ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ภาพบรรยายการทำบุญทุนนิธิประจำเดือนพฤษภาคม 2556 ตอนที่ 10

























สาธุครับ

 

ภาพบรรยายการทำบุญทุนนิธิประจำเดือนพฤษภาคม 2556 ตอนที่ 11



















สาธุครับ

 

ภาพบรรยายการทำบุญทุนนิธิประจำเดือนพฤษภาคม 2556 ตอนที่ 12











พบกันใหม่ในเดือนมิถุนายน 2556 ครับ

ขอความสุขสวัสดีมีแด่ทุกท่านครับ

อนุโมทนาบุญกุศลในครั้งนี้ครับ

สาธุครับ

 

"เนื้อนาบุญ" : หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน



"เนื้อนาบุญ" ...

"ศีล" ก็เป็นเนื้อนาบุญอันหนึ่ง
"สมาธิ" ก็เป็นเนื้อนาบุญอันหนึ่ง
"ปัญญา" ก็เป็นเนื้อนาบุญอันหนึ่ง
"ทาน" ก็เป็นเนื้อนาบุญอันหนึ่ง

ทั้งนักบวชและฆราวาสผู้บําเพ็ญตามนี้
จัดว่าเป็นผู้บําเพ็ญตนให้เป็นเนื้อนาบุญของตน

วันนี้บําเพ็ญ วันหน้าก็บําเพ็ญ
ไม่ลดละในเนื้อนาบุญของตน

จนสามารถทําศีล ทําสมาธิ ทําปัญญา ให้สมบูรณ์ขึ้น
แล้วก็กลายเป็นความร่มเย็น แก่ตนอย่างเต็มที่

เมื่อมีความเพียรบําเพ็ญตน ให้เป็นเนื้อนาบุญของตนได้แล้ว
ก็สามารถ เป็นเนื้อนาบุญ คือให้ความร่มเย็นแก่ประชาชนได้เช่นเดียวกัน

แนวทางขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าและสาวกอรหันตร์ท่าน
ได้ดําเนินมาอย่างนี้ทั้งนั้น ...

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน​

 

บทพระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก


ผู้เกิดมาพบพระพุทธศาสนาเป็นผู้มีบุญอย่างยิ่ง แต่ผู้ปฏิบัติพระพุทธศาสนา คือปฏิบัติให้จริงตามที่สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนเป็นผู้มีบุญสูงสุด พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ประเสริฐสุด ไม่มีที่เปรียบได้ เพราะพระพุทธศาสนาเท่านั้นที่จะพาไปให้รู้จักพลังพิเศษ คือความคิดที่สามารถทำลายความทุกข์ได้ ตั้งแต่ทุกข์น้อย จนถึงทุกข์ทั้งปวง จนถึงเป็นผู้ไกลทุกข์สิ้นเชิง ไม่มีเวลากลับมาให้เป็นทุกข์อีกเลยตลอดไป ผู้มีพลังพิเศษพาหนีทุกข์ได้ พาดับทุกข์ได้ พาพ้นทุกข์ได้ คือผู้มีความคิดพิเศษ และความคิดพิเศษนี้เกิดได้จากความรู้จักปฏิบัติพระพุทธศาสนาเท่านั้น

พลังแห่งความคิดพิเศษ หรือความคิดพิเศษนั่นเอง ที่เป็นผู้ช่วยยิ่งใหญ่ พร้อมที่จะช่วยทุกคนที่รู้ค่าของความพิเศษ ที่ยอมรับยอมเชื่อ ว่าความคิดพิเศษนั้นมีอำนาจใหญ่ยิ่งจริง อาจพาให้พ้นทุกข์ได้จริง ทั้งทุกข์น้อยทุกข์ใหญ่ จนถึงทุกข์สิ้นเชิง จะทุกข์หรือไม่ทุกข์ อยู่ที่ความคิดของตนเองนี้เป็นสัจจะ คือเป็นความจริงแท้ ไม่ว่าผู้ใดจะเชื่อหรือจะไม่เชื่อก็ตาม ก็เป็นความจริง ผู้ใดจะทุกข์หรือไม่ทุกข์ อยู่ที่ความคิดของผู้นั้น ไม่มีผู้ใดที่ไม่ปรารถนาความไม่มีทุกข์ ทุกคนล้วนปรารถนาความไม่มีทุกข์ แต่ไม่ทุกคนที่ยอมรับความจริง ว่าการที่หนีความทุกข์ไม่พ้นนั้นเป็นเพราะคิดไม่เป็น ถ้าคิดให้เป็นจะไม่มีความทุกข์ใดใกล้กรายได้เลย เพราะความคิดนั้นแหละคือกำลังสำคัญที่สามารถทำไม่ให้ทุกข์เกิดได้ ความคิดไม่เป็น หรือความคิดไม่ถูก ของตนเองเท่านั้น ที่ทำให้ความทุกข์กลุ้มรุมใจตน ไม่มีการกระทำคำพูดของผู้ใดอื่นจะอาจทำให้ความทุกข์กลุ้มรุมใจใคร ถ้าใครนั้นเป็นผู้รู้จักคิดให้เป็น รู้จักคิดให้ถูก ความคิดจึงสำคัญนัก ความคิดจึงมีพลังนัก มีอิทธิพลนัก ต่อชีวิตจิตใจผู้คนทั้งปวง ไม่เลือกชาติชั้นวรรณะ ไม่เลือกสูงต่ำ ร่ำรวยหรือยากดีมีจนเพียงใดก็ตาม ผู้ปรารถนาความเบิกบานสำราญใจไม่เศร้าหมองร้อนรนด้วยความทุกข์ พึงเห็นความสำคัญของความคิดให้มาก เห็นให้จริงใจว่า ความคิดของใครก็ตามที่ถูกต้องเป็นธรรมจะนำไปสู่ความเบิกบานสบายใจแน่นอน สมดังที่ปรารถนาอยู่ทุกเวลานาที


บทพระนิพนธ์โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก, หนังสือ “แสงส่องใจ” วัดบวรนิเวศวิหาร ๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๓๗

​

 

วันนี้สืบหาพระเครื่องดีกลับมาอีกแล้ว กลับมาหลังจากห่างหายไปสักหน่อยนึง แต่ก็ยังมีข้อมูลที่ประจักษ์จริงมาให้ทราบ เพราะคราวนี้ย่องไปกราบท่านพร้อมกับครอบครัวมาครับ สืบหาพระเครื่องดีคราวนี้ อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อย่างที่บอก ท่านอยู่ที่สมุทรสงครามนี่เอง

