ขอความกรุณาร่วมมือร่วมใจ สามัคคี อ่าน ทำความเข้าใจกฏระเบียบต่างๆ>สร้างสรรค์สังคมให้ร่มเย็นด้วยดี

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ผ่อนคลาย, 9 มีนาคม 2008.

  1. ผ่อนคลาย Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    5,775
    ค่าพลัง:
    +12,934
    <TABLE id=table1 width=760><TBODY><TR><TD vAlign=top width=760>
    พุทธศาสนสุภาษิต คือ สุภาษิต ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงดำรัสไว้ ซึ่งมีคุณค่าสูงส่ง สามารถใช้ได้ทั้งเป็นแนวทางดำเนินชีวิต เตือนใจ หาคำตอบที่ดีสำหรับปัญหาที่สงสัย หรือ แม้แต่เตือน สติ ให้เรา หู ตา สว่าง เกิดปัญญาเข้าใจ ได้อุบายที่ดีในการดำเนินชีวิต การแก้ปัญหา และพ้นจากเครื่องเศร้าหมองได้
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=760></TD></TR></TBODY></TABLE>



    <TABLE id=table1 width=760><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160>
    </TD><TD vAlign=top width=400>


    หมวดวาจา
    -วาจาเช่นเดียวกับใจ

    -ไม่ควรเปล่งวาจาที่ชั่วเลย
    -คนพาลที่ยังไม่ถูกผูกมัด แต่พอพูดในเรื่องใด ก็ถูกผูกมัดในเรื่องนั้น
    -คนกล่าววาจาชั่วย่อมเดือดร้อน
    -ควรกล่าวแต่วาจาที่น่าพอใจ
    -คนโกรธมีวาจาหยาบ
    -คำสัตย์แลเป็นวาจาที่ไม่ตาย
    -คนพูดไม่จริง ย่อมเข้าถึงนรก
    -ควรเปล่งวาจางาม
    -ควรเปล่งวาจาไพเราะ ที่มีประโยชน์
    -พูดดี เป็นมงคลอย่างสูงสุด
    -พูดอย่างใด ควรทำอย่างนั้น
    -ควรกล่าวแต่วาจาที่ไม่ยังตนให้เดือดร้อน
    -ในกาลไหนๆ ก็ไม่ควรกล่าววาจาไม่น่าพอใจ
    -เปล่งวาจางามยังประโยชน์ให้สำเร็จ
    -ระมัดระวังวาจา เป็นความดี
    -ความบริสุทธิ์พึงรู้ได้ด้วยถ้อยคำ
    -วาจาสุภาษิต ย่อมมีผลแก่ผู้ปฎิบัติ เหมือนดังดอกไม้งาม ที่มีทั้งสีสวย และกลิ่นอันหอม
    -คนเกิดมาชื่อว่ามีขวานเกิดติดปากมาด้วย สำหรับให้คนพาลใช้ฟันตนเอง ในเวลาพูดคำชั่ว
    -ไม่ควรพูดจนเกินกาล ไม่ควรนิ่งเสมอไป ควรกล่าววาจาที่ไม่ฟั่นเฝือ ควรกล่าวให้พอดีๆ เมื่อถึงเวลา
    -คนใดเมื่อถูกอ้างเป็นพยาน เบิกความเท็จ เพราะตนก็ด ีเพราะผู้อื่นก็ดี เพราะทรัพย์ก็ดี พึงรู้ว่าผู้นั้นเป็นคนเลว
    -พึงเปล่งวาจางามเท่านั้น ไม่พึงเปล่งวาจาชั่วเลย การเปล่งวาจางามยังประโยชน์ให้สำเร็จ คนเปล่งวาจาชั่วย่อมเดือดร้อน
    -คำสัตย์แลเป็นวาจาไม่ตาย นั่นเป็นธรรมเก่า สัตบุรุษ ทั้งหลายเป็นผู้ตั้งมั่นในคำสัตย์ที่เป็นอรรถ และเป็นธรรม
    -ไม่ควรพูดจนเกินกาล ไม่ควรนิ่งเสมอไป เมื่อถึงเวลาควรพูดพอประมาณ ไม่ฟั่นเฝือ
    -คนเขลา เมื่อกล่าวในเรื่องใดไม่ถูกผูก ก็ติดในเรื่องนั่น คนฉลาด เมื่อกล่าวในเรื่องใด แม้ถูกผูก ก็หลุดในเรื่องนั่น
    -ผู้ใดไม่โกรธ ไม่สะดุ้ง ไม่โอ้อวด ไม่รำคาญ พูดด้วยปัญญา ไม่ฟุ้งซ่าน ผู้นั้นแลชื่อว่าเป็นมุนี มีวาจาสำรวมแล้ว
    -ควรกล่าววาจาที่น่ารักอันผู้ฟังยินดีเท่านั้น เพราะคนดีไม่นำพาคำชั่วของผู้อื่น คนดีจะกล่าวแต่คำไพเราะ
    -บุคคลพึงกล่าววาจา ที่ไม่เป็นเหตุยังตนให้เดือดร้อน และไม่เป็นเหตุเบียดเบียนผู้อื่น วาจานั้นแล เป็นสุภาษิต
    -ถ้ามีวาจาที่ประกอบด้วยข้อความแม้ตั้งพัน ซึ่งไม่เป็นประโยชน์แล้ว ข้อความที่เป็นประโยชน์เพียงบทเดียว ที่ฟังแล้วสงบระงับได้ ย่อมประเสริฐกว่า
    -จะทำสิ่งใดพึงพูดสิ่งนั้น สิ่งใดไม่ทำไม่พึงพูดถึง บัณฑิตย่อมจะหมายเอาได้ว่า คนไม่ทำดีแต่พูด
    -บุคคลทำสิ่งใดควรพูดสิ่งนั้น ไม่ทำสิ่งใดไม่ควรพูดสิ่งนั้น บัณฑิตย่อมกำหนดรู้คนที่ไม่ทำ ได้แต่พูด
    -พระพุทธเจ้าตรัสพระวาจาใด ย่อมเป็นคำปลอดภัย เพื่อบรรลุพระนิพพาน และเพื่อทำที่สุดแห่งทุกข์ พระวาจานั้นแล เป็นสูงสุดแห่งวาจาทั้งหลาย
    -ผู้ใดสรรเสริญคนควรติ หรือติคนที่ควรสรรเสริญ ผู้นั้นย่อมเก็บโทษของตนไว้ด้วยปาก เขาไม่ได้สุขเพราะโทษแห่งปากนั้น
    -ผู้มีภูมิปัญญาย่อมไม่พูดพล่อยๆ เพราะเหตุแห่งคนอื่นหรือตนเอง ผู้นั้นย่อมมีผู้บูชา ในท่ามกลางชุมชน ภายหลังเขาย่อมไปสู่สุคติ
    -ผู้ใด พึงกล่าวถ้อยคำอันไม่เป็นเหตุให้ใครๆ ขัดใจ ไม่หยาบคาย เป็นเครื่องให้รู้ความได้และเป็นคำจริง เราเรียกผู้นั้นว่าเป็นพราหมณ์ ​
    </TD><TD vAlign=top width=200>




