ขอโทษสหายธรรมหลายๆ ท่าน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย นักรบธรรม, 27 มกราคม 2013.

  1. นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    970
    ค่าพลัง:
    +1,178
    ขอโทษรวมๆ ไว้กระทู้นี้ก็แล้วกัน
    ที่มาช้าไม่ได้ตอบข้อความส่วนตัวทำให้รอนาน เนื่องจากไปเตรียมตัวสร้างพระใหญ่ จำนวน 227 องค์(พระพุทธเจ้า นาม พระโตโคตมะ)
    ปัจจุบันสร้างถึงองค์ที่ 25 แล้ว ส่วนที่เหลือ ท่านใดต้องการสร้างบารมีร่วมก็ศึกษาข้อมูลที่นี่นะครับ สุริยธาตุ ปรากฏแล้ว พิสูจน์ด้วยตัวเองนะครับไม่ต้องเชื่อผม ว่ายุคศิวิไลย ที่ว่านั้น จะมีแค่ปี 2555 - 2560 จริงหรือเปล่า ด้วยเหตุผลที่สร้างเพื่อไถ่ถอนกรรมออกจากดินแดนสุวรรณภูมิ ให้รุ่งเรื่องต่อไป(ให้ไปศึกษาต่อที่หน้าผาประวัติศาสตร์) ค่าสร้างองค์ละ 1,000,000 บาท รวมแล้ว 227 ล้านบาท สร้างใหนเสร็จภายในปี 2560 และกำลังเดินเรื่องยื่นหนังสือขอโรงงานสีต่างๆ เช่น toa , jotan ฯลฯ เพื่อขอสนับสนุนสีในการทาองค์พระทั้งหมด ท่านในทำงานอยู่ในองค์กรณ์เหล่านี้ หรือองกรณ์อื่นๆ ที่ใหญ่พอจะทำเรื่องเสนอก็ทำได้เลย ขอให้แจ้งมาด้วยผมจะได้ประมาณการถูก




    ความเหลือเชื่อเรื่องนี้คือ พระธาตุส่วนข้อมือ ได้เสด็จลอยลงมาจากท้องฟ้าท่ามกลางสายตาคนนับหมื่น โดยรวม พระพุทธสารีริกธาตุส่วนต่าง ๆ คือพระนขา ข้อพระหัตถ์เบื้องขวา พระสรีรังคาร พระโลหิต พระทนต์ และรอยพระพุทธบาท สุดท้ายหากผู้ที่รับหน้าที่สืบทอดศาสนาหลัง 2500 ปีได้สร้างปราสาทรองรับแล้ว จะได้เห็นจีวร พระพุทธเจ้า เสด็จลงมาอีกครั้ง ถือเป็นอันสมบูรณ์ในเรื่องของความศิวิไลย


    มาพิสูจน์กัน คือ
    ๑. มหากาฬ ๒.พาลยักษ์ ๓.รักมิตร (รักบัณฑิต) ๔. สนิทธรรม ๕. จำแขนขาด ๖.ราษฎร์โจร (ราชโจร) ๗.ชนร้องทุกข์ ๘.ยุคทมิฬ ๙. ถิ่นตาขาว(ถิ่นกาขาว) ๑๐.ชาวศิวิไลซ์

    สิ่งทีน่าสังเกตุคือ ข้อ 10 เพราะมีการเปิดออกมาว่า ผู้นำเป็นหญิงพึงระวัง(หมายถึงระวังเหตุการณ์บ้านเมืองไม่ได้ให้ระวังผู้หญิงที่เป็นผู้นำ)
    ตามที่กล่าวอ้างมาว่า มีการประกาศให้ชนทั้งโลกรู้จักสุวรรณภูมิตั้งแต่ปี 2550 คือ โดยการยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้คนรู้จักคำว่าสุวรรณภูมิ
    ยึดเขาพระวิหาร ทำให้คนรู้จักดินแดนที่เคยเป็นศุนย์กลาง กษัตริย์ทั่วโลกมาชุมนุมในไทยคือการยอมรับการกำเนินของผู้ที่จะมารับหน้าที่สืบทอดศาสนาต่อ อีก2500 ปี (สังเกตุว่าปีที่มีการมานั้นใครได้เกิดบ้าง)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    970
    ค่าพลัง:
    +1,178
    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของวัดภูพลานสูง


