พระปรางค์ประธานวัดวรเชษฐ์คล้ายคลึงกับพระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก
[MUSIC]http://www.oknation.net/blog/home/video_data/801/20801/video/27153/27153.wma[/MUSIC]
เมื่อจุลศักราช 926 ปีชวด ฤศกสมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้าเมืองเสด็จอยู่ ณ เมืองพิษณุโลกกับสมเด็จพระบรมชนกนารถมหาธรรมราชาธิราชนั้นได้เสด็จไปช่วยราชการสงครามเมืองหงสาวดีมีชัยชนะเสด็จกลับมายังเมืองพิษณุโลกเปลื้องเครื่องทรงออกบูชาพระชินราชพระชินศรีแล้วให้มีการสมโภชสามวันภายหลังมาพระองค์ไปต้องกักขังอยู่เมืองหงสาวดีช้านานเมื่อได้ช่องแก่การและกลับคืนมายังกรุงศรีอยุธยาเมื่อเสด็จกลับจากเมืองหงสาวดีครั้งหลังนั้นได้ทรงรับมหาเถรคันฉ่องเข้ามาแล้วได้เสด็จขึ้นไปนมัสการพระพุทธชินราช พระพุทธชินศรีเมืองพิษณุโลกแล้วได้ทรงบูชาฉลองสามวันเหมือนดังนั้นอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อจุลศักราช 953 ปีเถาะตรีศก สมเด็จพระเจ้าเอกาทศรฐอิศวรบรมนารถเสด็จขึ้นไปประพาสจังหวัดเมืองพิษณุโลกทุกตำบลมีพระราชโองการดำรัสสั่งให้เอาทองนพคุณเครื่องต้นซึ่งเป็นราชูปโภคมาแผ่เป็นทองปะทาศรีแล้วเสด็จไปทรงปิดในองค์พระพุทธชินราชพระพุทธชินศรีทั้งสองพระองค์ด้วยพระหัตถ์เสร็จบริบูรณ์แล้วให้มีการสมโภชเป็นโหฬารสัการเจ็ดวัน
<O:p</O:p
อันสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชและสมเด็จพระนเรศวรบรมนารถและสมเด็จพระเอกาทศรฐอิศวรบรมนาถสามพระองค์นี้เมื่อแผ่นดินสมเด็จพระเจ้ามหาจักรพรรดิราชาธิราช แม้ได้เสด็จประทับอยู่ ณเมืองพระพิษณุโลก ทั้งสามพระองค์ ได้มอบพระองค์เป็นอุปฐากปฏิบัติพระพุทธชินราชพระพุทธชินศรีและพระศรีศาสดาได้ทรงทำสักการบูชาเนืองๆ มาเป็นอันมาก หากอำนาจพระราชกุศลที่พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญด้วยความเลื่อมใสในพระพุทธมหาปฏิมากรอันประเสริฐทั้งสามพระองค์นี้มาภายหลังมาพระองค์ก็ได้เสวยราชสมบัติเป็นพระเจ้าแผ่นดินสยามใหญ่มีชัยชนะศัตรูหมู่ปัจจามิตรทั่วทุกทิศทุกทาง โดยลำดับราชการสืบๆกันมาถึงสามแผ่นดิน ด้วยพระบารมีพระเจ้าแผ่นดินสามพระองค์นั้นเล่าฤาชาปรากฏมากพระเจ้าแผ่นดินสยามแทบทุกแผ่นดินในภายหลังมาก็พลอยนับถือพระพุทธมหาปฏิมากรคือ พระพุทธชินราชพระพุทธชินศรีสืบมาและจนเป็นอันมากก็ลงใจเห็นว่า พระพุทธชินราชพระพุทธชินศรี 2 พระองค์นี้งามนัก ไม่มีพระพุทธรูปใหญ่น้อยที่ไหนๆใหม่เก่างามดีไปกว่าได้ เห็นจะเป็นของที่เทพยดาเข้าสิงช่างฤานฤมิตรเป็นมนุษย์มาช่วยสร้างทำเป็นแน่
<O:p</O:p
ตามข้อสันนิษฐานของ น. ณ ปากน้ำ อาจเป็นไปได้ว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงโปรดการเจริญกรรมฐานที่วัดนี้ในสมัยที่ทรงครองราชย์อยู่นั้น สมเด็จพระเอกาทศรถทรงทราบเป็นอย่างดีจึงได้บูรณะวัดป่าแก้วแล้วพระราชทานนามใหม่ว่า วัดวรเชษฐ์
และที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ ถ้าสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงสร้างเจดีย์ที่วัดป่าแก้วหลังสงครามยุทธหัตถีแล้ว เจดีย์ทรงพระปรางค์องค์นี้ก็น่าจะเป็นเจดีย์ที่ทรงสร้างในครั้งนั้น<O:p</O:p
ข้อมูลสีม่วงนำข้อมูลมาจากหนังสือวาระสุดท้ายและสิ่งที่เป็นอมตะของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชอยู่ที่ไหน ผู้เขียนคือ พลตรี พิจิตร ขจรกล่ำ หน้า ๘๗
ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย จงรักภักดี, 28 เมษายน 2009.
