ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

เรียน ท่านพันวฤทธิ์

ขอโมทนาบุญกับทุกท่าน ครับ
เรื่องของพระอภิธรรม ในแง่ปรัชญา
ศึกษาเรื่องจิต เจตสิก เป็นต้น ครับ

ปัจจุบันผมศึกษาพระอภิธรรมทางไปรษณีย์ ครับ
คงต้องใช้เวลาอีกนาน ครับ

ขอทุกท่าน สมบูรณ์ด้วย ทาน ศีล ภาวนา ครับ

 

กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงและและโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้ร่วมกันบริจาคทรัพย์มาร่วมกันสร้างกุศลในครั้งนี้ ก็ขอเรียนเชิญทุกท่านด้วยนะครับถ้าพอมีเวลาว่างในวันที่ 27 เม.ย. นี้ก็เรียนเชิญมาร่วมกันถวายภัตตาหารและทำบุญกับโรงพยาบาลสงฆ์ด้วยนะครับ
โมทนา สาธุ โมทนา สาธุ โมทนา สาธุ

ผมขอนำรายการบัญชียอดเงินบริจาคมาแสดงซึ่งUpdate เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2551 มาเพื่อสรุปยอดเงินก่อนที่จะมีการถอนออกเพื่อนำไปทำบุญในวันที่
27 เม.ย. นี้ ดังนี้



ยอดเงินรวมคือ 104,110.41 บาท

สำหรับช่องที่ว่างไม่ชื่อผู้บริจาคในสมุดบัญชีก็ต้องขอให้ท่านที่บริจาคมาแล้วแต่ไม่ได้แจ้งให้ทราบกระทู้หรือ PM ก็ต้องขอให้ท่านช่วยแจ้งให้ทางคณะกรรมการทุนนิธิฯทราบด้วยนะครับจะได้ลงรายการไว้เป็นหลักฐานที่ถูกต้องต่อไป

โมทนา สาธุ โมทนา สาธุ โมทนา สาธุ

 

ยอดเงินรวมคือ 104,110.41 บาท


โมทนากับทุกๆท่านที่มีจิตอันเป็นบุญ เป็นกุศล ได้ร่วมทั้งแรงกาย แรงใจ แรงทรัพย์ ช่วยสงฆ์อาพาธอันเป็นบุญ ดุจดังอุปฐากพระพุทธองค์ จากจุดเริ่มต้นก่อตั้งทุนนิธิด้วยเงินเพียง5000บาท ระยะเวลาผ่านมาไม่ถึงครึ่งปี สามารถสงเคราะห์สงฆ์อาพาธไปแล้ว ห้าถึงหกหมื่นบาท และยังเหลือปัจจัยในบัญชีถึงแสนกว่า นับว่าดุจดังสายฝนที่ค่อยๆ ก่อตัวรวมกัน เป็นสายน้ำ เป็นแม่น้ำ เป็นมหาสมุทร ยังประโยชน์ได้จริง เงินจำนวนที่มากขึ้นนี้ ท่านทั้งหลายไม่ต้องคิดว่า ทางคณะกรรมการจะเกิดกิเลสใดๆในเงินท่าน เพราะเมื่อครบกำหนดก่อตั้งทุนนิธิฯครบปี ทางคณะกรรมการจะจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ ไว้เป็นบุญถาวรวัตถุ ให้กับโรงพยาบาลที่อยู่ในความขาดแคลนเหมาะสมต่อไป

สาธุ สาธุ สาธุ

 

คุณ newcomer

ขอให้ตั้งใจเรียน และส่งการบ้านคืนแม่ชีด้วยล่ะ ผมเรียนจบในบทที่ 5 นานแล้วเรียนจบ ทำให้ได้ความรู้มาก ในเรื่อง จิต เจตสิก รูป นิพพาน ในแง่ปรมัตถมาก อย่างไรก็ตาม ควรหาหนังสือ อภิธัมมัตถสังคหะ มาอ่านประกอบด้วยก็จะดีครับ หนังสือมีขายที่มูลนิธิมหามกุฏ หน้าวัดบวรฯ ชั้นที่ 2 เล่มละไม่กี่บาท หรือจะไปที่วัดมหาธาตุ หาซื้อซีดี ของท่านกิตติวุฒโท ที่อภิธรรมมูลนิธิ มาฟังก็จะทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น ส่วนของท่าน อ.แนบ ก็ไม่เลวครับ เพราะเคยฟังเรื่องวิสุทธิ7 บรรยายได้ดีมาก และจะทำให้ได้อรรถรสในการเรียนพระอภิธรรมมากยิ่งขึ้น

