ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างอาคารวิริยะชัย ร่วมกับพระธรรมมงคลญาณ (ชมภาพความคืบหน้า น.34)

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย Ramtongthai, 27 พฤษภาคม 2013.

  1. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    องค์หลวงตาท่านปรารภถึงสมเด็จพระนางเจ้าฯ
    เมื่อวันที่ ๔ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๐

    "สมเด็จพระนางเจ้า ฯ ท่านก็เสด็จมาเยี่ยม ได้เห็นหรือเปล่าวันนั้น ดูเหมือนคืนวันที่ ๓๑ ท่านเสด็จมาเฉพาะพระองค์เดียว เสด็จมาอยู่ไม่นาน ๓๐ นาทีท่านมา พระอาการทุกสัดทุกส่วน กิริยามารยาทการกราบการไหว้การเคารพนี้ แหม นิ่มมากเชียวนะ คราวนี้รู้สึกว่าสุดยอดเลยนะ ทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนท่านก็สวยงามมากนะ พระอาการทุกส่วนเวลากราบเวลาไหว้อะไรเรานี่เราก็ว่าสวยงามมากเลย ได้ชมเต็มที่แล้ว คราวนี้เลยล้นฝั่งไปเลย พระอาการของท่านนิ่มมากเชียว จะรับสั่งแต่ละคำละประโยคนี้ต้องประนมมือตลอด ๆ ท่านก็มาเล่าเรื่องลูกสาวให้ฟัง ว่าลูกสาวรู้สึกว่าได้กำลังขึ้นมากมาย ได้กำลังใจสำคัญ ส่วนร่างกายก็เข้มแข็งไปตามๆ กัน แล้วก็มาขอขอบบุญขอบคุณเรา เป็นวาสนาของเขา ท่านรับสั่งว่าเป็นวาสนาของเขาที่ได้มาพบครูบาอาจารย์ว่างั้น"

    และหลวงตาปรารภถึงสมเด็จพระนางเจ้าฯ
    เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๘

    "เรากับสมเด็จพระเทพฯกับฟ้าชายไม่ค่อยได้คุยกันสนทนากัน สมเด็จพระนางเจ้าเสียอีกที่ได้คุยกันมากที่สุด ท่านนิมนต์ให้เราไปศิริราช หม่อมแม่ท่านหม่อมบัวมารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช แล้วท่านนิมนต์เราไป สมเด็จพระนางเจ้านิมนต์ให้เราไปเยี่ยม ท่านนิมนต์ไปฉันที่ศิริราช นั่นละที่ได้คุยกันนาน เราเริ่มช่วยชาติใหม่ๆ ปี ๔๑ ตอนที่เราไปศิริราชนั้นเราเริ่มช่วยชาติแล้ว ก็มีเกี่ยวโยงกันอยู่ ท่านรับสั่งมามันเกี่ยวโยงกับที่เราช่วยชาติ พอระลึกได้บ้าง มันเกี่ยวกัน นั่นละคุยกันนานจริงๆ สมเด็จพระนางเจ้ากับฟ้าหญิงเล็ก คุยกันนาน"

    ที่มา https://www.facebook.com/watpabaantaad.luangta?fref=ts
     
  2. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    "...บิดามารดาเป็นผู้สำคัญ เป็นผู้ให้กำเนิดขึ้นมาด้วย เป็นผู้เลี้ยงดูเราด้วย เป็นผู้แนะนำสั่งสอนเรามาก่อนใครๆ ด้วย ไม่มีผู้ใดจะเลี้ยงดูและทะนุถนอมเราด้วยความบริสุทธิ์ใจ ด้วยความสงสารเมตตา ด้วยความบริสุทธิ์ใจยิ่งกว่าพ่อกับแม่ การสงเคราะห์สงหาลูกเต้าแต่ละคนๆ นับตั้งแต่วันอยู่ในท้อง ยาบำรุงครรภ์ก็ต้องมี ยาบำรุงครรภ์ไม่มีเกิดขึ้นมาเฉยๆ ต้องมีสมบัติเงินตราไปซื้อหามา ฐานะพ่อแม่แต่ละคนก็ไม่เสมอกัน มีจนบ้าง มีบ้าง บางรายจนจริงๆ แต่อย่างไรก็ตาม การขวนขวายด้วยวิธีต่างๆ เพื่อลูกของตนนั้นย่อมไม่มีบกบางโดยทางน้ำใจ พยายามเลี้ยงดูสงเคราะห์สงหาด้วยความรักความเมตตาจริงๆ เพราะฉะนั้นลูกทุกคนจึงต้องเห็นบุญเห็นคุณของคุณพ่อคุณแม่ บูชาคุณของคุณพ่อคุณแม่ เคารพพ่อแม่ เคารพครู เคารพอาจารย์ ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้มีบุญมีคุณแก่ตนมาแล้วทั้งนั้น..."

