<table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">2 พฤศจิกายน 2550 11:36 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> อุตรประเทศใช้งบ 1,200 ล้านรูปีพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางพุทธศาสนา
• อินเดีย : รัฐบาลรัฐอุตรประเทศ ของอินเดีย วางแผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางพุทธศาสนาในรัฐอุตรประเทศ โดยใช้งบราว 1,200 ล้านรูปี โดยเงินจำนวนนี้ทางรัฐจะกู้ยืมจากธนาคารเพื่อ การร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น เพื่อนำไปพัฒนาสถานที่ต่างๆทางพุทธศาสนา เช่น สารนาถ สาวัตถี โกสัมพี และกุสินารา
“ขณะนี้การดำเนินการอยู่ในขั้นตอนสุดท้าย และรัฐบาลกลางก็เห็นชอบกับโครงการนี้ ในช่วงแรกการท่องเที่ยวได้เปิดไฟ เขียวให้รัฐบาลท้องถิ่นกู้ยืมเงินจากธนาคารเพื่อการร่วมมือระหว่าง ประเทศของญี่ปุ่น ซึ่งเราจะได้มา 1,200 ล้านรูปี โดยรายละเอียด ต่างๆของโครงการได้จัดทำไปแล้ว และรัฐบาลกลางก็เห็นชอบ” วิโนด ซิงห์ รัฐมนตรีท่องเที่ยวของรัฐอุตรประเทศ เปิดเผย
ทั้งนี้ บริษัทหลายแห่งของญี่ปุ่น เช่น นิปปอน, ทีซีเอส ได้รับการว่าจ้างให้มาเป็นที่ปรึกษาสำหรับโครงการนี้ด้วย
“แม้ว่ารัฐอุตรประเทศจะมีสถานที่ทางพุทธศาสนามากมาย แต่การท่องเที่ยวก็ยังไม่เจริญรุดหน้า เพราะขาดโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การคมนาคม ไฟฟ้า รวมถึงเรื่องการตลาดด้วย ซึ่งขณะนี้ การท่องเที่ยวของรัฐกำลังดำเนินการโฆษณาประชาสัมพันธ์เพื่อ สร้างเข้าใจกับตลาดให้มากขึ้น” อภิรัช ชาร์มา ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวท้องถิ่นของรัฐอุตรประเทศกล่าว
(จาก PTI)
นอร์เวย์คว้าแชมป์ ประเทศที่มีคุณภาพชีวิตดีมากที่สุดในโลก
• อังกฤษ : นอร์เวย์คว้าแชมป์ประเทศที่มีคุณภาพ ชีวิตดีมากที่สุดในโลกไปครองตามความคาดหมาย ตามด้วยไอซ์แลนด์และออสเตรเลีย ขณะที่ทวีปแอฟริกายังคงรั้งตำแหน่งประเทศที่ความสุขหายากมากที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของหนังสือพ็อกเกต เวิลด์ อิน ฟิกเกอร์ส ปี 2008 โดยนิตยสารดิ อีโคโนมิสต์ของอังกฤษ การจัดอันดับดังกล่าว พบว่า ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่มากที่สุดของโลก เป็นประเทศที่ประชากรมีคุณภาพชีวิตอยู่ในอันดับที่ 7 และ 8 ตามลำดับ ขณะที่อังกฤษซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจ ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก ติดอยู่ที่อันดับ 17
ส่วนประเทศที่รั้งตำแหน่งประเทศที่มีดัชนีการพัฒนามนุษย์ต่ำมากที่สุดในโลกยังคงเป็นประเทศจากทวีปแอฟริกา โดย 3 อันดับแรก ได้แก่ ไนเจอร์ เซียร์ร่าลีโอน และมาลี จากการจัดอันดับซึ่งมีการเก็บข้อมูลจาก 183 ประเทศทั่วโลก
การจัดอันดับที่สุดของโลกซึ่งรวบรวมไว้ในหนังสือเล่มดังกล่าวยังรวมถึงชาวออสเตรเลียซึ่งเป็นชนชาติที่ดื่มแอลกอฮอล์มากที่สุดในโลก ชาวกรีซที่สูบบุหรี่มากเป็นอันดับหนึ่งของโลก และชาวญี่ปุ่นที่อ่านหนังสือพิมพ์มากที่สุดในโลก
นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังเป็นประเทศที่มีสัดส่วนของประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปีมากที่สุดในโลก คิดเป็น 60 % ของจำนวนประชากรทั้งหมด ขณะที่ลักเซมเบิร์ก เป็นประเทศที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ต่อหัวมากที่สุดในโลก
เอกวาดอร์เป็นประเทศที่มีคดีฆาตกรรมต่อหัวของ ประชากรเป็นอันดับหนึ่งของโลก สหรัฐฯ เป็นประเทศ
