ของคาวหวานไหว้พระพุทธรูป กับของคาวหวานไหว้พระภูมิเจ้าที่

1.อยากทราบจริงๆ ค่ะว่า การบูชาพระพุทธรูปด้วยของคาวหวานและดอกไม้ ธูป เทียนนั้นมีอานิสงฆ์อย่างไรบ้าง

2.ช่วยแนะนำนะคะว่าของคาวหวานชุดใหญ่ไหว้พระภูมิเจ้าที่เจ้าทางนั้นควรประกอบด้วยอะไรบ้าง ขอแบบอลังการเลยนะคะ

3.ที่บ้านดิฉันมีศาลพระภูมิ 1 กับ ศาล ตา-ยาย 1 แต่เท่าที่ผ่านมาไม่ค่อยได้ไหว้ด้วยอาหารคาวหวานสักเท่าไหร่เลยอยากจะทำพิธีไหว้ให้แก่ท่านบ้าง และจะไหว้รวมได้เลย หรือจะต้องแยกชุดไหว้คะ

4.ขอถามอีกนิดนะคะ แล้วถ้าเกิดเราต้องการจัดของคาวหวานให้แก่วิญญาณของสัมภเวสีนี้ต้องทำอย่างไร มีวิธีการแบบไหนคะ เพราะบ้านของดิฉันอยู่ตรงทาง 3 แพร่งพอดีเลย

 

1.การบูชา พระพุทธรูป ถ้าเป็นการระลึกถึง พระคุณของพระพุทธองค์

แม้ไม่ได้ถวายอาหาร ก็เป็นบุญอันยิ่งใหญ่แล้ว ครับ ไม่จำเป็น ต้องถวายอาหารด้วยซ้ำ

เพราะถวายอาหาร พระองค์ก็ไม่ได้รับอยู่แ้ล้ว ทรงนิพพานไปแล้ว ความบริสุทธิ์ของพระพุทธองค์ มีมากยิ่ง (ว่าง่ายๆไม่จำเป็นต้องกินข้าวแล้ว) ไม่ได้เป็นจิตวิญญาณชั้นต่ำ ที่ทำเป็นความเชื่อต่อๆกันมาเท่านั้น ไม่มีประโยชน์

ปฏิบัติบูชาดีกว่า ครับ

2.ของคาวหวาน ไหว้เจ้าที่ ก็แล้วแต่ ความพอใจ แต่ความจริงแล้ว การนิมนต์พระ ทำบุญบ้าน หรือ การทำบุญต่างๆ แล้ว อุทิศผลบุญให้เจ้าที่ ดีกว่า ครับ

รวมถึงการ ที่เจ้าของบ้าน ประกอบด้วย สัมมาอาชีวะ ทำบุญเป็นประจำ อยู่ในศีล 5 สวดมนต์ไหว้พระ ท่านเจ้าที่จะได้รับพลังบุญ มากกว่าๆๆๆมากๆๆๆๆๆๆๆ

ทำให้เจ้าที่มีอิทธิฤทธิ์ปกปักษ์รักษาเราได้ครับ เจ้าที่ก็คล้ายพวกเรา ถ้าทำบุญมาก ก็มีพลังมาก เหมือนที่คนเราบางคน เกิดมารวย เกิดมาจน ก็อยู่ที่ผลบุญที่ทำ


ที่บ้านผม เจ้าที่ท่านแรงครับ ท่านคอยปกปักษ์รักษาบ้านได้ มีคนทรงทักเสมอๆ ว่าเจ้าที่บ้านผมดีครับ (คุณพ่อคุณแม่เป็นคนทำบุญ ประจำ ใส่บาตรทุกวัน)

 

ข้างบนถูกหมดครับแต่ขออนุญาติเสนอแนะเสริมสักนิดนะครับ
การพลีมี ๒ คือ
เทวตาพลี๑
เปตาพลี๑
สัตว์ทุกชนิดมีอาหารของตนเสวย ยกเว้นเปรต
ถวายของได้ ยกเว้นความตายของผู้อื่น การทำสมาธิแผ่เมตตาเกิดผดดีที่สุด
ขอบคุณครับ

 

จากที่คุณบอกมานี้ ดิฉันยังไม่ค่อยเข้าใจเลยค่ะว่าหมายความถึงอะไร
อยากให้คุณช่วยอธิบายอีกซักหน่อย

 