    โอวาทธรรม หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน

    ที่มา facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว-ญาณสมฺปนฺโน-ภูผาแดงฯ
     
  3. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    " ลูกคนหนึ่งๆ นี้พ่อแม่เสียไปเท่าไร บอบช้ำเท่าไร ลูกคนหนึ่งๆ เหล่านี้ ลูกเหล่านี้มีพ่อมีแม่ทั้งนั้น พ่อแม่เลี้ยงดูรับรอง เป็นบ๋อยกลางบ้านกลางเรือนมาตั้งแต่วันตกคลอดออกมา เราจะมาเย่อหยิ่งจองหองไม่ได้นะพ่อแม่เลี้ยงดูขวนขวายมามีเท่าไรๆ ขนมาหมด พอเริ่มจะเข้าอนุบาล เครื่องที่จะไปเรียนอนุบาลมีอะไรบ้าง นั่นพ่อแม่หาแล้วนะ จากนั้นก็ก้าวขึ้นสู่ประถม มัธยม ยิ่งสูงเท่าไรยิ่งเป็นปอบตัวใหญ่ กินตับปอดพ่อแม่ มีเท่าไรไม่พอๆ พ่อแม่เลยจะตาย มีลูกหลายคนเท่าไรเรียกว่ามีปอบหลายตัว กินตับกินปอดพ่อแม่ พ่อแม่เลยจะตาย เราละโอ่อ่าๆ ไปโรงร่ำโรงเรียนอวดเพื่อนอวดฝูง พ่อแม่ผู้เป็นบ๋อยกลางเรือนไม่ได้ดูซิ จะตายนะ ให้เห็นอกเห็นใจพ่อแม่ เรียนมาแล้วให้ปฏิบัติหน้าที่ตามความมุ่งหมายที่ไปเรียนมา หน้าที่การงานจะเป็นผลเป็นประโยชน์
    ให้เชื่อฟังพ่อแม่นะ ลูกที่ฝ่าฝืนพ่อแม่ไม่เจริญ ไม่มีใครเจริญ ลูกที่ฝ่าฝืนพ่อแม่ ดูถูกเหยียดหยามพ่อแม่ หาว่าเป็นคนทุกข์คนจนอย่างนี้ เช่นเพื่อนเขาเป็นลูกเศรษฐีกุฎุมพีมีหน้ามีตา พ่อแม่ของเราเป็นคนทุกข์คนจน แล้วใครเลี้ยงเรามา นั่นเอาตรงนี้ซิ เศรษฐีเขามาเลี้ยงเราไหม พ่อแม่ที่ทุกข์ๆ จนๆ ตะเกียกตะกายเลี้ยงลูกมาจนใหญ่โตเหมือนบ้านเหมือนเมืองเขา ไปดูถูกพ่อแม่ไม่ได้นะ นี่ละยิ่งมีคุณค่ามาก ได้เห็นคุณของพ่อของแม่มาก
    เวลาทุกข์เวลาจน จนจริงๆ นะพ่อแม่ ไม่ทราบจะดึงใส่ลูกคนไหนๆ บ้าง หาแทบเป็นแทบตาย ไอ้เรามีแต่โอ่อ่าฟู่ฟ่า สนุกเฮฮาจนลืมเนื้อลืมตัวเสียผู้เสียคนไปก็เยอะในวัยเรียนนะ แทนที่จะเป็นวัยเรียนมันกลายเป็นวัยเล่น วัยโกโรโกโสไปเสีย เลยเสียคนทั้งคนไม่เกิดประโยชน์อะไร ความมุ่งหวังของพ่อแม่และการเลี้ยงดูของพ่อแม่มาตั้งแต่อ้อนแต่ออก จนกระทั่งถึงความเสียคนทั้งคนในลูกแต่ละคนๆ นี้เป็นยังไง พ่อแม่อกจะแตกไปแล้วนะนั่น ให้ฟังเสียงพ่อแม่ อย่างไรอย่าลืม พ่อแม่เป็นสำคัญ ลูกมีพ่อมีแม่ให้ฟังเสียงพ่อเสียงแม่ ลูกศิษย์มีครูมีอาจารย์ให้ฟังเสียงครูเสียงอาจารย์ ถ้าไม่ฟังเสียงครูเสียงอาจารย์คนนั้นเตลิดเปิดเปิง ลงเหวตกบ่อไปเลย ไม่มีความดีละ จำให้ดีนะ "

    โอวาทธรรม หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน

    ที่มา facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว-ญาณสมฺปนฺโน-ภูผาแดงฯ
     
  4. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ธรรมะกัณฑ์สุดท้ายของหลวงตา