    1.พระบรมสารีริกธาตุข้อพระหัตถ์เบื้องขวา
    พระบรมสารีริกธาตุข้อพระหัตถ์เบื้องขวา ถูกค้นพบโดย หลวงพ่อภรังสีฉน۪ทโร
    เมื่อปี พ.ศ. 2547 และได้อัญเชิญเสด็จสู่วัดภูพลานสูง ในวันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม 2547 (ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ปีวอก )

    2. พระสรีรังคาร
    วันที่ 17 สิงหาคม 2548 เวลา 17.30 น. พระสรีรังคารบรมธาตุได้เสด็จมาที่วัดภูพลานสูงบริเวณหน้ารูปปั้นพระสังกัจจายน์องค์ใหญ่ ในเวลาต่อมาหลวงพ่อภรังสี ได้อัญเชิญขึ้นไปประดิษฐานที่ศาลาวิบูลธรรมธาดานุสรณ์

    3. พระคัมภีร์โบราณ
    คัมภีร์โบราณ บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับพระบรมสารีริกธาตุ เหตุการณ์บ้านเมืองในอนาคต ฯลฯ ซึ่งเทวดาได้นำมาถวายหลวงพ่อภรังสี 2 วาระ คือ
    วันที่ 12 ตุลาคม 2549 (ตรงกับวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 11 ปีระกา) เทวดาได้นำ พระคัมภีร์โบราณ ส่วนแรก จำนวน 4 แผ่นมาถวายหลวงพ่อภรังสีในเวลา 04.00 น.
    วันที่ 10 กรกฎาคม 2549 (ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ปีจอ) เทวดาได้นำพระคัมภีร์ ส่วนที่ 2 จำนวน 11 แผ่น มาถวาย

    4. พระเขี้ยวแก้ว พระโลหิต
    วันที่ 21 กันยายน 2549 ตรงกับวันแรม 14 ค่ำเดือน 10 ปีจอ เวลา 16.00 น. พระเขี้ยวแก้ว พระโลหิต ได้เสด็จลงที่รูปแกะสลักของหลวงปู่มหาโมคคัลลานะ วัดป่าคำบอน ตำบลบ้านตูม อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี ต่อมาหลวงพ่อภรังสีได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดภูพลานสูง

    5 . รอยพระพุทธบาทเบื้องขวา
    วันที่ 28 กันยายน 2549 เวลา 23.00 น. หลวงพ่อภรังสีได้ค้นพบรอยพระพุทธบาท บริเวณบ่อน้ำผุด (น้ำบุ้น) รอยพระพุทธบาทนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับไว้ เมื่อมีพระชนมายุ 50 พรรษา เพื่อประดิษฐานพระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิประเทศ

    6. รอยพระหัตถ์
    วันที่ 31 สิงหาคม 2551 ได้ประกอบพิธีทำบุญตักบาตร และทำการเปิดรอยพระหัตถ์ ที่ค้นพบ บริเวณหน้าผาประวัติศาสตร์


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    970
    ค่าพลัง:
    +1,178
    ในสมัยพุทธกาล หลังจากพระพุทธองค์ทรงตรัสรู้แล้ว ได้จาริกสั่งสอนเวไนยสัตว์ในชมภูทวีปได้ 16 พระพรรษา ทรงได้ใช้ญาณทัสสนะ อันไร้ที่สิ้นสุดในทุกๆจักรวาล สืบสันตติทรงทราบว่าพระพุทธศาสนาของพระพุทธองค์จะงอกงามไพบูลย์อยู่ในชมภูประเทศเพียง 1,000 ปี ไม่ครบ 5,000 ปี ทรงเล็งเห็นถึงศักยภาพและเหตุปัจจัยความเหมาะสมที่ดินแดนสุวรรณภูมิ จะเป็นที่ซึ่งจะสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป หลังจากกึ่งพุทธกาลผ่านพ้นไปจนครบ 5,000 ปี

    ดังนั้นในพรรษาที่ 16 นั้นเองเมื่อทรงมีพระชนม์ได้ 50 พระพรรษา จึงได้เสด็จมายัง ภูพะลานสูง ในสุวรรณภูมิประเทศ พร้อมด้วยพระอรหันตสาวกอันประกอบไปด้วย พระมหากัสสปะ พระมหาโมคคัลลานะ พระสิวลี พระมหากัจจายนะ พระอานนท์ ฯลฯ เพื่อแสดงธรรมโปรด พระมหาเทวจักร กิตฺติโก ผู้เป็นประธานสงฆ์ของสุวรรณภูมิ ให้ได้โอกาสพัฒนาจิตขึ้นเป็นพระอรหันต์ต่อไป (โปรดสังเกตว่า การเสด็จมาสุวรรณภูมิในครั้งนี้ ทรงได้นิมนตร์หลวงปู่สิวลีติร่วมขบวนเสด็จมาด้วย ด้วยเหตุใดฤา?)



