ขอความรู้เกี่ยวกับลูกนิมิตรหน่อยค่ะ

คือว่าไม่มีความรู้เรื่องลูกนิมิตรค่ะ มีความเป็นมาอย่างไรคะ เท่าที่จำได้ก็เคยไปร่วมงานฝังลูกนิมิตรแล้วค่ะแต่ไม่รู้ประวัติ ทำไมต้องฝังด้วยคะ แล้วลูกนิมิตรมีไว้ทำอะไรอยากทราบมากๆ รบกวนผู้รู้บอกให้กระจ่างทีค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

ดันไปเรื่อยๆ สักวันต้องมีคนมาตอบ ...

 

ตอบ ลูกนิมิต

สีมามีอยู่ 2 ชนิด คือ สีมาที่ผูกแล้ว เรียกว่า พัทธสีมา สีมาที่ไม่ได้ผูก เรียกว่า อพัทธสีมา เขตที่จะผูกเป็นพัทธสีมานั้น จะต้องได้รับอนุญาตจากทางการก่อน คือต้องเป็นที่ที่พระเจ้าแผ่นดินพระราชทานให้เป็นสิทธิแก่คณะสงฆ์ ซึ่งเรียกว่า"วิสุงคามสีมา" คือเขตที่แยกจากบ้าน เมื่อได้รับพระบรมราชานุญาตแล้ว พระสงฆ์ก็จัดการผูกสีมา หรือที่เรียกว่า "ฝังลูกนิมิต" ต่อไป ก่อนที่จะฝังจะต้องสวดถอนนิมิตเสียก่อน การสวดถอนนั้นโดยประสงค์ว่า ที่ที่ผูกสีมาฝังลูกนิมิตจะต้องไม่ไปทับที่ที่เคยเป็นสีมามาแล้วแต่ก่อน พุทธบัญญัติข้อนี้ก็เช่นเดียวกับกฏหมายบ้านเมือง คือว่า จะไปจับจองที่ที่มีเจ้าของอยู่แล้วไม่ได้ ถ้าผูกสีมาฝังลูกนิมิตในที่ใดโดยไม่สวดถอนเสียก่อน หากปรากฏในภายหลังว่า ที่นั่นได้เคยเป็นสีมาของวัดใดวัดหนึ่งมาแต่ก่อน สีมาที่ผูกใหม่นั้นก็ไม่สามารถใช้ได้
ก่อนจะผูกสีมา ก็ต้องกำหนดเขตสีมาใหม่ให้แน่นอนและติดต่อกัน ตามปกตินิยมเอาก้อนหินเป็นเครื่องหมาย ไปวางไว้ตามมุมที่กำหนดเขตเรียกว่า " ลูกนิมิต" เขตที่วางลูกนิมิตนั้นใช้ครบ 8 ทิศเป็นพื้น แล้วพระสงฆ์ 4 รูปสวดทัก เรียกว่า "ทักสีมา" ส่วนพระสงฆ์อื่นๆคอยอยู่ในโรงอุโบสถ วิธีทักสีมานั้น พระสงฆ์ทั้ง 4 รูปไปตรวจที่ที่มีเครื่องหมายกำหนดเขต เริ่มทักสีมาตั้งแต่ทิศบูรพาเป็นต้นไปจนครบ 8 ทิศ
อนึ่งลูกหินที่ฝังนั้นเรียกว่า ลูกนิมิต ลูกนิมิตนี้ตามประเพณีที่ทำกันมักฝังที่กลางอุโบสถด้วย เพื่อแสดงให้เห็นว่า เมื่อสวดทักสีมาเสร็จแล้ว พระสงฆ์ได้มาประชุมกันสวดประกาศบอกเขตสีมาในที่นั้น นี้เรียกว่า พัทธสีมา
ส่วนอพัทธสีมา ไม่ต้องทำพิธีผูกเหมือนอย่างที่กล่าวแล้ว เป็นเพียงกำหนดเขตไว้ให้รู้กันเท่านั้น สีมาที่ไม่ต้องผูกนี้ ก็เป็นที่ที่พระสงฆ์กระทำสังฆกรรมได้ทุกอย่างเหมือนอย่างพัทธสีมา ผิดกันอยู่ที่ว่าพระสงฆ์ไม่ได้รับประโยชน์ในเรื่องผ้าไตรจีวร คือถ้าอยู่ในเขตพัทธสีมามาถึงแม้ว่าจะมิได้ครองจีวรครบไตรก็ไม่เป็นอาบัติ แต่ในเขตอพัทธสีมานี้ จะอยู่ปราศจากผ้าไตรจีวรไม่ได้

 

ขอบคุณมากค่ะ เป็นความรู้อีกอย่างนึงค่ะ

 

ธรรมทาน

การให้ธรรมเป็นทานนั้นประเสริฐกว่าการให้อื่นใด

 

ขอบคุณค่ะ

 

เป็นความรู้ใหม่ของผมเลยนะนี่