    หลวงตา นี่ก็เข้าใกล้แล้ว ใกล้ ๑๐๐ แล้วนะ อายุ อายุเราเท่าไหร่
    พระ ๙๘ ครับผม
    หลวงตา นั่นแล้ว เกือบร้อยแล้ว ๙๘ อยู่ไปอีกเท่าไหร่ มันก็ไปเท่านั้นแหละ ไปไม่ไป เราไม่ว่าหรอกเรา พูดเฉยๆ นะ เป็นกันเองอย่างนี่แหละ เราเป็นโอกาสจะพูด พูดเสียบ้าง ธรรมดาไม่เคยพูดหรอกเรื่องแบบนี้ เรื่องจะไปจะอยู่ เราไม่มีอาลัยไปไหนนะ เราหมดห่วงหมดใยทุกอย่าง ได้ไป เราตัดขาดหมดเลย ไม่มีอะไรเหลือเลย เป็นจิตที่ว่าง จิตว่าง กิเลสว่าง ทุกอย่าง นี่แหละธรรม ธรรมว่างไปแบบนี้ นี่อายุ ๙๐ เท่าไรนะ
    พระ ๙๘ ครับผม
    หลวงตา นี่ ๙๘ ย่างเข้ามานี่ มันก็ใกล้แล้วนะนี่ ใกล้จะไป ไปก็ไป เราไม่กลัวไม่กล้านะ เฉยๆ อยู่ มันได้ธรรมมาเต็มหัวใจทุกอย่าง บำเพ็ญธรรมจนเต็มหัวใจแล้ว หายห่วงเลย ยังมีแต่ร่างกายโซซัดโซเซ มันจะไปเมื่อไหร่ก็ไปเท่านั้นแหละ ไม่ไปก็อยู่อย่างนี้แหละ ความห่วงความใยอะไร ไม่มี หมดเลย เป็นอย่างสะดวกสบายละ ทิ้งปุ๊บไปเลย พูดให้มันชัดๆ อย่างนี้แหละ ผมไม่เคยพูดหรอก คำพูดแบบนี้ สุ่มสี่สุ่มห้าจะพูดได้เหรอ พวกเปรตพวกผีมันคอยจะหาบเอากองฟืนกองไฟเหล่านี้หมด พูดอย่างนี้เป็นธรรม พวกเปรตพวกผีมันไม่เห็นด้วยนะ มันหาว่าโอ้ว่าอวดไปอย่างนั้น ไม่เป็นประโยชน์กับพวกเปรตพวกผีหรอก เป็นประโยชน์แต่ผู้เป็นอรรถเป็นธรรมนั่นแหละ นี่พูดเฉยๆ หมดแล้วนะนี่ หมดทุกอย่างแล้ว กิเลสกับจิตก็หมด ภพชาติก็หมดในชาตินี้เท่านั้น ไม่มีอีกต่อไปอีกแหละ พูดให้ฟังชัดๆ เสียเลยนะ เราปฏิบัติมานานขนาดไหน เราเอาจริงเอาจังทุกอย่างนะ เอาจริงเอาจังมันก็เห็นจริงเห็นจังซิ ไม่มีที่สงสัยเลยแหละ พอลมหายใจขาดแล้วดีดเลย จบเลย ไม่ต้องเสาะแสวงหาป่าช้าที่ไหนอีกแหละ มันหามาพอแล้ว ป่าช้าที่เกิดที่ตาย ทีนี้ไม่หาแล้ว ต่อไปนี้ไม่หาแล้ว มันพอแล้วนี่ บำเพ็ญมาก็เต็มกำลังความสามารถแล้ว เอาจริงเอาจังนี่ การบำเพ็ญธรรมเพื่อละกิเลสนี้ นี้จริงจังมากทีเดียว เอาจนกิเลสขาดสะบั้น เห็นประจักษ์ในใจนี้ อยู่...! ทีนี้ อยู่แบบหายห่วง แบบหมดงาน จะมีงานไหนทำอีกต่อไปไม่มี หมดแล้วงาน... พูดกับหมู่เพื่อนอย่างนี้เลยว่างงานแล้ว จิตใจที่สิ้นกิเลสแล้วว่างหมดงาน ตลอดตั้งกัปตั้งกัลป์นานเท่าไหร่โดยแท้จริง ว่างอยู่อย่างอย่างนั้นแหละ ตั้งแต่วันนิพพานเที่ยงนั่นแหละ......

    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
    เทศน์อบรมฆราวาส ณ กุฏิรับรอง วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร
    วันที่ ๑๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓ (เที่ยง)

    ที่มา facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว-ญาณสมฺปนฺโน-ภูผาแดงฯ
     
  5. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    "พระพุทธเจ้าท่านมีแต่บอกแนวทางเท่านั้นเอง ความพากความเพียร มีแต่พวกเราเท่านั้นที่ต้องทำเอาเองหมด"

    หลวงปู่ลี กุสลธโร


    ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น
     
  6. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    เทศน์อบรมคณะแม่ทัพภาค ๒ ณ วัดป่าบ้านตาด
    เมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐
    เรื่อง "พุทโธเข้าได้ทุกศาสนา"