ที่มีจำนวนนักโทษมากที่สุดในโลก อยู่ที่ 2.2 ล้านคน และจีนเป็นประเทศที่มีการประหารชีวิตนักโทษมากที่สุดในโลก โดยสถิตินักโทษที่ถูกประหารชีวิตเมื่อปี 2004 มีจำนวนสูงถึง 3,400 ราย
สำหรับการจัดอันดับด้านสิ่งแวดล้อม สหรัฐฯยังครองตำแหน่งประเทศที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์มากที่สุดในโลก โดยก๊าซที่ปล่อยออกมามีจำนวนสูงถึง 4,800 ล้านตัน ตามด้วยจีน 4,140 ล้านตัน และรัสเซียเป็นอันดับ 3 ที่ 1,500 ล้านตัน
(จาก AFP)
ประมูลหยกลัญจกรเฉียนหลงฮ่องเต้ราคาสูง ‘ทะลุสถิติโลก’
• ฮ่องกง : ฮ่องกง จัดงานการประมูลฤดู ใบร่วงประจำปี 2007 ที่Sotheby โดยสินค้าที่เข้าร่วมการประมูลรวมมูลค่าทุกชิ้นประมาณ 1 พันล้านเหรียญฮ่องกง และหนึ่งในนั้นเป็นที่ฮือฮามากสุดคือ “หยกราชลัญจกร” สมบัติล้ำค่าจากพระราชวังสมัยราชวงศ์ชิง ซึ่งตราลัญจกร ดังกล่าวเป็นหยกสลักลักษณะกลม สลักด้วยตัวอักษรเสี่ยวจ้วนเป็นคำว่า “ไท่ซั่งหวงตี้” (จักรพรรดิสูงสุด) มูลค่าประมาณ46,247,500 ดอลลาห์ฮ่องกง เป็นมูลค่ามากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ถึง 2 เท่า และมูลค่านี้ได้ทำลายสถิติโลกที่เคยมีการประมูลหยกโบราณมา
ตราลัญจกรนี้ได้ทำขึ้นเมื่อพระเจ้าเฉียนหลงฮ่องเต้มีอายุครบ 85 ปี และได้เปลี่ยนฐานะเป็นพระบิดาหลวง หรือจักรพรรดิสูง สุด ซึ่งเป็นลัญจกรที่มีอายุในประวัติศาสตร์นานถึง 200 กว่าปี ในการประมูลดังกล่าวเป็นไปอย่างดุเดือด และผู้ที่ได้ไปครองคือนักสะสมจากจีน
(จากXinhuanet)
จีนจัดตั้งพระเป็น ‘อาสาสมัคร’ ดับเพลิง
• จีน : สำนักข่าวแห่งประเทศจีนรายงานว่า นครจุงกิงได้จัดตั้งหน่วยดับเพลิงอาสาสมัคร ซึ่งประกอบด้วยพระสงฆ์ทั้งหมด หน่วยดับเพลิงนี้จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ ที่วัดจิ้นหยุนของนครจุงกิง โดยหลังจากจัดตั้งหน่วยดับเพลิงอาสาสมัครที่เป็นพระสงฆ์แล้ว จะมีการฝึกอบรมอาสาสมัครโดยหน่วยงานดับเพลิงเป็นประจำ ซึ่งไม่เพียงแต่ต้องเรียนรู้วิธีการดับเพลิงในขั้นต้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอัคคีภัยเท่านั้น แต่นักดับเพลิงอาสา สมัครเหล่านี้ยังต้องรับผิดชอบหน้าที่เป็นผู้กำกับดูแลและชี้แนะพฤติกรรมการใช้ไฟอย่างไม่ปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่มาวัด เพื่อป้องกันอัคคีภัยที่จะเกิดขึ้นภายในวัดอีกด้วย
(จาก CRI)
ระเบิดพระพุทธรูปสมัยคันธาระในปากีสถาน
• ปากีสถาน : มูฮัมหมัด อัคลีม เจ้าหน้าที่ผู้ดูแล พิพิธภัณฑสถานสวัต ของปากีสถาน เปิดเผยว่ากองกำลังไม่ทราบฝ่ายได้ระเบิดพระพุทธรูปเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 7 ซึ่งอยู่ในเจฮัน เอบาด ในตำบลสวัต ซึ่งการทำลายพระพุทธรูปเก่าแก่ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 โดยระเบิดครั้งนี้ได้ทำลายด้านข้างของพระเศียรและช่วงพระอังสา ซึ่งไม่สามารถซ่อมแซมหรือบูรณะใหม่ได้
อัคลีมยืนยันว่าพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวเป็นพระพุทธรูปสมัยศตวรรษที่ 7 ที่สมบูรณ์และงดงามที่สุดซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของศิลปะคันธาระ
โดยหลังจากพระพุทธรูปหินแกะสลักที่หน้าผา บามิยันได้ถูกทำลายโดยกลุ่มตาลิบัน เมื่อ 4 ปีก่อน พระพุทธรูปที่สวัตก็เป็นเพียงหนึ่งเดียวของมรดกทาง วัฒนธรรมในพุทธศาสนา
“พระพุทธรูปองค์นี้สูง 7 เมตร ประดิษฐานเหนือ พื้นดินราว 20 ฟุต เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ซึ่งให้ความรู้สึกสงบและสันติ ไม่รู้ว่าที่พวกก่อการร้ายทำไป เช่นนั้น เพื่อวัตถุประสงค์อะไร พวกเขาต้องการที่จะทำลายมรดกทางวัฒนธรรมของเรา ไม่ต้องการที่จะให้เราเกี่ยวข้องกับอดีตของตัวเอง”
อัคลีมกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนได้แจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตำรวจท้องถิ่น แต่ก็ไม่คิดว่าตำรวจจะสามารถปกป้องพุทธสถานในสวัตได้ เพราะพวกตำรวจเองก็ตกเป็นเหยื่อการโจมตีของผู้ก่อการร้ายเช่นกัน
ทางด้านอุสมาน อุลัสยาร์ ประธานองค์กรศิลป-วัฒนธรรมของสวัต กล่าวว่า รัฐบาลล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมในสวัต
“นี่คือช่วงเวลาอันเหมาะอย่างยิ่งที่ประชาคมระหว่างประเทศและองค์กรยูเนสโกที่จะเข้ามาปกป้อง โบราณสถานต่างๆในหุบเขาสวัตแห่งนี้”
มีข้อมูลที่ยืนยันว่าก่อนหน้านี้มีพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งในกัลลิไก ซึ่งอยู่ในตำบลสวัตเช่นเดียวกัน ได้ ถูกกองกำลังไม่ทราบฝ่ายทำลายลงเช่นกัน
อนึ่ง สวัตเป็นศูนย์กลางของอารยธรรมสมัยคันธาระ และเป็นสถานที่ซึ่งพุทธศาสนาแผ่ขยายไปยังส่วนต่างๆของโลก
(จากThe Buddhist Channel)
เกาหลีสร้างศูนย์วิปัสสนาระดับโลก
• เกาหลีใต้ : เกาหลีใต้วางแผนสร้างศูนย์วิปัสสนาระดับโลก ซึ่งสามารถรองรับผู้คนจากทั่วโลกให้มาเรียนรู้การฝึกหัดปฏิบัติในรูปแบบของ พุทธศาสนานิกายเซ็น
โครงการนี้คาดว่าจะใช้เวลา 3 ปี และใช้งบประมาณ 19 ล้านวอน ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว รวมทั้งวัดโชเจ จะเป็นผู้รับผิดชอบ งบประมาณการก่อสร้างในครั้งนี้
ศูนย์วิปัสสนาดังกล่าวมีพื้นที่ 33,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ที่ ตำบลโกซอง จังหวัดกางวอนโด ซึ่งเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม และอยู่ใกล้ทิวทัศน์ เช่น ภูเขาเซโอรักซัน ในเกาหลีใต้ รวมทั้งภูเขาไดมอนที่มีชื่อเสียงของเกาหลีเหนือ
นอกจากนี้ ศูนย์วิปัสสนาแห่งนี้จะใช้สำหรับจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม การศึกษา และมีเรือนพักสำหรับผู้มาเยี่ยมด้วย
คณะสงฆ์ของวัดโชเจซึ่งได้สร้างโรงเรียนคันฮวา สอนวิปัสสนาแบบเซ็น กล่าวว่า การก่อสร้างศูนย์วิปัสสนาระดับโลกนี้ จะเริ่มขึ้นอย่างช้าที่สุดภายในปีนี้ โดยจะใช้งบราว 6.1 ล้านวอนสำหรับการออกแบบศูนย์ ซึ่งตาม กำหนดการจะแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน ปี 2011
(จาก Koreanet)
ฉลองครบรอบ 1,700 ปี วัดแห่งแรกของปักกิ่ง
• จีน : เมื่อเร็วๆนี้ วัดถานเจ๋อ วัดแห่งแรกของปักกิ่ง ได้จัดพิธีเฉลิมฉลองการสร้างวัดครบรอบ 1,700 ปี วัดถานเจ๋อสร้างขึ้นที่ชานเมืองปักกิ่งเมื่อปีค.ศ. 307 มีเนื้อที่ราว 15 ไร่ เป็นวัดแห่งแรกของปักกิ่งหลังจากศาสนาพุทธเผยแผ่สู่ปักกิ่ง
(จาก Xinhuanet)
เมืองอิเหนา ออก กม.ห้ามให้เงินขอทาน
• อินโดนีเซีย : ทางการอินโดนีเซียผ่านกฎหมายสั่งห้ามประชาชนให้เงินขอทานและคนเร่ร่อนในกรุงจาการ์ตา โดยผู้ฝ่าฝืนอาจมีโทษจำคุกถึง 6 เดือนและปรับเงินถึง 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.7 แสนบาท)
ซูติโยโซ ผู้ว่าราชการกรุงจาการ์ตา ซึ่งมีประชากร 10 ล้านคน ได้เร่งรัดราษฎรให้ปฏิบัติตามกฎหมายใหม่ ขณะเดียวกันก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ากฎหมายนี้อาจไม่เหมาะสม เนื่องจากออกมาโดยไม่เหมาะกับสภาพความเป็นจริงของเมืองที่ผู้คนส่วนใหญ่ยากจน
“กฎหมายนี้ออกมาเพื่อผลประโยชน์ของสาธารณชน” ซูติโยโซ กล่าว