    </TD></TR></TBODY></TABLE>​




    <TABLE id=table1 style="WIDTH: 760px; HEIGHT: 102px" width=760><TBODY><TR><TD vAlign=top width=760>


    *** คัดลอกมาจาก หนังสือพุทธศาสนสุภาษิต ฉบับสมบูรณ์ โดยธรรมสภา





    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  2. ผ่อนคลาย Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    5,775
    ค่าพลัง:
    +12,934
    โฟกัส เรื่องนี้อีก เผื่อหลงตาไป

    การปลอม ชื่อให้คล้ายกัน



    <object id="mediaplayer" style="width: 264; height: 64" standby="Loading Microsoft Windows Media Player components..." classid="CLSID:6BF52A52-394A-11d3-B153-00C04F79FAA6">
    <param NAME="URL" VALUE="http://palungjit.org/attachments/a.575891/">
    <param NAME="rate" VALUE="1">
    <param NAME="balance" VALUE="0">
    <param NAME="currentPosition" VALUE="0">
    <param NAME="defaultFrame" VALUE>
    <param NAME="playCount" VALUE="1">
    <param NAME="autoStart" VALUE="true">
    <param NAME="currentMarker" VALUE="0">
    <param NAME="invokeURLs" VALUE="-1">
    <param NAME="baseURL" VALUE>
    <param NAME="volume" VALUE="9">
    <param NAME="mute" VALUE="0">
    <param NAME="uiMode" VALUE="full">
    <param NAME="stretchToFit" VALUE="0">
    <param NAME="windowlessVideo" VALUE="0">
    <param NAME="enabled" VALUE="-1">
    <param NAME="enableContextMenu" VALUE="-1">
    <param NAME="fullScreen" VALUE="0">
    <param NAME="SAMIStyle" VALUE>
    <param NAME="SAMILang" VALUE>
    <param NAME="SAMIFilename" VALUE>
    <param NAME="captioningID" VALUE>
    <param NAME="enableErrorDialogs" VALUE="0">
    <param NAME="_cx" VALUE="6985">
    <param NAME="_cy" VALUE="1244">
    </object>
    <!-- google_ad_section_end -->​
     
  3. ผ่อนคลาย Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    5,775
    ค่าพลัง:
    +12,934
    <CENTER>
    >>>--><<--<<<


