นรก ก็อยู่บนดิน
สวรรค์ ก็อยู่บนดิน
การชดใช้กรรม ก็ต้องอยู่บนดิน
คนชั่ว ไม่มีพลังจิต
คนดี มีพลังจิต
เมื่อคู่กรณีเจอกันเมื่อไหร่ คนดีต้องมีสติ ตั้งมั่น ให้มากๆ
ขอ ท่านที่ปฏิบัติธรรมทุกท่านมา เสวนาในหัวข้อ " พลังจิต " มีจริงหรือ
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย จอมยุทธ์หญิง, 15 กรกฎาคม 2008.
หน้า 10 ของ 13
-
เพราะฉะนั้น คนชั่วมีจำนวนน้อย คน
แต่ว่า ทำให่เกิดคนดี ขึ้นมามากมาย ถูกต้องนะ
-
ทีนี้ เรามาพูดถึง คนดี ด้านเดียว
คนดี มีพลังจิต คือ พลังงานบริสุทธิ์ คือ พลังงานบวก
พลังจิต ในกายของคนดี นั้น
ก็มีมาก มีน้อย ต่างๆกันไป ของแต่ละคน ไม่เท่ากัน
คำว่า บารมี ที่คุณๆชอบใช้เรียกกันนะ
ก็คือ การสร้างคุณงามความดี สะสม กันมาเรื่อยๆ
กี่ภพ กี่ชาติ อัตราความถี่ในการกระทำความดี มากน้อยแล้วแต่คน
มนุษย์ที่มีความตั้งใจ ในการกระทำความดีงาม ไม่ผิดศีล
ชอบเกื้อกูล เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน มากๆๆๆ
ก็จะมี พลังจิตมาก หรือว่า พลังจิตสูงกว่า คนอื่น ที่ตั้งใจน้อยกว่า -
stefa จะไม่ใช้อ้างอิงเรื่อง นิพพาน กับ อรหันต์ นะ
พลังจิตสูง หรือว่า พลังจิตอ่อน หรือว่า พลังจิตแข็ง
คำเหล่านี้ ถ้านำมาใช้พูดคุยกัน ก็ไม่ถูกต้อง
stefa ไม่ต้องการให้นำมาใช้เลย เพราะว่า ถ้าใช้คุยกัน เหมือนกับนำมาเปรียบเทียบกัน เยาะเย้ยกัน ดูถูกกัน อวดเบ่งบารมีกัน
แค่รู้ และ เข้าใจ ก็พอแล้ว
-
การคบหากัน แบบเพื่อน
ต่างคนต่างรู้ว่า ต่างเป็นคนดี
คบกันด้วย ความบริสุทธิ์ใจ กัน
แค่นี้ ก็ ที่สุด ของ ที่สุดแล้ว -
stefa ต้องการ อธิบาย ความหมายให้ คนทุกประเภท เข้าใจนะ
อยากให้ทุกคน อ่านแล้วเข้าใจง่าย
ไม่มีศัพท์มากมาย
นักปฎิบัติ ทั้งหลาย โพสต์แล้ว มักเข้าใจเองคนเดียว
หรือ ไม่งั้น ก็ไปลอกมา อย่างไม่เข้าใจเท่าไหร่
คนไม่เคยศึกษาธรรมมะ ไม่เคยนั่งสมาธิ เรียนหนังสือพออ่านออกเขียนได้ ทำงานธรรมดา ทั่วไป แม่ค้า พนักงานขายของทั่วไป พ่อค้าด้วย ขายทุกอย่าง ขายอาหาร ขายผัก ทุกคนถ้าได้เข้าเว็ป เข้ามาอ่านของ stefa
ทุกคนจะเข้าใจ
ทุกคนนำไปปฎิบัติได้ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน
ทุกคนไม่จำเป็นต้องมานั่งศึกษาพระไตรปิฤก
ทุกคนไม่จำเป็นต้องมานั่งสมาธิ
ทุกคนสามารถเข้าใจได้ ด้วยตัวของตัวเอง
การเป็นคนดี ไม่ยาก
คนศึกษามาก ปฏิบัติมาก ไม่ใช่ว่าจะเป็นคนดีกันทุกคน