เทวดามีอาหารของเขาคือธัญทิพย์
สัตว์นรกมีอาหารคือไฟนรก
เปรตจะกินอะไรก็กินไม่ได้แม้แต่น้ำเพราะปากจู๋เล็กมาก ต้องรอเวลาที่มีคนแผ่เมตตาให้จะสบายกายใจ เป็นต้น ญาติพี่น้องเป็นรึเปล่า ไม่รู้
การแผ่เมตตามีผลทุกระดับ คือทิพย์จากเมตตาของเรา
อันนี้ถ้าอยากรู้เพิ่มเติมต้องไปหาพระครับ

 

1 ถ้าจะบอกว่าได้บุญไปอยู่สวรรค์ชั้นไหน อย่างนี้บอกไม่ได้ครับ เพราะต้องขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัย อันนี้ผมไม่ทราบ แต่ที่จะบอกได้ก็คือ มีอานิสงส์เป็นการเคารพบูชาพระรัตนตรัย ถือเป็นการทำบุญอย่างหนึ่งใน 10 ประการคือ ข้อที่เรียกว่า อปจายนมัย เป็นการอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ที่ควรเคารพบูชา

การบูชาพระพุทธรูปไม่จำเป็นต้องถวายอาหารคาวหวาน เพราะท่านฉันไม่ได้ ถ้าจะให้ดีก็คือ ถวายสักการะด้วยดอกไม้ธูปเทียนก็เพียงพอแล้ว ถ้าหากถวายอาหารคาวหวานแด่พระพุทธรูปก็เอามากินได้ เพราะถือว่าเป็นของศิริมงคล

แถมให้อีกเรื่องคือ เวลาเรากราบพระพุทธรูปเนี่ย หัวจรดพื้นใช่มั้ย นั่นแหละ ตอนนั้นแหละ เราจะนึกในใจด้วยก็ได้ว่า " ณ วินาทีที่ก้มกราบพระ แล้วหัวจรดพื้น ขอให้ทิฐิในตัวเราลดลงเหลือศูนย์" คือ ลดสักชั่วขณะก็ยังดีกว่าปล่อยให้พองเต็มตัวแบบไม่ปล่อยวางเลย จริงมั้ย

2 คำว่า"พระภูมิเจ้าที่" เป็นคนละอย่างกันนะครับ พระภูมิก็ส่วนพระภูมิ เจ้าที่ก็ส่วนเจ้าที่
พระภูมิก็คือ เทวดาที่ปกปักรักษาบ้านนั้น ซึ่งอาจจะเกิดจากการอัญเชิญมาก็ได้ ตรงนี้สำคัญ คือ เค้าจะมีพิธีตั้งศาลพระภูมิ คงเคยได้ยินใช่มั้ย ถ้าไปเชิญผิดเชิญถูก ไปเชิญผี หรือเชิญเทวดาที่เกกมะเหรกเกเรเข้าบ้าน ก็ยุ่งเหมือนกัน
ส่วนเจ้าที่ก็คือ เจ้าของบ้านคนเก่านั่นแหละ คือที่ๆเราปลูกบ้านเนี่ย หากย้อนกลับไปในอดีตร้อยปีพันปีละ ถามว่ามีเจ้าของบ้านคนเก่ามั้ย คำตอบก็คือมี เพียงแต่เราอาจนึกว่าไม่มี เพราะเป็นที่รกร้างว่างเปล่า แล้วเราเข้ามาสร้างบ้าน เพราะฉะนั้นเจ้าที่ก็คือ ผู้ที่เป็นเจ้าของทรัพย์ผืนนั้น บ้านหลังนั้นมาก่อนเรา เราในฐานะผู้มาทีหลังก็ควรจะเคารพให้เกียรติตามสมควร ถูกมั้ย

ของคาวหวานที่จะถวายพระภูมินั้นควรเป็นอย่างไร
จำไว้เลยว่า ไม่ควรถวายของคาว แต่ให้ถวายเป็น น้ำเปล่าสะอาด หรือน้ำมะพร้าว ผลไม้ พวงมาลัย
ส่วนที่จะถวายเจ้าที่นั้น ก็สามารถถวายเป็นอาหารได้ทั้งคาวหวาน เหมือนมนุษย์ปกตินั่นแหละ เพียงแต่อยู่ต่างภพกับเรา แต่ก็ต้องระวัง หากไปเจอเจ้าที่แขก หรือเจ้าที่บางท่านไม่ชอบอาหารคาว ท่านก็อาจจะให้โทษเราได้