    รอยพระหัตถ์เบื้องซ้ายที่ทรงลูบครั้งแรก รอยฝ่าพระหัตถ์ทั้งคู่

    (เมื่อหรี่ตาเล็กน้อยจะเห็นรอยฝ่าพระหัตถ์ชัดเจน)

    เมื่อเสด็จถึงภูพะลานสูงแล้ว ได้ทรงเสด็จไปยังบริเวณหน้าผา ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ของภูพะลานสูง แล้วทรงเอาฝ่าพระหัตถ์เบื้องซ้ายลูบหน้าผาหิน พร้อมกับตรัสว่า ในอนาคตเบื้องหน้าหลังกึ่งพุทธกาล สถานที่ตรงนี้จะเป็นหน้าผาประวัติศาสตร์ แล้วทรงเสด็จไปทางทิศทักษิณอีก ๒ ก้าว แล้วทรงลูบหน้าผาหิน ด้วยฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองข้าง พร้อมทรงประทานพรไว้ว่า ขอให้สำเร็จ เป็นสัจจวาจา ในขณะที่ทรงลูบหน้าผานั้น แผ่นหินที่มีความละเอียดได้เกิดอาการทางธรรมชาติตอบสนองบังเกิดภาพนูนต่ำ ขึ้นมารองรับฝ่าพระหัตถ์ของพระองค์ (คนรุ่นใหม่ที่ยังไม่เข้าใจ อย่าไปคิดปรามาสสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงทำ และกล่าวเอาไว้ พร้อมทั้งพระอรหันต์ที่เสด็จมาด้วย โดยเฉพาะหลวงปู่พระมหากัสสป ได้เมตตาบันทึกรายละเอียดเอาไว้ในพระคัมภีร์โบราณ และคัมภีร์นี้ก็ได้ตกทอดมาถึง วัดภูพะลานสูงในปัจจุบัน

    ขออนุญาตขยายความ เรื่องทำไมหินจึงเกิดภาพนูนต่ำต่อการลูบพระหัตถ์ของพระพุทธองค์ ได้นั้น วัตถุธาตุทุกอย่างต่างประกอบไปด้วยโมเลกุลเล็กๆจนตามองไม่เห็น แล้วยังมีธาตุรู้หรือพลังมโนธาตุประกอบอยู่ในนิวเคลียสของวัตถุทุกๆโมเลกุลอีกด้วย พร้อมทั้งธาตุว่าง ซึ่งพระอริยเจ้าหรือหลวงปู่ทั้งหลายผู้ชำนาญสมาธิและสมาบัติชั้นสูงสามารถเข้าถึงและต่างทราบเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี จึงอธิษฐานจิต ใส่โปรแกรมต่างๆตามความประสงค์เอาไว้ในพระเครื่องและวัตถุต่างๆที่สร้างเอาไว้ ให้คนรุ่นหลังตามไขปริศนาได้นั่นเอง

