ผมได้ดำเนินการโอนปัจจัยการบริจาคไปยังสถานที่ต่างๆ เรียบร้อยแล้วครับ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านอีกครั้งนึงครับ
พันวฤทธิ์
3/8/67
ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ
ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.
หน้า 453 ของ 454
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
พระกรุวัดกลางคลองข่อย จ.ราชบุรี พระกรุที่มีพลังงานแรงกล้าจนน่าตกใจ ให้ท่านอาจารย์ตรวจทางจิต พระกรุนี้อธิษฐานจิตโดยท่านเจ้าคุณปู่โตอย่างสมบูรณ์ พระราคาหลักร้อยเท่านั้นเองพบหาตามเว็บตามเฟสคว้าไว้เลยครับ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ประมาณการ การบริจาคประจำเดือน สิงหาคม 2567 ของ รพ.ภูมิภาคทั้ง 9 แห่ง และกองทุนภิกษุอาพาธ วัดหนองป่าพง ดังนี้
- รพ.เชียงแสน จ.เชียงราย 4,000.-
- รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน 4,000.-
- รพ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน 4,000.-(ปรับลดยอดจาก 6,000)
- รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย จ.เลย 8,000.-
- รพ.สวนดอก จ.เชียงใหม่ 4,000.-
- รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น 5,000
- รพ.50 พรรษาฯ จ.อุบล 4,000.-
- รพ.ปัตตานี จ.ปัตตานี 2,000.-
- รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ 6,000.-(เดิม 4,000.-)
- กองทุนภิกษุอาพาธ วัดหนองป่าพง 5,000.-
รวม 46,000.-
(รพ.นราธิวาสฯ มียอดเงินสดในมือเหลือสี่พันกว่าบาทจึงขอมติที่ประชุมของคณะทำงานทุนนิธิฯเพิ่มเงินบริจาคจากเดิม 4,000.-เป็น 6,000.- โดยเริ่มบริจาคตั้งแต่เดือน ส.ค.67 เป็นต้นไป)
พันวฤทธิ์
25/8/67
ผมได้ดำเนินการโอนเงินบริจาคไปยังสถานที่ต่างๆ ข้างต้นเรียบร้อยแล้ว จึงขอแจ้งมาเพื่อทราบครับ
พันวฤทธิ์
7/9/67ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
■ พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า วังหน้า พิมพ์ทรงเจดีย์ เนื้อผงปูนเพชร ลงรักดำชาดแดง มีขนาดเล็กกว่าพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าพิมพ์อื่นๆ เข้าใจว่าจะสร้างเพื่อแจกกุลสตรีฝ่ายในหรือนางใน (ดูรูปเปรียบเทียบ) โรยผงตะไบทองและขี้เหล็กไหล ชมเพื่อการศึกษา,ค้นคว้าและการอนุรักษ์
-
ประมาณการ การบริจาคประจำเดือน กันยายน 2567 ของ รพ.ภูมิภาคทั้ง 9 แห่ง และกองทุนภิกษุอาพาธ วัดหนองป่าพง ดังนี้
- รพ.เชียงแสน จ.เชียงราย 4,000.-
- รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน 4,000.-
- รพ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน 4,000.-
- รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย จ.เลย 8,000.-
- รพ.สวนดอก จ.เชียงใหม่ 4,000.-
- รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น 5,000.-
- รพ.50 พรรษาฯ จ.อุบล 4,000.-
- รพ.ปัตตานี จ.ปัตตานี 2,000.-
- รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ 6,000.-
- กองทุนภิกษุอาพาธ วัดหนองป่าพง 5,000.-
รวม 46,000.-
พันวฤทธิ์
26/9/67ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
■ พระสมเด็จกรุวัดกลางคลองข่อย ราชบุรีพิมพ์ฐานแซม ลงรักปิดทอง เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) เมตตาเสกอธิษฐานจิต ชมเพื่อการศึกษา,ค้นคว้าและการอนุรักษ์
-
ประมาณการ การบริจาคประจำเดือน ตุลาคม 2567 ของ รพ.ภูมิภาคทั้ง 9 แห่ง และกองทุนภิกษุอาพาธ วัดหนองป่าพง ดังนี้
- รพ.เชียงแสน จ.เชียงราย 4,000.-
- รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน 4,000.-
- รพ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน 4,000.-
- รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย จ.เลย 8,000.-
- รพ.สวนดอก จ.เชียงใหม่ 4,000.-
- รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น 5,000.-
- รพ.50 พรรษาฯ จ.อุบล 4,000.-
- รพ.ปัตตานี จ.ปัตตานี 2,000.-
- รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ 6,000.-
- กองทุนภิกษุอาพาธ วัดหนองป่าพง 5,000.-
รวม 46,000.-
พันวฤทธิ์
27/10/67
วันนี้ได้ดำเนินการโอนปัจจัยการบริจาคไปยังสถานที่ข้างต้นเรียบร้อยแล้วครับ
พันวฤทธิ์
1/11/67ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ประมาณการ การบริจาคประจำเดือน พฤศจิกายน 2567 ของ รพ.ภูมิภาคทั้ง 9 แห่ง และกองทุนภิกษุอาพาธ วัดหนองป่าพง ดังนี้
- รพ.เชียงแสน จ.เชียงราย 4,000.-
- รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน 4,000.-
- รพ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน 4,000.-
- รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย จ.เลย 8,000.-
- รพ.สวนดอก จ.เชียงใหม่ 4,000.-
- รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น 5,000.-
- รพ.50 พรรษาฯ จ.อุบล 4,000.-
- รพ.ปัตตานี จ.ปัตตานี 2,000.-
- รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ 6,000.-
- กองทุนภิกษุอาพาธ วัดหนองป่าพง 5,000.-
รวม 46,000.-
พันวฤทธิ์
25/11/67
ได้ดำเนินการโอนปัจจัยบริจาคไปยังสถานที่ข้างต้นทุกแห่งเรียบร้อยแล้ว ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้บริจาคปัจจัยผ่านทุนนิธิฯ นี้ด้วยครับ
พันวฤทธิ์
3/12/67ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ประมาณการ การบริจาคประจำเดือน ธันวาคม 2567 ของ รพ.ภูมิภาคทั้ง 9 แห่ง และกองทุนภิกษุอาพาธ วัดหนองป่าพง ดังนี้
- รพ.เชียงแสน จ.เชียงราย 4,000.-
- รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน 4,000.-
- รพ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน 4,000.-
- รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย จ.เลย 8,000.-
- รพ.สวนดอก จ.เชียงใหม่ 4,000.-
- รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น 5,000.-
- รพ.50 พรรษาฯ จ.อุบล 4,000.-
- รพ.ปัตตานี จ.ปัตตานี 2,000.-
- รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ 6,000.-
- กองทุนภิกษุอาพาธ วัดหนองป่าพง 5,000.-
รวม 46,000.-
พันวฤทธิ์
27/12/67
ผมได้ดำเนินการโอนปัจจัยไปยังสถานที่ข้างต้นเรียบร้อยแล้วครับไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ประมาณการ การบริจาคประจำเดือน มกราคม 2568 ของ รพ.ภูมิภาคทั้ง 9 แห่ง และกองทุนภิกษุอาพาธ วัดหนองป่าพง ดังนี้
- รพ.เชียงแสน จ.เชียงราย 4,000.-
- รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน 4,000.-
- รพ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน 4,000.-
- รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย จ.เลย 8,000.-
- รพ.สวนดอก จ.เชียงใหม่ 4,000.-
- รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น 5,000.-
- รพ.50 พรรษาฯ จ.อุบล 4,000.-
- รพ.ปัตตานี จ.ปัตตานี 2,000.-
- รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ 6,000.-
- กองทุนภิกษุอาพาธ วัดหนองป่าพง 5,000.-
รวม 46,000.-
พันวฤทธิ์
26/1/68 -
#เทวดาฮักษาเพิ่นหลายแท้!