สำหรับท่านองค์นี้ ขอแนะนำเลยครับ ท่านชื่อหลวงพ่ออิฏฐ์ วัดจุฬามณี ลูกศิษย์ของหลวงพ่อเนื่องนั่นเอง วันที่ไปกราบท่าน เป็นช่วงหลังเพลแล้ว พอหลังจากกราบพระประธานในโบสถ์เรียบร้อย เช่าตระกรุดมา 1 ดอก ราคา 100.-บาท แล้วไปถวายสังฆทานต่อ เสร็จสรรพก็เดินมากราบหลวงพ่ออิฏฐ์ ซึ่งในวันนั้น มีโยมคุยอยู่กับท่านแล้ว 3 คน ซึ่งเป็นคนในพื้่นที่ พอไปถึง โยมที่คุ้นกับท่านก็ถอยหลังให้เราคุยต่อ พอกราบท่านแล้วเลยนั่งสนทนากับท่านตามธรรมเนียม เลยทราบว่าท่านกำลังสร้างศาลาหอฉันอยู่ เลยร่วมทำบุญกับท่านไปพันนึง แล้วก็ถวายตระกรุดที่เช่ามาให้ท่านเสกต่อ ในระหว่างที่รอท่านทำให้อยู่นั้น โอ้โฮ นึกแล้วเลยเชียว วันนี้เจอพระนักเลงแน่ๆ เพราะท่านจะกูมึง ตลอดกับโยม กับพระลูกวัด แต่กับเราไม่กล้า ฮ่ะฮ่า (อาจจะเห็นว่าไม่ใช่โยมแถวัด) โยมที่รออยู่ก่อน นั่งยิ้มแอบสะกิด ท่านเป็นของท่านอย่างนี้ล่ะ ให้รอก่อน ท่านกำลังทดสอบ เรานั่งฟังสบายๆ สักครู่ มีโยมผู้หญิงแถววัดนำพวงมาลัยมาถวาย ท่านบอกอีเ...ย วางไว้ตรงนั้นล่ะ โยมผู้หญิงแทนที่จะโกรธ กับยิ้มเฉยๆ เพราะว่าน่าจะรู้นิสัยท่านอยู่แล้ว

ส่วนตระกรุดของผมท่านหยิบพิจารณา เสร็จแล้วท่านนำเหล็กจารมาลงยันต์ให้เพิ่ม (โยมที่นั่งอยู่ก่อนบอกว่า ปกติ ท่านจะไม่จารให้ใคร) จารเสร็จนึกว่าจะส่งคืน ท่านม้วนเก็บไว้ที่สบงท่านอีก แล้วก็เดินไป เดินมา สั่งงานกับพระลูกวัด เราก็นั่งรอต่อ สักพักท่านก็กลับมา มาคราวนี้ พร้อมกับมีดหมอ 3 เล่ม เอามาโชว์ แล้วก็บอก นี่ดูกัน ของสายหลวงพ่อเดิมทั้งนั้น เสร็จสรรพ ท่านส่งตระกรุดคืน เราลองนำมาืถือไว้แล้วทำจิตให้ว่าง เอ้อ จี๊ดจ๊าดดี ผมเผลอหลุดปาก โห ใช้ได้ดีเลยครับหลวงพ่อ ท่านสวนกลับทันที โยมลองใช้มันไปซื้อของซิ มันใช้ได้จริงรึเปล่า แหม โดนเต็มๆ เลยตู หลังจากนั้น ผมเลยขอตัวลาท่าน ลาละครับ หลวงพ่อ ท่านสวนอีก อาตมาไม่ใช่ลา อาตมาเป็นพระ โน่นไปไหว้พระพุทธรูปด้านหลังโน่น โดนอีกดอกนึงก่อนกลับ เสร็จสรรท่านหยิบเหรียญมาให้ 4 เหรียญ เท่ากับที่ครอบครัวไปพอดี แล้วหันมามองหน้าด้วยใจเมตตา เก็บไว้ให้ดีน๊ะโยม เหรียญนี้ทำน้ำมนต์ได้

สำหรับวัดของท่านนั้น สังเกตุได้ว่าจะมีรูปปั้น ท่านท้าวเวสสุวรรณมาก แม้กระทั่งเหรียญของท่านด้านหลังก็จะมีรูปท่านท้าวฯ เหมือนกัน ได้สอบถามท่าน ท่านบอกท่านชอบท่านท้าวฯ มาก แล้วก็ไม่ตอบอะไรไปมากกว่านี้

สัปดาห์ที่แล้ว นำตระกรุดที่ท่านจารมาให้ครูอาจารย์ตรวจสอบ พบว่า ตระกรุดที่ท่านทำมาให้นั่น ทรงฤทธิ์เป็นอย่างมาก สำเร็จได้ด้วยกำลังจากท่านท้าวฯ นั่นเอง ส่วนการนำตระกรุดใส่ในสบงเดินไปเดินมานั้น เป็นการนำตระกรุด ให้ท่านท้าวฯ เสก และรอเวลาจนกว่าท่านท้าวฯ จะอนุญาต ซึ่งก็เหมือนกับครูอาจารย์บางองค์ที่ให้ตั้งพานบูชาวัตถุมงคลไว้หลังจากที่ให้ท่านเสกเป่าอีกครั้ง แล้วสักอึดใจค่อยส่งของคืนมาที่เรา นั่นก็คือท่านให้ครูอาจารย์ หรือเทพพรหมชั้นสูงมาช่วยทำให้อีกครั้งนั่นเอง

ส่วนการที่วัดของท่านนั้นมีรูปท่านท้าวฯ อยู่เยอะนั้น ครูอาจารย์ตอบว่า อดีตชาติท่านเป็นลูกศิษย์ของท่านท้าวฯ มาก่อน กลับมาชาตินี้ เพื่อมาสร้างบารมีต่อ อดีตชาติท่านเคยเป็นยักษ์ ดังนั้นไม่ต้องกลัวเลย ทั้งวัตรปฏิบัติ ทั้งคำพูดของท่าน จึงมุทะลุดุดัน สมกับเป็นนักเลงอัมพวาโดยแท้ แต่ท่านก็เป็นคำไหน คำนั้น ใครทนท่านได้ ท่านจึงชอบมาก ส่วนใครที่ทนไม่ได้ท่านก็ไม่ง้อ ดังนั้น หากใครไปกราบท่าน ทนๆ หน่อยครับ เดี่ยวได้ของดีเอง แต่ขอบอก เด็กๆ อาจจะทนไม่ได้อย่างเรา อาจจะงอแงอยากกลับบ้าน ดังนั้น เวลาไปกราบท่าน อย่าพาเด็กๆ ไปด้วย จะเป็นการดีครับ อยากได้ลูกเสือ ต้องเข้าถ้ำเสือ อยากได้ของที่สำเร็จได้ัโดยท่านท้าวฯ ต้องไปหาลูกศิษย์สายตรงของท่านครับ จะได้ไม่ผิดหวัง

พันวฤทธิ์
2/6/56

รูปตระกรุดมหาจักรพรรดิื รูปแทนตระกรุดที่เช่ามา แต่เหมือนกันมากครับ​

 