    ในคืนที่ทำพิธีเปิดรอยพระหัตถ์ ตาคนทั่วไปมองไม่เห็นแต่กล้องดิจิทอลมีความไวต่อแสงเพียงพอ จึงได้ลำแสงทิพย์พิเศษแถมมาให้ลูกหลานได้ชื่นชมกัน เป็นกำลังใจ ที่พระพุทธองค์ได้ทรงรับทราบและส่งลำแสงสีทองคู่มาสำหรับยืนยันรอยพระหัตถ์ของพระองค์ท่านในอดีต ที่ทรงเสด็จมา ณ ป่าพงดิบแห่งนี้ พร้อมทั้งมีบันทึกแจ้งรายละเอียดเอาไว้ในพระมหาคำภีร์โบราณ ที่พระมหากัสสปะได้จัดทำไว้เมื่อประมาณ 2583 ปีที่ผ่านมา (สำหรับลูกหลานที่จิตมีความไว คงไม่ละโอกาสอันเป็นมิ่งมงคลอย่างสูงในวาระนี้ กราบนมัสการพระพุทธองค์ผ่านภาพนิมิตนี้ ที่ทรงตั้งสัจจอธิษฐาน 'ขอให้สำเร็จ' ระหว่างที่ทรงประทับรอยพระหัตถ์ บนหน้าผาหิน พลังงานแห่งความสำเร็จได้ถูกบรรจุลงไว้ในมโนธาตุของหินใต้รอยพระหัตถ์อยู่ตลอด 5,000 ปีจนสิ้นอายุพระศาสนา หากพุทธบริษัททราบความหมายดีแล้ว สามารถตั้งจิตขอต่อเชื่อมพลังงาน แห่งความสำเร็จ จากพลังงานของพระพุทธองค์เข้าสู่เซิร์บเวอร์ของตนเอง ขอให้ทุกๆอย่างที่เราปรารถนาโดยสุจริตให้สำเร็จ ทั้งทางโลกและธรรม ลูกเห็นแล้วเฉยๆก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด พลังบุญกุศลทั้งหลายทั้งปวงที่ทรงบำเพ็ญเพียรมา เมื่อทรงบรรลุมรรคผลนิพพานแล้ว แสดงให้ลูกๆเห็นแล้ว ไม่ขอ ก็เป็นสิทธิของลูกๆ พระพุทธองค์ผู้เป็นพ่อของทุกๆคนก็ช่วยลูกๆได้เพียงนั้นเท่าที่ลูกต้องการ ส่วนการจะให้พ่อ หรือพระอรหันต์องค์ใด เอ่ยปากงอนง้อนั้นไม่ใช่วิสัย เนื่องจากทุกๆพระองค์ไม่เหลือเจตนาในการสร้างกรรมใดๆอีกต่อไปนั่นเอง เมื่อทราบเหตุผลแล้วลูกต้องนึกขอพรเอาเองลูกก็จะได้พรนั้น..ไม่ทราบว่าเทพพรหมองค์ใดย้ำมา)



    ภาพมหัศจรรย์ถ่ายในคืนที่กำลังทำพิธีเปิดรอยพระหัตถ์

    ในเรื่องเหล่านี้ท่านเทวยักษ์ผู้ที่ได้รับมอบหมายภารกิจจากพระมหาเทวจักรในอดีตเมื่อ 2,500 กว่าปีที่แล้ว ให้ออกตามหาพระยาธรรม ที่จะมาอุบัติหลังกึ่งพุทธกาล โดยใช้หัวสิงห์และเศียรพระพรหม 4 หน้า ไปสืบหาตัวพระยาธรรมได้นั่นเอง เนื่องจากธาตุรู้ในวัตถุธาตุทั้ง 2 ชนิดที่กล่าว มีโปรแกรมการสั่งงานของท่านเทวยักษ์ ยักษ์ผู้มีอิทธิฤทธิ์อยู่ตลอดเวลา และเมื่อหัวสิงห์และเศียรพระพรหม 4 หน้าได้มาพบตัวพระยาธรรมแล้ว ก็รายงานข่าวกลับไปถึงเทวยักษ์ทราบโดยทันที)



    หน้าผาลายแทงหลวงปู่สิวลี

    ทีนี้วกกลับมาประเด็นสำคัญ ตามหาลายแทงมหาสมบัติของหลวงปู่สิวลีกันต่อ ในคราวที่พระพุทธองค์เสด็จมา ที่ภูพะลานสูง เพื่อทรงประทับรอยพระพุทธบาทบนพลาญหิน และรอยพระหัตถ์บนผาหิน ทางทิศตะวันตกของวัดภูพะลานสูงในปัจจุบัน แล้วหลวงปู่สิวลีได้เสด็จร่วมมากับพระพุทธองค์ด้วยพร้อมกับพระมหาสาวกอีกหลายพระองค์