นอกจากสั่งห้ามให้เงินขอทานและคนเร่รอนแล้ว กฎหมายใหม่ยังวาง ระเบียบกฎเกณฑ์สาธารณชนด้านอื่นๆ เช่น ห้ามถ่มน้ำลายและสูบบุหรี่ บนบริการขนส่งสาธารณะ ขณะที่เด็กเช็ดกระจกรถซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ขับขี่ในถนนที่มีการจราจรพลุกพล่านจะถูกลงโทษเช่นกัน
นักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งกล่าวว่า จาการ์ตาพยายามเลียนแบบเพื่อนบ้านสิงคโปร์ ซึ่งมีกฎข้อบังคับสาธารณชนที่เข้มงวด อย่างไรก็ตามมีเสียงวิจารณ์ว่าเป็นเรื่องยากที่กฎหมายนี้จะบังคับใช้ในจาการ์ตา เมืองที่มีความแออัดและมีคนยากจนจากเมืองอื่นๆอพยพมาอาศัยอยู่ ทั้งนี้นักการเมืองหลายรายแนะรัฐบาลให้เวลากับประชาชนได้ศึกษากฎหมายใหม่ ก่อนจะมีการบังคับใช้
(จาก BBC)
คนนับหมื่นแห่ร่วมพิธีบูชาบรมครูขงจื่อ
• ฮ่องกง : เมื่อเร็วๆนี้ผู้คนนับหมื่นเข้าร่วม พิธีบูชาบรมครูขงจื่อ โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “พิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี ฮ่องกงคืนสู่จีน และพิธีบูชาขงจื่อครั้งยิ่งใหญ่”
ทัง ซือเจีย ผู้อำนวยการสถาบันขงจื่อกล่าวว่า จุดประสงค์ในการจัดพิธีบูชาขงจื่อในครั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนในฮ่องกงและคนทั่วโลกได้รู้จักนักปราชญ์คนสำคัญของจีน และให้ตระหนักถึงความสำคัญของประเพณีและวัฒนธรรมจีน อีกทั้งส่งเสริมการพัฒนาและฟื้นฟูประเทศในทุกด้าน และสร้างความเข็มแข็งและสมานฉันท์ในประเทศ
กิจกรรมประกอบไปด้วย การแสดงระบำ 56 ชนชาติ การขับร้องเพลง นอกจากนั้นยังมีการร่วม ท่องบทกวีของขงจื่อ โดยประชาชนกว่าหมื่นคน และพร้อมกับแสดงความเคารพภาพเหมือนขงจื่อ
พิธีบูชาขงจื่อ ที่จัดขึ้นในครั้งนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมหลัก ในโอกาสเฉลิมฉลองครบ 10 ปีฮ่องกงคืนสู่จีน ซึ่งมีองค์กรหลักๆ ที่ร่วมกันจัดได้แก่ สถาบันขงจื่อฮ่องกง หนังสือพิมพ์ต้ากง สำนักงานฝ่ายข่าวสารมณฑลซันตง รวมทั้งวัดวาอารามต่างๆ ในฮ่องกง
ทั้งนี้ ขงจื่อ หรือ ขงจื้อ เป็นนักคิดและนักปรัชญาสังคมที่มีชื่อเสียงของจีน คำสอนของขงจื่อ นั้นฝังรากอิทธิพลลึกลงไปในสังคมเอเชียตะวันออกมาเป็นเวลาถึง 20 ศตวรรษ หลักปรัชญาของ ขงจื่อนั้นเน้นเกี่ยวกับศีลธรรมส่วนบุคคลและศีลธรรมในการปกครอง ความถูกต้องเหมาะสมของความสัมพันธ์ในสังคม และความยุติธรรมและบริสุทธิ์ใจ
(จาก Neteast)
พระสงฆ์นานาชาติร่วมประท้วงพม่า
• อินเดีย : พระสงฆ์ 300 รูป กว่า 10 ชาติ ได้แก่ พม่า ภูฏาน ญี่ปุ่น ศรีลังกา ทิเบต บังกลาเทศ
เวียดนาม ลาว อินเดีย เยอรมนี มองโกเลีย และไทย ได้ร่วมกันประท้วงรัฐบาลทหารพม่าที่ใช้กำลังเข้าปราบปรามพระสงฆ์และประชาชน โดยพระสงฆ์ทั้ง 300 รูปได้เดินอย่างสงบไปยังวัดมหาโพธิ์ในพุทธคยา พร้อมกับสวดมนต์ และเจริญเมตตา โดยมีเจ้าอาวาสวัดนันทวันทา ซึ่งเป็นพระสงฆ์ชาวพม่าเป็นผู้นำ
“เราเดินด้วยความสงบ และสวดมนต์แผ่เมตตาให้กับรัฐบาลทหารที่ได้ทำลายพระพุทธศาสนาในพม่า และสวดมนต์ให้กับพระสงฆ์ที่ได้รับความเจ็บปวดในการกระทำของ รัฐบาลในครั้งนี้” เจ้าอาวาสวัดนันทวันทากล่าว
(จาก Mizzima news)
ฟุตบอลเชื่อมมิตรภาพและสันติภาพ
• เกาหลีใต้ : พระสงฆ์เกาหลีเขี่ยฟุตบอลในพิธีเปิดฟุตบอลนัดกระชับมิตรระหว่างชาวพุทธ ชาวโรมันคาทอลิก และชาวโปเตสแตนท์ ในกรุงโซล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์และสันติภาพระหว่างศาสนา
(จาก Korea net)
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 84 พ.ย 50 โดยเภตรา)
ข่าวสารผ่านโลก
ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 2 พฤศจิกายน 2007.