เคยได้ยินพระผู้เฒ่าเล่าให้ฟัง...อยู่กรุงเทพฯ หน่ะ ฮู้จักแม่หญิงเทพฯ บ่หล่ะ...?
ผม......... รู้จักอยู่ครับ
หลวงปู่....แม่หญิงนี่บ่ธรรมดาเด๊ เป็นแม่หญิง แต่บารมีเพิ่นหลาย มื้อเฮาไปกรุงเทพฯ พักอยู่ มีเทวดาเข้ามาหาเฮา มารายงานตัวกะเฮา ๆ ถามว่ามาแต่ไส เพิ่นรายงานให้ฟังว่า เพิ่นออกจากเวรผลัดรักษาแม่หญิงเทพฯ แม่หญิงมีเทวดาเฝ้าฮักษา จำนวน ...ผลัด ผลัดละ....องค์ แล้วท่านก็หัวเราะ ... เทวดาฮักษาเพิ่นหลายแท้ บ่ธรรมดาเด้ นี่...บ่อธรรมดา พวกเจ้าให้เคารพเพิ่นเด้ บารมีเพิ่นหลายแท้ แม่หญิงนี่.....
พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ
________________________
ปล.ไม่ได้กล่าวถึงเป็นไปในทางพิสดารอะไร แต่ลงเอาไว้เป็นที่ระลึกถึงองค์พระอาจารย์ ให้ได้ระลึกถึงเป็นสังฆานุสติแลอาจาริยบูชาเท่านั้นครับ
cr. กร อนันตกาล -
"เหรียญหลวงพ่อพาน ตะกรุดไขว้ออกวัด หนองตาแต้ม" เป็นเหรียญที่ขึ้นชื่อว่ามากด้วยประสบการณ์ เป็นที่หวงแหนของผู้ครอบครอง โดยเฉพาะเนื้อทองคำ และเนื้อเงิน ไม่มีการซื้อขายในท้องตลาดเลย ส่วนเหรียญเนื้อทองแดงที่สร้างมากถึง ๑๐๐,๐๐๐ เหรียญนั้น ตอนที่ออกจากวัดราคาเพียง ๒๐ บาทเท่านั้น ปัจจุบันราคาอยู่ที่ ๘๐๐-๑,๐๐๐ บาทแล้ว
ข้อความข้างบนผมว่าไม่ได้เอ่ยเกินจริงเลยครับ ได้เหรียญท่านมาเหรียญนึง พันต้นๆ เอามานั่งกำหนดจิตดู แรงจริงแฮะ สมราคา พระดีราคาถูก ผมเคยไปถึงวัดท่านแระ ไปไกลจาก กทม.อยู่ สมัยก่อนคงลำบากมากจริงๆ น่าเก็บครับ น่าเก็บจริงๆ
พันวฤทธิ์
26/1/68ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
เรื่องเก่าเล่าใหม่
พระพิมพ์สมเด็จสกุลเจ้าคุณกรมท่า อ.ประถม อาจสาคร
25 พฤษภาคม 2015 ·
พระสมเด็จกรุบางน้ำชน (ปีระกาป่วงใหญ่) นี้มีชื่อเรียกหลายชื่อ "สมเด็จปีระกา" ,"สมเด็จปีระกาป่วงใหญ่" ,"สมเด็จเขียว" , "สมเด็จกรุบางน้ำชน" เป็นพระสมเด็จที่สร้างขึ้นที่วัดบวรสถานสุทธาวาส(วัดพระแก้ววังหน้า)และทันท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ(โต)ปลุกเสกและที่ถือว่าเป็นรุ่นพี่สมเด็จกรุบางขุนพรหมเพราะสร้างก่อน