    </CENTER>
    ร่วมมือ ร่วมใจป้องกัน อาชญากรรม โปรดนำ banner ตำรวจ ติดในเว็บไซต์ ของท่าน หากท่านพบเห็น การกระทำผิด ทราบเบาะแส ต้องการ เสนอความคิดเห็น ร้องเรียน หรือพบเห็น Website / Chatroom ใด ที่น่าจะเป็นความผิด หรือ ไม่เหมาะสม ทั้งในเรื่อง ภาพลามกอนาจาร, การค้าประเวณี, การทารุณทางเพศกับเด็ก, การพนัน, การหมิ่นประมาท, ทำให้เสียชื่อเสียง ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องกับ ประเทศไทย อันจะทำให้เสื่อมเสีย เกียรติภูมิ และศักดิ์ศรีของ ประเทศไทย ขอได้โปรด แจ้งข้อมูล และรายละเอียด โดยส่ง E-mail ไปที่ htcc@police.go.th เพื่อที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะได้ดำเนินการ ในส่วนที่เกี่ยวข้อง ต่อไป


    <HR width="95%" height="2px">
    ศูนย์ตราจสอบและวิเคราะห์การกระทำผิดทางเทคโนโลยี ​
    สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคาร 33 ชั้น 4 ถนนพระรามที่ 1 เขตปทุมวัน กทม. 10330
    โทร. 0-2205-2627 โทรสาร 0-2205-1889
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  4. ผ่อนคลาย Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    5,775
    ค่าพลัง:
    +12,934
    ผรุสาวจา

    (๖)
    ผรุสาวจา

    ถาม
    ผรุสวาจา หมายความว่าอย่างไร
    ตอบ
    หมายความว่า การกล่าวหยาบ คำด่า คำแช่ง
    ได้แก่ ด่าด้วยอักโกสวัตถุ ๑๐ ประการ มีด่าว่า ท่านเป็นอูฐ
    เป็นโค เป็นต้น

    ถาม
    ผรุสวาจานี้ สำคัญอยู่ตรงไหน ยกตัวอย่าง
    ประกอบอธิบายด้วย
    ตอบ
    ตรงเจตนา คือ ถ้าเจตนาหยาบ ได้แก่ เจตนาที่อยู่ใน
    โทสมูลจิต ถึงแม้คำพูดที่พูดออกมานั้นเป็นถ้อยคำสุภาพ
    ก็ตาม คำพูดนั้นก็จัดเป็นผรุสวาจาเหมือนกัน เช่น ผู้พิพากษา
    กล่าวคำตัดสินประหารชีวิตผู้ต้องหา แม้ในขณะที่กล่าวนั้น
    จะใช้วาจาสุภาพ หน้าตายิ้มแย้มก็ตาม แต่เจตนาที่มุ่งหมาย
    ให้ประหารชีวิตนั้น จัดเป็นเจตนาอย่างหยาบ ฉะนั้น
    วาจาที่กล่าวออกมานั้น จึงจัดเป็นผรุสวาจาได้

    ถ้าเจตนาไม่หยาบ เจตนาดี ต้องการให้ผู้ฟังได้ประโยชน์
    เช่น พ่อแม่ต้องการให้ลูกไม่มีอันตราย เมื่อลูกไม่เชื่อแล้ว
    กล่าววาจาไม่อ่อนหวาน ไม่น่าฟัง ตัวอย่าง กล่าวว่า
    "ถ้าเจ้าขืนไป จงถูกกระบือขวิดตาย" อย่างนี้ไม่จัดเป็น
    ผรุสวาจา เพราะพ่อแม้ย่อมปรารถนาดีต่อลูกเสมอ
    ไม่ว่ากาลไหนๆ

    แม้พระอุปัชฌาย์ อาจารย์ ซึ่งมีความเมตตากรุณาต่อลูกศิษย์
    อาจจะกล่าวคำบริภาษรุนแรง ต่อลูกศิษย์ผู้มีนิสสัยว่ายาก
    อบรมยาก โดยไม่มีความละอาย ไม่มีความเกรงกลัวต่อความผิด
    ซึ่งบางครั้งถึงกับขับไล่ไม่ให้อยู่ในอาวาสของท่านก็ตาม
    ก็ไม่จัดเป็นผรุสวาจา เพราะความจริงนั้น ท่านมีจิตหวังดีต่อศิษย์
    อยู่เสมอ ปรารถนาอยากให้ศิษย์มีความรู้ความเจริญรุ่งเรือง
    ทั้งปริยัติและปฏิบัติตลอดจนถึงมรรค ผล นิพพาน