ขอโมทนาด้วยเช่นกัน

พันวฤทธิ์
22/4/51

 

สำหรับผู้สนใจเรียน พระอภิธรรม ทางอินเตอร์เน็ต และทางตรงกับวัดมหาธาตุ เชิญดูรายละเอียดได้ที่

http://www.buddhism-online.org/Index1.htm

และ ทางไปรษณีย์

http://palungjit.org/showthread.php?p=619823

ขอบคุณคุณ newcomer และ คุณ พันวฤทธิ์ ที่หยิบยกเรื่องการเรียนอภิธรรมมาคุยกันครับ ผมเลยได้มีโอกาสค้นหาข้อมูลต่อไป ขอบคุณครับ

 

ขอเพิ่มเติมรายละเอียด เพื่อเป็นวิทยาทานกันนะครับ
พระกรุคูบัว พิมพ์นี้เป็นพิมพ์หน้าเดียว แบบที่ 1

ด้านหน้า



ด้านหลัง




พระกรุคูบัว พิมพ์นี้เป็นพิมพ์หน้าเดียว แบบที่ 2

ด้านหน้า




ด้านหลัง





พระกรุคูบัว พิมพ์นี้เป็นพิมพ์ 2 หน้าประกบกัน แบบเดียวกับที่ท่านอ.ประถม ท่านใช้ถ่ายรูปที่อยู่ปกด้านหลังหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร เล่มปัจจุบัน

ด้านหน้า




ด้านหลัง



พระทั้ง 3 องค์นี้ผมนำมาถ่ายรูปไว้เพื่อจะได้เป็นข้อมูลอ้างอิงซึ่งก็หวังว่าจะเป็นแนวทางที่ทุกท่านจะได้ใช้ประโยชน์สืบไปนะครับ องค์ที่ประกบกัน 2 หน้าตอนที่ได้มาก็ชำรุดที่ฐานแบบนี้แล้ว ส่วนองค์ที่มีชาดสีแดงลงพระพักตร์ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่แต่ยังมีเค้าโครงเดิมอยู่

 

งามมากครับพี่ปุ๊....

 

ขอขอบคุณพี่ นายสติสำหรับ วิทยาทานดีๆที่มอบให้ครับ
ขอบคุณและโมทนาสาธุครับ
nongnooo...

 

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ได้ใจแล้ว คือ ได้ธรรม
เห็นใจแล้ว คือ เห็นธรรม
รู้ใจแล้ว คือ รู้ธรรมทั้งมวล
ถึงใจตนแล้ว คือ ถึงพระนิพพาน

ที่มา >>ClickHere<<

 

"แหวนทองเนื้อเก้า"ที่กลางใจ


<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->

​

อำนาจความรักอย่างใหญ่ยิ่งจริงใจใสสะอาดเคยปรากฏงดงามแล้วแก่จิตใจ ที่เคยได้ฟังเล่าจากผู้ประสบผลงดงามอย่างชื่นใจที่สุดคือ ญาติโยมผู้หนึ่งเคยได้ยินกิตติศัพท์มหัศจรรย์ของ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่

ที่เล่าขานกันว่า นายทหารอากาศเคยเห็นท่านลอยอยู่บนฟ้า ขณะที่ขับเครื่องบินผ่านวัดดอยแม่ปั๋ง ญาติโยมผู้นั้นตื่นเต้น อยากที่จะได้ไปกราบนมัสการท่านที่สุด เช่นเดียวกับผู้ที่ชอบอิทธิฤทธิ์ทั้งหลาย วันหนึ่งก็ได้ไปกราบหลวงปู่ท่านสมปรารถนา ช่วงนั้นท่านยังไม่ชรานัก ยังเดินเหินพูดจาปราศรัยได้สะดวกดีมาก