-
-
ศาลาสรุปข่าว <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">2 พฤศจิกายน 2550 11:14 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> • สาธยายพระไตรปิฎก เฉลิมพระเกียรติ
สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ได้เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในพิธีเปิดสาธยายพระไตรปิฎกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องใน โอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ซึ่งกรม การศาสนาจัดขึ้นเป็นเวลา 57 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม ถึง 10 ธันวาคม โดย พระมหาณรงค์ศักดิ์ ฐิติยาโณ ผู้ดำเนินการ เปิดเผยว่าครั้งนี้จะเป็นการสาธยายพระไตรปิฎกรวม 45 เล่ม ต่อเนื่องตลอด 24 ชม.โดยไม่หยุดพัก เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยผู้ร่วมสาธยายมีทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิต สำหรับผู้ประสงค์จะเข้าร่วมการสาธยายครั้งนี้ สามารถไปเข้าร่วมที่มณฑลพิธีได้เลยตลอด 24 ชม.และโปรดสวมเสื้อเหลืองโดยพร้อมเพรียงกัน นอกจากนี้ กรมการ ศาสนาจะจัดสาธยายพระไตรปิฎกในส่วนภูมิภาค 8 จังหวัด คือ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธ์ หนองคาย อุดรธานี สกลนคร แม่ฮ่องสอน และชลบุรี ระหว่างวันที่ 1-5 ธันวาคม 2550
• รัฐบาลเตรียมจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ
รัฐบาลเตรียมจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 2-25 พ.ย.50 และที่อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1-15 ธ.ค.50 เพื่อให้ประชาชนได้ชื่นชมพระบารมี และถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างทั่วถึง นอกจากนี้รัฐบาลยังเปิดรับเรื่องราวการทำความดี โดยเปิดรับและเผยแพร่เรื่องราวการทำความดีในแง่มุมต่างๆ ในรูปแบบภาพถ่าย วีดิโอคลิป ข้อความ บทความผ่านทางเว็บไซต์ www.dogood.or.th และตู้ ปณ.80 ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นจะคัดเลือกผลงานเพื่อเผยแพร่ให้สาธารณชนได้รับทราบและนำไปเป็นแบบอย่างในการทำความดีต่อไป
• ไปรษณีย์ไทยเชิญชวนถวายพระพร เขียนส่ง ทางไปรษณีย์ฟรี 80 วัน
นางปริษา ปานะนนท์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า ในวโรกาส มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ไปรษณีย์ไทยจะจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อร่วมเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ด้วยโครงการ ‘80 วันบรรจง ร้อย...ถ้อยถวายพระพรชัย’ เพื่อให้พี่น้องประชาชนทั่ว ประเทศเขียนข้อความถวายพระพร ไม่ว่าจะเป็นจดหมาย ไปรษณียบัตร หรือโปสการ์ด ส่งมาที่ ตู้ ปณ.80 สำนักงาน ปณท.10002 ส่งได้ฟรีไม่ต้องติดแสตมป์ เป็นเวลา 80 วัน ทางไปรษณีย์พร้อมที่จะนำส่งทุกถ้อยคำถวายพระพรผ่านสำนักราชเลขาธิการเพื่อทูลเกล้าฯถวายติดต่อกันทุกวันตลอด โครงการ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2550
• เชียงใหม่เตรียมจัดงานศาสนิกสัมพันธ์ครั้งที่ 4
นายบพิตร วิทยาวิโรจน์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศาสนิกสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ ที่วัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเตรียมการจัดงานศาสนิกสัมพันธ์รวมใจ เทิดไท้องค์ราชันย์ ครั้งที่ 4 เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ซึ่งตัวแทนจากทุกศาสนาในจังหวัดเชียงใหม่ กำหนดร่วมกันจัดขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคม 2550 ณ พุทธ-สถานเชียงใหม่ โดยเริ่มต้นขบวนแห่ที่วัดพระสิงห์วรวิหารเวลา 15.00 น.ซึ่งกิจกรรมศาสนิกสัมพันธ์เป็นอีก กิจกรรมหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีของผู้ที่นับถือต่างศาสนากันในจังหวัดเชียงใหม่
• ม.แม่โจ้เตรียมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากศรีลังกา
รศ. ดร.เทพ พงษ์พานิช อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ เผยถึงพิธีอัญเชิญและสมโภชพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศศรีลังกา มาประดิษฐานชั่วคราว ณ มณฑลพิธี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายน ถึง 15 ธันวาคม 2550 นี้ โดยคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ได้รายงานถึงความพร้อมในการดำเนินงาน ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณากำหนดการในช่วงพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศศรีลังกา มายังสนามบินสุวรรณภูมิ ต่อถึงจังหวัดเชียงใหม่ และการรับเสด็จสมเด็จพระสังฆราชจากประเทศศรีลังกา ที่จะเสด็จมา ทรงร่วมงาน พร้อมสักการะพุทธสถานในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเวลา 4 วันระหว่าง 15-18 พฤศจิกายน 2550
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 84 พ.ย 50 โดย‘นววิธ’) -