อหิวาตกโรคเป็นโรคระบาดร้ายแรงชนิดหนึ่ง คนสมัยก่อนหาสมุฏฐานไม่ได้เข้าใจกันว่าผีห่ากินตายกันจนหยุดไปเอง ปรากฏประวัติว่าสมัยแผ่นดินพระเจ้าอู่ทองเกิดโรคห่าลง คนตายจนเมืองอู่ทองร้าง ตำนานอำเภอสัตหีบว่า พระเจ้าอู่ทองหนีภัยผีห่ามาทางทะเลจนถึงชายทะเลฝั่งตะวันออก เรือนั้นบรรทุกหีบขนาดใหญ่มาถึง 7 ใบ พระเจ้าอู่ทองลงซ่อนตัวในหีบเพื่อหนีผีห่า เมื่อโรคห่าซาลงแล้วเสด็จกลับไปสร้างเมืองอยุธยาเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ.1893 และในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์เกิดการแพร่ระบาดของโรคห่าถึง 3 ครั้ง คือในสมัย ร.2 ร.3 และในสมัย ร.5 เรื่องของสมเด็จปีระกาป่วงใหญ่สมัย ร.5 โรคอหิวาต์เกิดการระบาดขึ้นในวันแรก ณ วันเสาร์แรม 11 ค่ำ เดือน 7 ปี พ.ศ. 2416 ถึงวันอาทิตย์แรม 11 ค่ำ เดือน 8 อหิวาต์ก็สงบ เป็นอยู่ประมาณ 30 วัน ผู้คนล้มตายกันเป็นจำนวนหมื่น เจ้าประคุณสมเด็จมาเข้าฝันคนเรือและคนตามบ้านให้นำพระพิมพ์ของท่านทำน้ำมนต์มาดื่มกินแก้โรคอหิวาต์ หลังจากนั้นโรคอหิวาต์ก็หายภายใน 7 วัน นับว่า เป็นการ์ช่วยเหลือประชาราษฏร์ไว้มิใช่น้อย ในหลวง ร.5 ทรงบรรลุนิติภาวะในปีนั้น ทรงนำพระพิมพ์สมเด็จที่เหลือจากการบรรจุกรุที่วัดบางน้ำชนจำนวนหนึ่ง ทรงพระราชทานแก่ประชาราษฏร์และข้าราชการในสำนัก
พระพิมพ์สมเด็จดังกล่าวนี้ได้จัดการสร้างและเสกที่วัดบวรสถานสุทธาวาสหรือวัดพระแก้ววังหน้า มิได้สร้างจากวัดระฆัง มีอยู่หลายพิมพ้ด้วยกันที่แพร่หลายมากก็คือ พิมพ์ปรกโพธิ์เม็ด ชาวบ้านชาวเมืองในสมัยนั้น พากันกล่าวขานว่า "พระสมเด็จปีระกา" หรือ "พระสมเด็จเขียว" อันเนื่องมาจากพระพิมพ์สมเด็จนี้ปรากฏวรรณะสีเขียวอ่อนๆ ทรงพิมพ์กระเดียดไปทางพระสมเด็จกรุวัดใหม่อมตรสหรือวัดบางขุนพรหม ส่วนที่ฝากกรุก็มีอยู่บ้าง แต่ก็เป็นจำนวนน้อยและยังพบซ่อนอยู่บนเพดานโบสถ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ก็มีอยู่ ที่พบมากก็คือการแตกกรุของเจดีย์วัดบางน้ำชนใกล้สะพานกรุงเทพฯ เป็นพระสมเด็จแท้ คราบกรุพอสวย ไม่หนาเหมือนพระสมเด็จบางขุนพรหมกรุใหม่ เนื้อพระแห้งสนิทหากใช้แขวนตามธรรมชาติไม่เลี่ยมปิด ผิวเนื้อพรจะหนึกนุ่มผู้ที่ไม่จัดเจนเคยเสนอราคาให้จำนวนเงินเป็นล้าน แต่เจ้าของพระไม่ยอมออกตัวเพราะได้รับประสบการณืมาแล้ว บางคนเอาตราวัดบางขุนพรหมปลอมมาประทับด้านหลัง หลอกลวงว่าเป็นพระสมเด็จบางขุนพรหมกรุใหม่