    "ดีแล้ววันนี้ลูกหลานมาเยี่ยม ไปอย่าลืมพุทโธนะ ไปไหน เราเป็นลูกชาวพุทธ ชาวไหนก็ตามพุทโธเป็นเลิศ ศูนย์กลางของสัตว์โลก ไม่ว่าใครจะถือศาสนาใดๆ พุทโธนี้คือองค์ธรรมทั้งแท่งที่โลกปรารถนา ศาสนาใดก็ไม่เหนือคำว่าธรรม ถือธรรมเป็นใหญ่ด้วยกันทั้งหมด พุทโธนี่เข้าเป็นอันเดียวกันกับธรรม ใครจะถือศาสนาใดก็ตาม คำว่าพุทโธนี้คำเดียว เป็นธรรมหมดเข้าได้ทุกศาสนา ให้พากันระลึกถึงเสมอ"

    ที่มา https://www.facebook.com/watpabaantaad.luangta?fref=ts
     
  7. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    บุญอะไรจะไปดีเท่าการทำสมาธินี่ไม่มีอีกแล้ว
    ถ้าใครยังไม่ได้นั่งสมาธิก็นั่งสมาธิซะ
    ถ้านั่งไม่เป็นก็มาเรียนที่สถาบันพลังจิตตานุภาพที่นี่เปิดโอกาสให้ทุกคนมาเรียน
    There are no greater meritorious deeds than meditation.
    Those who haven't tried should start it right away.
    If you don't know how to meditate, at Will Power Institute, everyone is very welcomed to learn.
    ธรรมรุ่งอรุณ เล่ม 4 หน้า 204
    From the Morning Preach Volume 4 Page 204

    ที่มา facebook.com/Willpower-Institute-หลวงพ่อวิริยังค์-สิรินฺธโร
     
  8. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    โยม ท่านคะ ผู้หญิงจะขึ้นเป็นถึงพระอรหันต์ได้ไหมคะ

    หลวงตา ผู้หญิงผู้ชายมันขึ้นไม่ได้ละ ใจต่างหากขึ้น ผู้หญิงมีใจผู้ชายมีใจแล้วขึ้นได้ทั้งนั้น ขอให้กิเลสสิ้นไปด้วยความเพียรของเราเถอะ มีความเพียรเป็นหลักตั้ง ความเพียรนี้แหละจะเป็นกุญแจเปิดตู้มรรคผลนิพพาน เราอย่าเอาเพศมาเปิด เอาเพศมาเปิดแล้วติดเพศไปไม่รอดนะ ถ้าว่าเพศพระก็ว่าเราเป็นพระใครก็นับถือ นอนกินก็ได้ นั่งกินก็ได้ นอนใจ อันนี้ตัวขี้เกียจใหญ่ ตัวกิเลสตู้กิเลสอยู่ในนั้นแหละ แม้แต่หลวงตาบัวคุยโว้ ๆ อยู่นี่ก็ไม่เห็นดีอะไร ถ้าขี้เกียจเสียอย่างเดียวไม่เป็นท่า เรื่องกินแล้วขยันยิ่งกว่าลิง ใช้ไม่ได้อย่างนั้น การประกอบความเพียรให้เร็วให้คล่องตัว สติปัญญาให้คล่องตัวนั้นละกิเลสจะกลัว

    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
    จากหนังสือ คำถาม คำตอบปัญหาธรรม

    ที่มา facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว-ญาณสมฺปนฺโน-ภูผาแดงฯ
     
  9. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    เป็นพระป่า สงบกว่า เป็นพระเมือง
    ไม่มีเรื่อง แบกพรรค แบกศักดิ์ศรี
    ไม่ต้องสวม หน้ากาก ผู้มากดี
    มันเกิดฟรี ขึ้นมาเอง เก่งในตัวฯ
    จะนั่งนอน ยืนเดิน ไม่เขินขัด
    ไม่มีใคร คอยวัด ว่าดีชั่ว
    ไม่มีเรื่อง ยั่วเย้า ให้เมามัว
    จึงเย็นตัว เย็นใจ ไม่ขึ้นลง ฯ

    พุทธทาส อินทปัญโญ

    ที่มา https://www.facebook.com/Thammaphormaekruarjahn?fref=ts
     
  10. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    การเบื่องานย่อมมีด้วยกัน แต่ก็จำต้องฝืนความเบื่อนั้น ๆ เพื่อความเป็นอยู่จะได้ราบรื่นชื่นใจ ไม่ขัดสนจนใจเวลาจำเป็น แม้แต่พระท่านเป็นนักบวชมีงานบำเพ็ญกุศลโดยถ่ายเดียว ไม่มีงานทางโลกที่ต้องวิ่งเต้นขวนขวายเหมือนฆราวาส ท่านก็ยังมีความขี้เกียจบำเพ็ญกุศลสมาธิภาวนาเหมือนผู้ทำงานทางโลก ถ้าตัวขี้เกียจไม่จับท่านมัดติดเสื่อติดหมอนท่านคงไปได้ไกลลิบ แต่นี้ก็ไปถึงแต่เสื่อกับหมอน ไม่อาจเลยไปกว่านั้นถึงมรรคผลนิพพานได้ อย่างไรก็ตามท่านก็ยังอุตส่าห์ฝืนใจบำเพ็ญ ฉะนั้นการฝืนใจในทางถูกทางดีจึงควรฝืน เพราะเรายังอาศัยโลกธาตุขันธ์อยู่ จึงจำต้องฝืนใจทำแม้จะเบื่อ ๆ ก็ตาม

