เหรียญพระชัยหลังช้าง ปิดรายการแล้วครับ
เหรียญพระชัยหลังช้างภปร.
พระเครื่องและเหรียญที่ระลึกที่มีพระปรมาภิไธยย่อ "ภปร" ประดิษฐานอยู่ ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า หรือด้านหลัง ถือว่าเป็นสิ่งมงคลที่น่าเก็บสะสมบูชาอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเหรียญพระพุทธรูปของ วัดต่างๆ ที่มีตรา ภปร.ประดิษฐานอยู่ด้านหลังนั้นมีอยู่จำนวนมากเช่นกัน
หลายๆ รุ่นมีพิธีการสร้างที่เข้มขลัง และมีพุทธศิลป์ที่งดงามอย่างยิ่ง ดั่งเช่นเหรียญพระ พุทธ หรือเหรียญพุทธคุณ พระปรมาภิไธยย่อ ภปร.ที่เรียกขานกันว่า "เหรียญพระชัยหลังช้าง"
สร้างโดยคณะสงฆ์ทั้ง 2 นิกายในปีมหามงคลเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ 60 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 5 ธ.ค.2530 มีเนื้อทองคำ, เนื้อเงิน, เนื้อกะไหล่ทอง
พิธีพุทธาภิเษกที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กรุงเทพฯ พระเกจิอาจารย์ที่ร่วมพุทธาภิเษกหมู่ เจริญพระพุทธมนต์ อาทิ 1.สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์) วัดราชบพิตรฯ 2.สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร 3.สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา 4.สมเด็จพระวันรัต วัดโสมนัสวิหาร 5.สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดปทุมคงคา 6.พระพรหมคุณาภรณ์ (สมเด็จพุฒาจารย์เกี่ยว) วัดสระเกศ 7.หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง 8.พระอาจารย์ชื้น พุทธสาโร วัดญาณเสน 9.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง 10.หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง 11.หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม 12.หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ 13.หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม 14.หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก 15.หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม 16.หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม ฯลฯ
มูลเหตุที่นำรูปพระชัยหลังช้างมาจัดสร้างเพื่อเทิดพระเกียรติล้นเกล้าทั้งสองพระองค์ ด้วยเห็นว่าพระชัย (หลังช้าง) เป็นพระคู่บ้านคู่เมือง คู่บุญญาบารมีของปฐมกษัตริย์แห่งราชจักรีวงศ์ ควรที่ประชาชนจะมีไว้สักการบูชา เพราะเป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในพระองค์
ดังเช่น สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น) อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรุงเทพฯ ได้ลิขิตไว้ว่า "หากอยู่กับบ้านก็คุ้มบ้าน หากอยู่กับตัวก็คุ้มตัว" และเพื่อเป็นการยืนยันคำพูดดังกล่าว ท่านจึงได้จัดพิมพ์หนังสือเรื่อง "ปรากฏการณ์อันน่าพิศวงเกี่ยวด้วยเหรียญพระชัย (หลังช้าง)" ขึ้น โดยรวบรวมเรื่องราวจากผู้ที่ได้รับประสบการณ์จากเหรียญนี้มากมายหลายท่าน
สำหรับความเป็นมาของ "พระชัยวัฒน์" เดิมมีพระนามว่า "พระชัย" หรือ "พระไชย" ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ออกพระนามเพิ่มว่า "พระไชยวัฒน์" และได้เปลี่ยนพระนามมาเป็น "พระชัยวัฒน์" ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
พุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่มีลักษณะพิเศษคือ พระหัตถ์ซ้ายจะอยู่ในลักษณะถือด้ามพัด เป็นแบบนั่งขัดสมาธิเพชร
ที่มาจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด
เบ๊าเบา ๆๆๆๆ 250 บาทครับ...
ขอบพระคุณทุกท่านครับ สาธุ...
ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย จิตตานุปัสสนา, 2 ธันวาคม 2010.
หน้า 3 ของ 29
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
เหรียญหลวงปู่ท่อน รุ่นเหลือกินเหลือใช้
ผมว่าองค์ท่านเมตตาสุดๆๆๆๆ อีกองค์ครับ
สาธุ..
ประวัติองค์ท่านครับ..
โดย ข่าวสด วัน อาทิตย์ ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 02:05 น.