    รวมความว่า การกล่าววาจาของผู้ใหญ่ เช่น มารดาบิดา
    อุปัชฌาย์ อาจารย์ นั้น ย่อมไม่ประกอบด้วยเจตนาร้าย
    ต่อบุตรธิดาและศิษย์ของตนเลย มีแต่ความปรารถนาดี
    ทั้งสิ้น คำกล่าวนั้นจึงไม่เป็นผรุสวาจา

    ถาม
    องค์ของผรุสวาจามีเท่าไร อะไรบ้าง
    ตอบ
    ๑.
    โกโป ความโกรธ
    ๒.
    อุปกุฏโฐ บุคคลที่ถูกด่า
    ๓.
    อกฺโกสนา กล่าวคำหยาบนั้น

    ถาม
    ผรุสวาจามีโทษมาก มีโทษน้อย เพราะเหตุไร
    ตอบ
    มีโทษมาก เพราะเหตุดังนี้
    ๑. เพราะผู้นั้นมีคุณมาก
    ๒. เพราะถึงความเป็นกรรมบถ
    ๓. เพราะกิเลสแรงกล้า
    ๔. เพราะความพยายามกล้า

    มีโทษน้อย เพราะเหตุดังนี้
    ๑. เพราะผู้นั้นมีคุณน้อย
    ๒. เพราะยังไม่ถึงความเป็นกรรมบถ
    ๓. เพราะกิเลสอ่อน
    ๔. เพราะความพยายามอ่อน


    ที่มา คลิกดูรายละเอียดอื่นๆ
     
  5. ผ่อนคลาย Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    5,775
    ค่าพลัง:
    +12,934
    เรื่องสำหรับด่ามี ๑๐ อย่าง

    อักโกสวัตถุ เรื่องสำหรับด่ามี ๑๐ อย่าง คือ
    ๑. ชาติ ได้แก่ชั้นหรือกำเนิดของคน
    ๒. ชื่อ
    ๓. โคตร คือตระกูลหรือแซ่
    ๔.การงาน
    ๕. ศิลปะ
    ๖. โรค
    ๗. รูปพรรณสัณฐาน
    ๘. กิเลส
    ๙. อาบัติ
    ๑๐. คำสบประมาทอย่างอื่นๆ

    ค้นคว้ารายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ และ ที่นี่
     
  6. ผ่อนคลาย Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    5,775
    ค่าพลัง:
    +12,934
    ถ้อยคำอันไม่สมควร

    6.3 ถ้อยคำอันไม่สมควรและสมควร

    ถ้อยคำอันไม่สมควร

    สำหรับถ้อยคำอันไม่สมควรนั้นท่านแบ่งไว้เป็นสองส่วนคือ

    1. ติรัจฉานกถา
    ติรัจฉานกถาเป็นถ้อยคำที่เป็นเครื่องขัดขวางกับมรรคผลนิพพานนั้น มีดังนี้
    1) พูดเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับกษัตริย์ รวมถึงราชตระกูล
    2) พูดเรื่องโจรต่างๆ
    3) พูดเรื่องมหาอำมาตย์ราชมนตรีที่เป็นคณะรัฐบาล
    4) พูดเรื่องทหารตำรวจ
    5) พูดเรื่องภัยต่างๆ
    6) พูดเรื่องยุทธศาสตร์การรบ
    7) พูดเรื่องอาหารการกิน มีข้าวและกับเป็นต้น
    8) พูดเรื่องเครื่องดื่มต่างๆ เช่น น้ำดื่มและสุรา
    9) พูดเรื่องเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มต่างๆ
    10) พูดเรื่องที่หลับที่นอน
    11) พูดเรื่องระเบียบดอกไม้ต่างๆ
    12) พูดเรื่องกลิ่นหอมต่างๆ
    13) พูดเรื่องวงศ์ญาติ
    14) พูดเรื่องยวดยานต่างๆ
    15) พูดเรื่องหมู่บ้านต่างๆ
    16) พูดเรื่องนิคมต่างๆ
    17) พูดเรื่องจังหวัดต่างๆ
    18) พูดเรื่องชนบทต่างๆ
    19) พูดเรื่องผู้หญิง
    20) พูดเรื่องผู้ชาย
    21) พูดเรื่องความกล้าหาญ
    22) พูดเรื่องถนนสายต่างๆ และผู้คนในถนนสายนั้น
    23) พูดเรื่องท่าน้ำหรือเรื่องของคนรับใช้
    24) พูดเรื่องวงศาคณาญาติที่ล่วงลับไปแล้ว
    25) พูดเรื่องอื่นๆ โดยเว้นจากเรื่องแรกและเรื่องหลัง
    26) พูดเรื่องใครเป็นผู้สร้างโลกหรือแผนที่โลก
    27) พูดเรื่องมหาสมุทรเป็นคำถามว่า ทำไมมหาสมุทรจึงเรียกว่าสาคร คำตอบก็คือเพราะพระเจ้าสาครเป็นผู้สร้าง เป็นต้น
    28) พูดเรื่องความเจริญและความเสื่อมว่า การกระทำดังนี้เป็นเหตุแห่งความเสื่อม การกระทำดังนี้เป็นเหตุแห่งความเจริญ เป็นต้น
    29) พูดเรื่องป่า
    30) พูดเรื่องภูเขา
    31) พูดเรื่องแม่น้ำ
    32) พูดเรื่องเกาะต่างๆ


