ขอถามค่ะGODและพระพุทธเจ้าแตกต่างกันอย่างไรคะ?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Kimzo, 4 ตุลาคม 2012.

  1. Kimzo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +1,046
    คือสงสัยค่ะค่ะว่า ระหว่างGOD และ พระพุทธเจ้า แตกต่างกันอย่างไรคะและทั้งสองพระองค์ยไม่ถูกกันยังไงคะ?(เห็นคุณศาลไคฟงบอกไว้ว่ากำลังมีข้อถกเถียงกันอยู่)

    แล้ววอีกข้อหนึ่งที่สงสัยค่ะทั้งสองพระองค์เมื่อนิพพานแล้วท่านได้พบปะเจอกันบ้างรึเปล่าคะ?

    สับสนและปวดหัวมากค่ะT_____T......
     
  2. manfullza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +26
    ก่อนอ่านอะไรควรคิดให้ดีก่อนนะ อย่าเชื่อคนง่าย
    พวกบ้าๆบอๆมันไม่มีไรทำ มาโพสไร้สาระเยอะแยะ
     
  3. Lastquarter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +272
    God เป็นพระผู้สร้างสิ่งต่างๆ แต่พระพุทธเจ้าไม่ใช่พระผู้สร้างเป็นเพียงจิตที่บริสุทธิที่มาจากพระผู้สร้างส่งให้มาเกิดบนโลกมนุษย์มาช่วยเหลือเหล่ามนุษย์ไม่ใ้ห้หลงทางสอนให้อยู่ในความดีรู้จักทำความดีรู้จักดีชั่วเท่านั้น

    อย่าไปกังวลว่าใครเป็นใครอย่ามัวไปตั้งคำถามกับมันละคุณจะไม่หลุดจากมันจะเป็นความทุกข์กังวลแทนสะปล่าวๆ ขอให้รู้อยู่แก่ใจว่าเราทำอะไรในทุกย่างก้าวของชีวิต เป็นคนดีก็พอ
     
  4. ปาวา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2012
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +5,946
    GOD ไม่รู้จักอริยสัจ 4 มรรค 8
     
  5. วิหคอิสระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +1,318
    พระพุทธเจ้ารู้อะไร god ก็รู้อย่างนั้น ไม่ว่าจะอริยสัจ4 หรือมรรค8 godรู้ทั้งสิ้น
     
  6. dirdirdir สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +22
    God ไม่มีตัวตน พิสูจน์ไม่ได้ เป็นแค่สิ่งที่อุปโลกขึ้นมาว่ามีอยู่ (ส่วนตัวไม่เชื่อGod จะเชื่อตามกาลามสูตร คือสิ่งที่ไมู่รู้ อวิชา ไม่เชื่อ!!! อุปโลก ยกเมฆ ละเมอเพ้อพก เพ้อเจ้อ)

    แต่ พระพุทธเจ้ามีตัวตนเป็นศาสดา มีพระธรรมเป็นคำสอน มีพระสงฆ์เป็นผู้สืบทอด
     
  7. วิหคอิสระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +1,318
    เพชรอย่างดีมีค่าราคายิ่ง ส่งให้ลิงจะรู้ค่าราคาหรือ
     
  8. dirdirdir สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +22
    มนุษย์ เปรียบเหมือน บัว 4 เหล่า ส่วนที่อยู่ใต้โคลนตม ยังไง ก็เป็นอาหาร ปู ปลา เต่า

    เราต้องการให้พ้นทุกข์ด้วยกัน ด้วยความหวังดีเพื่อนรัก เราไม่สนว่าใครดีกว่า เราสนว่าตัวเราพ้นทุกข์ไหม และ ปรารถนาให้เพื่อนพ้นทุกข์ เห็นความจริง
     
  9. jinso เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    423
    ค่าพลัง:
    +659
    God คือ พระเป็นเจ้า พระพุทธเจ้า คือ ผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง......
    มีทั้งคำว่าพระ และ คำว่าเจ้า ต่างตรงที่ คำว่า พุทธะ และคำว่า เป็น..
    แต่ไม่สำคัญ..คับ ทุกๆพระองค์ท่านล้วน สอนให้เราเป็นคนดี...ไม่เบียดเบียนกันและกัน
    ให้เรามีเมตตา...ต่อตัวเราต่อตัวท่าน..และผู้อื่น....และหมู่สัตว์..ให้รู้ถูกรู้ผิด..นำมาแต่ความสุขกายสุขใจทั้งนั้น....ศาสดาทั้งหลาย..ท่านย่อมนำพาให้ศิษย์มีสุข...เว้นแต่เราสร้างเหตุให้เกิดทุกข์....เรายังไม่ดีพอ...หากเราดีแล้ว...คงไม่มานั่งๆ..เดินๆ..กินๆ..นอนๆ...อย่างนี้...การหลุดพ้นข้นอยู่กับเราคับ ความรู้ผมมีน้อย แม้ไม่ผูกต้อง ไม่ถูกใจ ต้องขอโทษด้วยคับ ขออโหสิด้วยคับ..
    ......
     