คนท่องพระไตรปิฎก อาจจะเป็นคนไม่ดี ก็ได้ ใครจะรู้
stefa หวังมากที่สุด หวังให้มนุษย์ทั่วโลก โดยเฉพาะ คนธรรมดา สามัญ สามัญ มากๆๆๆนะ ได้อ่าน รู้สึก เข้าใจว่า การเป็นคนดี คือ อะไร แบบไหน เรียกว่า คนดี
ทำอย่างไร ถึง ได้ชื่อว่า เป็นคนดี -
แล้ว หัวข้อใหม่ ยังไม่มีหรือ คุณ แอ๊บแบ๊ว
;17;17;17;17
ไม่อ้วนเอาเท่าไร
หมูหัน หย่อยนะ
เป็ดปักกิ่ง ล่ะ น้ำลายหยด
หมูสะเต๊ะ เอ้า ใครแย่งกิน
ไก่ย่าง ร้อนๆ หอมฉุย
หมูกรอบ มันแผล่บ
สเต็คเนื้อสัน โอ้ว ว้าว ของโปรด
ยากนักที่จะหักห้ามใจ -
stefa รู้ไหม ว่า จิตฟุ้งอยู่
นะเอย นะเอย<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1380885", true); </SCRIPT> -
-
<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 5 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 3 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>สันโดษ, หลงเข้ามา </TD></TR></TBODY></TABLE>
เสร่อ ไปไป๊ !!! -
ใครตั้ง กระทู้ก็ได้ เพราะว่า stefa รอโพสต์เท่านั้น อ่ะ
โดน โดน โดน -
-
? ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่คนดีอะไรนัก...ยังลุ่มๆดอนๆอยู่...เราในฐานะเพื่อนธรรมมีคุณธรรมประจำใจ...ย่อมช่วยเหลือให้ได้รับความสุข หวังความเจริญในธรรมจะเกิดมีแด่เพื่อธรรมมากๆ....และไม่ควรดึงส่วนที่ไม่ดีออกมา เช่นความโกรธ ความอยากเกินพอดี ออกมา ควรที่จะช่วยให้กำลังใจในการฝึกฝนให้เพื่อนได้เจริญยิ่งๆขึ้นไป ....ช่วยสกัดกั้นไม่กระตุ้นความโกรธแสดงออกมา.....อย่างกัลยาณธรรม
....คบกันด้วย ความบริสุทธิ์ใจ กันแค่นี้ ก็ ที่สุด ของ ที่สุดแล้ว
? การสนทนากันก็เพื่อนำข้อคิดเห็น(ที่ยังปลอมๆอยู่) มาแสดงต่อกันเพื่อเป็นเครื่องพิจารณาเป็นอุบายแห่งปัญญา.... แสดงความเข้าใจในสิ่งที่เราศึกษากันมา ถูกผิดประการใด จะได้ช่วยกันชี้แนะ เป็นการเจริญปัญญาร่วมกัน...แล้วโน้มนำมาพิจารณาจำเพาะตนเพื่อปฏิบัติขัดเกลาของที่ยังปลอมๆอยู่นั้นให้เป็นธรรมบริสุทธิ์บังเกิดมีแก่ตนจำเพาะตน...มิใช่เพื่อเบ่งข่มอันจะทำให้ทิฏฐิมานะเจริญขึ้นในตน....ด้วยยึดมั่นในความเห็นตนเกินไป..จะนำทุกข์ทับโถมตนให้ได้รับความไม่สบายในเปล่าๆ....
;aa15
........... เราเข้าใจท่าน และคิดว่าท่านคงเข้าใจเรา ................. -
-
ธรรมมะเดลิเวอรี่ดิ...ส่งตรงถึงใจ...หุหุหุ
.......................................................................