หน้า 63 ของ 234
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
...พระพุทธชินราชพระพุทธชินศรี 2 พระองค์นี้งามนัก ไม่มีพระพุทธรูปใหญ่น้อยที่ไหนๆใหม่เก่างามดีไปกว่าได้ เห็นจะเป็นของที่เทพยดาเข้าสิงช่างฤานฤมิตรเป็นมนุษย์มาช่วยสร้างทำเป็นแน่.....
.....ในครั้งนั้นพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก มีพระราชสาสน์ให้ทูลเชิญไปถวายสมเด็จพระเจ้ากรุงสยาม ณ เมืองศรีสัชนาลัย
สวรรคโลก ซึ่งเป็นเมืองเดิมของพระราชเทวี ขอช่างพราหมณ์ช่วยปั้นหุ่นพระพุทธรูปเพราะเวลานั้นมีคนเล่าภาสรรเสริญ
ช่างเมืองศรีสัชนาลัยสวรรคโลกมาก ว่าทำพระพุทธรูปได้งามๆดีๆ ก็เมืองสร้างใหม่นั้นอยู่ไม่ไกลนัแต่เมืองศรีสัชนาลัย
สวรรคโลก พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎกจึงทรงพระวิตกว่า ถ้าจะทำพระพุทธรูปขึ้นมาโดยลำพังฝีมือลาวเชียงแสน กลัวเกลือก
จะไม่งามดีสู้พระเจ้ากรุงสยามเมืองสวรรคโลก จึงโปรดให้ช่างพราหมณ์ฝีมือดี 5 นาย มีชื่อจดหมายไว้ในหนังสือโบราณ
บาอินทร์ 1 บาพรหม 1 บาพิษณุ 1 บาราชสังข์ 1 บาราชสังข์ 1 บาราชกุศล 1 ช่างพราหมณ์ 5 นายกับทูตถึงเมืองสร้างใหม่
แล้ว พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎกให้ช่างเมืองสวรรคโลกสมทบกับช่างชาวเชียงแสน และชาวเมืองหริภุญชัยช่วยกันหุ่นพระพุทธ
รูปสามองค์ซึ่งซวดทรงสัณฐานคล้ายกันแต่ประมาณนั้นเป็นสามขนาด คือพระองค์หนึ่ง ตั้งพระนามเริ่มว่าพระพุทธชินราช
หน้าตัก 5 ศอกคือ 5 นิ้ว มีเศษอีกพระองค์ 1 เริ่มพระนามไว้ว่าพระพุทธชินศรี หน้าตัก 5 ศอกคืบ 4 นิ้ว อีกพระองค์ 1
เริ่มพระนามไว้ว่าพระศรีศาสดา หน้าตัก 4 ศอกคืบ 6 นิ้ว มีสัญฐานอาการคล้ายกัน อย่างพระพุทธรูปเชียงแสน ไม่เอาอย่าง
พระพุทธรูปในเมืองศรีสัชนาลัยสวรรคโลกและเมืองสุโขทัย ที่ทำนิ้วสั้นยาวไม่เสมอกันอย่างมือคน ถึงพระลักษณะอื่นก็ปนๆ
เป็นอย่างเชียงแสนบ้าง เป็นอย่างศรีสัชนาลัยสวรรคโลกสุโขทัยบ้าง ช่วงทั้งปวงและคนดูเป็นอักมากเห็นพร้อมกันว่า
พระพุทธรูปสามพระองค์นี้งามดีหาที่จะเสมอมิได้ แล้วจึงให้เข้าดินอ่อนดินแก่ชะนวนตรึงทวยรัดปาอกให้แน่นหนาพร้อมมูล
บริบูรณ์เสร็จแล้วๆ ให้รวบรวมจัดซื้อจัดหาทองคำสัมฤทธิ์อย่างดีได้มาเป็นอันมากหลายร้อยหาบแล้ว ครั้นหุ่นเห็นพระพุทธรูป
สามองค์เข้าดินสำเร็จแล้ว กำหนดมงคลฤกษ์จะได้เททอง ณ วัน 5 เดือน 4 ขึ้น 15 ค่ำ ปีเถาะสัปคศกจุลศักราช 317 ปี
สมเด็จพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก จึงดำรัสสั่งให้อาราธนาชุมนุมพระภิกษุสงฆ์ที่อยู่ในถิ่นที่มีโดยรอบคอบใกล้เคียงเมืองนั้น