  10. Jubb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,267
    ค่าพลัง:
    +2,134
    God คือเทวดาผู้เป็นใหญ่สุดในสวรรค์ชั้นปรนิมมิตสวัตตี เห็นในความเป็นไปของกามาพจรภพ(น่าจะปรากฏขึ้นมาก่อนผู้อื่น) ก็เลยเข้าใจว่าตนเองเป็นใหญ่สุดในภพ ต้องการการเคารพสักการะ การเชื่อฟัง ฯลฯ ผู้ที่ตกอยู่ในกามาพจรภพ ต่างก็ต้องตกอยู่ในอำนาจของ God ทั้งสิ้น ตกอยู่ในอำนาจด้วยความรัก ความโลภ ความโกรธ ความหลง ดังนั้นหลักธรรมคำสอนของศาสนาที่นับถือ God จึงต้องเริ่มด้วยศรัทธาในตัว God ก่อน
    ใครไม่เชื่อก็ไม่ได้ขึ้นสวรรค์ ใครไม่นับถือไม่ใช่ฅนดี (ประมาณเนี่ย)


    พระพุทธเจ้า สอนว่าทุกสรรพสิ่งเป็นไปตามกฏแห่งกรรม ที่เราเวียนว่ายตายเกิดอยู่นี่มันเป็นทุกข์ (ความสุขก็มีแต่เป็นความสุขที่ไม่ยั่งยืน) การที่จะพ้นจากทุกข์ได้ก่อนต้องพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ซึ่งสุดท้ายก็คือ อริยะสัจจ์ 4 (ทุกข์ สมุททัย นิโรธ มรรค)

    ในภพภูมิต่างๆ มีใหญ่ๆ อยู่ 3 ภพ ที่เรียกกันว่าไตรภูมิ ซึ่งประกอบด้วย กามาพจรภพ รูปพรหม อรูปพรหม แต่ละภพเราสามารถไปเกิดได้หมดขึ้นอยู่กับกรรมที่เราทำไว้ แต่อริยสัจจ์ 4 ที่พระพุทธเจ้าท่านค้นพบทำให้เราหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดทั้งมวล

    สำหรับผู้ที่ปฏิบัติตนจนจะเข้าถึงขั้นพรหมได้ เหล่า God จะพยายามขัดขวาง เพราะไม่ต้องการให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลุดพ้นจากอำนาจควบคุมของตน
    .
    .
    .

    .
    .
    .
    แล้วก็ถ้าถามว่านิพพานเป็นยังไงผมก็ตอบไม่ได้ แต่ถ้าตามความคิดของผม ตอนที่พระพุทธเจ้าดับขันธ์ปรินิพพาน(มีพระเถระท่านเข้าฌานตามสังเกตุ(จำไม่ได้ว่าใช่พระอุบาลีหรือเปล่า)) พระพุทธเจ้าท่านเข้าฌานสลับไปมาระหว่างอรูปพรหมกับรูปพรหม ในระหว่างที่สลับรูปพรหมจะไปอรูปพรหมนั่นเองที่พระพุทธเจ้าเข้าสูนิพพาน (รูปพรหมขั้นสูงสุดก็คือพรหมชั้นสุทธาวาส) ดังนั้นผมก็เลยคิดว่าสภาวะนั้นอยู่ระหว่างมีกับไม่มี คือแสดงให้เห็นว่าไม่มีการยึดติดว่าจะมีหรือไม่มี จะบอกว่านิพพานมีรูปมั๊ย ก็ไม่ได้ ไม่มีรูปก็ไม่ได้ (เป็นสภาวะที่เข้าใจยากกกก)

    โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ผู้ปกครองควรพิจารณา
     
  11. telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ถ้าจะให้เข้าใจง่ายขึ้น เปรียบไป God ก็คือ พระศิวะ,หรือพระพรหม,หรือพระนารายณ์ ส่วนพระพุทธเจ้า ก็คือ บุตร หลาน หรือ เทพองค์หนึ่ง ที่ทำตามคำสั่งของ พระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์
    ถ้าจะเอาแบบชัดเจนแล้ว God ก็มาจาก เทพทั้ง ๓ องค์นั่นแหละขอรับ
     
  12. กุลวัชร ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +2,229
    บ้า ปรามาสพระรัตนตรัย ระวังนรก ให้รีบลบกระทู้นี้ด่วย สรุป พระเจ้า จริงแล้วศาสนาอื่น ที่นับถือพระเจ้าถ้าลองสืบดูจะทราบว่า พระพุทธเจ้าของเราไม่ได้มีองค์เดียว มีตั้งแต่องค์ปฐม ถึงองค์ปัจจุบัน และมีอนาคตอีก สภาวะพระผู้เป็นเจาคือการอยู่นิรันดร์คือพระนิพพาน ดังนั้นสภาวะของ GOD ของชาวพุทธก็คือ พระพุทธเจ้าทุกองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้า ทกองค์ พระธรรม และอริยสงฆ์ที่เข้าพระนิพพานแล้ว มีสภาวะเป็นทิพย์พิเศษ บนแดนพระนิพพาน นี้คือพระเจ้า ซึ่งศาสนาอื่นอาจะ สมมติขึ้นมา แต่จริงแล้ว พระเจ้าสูงสุงของทุกศาสนา ถ้าจะเปรียบก็คือสมเด็จองค์ปฐมไง ส่วนพระศิวะ พระพรหม นั้น เป็นเทพเจ้าที่ตอนนี้ท่านอาจะจะ อยู่ในสภาวะพระเจ้าก็ได้ หรืออยู่ในสภาวะพระโพธิสัตว์ แต่ พระพุทธเจ้าสูงสุด ตอนที่พระพุทธเจ้าโปรดท้าวผกาพรหม มีโบราณคณาจารย์ ได้ปั้นรูป ท้าวผกาพรหม ทรงโคอุสุภราช คือพาหนะพระศิวะ แสดงว่าท้าวผากพรหมกับพระศิวะน่าจะเป็นองค์เดียวกัน
     
  13. หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ถ้า god เป็นผู้สร้าง สรรพสิ่ง

    พระพุทธเจ้า คือ ผู้ สอนวิธีการใช้ ที่เรียกว่า ทางสายกลางของสรรพสิ่ง

    ถามว่า ปกติ สิ่งของต่างๆ ในโลกที่ถูกสร้างขึ้นมา ผู้ที่รู้ดีที่สุดว่า สร้างอย่างไร ใช้งานอย่างไร ก็ น่าจะเป็น คนเดียวกัน แต่ผู้สร้าง คือ ผู้อยู่วงนอก(โลก) ไม่แสดงตัว แต่ผู้มาแนะนำวิธีการใช้ ต้อง เข้ามาแสดง ที่ วงใน(โลก)

    อาจเป็น อวตาร ของ คนเดียวกัน ก็ อาจเป็นได้

    สมมุติ นะครับ สมมุติ
     
  14. Artorius เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +313
    เจอคห.ข้างบนนี่จบข่าวเลย ไม่ต้องเถียงต่อ คนละความเชื่อกันเลย ว่าพระพุทธเจ้าทำตามบัญชาของพระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์

    เคยได้ยินแต่ พระพุทธเจ้าปราบท้าวพกาพรหมด้วยวิธีการเล่นล้อ(ซ่อนแอบ) และก็เอาชนะได้ ตามบทพาหุงฯ

    ด้วยความเห็นส่วนตัว God คือพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่
    ถ้าศาสนาคริสต์ คือพระยโฮวา เป็นพระผู้สร้าง มีพระเยซูคริสต์เป็นบุตร เป็นพระผู้ไถ่ ลงมาเพื่อไถ่บาปให้มนุษย์ ขอเพียงเป็นผู้ที่ศรัทธาอย่างเชื่อมั่นในพระเจ้าเพียงอย่างเดียวจะได้ไปอยู่กับพระเจ้า ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิด
    ถ้าศาสนาพราหมณ์ God จะหมายถึง พระศิวะ บางนิกายก็พระนารายณ์ เป็นพระผู้ทำลาย พระผู้ปกป้อง พระผู้อยู่เหนือสุดมีอำนาจมากสุด สามารถดลบันดาลหรือให้พรให้กับทุกผู้ที่บำเพ็ญตบะเพื่อร้องขอ หรือศรัทธา แต่ก็ยังมีมเหสีอยู่ที่พระองค์ ยังมีการบำเพ็ญตบะอยู่ ยังเสพสมอยู่ เมื่ออ่านตามคำภีร์ของศาสนา จะพบได้ว่า เทพบางองค์มีกำเนิดมาจากน้ำอสุจิของพระเป็นเจ้า
    แต่ศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้า เป็นผู้หลุดพ้น เป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ติดขัด ไม่ขัดข้องในธรรมใดๆ เป็นผู้รู้แจ้งแทงตลอด คำว่ารู้แจ้งแทงตลอดหมายถึง อยากรู้อะไรก็รู้ได้ ประดุจหนึ่งความรู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดเป็นอินฟินิตี้ ปัญญารู้แจ้งก็ไม่มีที่สิ้นสุดอินฟินิตี้ตามได้ตลอดอยู่ เมื่อต้องการจะรู้ ไม่อยู่ในอำนาจแห่งมาร หรือมหาเทพใดๆทั้งสิ้น

    เพราะฉะนั้น คำถามของ จขกท. นั้นต้องถึงกับปูพื้นทางพุทธศาสนากันใหม่เลยทีเดียว ตอบได้ยาก เพราะพุทธศาสนิกชนนั้นจะไม่มีทางเชื่อหรือคิดได้เลยว่า พระพุทธเจ้าจะ"ไม่ถูกกันกับใคร" หรือ "มีข้อถกเถียง" กับใคร พุทธศาสนิกชน จะทราบดีว่า พระพุทธเจ้าประเสริฐสุด ไม่สามารถนำอะไรมาเทียบกันได้เลย เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นพระพุทธเจ้า
     
  15. จอมโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2012
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +2,063
    god หรือแปลว่าพระเจ้า

    คำนี้ไม่ทราบเช่นกันว่าคืออะไรเพราะพระพุทธเจ้าไม่เคยสอนและไม่เคยบัญญัติ
    ทุกสิ่งล้วนเกิดจากเหตุ และย่อมดับไปเมื่อเหตุดับ

    ข้าพเจ้าศรัทธาในพระพุทธเจ้าอย่างไม่มีความลังเลสงสุัย และไม่สามารถจะนำสิ่งใดมาเทียบเคียงสัจจะนี้ได้
     
  16. blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    God = คำนิยามที่มนุษย์ใช้เรียกใน บางสิ่งที่ดูเหมือนจะยิ่งใหญ่ ด้วยเหตุผลที่เขื่อๆกันมาว่า เป็นผู้สร้างมนุษย์ขึ้นมา สร้างพืช-สัตว์ สร้างโลก สร้างดวงดาว สร้างจักรวาล สร้างทุกๆสรรพสิ่ง

    พระพุทธเจ้า เป็นผู้รู้ รู้ถึงเหตุปัจจัยที่มาต่างๆอย่างเป็นเหตุเป็นผล เช่นคน-สัตว์ เราเกิดมาทำไมแตกต่างกัน ทำไมเราถึงต้องเกิดมา อะไรคือสื่งที่ควรกระทำหรือคุณธรรมที่ควรยึดถือเมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์ การที่เราทำอะไรลงไปแล้วจะได้ผลอะไรตามมา และเมื่อเราตายแล้วไปไหนได้บ้าง
     
  17. ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    ขอถามค่ะGODและพระพุทธเจ้าแตกต่างกันอย่างไรคะ?

    +++ พระพุทธเจ้าพ้นแล้วจากความเป็น จิต แต่ God ยังมีความเป็น จิต อยู่

    และทั้งสองพระองค์ยไม่ถูกกันยังไงคะ?

    +++ ความเป็น จิต ถึงจะเดาความเป็น พุทธะ อย่างไรก็ตาม ย่อม ไม่ถูก ได้เลย

    (เห็นคุณศาลไคฟงบอกไว้ว่ากำลังมีข้อถกเถียงกันอยู่)

    (+++ น่าจะเป็นคุณศาลไคฟง กำลัง เดา แข่งกันกับ God มากกว่ามั้ง จึงกำลังถกเถียงกันอยู่)

    แล้ววอีกข้อหนึ่งที่สงสัยค่ะทั้งสองพระองค์เมื่อนิพพานแล้วท่านได้พบปะเจอกันบ้างรึเปล่าคะ?