......... อันคนดีทำดีง่ายทำชั่วยาก ... ยิ่งจริงนา
......... คนชั่วช้าทำชั่วง่ายดีนี้ยาก ... ยิ่งจริงเอย
............................ ^_^ ................................... -
บารมีี แปลว่า กำลังใจเต็ม บารมี 10 ทัศ มีดังนี้- ทานบารมีี จิตของเราพร้อมที่จะให้ทานเป็นปกติ
- ศีลบารมี จิตของเราพร้อมในการทรงศีล
- เนกขัมมบารมี จิตพร้อมในการทรงเนกขัมมะเป็นปกติ เนกขัมมะ แปลว่า การถือบวช แต่ไม่ใช่ว่าต้องโกนหัวไม่จำเป็น
- ปัญญาบารมี จิตพร้อมที่จะใช้ปัญญาเป็นเครื่องประหัตประหารให้พินาศไป
- วิริยบารมี วิิริยะ มีความเพียรทุกขณะ ควบคุมใจไว้เสมอ
- ขันติบารมี ขันติ มีทั้งอดทน อดกลั้นต่อสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์
- สัจจะบารมี สัจจะ ทรงตัวไว้ตลอดเวลา ว่าเราจะจริงทุกอย่าง ในด้านของการทำความดี
- อธิษฐานบารมี ตั้งใจไว้ให้ตรงโดยเฉพาะ
- เมตตาบารมี สร้างอารมณ์ความดี ไม่เป็นศัตรูกับใคร มีความรักตนเสมอด้วยบุคคลอื่น
- อุเบกขาบารมี วางเฉยเข้าไว้ เมื่อร่างกายมันไม่ทรงตัว ใช้คำว่า "ช่างมัน" ไว้ในใจ
-
<!-- currently active users --><TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>แพน้อย, แอ๊บแบ้ว+
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ไม่หลับไม่นอน ไหนใครว่าง่วงแต่หัวค่ำคะ -
สมาธิจิต
จิตเป็นหนึ่ง
จิตอ่อนโยน
จิตควรค่าแก่งาน
..จิตแอ๊บแบ้ว..
ยกให้เลย เรื่องความเพียร
ยกกำลังสอง เรื่องความอึดค่ะ -
..................................................................................
กระผมเข้าใจว่าด้วยอำนาจของกิเลสแล้วในที่ผ่านๆมา เราต้องมีพลั้งเผลอไปก่อกรรมก่อเวรกันบ้างไม่มากก็น้อย...ทุกๆคนเลย ....และเมื่อก่อเวรก็ต้องมีเจ้ากรรมนายเวรอย่างที่เราเข้าใจ...แม้แต่การทำดีกับบุคคลหนึ่งก็อาจก่อเวรขึ้นกับอีกบุคคลหนึ่งขึ้นได้ ดังจะชาดก ระหว่างพระโพธิสัตว์ กับ พระเทวทัต ที่เราทราบกับอยู่น่ะ... และ พระโมคคัลลาเองก็ถูกเจ้ากรรมนายเวรตามถึงจนได้ถ้าไม่มีเจ้ากรรมนายเวร..โจร 500 ที่มาทำร้ายจะมาด้วยเหตุอันใด..การที่กล่าวว่า "มนุษย์หรือว่า คนทั่วไป นะ ไม่ใช่ว่า จะมีเจ้ากรรมนายเวร กันทุกคน" ด้วยเหตุผลดังกล่าวกระผมจึงไม่เห็นควรด้วย....จึงกล่าวว่าไม่เข้าใจเลย
........................................................................................................................
ขออนุโมทนาครับถ้าท่านเข้าใจกระผมก็เข้าใจ......ถือเป็นการเจริญปัญญาร่วมกันนะครับ......
....................................................................................................................... -
การกิน การอยู่ การเรียน การทำงาน การแต่งกาย
ทุกคนควรเลือกไม๊ คู่ชีวิต คบเพื่อน และอื่นๆอีกมาก
มนุษย์ควรเลือกในสิ่งที่เหมาะสมกับตนเอง และสุขภาพ ถูกต้องนะ
? ก็เข้าใจเช่นเดียวกัน
อเสวนา จ พาลานัง ปณฑิตานญจ เสวนาพรูหิ ปูชา จ ปูชนียานัง เอตมมงคลมุตมัง
สมอง และ ความคิด ทุกคนเกิดมาก็มี นะ
แต่ว่า เมื่อมีสิ่งยั่วยวน ที่คุณๆทั้งหลายเรียกว่า กิเลส เช่น เงินทอง การคอรัปชั่น อยากรวย อยากมีรถหรูๆ อยากมีบ้านใหญ่โต เป็นต้น ทำให้เกิดความอยากสุมรุมอยู่ในหัวสมอง คิด คิด ทำยังไงนะ ถึงจะมีกับเขาบ้าง
? ก็อยากอยู่ในขอบเขตของศีลของธรรม ก็ไม่น่ามีปัญญาหาอะไร
เพราะกิเลสยังมีอยู่ด้วยกัน....จึงจะพอมีประโยชน์ต่อผู้แสวงหาอยู่บ้าง
หน้า 10 ของ 13