กุมารทองที่คนไปเช่ามาบูชากับกุมารเทพที่คนปฏิบัติดีแล้วเค้ามาขออยู่ด้วยเองต่างกันตรงไหนคะ?

ตามหัวข้อเลยค่ะ สงสัยมานาน

 

ไม่รู้ค่ะ ไม่เคยเลี้ยง 555 แต่เท่ามี่ผ่านตา กุมารเทพก็ส่วนหนึ่ง ขึ้นชื่อว่าเทพ ก็คงจะดีอยู่ มาขออยู่เองได้ เน้นบุญกุศล ปฎิบัติธรรมสมาธิ
ส่วนที่ไปหาเช่า ก็ขึ้นอยู่ว่าไปเช่ามาจากผู้ใด ??? อาจได้ตั่งแต่กุมารผี ถึง กุมารเทพ ค่ะ
ปล.รอท่านอื่นที่มีประสบการณ์มาว่าวให้ฟังเหมือนกัน

 

ถามเพิ่มเติมค่ะ ถ้ามีกุมารเทพมาอยู่ด้วยแล้วไปซื้อตุ๊กตาหุ่นกุมารมาให้เค้าแทนตัวเค้า แต่ไม่ได้ไปปลุกเสกเบิกเนตรที่ไหนเลย แบบนี้ได้ไหมคะ? ก็สวดมนต์ให้ฟัง อุทิศบุญกุศลให้ปรกติ

 

ถ้าคำจำกัดความของคำว่า กุมารทองแบบที่ใช้ศพเด็ก
ที่เสียชีวิตตอนอยู่ในท้องนั้น ปัจจุบันน่าจะหาได้ยากมาก
ถ้าประเภทนี้ให้เลขสองตัวค่อนข้างแม่น...
ส่วนกุมารเทพ ก็อยู่ในรูปหุ่นกุมารทอง..
แต่ว่า กำเนิดเกิดจากกำลังจิตของท่านที่ปลุกเสก
และจิตญานเข้ามาเพื่อร่วมสร้างบารมีและ..
จะถูกผูกไว้ด้วยการทำทานและถูกควบคุมจากข้างบนอยู่...
ดังนั้นแม้ว่าจะดูเด็ก แต่นิสัยไม่เด็กและไม่ค่อยพูดมาก
ไม่ขี้เล่น ไม่ต้องบูชาด้วยเครื่องเซ่น เพราะต้องการกำลังบุญ พอเต็ม
แล้วก็เปลี่ยนยกระดับขึ้นไปได้เอง..
ไม่เหมือนกุมารทอง ง๋องแง้ง ขี้เล่น กระโดดไปกระมา..
เป็นดวงวิญญาน ที่กำลังไม่มาก ยังติดนิสัยแบบโลกๆ..
ที่ถูกกำกับด้วยบทคาถาบางอย่างให้อยู่ในรูปเด็กง๋องแง้ง..
แท้จริงแล้วถือว่าเป็นวิบากกรรมของดวงจิตเค้าครับ..
ส่วนคนที่ทำก็ยิ่งจะมีวิบาก เพราะว่าถ้าเกิดชาติหน้า
จะถูกตัดขาดเรื่องสัมผัสการรับรู้ทุกอย่างครับ..


ก็ให้พิจารณาเอาเองว่า เราจะเลือกชอบหรือคบหาหรือไม่..
แต่หากไปคบหา จะตัดในเรื่องอานิสงค์ในการที่เราจะได้
พบได้เจอระดับสูงๆขึ้นไปอีกครับ..

ปล.ถ้าเป็นส่วนตัว ถ้าเค้ามาขออยู่ด้วย เราอุทิศบุญให้ก็พอครับ
ไม่ต้องไปอนุญาตให้มาอยู่ด้วยครับ
ทั่วๆไป ถ้าเราเป็นคนชอบทำบุญบ่อยๆและต่อเนื่อง
จะเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกนี้จะชอบมาขออยู่ด้วยเป็นเรื่องปกติครับ
ไม่งั้นจะเป็นการสร้างวิบากกรรม
ต่อภพต่อชาติกันเพิ่มขึ้นไปอีกครับ...