    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
    จากหนังสือ เมตตาธรรม

    ที่มา facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว-ญาณสมฺปนฺโน-ภูผาแดงฯ
     
  11. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ให้พากันสนใจในอรรถในธรรม อย่างน้อยเป็นคู่เคียงกันไปกับทางลบที่เพลิดเพลินไม่รู้จักเป็นจักตาย ให้เอาป่าช้าไปสกัดรัดกั้นมันบ้าง ว่าสัตว์ทุกตัวมีป่าช้าด้วยกัน ไม่ใช่มีแต่มนุษย์ มนุษย์ไม่เห็นป่าช้า ให้มีป่าช้าความเกิดความตายความแปรสภาพเป็นภาพเตือนใจเราเสมอเพื่อที่จะก้าวเดิน ให้จิตใจได้รับการอบรมถูกคำเตือนจากธรรมเสมอ เรื่องความแก่เจ็บตาย ความพลัดพรากจากกัน เป็นของไม่ดีโลกไม่ต้องการ แต่เจอกันเป็นประจำ

    พิจารณานี้เป็นหินลับปัญญา ให้พิจารณาตัวเองให้มีทางเดินไปบ้าง มาก็หลับตามาเกิด อาศัยกรรมดึงไป กรรมดี-กรรมชั่วดึงไป ถ้ากรรมชั่วก็ดึงลง ถ้ากรรมดีก็ดึงขึ้นๆ จิตเรานี้มันเหมือนฟุตบอล เตะไปทางไหนก็ได้ทั้งนั้นแล้วแต่บุญบาปจะส่งไปทางไหน ไม่ใช่มาเกิดตามลำพัง อำนาจแห่งกรรมดี-กรรมชั่วติดมาด้วยทุกคน เกิดมาถ้ามีกรรมดีพามาเกิดก็มาเกิดในสถานที่ดีคติที่เหมาะสม ถ้ากรรมชั่วพามาเกิดก็ไปเกิดในที่ไม่พึงปรารถนา

    ให้พากันระมัดระวัง เวลานี้เป็นเวลาที่มีชีวิตอยู่ คิดได้อ่านได้ทุกอย่างทางดีทางชั่ว ให้แก้ไขดัดแปลงตัวเอง จะไปดัดแปลงเอาเวลาตายแล้วไปเคาะโลงโป้กๆ รับศีลนะ บอกพ่อบอกแม่รับศีลรับทาน ตัวเองไม่สนใจกับศีลกับทานอะไรเลย ตายแล้วก็หลับตาตายไป หาความสว่างติดตัวไม่มี ใช้ไม่ได้นะ ให้จิตมีธรรมไปสว่างกระจ่างแจ้งไป จิตมีธรรมกับไม่มีธรรมต่างกัน อยู่ก็อยู่ด้วยความมืด ตายแล้วจะไปเกิดที่ไหนๆ อันนี้เพราะมันอยู่ในฐานะแห่งความเกิดสำหรับสัตว์โลกที่มีกิเลส เกิดวันยังค่ำ ตายได้ตลอดเวลา

    นี่ให้พิจารณาเรื่องความเกิดตายของตัวเอง ทุกคนตายได้ด้วยกันทั้งนั้น ส่วนจิตนั้นไม่ตายนะ จิตนี้ไม่มีตาย ถ้าถึงสุดยอดแล้วเป็นธรรมธาตุ เช่นจิตพระพุทธเจ้า-จิตพระอรหันต์เป็นจิตธรรมธาตุนะ ธรรมธาตุเลิศเลอสุดยอดแล้ว ไม่มีที่ต้องติ จิตของเราเต็มไปด้วยความมัวหมองมืดตื้อ เวลาไปเกิดก็หลับตาไป ไปเกิดที่ไหนตายที่ไหนหลับตามันไม่เห็น ไปเกิดแต่สิ่งไม่พึงปรารถนานั้นแหละ

    ให้พากันสร้างใจอบรมใจ ให้ระงับดับใจให้อยู่กับบทธรรมบ้าง เช่นอย่างนั่งภาวนาให้จิตอยู่กับพุทโธเป็นต้นนะ เราจะชอบคำบริกรรมคำใดก็ได้ เช่นพุทโธก็ได้ ธัมโมก็ได้ สังโฆก็ได้ หรือมรณัสสติก็ได้ ระลึกถึงความตายเป็นเครื่องเตือนใจ ให้รู้ทางเข้าทางออกทางไปมาทางเกิดทางตายของตน เวลานี้มันไม่รู้มาเกิดก็กรรมมืดตื้อนั่นละผลักไสให้มาเกิด ตายก็ตายไปด้วยความมืดตื้อ ไม่ดีเลย นี่อยู่ด้วยความอบรม ยิ่งเรามามีพุทธศาสนาเป็นแก้วส่องทางด้วยแล้ว ควรจะนำพุทธศาสนาคืออรรถธรรมมาเป็นเครื่องกำกับใจ ถ้าไม่มีอะไรเป็นเครื่องกำกับใจแล้วใจมักจะไหลลงทางต่ำเสมอ ให้พากันอบรมนะ