ข่าวสารบ้านเรา <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">2 พฤศจิกายน 2550 11:45 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> ชลบุรีจัดงาน “พุทธบารมี 2 แผ่นดิน” เฉลิมพระเกียรติิ ‘ในหลวง’ 80 พรรษา
• ชลบุรี : นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานจัดประชุมคณะกรรมการจัดงาน“พุทธบารมี 2 แผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติ” เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญ พระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางพระพุทธศาสนา และวัฒนธรรมระหว่างไทย-จีน อันเป็นประเทศที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นมากว่า 700 ปี โดยมูลนิธิสว่างเอื้ออาทรธรรมสถาน ได้รับอนุญาตในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุองค์สำคัญที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในมรดกโลกจากวัดชิ่งซัน มณฑลส่านซี สาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมด้วยเครื่องราชสักการะโบราณของกษัตริย์จีนในอดีตอายุกว่า 1,500 ปี ที่ขุดพบพร้อมพระบรมสารีริกธาตุ มาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายน 2550 ถึงวันที่ 14 มกราคม 2551 เป็นเวลา 60 วัน ณ อาคารหอประชุมใหญ่ บ้านสุขาวดี อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพื่อให้พุทธศาสนิกชนชาวไทย และชาวต่างประเทศ ได้สักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และชมเครื่องสักการะโบราณของกษัตริย์จีนในอดีตด้วย โดยรายได้ทั้งหมดจากการรับบริจาคหลังหักค่าใช้จ่ายจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อสมทบทุนการจัดสร้างวัดนวมินทราชูทิศ นครบอสตัน สหรัฐอเมริกา
เตรียมจัดฉาย“พระเจ้าช้างเผือก”หนังสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2
• กรุงเทพฯ : คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) เป็นประธานงาน เทศกาลภาพยนตร์ภูเก็ต ที่ศูนย์การค้าจังซีลอน หาดป่าตอง จ. ภูเก็ต และเป็นตัวแทนรับมอบรางวัลเฟลลินี (The Fellini Silver Medal Award) ที่องค์การทางการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) มอบรางวัลดังกล่าวให้แก่หอภาพยนตร์แห่งชาติ ในฐานะที่มีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์และรักษามรดก ศิลปะภาพยนตร์ของไทยโดยเฉพาะภาพยนตร์เรื่อง พระเจ้าช้างเผือก (The King of the White Elephant) เป็นภาพยนตร์ไทยในสมัยก่อนสงครามโลก ครั้งที่ 2 พ.ศ.2483 และเป็นเพียงเรื่องเดียว ที่ยังคงมีฟิล์มภาพยนตร์สมบูรณ์ และมีการถ่ายทำฉากช้างที่สวยงามที่สุดในโลก
ดร.ซูซาน่า ออเนเจอร์ รองผู้อำนวยการยูเนสโกประจำประเทศไทย กล่าวว่า ภาพยนตร์พระเจ้าช้างเผือกเป็นส่วนหนึ่งในฐานะความทรงจำแห่งโลก และเป็นครั้งแรกที่หอภาพยนตร์ฯไทยได้รักษาภาพยนตร์นี้ ขณะที่ประเทศ
ในเอเชียไม่ค่อยให้ความสำคัญกับฟิล์มเก่า ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นด้วยเหตุผลด้านวัฒนธรรมไม่ใช่เชิงพาณิชย์ จึงนับว่าเป็นความสำคัญและมีคุณค่า ยูเนสโกพร้อมให้การสนับสนุนเพื่อให้ประเทศในเอเชียเห็นความสำคัญเรื่องการอนุรักษ์ฟิล์มเก่า ขอเชิญชวนให้ทุกคนในเอเชียและทั่วโลกได้ตระหนักและเห็นคุณค่าเห็นคุณค่าของฟิล์มเก่าด้วย
ทั้งนี้ หอภาพยนตร์ฯ จะนำภาพยนตร์เรื่องพระเจ้าช้างเผือก จัดฉายให้ กับประชาชนทั่วไปได้ชื่นชมประมาณต้นเดือนธันวาคมนี้ เป็นการร่วมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ที่โรงหอภาพยนตร์ฯ อ.ศาลายา จ.นครปฐม และเตรียมรวบรวมภาพยนตร์ไทยยุคเก่าประมาณ 100 เรื่องนำออกฉายด้วย
พศ.เปิดศูนย์เร่งด่วน ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
• นครปฐม : นางจุฬารัตน์ บุณยากร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวในการแถลงข่าวการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.)เมื่อเร็วๆนี้ว่า ตามที่ได้เกิดฝนตกหนักในเขตภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และส่งผลกระทบมาถึงภาคกลางนั้นทำให้วัดและชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเสียหายเป็นอย่างมาก โดยเบื้องต้นมีวัด 151 วัดจาก 12 จังหวัด ที่ได้รับ
เดือดร้อนเสียหายในครั้งนี้ โดยในเบื้องต้น พศ.ได้จัดสิ่งของไปช่วยเหลือบ้างแล้ว
สมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช รวมทั้งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีความรู้สึกห่วงใย จึงได้ดำเนินการตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเป็นการเร่งด่วน โดยขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภค ได้ที่บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา ภายในพุทธมณฑล ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หรือบริจาคเงินเข้าบัญชีกองทุนผู้ประสบภัยภาคใต้ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 059-0-01219-3 ธนาคารกรุงไทย สาขากระทรวงศึกษาธิการ