    ค้นคว้า เพิ่มเติมที่นี่ ...และที่นี่
     
  7. ผ่อนคลาย Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    5,775
    ค่าพลัง:
    +12,934
    ไม่คบคนพาล

    "ใบไม้ที่ห่อหุ้มปลาเน่า ย่อมต้องพลอยเหม็นแปดเปื้อนไปด้วยฉันใดผู้ที่คบคนพาล ก็ย่อมต้องพลอยเสียชื่อเสียง ติดความเป็นพาลเดือนร้อนเสียหายไปด้วยฉันนั้น"

    คนพาลคือใคร?

    คนพาล คือ คนที่มีใจขุ่นมัวเป็นปกติ เป็นผลให้มีความเห็นผิด ยึดถือค่านิยมผิด ๆ และมีวินิจฉัยเสีย คือ ไม่รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่วอะไรควรอะไรไม่ควร เช่น บัณฑิตเห็นว่า"เหล้า" เป็นของ***************ทำให้ขาดสติ นำความเสื่อมมาให้นานัปการแต่คนพาลกลับเห็นว่า "เหล้า" เป็นของประเสริฐเป็นเครื่องกระชับมิตร หรือบัณฑิตเห็นว่า "การเล่นไพ่" เป็นอบายมุข เป็นทางแห่งความฉิบหาย แต่คนพาลกลับเห็นว่า "การเล่นไพ่"เป็นสิ่งดี เป็นการฝึกสมองซ้อมวิชาคำนวณ ดังนี้เป็นต้น

    คนพาลเป็นคนเหมือนกับเรา คือมีร่างกายประกอบด้วยเลือดเนื้อเช่นเดียวกับเรา และอาจมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเราก็ได้เช่น เป็นญาติพี่น้อง สามีภรรยา ครู อาจารย์ ฯลฯ อาจเป็นผู้มีการศึกษาสูง อาจมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูง อาจมีสมัครพรรคพวกมากแม้กระทั่งอาจบวชเป็นพระภิกษุ ฯลฯ แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร มีความสัมพันธ์กับเราหรือไม่ ขึ้นชื่อว่าพาลแล้ว ถึงแม้จะมีความรู้ มีความสามารถก็ไม่ใช้ความรู้ความสามารถในทางที่ถูกที่ควร เพราะเขาแสลงต่อความดี เหมือนคนไข้แสลงต่อน้ำเย็น


    ลักษณะของคนพาล

    เนื่องจากคนพาลมีใจขุ่นมัวอยู่เสมอ ทำให้ไม่สามารถควบคุมใจให้คิดไปในทางที่ถูกต้องได้ คนพาลจึงมีลักษณะวิปริตผิดจากคนทั้งหลาย ๓ ประการคือ
    ๑. ชอบคิดชั่วต่ำเป็นปกติวิสัย ได้แก่ คิดละโมบอยากได้ในทางทุจริต คิดพยาบาทปองร้าย คิดเห็นผิดเป็นชอบ ฯลฯ
    ๒. ชอบพูดชั่วต่ำเป็นปกติวิสัย ได้แก่ พูดปด พูดคำหยาบ พูดส่อเสียดยุยง พูดเพ้อเจ้อ ฯลฯ
    ๓. ชอบทำชั่วต่ำเป็นปกติวิสัย ได้แก่ เกะกะเกเร ชอบล้างผลาญชีวิตคนและสัตว์ ลักทรัพย์ ฉุดคร่าอนาจาร ฯลฯ

    โทษของความเป็นคนพาล

    ๑.มีความเห็นผิด ก่อทุกข์ให้ตนเอง
    ๒.เสียชื่อเสียง ถูกติฉิมนินทา
    ๓.ไม่มีคนนับถือ ถูกเกลียดชัง
    ๔.หมดสิริมงคลหมดสง่าราศี
    ๕.ความชั่วเภทภัยทั้งหลาย จะไหลเข้ามาหาตัว
    ๖.ทำลายประโยชน์ของตนเองทั่วโลกนี้และโลกหน้า
    ๗.ทำลายวงศ์ตระกูลของตนเอง
    ๘.เมื่อละโลกไปแล้วมีอบายภูมิเป็นที่ไป