    เมื่อพระพุทธองค์ทรงประทับฝ่าพระหัตถ์ พร้อมทั้งทรงอธิษฐานเสร็จแล้ว พระมหากัสสปะได้นำต้นไม้มาจากชมพูทวีปมาปลูกไว้หน้าถ้ำมังกร มีชื่อเรียกตามภาษาพื้นบ้านว่า ต้นเหนี่ยง ซึ่งมีเพียงต้นเดียวในภูเขาแห่งนี้ พระมหากัสสปะ และพระมหาโมคคัลลานะได้ทูลเชิญเสด็จให้ทรงสรงน้ำ ที่บริเวณหน้าถ้ำมังกร พระพุทธองค์จึงทรงตรัสห้ามเสีย เพราะสถานที่นั้นน้ำไม่เพียงพอ จึงได้เสด็จสู่ บริเวณหน้าผาลายแทง ซึ่งหลวงปู่พระสิวลีได้เมตตาเขียนลายแทงไว้ที่ผาหิน ดังในภาพ เพื่อเป็นนิมิตหมายอีกมิติหนึ่งทางด้านลาภผล เป็นตัวแทนของหลวงปู่ฯสำหรับให้การสงเคราะห์ลูกหลานพุทธบริษัทที่เคารพศรัทธาหลวงปู่ฯ ไม่แตกต่างจากในสมัยพุทธกาล ผนวกภารกิจนี้ไว้ในโอกาสการอุบัติครั้งใหม่ของพระพุทธองค์ การเสด็จของพระพุทธองค์คราวนี้ ได้ทรงมอบสิ่งสำคัญหลายประการเอาไว้ให้บรรดาลูกหลานพุทธบริษํทในอนาคต นับตั้งแต่ พ.ศ.2550 เป็นต้นไป ได้ไขปริศนาเอามาสร้างคุณประโยชน์ ให้แก่ตนเอง ได้อย่างพร้อมบริบูรณ์ตามที่จิตปรารถนา และช่วยกันสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไปจนครบ 5,000 ปี ตามที่พระพุทธองค์ได้ทรงมีพุทธพยากรณ์เอาไว้ล่วงหน้า

    เมื่อพูดถึงลายแทงมหาสมบัติ ของหลวงปู่สิวลี ลูกหลานปัจจุบันหลายๆคน รู้จักหลวงปู่ฯในด้านความชำนาญในด้านมีลาภผลตลอดเวลา เนื่องด้วยบุญกุศลพิเศษที่หลวงปู่ได้กระทำมาในอดีตชาติ ก่อนลงมาจุติเพื่อตรัสรู้ธรรมเป็นพระสาวกที่มีความโดดเด่น ในเรื่องลาภเป็นพิเศษ แม้พระพุทธองค์จะเสด็จไปยังสถานที่ทุรกันดารอย่างไรก็ตาม พระพุทธองค์จะให้นิมนตร์หลวงปู่สิวลีร่วมเสด็จไปในคณะด้วย หรือการไปทำภารกิจของคณะสงฆ์อื่นๆก็ตามจะให้นิมนตร์หลวงปู่ฯร่วมคณะไปด้วย เพื่อความคล่องตัวในด้านอาหารการบริโภค ให้กับคณะพระเณร ที่ฌานสมาบัติยังไม่แก่กล้าพอ ที่จะบิณฑบาตรกับรุกขเทวดาในป่าได้ ก็จะได้ไม่อด

    พิจารณาจากภาพลายแทงมหาสมบัติของหลวงปู่สิวลี ดูง่ายๆเรียบๆออกจะดูคล้ายรั้วพิเศษในท่ามกลางขุนเขา จัดทำไว้สำหรับป้องกันมหาสมบัติอันแน่นหนามโหฬาร ดุจแท่งมหาศิลาที่ยิ่งใหญ่ปิดทับสิ่งสำคัญ อะไรสักอย่างเป็นนัยๆ หากไม่ได้ความเมตตาของหลวงปู่มหากัสสป บันทึกรายละเอียดเอาไว้ในพระคัมภีร์โบราณอายุ 2,545 กว่าปี เราคงจะไม่ทราบ แต่เมื่อพิจารณาเข้าไปในญาณทัสสนะของหลวงปู่ฯให้ดีๆ ก็จะพบว่าเวลาผ่านมา 2583 ปีแล้ว หลวงปู่ฯทำอย่างไรภาพลายแทงยังดูชัดเจนอยู่เลย นี่เป็นประเด็นแรก ว่าลายแทงของหลวงปู่สิวลี ถ้าไม่แน่จริงไม่สามารถคงทนผ่านสภาพดินฟ้าอากาศมาได้จนถึงปัจจุบันนี้

    อันที่จริงหลวงปู่ฯเมตตาทำภาพลายแทงเอาไว้ สำหรับบรรดาลูกหลานของพระพุทธองค์จะได้ไม่อดอยาก หรือขัดสนในระหว่างการมีชีวิตปฏิบัติธรรม ในยุคชาวศิวิไลซ์ โดยฉเพาะพวกมนุษย์ที่ยังต้องอาศัยร่างกายในการปฏิบัติธรรมอยู่