    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
    เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
    เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารีทรงเข้ากราบนมัสการหลวงตา
    เมื่อเช้าวันที่ ๒๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๒
     
  12. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ที่มา facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว-ญาณสมฺปนฺโน-ภูผาแดงฯ
     
  13. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ธรรมะ คำสอน พ่อแม่ครูอาจารย์องค์หลวงตามหาบัว

    "จะพิจารณาไปในวัตถุสิ่งใดก็ตามในโลกนี้ มันเต็มอยู่ด้วยกองอนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา หาความจีรังถาวรไม่ได้ อาศัยสิ่งใดสิ่งนั้นก็จะพังลงไป วัตถุสิ่งใดก็ตาม ขึ้นชื่อว่ามีอยู่ในโลกนี้ล้วนแล้วแต่สิ่งที่จะต้องพังทลาย เขาไม่พังเราก็พัง"

    Luangta.Com -

    ที่มา facebook.com/หลวงตามหาบัว-ญาณสัมปันโน-วัดป่าบ้านตาด
     
  14. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    วันนี้ วันพระ ข้าพเจ้าขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โปรดคุ้มครองทุกๆท่าน ให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขด้วยเทอญ 21/8/2556
     
  15. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    "พวกร้อนภายในไม่มีความเย็นเลย ก็เรียกว่าชีวิตมนุษย์กั้นเอาไว้ กั้นกำแพงนรกไม่ให้เห็นชัดเจน ให้เห็นแต่อยู่ภายในใจที่เผาอยู่ขณะมีชีวิตอยู่กับมนุษย์นี้เท่านั้น พอชีวิตมนุษย์ขาดสะบั้นลงไป กำแพงของนรกอเวจีจะเปิดจ้าขึ้นเลยในภพของผี ภพของมนุษย์นี้เอาลมหายใจกั้นเอาไว้ไม่ให้เห็น"

    เทศน์หลวงตาเมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔
    เรื่อง "ลมหายใจกั้นกำแพงนรก"

    "พวกที่กินบ้านกินเมือง มีแต่ความโลภ ความอยาก ความทะเยอทะยาน ไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยนี้ กินกลืนเอาตับเอาปอดของคนทั้งชาติ ที่เขาสละลงไปเพื่อชาติบ้านเมืองเป็นภาษีอากรต่าง ๆ เข้าไปสู่บ้านเมือง พวกนี้มีแต่กินอย่างลืมเนื้อลืมตัว กินเข้าไปกลืนเข้าไป มีแต่เหล็กแดง ๆ กลืนเข้าไปกินเข้าไป เขาไม่เห็นก็โอ่อ่าละซี ภายนอกโอ่อ่าแต่ภายในไม่ได้โอ่อ่านะ เอาธรรมจับเข้าไปซิ ธรรมไม่มีที่ลับที่แจ้งเหมือนกับกิเลส กิเลสก็ไม่มีที่ลับที่แจ้ง อยู่ไหนร้อนได้หมดทำชั่ว ทีนี้ธรรมอยู่ที่ไหนเย็นได้หมด แล้วมองเห็นได้ชัดเจน ๆ นั่นละพระพุทธเจ้าท่านมองกิเลส เพราะฉะนั้นจึงแก้กิเลสได้ ฆ่ากิเลสได้

    พวกที่ลืมเนื้อลืมตัวนี้มันมีแต่ลมหายใจฝอด ๆ เท่านั้นนะ มันไม่ได้มีอะไรติดเนื้อติดตัวของมันพอจะเป็นที่พึ่ง ทั้ง ๆ ที่สิ่งเหล่านี้มันภูมิใจว่าเป็นที่พึ่ง ในขณะที่มีลมหายใจนี้มันภูมิใจว่าได้สิ่งนั้นสิ่งนี้มา อันนั้นก็ได้อันนี้ก็ได้ ยศถาบรรดาศักดิ์ก็ได้ เงินทองข้าวของก็ได้ จะกอบจะโกยเอากับใคร กับตับใครปอดใครก็ได้ ๆ ได้ก็ตามนะ ได้ทั้งหมดนี้เป็นไฟเหล็กแดงเข้าไปเผาอยู่ภายในจิตใจ จะอยู่ที่ลับที่แจ้งก็เอาเถอะ ไปอยู่คนเดียวก็เป็น ไม่มีใครนั่นละมันยิ่งแสดง เวลาอยู่กับเพื่อนกับฝูงก็อาศัยเพื่อนฝูงบริษัทบริวารแห่ห้อมล้อมกันไปแบบโลกกิเลสนั่นแหละ เจ้าของก็ภูมิใจว่ามีบริษัทบริวาร มีอำนาจวาสนามาก ภูมิใจได้ชั่วระยะนี้นะ พอบริษัทบริวารห่างเหินไปแล้ว ไฟมันจะแสดงตัวขึ้นมาให้เห็นชัดเจน แล้วก็ร้อนอยู่ภายใน ๆ