    วิธีสังเกตคนพาล

    คนพาลมักกระทำในสิ่งต่อไปนี้ คือ
    ๑.คนพาลชอบชักนำในทางที่ผิด
    ชัก คือ ชักชวน เชิญชวน ชี้ชวน หรือ เสนอแนะ
    นำ คือ การทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง
    เช่น ชักชวนหนีโรงเรียน ชักชวนไปปล้นจี้ ชักชวนหนีตามกันไป ชักนำไปเป็นอันธพาล ฯลฯ การชักนำนี้อาจทำด้วยความหวังดีก็ได้ แต่ว่ามันผิด เช่นได้เงินมาก็ชักชวนเพื่อนไปเลี้ยงเหล้าเที่ยวกลางคือ อย่างนี้ก็จัดว่าเป็นคนพาล
    ผู้ที่ยังเยาว์วัยอ่อนความคิด อ่อนสติ มักถูกชักนำได้โดยง่าย ผู้ใหญ่ในบ้านจึงควรระมัดระวังการกระทำ และคำพูดทั้งของตนเองและผู้ที่มาติดต่อคบหา เพราะเด็กมักจะจำ และทำตามอย่าง
    ๒.คนพาลชอบทำในสิ่งที่ไม่ใช่ธุระ เกะกะเกเรหน้าที่การงานของตนไม่พยายามจัดการให้เรียบร้อย แต่ชอบไปก้าวก่ายหน้าที่การงานของผู้อื่น เช่น จับผิดผู้ร่วมงาน เขียนบัตรสนเท่ห์ กลั่นแกล้ง รังแก ทำความรบกวนให้เดือดร้อน ฯลฯ
    ๓.คนพาลชอบแต่สิ่งผิด ๆ ชอบถือเอาสิ่งที่ชั่วว่าเป็นดี เช่น ชอบค้าของเถื่อน ชอบหนีโรงเรียน ชอบเถียงพ่อแม่ ฯลฯ เห็นคนทำถูกเป็นคนเซ่อเห็นคนกลัวผิดเป็นคนเซอะ ฯลฯ
    ๔.คนพาลแม้พูดดีๆ ก็โกรธ เช่น เตือนให้ดูหนังสือตอนใกล้สอบ ก็โกรธ เตือนให้ตื่นเช้าก็โกรธ แค่มองหน้าบางครั้งก็ยังโกรธ ฯลฯ
    ๕.คนพาลไม่ยอมรับรู้ระเบียบวินัย เช่น ไม่ชอบข้ามถนนตรงทางม้าลาย ทิ้งขยะบนพื้นถนน ไปทำงานสาย ฯลฯ

    พฤติการณ์ที่เรียกว่า"คบ" คืออย่างไร ?

    คบ หมายถึง พฤติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ คือ
    ร่วม เช่น ร่วมกิน ร่วมนอน ร่วมก่อการ ร่วมพวก
    รับ เช่น รับเป็นเพื่อน รับเป็นภรรยาหรือสามี รับไว้ทำงาน
    ให้ เช่น ให้ความไว้วางใจ ให้คำชมเชย ให้ยศให้ตำแหน่ง ให้หยิบยืมสิ่งของ

    การไม่คบคนพาล คือ การไม่ยอมมีพฤติกรรมสัมพันธ์ใด ๆ ดังกล่าวข้างต้นกับคนพาล ถ้าเรายังคบคนพาลอยู่ไม่ว่าจะในระดับไหนก็ตามรีบถอนตัวเสียโดยด่วน อย่าประมาทรีบตัดไฟเสียแต่ต้นลม มิฉะนั้นจะพลาดติดเชื้อพาลโดยไม่รู้ตัว กลายเป็นพาลตามไปด้วย
    โบราณท่านให้คติเตือนไว้ว่า
    "ห่างสนุขให้ห่างศอก
    ห่างวอกให้ห่างวา
    ห่างพาลาให้ห่างหมื่นโยชน์แสนโยชน์"

    โทษของการคบคนพาล

    ๑.ย่อมถูกชักนำไปในทางที่ผิด
    ๒.ย่อมเกิดความหายนะการงานล้มเหลว
    ๓.ย่อมถูกมองในแง่ร้าย ไม่ได้รับความไว้วางใจจากบุคคลทั่วไป
    ๔.ย่อมอึดอัดใจ เพราะคนพาลแม้เราพูดดี ๆด้วยก็โกรธ
    ๕.หมู่คณะย่อมแตกความสามัคคี เพราะการยุยงและไม่ยอมรับรู้ระเบียบวินัย
    ๖.ภัยอันตรายต่างๆ ย่อมไหลเข้ามาหาตัว
    ๗.เมื่อละโลกแล้ว ย่อมมีอบายภูมิเป็นที่ไป