ท่านเจ้าคุณชลปรทานธนารักษ์ท่านได้เล่าให้ อ.ประถม อาจสาคร ฟังว่า สมัยก่อนก๋งของท่านมีนิวาสสถานอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ปลูกอาคารยื่นลงไปในแม่น้ำเป็นที่พักอาศัย และจอดเรือจ้าง ก๋งท่านมักชอบขอพระพิมพ์สมเด็จสกุลนี้จากพวกชาวเรือ รวบรวมพระได้ประมาณครึ่งกระป๋องบุหรี่นับเป็นวาสนาของผู้มีเบี้ยน้อยหอยน้อย ถ้าเซียนพระมีคามรู้ถึงขนาด คนจนเป็นอันหมดสิทธิ์ก็เป็นการดีไปอย่างหนึ่ง พระสมเด็จสกุลนี้ มีพลังอิทธิคุณสมบูรณ์ทุกประการ พลังอิทธิคุณสูงล้ำ เป็นกระแสพลังของเจ้าประคุณสมเด็จฯ อย่างแน่ชัด
พระพิมพ์ที่ทรงพระราชทานส่วนใหญ่จะเป็นพิมพ์ปรกโพธิ์เม็ดและพิมพ์ปรกใบ แต่พิมพ์อื่นๆก้มีแต่น้อยกว่า 2 พิมพ์นี้ ท่านอาจารย์ประถม ท่านเคยเล่าให้ฟังว่าพระพิมพ์กรุนี้ใช้แทนสมเด็จกรุบางขุนพรหมได้เลย อิทธิคุณเสมอกันปัจจุบันพระพิมพ์กรุนี้มีพบเห็นในสนามพระบ้างส่วนใหญ่จะเป็นพิมพ์ที่มีลักษณะแบบพิมพ์สมเด็จบางขุนพรหม ส่วนพิมพ์ปรกโพธิ์เม็ดและพิมพ์ปรกโพธิ์ใบ (โพธิ์บาย) ค่อนข้างหาได้ยากมากๆนานๆจะพบสักองค์
นี่คือข้อเขียนของ อ.ประถม อาจสาคร ที่ผมคัดมาพิมพ์ลงให้ได้อ่านกัน ยังไม่เคยมีปรากฏในที่อื่นมาก่อน หากท่านเจอหลังจากนี้ แสดงว่ามาก๊อปปี้จากตรงนี้ไป ซึ่งข้อมูลบางส่วนนี้ นำมาจากหนังสือ "วิเคราะห์ระพิมพ์สมเด็จฯ และพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าฯ " เล่มสีน้ำเงินครับ
ต่อไปเป็นข้อมูลของ อ.ประถมฯ ที่ผมข้องใจและสอบถามเพิ่มเติมในอิทธิคุณหรือพลังของพระสมเด็จพิมพ์นี้ครับ
ผมได้เคยมีโอกาสสอบถาม อ.ประถมฯ สมัยเมื่อยังมีชีวิตอยู่ว่า ปู่ฯ พระกรุบางน้ำชนของสมเด็จโต มีพลังออกไปทางด้านไหนครับ ปู่ฯ บอกว่า พระกรุนี้ สมเด็จท่านเสกให้แบบชนะมาร ผมทำท่างงๆ ปู่ฯ เลยบอกว่า พระรุ่นนี้น่ะ อย่าว่าแต่คนเลย แม้โรคภัยซึ่งถือว่าเป็นมารชนิดหนึ่งกับชีวิต พระกรุนี้ ยังสามารถนำมาทำน้ำมนต์เพื่อรักษาโรคได้ จึงเป็นที่มาของสมเด็จปีระกาป่วงใหญ่ ซึ่ีงโรคป่วงคืออหิวาต์ได้คร่าชีวิตคนในพระนครสมัยเมื่อปี พ.