มีเกร็ดความรู้อย่างหนึ่งก็คือ สมมติเราเข้าไปอยู่ครั้งแรก ไม่ได้เซ่นสรวงเจ้าที่ด้วยน้ำจัณฑ์ ไม่ได้เซ่นสรวงด้วยเหล้า ก็อย่าไปทำ เพราะหากทำไปแล้ว คราวหน้าไม่ถวาย ก็อาจจะเกิดเหตุได้

3 คำตอบข้อนี้ คือ ให้แยกถวายนะครับ ปกติศาลเจ้าที่จะต้องตั้งต่ำกว่าศาลพระภูมิ เพราะพระภูมิท่านอยู่ในฐานะสูงกว่า ศาลพระภูมิจะมี 1 เสา ส่วนศาลเจ้าที่จะมี 4 เสา
ในกรณีของคุณ ศาลตาศาลยายนั่นแหละ ที่เป็นศาลเจ้าที่

4 เอ๊ ไม่ทราบว่าจะจัดของคาวหวานให้สัมภเวสีทำไม หรือกลัวว่าบ้านตัวเองจะอยู่ตรงทางสามแพร่ง ทำเลไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก็เลยจะถวายอาหารให้สัมภเวสี... หรือแค่อยากจะทราบ.....

อย่างนี้นะครับ ให้ทำกระทงใบตองสี่เหลี่ยม 4 ช่อง (อันนี้ถ้าคุณเห็นตัวอย่างคงจะร้องอ๋อ) แต่ละช่องก็ใส่ไข่ต้ม ข้าว อาหารคาวหวานอย่างละนิด แล้วเอาไปวางตรงทาง 3 แพร่ง ช่วงตะวันโพล้เพล้ ถามว่าทำไมต้องเป็นช่วงตะวันโพล้เพล้ เพราะเป็นช่วงของการเปลี่ยนภพภูมินั่นเอง แล้วคุณก็บอกกล่าวเชื้อเชิญให้เหล่าสัมภเวสี ดวงวิญญาณเร่ร่อนมากินอาหารที่นำมาเซ่นสรวง แล้วหันหลังเดินกลับทันที จำไว้ว่า อย่าเหลียวหลังไปดูอีกนะครับ

อาจสงสัยว่า ใส่อาหารในช่องกระทงใบตองช่องเล็กๆ แล้วสัมภเวสีจะอิ่มหรือ คำตอบคือ อิ่มครับ เพราะถือว่าเป็นอาหารทิพย์ เค้าไม่ต้องมากินข้าวเป็นจานๆอย่างเราหรอก

ข้อควรระวังก็คือ ถ้าคุณอาศัยอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร จะเอากระทงใบตองไปวางไว้ตรงทางสามแพร่งในหมู่บ้านนะไม่เหมาะแน่ เพราะอาจจะมีเด็กซุกซนไปหยิบกิน แล้วจะเกิดโทษ อย่างที่เค้าเรียกว่า "แย่งผีกิน" นั่นแหละ
เพราะฉะนั้น ทางสามแพร่งที่ว่านี้ ควรจะเป็นตามทุ่งตามนา ตามบ้านนอกนั่นแหละ

บ้านของคุณอยู่ตรงทางสามแพร่ง ก็หาอะไรมากันไว้ เคยเห็นกระจกแปดทิศใช่มั้ย ที่เรียกว่า กระจกโป๊ยข่วยนั่นแหละ อย่างนั้นก็ใช้ได้ เอามาติดหน้าบ้าน

หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือ หาธงชาติผืนเล็กๆผืนหนึ่งและธงของในหลวงผืนหนึ่ง ปักไขว้กันที่บนหน้าบ้าน เพราะธงในหลวงเป็นธงของ "พระเจ้าแผ่นดิน" คำว่า "พระเจ้าแผ่นดิน" เนี่ยศักดิ์สิทธิ์มากนะครับ ลองค่อยๆอ่านดูซิ

หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือ ไปหาลูกแก้วลูกเล็กๆ ที่เป็นประกายสะท้อนแสงได้ระยิบระยับ มาแขวนหน้าบ้าน นั่นแหละ สิ่งไม่ดีอะไรเข้ามา จะมาทิศไหนก็ถูกสะท้อนกลับหมด