    +++ ถ้าหาก God พ้นแล้วจากความเป็น จิต เมื่อนั้นจึงจะมีความสามารถเห็น และ พบเจอ พระพุทธเจ้าได้

    เอวัง ก็มีด้วยประการละฉะนี้ ขอให้ท่านทั้งหลายจงพ้นจาก โมหะ โดยเร็วเทอญ
     
  18. phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ความแตกต่าง God กับ ผู้ประเสริฐในขอบเขตอนันตจักรวาล


    God ที่หมายถึง พระผู้สร้างทุกสิ่ง

    (นี่เป็นนิยามหรือศัพท์ของเราที่จะอธิบาย ต่อไปนี้เท่านั้น)

    ถามว่า ศักดิ์ หรือ ความแตกต่างเป็นอย่างไร?

    ให้เปรียบเทียบกับ อนันตจักรวาล ก่ แล้วกัน

    อนันตจักรวาล เปรียบเสมือน ลูกฟุตบอล สำหรับ God

    ดังนั้น ผู้ประเสริฐทั้งหลายภายใต้ขอบเขตอนันตจักรวาล

    จักนำมาเปรียบเทียบ กับ God ไม่ได้เลย

    ที่บอกว่า เทพ ต่างๆ เป็น God ก่แล้วแต่ภาระกิจที่จะถูกกำหนด

    มาปฏิบัติหน้าที่ แทน God หรือเรียกว่า ธาตุแบ่ง หรือ ที่เข้าใจว่า ภาคแบ่ง

    นั้นล่ะ ....

    บางคนคิดเหมาว่า เทพ เหล่านั้น เป็น God

    ... God ลูกหลาน ของ God พระผู้สร้าง ...

    ทำไมจึงต้องเรียกว่า God เพราะ มีเชื้อหรือธาตุ

    จาก God โดยตรง (มาปฏิบัติแทน)




    หรือแม้นแต่ จะมีผู้ประเสริฐ นอกอนันตจักรวาล ก่ ยังเปรียบเทียบ God พระผู้สร้าง ไม่ได้เลย

    ในองค์ความรู้ ของ พี่ใหญ่โลกมนุษย์ หรือ ที่รู้จักกันในนาม มนตด เขารู้จัก God รู้จักความเป็นจริง

    ใน Matrix ต่างๆ แต่ในมิติของโลกมนุษย์ล่าสุดนี้ เข้าใจเรียกว่า ธรรมขันธ์ (Matrix = ธรรมขันธ์)

    Matrix มนตดเรียก = ธรรมขันธ์ มนุษย์โลกเรียก
     
  19. phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    แต่แท้จริงโลกมนุษย์ ก่ รู้จักพระผู้สร้าง หรือ God มานานมากแล้ว หากจะศึกษาจริงๆ ก่ ไปหาอ่าน ภัควัทคีตา ดู ในอดีตต้องอาศัยเรื่องความเชื่อก่อน

    อนาคต จะไม่ใช่เรื่องเกียวกับความเชื่ออีกต่อไป

    เพราะจะสามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ สัมผัสได้

    นี่ล่ะเรียกว่า ศาสตร์ ที่มีวิวัฒนาการ

    ไม่งั้น มนตด จะมาตามหา God บนโลกนี้ ฤ
     
  20. inzee01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2012
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +285
    เคยอ่านบทวิเคราะห์ของนักวิชาการฝรั่ง คำว่า God ที่ฝรั่งใช้ จริงๆแล้วมาจากคำว่า โคตมะ ซึ่งก็คือพระพุทธเจ้าของพระพุทธศาสนานั่นเอง
    ส่วนพระเจ้าของศาสนาคริสต์ เป็นแค่พระโพธิสัตว์มาบำเพ็ญบารมีชาติหนึ่งแม้แต่องค์หลวงพ่อฤาษีลิงดำและพระเถระหลายองค์ก็เคยยืนยัน ไม่ควรเอามาเปรียบเทียบกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    โลกและจักรวาลต่างๆมันมีมาของมันอย่างนี้ เกิดแล้วดับ ดับแล้วเกิดไม่มีใครสร้างมันขึ้นมาหรอกครับ การที่เราไม่รู้อะไรจริงหรือศึกษามาแบบงูๆปลาๆ แล้วเอามาตั้งคำถามมั่วก็เท่ากับปรามาสพระพุทธเจ้า บาปเสียเปล่าๆ
    หรือว่างจนไม่มีอะไรจะทำครับ
     

แชร์หน้านี้