ผมขอร่วมทำบุญประจำเดือนมิ.ย.56ด้วยนะครับ

ผมนายศิริมาโนชญ์ จันทรคุปต์ ขอร่วมทำบุญรักษาภิกษุอาพาธด้วยนะครับ ผมได้โอนเงินเข้าบัญชีของทุนนิธิ จำนวน100 บาทเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.56และผมขออนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยนะครับ

 

ผมกลับมาดูกระทู้อีกที ไม่มีใครบูชาพระที่หล่อจากแก้วคริสตัลที่ผมหล่อ ก็เท่ากับว่าหมดเขตเรื่องเวลาไปแล้วนะครับ

ผมเองขอร่วมบุญด้วยครับ และเมื่อมีโอกาสเมื่อใดจะได้ร่วมบุญด้วยตามเหตุตามปัจจัยครับ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ร่วมบุญร่วมโมทนาครับ

 

วันนี้ (๘ มิถุนายน ๒๕๕๖) ได้โอนเงินร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ จากตู้ ATM ธนาคารกรุ่งไทย สาขาสระแก้ว จำนวน ๑๙๙.-บาท ขออุทิศบุญกุศลนี้ แก่บิดา มารดา บรรพบุรุษ ผู้มีพระคุณ เทวดารักษาตัว เจ้ากรรมนายเวร สาธุ

 

วันก่อนไล่ดูรายชื่อพระสงฆ์ที่จะนำมาเขียนแนะนำในวันศุกร์นี้ นำรายละเอียดทั้งหมดมาให้ครูอาจารย์ตรวจ พอเห็นหน้า ชื่อฉายา และวัดของพระสงฆ์รูปนี้ ท่านบอกว่า เรากับท่านเดินกันคนละทาง ท่านองค์นี้เล่นคุณไสย์มากเกินไป ไม่ได้น้อมนำเอาพระปริสุทธิคุณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว และประจุพลังธาตุแห่งปริสุทธิคุณลงไป เพียงแต่เอาคุณครูอาจารย์ของตนเองรวมทั้งคุณของเลขยันต์ต่างๆ มาประจุลงเท่านั้น คุณเหล่านี้ ไม่กี่ปีก็เสื่อมถอย หรือหากผู้ปลุกเสกมีศีลไม่สมบูรณ์ ก็ยิ่งทำให้วัตถุมงคลนั้น เสื่อมถอยเร็วยิ่งขึ้น

ดังนั้น ครูอาจารย์เลยเตือนให้ถอยห่างเสีย ผลก็คือต้องแสวงหาอริยสงฆ์องค์ใหม่ หรืออภิญญาจารย์องค์ใหม่ในสายพุทธคุณแทน สัปดาห์นี้ จึงยังไม่มีข้อมูลมาเขียนแนะนำครับ

พันวฤทธิ์
15/6/56

 

มาอ่านเรื่องเก่าที่ผมเก็บไว้ดีกว่าครับ ส่วนเครดิตคนเขียน อยู่ด้านล่างของเรื่องนี้แล้ว


ครั้งหนึ่ง หลังพิธี พุทธาภิเษกพระสมเด็จ 100 ปีวัดระฆัง ผ่านพ้นไปหมาด ๆ
ในพระอุโบสถวัดประดู่ฉิมพลี
หลวงปู่โต๊ะได้เล่าให้สานุศิษย์ทั้งหลายที่ประชุมกันอยู่ในนั้นฟังเรื่องนอกเหตุเหนือผลเรื่องหนึ่ง

"ฉันไปปลุกเสกพระที่วัดระฆัง ได้อธิษฐานกับรูปเจ้าประคุณสมเด็จโตว่า วันนี้พระครูโต๊ะมาปลุกเสกพระที่วัดระฆัง
เขาลือว่าสมเด็จโตศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจริงอย่างเขาว่าให้มาปรากฏตัวให้พระครูโต๊ะเห็น ถ้าไม่มาเป็นเลิกนับถือกัน"

ท่านเล่าต่อไปว่า พอนั่งลงในพิธีปลุกเสกพระคราวนั้น สมเด็จก็มาทันทีท่านลอยมา ในมืถือไม้ไผ่ผ่าซีก ติดเทียนชัย
เข้าไปจุดซ้ำที่เทียนชัยในพิธีนั้น สมเด็จมีผิวตกกระ แก่หง่อม ห่มจีวรเก่าสีกรักมาจุดเทียนชัยแล้วก็กลับไป

"อย่าดูถูกคนรุ่นเก่าเชียวหนา"หลวงปู่โต๊ะย้ำ

เชื่อเรื่องที่หลวงปูโต๊ะเล่าหรือไม่

ปี พ.ศ. 2515 หลวงปู่โต๊ะรับนิมนต์ไปปลุกเสกพระวัดโคนอน
ที่นั่นสร้างพระเพื่อเป็นที่ระลึกถึงหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง มีพระปิดตายันต์ยุ่งเนื้อตะกั่ว, พระรอด เนื้อตะกั่ว และเหรียญรูปหลวงปู่เอี่ยม

ซึ่งวัดโคนอนมีความสัมพันธ์กับหลวงปู่เอี่ยมในฐานะที่ท่านเคยพำนักอยู่ที่นี่ ก่อนจะย้ายไปครองวัดหนังจนมรณภาพ
การสร้างพระหนนี้จึงได้ถอดแบบพระให้คล้ายคลึงกับพระวัดหนัง ที่หลวงปู่เอี่ยมเคยสร้างเอาไว้สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
พิธีนี้นิมนต์คณาจารย์มาร่วมปลุกเสกมากมายหลายองค์ หลวงปู่โต๊ะเป็นหนึ่งในบรรดาคณาจารย์ทั้งหมด

หลังพิธีผ่านพ้นไป หลวงปู่โต๊ะได้บอกแก่ลูกศิษย์ของท่านว่า
"ไปเอาพระมาไว้ซะพระชุดนี้ เจ้าของเขามานั่งเป็นประธานปลุกเสกด้วยตัวเอง"

เจ้าของคือหลวงปู่เอี่ยม

หลวงปู่โต๊ะท่านเห็นอย่างนั้น เห็นเหมือนได้เห็นสมเด็จโต

อย่าไปค้นหาความจริงเลยว่าที่หลวงปู่โต๊ะพูดจะเป็นที่เชื่อได้หรือเชื่อไม่ได้

อจินไตยนั้นเหลือวิสัยที่ปุถุชนจะตรวจสอบ

ศรัทธาเท่านั้นที่เป็นเครื่องมือเดียวสำหรับคำตัดสินว่าเชื่อหรือไม่เชื่อ

อย่างไรก็ตาม พระเครื่องรุ่นนี้เมื่อออกใหม่ ๆ เป็นที่สนใจฮือฮาในหมู่นักสะสมพระเครื่องเป็นอันมาก
ดูท่าจะเป็นพระเครื่องรุ่งโรจน์ได้อีกรุ่นหนึ่ง
มีผู้ได้ฟังและเชื่อหลวงปู่โต๊ะ เข้าไปกว้านกอบเอาพระมาเป็นจำนวนโข
ตอนนั้นพระราคาองค์ละ 5 บาท ไม่เหลือแรงที่จะเก็บตุนเอาไว้เยอะ ๆ
บางคนอาจคาดหมายว่าพระรุ่นนี้ต่อไปจะมีราคาแพง เนื่องจากองค์ประกอบของการเกิดพระรุ่นนี้เป็นไปโดยบริสุทธิ์และเข้มขลัง
ทั้งเจตนาในการสร้าง และการเสกที่ทุกคนอันได้เห็นเหตุการณ์ต่างรับและนับถือเต็มหัวใจ