    พวกนี้พวกร้อนภายในไม่มีความเย็นเลย ก็เรียกว่าชีวิตมนุษย์กั้นเอาไว้ กั้นกำแพงนรกไม่ให้เห็นชัดเจน ให้เห็นแต่อยู่ภายในใจที่เผาอยู่ขณะมีชีวิตอยู่กับมนุษย์นี้เท่านั้น พอชีวิตมนุษย์ขาดสะบั้นลงไป กำแพงของนรกอเวจีจะเปิดจ้าขึ้นเลยในภพของผี ภพของมนุษย์นี้เอาลมหายใจกั้นเอาไว้ไม่ให้เห็น เพราะฉะนั้นมันถึงกล้าปฏิเสธที่ว่าบาปบุญนรกสวรรค์ไม่มี เพราะลมหายใจกั้นเอาไว้ไม่ให้เห็น พอลมหายใจซึ่งเป็นภูมิของมนุษย์ขาดสะบั้นลงไปนี้ กำแพงแห่งเมืองผีนรกอเวจีจะจ้าขึ้นมาทันทีเลย รับกันไปเลย หมดไม่มีอะไรเหลือเลย ให้จำเอาไว้นะพี่น้องทั้งหลาย"

    ที่มา https://www.facebook.com/watpabaantaad.luangta?fref=ts
     
  16. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    "พอท่านปัญญาตายก็เลยไปลาลูกศิษย์ ลูกศิษย์พอได้ยินเสียงโครมครามก็เลยเป็นบ้า อย่างนั้นแหละจิตวิญญาณเห็นไหม เรื่องจิตวิญญาณแสดงได้ทุกแบบเพราะอันนี้ไม่เคยตาย แสดงได้ทุกแบบ เป็นอายตนะสมบูรณ์ของตัวเอง"

    เทศน์หลวงตา ณ ศาลาใหญ๋วัดป่าบ้านตาด
    เนื่องในพิธีบำเพ็ญกุศลถวายเพลิงศพ พระอาจารย์ปัญญา
    (พระปีเตอร์ เจ มอแกน ปัญญาวัฒโฑ) รองเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด (ในขณะนั้น)
    เมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
    เรื่อง จิตวิญญาณแสดงตัว

    "เอ๊ ท่านปัญญาเสียทางนี้เวลาทางอังกฤษเป็นเวลาเท่าไร คือท่านปัญญาเสียทางนี้แล้วก็ไปกระตุกลูกศิษย์ที่เมืองอังกฤษ (ตี ๑ เศษๆ ครับ) ทางนี้เสียตอน ๘ โมงเช้า กับเวลาทางโน้นก็ตรงกัน ตี ๑ ไปเปิดประตูเปิดอะไรๆ โครมครามๆ ที่บ้านคุณเจน เขาเคยมาวัดนี่ อายุดูเหมือนเท่ากันกับท่านปัญญา พอทางนี้เสียตอน ๘ โมงเช้า ทางโน้นก็ดูเหมือนตี ๑ แล้วแสดงในเวลาเดียวกันจนตื่นเต้น โดดไปปลุกผัวมา เป็นยังไงเสียงมันพิลึกพิลั่น ปึงปังๆ ดูว่าประตูเปิดอะไรเปิดไปหมดใช่ไหมล่ะ นี่ละท่านปัญญาท่านไปเตือนลูกศิษย์ท่าน เวลาก็ตรงกันนะ ทางนี้ตอนเช้าประมาณ ๘ โมง ทางโน้นก็ตี ๑ มันไม่ใช่เสียงธรรมดาฟังว่า เสียงโครมครามๆ ดึกๆ ตี ๑ นั่นน่ะเวลาคนนอน เสียงโครมครามๆ มันอะไร โดดไปปลุกสามีมา เสียงอะไรๆ พอออกมาดูแล้วปรากฏว่าประตูก็เปิดอะไรก็เปิดไปหมด เอ๊ มันเป็นยังไงอย่างนี้ ว่างั้นนะ แล้วไม่นานก็ทราบว่าท่านปัญญาเสียเวลาเท่านั้น ก็ตรงเป๋งกับเวลาทางโน้น ท่านไปเยี่ยมลูกศิษย์ท่าน เสียงโครมครามๆ อันนี้พูดถึงเรื่องท่านปัญญา