คอลัมน์ มงคลข่าวสด
อย่ามีอคติ...อย่าลำเอียงกับใครเลย และอย่าขึ้นๆ ลงๆ อย่าเอารัดเอาเปรียบกันอีกเลย
ความตอนหนึ่งจากธรรมโอวาทของหลวงปู่ท่อน ญาณธโร ที่คอยอบรมสอนสั่งสาธุชนให้ปฏิบัติตาม ด้วยกุศโลบายอันแยบคาย ในการเทศนา ให้ผู้ฟังนำไปขบคิดพินิจพิจารณาด้วยปัญญา
หลวงปู่ท่อน เป็นพระเถราจารย์สายกัมมัฏฐาน ที่มีความเชี่ยวชาญด้านจิตตภาวนา การเทศนา และวิทยาคมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
ปัจจุบัน หลวงปู่ท่อน หรือ พระญาณทีปาจารย์ สิริอายุ 78 พรรษา 58 เป็นเจ้าอาวาส วัดศรีอภัยวัน ต.นาอ้อ อ.เมือง จ.เลย
อัตโนประวัติ มีนามเดิม ท่อน ประเสริฐพงศ์ เกิดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2471 ที่บ้านหินขาว ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายแจ่ม และนางทา ประเสริฐพงศ์ เป็นบุตรลำดับที่ 6 จากพี่น้องทั้งหมด 19 คน
ในวัยเยาว์ สำเร็จการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนบ้านหินขาว แต่ด้วยฐานะทางบ้านยากจน ท่านได้ลาออกจากโรงเรียนมาช่วยพ่อแม่ทำงาน
ต่อมาได้เรียนต่อที่โรงเรียนผู้ใหญ่ที่บ้านหินขาว สอบเทียบได้ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
หลังจากจบชั้น ป.4 ท่านไม่ได้เข้าศึกษาต่อ เพราะต้องเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว ต้องออกมาทำงานหาเลี้ยง
ช่วงวัยหนุ่มฉกรรจ์ เป็นคนติดเพื่อนฝูง กินเหล้าเมายา จีบสาวตามบ้านต่างๆ ในละแวกนั้น ทำให้โยมบิดา-มารดา เป็นกังวลใจมาก หากเป็นเช่นนี้ต่อไป บุตรชายคงจะเสียคนเป็นแน่ จึงได้ปรึกษากัน ขอให้บุตรชายบวชเรียน
โยมบิดาจึงนำตัวบุตรชายไปฝากกับหลวงปู่คำดี ปภาโส พระเกจิชื่อดังแห่งวัดป่าชัยวัน จ.ขอนแก่น แต่หลวงปู่คำดีมีข้อแม้ว่า ก่อนบวชจะต้องรักษาศีล นุ่งห่มขาว เจริญภาวนา กินข้าวมื้อเดียวก่อน
ครั้นอยู่ทดสอบจิตใจได้ 5 เดือน หลวงปู่คำดีได้อนุญาตให้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2491 ณ พัทธสีมา วัดศรีจันทร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมีพระครูพิศาลสารคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูคัมภีรนิเทศ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระมหาสุพจน์ อุตฺตโม เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ภายหลังอุปสมบท ได้เดินทางไปอยู่กับหลวงปู่คำดี ณ วัดป่าชัยวัน โดยหลวงปู่คำดีเป็นอาจารย์กัมมัฏฐาน คอยสอนให้ทำภาวนา นั่งสมาธิกัมมัฏฐาน เน้นเรื่องสติ สมาธิ และปัญญา
ระยะเวลาผ่านไปนานพอสมควร ท่านได้ช่วยครูบาอาจารย์ แบ่งเบาภาระในการสอนคนที่จะมาบวช ด้วยการสอนขานนาค เป็นต้น ครั้นถึงช่วงออกพรรษา ได้เป็นหัวหน้าเดินธุดงค์เข้าป่าเป็นกิจวัตร
ครั้งหนึ่งท่านได้มีโอกาสพบหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์สายพระป่า และได้รับโอวาทอันทรงคุณค่าอย่างหาที่เปรียบมิได้ จากหลวงปู่มั่น ให้เร่งทำความเพียร มิให้ประมาท ชีวิตนี้อยู่ได้ไม่นานก็ต้องตาย