แต่พระก็ไม่โลดแล่นไปเท่าที่ควร ยังคงเป็นพระราคาไม่แพงที่คนทั้งหลายสามารถเช่าหาได้ไม่ยาก ไม่หนักกระเป๋า
ดูเหมือนจะราคา 100 บาทต่อองค์ (บางแห่งราคาองค์ละ 50 บาทก็มี)

อาจารย์เบิ้มของผมออกปากว่า นั่นเป็นพระดีที่คนมองข้ามไปได้อย่างไร

มีพระดีอีกมากมายที่คนผ่านตาไปไม่ใยดี
เนื่องจากพระดีที่ราคาไม่อาจสะดุดสายตาของพวกเขาไว้ได้
ความแพงของพระเท่านั้นจะหยุดตาของนักสะสมให้จ้องมองได้

ด้วยความจริงเป็นเช่นนี้ พระดีจึงถูกซุกไว้ในมุมที่ใครก็เห็นไม่ถนัด

เหมือนเหรียญพระแก้วมรกตปี 2475 ที่คนเมินอยู่หลายปี
แต่ความดีของพระนั้นยังหวังได้
เพราะวันหนึ่งความดีถูกแสดงให้เห็นชัด
พระก็หมดไปจากอาการตกค้างเพียงพริบตา

ปิดตายันต์ยุ่งวัดโคนอนไม่โลดไปข้างหน้า บางทีจะเป็นด้วยเหตุว่าพระถูกขโมยออกไปจากวัดเป็นจำนวนมาก
เมื่อของโจรทะลักเข้าในตลาด ความคลางแคลงใจของคนทั้งหลายก็ต้องเกิดมีขึ้น
ทำไมพระจึงมีอยู่บนแผงมาก เสริมหรือไม่ ปลอมหรือไม่ หรือมีลับลมคมนัยอย่างไรหรือเปล่า

วิจิกิจฉาเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ มันเป็นอาวุธคมกล้าที่ตัดรอนอนาคตของพระรุ่นนี้ได้อย่างรุนแรงที่สุด .
ทางปลอดภัยและสบายใจของคนทั้งหลายมีเหมือนกัน คืออย่าไปยุ่งกับของที่ยังสรุปปัญหาไม่ได้ดีกว่า

พระวัดโคนอนก็ถึงที่เฉา เหมือนคนที่ทำความดีมาทั้งชีวิตถูกป้ายมลทินใส่

ข้อเท็จจริงของพระที่ถูกขโมยมีว่า
พระจำนวนร่วมแปดหมื่นสี่พันองค์ที่บรรจุไว้ใต้ฐานพระประธาน และรูปหล่อหลวงปู่เอี่ยมในวัดโคนอนถูกมือดี (ความจริงมือร้าย) ฉกออกไป
แม้ไม่ได้เอาไปทั้งหมด แต่ก็นับได้ว่าเป็นจำนวนมากมาย และของลักออกไปจำนวนนั้นก็พ้นวิสัยจะตรวจสอบได้ว่าอันไหนไม่ใช่ของถูกลักจากวัด

ของลักปลุกเสกหรือไม่

ปลุกเสกแล้วทุกประการ ไม่ใช่ของเสริมหรือของปลอม เป็นของแท้ที่ไม่ต้องสงสัย
แต่ว่าเป็นเพียงของถูกโจรกรรมเท่านั้น

ใครเช่าหาของถูกลักก็สบายใจได้ว่าเป็นของแท้ผ่านการปลุกเสกเหมือนกันทุกประการ

แม้ท่านไม่อาจทราบได้ว่าที่ท่านครอบครองอยู่นั้นเป็นของโจรหรือของถูกทำนองคลองธรรม
ท่านก็สบายใจได้

แต่ถ้าหากท่านที่ลังเล สงสัย ไม่เคยมีไว้ และกำลังอยากจะมีบ้าง ขอให้งดเช่าในที่อื่น ๆ ไว้ก่อน
ให้มุ่งหน้าไปที่วัดโคนอน ที่นั่นยังมีของบริสุทธิ์เหลืออยู่สำหรับผู้ศรัทธาเป็นจำนวนนับพันองค์
ซ้ำยังจำหน่ายในราคาถูกกว่าข้างนอกอีกด้วย คือองค์ละ 50 บาท
หมดจากที่นี่แล้วท่านจะเพ่งความสนใจไปที่ของโจรหรือของข้างนอกวัดก็ได้
ซึ่งมีทั้งของบริสุทธิ์ไม่บริสุทธิ์คละเคล้ากันอยู่

คงต้องตอกย้ำลงไปอีกว่าพระวัดโคนอนรุ่นนี้ดีอย่างไร

ตอกด้วยชื่อเสียงของคณาจารย์เท่าที่จำได้ดังนี้
1. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
2. หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิต
3. หลวงพ่อถิร วัดป่าเลย์ไลย์
4. หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
5. หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม
6. หลวงพ่อเก็บ วัดดอนเจดีย์
7. หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
8. หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
9. หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนโร่
10. หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาฯ
11. หลวงพ่อหวน วัดพิกุล
12. หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
13. หลวงพ่อบุญมี วัดอ่างแก้ว
14. หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย
15. หลวงพ่อดี วัดพระรูป ฯลฯ

ท่านพระ ครูวิจิตรนวการ (หลวงพ่อทองปลิว) เจ้าอาวาสวัดโคนอน องค์ปัจจุบันได้ย้ำอีกว่า
ระหว่างพิธีพุทธาภิเษกดำเนินอยู่นั้นพระสงฆ์จากทุกสารทิศ ได้ประชุมกันรายล้อมพระอุโบสถและร่วมสวดพระคาถามงกุฏพระเจ้า
ซึ่งเป็นพระคาถาประจำตัวของหลวงปู่เอี่ยม สวดอยู่ตลอดพิธีไม่หยุด

หรือเพราะมงกุฏพระเจ้านี่เองที่นำหลวงปู่เอี่ยมลงมานั่งเป็นประธานเสก
ดังที่หลวงปู่โต๊ะได้เห็น

ถ้าท่านเชื่อหลวงปู่โต๊ะก็ไม่มีความจำเป็นอะไรจะต้องไปขวนขวายหาพระเครื่องของของหลว
งปู่เอี่ยมที่แพงมาก ๆ (บางรุ่นราคาเลยแสน)
ถ้าหลวงปู่เอี่ยมลงมาสู่พิธีปลุกเสกนี้จริง พระเครื่องชุดนี้ยังจะมีใครสงสัยอีก