ทั้งฝ่ายคณะคามวารีอรัญวาสี มีพระอุบาฬีกาและพระศิริมานน์วัดเขาสมอแครงเป็นประธาน และให้สวดพระปริตพุทธมนต์
มหามงคลทำสัจกิริยา อาราธนาเทพยดา ให้ช่วยในการนั้น
<TABLE class=a4 cellSpacing=0 cellPadding=2 width=200 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=649 bgColor=#000000></TD></TR><TR><TD align=middle width=649>พระพุทธชินราช
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
</TD></TR></TBODY></TABLE>
และให้ชีพ่อพราหมณ์ทำการมงคลพิธี ตามพราหมณ์ศาสตร์ด้วยช่วยในการพระราชประสงค์ก็แล้วจึงเททองหล่อ
พระพุทธรูปสามพระองค์ ด้วยเนื้อทองสัมฤทธิ์โบราณแท้ ครั้นเททองเต็มแล้วพิมพ์เย็นแกะพิมพ์ออก รูปพระชินศรี
พระศรีศาสดาสองพระองค์บริบูรณ์ดี มีน้ำทองแล่นตลอดเสมอกันการ เป็นสำเร็จ แต่รูปพระชินราชเจ้านั้นไม่ลงบริบูรณ์
ช่างได้ทำหุ่นรูปใหม่ และหล่ออีกถึงสามครั้งก็มิได้สำเร็จเป็นองค์พระ สมเด็จพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎกโทมมัสนัก แล้วทรง
ตั้งสัจกิริยาธิฐานอ้างบุญบารมีแล้วรับสั่งให้พระนางประทุมเทวีตั้งสัจกิริยาธิฐานด้วย ครั้นนั้นประขาวคนหนึ่งเข้ามาช่วยปั้น
หุ่นทำการแข็งแรง ประขาวคนนั้นเป็นใช้ใบ้ไม่พูด ใครถามชื่อตำบลบ้านก็ไม่บอกไม่มีใครรู้จักช่วยทำการทั้งกลางวัน
กลางคืน ไม่มีเวลา ครั้นรูปหุ่นงามดีสำเร็จเข้าดินพิมพ์แห้งแล้ว กำหนดมงคลฤกษ์จะได้เททอง ณ วัน 5 ค่ำ เดือน 6
ขึ้น 8 ค่ำ ปีมะเส็งนพศก จุลศักราช 319 พุทธศาสนากาลล่วงแล้ว 1500 หย่อนอยู่เจ็ดวัน จึงดำรัสสั่งให้อาราธนาชุมนุม
พระภิกษุสงฆ์ และชีพ่อพราหมณ์ทำการมงคลพิธีเหมือนครั้งก่อน แล้วเททองก็เต็มบริบูรณ์ ประขาวที่มาช่วยทำนั้นก็เดิน
ออกจากที่นั้นไป แล้วออกจากประตูเมืองข้างทิศเหนือหายไปที่ตำบลหนึ่ง บ้านนั้นได้ชื่อว่าบ้านตาประขาวหายจนทุกวันนี้
พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎกเมื่อต่อยพิมพ์พระพุทธรูปออกเห็นบริบรูณ์งามดี จึงมีรับสั่งให้ข้าราชการไปตามสืบหาตัวประขาว
นั้น จะมาพระราชทานรางวัลก็ไม่ได้ตัวเลย พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก ให้ช่างแต่งตั้งพระพุทธรูปให้เกลี้ยงสนิทดี ที่ทวยเหล็ก
ให้ถอนออกเสียเปลี่ยนเป็นทวยของใช้แทนที่ แล้วขัดสีชักเงาสนิทอย่างเครื่องสัมฤทธิ์ที่เกลี้ยงเกลาดีแล้วอัญเชิญเข้า
ประดิษฐานไว้ในสถานทั้งสาม คือพระพุทธชินราชอยู่ในพระวิหารใหญ่ สถานทิศตะวันตกพระมหาธาตุผันพระพักตร์
ต่อแม่น้ำ พระพุทธชินศรีอยู่ทิศเหนือ พระศรีศาสดาอยู่ทิศใต้ .....