หลวงปู่ท่อน ยังได้มีโอกาสไปกราบเยี่ยมครูบาอาจารย์หลายท่าน อาทิ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี, หลวงพ่อมหาปิ่น ชลิโต เป็นต้น
หลังจากช่วยงานการครูบาอาจารย์เสร็จสิ้น หลวงปู่คำดี ได้นำหมู่คณะออกวิเวกไปทาง จ.เลย ตอนนั้น หลวงปู่ท่อนบวชได้ 7 พรรษาแล้ว
พ.ศ.2497 หลวงปู่คำดี นำคณะเข้าป่าและถ้ำต่างๆ ได้ภาวนาทำความเพียร ญาติโยมมาฟังธรรมะ และในพรรษานี้ หลวงปู่ท่อนได้อยู่จำพรรษาที่วัดถ้ำผาปู่กับหลวงปู่คำดีด้วย
หลวงปู่ท่อนอยู่ที่วัดถ้ำผาปู่ได้ 2 พรรษา มีญาติโยมมาขอให้ไปโปรดที่วัดถ้ำตีนผา อ.เชียงคาน 1 พรรษา ต่อมาหลวงปู่คำดีเกิดอาพาธเจ็บป่วยด้วยโรคชรา ท่านจึงกลับมาเยี่ยมและช่วยสร้างวัดถ้ำผาปู่ไปด้วย จวบกระทั่ง หลวงปู่คำดีมรณภาพลงอย่างสงบ
พ.ศ.2500 ญาติโยมได้นิมนต์ให้หลวงปู่ท่อนไปอยู่ที่ป่าช้านาโป่ง และได้สร้างเป็นวัดศรีอภัยวัน ในเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ รวมทั้งรักษาความเป็นป่าอย่างสมบูรณ์ไว้
จากนั้นมา หลวงปู่ท่อนได้จำพรรษาที่วัดศรีอภัยวัน จ.เลย ตราบจนถึงปัจจุบัน
เนื่องจากหลวงปู่ท่อนเป็นพระป่า ที่วัดจึงไม่มีสิ่งก่อสร้างใหญ่โต กุฏิเป็นเพียงกุฏิเล็กๆ ปัจจัยที่ได้รับจากญาติโยม ล้วนแบ่งเอาไว้ใช้เท่าที่จำเป็น ส่วนใหญ่จะแบ่งปันให้แก่วัดที่ขาดแคลนหรือทุรกันดาร
สำหรับลำดับงานปกครองคณะสงฆ์
พ.ศ.2503 เป็นเจ้าอาวาสวัดวัดศรีอภัยวัน
พ.ศ.2510 เป็นเจ้าคณะตำบลเมืองเขต 2 (ธ)
พ.ศ.2526 เป็นเจ้าคณะอำเภอเชียงคาน-ภูเรือ (ธ)
พ.ศ.2532 เป็นเจ้าคณะอำเภอเชียงคาน-ปากชม (ธ)
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2514 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ที่ พระครูญาณธราภิรัติ
พ.ศ.2527 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอกในราชทินนามเดิม
พ.ศ.2531 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษในราชทินนามเดิม
พ.ศ.2535 เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ครบ 5 รอบ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ที่ พระญาณทีปาจารย์ เป็นกรณีพิเศษ
นับแต่ปี พ.ศ.2528 เป็นต้นมา หลวงปู่ท่อน เริ่มมีกิจนิมนต์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่กรุงเทพฯ ภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคใต้ รวมถึงต่างประเทศ แทบจะหาเวลาว่างไม่ได้เลย แต่หลวงปู่มิเคยขัดศรัทธาญาติโยมแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ.2536 หลวงปู่ได้อาพาธด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้หลวงปู่เกิดอาการวิงเวียนหน้ามืดเป็นประจำ