นอกจากนี้ พศ.ยังได้ประสานงานกับเจ้าคณะกทม.ทั้งสองนิกาย เพื่อแจ้งเจ้าคณะเขตทุกเขตในกรุงเทพมหานคร ตั้งหน่วยรับบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยเหลือประชาชนและวัดที่ได้รับความ เดือดร้อนจากอุทกภัยภาคต่างๆต่อไป
ร่วมทอดผ้าป่าพระราชทาน‘สมเด็จพระพี่นางฯ’ฉลองตราพระราชทานสัญลักษณ์วัดในพระองค์
• นครสวรรค์ : สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ นางสุมนา อภินรเศรษฐ์ รองประธานโครงการจัดสร้างเจดีย์ศรีพุทธคยาเฉลิมพระเกียรติเชิญองค์ ผ้าป่าพระราชทาน 15,938 กอง และพระราชทรัพย์ประดับองค์ผ้าป่าพระราชทาน 1 ล้านบาท ไปทอดที่วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ในพระองค์ฯ อ.ท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ ร่วมกับพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศที่ร่วมเป็นเจ้าภาพกองผ้าป่าพระราชทาน โดยเสด็จพระกุศลสมทบสร้างเจดีย์ศรีพุทธคยา เฉลิมพระเกียรติฯ ได้ยอดรวมทั้งหมด 7,999,999 บาท โดยมีคุณหญิงดรุณี พูลทรัพย์ เลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์, ม.ร.ว.ประกายฉัตร สุขสวัสดิ์ และพุทธศาสนิกชนจากทั่วประเทศ ไปร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง กัน ณ ห้องมหาราช วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ในพระองค์ฯ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2550 ที่ผ่านมา
หลังเสร็จพิธีทอดผ้าป่าพระราชทานแล้ว คณะสงฆ์ และคณะกรรมการโครงการจัดสร้างเจดีย์ศรีพุทธคยา เฉลิมพระเกียรติฯได้ร่วมประกอบพิธีสมโภชวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ในพระองค์ฯ และฉลองตราสัญลักษณ์วัด ที่ได้รับพระราชทานให้เป็นสิริสวัสดิ์แก่พสกนิกรชาวพุทธและชาวจังหวัดนครสวรรค์ด้วย โดยมีพระสงฆ์จำนวน 10 รูปเจริญพระพุทธมนต์ในโอกาสวันที่ 21 ตุลาคม 2550 ตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพ 107 ปี สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานผ้าไตร 10 สำรับเป็นกรณีพิเศษถวายแก่พระสงฆ์ทั้ง 10 รูป ที่มาสดัปกรณ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีด้วย
นางสุมนากล่าวว่า งานทอดผ้าป่าพระราชทานครั้งนี้ มี ประชาชนทุกหมู่เหล่าทั้งภาครัฐและเอกชนจากทั่วประเทศ ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพกองผ้าป่าพระราชทาน ตามรอยพระจริยวัตรในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ องค์ประธาน อีกทั้งเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2550
“ดิฉันในนามคณะกรรมการโครงการฯ ขออนุโมทนา ต่อความตั้งใจอันพิสุทธิ์ที่ได้ร่วมกันสร้างเจดีย์ศรีพุทธคยา เฉลิมพระเกียรติฯ ในโอกาสอันเป็นมหามงคลสมัย ถวายเป็นพระราชกุศล และถวายเป็นพระกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ผู้ทรงเป็น ฉัตรแก้วของแผ่นดินนั่นเอง”
เครือข่ายกฐินปลอดเหล้า สานต่อปณิธานหลวงพ่อปัญญา
• กรุงเทพฯ : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และเครือข่ายโครงการทอดกฐินปลอดเหล้า 4 ภาค ร่วมจัดโครงการ ‘กฐินปลอดเหล้า 2550 สืบสานปณิธานธรรม หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ’ เพื่อให้ชาวพุทธได้ตระหนักถึงการจัดงานบุญที่บริสุทธิ์ไม่ปนเปื้อน แอลกอฮอล์ โดยยึดหลักความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการดำเนินชีวิตอย่างมีสติ จะทำให้ชีวิตมีความสุขที่ ยั่งยืน อันเป็นการสืบสานปณิธานธรรมของพระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์
โดยในการแถลงข่าวโครงการทอดกฐินปลอดเหล้า ปี 2550 ที่วัดชลประทานรังสฤษฎ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายแพทย์มงคล ณ สงขลารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และตัวแทนภาคีเครือข่ายโครงการทอดกฐินปลอดเหล้า ได้ร่วมอธิษฐานจิต สืบสานปณิธานธรรมหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ในการจัดพิธีกรรมทางศาสนา แบบเรียบง่ายและประหยัด ตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้การทอดกฐินในปีนี้ลด ละ เลิก จากอบายมุข และละเว้นจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ กิจกรรมนี้ยังมีการมอบธงกฐินปลอดเหล้าแก่ผู้แทนแต่ละจังหวัด เพื่อนำไปรณรงค์ในจังหวัดของตัวเอง
นายแพทย์มงคลเปิดเผยว่า จะเร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เพื่อให้มีผลบังคับใช้ก่อน ปีใหม่นี้ เพราะเชื่อว่าจะช่วยลดปัญหาอุบัติเหตุ อาชญากรรม และการเจ็บป่วยที่มาจากเหล้า ซึ่งผลการสำรวจในปี 2549 พบว่าคนไทยซื้อเหล้ากว่า 140,000 ล้านบาทต่อปี
ประกวดข้อเขียน บทร้อยกรอง และคำขวัญ ครูของแผ่นดิน