ญาติโยมผู้นั้นกลับมาเล่าอย่างชื่นอกชื่นใจว่าหลวงปู่ท่าน น่ารักที่สุด ยิ้มก็น่ารัก เสียงก็น่ารัก โดยเฉพาะนัยน์ตาในแว่นสี่เหลี่ยมขาวใสของท่านทำให้ญาติโยมผู้นั้นเล่าว่ากลับมาได้ ๕-๖ วันก็ต้องเดินทางไปดอยแม่ปั๋งกันอีก

ทั้งที่สมัยนั้นการเดินทางเข้าไปให้ถึงวัดดอยแม่ปั๋งไม่ได้สะดวกสบายเช่นทุกวันนี้ ต้องแล่นรถเลียบเหวไปอย่างที่ทำให้ผู้หญิงทั้งหลายตัวเกร็งไปตามกันด้วยความอดเสียวไส้ไม่ได้

แต่ก็เทียวไปเทียวมานับไม่ถ้วนในช่วงนั้น มีเหตุผลอย่างเดียวคือคิดถึงนัยน์ตาหลวงปู่ท่าน คิดถึงเสียงที่น่ารักชอบกลของท่าน รักท่านจนไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยที่ต้องเดินทางที่นับว่าไกลมากบ่อยๆ แรกๆ ก็เล่าเช่นนี้ ต่อมาเล่าถึงจุดสำคัญที่สุดในการไปกราบหลวงปู่ท่านครั้งแรก นำมาเล่าไว้ใน ​

 

อำนาจของ"เมตตาเจโตวิมุติ"สลาย"
กรรมเก่า"ได้!!??