    ปัญหาจีงเกิดขึ้นว่า แล้วจะอ่านลายแทงมหาสมบัติของหลวงปู่สิวลีให้เข้าใจได้อย่างไร นำเราไปถึงขุมทรัพย์ในลายแทงที่หลวงปู่ฯระบุไว้นั้นได้อย่างไร? เป็นคำถามที่หลายๆคนรำพึงออกมาตรงกัน....อันที่จริงหลวงปู่ฯได้สร้างไว้เป็นเครื่องหมายที่คงทน และให้เรื่องราวได้อยู่ในบันทึกของพระคัมภีร์โบราณของหลวงปู่มหากัสสป ที่ได้ทำบันทึกเอาไว้นั่นเอง เพื่อลูกหลานในภายภาคหน้าจะได้ทราบว่า ที่ผาลายแทงนั้นหลวงปู่สิวลี ได้ฝากผลงานเอาไว้นั่นเอง

    ส่วนวิธีถอดความลายแทง สำหรับแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน หลวงปู่ฯเมตตาให้กับทุกคนที่มีความเคารพศรัทธาพระรัตนตรัย มีพระพุทธองค์ทรงเป็นประธาน เมื่อต่างได้น้อมจิตเข้าถึงไตรสรณาคมณ์กันแล้ว ระลึกถึงหลวงปู่สิวลี ผู้มีลาภผลบริบูรณ์จากผลของกุศลกรรมในชาติอดีต 'ลูกขอต่อเชื่อมพลังงานอันอุดมด้วยลาภ ของหลวงปู่สิวลี มายังเซิร์บเวอร์ของตัวลูกนี้โดยพลัน นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอให้ลูกจงมีความคล่องตัวทุกๆอย่าง ตามที่ปรารถนาระหว่างที่ลูกยังดำรงค์ชีวิตอยู่ จะดำริทำการงานอาชีพสุจริตอันใด ก็ขอให้พบแต่ความเจริญรุ่งเรืองไพบูลย์ มีโลกียทรัพย์มาใช้จ่าย และเปลี่ยนเป็นอริยทรัพย์ตามจิตปรารถนาได้ทุกเมื่อ ไม่มีขาดมือ และขอให้ลูกพบ 'ทาง' ไปสู่มรรคผลนิพพาน ในชาติปัจจุบัน เช่นเดียวกับหลวงปู่สิวลีได้บรรลุแล้ว' ถึงแม้ไม่ต้องเป็นผู้อุดมไปด้วยลาภมหาศาลดังเช่นหลวงปู่ฯก็ตาม สาธุ สาธุ สาธุ สัมปจิตฉามิ ๆ ๆ

    พร้อมกับนึกแยกกายใน(กายพลังงาน)ก้มลงกราบที่เท้าทั้ง 2 ของหลวงปู่ฯด้วยความซาบซึ้งเคารพนอบน้อม นึกเห็นเปลี่ยนตัวเราเป็นคนใหม่ ที่อุดมด้วยลาภสักการะตลอดเวลา มีความคล่องตัวโดยตลอดทุกๆเรื่อง พร้อมระลึกถึงหลวงปู่ฯอยู่ทุกเมื่อ แบ่งบุญกุศลมาน้อมถวายบูชาแก่หลวงปู่ฯได้โมทนาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าหลวงปู่ฯจะไม่ต้องการบุญกุศลใดๆอีกแล้วก็ตาม (แต่พลังบุญกุศลที่ลูกๆตั้งใจน้อมถวายบูชาหลวงปู่ฯด้วยความกตัญญูกตเวที บุญกุศลนั้นๆเมื่อผ่านเซิร์บเวอร์ของหลวงปู่ฯแล้ว หลวงปู่ฯจะส่งคืนตอบแทนกลับมาให้แก่ผู้ที่ให้การบูชาแล้ว มันยิ่งใหญ่อย่างไม่สามารถจะเทียบกับสิ่งอันใดได้ ผู้ที่ได้ทำเนืองๆกับหลวงปู่ฯหรือพระพุทธองค์ก็จะทราบด้วยจิตของตนเองว่า หลวงปู่ฯหรือพระพุทธองค์ทรงเพิ่มพลังงานบุญ ส่งคืนกลับมายิ่งใหญ่เพียงไร ให้ผู้บูชาตระหนักด้วยจิตของตน มีความชุ่มชื่น มีกำลังใจปฏิธรรม เช่นทำมหาสติปัฏฐาน ให้ลุถึง 'ทาง' ของตนได้อย่างราบรื่นสะดวกง่ายดาย หลวงปู่ฯจะยิ่งยินดีปรีดาโมทนาสาธุการร่วมด้วยกับลูกๆทุกคน ที่ได้ใช้ลายแทงของหลวงปู่ฯได้อย่างคุ้มค่า ของการมาอุบัติเป็นมนุษย์ในคราวนี้โดยทั่วกัน