    ประเภทของคนพาล

    คนพาลมี ๒ ประเภท ได้แก่
    ๑.พาลภายนอก คือคนพาลทั่วไป ซึ่งแม้จะร้ายกาจเพียงใด เราก็ยังมีทางหลีกเลี่ยงได้ แต่มีพาลอีกประเภทหนึ่งที่ร้ายยิ่งกว่า เพราะมักเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวและไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ คือ พาลภายใน
    ๒.พาลภายใน คือ ตัวเราเองขณะที่คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว เช่น หนีงานบ้าง เที่ยวเกเร ไม่ยุ่งธุระคนอื่นโดยใช่เหตุบ้าง แกล้งไปทำงานสายบ้าง คนอื่นเตือนดี ๆ ก็โกรธบ้าง หลีกเลี่ยงวินัยบ้าง พูดไม่ไพเราะบ้าง ครั้งใดที่เราทำเช่นนี้ ครั้งนั้นเราเองนั่นแหละ คือตัวพาล มีเชื้อสายพาลอยู่ใน ต้องรีบแก้ไข

    หลักปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

    ๑.หวั่นห้ามใจตนเองจากความชั่วแม้เพียงเล็กน้อย ก่อนที่มันจะลุกลามต่อไป เช่น การนอนตื่นสาย การละเลยต่อการสวดมนต์ทำสมาธิก่อนนอน
    ๒.อย่าตามนึกถึงความชั่ว ความผิดพลาดในอดีต ทั้งของตนเองและผู้อื่น ผ่านไปแล้วก็ให้แล้วกันไป ตั้งใจทำความดีใหม่ให้เต็มที่
    ๓.ตั้งใจให้ทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนาอย่างสม่ำเสมอ
    ๔.หลีกเลี่ยงการอ่าน การฟัง การพูด เรื่องเกี่ยวกับคนพาล จะได้ไม่สะสมความคิดเกี่ยวกับพาลไว้ในใจ พยายามสะสมแต่ความคิดที่ดีงามโดยการอ่าน การฟัง การพูด แต่สิ่งที่ดีงาม เช่น อ่านหนังสือธรรมะ ฟังเทศน์ สนทนาธรรม พูดถึงคนที่ทำคุณความดี ฯลฯ
    ๕.ถ้าจำเป็นต้องอยู่ใกล้คนพาลอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ เช่นทำงานในที่เดียวกัน เป็นญาติพี่น้องกันในกรณีเช่นนี้เราต้องระลึกอยู่เสมอว่า เรากำลังอยู่ใกล้สิ่งที่เป็นอันตราย เหมือนอยู่ใกล้คนเป็นโรคติดต่อ ต้องระวังตัว คือ ระวังความเป็นพาลของเขาจะมาติดเราเข้า ต้องหมั่นทำทาน รักษาศีลทำสมาธิ เพื่อให้ในผ่องใสอยู่เสมอ
    เราต้องระลึกเสมอว่า หน้าที่อันยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดในชีวิตไม่มีอะไรยิ่งไปกว่า การปราบพาลภายในตัวเราเอง

    อานิสงส์การไม่คบคนพาล
    ๑.ทำให้ไม่ถูกชักจูงไปในทางที่ผิด
    ๒.ทำให้สามารถรักษาความดีเดิมไว้ได้
    ๓.ทำให้สามารถสร้างความดีใหม่เพิ่มขึ้นได้อีก
    ๔.ทำให้ไม่ถูกคนพาลทำร้าย
    ๕.ทำให้ไม่ถูกตำหนิ ไม่ถูกใส่ความ
    ๖.ทำให้ไม่ถูกมองในแง่ร้าย ได้รับความไว้วางใจจากบุคคลทั่วไป
    ๗.ทำให้มีความเจริญก้าวหน้า สามารถตั้งตัวได้เร็ว
    ๘.ทำให้มีความสุขทั้งตนเอง ครอบครัวและประเทศชาติ
    ๙.เป็นการตัดกำลังไม่ให้เชื้อพาลระบาดไป เพราะขาดคนสนับสนุน


    "ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ให้ผล คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง เมื่อใดบาปให้ผลคนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น"
    (พุทธพจน์)

