภักษร

 

เป็นข้อคิดที่ดีครับ

หากผู้ศึกษาเข้าถึงหลักคำสอนในหลักพุทธแล้ว

ย่อมตระหนักรู้ใน กายวาจา แล ใจ

เป็นไปเพื่อ ไม่ทำให้เดือดร้อน ในตนและผู้อื่น

เราไม่ใด้อยู่ผู้เดียวในโลก ล้วน เกิด แก่ เจ็บ ตาย เสมอกัน

เพื่อนๆ จักสำแดงใดๆ พึงถี่ถ้วน แล รอบครอบครับ

 

จะยอมรับได้มั้ยถ้าพระเจ้าก็คือแบคทีเรียตัวเล็กๆที่เรามองไม่เห็นเนี่ย นอกนั้นก็คืออีกมิติที่มองไม่เห็น