*แหล่งที่มา �ٹ����дͷ��� ��� ��� �ô���� -
ขออนุโมทนา กับคุณพี่จงรักภักดี และคุณพี่ทางสายธาตุ
เมื่อวานนี้ ได้มีการเริ่มงานแสดงแสงสีเสียง แผ่นดินพระนเรศวรมหาราช ณ.พระราชวังจันทร์ จ. พิษณุโลก
ก่อนการแสดงแสงสีเสียง ได้มีพิธบวงสรวง ต่อดวงพระวิญญาณ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ในพิธีบวงสรวงนี้ ได้เปิดเพลง พระนเรศวรมหาราช ที่โมเย ได้ประพันธ์ และขับร้องร่วมด้วย ในพิธี
จึงแจ้งมาให้ทราบ ค่ะคณพี่ทางสายธาตุ
ขอพระบารมีแผ่ไพศาล ปกเกล้าปกกระหม่อม -
ดีใจด้วยค่ะ ตอนนี้พี่กำลังยิ้มด้วยจิตยินดีด้วยจากใจจริงอยู่ค่ะ ดีใจด้วย :cool:
ขออนุโมทนากับจิตบริสุทธิ์และจงรักภักดีของน้องที่ได้สร้างผลงานถวายพระองค์ท่านนะคะ -
พรุ่งนี้ป็นวันกองทัพไทยวันที่ ๑๘ มกราคม เชื่อว่าหลายๆท่านไม่ทราบ หากท่านไม่ได้อยู่ในวงการ เดิมเคยใช้วันที่ ๒๕ มกราคม ด้วยถือเอาวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะต่อพระมหาอุปราชา เรื่อง
นี้ชาวไทยทุกคนคงจำกันได้ แต่ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงจากวันที่ ๒๕ เป็น
วันที่ ๑๘ มกราคม ซึ่งมีหลักฐานเชื่อว่าน่าจะตรงกับวันจริงในประวัติศาสตร์ ครับ -
<table class="tborder" width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 21 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 20 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> <center"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </center"></td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> โมเย+
อนุโมทนา กับท่านผู้อ่าน ทุกท่านค่ะ
</td></tr></tbody></table> -
สงครามยุทธหัตถี
ขอพระองค์ผู้ทรงสถิตย์อยู่บนสวรรค์ชั้นฟ้าโปรดคุ้มครองประเทศไทยให้ร่มเย็นเป็นสุขทุกทิวาราตรีกาล ขอพระบารมีแผ่ไพศาลปกเกล้าปกกระหม่อมชาวไทยทุกคนไปตลอดกาล -
สงครามยุทธหัตถี
-
สงครามยุทธหัตถี
-
สงครามยุทธหัตถี
เพราะมีพระองค์ท่านทรงออกรบกู้บ้านกู้เมืองไว้ในกาลก่อน ลูกหลานไทยจึงมีแผ่นดินอาศัยอยู่อย่างร่มเย็นมาตลอดเช่นนี้
สมควรที่พวกเราชาวไทยจะได้ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมขององค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชตลอดไป -
ขออนุโมทนากับคุณทางสายธาตุ ครับ น่าเสียดายที่กองทัพไทยไม่ได้
ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนชาวไทยได้รับรู้และรับทราบถึงวันสำคัญของ
วันนี้มากเท่าที่ควร กองทัพจะต้องขอบคุณ คุณทางสายธาตุ ที่ได้กรุณา
ออกมานำเสนอบทความเพื่อรำลึกถึงพระองค์ท่านด้วยความจงรักภักดี
ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ในวันสำคัญซึ่งเป็นวันแห่งความภาค
ภูมิใจของชาวไทยทุกผู้ทุกนาม
พี่น้องชาวไทยทั้งหลายครับ โปรดหยุดแล้วคิดกันสักวัน ว่าเราได้เคยทำ
อะไรบ้างที่เป็นความภาคภูมิใจให้กับแผ่นดินแม่ที่เราได้ถือกำเนิด ได้อยู่
อาศัย อย่างร่มเย็นเป็นสุข กันอยู่ทุกวันนี้ -
ขอแสดงความยินดีกับคุณพี่โมเยและขออนุโมทนากับทุกท่านครับ
ถึงวันกองทัพไทยในทฤษฎีใหม่จะเป็น 18 ม.ค. แต่ในวันที่ 25 ม.ค. นี้จะมีงานบวงสรวงองค์เสด้จพ่อพระนเรศเป็นเจ้าท่านที่วัดหทัยนเรศวร์ ศาลายาครับ ท่านใดว่างขอเชิญนะครับ -
ขอบคุณมากค่ะ
ขออนุโมทนา กับคุณ ไก่เหลืองหางขาวด้วยค่ะ
-
สาธุ ขออนุโมทนา ด้วยครับ
คุณไก่เหลืองหางขาวพอจะมีรายละเอียดในวันที่ ๒๕ ม.ค. บ้างไหมครับ -
ขับเสภาสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