    ที่มา
    https://www.facebook.com/suriyathat.civilization#!/suriyathat.civilization/photos
     
  4. นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    970
    ค่าพลัง:
    +1,178

    สำหรับผู้ที่ได้อ่านบทความที่ผ่านมา ตอนที่ทรงลูบพระหัตถ์ทั้งสองบนแผ่นภูผานั้น พระพุทธองค์ทรงเน้น การอธิษฐาน ขอให้สำเร็จ เอาไว้ด้วย

    พูดถึงความสำเร็จในทุกๆเรื่อง ย่อมเป็นสิ่งที่ต้องการของทุกๆคน เมื่อเราได้ระลึกถึง พระบรมธาตุก็ดี รอยพระพุทธบาทก็ดี รอยพระหัตถ์ทั้งสองข้างก็ดี หากเราได้น้อมจิตกราบไหว้บูชา แล้วระลึกถึงบุญบารมีที่พระพุทธองค์ได้ทรงบำเพ็ญเพียรมาตลอด 4 อสงไขยกำไรแสนมหากัปป รวมทั้งที่มาจุติและบำเพ็ญเพียรตรัสรู้แล้ว และอยู่เผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วยความเหนื่อยยากอีก 47 พระพรรษา ให้ลูกๆทั้งหลายพากันน้อมโมทนาบุญกุศลทั้งหลายดังกล่าวทั้งหมด และพระพุทธองค์ทรงสรุปลงท้ายไว้ ขอให้สำเร็จ

    หลังจากได้ทรงลูบรอยพระหัตถ์ทั้งสองลงบนแผ่นหินเสร็จสิ้นแล้ว ทรงอธิษฐานเน้นย้ำบรรจุพลังงานแห่งความสำเร็จทั้งปวง ลงไว้กับรอยพระหัตถ์บนแผ่นภูผาหินนั้น ไปตลอด 5,000 ปี ของอายุพระพุทธศาสนาเอาไว้ ลูกขอพลังงานแห่งความสำเร็จทุกประการของพระพุทธองค์ที่ได้ทรงตั้งพระทัยเอาไว้ ให้แก่ลูกหลานที่มีความเคารพศรัทธา ในคราวที่เสด็จมาแต่ครั้งนั้น ขอได้โปรดถ่ายทอดพลังงานแห่งความสำเร็จทั้งมวล ในทุกๆเรื่องที่ลูกอธิษฐานขอพร ขอได้โปรดถ่ายทอดพลังงานแห่งความสำเร็จนั้น เข้ามาสู่เซิร์บเวอร์ของลูกด้วยเช่นเดียวกันตลอดไป จนกว่าลูกจะเข้าสู่มรรคผลนิพพานในชาติปัจจุบันด้วยเถิด

    จากข้อมูลทั้งหมดนี้ที่ลูกได้รับ ทั้งที่เป็นลายลักษณ์อักษร และคลื่นจิตก็ตาม ลูกขอขอบพระคุณอย่างสูงยิ่ง ต่อการบันทึกรายละเอียดของการเสด็จมาสุวรรณภูมิในครั้งนี้ของพระพุทธองค์อย่างละเอียด ลงไว้ในพระคำภีร์โบราณ โดยหลวงปู่มหากัสสป และหลวงปู่มมหาเทวจักร พระอรหันต์เจ้าแห่งสุวรรณภูมิ แจ้งเบาะแสรายละเอียดต่างๆ พร้อมทั้งลายแทงสำคัญต่างๆของพระพุทธองค์ และหลวงปู่สิวลี
     