เล่ม ๙ พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค
อุปมานิวรณ์ ๕


ดูกรวาเสฏฐะ เปรียบเหมือนบุรุษจะพึงกู้หนี้ไปประกอบการงาน การงานของเขาจะพึงสำเร็จผล เขาจะพึงใช้หนี้ที่เป็นต้นทุนเดิมให้หมดสิ้น และทรัพย์ที่เป็นกำไรของเขา จะพึงมีเหลืออยู่ สำหรับเลี้ยงภริยา เขาจะพึงมีความคิดเห็นอย่างนี้ว่า
เมื่อก่อนเรากู้หนี้ไปประกอบการงาน บัดนี้ การงานของเราสำเร็จผลแล้ว เราได้ใช้หนี้ที่เป็นต้นทุนเดิมให้หมดสิ้นแล้ว และทรัพย์ที่เป็นกำไรของเรายังมีเหลืออยู่สำหรับเลี้ยงภริยา ดังนี้ เขาจะพึงได้ความปราโมทย์ถึงความโสมนัส มีความไม่มีหนี้นั้นเป็นเหตุ ฉันใด.
ดูกรวาเสฏฐะ เปรียบเหมือนบุรุษจะพึงเป็นผู้มีอาพาธถึงความลำบากเจ็บหนัก บริโภคอาหารไม่ได้ และไม่มีกำลังกาย สมัยต่อมา เขาพึงหายจากอาพาธนั้น บริโภคอาหารได้และมีกำลังกาย เขาจะพึงมีความคิดเห็นอย่างนี้ว่า
เมื่อก่อนเราเป็นผู้มีอาพาธ ถึงความลำบาก เจ็บหนักบริโภคอาหารไม่ได้ และไม่มีกำลังกาย บัดนี้ เราหายจากอาพาธนั้นแล้ว บริโภคอาหารได้และ
มีกำลังกายเป็นปกติ ดังนี้ เขาจะพึงได้ความปราโมทย์ ถึงความโสมนัส มีความไม่มีโรคนั้นเป็นเหตุ ฉันใด.
ดูกรวาเสฏฐะ เปรียบเหมือนบุรุษจะพึงถูกจำอยู่ในเรือนจำ สมัยต่อมา เขาจะพึงพ้นจากเรือนจำนั้นโดยสวัสดีไม่มีภัย ไม่ต้องเสียทรัพย์อะไรๆ เลย เขาจะพึงมีความคิดเห็นอย่างนี้ว่าเมื่อก่อนเราถูกจองจำอยู่ในเรือนจำ
บัดนี้ เราพ้นจากเรือนจำนั้นโดยสวัสดีไม่มีภัยแล้ว และเราไม่ต้องเสียทรัพย์อะไรๆ เลยดังนี้ เขาจะพึงได้ความปราโมทย์ ถึงความโสมนัส มีการพ้นจากเรือนจำนั้นเป็นเหตุ ฉันใด.
ดูกรวาเสฏฐะ เปรียบเหมือนบุรุษพึงเป็นทาส ไม่ได้พึ่งตัวเอง พึ่งผู้อื่น ไปไหนตามความพอใจไม่ได้ สมัยต่อมา เขาพึงพ้นจากความเป็นทาสนั้น พึ่งตัวเองได้ ไม่ต้องพึ่งผู้อื่นเป็นไทแก่ตัว ไปไหนได้ตามความพอใจ เขาจะพึงมีความคิดเห็นอย่างนี้ว่า เมื่อก่อนเราเป็นทาสพึ่งตัวเองไม่ได้ ต้องพึ่งผู้อื่น ไปไหนตามความพอใจไม่ได้
บัดนี้ เราพ้นจากความเป็นทาสนั้นแล้ว พึ่งตัวเอง ไม่ต้องพึ่งผู้อื่น เป็นไทแก่ตัว ไปไหนได้ตามความพอใจ ดังนี้ เขาจะพึงได้ความปราโมทย์ ถึงความโสมนัส มีความเป็นไทแก่ตัวนั้นเป็นเหตุ ฉันใด.
ดูกรวาเสฏฐะ เปรียบเหมือนบุรุษมีทรัพย์ มีโภคสมบัติ จะพึงเดินทางไกลกันดารหาอาหารได้ยาก มีภัยเฉพาะหน้า สมัยต่อมา เขาพึงข้ามพ้นทางกันดารนั้นได้ บรรลุถึงหมู่บ้านอันเกษมปลอดภัยโดยสวัสดี เขาจะพึงมีความคิดเห็นอย่างนี้ว่า เมื่อก่อนเรามีทรัพย์ มีโภคสมบัติ เดินทางไกลกันดาร หาอาหารได้ยาก มีภัยเฉพาะหน้า
บัดนี้ เราข้ามพ้นทางกันดารนั้นบรรลุถึงหมู่บ้านอันเกษม ปลอดภัยโดยสวัสดีแล้ว ดังนี้ เขาจะพึงได้ความปราโมทย์ถึงความโสมนัส มีภูมิสถานอันเกษมนั้นเป็นเหตุ ฉันใด.
ดูกรวาเสฏฐะ ภิกษุพิจารณาเห็นนิวรณ์ ๕ ประการเหล่านี้ที่ยังละไม่ได้ในตน เหมือนหนี้เหมือนโรค เหมือนเรือนจำ เหมือนความเป็นทาส เหมือนทางไกลกันดาร และเธอพิจารณาเห็นนิวรณ์ ๕ ประการที่ละได้แล้วในตน เหมือนความไม่มีหนี้ เหมือนความไม่มีโรค เหมือนการพ้นจากเรือนจำ เหมือนความเป็นไทแก่ตน เหมือนภูมิสถานอันเกษม ฉันนั้นแล.
เมื่อเธอพิจารณาเห็นนิวรณ์ ๕ เหล่านี้ ที่ละได้แล้วในตน ย่อมเกิดปราโมทย์ เมื่อปราโมทย์แล้ว ย่อมเกิดปิติ เมื่อมีปิติในใจ กายย่อมสงบ เธอมีกายสงบแล้วย่อมได้เสวยสุขเมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น เธอมีใจประกอบด้วยเมตตา แผ่ไปตลอดทิศหนึ่งอยู่ ทิศที่สอง ที่สามที่สี่ ก็เหมือนกัน ตามนัยนี้ ทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องขวาง แผ่ไปตลอดโลก ทั่วสัตว์ทุกเหล่าในทุกสถาน ด้วยใจประกอบด้วยเมตตาอันไพบูลย์ ถึงความเป็นใหญ่ หาประมาณมิได้ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียนอยู่
คนเป่าสังข์ผู้มีกำลัง พึงยังบุคคลให้รู้แจ้งทั้งสี่ทิศ โดยไม่ยากเลย ฉันใด กรรมที่ทำพอประมาณอันใดในเมตตาเจโตวิมุตติ ที่บุคคลอบรมแล้วอย่างนี้กรรมนั้นจะไม่เหลือ ไม่ตั้งอยู่ในรูปาพจรและอรูปาพจรนั้นฉันนั้นเหมือนกัน ดูกรวาเสฏฐะแม้นี้แล ก็เป็นทางเพื่อความเป็นสหายแห่งพรหม.