[MUSIC]http://www.encyclopediathai.org/mp3/naresoun01.mp3[/MUSIC]ประพันธ์เนื้อร้องโดย นาวาอากาเอกเกษม พงษ์พันธ์ กองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารอากาศฯ
เพลง "ขับเสภาสมเด็จพระนเรศวรมหาราช"
<TABLE bgColor=#f3f3f3><TBODY><TR><TD vAlign=top align=right>ทำนอง คำร้อง ขับร้อง :</TD><TD>วิโรจน์</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right>Credit by :</TD><TD>ดุริยางค์ทหารอากาศ</TD></TR></TBODY></TABLE> -
ถึงวันกองทัพไทยในทฤษฎีใหม่จะเป็น 18 ม.ค. แต่ในวันที่ 25 ม.ค. นี้จะมีงานบวงสรวงองค์เสด้จพ่อพระนเรศเป็นเจ้าท่านที่วัดหทัยนเรศวร์ ศาลายาครับ ท่านใดว่างขอเชิญนะครับ<!-- google_ad_section_end -->
ขอบคุณคุณไก่เหลืองหางขาวมากค่ะ ชื่อวัดนี้ไพเราะดี เหมือนชื่อพระคาถา หทัยนเรศ
"อุสุมิตตัง นะ พาลานัง อะนุกัมปัง. มะกะตัง ยันติ นะมิ" -
-
กองทัพจะต้องขอบคุณ คุณทางสายธาตุ ที่ได้กรุณา
ออกมานำเสนอบทความเพื่อรำลึกถึงพระองค์ท่านด้วยความจงรักภักดี
ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ในวันสำคัญซึ่งเป็นวันแห่งความภาค
ภูมิใจของชาวไทยทุกผู้ทุกนาม
พี่จงรักภักดีคะ ตัวหนังสือหนานี้หนูไม่อาจรับนะคะ เพราะเป็นคำกล่าวที่ใหญ่เกินสิ่งที่หนูทำ
หนูรู้ว่า ในใจไทยทุกคนที่จงรักภักดี ยิ่งใหญ่เหลือจะกล่าว น่ายกย่องมากทุกคน
ขอสรรเสริญใจไทยที่จงรักภักดีด้วยชีวิตทุกดวงจิต -
นอกเหนือจากการรำลึก และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชในวันกองทัพไทยแล้ว
ในทุกเวลาและทุกขณะของความรู้สึก
ในทุกจิตสำนึกของคนไทย
ขอให้ระลึกอยู่เสมอว่า ผืนแผ่นดินนี้ บูรพมหากษัตริย์ วีรชนคนกล้า
และ บรรพบุรุษ ของเรา ได้เอาเลือดเนื้อ
ได้เอาวิญญาณ ทาชะโลม โอบคุ้มไว้ทุกทิพาราตรี มานานแสนนาน
สมควรแล้ว ถึงเวลาแล้ว
เพื่อ.....ผืนแผ่นดินนี้
ขอเราเหล่าลูกหลาน มาสานสามัคคี ผืนแผ่นดินนี้ อย่าให้ใครครอง
ขอพระบารมี ของสมเด็จพระนเรศวร ปกเกล้าปกระหม่อม
คุ้มครองผืนแผ่นดินนี้ สืบไป
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ -
เพลงไทยรวมกำลัง
ไทยรวมกำลังตั้งมั่น
จะสามารถป้องกันขันแข็ง
ถึงแม้ศัตรูผู้มีแรง
มายุทธ์แย้งก็จะปลาตไป
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ขอแต่เพียงไทยเราอย่าผลาญญาติ [/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ร่วมชาติร่วมจิตเป็นข้อใหญ่[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ไทยอย่ามุ่งร้ายทำลายไทย [/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]จงพร้อมใจพร้อมกำลังระวังเมือง[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ให้นานาภาษาเขานิยม [/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ชมเกียรติยศฟูเฟื่อง[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ช่วยกันบำรุงความรุ่งเรือง [/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ให้ชื่อไทยกระเดื่องทั่วโลกา[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ช่วยกันเต็มใจใฝ่ผดุง [/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]บำรุงทั้งชาติศาสนา[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ให้อยู่จนสิ้นดินฟ้า [/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]วัฒนาเถิดไทย, ไชโย![/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]จาก บทละครพูดคำกลอนเรื่อง พระร่วง[/FONT]
หน้า 63 ของ 234