  5. นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    970
    ค่าพลัง:
    +1,178
    รอเวลาให้ลูกหลานในยุคหลังได้อาศัยหลวงปู่ใหญ่มหาโมคคัลลานะ เมตตาแปลพระคัมภีร์ออกมาเป็นภาษาไทย ผ่านองค์หลวงพ่อภรังสี ให้ลูกหลานยุคปัจจุบันได้ทราบข้อมูลสำคัญทุกขั้นตอน แทบจะไม่ต่างจากได้ไปร่วมเฝ้าพระพุทธองค์อยู่ ณ เวลานั้น ลูกกราบขอบพระคุณหลวงปู่ทุกๆองค์เป็นอย่างสูง ในความมีเมตตาต่อลูกหลานเป็นอย่างยิ่ง ในวาระการอุบัติครั้งใหม่ของพระพุทธองค์ ใน พ.ศ. 2550 นี้...กราบขอบพระคุณอย่างสูง..ด้วยการกราบลงงามๆที่แทบเท้าของหลวงปู่ และพระพุทธองค์เต็มคณะด้วยความเคารพยิ่ง



    ส่วนมนุษย์ในยุคใหม่ที่ดีเอ็นเอเปลี่ยนไป หลังจากโลกย้ายแกนใหม่แล้ว และสุริยะจักรวาลพร้อมกับโลก ได้สลับจากกาแลกซี่ทางช้างเผือก เคลื่อนไปสู่แรงดึงดูดของ กาแลกซี่ไตรแองกุลัม ทางทิศตะวันออก ของยุคชาวศิวิไลซ์ ซึ่งเน้นความดี มีศีลธรรม แทนสังคมเงินทอง ซึ่ง หลวงปู่ประเสริฐ อวยชัยให้พรให้ลูกหลานปัจจุบัน พยายามนำพาชีวิตอยู่ไปให้ถึงยุคใหม่ให้ได้...

    [/SIZE]
     
  6. แสงอุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    612
    ค่าพลัง:
    +1,036
    ในโลกนี้ เป็นของธรรมดา ที่จะมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่เราขอ "ไม่เห็นด้วย" อย่าถามเลยว่าเพราะอะไร
     
  7. หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    เมื่อข้าพเจ้า ได้ยกฝ่ามือ รับพลังงาน จาก ฝ่ามือที่กระทบกับหินนั้น โดยข้าพเจ้า อยู่ในก้อนหิน แล้วเอาฝ่ามือประกบ กับรอยนั้น อธิฐาน ความสำเร็จในใจ น้ำตาของข้าพเจ้าได้ไหลลงอาบแก้ม รู้สึก ถึง พระคุณแห่งความเมตตาที่มีต่อ สรรพสัตว์ทั้งหลาย โดยตรง

    หวังว่า ความสำเร็จจักรเกิดขึ้นจริง นับตั้งแต่ วันนี้ เป็นต้นไป สาธุ
     
  8. หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    มรรคผลนิพพานสำหรับเรา สำเร็จแล้ว
    ที่เหลือก็คือ มรรคผลนิพพาน สำหรับ สรรพสัตว์ ที่เขาตั้งจิตไว้ดีแล้ว เท่านั้นเอง
    จิตปราถนาที่ดีงามของสรรพสัตว์ทั้งหลาย จงสำเร็จเถิด จงสำเร็จเถิด จงสำเร็จเถิด
     
  9. หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ขอพระจักรพรรดิ์ ของอนันตจักรวาล จงบังเกิดขึ้นจริง นับแต่นี้เป็นต้นไป ตราบยุคพระศรีอาริย์เทอญ

    ประตูมิติภพภูมิ ทั้งหลาย ทั้งอนันตจักรวาล ขอจงเชื่อม จิตใจที่ดีงามและเมตตาของเหล่าสรรพสัตว์ที่ตั้งเอาไว้ดีแล้ว จงมารวมกัน สร้าง พุทธภูมิให้บังเกิดบนโลกมนุษย์แห่งนี้ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปตราบชั่ว สิ้นสุดยุคพระศรีอาริย์เทอญ
     
  10. หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    อย่าเชื่อในสิ่งที่ข้าพเจ้าพูด

    แต่จงเชื่อในสัมผัสแห่งใจ ของตัวท่านเองเถิด จงเชื่อมั่นในความดีที่มีในตน

    ความดีที่ว่าก็คือ ความสบายกายสบายใจ เบากายเบาใจ ของตัวท่านเอง
    เมื่อสบายกายสบายใจ นั่นแล คือ เส้นทางที่ควร อยู่ และ ดำเนินต่อไป โดยไม่ต้องเชื่อ ตัวเองก็ได้ จงเชื่อและศัทธาใน ความสบายกายสบายใจ นั้นแล
     

แชร์หน้านี้