    ที่มา มงคล๓๘
     
  8. ผ่อนคลาย Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    5,775
    ค่าพลัง:
    +12,934
  9. ผ่อนคลาย Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    5,775
    ค่าพลัง:
    +12,934
    <TABLE style="WIDTH: 821px; HEIGHT: 168px" cellSpacing=1 cellPadding=1 width=821 align=left border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD style="FONT-SIZE: 11px; WHITE-SPACE: nowrap" width="1%"> [18-11, 11:49] MBNY </TD><TD style="FONT-SIZE: 11px">สมาชิกโปรดงดแสดงความคิดเห็นที่ไม่สร้างสรรค์ ขาดเมตตาธรรม ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยกให้แก่สังคมหรือกระทบ กระทั่งต่อสถาบันอันเป็นที่เคารพ และขัดต่อกฎหมาย </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="FONT-SIZE: 11px; WHITE-SPACE: nowrap" width="1%"> [18-11, 11:50] MBNY </TD><TD style="FONT-SIZE: 11px">เมื่อวานนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติติดต่อเว็บพลังจิตมาเพื่อขอรายละเอียดและไอพี ทางเว็บต้องให้ความร่วมมือให้ข้อมูลทุกอย่าง </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. ผ่อนคลาย Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    5,775
    ค่าพลัง:
    +12,934
    ห้องอื่นๆก็เช่นเดียวกัน ไม่เฉพาะห้องวิทยาศาสตร์ทางจิต-ลึกลับ

    การให้ใบแดงและยึดสมาชิกกับคนใช้คำหยาบและพาดพิงทีมงานในทางไม่จริง

    WebSnow


    การให้ใบแดงและยึดสมาชิกกับคนใช้คำหยาบและพาดพิงทีมงานในทางไม่จริง


    <hr style="color: rgb(255, 255, 255);" size="1">การให้ใบแดงและแบนคนใช้คำหยาบ
    ระยะหลังๆตอนนี้ ห้องวิทยาศาสตร์ทางจิต-ลึกลับ กลุ่มคนจำนวณหนึ่งได้นิยมใช้คำหยาบและถ้อยคำรุนแรงเสียดสีกันมาก ซึ่งเมื่อก่อนไม่ค่อยมีในเว็บพลังจิต
    ซึ่งเป็นนำไปสู่การให้เกิด โทสะและเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี
    ซึ่งจะไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชนที่เข้ามาอ่านโพส อาจจะเอาไปเป็นแบบอย่าง
    ซึ่งผมและทีมงานไม่ต้องการให้ขยายไปในวงกว้างและกลายไปเป็นวัฒนธรรมในเว็บพลังจิตไปในที่สุด
    อยากจะขอร้องให้พยายามลดคำหยาบลง ส่วนบางคำที่ไม่หยาบแต่มีเจตนาก็ไม่ได้
    ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
    (สำหรับบุคคลที่มีสติสัมปชัญญะดี ไม่ใช่คนบ้าหรือเพี้ยน)
    สมาชิกท่านใดที่ใช้คำหยาบ ทีมงานจะให้ใบแดงถ้าเกิน สามครั้งจะโดนยึด สมาชิก
    ถ้าใครพบเห็นช่วยกดแจ้งให้ผู้ดูแลทราบ
    การกล่าวพลาดพิง ทีมงานเว็ปพลังจิต ในที่สาธารณะ
    การเขียนพาดพิงทีมงาน ถ้าเป็นเรื่องจริง ท่านสามารถเขียนได้
    เขียนแนะนำติชมได้
    แต่ถ้าเกิดมีเจตนาพลาดพิงในทางที่เสียหายแล้วไม่ใช่เรื่องจริง
    ทางเราไม่อนุญาตและจะถูกลบและแบนในทันที
    เพื่อตัดปัญหาการต่อล้อต่อเถียงโดยใช้เวลายืดเยื้อ
    เนื่องจากว่า ทีมงานมาช่วยเว็บพลังจิตในเวลาว่าง ไม่ได้ทำเว็บพลังจิตโดยอาชีพ แล้วชีวิตจริงๆก็มีงานประจำเพื่อเลี้ยงชีพ
    เมื่อมีการใส่ความในเรื่องไม่จริง เมื่อมีการต่อล้อต่อเถียงไปมา
    จะมีผลกระทบจะทำให้เวลาว่างของทีมงานลดลงและเวลาการดูแลและพัฒนาเว็บพลังจิตลดลง ทำให้ผลงานที่จะออกมาสู่สาธารณะได้ไม่เต็มที่
     
  11. ผ่อนคลาย Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    5,775
    ค่าพลัง:
    +12,934
    ขอเก็บกระทู้ทุกกระทู้ที่ ไม่สุภาพ และลบข้อความไม่สุภาพต่างๆ ในVC และอื่นๆอันเป็นสาธารณะเพื่อความร่มเย็นและเรียบร้อย โปรดร่วมมือกับระเบียบด้วยดี

    ขอบคุณมาก
     
  12. ผ่อนคลาย Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    5,775
    ค่าพลัง:
    +12,934
    พวกเราช่วยกันจรรโลงความเป็นระเบียบเรียบร้อยกัน

    ขอบคุณมากครับ(kiss)<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  13. ผ่อนคลาย Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    5,775
    ค่าพลัง:
    +12,934

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .


    .
    .
    .
    .
    .
    .
     

แชร์หน้านี้