    อันนี้ก็ท่านปัญญาเสียเวลา ๘ โมงเช้า ตี ๑ เสียงประตูลั่นโป๊งป๊างๆ คุณเจนเลยรีบวิ่งไปปลุกสามี เป็นยังไง บ้านเราหลังนี้วันนี้เป็นยังไงมันเสียงลั่นพิลึกพิลั่นนะ พอปลุกสามีออกมาดู ประตูอะไรๆ เปิดโล่งไปหมดเลย เอ๊ ทำไมเป็นอย่างนี้ ท่านปัญญาท่านไปเยี่ยมลูกศิษย์ท่าน คุณเจนเคยมาที่นี่ มาภาวนาอยู่ที่นี่บางทีถึงสองสามอาทิตย์ก็มี ทีนี้พอท่านปัญญาตายก็เลยไปลาลูกศิษย์ ลูกศิษย์พอได้ยินเสียงโครมครามก็เลยเป็นบ้า อย่างนั้นแหละจิตวิญญาณเห็นไหม เรื่องจิตวิญญาณแสดงได้ทุกแบบเพราะอันนี้ไม่เคยตาย แสดงได้ทุกแบบ เป็นอายตนะสมบูรณ์ของตัวเอง เรียกว่าอายตนะนิพพาน นิพพานมีอายตนะที่ไหน พวกตาบอดมันจะไปรู้เรื่องอะไร เราก็ว่างั้น

    อายตนะนิพพานคืออายตนะสมบูรณ์แบบในตัวเอง ไม่ได้ไปยืมตา หู จมูก ลิ้น กาย อายตนะ แปลว่า เครื่องสืบต่อ เครื่องประสาน ตาประสานรูป หูประสานเสียง เรียกว่าอายตนะ ประสานกัน ส่วนจิตใจล้วนๆ นี้ท่านว่าอายตนะนิพพาน ไม่มีใครรู้นะ แต่ท่านผู้ถึงนิพพานท่านรู้เอง เรียกว่าอายตนะเป็นของตัวเองโดยหลักธรรมชาติ ความหมายว่างั้น เอาละที่นี่พอละ"

    ที่มา https://www.facebook.com/watpabaantaad.luangta?fref=ts
     
  17. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    " เมื่อจิตไม่เป็นศีล กายก็ประพฤติไปต่างๆ มีโทษต่างๆ
    ผู้มีศีลแล้วไม่มีโทษ จะเป็นปกติแนบเนียนไม่หวั่นไหว ไม่มีเรื่อง
    หลงหา หลงขอ คนที่หา คนที่ขอ ต้องเป็นทุกข์
    ขอเท่าไหร่ยิ่งไม่มี ยิ่งอดอยากยากเข็ญ
    กายกับจิต เราได้มาแล้ว มีอยู่แล้ว
    ได้มาจากบิดา มารดา พร้อมบริบูรณ์แล้ว
    จะทำให้เป็นศีลก็รีบทำ
    ศีลมีอยู่ที่เรานี้แล้ว รักษาได้ไม่มีกาล ได้ผลไม่มีกาล
    ผู้มีศีล ย่อมเป็นผู้องอาจกล้าหาญ
    ผู้มีศีลย่อมมีความสุข
    ผู้จักมั่นคง บริบูรณ์-สมบูรณ์ ไม่อด-ไม่อยาก
    ไม่ยาก-ไม่จน ก็เพราะรักษาศีลได้สมบูรณ์
    จิตดวงเดียว เป็นศีล-เป็นสมาธิ-เป็นปัญญา
    ผู้มีศีลแท้เป็นผู้หมดเวร-หมดภัย "
    โอวาทธรรม หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    (คัดลอกจากหนังสือเคล็ดปฏิบัติสมาธิ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)

    ที่มา facebook.com พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสมฺปนฺโน ภูผาแดง
     
  18. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ในวันนี้ ข้าพเจ้าขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โปรดคุ้มครองทุกๆท่าน ให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขด้วยเทอญ 22/8/2556
     
  19. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    "มาดูจิตใจคนอื่นทำไม ไม่รู้จักดูจิตใจเจ้าของ ใครปฏิบัติเอง รู้เอง"

    หลวงปู่อ่ำ ธัมมกาโม

    ที่มา https://www.facebook.com/Thammaphormaekruarjahn?fref=ts
     
  20. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    "ใจดวงนี้ก็ไม่เคยสบายสักที ถ้าทำใจหยุดคิดไม่ได้มันไม่พบความสุขหรอก สุขที่ละเอียดอ่อน คือสุขจากความสงบใจ ที่พระพุทธเจ้าทรงให้พวกเราแสวงหาให้ได้ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ถ้าตายเสียแล้วไม่ได้อะไรแล้ว ร่างกายเรานี่รึ...ไม่ใช่ของเราหรอก เขาเอาไปเผาไฟทุกคนแหละ!
    เมื่อเราเห็นอย่างนี้ มันไม่มีอะไรเป็นของเรานี่ คนอื่นก็ช่วยเราไม่ได้ เราจึงต้องรักตัวเอง ต้องคิดปฏิบัติธรรม...”

    หลวงพ่อสนอง กตฺปุญโญ

    ที่มา https://www.facebook.com/Thammaphormaekruarjahn?fref=ts
     

แชร์หน้านี้