เรื่องพวกนี้เป็นเคล็ดนะครับ อย่าถามว่าผมรู้มาได้ยังไง ผมไม่มีคำตอบ

เรื่องการจัดของคาวหวานให้สัมภเวสีเนี่ย ก็ค่อนข้างไม่ค่อยสะดวก หากคุณจะให้บุญถึงพวกเค้าเหล่านั้นแบบเต็มๆเลย คุณก็ไปถวายเพลที่วัด กำหนดจิตว่า เอาละวันนี้ข้าพเจ้าจะไปถวายเพลที่วัดนั้น ข้าพเจ้าจะอุทิศส่วนกุศลให้กับพวกท่านโดยเฉพาะเจาะจง ก็ขอเชิญสัมมเวสีและวิญญาณเร่ร่อนทั้งหลายไปรอรับส่วนบุญทีวัดนั้นวัดนี้ในวันนั้นวันนี้ได้เลย นั่นแหละเค้าได้เต็มๆ แต่จำไว้ว่า ต้องอุทิศให้ก้บสัมภเวสีโดยเฉพาะเจาะจงนะครับ ไม่ใช่ว่าให้คนอื่นแล้วไล่มาถึงสัมมเวสี คือเจาะจงให้ไปเลย

 

ขอบคุณ คุณ Khomeraya มากนะคะ ดิฉันกระจ่างแก่ใจเลยค่ะ ข้อมูลละเอียดและเป็นความรู้ที่ดีมาก
เออ..สมมุติว่า เราเอาสำรับใบตองมาวางไว้ในเขตประตูรั้วของบ้านเราจะได้ไหมคะ หรือว่าวิญญาณ
สัมภเวสีเขาเข้ามาภายในบริเวณบ้านของเราไม่ได้ อันนี้เป็นกรณีที่คุณว่าน่ะค่ะ เพราะวางไว้หน้าบ้าน
ก็กลัวเด็กๆ เขามาหยิบไปกินจริงๆ แหละ เพราะฉะนั้น ไว้ข้างรั้วที่ติดกับทาง 3 แพร่ง ก็น่าจะเหมาะนะคะ
ถ้าเกิดว่ามันเป็นไปได้นะ

 

อย่าดีกว่า อย่างที่บอกคือ ถ้าเป็นทางสามแพร่งที่อยู่ในหมู่บ้านก็อาจจะเกิดปัญหาอย่างที่บอก หรือวางในเขตประตูรั้วของบ้าน ก็เหมือนกับเราเชื้อเชิญให้เค้าเข้ามาในบ้านเรานี่แหละ พูดง่ายๆคือเชิญผีเร่ร่อนเข้าบ้าน ก็อาจจะเกิดอาเพทขึ้นได้ เพราะฉะนั้นอย่าเสี่ยงดีกว่า เชื่อเหอะ

วิธีที่ดีที่สุด ไปถวายเพลที่วัด คือ ถวายให้พวกเค้าเฉพาะเจาะจงไปเลย บุญนั้นยกให้พวกเค้าโดยเฉพาะ คุณก็กำหนดจิตว่า เอ้า วันนี้เราจะไปถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์และจะขออุทิศส่วนกุศลให้เปรต อสุรกาย สัมภเวสี ผีเร่ร่อนทั้งหลาย ขอให้ท่านทั้งหลายไปรอรับส่วนบุญที่วัดนั้นวัดนี้ แค่นั้นแหละ ถึง 100% อย่าลืมเงื่อนไขว่า เราต้องให้พวกเค้าเท่านั้นนะ คือเจาะจงไปเลย คนอื่นนอกเหนือจากนี้ไม่มีสิทธิ

 

ขอบคุณ คุณ Khomereya อีกรอบนะคะ ที่มาไขให้
ดิฉันก็ลืมนึกไปเลยว่าถ้าเราเชิญเขาเข้าบ้านแล้วมันจะดีหรือไม่ดี
คิดอยู่อย่างเดียวว่า อยากทำให้อ่ะค่ะ

จะนำวิธีที่คุณบอกไปทำนะคะ ก่อนไปวัดก็บอกกล่าวหน้าบ้านเบาๆ ในใจ
กับพวกเขาก่อนได้นะคะ วิธีก็ดีนะ แต่ดิฉันก็กลัวผีอยู่เหมือนกัน :boo:

 

อยากทราบวิธีเอาลูกแก้วไปแขวนหน้าบ้านครับ ช่วยอธิบายด้วยครับ ขอบคุณครับ