ศ.2416 นั้นไปมากมาย ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ หรือสมเด็จโตท่านได้ไปเข้าฝันคนเรือและชาวบ้านให้เอาพระกรุนี้มาทำน้ำมนต์กันอหิวาต์แล้วเกิดเป็นอัศจรรย์คือคนที่เป็นเมื่อกินน้ำมนต์ก็หายจากโรค คนที่ไม่เป็นโรค ก็ไม่ได้รับผลใดๆ จากโรคป่วงในขณะนั้น ส่วนพระพิมพ์ที่ท่านเข้าฝันให้นำมารักษาโรคนั้น เป็นพิมพ์โพธิ์เม็ด (ใบโพธิ์แบบเม็ด) ครับ ในเรื่องนี้เมื่อต้นปี (2558) ผมได้ให้ฌาณลาภีครูอาจารย์ของผมที่มีความสามารถทางจิตสูงมาก ขนาดเพ่งขวดพลาสติคโดยใช้กสิณไฟทำน้ำมนต์ให้ผม จนขวดพลาสติคเป็นรูโบ๋ขนาดดินสอสอดได้ สอบทานดูถึงลำดับของพระพิมพ์ที่สำเร็จโดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ (โต) ว่าพระพิมพ์ที่สำเร็จโดยท่านเจ้าประคุณฯ นั้นสามารถเรียงลำดับตามกระแสพลังซึ่งต่างกันเพียงโบกมือสะบัดแยกตามวัดต่างๆ ได้ดังนี้
1.พระพิมพ์สมเด็จวัดระฆัง
2.พระพิมพ์สมเด็จวัดบางขุนพรหม
3.พระพิมพ์สมเด็จวัดไชโย
4.พระพิมพ์สมเด็จกรุบางน้ำชน
ส่วนวัดอื่นนอกเหนือจากนี้ก็ลดหลั่นกันไป ซึ่งสาเหตุก็เนื่องมาจากพระพิมพ์แต่ละแห่งมีผงวิเศษของท่านมากน้อยต่างกันไปนั่นเองพระพิมพ์กรุบางน้ำชนนี้ ทุนนิธิฯ โชคดีที่ยังมีศิษย์รุ่นใหญ่ของ อ.ประถมฯ ที่มีอายุขัยตอนนี้กว่า 75
และทันได้เก็บพระสมเด็จสกุลนี้ตอนเปิดกรุหลังจากเจดีย์ที่บรรจุพระพิมพ์ล้มเก็บไว้พอสมควร วันไหนแกอยากจะทำบุญเยอะๆ ก็จะนำออกให้บูชากันในวันทำกิจกรรมประจำเดือนของทุนนิธิฯ บางคนจึงได้มีโอกาสเก็บไว้บูชากันครับ (ตอนนี้ 2568 ก็ทยอยนำออกมาให้ทำบุญบ้างแล้วราคาตามสภาพครับ ผมเองยังเก็บไว้แล้วแขวนใช้โดยตลอด สบายใจครับ ตรวจเอง เช็คเอง แถมมีครูอาจารย์ที่มีพลังทางจิตที่สูงส่งช่วยตรวจซ้ำ มั่นใจครับ จับแล้วเพลินจิตเพลินใจในพลังงานท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ มาก พอดีปัจจัยที่ได้จากการบูชาพระท่านก็ช่วยสงฆ์อาพาธบ้าง สร้างเจดีย์ สร้างถาวรวัฒถุในบวรพุทธศาสนาบ้าง ท่านเจ้าของพระไม่เคยเข้าพกเข้าห่อแกเลย ก็เพราะแกมีเบี้ยหวัดบำนาญกิน แถมมีลูกสาวเป็นคุณหมออีก เชื่อใจได้)
ตรวจเองแขวนเองนักเลงพอครับ (ปี 2568 นี่ ท่านผู้นำพระออกมาให้บูชาอายุ 86 ปีแล้ว)
พันวฤทธิ์
26/1/68
พระตามแนบเป็นพระของผมเอง เป็นพิมพ์ใหญ่ มีคราบกรุบางๆ พองาม เหมือนท้องฟ้ายามเดือนหงายพอมีดาวประดับบ้างครับไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ร่วมบุญครับ สาธุๆ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
หน้า 453 ของ 454