คัดลอกจาก: พระไตรปิฎก ฉบับธรรมทาน

ขอขอบคุณเว็บพุทธวงศ์ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล

 

แจ้งยอดพระที่ทางทุนนิธิฯจะถวายอาหารวันอาทิตย์ที่27เมษายน ณ โรงพยาบาลสงฆ์ จำนวน 160 รูป โดยทางทุนนิธิฯจะเตรียมอาหารคาวไว้ ส่วนท่านที่จิตศรัทธาจะนำของมาร่วมก็เป็นพวก อาหารหวาน ผลไม้ และ น้ำดื่ม โดยจุดนัดพบคือบริเวณโรงอาหาร เวลาประมาณ7.00-7.30น. เดินไปจะเห็นถุงอาหารจำนวนมากเรียงรายอยู่ ก็เข้าไปร่วมทักทายกันได้เลยครับ สายบุญเดียวกันทั้งนั้น

หลังจากถวายอาหารและบริจาคเงินให้กับทางโรงพยาบาลสงฆ์แล้ว ยังมีพระกรุโลกอุดรพิมพ์ต่างๆแจกให้กับทุกท่านที่เสียสละเวลามาช่วยสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ ให้กับไปเป็นพุทธานุสติระลึกถึงบุญที่ทำ ทุกทีที่เห็นพระครับ

โมทนา สาธุ สาธุ สาธุ

 

พบกันวันที่ 27 เม.ย. 51 ครับ

 

ขอขอบคุณโตๆ ครับ
สาธุ สาธุ สาธุ ครับ

และการปฏิบัติด้วยใจ
จะให้เรารู้ใจ
รู้ว่าเราทำอะไร
รู้ว่าเราสุขใจ
รู้ว่าเราไม่เคลือบแคลงใจ
เพราะเราถามตัวเรา
เพราะถามใจเรา
เพราะหาทางให้เห็นตรง เห็นจริง
เพราะใจปฏิบัติ

สาธุครับ

 

ปล่อยวาง
สิ่งที่ล่วงไปแล้ว . . . ไม่ควรทำความผูกพัน
เพราะเป็นสิ่งที่ล่วงไปแล้วอย่างแท้จริง
แม้กระทำความผูกพันและหมายมั่นให้สิ่งนั้น
กลับมาเป็นปัจจุบันก็เป็นไปไม่ได้
ผู้ทำความสำคัญมั่นหมายนั้นเป็นทุกข์แต่ผู้เดียว
โดยความไม่สมหวังตลอดไป . . .
อนาคต ที่ยังมาไม่ถึงนั้น เป็นสิ่งไม่ควรไปยึดเหนี่ยวเกี่ยวข้องเช่นกัน
อดีต . . . ปล่อยไว้ตามอดีต
อนาคต . . . ปล่อยไว้ตามกาลของมัน
ปัจจุบันเท่านั้นจะสำเร็จประโยชน์ได้
เพราะอยู่ในฐานะที่ควรทำได้ไม่สุดวิสัย


หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ที่มา >>ClickHere<<

 

วาสนา

วาสนานั้นเป็นไปตามอัธยาศัย คนที่มีวาสนาในทางที่ดีมาแล้ว แต่คบคนพาล วาสนาก็อาจเป็นเหมือนคนพาลได้
บางคนวาสนายังอ่อน เมื่อคบบัณฑิต(ผู้มีปัญญาและประพฤติดี) วาสนาก็เลื่อนขั้นขึ้นเป็นบัณฑิต
ฉะนั้นบุคคลควรพยายามคบแต่บัณฑิตเพื่อเลื่อนภูมิวาสนาของตนให้สูงขึ้น

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ที่มา >>ClickHere<<
<!-- / message --><!-- sig -->

 

ในนามผมและครอบครัวขอร่วมทำบุญเพื่อสงเคราะห์สงฆ์อาพาธเป็นเงิน 200 บาท โอนเข้าบัญชี ศ.ทุนนิธิแล้ว เมื่อประมาณบ่าย 2 เศษ

โมทนาสาธุครับ<!-- / message --><!-- sig -->

 

วันนี้ (24/05) ได้โอนเงินจำนวน 1000 บาท เข้าร่วมทำ​บุญเพื่อสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ​ครับ เวลา 14.44 น.