ท่านไม่ต้องเชื่อก็ได้ถ้าหากความสงสัยยังมีอยู่

พระพุทธเจ้าตรัสว่าอย่าเชื่อเพราะว่าเป็นข่าวลือ

ถ้านี่เป็นข่าวลือก็ไม่ต้องเชื่อ

(วัดโคนอน อยู่แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ เลยสุดทางรถเมล์สาย 9, 103 และ 4 ที่เรียกว่าตลาดพลูไปเล็กน้อย ถามหาทางไปจากคนแถบนั้นได้ทุกคน ท่านที่อยู่ทางไกลอาจสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ เพิ่มค่าส่งอีกองค์ละ 10 บาท ทางวัดก็น่าจะเป็นธุระจัดส่งพระให้ท่านถึงบ้านได้ ผมเชื่อว่าวัดคงไม่รังเกีขจจะทำธุระจัดส่งพระให้ แม้ผมจะไม่ได้ถามดูก่อนว่าสะดวกจะทำหรือไม่ก็ตาม )
-------------------------------------

อำพล เจนเขียน
หนังสือศักดิ์สิทธิ์ฉบับที่ 231

 

ด้วยวันที่ 22 มิถุนายน ของทุกปีตรงกับวันมรณะภาพท่านสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังษี
ซึ่งปีนี้ครบรอบ 141 ปี

วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2415
เป็นวันมรณภาพของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆังโฆสิตาราม
ทางวัดคงจะจัดพิธีทำบุญอุทิศกุศลให้แก่ท่าน เหมือนเช่นทุกๆปี
จึงขอเรียนเชิญมายังเหล่าศิษย์ และผู้ที่นับถือท่าน
ได้มาร่วมพิธี หรืออย่างน้อยก็ร่วมรำลึกถึงคุณความดี และธรรมะที่ท่านได้ฝากเอาไว้
ท่านเป็นอมตมหาเถระ ที่มีเกียรติคุณเป็นที่ปรากฏอย่างน่าอัศจรรย์
มีปัญญาเฉียบแหลมแตกฉานในทางธรรม เป็นเลิศทั้งด้านสมถะและวิปัสสนา
พระคาถาที่ทรงอานุภาพยิ่งของท่าน คือ คาถาชินบัญชร

ชาติกาล 17 เมษายน พ.ศ. 2331
ชาติภูมิ บ้านบางขุนพรหม ฝั่งตะวันออก กรุงธนบุรี
บรรพชา เมื่ออายุได้ 13 ปี
อุปสมบท เมื่ออายุได้ 20 ปี
ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ เมื่อ พ.ศ. 2408
มรณภาพ 22 มิถุนายน พ.ศ.2415
สิริรวมชนมายุได้ 84 ปี

บุญเราไม่เคยสร้าง ใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้า
คำสอนของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
"ลูกเอ๋ย ก่อนจะเที่ยวไปขอบารมีจากหลวงพ่อองค์ใด เจ้าจะต้องมีทุนของตัวเอง
คือ บารมีของตน ลงทุนไปก่อน เมื่อบารมีของเจ้าไม่พอ จึงค่อยขอยืมบารมีคนอื่นมาช่วย
มิฉะนั้นเจ้าจะเอาตัวไม่รอด เพราะหนี้สินในบุญบารมีที่เที่ยวไปขอยืมมาจนพ้นตัว
เมื่อทำบุญทำกุศลได้บารมีมา ก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาหมด ไม่มีอะไรเหลือติดตัว
แล้วเจ้าจะมีอะไรไว้ในภพหน้า หมั่นสร้างบารมีไว้ แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง
จงจำไว้นะ...เมื่อยังไม่ถึงเวลาเทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้
ครั้นถึงเวลาทั้งฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่ จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดิน
เมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย จะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้า

ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านชอบฉันอาหารเจ โดยเฉพาะผัดผักบุ้งไทยผัดใส่เกลือแทนน้ำปลาผัดกับเต้าเจี้ยว หากมีเวลาพรุ่งนี้ ถวายอาหารเจแด่พระสงฆ์ แล้วระลึกถึงท่านด้วยครับ ถึงแม้ท่านจะอยู่ชั้นสุธาวาสพรหมแล้ว ท่านก็ยังไม่ทิ้งลูกศิษย์และผู้ที่นับถือท่านในปัจจุบันนี้ครับ นึกถึงท่าน ท่านรู้ ถึงคราวคับขัน นึกถึงท่าน ท่านมาช่วยแน่นอน ไม่ต้องห่วง...​

​

 

สืบหาพระเครื่องดีสัปดาห์นี้ มาขอแนะนำเหรียญดีที่น่าสะสมและไม่แพงมาก แถมยังพอหาได้ในปัจจุบันของพ่อแม่ครูอาจารย์สายท่าน อ.มั่น ครับ

ขอแนะนำเลยก็แล้วกัน เหรียญของพ่อแม่ครูอาจารย์ท่านนี้ จากการตรวจทางจิตโดยฌาณลาภีบุคคลพบว่า วิธีการเสกเหรียญของท่านนั้น ท่านทำได้พิสดารมาก กล่าวคือ ท่านตั้งด้วยธาตุไฟก่อน แล้วตามด้วยธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม และสุดท้ายมาคลุมด้วยธาตุไฟทั้งหมดอีกครั้ง ตอนตรวจเหรียญนี้จากภาพถ่าย ท่านผู้ตรวจท่านนึงถึงกับสะท้าน เพราะกระแสจิตท่านแรงมากนั่นเอง ต่อเมื่อมาค้นประวัติท่านก็เลยหายสงสัย เพราะว่าท่านเป็นอาจารย์ของหลวงปู่ผาง จิตคุตโต และหลวงปู่โส กัสโป แห่ง จ.ขอนแก่นนั่นเอง ท่านชื่อหลวงปู่พระมหาสีทน กาญจโน วัดสมศรี บ้านพระคือ จ.ขอนแก่นครับ โดยเหรียญที่นำมาตรวจนั้น เป็นเหรียญแบบรูปเต่า ตามรูปข้างล่างนี้ครับ เท่าที่ทราบ เหรียญนี้ยังไม่แพง อาจจะหาได้ในราคาหลักพันกลางๆ ส่วนรูปที่นำมานี้ ผมนำมาจากเวบ อุดร 108 ยังไงก็ลองหาดูเอาน๊ะครับ ถ้าเจอหลายเหรียญก็มาเผื่อกันบ้างก็แล้วกัน เหรียญที่เสกครบทุกธาตุ แถมมีเสกธาตุไฟคุมสุดท้ายได้นี่ ผู้ที่เสกได้ อยู่ในระดับสุดยอดอภิญญาเท่านั้นครับ เพราะบางรูปสำเร็จแค่ธาตุเดียวก็ทำเป็นดังซะแล้ว แต่นี่ของจริงที่หาได้ยากแล้วในปัจจุบันนี้

ขอให้เจอะเจอกันครับ

พันวฤทธิ์
23/6/56

​

​

ภาพจากเวบ อุดร 108

 

กิจกรรมที่ รพ.สงฆ์ ประจำเดือนนี้คือวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2556 โดยนัดพบเพื่อจัดเตรียมสังฆทานอาหารที่โรงอาหารด้านข้าง รพ.สงฆ์ในเวลา 7.30 น.-8.00 น. เหมือนเช่นเคย

จึงขอแจ้งให้ผู้ที่สนใจได้ทราบทั่วกัน ผมและกรรมการของทุนนิธิฯได้เบิกเงินจากบัญชีของทุนนิธิฯ มาเรียบร้อยแล้วในวันนี้ และจะได้ทยอยบริจาคไปยัง รพ.ต่างๆ ให้เสร็จเรียบร้อยภายในสัปดาห์หน้านี้ โดยมีรายละเอียดการบริจาคสำหรับเดือนมิถุนายน 2556 ดังนี้ (สำเนาการโอนเงินจะได้นำมาลงให้อนุโมทนากันต่อไปครับ)

1 รพ.สงฆ์
- ถวายค่าสังฆทานอาหาร 6,000.- (ประมาณการพระสงฆ์ไว้200 รูป โดยจะถวายเป็นอาหารกล่องๆ ละ 30.-)
- ถวายค่าเวชภัณฑ์ส่วนกลาง 5,000.-
- ถวายค่าโลหิต 5,000.-

รวม 16,000.-

2 รพ.ภูมิภาค
- รพ.แม่สอด จ.ตาก 8,000.-
- รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว 5,000.- จ.น่าน
- รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย 8,000.- จ.เลย
- รพ.มหาราช จ.เชียงใหม่ 8,000.-
- รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น 8,000
- รพ.50 พรรษาฯ จ.อุบล 5,000.-
- รพ.สงขลา จ.สงขลา 8,000.-
- รพ.ปัตตานี จ.ปัตตานี 5,000.-

รวม 55,000.-

รวมประมาณการเงินบริจาคของทุนนิธิฯ ตามข้อ 1.+2.+ = 71,000.- (เจ็ดหมื่นหนึ่งพันบาทถ้วน)

สำหรับกิจกรรมพิเศษในเดือนนี้ คณะกรรมการฯ ทุนนิธิฯ ได้กราบนิมนต์ ท่านหลวงปู่คง วัดเขากลิ้ง จาก จ.เพชบุรี มาเป็นประธานในการถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์ที่อาพาธที่ รพ.สงฆ์ในครั้งนี้ด้วย โดยในวันดังกล่าว จะได้นำสายสิญจน์ที่ผ่านการเสกจากหลวงปู่ในโอกาสนี้ แจกให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกๆ คนด้วยครับ ส่วนอภิญญาจิตของหลวงปู่คงฯ นั้น ผมไม่ขอพูดถึง เพราะท่านเป็นพระผู้ใหญ่ที่มีอภิญญาสูง ดังที่หลายคนทราบอยู่แล้ว ท่านมาคราวนี้ ก็ด้วยความเมตตาจริงๆ หลวงปู่อายุถึง 90 ปีแล้ว ท่านมาร่วมบุญในครั้งนี้กับพระอุปัฏฐากอีกองค์นึงเท่านั้น หากท่านใดจะถวายปัจจัยช่วยหลวงปู่คงฯ บูรณะวัดของหลวงปู่คงฯ ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้เืพื่อเป็นบุญกุศลต่อตนเองและครอบครัว ผมก็ขอเรียนเชิญท่านมาถวายปัจจัยด้วยมือของท่านเองพร้อมกับรับพรจากหลวงปู่คงฯ โดยที่ไม่ต้องไปถึงแก่งกระจาน ต่อไปด้วยครับ

โดยในเบื้องต้น ทุนนิธิฯ ได้เบิกเงินจากบัญชี และจะได้ถวายเพื่อช่วยสงเคราะห์ธาตุขันธ์ของท่านในยามเจ็บป่วยไว้แล้ว 5,000.-บาท


จึงเรียนมาเพื่อทราบในเบื้องต้นก่อนครับ

พันวฤทธิ์
23/6/56

​

 

เรียน ท่านกรรมการทุนนิธิฯ
ผมได้โอนเงินเพื่อสงเคราะห์สงฆ์อาพาธกับทุนนิธิเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. จำนวน 500 บาท เข้าบัญชีทุนนิธิฯ ธ.กรุงศรีอยุธยา
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและขอเชิญทุกท่านได้ร่วมอนุโมทนาบุญนี้ด้วยกันครับ

ข้าพระพุทธเจ้ากราบขอพระมหาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระโพธิสัตว์เจ้าและพระอรหันต์เจ้าทุกพระองค์ ได้โปรดเมตตาเป็นพยานบุญและโมทนาบุญนี้ด้วยเทอญ

ข้าพระพุทธเจ้ากราบขอพระบารมีเทพยดา เทวนารี องค์พระยายมราช องค์ท้าวจาตุมหาราชิกาทั้งสี่ เทวดาผู้รักษาข้าพเจ้า พญานาคทุกตนผู้ัปกป้องรักษาพระพุทธศาสนา เทพยดาผู้สถิตรักษาพระเครื่อง พระพิมพ์ และวัตถุมงคลทุกองค์ที่ข้าพเจ้าครอบครองบูชาอยู่ ขอได้โปรดเป็นพยานบุญและโมนทนาบุญนี้ด้วยเทอญ

ข้าพเจ้าขอน้อมถวายบุญนี้แด่มารดา บิดา ครู อุปัฌชาย์ อาจารย์ ทุกท่าน

ข้าพเจ้าขออุทิศบุญนี้แด่ญาติทั้งหลายที่ล่วงลับ เจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า ขอได้รับอานิสงส์แห่งบุญนี้ทุกท่านด้วยเทอญ

 

ร่วมทำบุญทุนนิธิสงฆ์อาพาธ 300 บาทครับ 24/06/56 เวลา 12.09 น. อนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ

 

เรื่องของหลวงปู่คงฯ ที่หลายคนอาจไม่รู้

ข่าวทั่ว​ไป หนังสือพิมพ์​ไทย​โพสต์ -- อาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน 2553 06:52:30 น.
ประวิทย์ จำปาทอง

ผม​เอาบท​ความหลวงปู่​เสนาะ กม​โล ​ใส่กรอบทอง​ไปมอบ​ไว้ที่วัดป้อม จ.​เพชรบุรี ญาติ​โยมที่นั่นบอกว่า ​เพื่อนสนิทของหลวงปู่อีกรูปหนึ่งที่มีคน​เคารพนับถือกันมากคือ หลวงปู่คง ฐิตวิริ​โย วัด​เขากลิ้ง อ.​แก่งกระจาน ​ซึ่งอยู่ห่างจาก อ.ท่ายาง ออก​ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 26 กม.​เท่านั้น

"หลวงปู่คงมีวัตถุมงคล​ให้​เช่าด้วย" คุณลุงท่านหนึ่งพูด
ผม​ไม่​ได้​เครียดวัตถุมงคล ​แต่ถ้ามาก​ไป​ก็รู้สึกตะขิดตะขวง​ใจ ผมชอบ​ใจหลวงพ่อยวง อาภสฺ​โร วัด​โพธิ์ศรี ท่านบอกว่า​ได้พระ​เครื่อง​ไปต้องประพฤติดี ​ให้พระ​เป็น​เครื่องยึด​เหนี่ยวรั้ง​ใจ​เรา​ไว้ ขับรถ​ไป​เรื่อยๆ พัก​เดียว​ก็​ถึงวัด ​เห็น​โบสถ์อยู่บน​เนิน​เขา มีป้ายชื่อวัด​เขากลิ้งปักบอก​ไว้ ผมขับรถขึ้น​ไปข้างบนตามถนนปูน ​เห็นลูกศรชี้ของกุฏิ​เจ้าอาวาสอยู่ตรงทางขึ้นด้านซ้ายมือ​ใกล้ๆ

จอดรถ​แล้ว​เดิน​เข้า​ไป​ในกุฏิ มอง​แล้ว​เหมือนวิหารมากกว่า ด้านหลัง​เป็นพระพุทธรูปองค์​ใหญ่​เป็นพระประธาน ด้านหน้า​เป็นที่อยู่ของหลวงปู่คง กุฏิ​โล่ง​ไปหมด มี​แขกคุยอยู่ 4-5 คนรวม​ทั้งกรรม​การวัด ผมกราบท่าน​แล้ว​แจ้ง​ความประสงค์ที่มา หลวงปู่มีลักษณะผอมบาง อารมณ์ดี พูด​เบาๆ ​เรื่อยๆ ​และมีรอยยิ้มตลอด ​เหมือนท่านรู้จิตผม!
"อรหันต์​เข้าบ้านหมด อรหมุนหมด หายากพระอรหันต์" ท่านพูดออกมาลอยๆ ​ให้ฟัง

หลวงพ่อ​เล่า ​เดิมชื่อคง ​แก่น​ไม้อ่อน ​เกิดวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2466 ปีกุน ​เดือน 10 ขึ้น 10 ค่ำ วันพุธ
"คน​เกิดวันพุธ​ใจดีที่สุด ​แต่​ไร้วงศา พี่น้องพึ่ง​ไม่​ได้ พึ่งตน​เอง" ท่านบอก

​เกิดที่อำ​เภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ​โยม​ผู้ชายชื่อคุ่ม คน​เพชร ​โยม​ผู้หญิงชื่อ​แม้น คนสุพรรณฯ บ้านอยู่​เคียงกับท่านสังฆราชองค์อยู่วัด​โพธิ์ กรุง​เทพฯ มีพี่น้อง 4 คน ฉันคนที่ 2 พ่อ​แม่อาชีพ​ทำนา ​เรียนหนังสือจบชั้นประถมปีที่ 4 ที่​โรง​เรียนวัด​ไสค้าน ชีวิตบวช 2 ครั้ง

ครั้ง​แรกบวชอายุครบ 20 ปี สมัยสงครามญี่ปุ่น พอญี่ปุ่น​แพ้​ก็สึก บวชอยู่ 2 พรรษา สึกออกมามีครอบครัว อยู่ที่หมู่บ้านท่ากระ​เทียม (ท่า​โรงหีบ) อ.ท่ายาง จ.​เพชรบุรี มีลูก 4 คน ปัจจุบัน​เหลือ 3 คน ​ไม่​ใช่​เป็นคนขี้​เกียจ อาชีพค้าขาย ขายมะนาวครั้งหนึ่งประมาณ 200 ​เข่งต่อวัน ​เกิด​เบื่อ​ความวุ่นวายบอก​แม่บ้านว่าจะบวช ​แม่บ้านร้อง​ไห้

"ขอ​โทษ ท่านหลวงพ่อ ​ทำ​ไมท่าน​ถึงบวช" ถามด้วย​ความนอบน้อม "​เรื่อง​ใหญ่คือกระทบหัว​ใจกัน!" ท่านบอก

"ฉันมันคนปีกุนธาตุน้ำ ​แม่บ้านปีมะ​เส็งธาตุ​ไฟ อยู่กัน​ไม่​ได้ ชันษา​เป็น​เช่นนั้น" ท่านพูด

บวชครั้งหลังปี พ.ศ. 2507 อายุ 41 ปี บวชที่วัดตำหรุ อ.บ้านลาด จ.​เพชรบุรี ตอนที่​เกิด​เมืองสุพรรณฯ อายุ​ได้ 6 ขวบ ​ได้ออกจากบ้านมาอยู่​เมือง​เพชร มาหา​โยมย่าอยู่​ในตัว​เมือง ​โยมอา​เป็นตำรวจยศพันตำรวจตรี

ปัจจุบันหลวงปู่คง ฐิตวิริ​โย อายุ 87 ปี ท่านนั่งสมาธิตั้ง​แต่สมัยบวชครั้ง​แรก​และ​ก็ปฏิบัติ​เรื่อยมา ​การนั่งสมาธิ​เมื่อ​เห็นอะ​ไรอย่า​ไปติดมัน ของพรรค์นี้​เมื่อมันผ่านมา​ก็​ให้มันผ่าน​ไป ศึกษา​ให้รู้ว่าอะ​ไรมัน​เป็นอะ​ไร​เท่านั้น

ท่าน​เล่า​ถึงอดีต ตอนสมัยหนุ่ม​เป็นหมด ลำตัด ​โขน หนังตะลุง ลิ​เก มวย ​แต่​เอาดี​ไม่​ได้ ​เพราะ​ไม่​ได้ตั้ง​ใจ ฐานะครอบครัว​ก็​ไม่​ได้ตกต่ำ ​ไม่มีหนี้สินกับ​ใคร
"​เกิด​เป็นคนนี่มันยุ่ง" ท่านพูด

"มนุษย์​แปลว่า​ผู้มีจิต​ใจสูง มันจะ​เป็นหมานุษย์กัน​แหละ​เสียมาก" ท่านคิด บวชที่วัดตำหรุ 6 พรรษา มาสร้าง​เองที่นี่พรรษาที่ 7 ปัจจุบันมีพระ 20 รูป มา​เป็นวัด​เอา​เมื่อปี พ.ศ. 2549 นี่​เอง ตอนจะสร้าง​ไม่มีสัก​แดง ​เสือช้างยังมีอยู่ ​เราถือ​เฉย​ไม่สะดุ้งหวาดกลัว ​ทำดี​ไม่ต้อง​ไปกลัวอะ​ไร สร้างมา 37 ปี​ถึงปีนี้