ล่วงมาถึงปี พ.ศ.2537 หลวงปู่อาพาธอีก ด้วยโรคเส้นเลือดในช่องท้องโป่งพอง ต้องเข้ารับการผ่าตัดจากคณะแพทย์โรงพยาบาลวิชัยยุทธ แม้การผ่าตัดจะประสบผลสำเร็จ แต่ส่งผลให้หลวงปู่ท่อนไม่สามารถเทศนาบรรยายธรรมได้นานดังแต่ก่อน เพราะสุขภาพไม่อำนวย
ทุกวันนี้ หลวงปู่ท่อนยังคงเดินทางเข้าไปตรวจเช็กสุขภาพที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธอย่างสม่ำเสมอ
หลวงปู่ท่อน มีความรู้ความสามารถในด้านวิทยาคม วิปัสสนากัมมัฏฐาน มีฌานสมาบัติแก่กล้า มีวิชาทำวัตถุมงคล ตามตำรับโบราณคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงในยุคอดีต เป็นเหตุปัจจัยเสริมให้วัตถุมงคลทั้งหมดของท่านมีพุทธคุณศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง
หลวงปู่ท่อน ได้มีการสร้างวัตถุมงคลมากมาย อาทิ พระผงหลังโต๊ะหมู่บูชารุ่นแรก, พระผงหลังโต๊ะหมู่บูชารุ่นแรก (รุ่นสรงน้ำ) และอื่นๆ อีกมากมาย
ด้วยกุศลผลบุญทั้งมวลอันเกิดจากความอุตสาหะแห่งการบำเพ็ญเพียร ส่งผลให้หลวงปู่ท่อน มีอายุยืนยาว เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของคณะศิษยานุศิษย์ เป็นกำลังอันสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา รวมทั้งเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนไปตราบนาน
ราคา 250 บาทครับ...ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
สาธุ -
ได้รับเเล้วครับสวยงามมาก เเต่ที่เเถมพระมาไม่ทราบว่า ที่ไหนครับ
-
ของหลวงปู่เป็งมั้งครับ...อิอิ
น่าจะเป็นพระอามิตาภพุทธเจ้าครับ
เอาไปรวยๆๆๆๆ ครับ -
ของครูบาคำเป็ง ผมเคยมีเเต่แม่อุมายิม ได้มานานมากเเล้ว ขอบคุณครับ
-
-
รหัส EH 7263 1033 5 TH
สาธุ รวยๆๆๆ ครับ...
:cool: -
ท่านผู้มีบุญสาธุ...:cool: -
-
น้องเรามีพระหลากหลายจริงๆ มีทุกประเภทอิอิ
ลองหาของในตำนานมาลงโชว์หน่อย
ประเภท ไอ้งั้ง เอาตัวที่เค้าว่าถ้าผู้หญิงเดินข้าม มันจะลุกขึ้นทันทีนะ
รับรอง
ถ้าน้องวานาตาเบ้ มาเห็น
ต้องจองแน่นอน อุอุ -
-
จัดส่งพรุ่งนี้นะครับ
จะหาเวลาส่งให้ได้ครับ
พรุ่งนี้ยุ่งสุดๆๆๆๆ อีก 1 วัน
:cool: -
ท่านวาตานาเบ้ ชอบแนวนี้หรอ???
หุหุ...
:VO -
ในตำนานเหรอครับ...
หลวงปู่พิบูลย์ 2 องค์ สุดยอดพระเมืองอุดรฯ ถูกจับถ่วงน้ำ 7 วันเพราะต้องสงสัยว่าเป็นคอมมิวนิสต์ แต่รอดครับ
พระของท่านมาแรงมากๆๆๆๆ
(พระโชว์ฺ อยากได้ไม่ขาย จะเอาไปเลี่ยมทอง ...(ตอนมีตังค์) อิอิ)
เดี๋ยวเอาภาพมาลงให้ดูึครับ..
ภาพแรก...ต้นแบบเหรียญห้าเหลี่ยม ทำมาจาก human bone ครับ..
ดูรอยรูเลือดด้านข้าง (ภาพ 2)
อีกภาพสุดท้าย เป็นมวลสารต่างๆ ปั้นออกมาประมาณเบี้ยแก้ แล้วถักด้วยลวด สนิมจับเลยครับ
ผงนั้นมีทั้งทอง ทั้งเหล็กไหล ข้างในเห็นว่าบรรจุปรอท
แล้วปุ่มดำๆ นั้น ก็นอกระซู่จากฝั่งลาวครับ...ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
-
-
-
ขยายซะใหญ่เลย...
ไม่แขวนครับ บูชาอย่างเดียว อิอิ...
อย่างมากก็แขวนลูกปรอทของหลวงปู่
แต่ส่วนใหญ่แม่อุมาครับ..สุดยอดอยู่แล้ว... -
หน้า 3 ของ 29