โมทนาสาธุครับ

 

พรุ่งนี้จะเริ่มจัดส่งพระกรุโลกอุดร ให้กับท่านที่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่วางไว้คือ ที่ผ่านมาทำบุญกับทุนนิธิฯอย่างน้อยสองครั้ง โดยท่านใดยังไม่ได้โอนเงินช่วยค่าส่ง50บาท ผมก็จะส่งพระให้ก่อนแล้วถ้าท่านว่างๆก็ค่อยโอนให้ก็ได้ครับ เงินที่เหลือจากการจัดส่งก็จะนำเข้าทำบุญในทุนนิธิฯเช่นกัน ส่วนท่านที่ทำบุญมารวมทั้งขอพระ แต่ยังไม่ได้ครบสองครั้งก็จะเก็บพระรอท่าน เพราะกฏนี้รองประธานที่ปรึกษาทุนนิธิฯ(พี่ใหญ่) เป็นผู้สั่งไว้เราก็ว่าตามนั้น ทำบุญก็บุญท่าน น้อยมากก็บุญท่าน เราเพียงเป็นผู้ดูแลให้เงินท่านเปลี่ยนเป็นบุญให้มากสุด ไม่อยากให้ติดกับการซื้อพระแลกบุญ หรือ ซื้อบุญแลกพระ และ ไม่อยากให้ติดในฤทธิ์มากกว่าติดในบุญครับ

เพราะไม่มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ใดเสมอ บุญฤทธิ์

 

ด้วยในปัจจุบันพระภิกษุสงฆ์อาพาธตามโรงพยาบาลต่างๆ เช่น รพ.สงฆ์ ยังคงมีอยู่เป็นจำนวนมาก พระสงฆ์เหล่านี้ล้วนเป็นเนื้อนาบุญของเรา ดังคำกล่าวที่ว่า"ผู้ใดปราถนาจะอุปปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นพึงกำหนดรักษาภิกษุป่วยไข้" ด้วยเหตุและปัจจัยแห่งเนื้อนาบุญอันมีอานิสงส์ที่ประมาณมิได้นี้ ประกอบกับเป็นการเชิดชูครูอาจารย็ที่ได้อบรมความรู้ และถ่ายทอดประสบการณ์ในเรื่องอภิญญาจิต และความรู้เรื่องพระพิมพ์สกุล วัดพระแก้ววังหน้า พระพิมพ์สกุลบรมครูเทพโลกอุดรของ ท่าน อ.ประถม อาจสาคร กระผมและคณะจึงได้ก่อตั้งกองทุนขึ้นมาในรูปแบบของทุนนิธิ เพื่อรวบรวมเงินบริจาคที่จะได้มานำไปบริจาคให้หรือรักษาไข้แก่พระภิกษุสงฆ์อาพาธที่ยากไร้ ตามโรงพยาบาลต่างๆ หรือบำรุงศาสนกิจที่จำเป็นตามที่คณะกรรมการของกองทุนจะได้พิจารณาขึ้น ดังนั้น กระผมและคณะจึงใคร่ขอเชิญชวนทุกท่านที่ได้อ่านกระทู้นี้ ได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือพุทธศาสนา ด้านการรักษาสงฆ์ หรือศาสนกิจอื่นๆ โดยการบริจาคเข้า บัญชี "ศ. ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร" (pratom foundation) บัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาถนนวิภาวดีรังสิต (ซันทาวเวอร์ส) บัญชีออมทรัพย์ หมายเลข 348-1-23245-9
<!-- / message --><!-- attachments -->

• <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
  </FIELDSET>
  ในวันที่อาทิตย์ที่27นี้ ทางคณะทุนนิธิฯ จะทำการถวายอาหารเช้าพระสงฆ์จำนวนประมาณ 160 รูป และบริจาคเงินบำรุงโรงพยาบาลสงฆ์ช่วยซื้อเลือดและเวชภัณฑ์ต่างๆ ท่านใดมีจิตศรัทธายังมีเวลาทำบุญใหญ่นี้ โดยบริจาคมายังบัญชีข้างบน หรือมาร่วมกันถวายด้วยตัวเองกับทางคณะทุนนิธิฯ อีกทั้งยังได้ร่วมกันทำบุญกับ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสุวรรณฯ ที่มาพักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสงฆ์