ก้าวข้าม-เวทนา:องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร วัดป่าห้วยริน ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย Nana nora, 5 มีนาคม 2018.

  1. Nana nora

    Nana nora สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    386
    กระทู้เรื่องเด่น:
    5
    ค่าพลัง:
    +68
    ACE11EF3-E3EF-47A0-9CF9-199C0A19D686.jpeg

    “...คืนต่อมา ก็ถึงกาลที่จะตัดสินปัญหา ในการทีจะได้นั่งข้ามเวทนา เอาล่ะคืนนี้ขอให้รู้ดี รู้ชั่ว รู้ดำ รู้แดงกันไปเลย ตายก็คือตาย เพราะได้ตั้งสัจจะไว้แล้วว่า “ถ้าเอาดีไม่ได้ขอตายซะ” คงถึงกาลเวลานั้นแล้ว สวดมนต์ทำวัตรเสร็จตั้งแต่หกโมงเย็น ตระเตรียมทุกสิ่งอย่างในบริขารแปดให้อยู่ข้างกาย เผื่อว่าเมื่อถึงคราวตายจะได้ไว้ลายศิษย์พระตถาคต ๑๙ นาฬิกา ก็เข้าที่ภาวนา

    พอถึง ๒๑ นาฬิกา เวทนาก็เริ่มเกิดแล้ว แล้วก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงขั้นสุด ๆ เหมือนเข็มทิ่มแทงทุกจุดของร่างกาย ทุกอณู ทุกปรมาณู ของทุกขุมขน แสบร้อนเหมือนไฟนรก เวทนาทุกข์สุด ๆ เหมือนอยู่ในมหานรกใหญ่ทั้งแปดขุม เราก็โสสุด โสเป็น โสตายไม่ทำลายซึ่งสัจจะ ร่างกายสั่นสะท้าน เส้นเอ็ดดิ้นกระตุกจนกุฏินั่นสั่นสะเทือน เวทนาถึงขั้นสุด ๆ คือ ปวดสุด ๆ แสบสุด ๆ ร้อนสุด ๆ ร่างกายเริ่มมีอาการชาไปหมดทั้งตัวเป็นเวลานาน ไม่สนใจกับวันเวลานาที จากนั้นร่างของเราก็เริ่มพองตัวใหญ่ขึ้น ๆ ไปเรื่อย ๆ จนร่างกายใหญ่เต็มกุฏิ มีเสียงดัง ปุ๊...ปุ๊...ปุ๊...ปุ๊...ปุ๊...ปุ๊
    ร่างกายของเราเริ่มแตกร้าวเหมือนดินที่แตกระแหง สติของเราตั้งมั่นอยู่ตลอด “ตายเป็นตาย” คือโสสุดไม่สะทกสะท้านหวั่นไหว

    ทันใดนั้นร่างกายของเราก็ระเบิด ตูม... ตูม...ตูม...ตูม... ชิ้นส่วนของร่างกายแตกกระจัดกระจาย สติรู้ลมครั้งสุดท้าย ลักษณะลมนั้นใสคล้ายหลอดแก้วเล็ก ๆ เท่าเส้นด้าย เหมือนกับลมหายใจเข้าออก อึดใจเดียวลมก็ดับ สติตัวรู้ก็ดับ เหมือนตายจากโลก ไม่มีสมมติบัญญัติใด ๆ อยู่ในนั้นนานจนถึงเช้าของวันใหม่ ตัวรู้ สติ ลม ค่อย ๆ คืนมา แต่ว่าไม่มีกาย มีตัวรู้อยู่ในสมมติบัญญัติว่าตัวเบาหวิวอยู่อย่างนั้น อัศจรรย์มาก

    จู่ ๆ ไม่ทราบว่าอิฐมาจากที่ใดได้ก่อตัวขึ้นเป็นรูปร่างเหมือน จะปั้นหุ่นเรา รู้สึกว่าตัวตนของเราหนักขึ้นเรื่อย ๆ อิฐก็ก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ อย่างอัตโนมัติ มีความรู้สึกว่าร่างกายของเราหนักเหมือนกับภูผา มีความรู้สึกประหนึ่งว่าร่างกายถูกยึดอยู่กับพื้น พายุที่โหมกระหน่ำอย่างหนักสาหัสสากรรจ์มาในทิศทั้งสี่ ก็ไม่มีความรู้สึกว่าจะหวั่นไหว ช้างพลายเป็นล้าน ๆ ตัวมาแตะมาถีบก็ไม่สะทกสะท้าน โอ้โฮ! อัศจรรย์มากนะ จากนั้นเราก็ค่อย ๆ ขยับกายกว่าที่จะลุกขึ้นได้ ลุกขึ้นก็ร่วงผล็อย ๆ พอลุกขึ้นได้ก็ไปบิณฑบาตเดินดุบเดี่ยง ๆ เดี้ยงอยู่เป็นสัปดาห์ ร่างกายจึงค่อย ๆ ปรับสภาพเป็นปกติ อัศจรรย์มากนะธรรมในขั้นโสสุดในวิมุตพระนิพพาน เป็นสันทิฏฐิโก เป็นอกาลิโก เป็นปัจจัตตังเวทิตัพโพวิญญูหิ เป็นธรรมที่รู้เองเห็นเองไม่จำกัดกาลเวลา ผู้ปฏิบัติพึงรู้ได้เฉพาะตน”

    โอวาทธรรม:องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร
    วัดป่าห้วยริน ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
    หนังสือที่ระลึกงานอาจาริยบูชา ๕๕ ปี ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๐ พิมพ์ครั้งที่ ๒
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2018

แชร์หน้านี้

Loading...