 

ขอบพระคุณค่ะสำหรับความรู้

ส่วนตัวเคยมีมาในฝันมาขออยู่ด้วย2ครั้ง3องค์แล้วค่ะ(ไม่รู้เรียกองค์ถูกไหม)
ครั้งแรกมาแบบบอกชื่อและขออยู่ด้วยหนูก็ให้อยู่นะคะ ครั้งที่2มาเป็นแฝดเลยแต่หนูบอกไปว่าช่วงนี้ไม่มีเงินเลี้ยงไว้รวยก่อนค่อยมา ทั้ง2ครั้งที่ฝันลักษณะเค้าจะเป็นเด็กใส่สังวาลเต็มตัวนุ่งโจงกระเบนมาก็เลยไม่แน่ใจว่าเค้าเป็นกุมารประเภทไหน แต่สวดมนต์ก็ให้เค้าทุกครั้งค่ะ

 

เป็นประเภทที่กำเนิดจากกำลังจิตของฆารวาสครับ..
ที่ได้ผ่านการฝึกฝนทางด้านนี้มา.
จะต่างกับที่พระสงฆ์ท่านทำตรง
ที่ของพระท่านจะไม่ค่อยมี
ความคิดตนเองเข้ามาร่วม.
คือไม่มีการแสดงความคิดเห็นใดๆ..
ส่วนเรื่องมาเพื่อหนุนให้เราทำบุญ
และมีข้างบนควบคุมเหมือนๆกันครับ..
และปกติมักจะดูอวบๆ หน้าตาอิ่มๆ และไม่ใส่เสื้อ.
และดูมีพุงเล็กน้อยมีพุงแบบโค้งรับหน้าอก
ไม่ใช่แบบผู้ชายมีพุงที่เห็นพุงยื่นๆนะครับ
และผิวออกขาวเหลือง...
ถ้าเรียกเรามักจะเรียกชื่อเล่น เช่น พี่ ก พี่ ข
และจะได้ยินทางด้านเหนือหูด้านซ้าย..
แต่ถ้าในฝันจะมาทางด้านขวา(ตรงนี้ไม่แน่ใจนะครับ)
วิธีการคือ เราไม่ต้องสนใจอะไรครับ
ให้เฉยๆไปเลย.ส่วนเค้าจะอยู่หรือไม่อยู่ก็เรื่องของเค้าครับ..
ถ้าจะให้ดีเราก็อุทิศส่วนกุศลให้ไปเลยครับ..
แบบขอบารมีพระรัตนตรัยก่อนแล้วค่อยรวมกับ
ที่เราเคยทำมาตั้งแต่ชาติต้นยันชาติปัจจุบัน
และก็อุทิศให้เค้าไปเลย..ถ้าจะสวดมนต์
จะได้ผลควรสวดคาถาสายบารมี
แต่ให้ขอท่านเจ้าของคาถาช่วยปรับภพภูมิให้ด้วยครับ
และถ้าเค้าจะอยู่ช่วยเราก็แล้วแต่เค้า..
แต่เราไม่ควรเชื้อเชิญอีกนะครับ
ที่ผ่านมาแล้วก็ให้ถือว่าแล้วไปครับ ไม่ต้องสนใจอะไร.
และวันหนึ่งถ้าหากเราสะลึมสะลือ แล้ว
ลืมตาขึ้นมาเราจะเค้ายืนเห็นทางด้านซ้าย
ประมาณช่วงหัวไหล่ นี่บอกได้ว่า
ตอนนี้เค้าอยู่ดูแลเรา แต่จะไปหรือไม่ไป
จะอยู่หรือไม่อยู่ต่อ..
ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของเค้านะครับ (^_^)
ปล.ประมาณนี้ เล่าให้ฟังเฉยๆนะครับ

 

ถ้าไม่เคยมี อย่าไปนำเขามาเลี้ยงมาดูแลเลยครับ หมั่นประพฤติปฏิบัติตามคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นดีสุดครับ ของพวกนี้ไม่ใช่สรณะที่พึ่งของเรา

 

กุมาร ก็คือเด็กนั้นแหละ มีการเกิดอยู่2แบบ 1.โลก 2.สวรรค์

พวกที่เกิดสวรรค์ส่วนใหญ่จะทำแค่ข้างบนสวรรค์จะลงมา ทำภารกิจที่ได้รับมาเท่านั้น
พวกที่เอามาปลุกเสก คงจะทำไม่ได้ถ้าไม่ใช่วิญญาณ

ถ้าถามว่าต่างกันยังไง
1.กุมารเทพจะฝึกอะไรมามั้งเช่นกสิณ มีศิลมีธรรม
2.กุมารปลุกเสกมาจากวิญญาณทั่วไป

ถ้าคุณรับมาแล้วไม่ว่าทางไหนก็ตามแม้แต่ฝัน เขาก็อยู่แถวนั้นแหละ ไม่ต้องไปทำอะไรก็ได้

 

เหมือนเค้ามาอยู่ด้วยแต่ก็ไม่เคยสัมผัสอะไรกับใครได้เลย บางทีก็ลืมเค้าไปเฉยๆ แต่ถ้าฝันเห็นจะจำแม่นหน่อย ขอบพระคุญค่ะสำหรับความรู้จากทุกท่าน