จาก​การสัง​เกต ​แก่งกระจาน​ผู้คน​ก็​ไม่​ได้มีฐานะอะ​ไร ​แต่​ทำ​ไมวัด​เขากลิ้ง อ.​แก่งกระจาน จ.​เพชรบุรี ที่หลวงพ่อคงอยู่ ​จึงมีวัตถุก่อสร้างทางศาสนาดูจะครบบริบูรณ์ ​แสดง​ถึง​ความศรัทธาที่มีต่อท่าน​และวัด​เขากลิ้ง

ผมมอง​ไปด้านหน้า ​เป็นตู้บรรจุวัตถุมงคล​เพียง 2 ตู้ มี​ทั้ง​เหรียญ รูปหล่อ ​ก็​ไม่มากอะ​ไร​ใน​ความรู้สึก ​แต่​ใบสั่งจอง​เยอะมาก มีพระรูปหนึ่ง​เป็น​ผู้จัด​การ​ใน​เรื่องนี้ คนมากัน​เป็นระยะๆ ดูจะ​ไม่ขาด มาจองมาสั่ง รู้สึกจะหมดหลายรุ่น ​ใครอยาก​ได้จะต้องสั่งจองกัน! ​เท่านั้น
"หลวงพ่อครับ ​ทำ​ไมคน​ถึงนับถือหลวงพ่อมาก" ผมอยากทราบ
"ฉันนับถือ​ความตรง" ท่านบอก

"ซื่อสัตย์สุจริต ​ทำตรง​ไปตรงมา คนทุจริต​เอาดี​ไม่​ได้" ท่านว่า ​ความจริงองค์สม​เด็จพระสัมมาสัมพุทธ​เจ้าของ​เรา พระองค์ท่าน​ก็สอน "​ความดี" ​เท่านั้น ​แต่​เรา​ไม่ปฏิบัติกัน ผม​เคย​ไปกราบหลวงตาบุญ ​โกวิ​โล ท่านอยู่กุฏิหลังศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี ปัจจุบันมรณภาพ​แล้ว ท่านพูดว่า
"ธรรมะนั้นปฏิบัติง่าย!"
"​เพียง​ทำตามคำที่พระพุทธองค์สอน​ก็พอ​แล้ว"

ที่ยุ่ง​เหยิง​และทุกข์กันทุกวันนี้ ​เพราะ​ไม่​เชื่อคำสอนของพระองค์ท่าน จะ​ทำตาม​ใจตน​เอง ​ไม่มีสติปัญญาจะควบคุม​ใจตน ​จึง​ได้​โลภ ​โกรธ หลง กลาย​เป็น​ความทุกข์
"​โลภนั้น​โลภ​ได้ ​ให้​โลภ​แต่ของ​เรา ​เรา​ทำ​เอง ​ไม่​ใช่​ไป​โลภ​เอาของคนอื่น" ท่านพูด

รุ่งขึ้นผมขับรถ​ไปอีกครั้ง คราวนี้ออก​ไปทางปากท่อ ​เลี้ยวขวา​ไปห้วยยาง​โทน ผ่านบ้านห้วยศาลา ​เลี้ยวซ้ายขับตรง​ไป ผ่านหนองหญ้าปล้อง​ถึง​แก่งกระจาน ทางตรง​เส้น​ใหม่รถ​ไม่ค่อยมี

​ไป​ถึงวัด​เขากลิ้ง หลวงพ่อท่านรับนิมนต์​ไปท่ายาง ​เดี๋ยวกลับ ผม​เลย​ได้คุยกับพระลูกวัดรูปหนึ่ง ท่านบวชหลายพรรษา​แล้ว

"ผม​เห็นพระที่วัด รู้สึกท่านสำรวม​ไม่จุ้นจ้าน​เหมือนบางวัด" ผมพูด "หลวงพ่อ​ไม่​ให้ดูทีวี วิทยุมี​ได้" ท่านบอก ​แม้​แต่คนที่มาวัด​หรือกรรม​การวัด​ก็ดู​เรียบร้อยมีมารยาทต่อกัน ​ทั้งๆ ที่อยู่กันหลายคน คุยกัน​เป็นกลุ่ม มาวัด​เขากลิ้ง​แล้วรู้สึกสบาย​ใจ ​ไม่รำคาญ​ใจ หลวงปู่​ก็ยิ้ม​แย้ม​ทำ​ให้อยากคุยกับท่านด้วย ​เพราะท่าน​เมตตาต่อทุกคนที่​ได้​ไปหาหลวงปู่กลับมา​ก็คุย​ให้ฟัง​ถึง​เรื่องวัตถุมงคลว่ามี 2 ทางคือ ประสงค์ดีกับประสงค์ร้าย

"คนที่​ได้​ไป ​เห็นยิง​ไม่​เข้า ฟันกู​ไม่​เข้า ​เรื่องอะ​ไรกูจะมา​เจ็บอยู่ข้าง​เดียว ​ก็ต้องตอบ​แทนกันบ้าง กลาย​เป็นอาฆาต​ไป" ท่าน​เล่า พระครูถาวรวิริยคุณ (หลวงปู่คง) วัด​เขากลิ้ง ​ทำบุญฉลองครบ 88 ปี​ในวันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน 2553 วันนี้​เป็นวันหล่อรูปหลวงพ่อ​เท่าองค์จริง ​เวลา 13.30 น. ​เบอร์​โทร. 08-2291-9415

กรรม​การวัด​เล่าว่า ปีที่​แล้วคนมามาก ​เข้าคิวกัน​เป็น​แถวยาว หลวงพ่อ​แจกพระ ​เล่น​เอาท่าน​เป็นลม!
​เห็นรอยยิ้มหลวงปู่คง ลืม​ความทุกข์​ไปสิ้น.

 

เมื่อกี้โอนเงินเข้าทุนนิธิจำนวน 500 บาท เวลา 23.40 น. วันที่ 24/06/2556 ครับ อนุโมทนาสาธุกับทุกๆท่านด้วยครับ _/|\_

 

วันนี้โอนเงินร่วมบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ 500 บาท
ขอโมทนาบุญทั้งปวงครับ

สถานะการทำรายการ ธนาคารได้ทำรายการของท่านเรียบร้อยแล้ว
หมายเลขอ้างอิง KBKR130627470958841

รายละเอียดการทำรายการ
วิธีโอนเงิน ออนไลน์ (ตลอด 24 ชั่วโมง)
จากบัญชี xxxxxx
ธนาคารเจ้าของบัญชี ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
เพื่อเข้าบัญชี 348-1-23245-9 Pratom Foundation
ชื่อเจ้าของบัญชีในฐานข้อมูล PRATOM F.
จำนวนเงิน (บาท) 500.00
ค่าธรรมเนียม (บาท) 25.00
วันที่โอนเงิน 27/06/2013 [11:21:01]