• กรุงเทพฯ : นายจักรพรรดิ วะทา เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า คุรุสภาจะจัดประกวดข้อเขียน บทร้อยกรอง และคำขวัญเนื่องในโอกาสวันครูแห่งชาติ ปี 2551 เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนระลึกถึงพระคุณของคุณครู และแสดงความกตัญญูกตเวที รวมทั้งเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะครูของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ชิงรางวัลเงินสด พร้อมโล่เกียรติยศ ดังนี้ หนึ่ง ประกวดข้อเขียนความประทับใจที่ศิษย์มีต่อครู ที่เป็นข้อความร้อยแก้ว แต่มิใช่เรียงความหรือบทความ โดยกำหนดชื่อข้อเขียนเอง และต้องเขียนตัวบรรจงด้วยลายมือของผู้เขียน เท่านั้น ความยาวไม่น้อยกว่าครึ่งหน้า แต่ไม่เกินหนึ่งหน้ากระดาษ A4 สอง ประกวดบทร้อยกรองเทิดพระเกียรติคุณครู ในหัวข้อ “ครูของแผ่นดิน” แบ่งการประกวดเป็น 3 ประเภท คือ ประเภทประชาชน และนิสิตนักศึกษาระดับอุดมศึกษา รวมอาชีวศึกษา ระดับ ปวส. เป็นโคลงสี่สุภาพ จำนวน 5 บท ร้อยสัมผัสระหว่างบท ประเภทมัธยมศึกษาตอนปลาย อาชีวศึกษา ระดับ ปวช. และมัธยมศึกษาตอนต้น เป็นกลอนสุภาพ จำนวน 6 บท และประเภทประถมศึกษาปีที่ 4-6 เป็นกาพย์ยานี 11 จำนวน 4 บท สาม ประกวดคำขวัญวันครู เป็นคำคล้องจอง ไม่เกิน 16 พยางค์ และต้องมีคำว่า “ครู” อยู่ในคำขวัญ พร้อมสื่อให้เห็นถึงความสำคัญของวิชาชีพครู สมกับการยกย่อง ให้เป็นปูชนียบุคคล ตลอดจนความกตัญญูรู้คุณครู
ผลงานที่ส่งเข้าประกวด จะต้องไม่เคยได้รับรางวัล และไม่เคยตีพิมพ์เผยแพร่มาก่อน ส่งได้คนละ 1 สำนวน โดยระบุ ชื่อ นามสกุล อายุ อาชีพ การศึกษา และที่อยู่ พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ ส่งภายในวันที่ 30 พ.ย.50 ยกเว้นประกวดข้อเขียนร้อยแก้ว ส่งภายในวันที่ 20 พ.ย.50
ส่งไปได้ที่กลุ่มส่งเสริมยกย่องวิชาชีพ สำนักพัฒนาและส่งเสริมวิชาชีพ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ถนนราชสีมา เขตดุสิต กรุงเทพฯ10300 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา โทร.0-2281-4843,0-2281-6151 หรือ www.ksp.or.th
นำพระไตรปิฎกสากล จัดแสดงในงานมหกรรมหนังสือโลก
• กรุงเทพฯ : สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ องค์ประธานกิตติมศักดิ์การประดิษฐานพระไตรปิฎกสากลในนานาประเทศ โปรดเกล้าฯ ให้นำพระไตรปิฎกสากลภาษาบาลีอักษรโรมัน ชุด 40 เล่ม ชุดสมบูรณ์ชุดแรกของโลก และหนังสือพระไตรปิฎกศึกษาอ้างอิง ชุด 40 เล่ม ซึ่งจัดพิมพ์ ขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้ โดยกองทุนสนทนาธัมม์นำสุขฯ ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ไปแสดงในงานมหกรรมหนังสือโลก ณ กรุงแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 9-14 ตุลาคม 2550 ในฐานะที่เป็นผลงาน ‘ภูมิปัญญาไทยสากล’
พระไตรปิฎกสากลอักษรโรมันและหนังสืออ้างอิงทั้งสองชุดนี้ ได้จัดพิมพ์ขึ้นด้วยเทคโนโลยีด้าน ต่างๆ ที่ทันสมัย อาทิ การสร้างฐานข้อมูลมาตรฐาน การเรียงพิมพ์ด้วยโปรแกรมเปิดรหัสต้นฉบับ และการจัดพิมพ์ด้วยระบบดิจิตอลสีคุณภาพสูงเทียบเท่าระบบการพิมพ์ออฟเซ็ท แต่สามารถพิมพ์ได้รวดเร็วกว่า ซึ่งทำให้สามารถพิมพ์หนังสือที่ เป็นชุด ชุดละหลายเล่มได้ทุกเมื่อตามความต้องการ ในจำนวนและลักษณะเฉพาะของแต่ละชุดที่ต้องการด้วย ทั้งนี้ พระไตรปิฎกสากลอักษรโรมันชุดนี้ก็ได้สร้างฐานข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ที่มีศักยภาพสำหรับให้บริการเว็บเซอร์วิสด้วย นับเป็นการนำภูมิปัญญาไทยเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีที่เป็นสากลเพื่อสร้างฐานปัญญาและสันติสุข
พศ.ทำสารคดีโทรทัศน์เฉลิมพระเกียรติ “ถ้อยธรรม พระราชดำรัส”
• กรุงเทพฯ : เมื่อเร็วๆนี้ รศ.ดร.ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) และนางจุฬารัตน์ บุณยากร ผอ.พศ. ได้ร่วมกันแถลงข่าวความเป็นมาและความสำคัญของโครงการสารคดีโทรทัศน์เฉลิมพระเกียรติ ณ ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล
รศ.ดร.ธีรภัทร์ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2550 ตนได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนา แห่งชาติ จัดทำสารคดีโทรทัศน์เฉลิมพระเกียรติเรื่องถ้อยธรรมพระราชดำรัสทั้งนี้ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงเป็นพุทธมามกะและทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก ทรงมีศรัทธามั่นคงในบวรพระพุทธศาสนา และทรงยึดมั่นในหลัก ทศพิธราชธรรม พระราชกรณียกิจต่างๆที่ทรงปฏิบัติเพื่อ ประโยชน์สุขแก่ประเทศชาติและประชาชน ล้วนแต่แสดงให้ เห็นถึงความนับเนื่องในทศพิธราชธรรมทั้งสิ้น สารคดี ดังกล่าวได้กราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตนำพระบรมราโชวาท และพระราชดำรัส ที่เป็นคติธรรม หรือที่เกี่ยวข้องกับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ที่ทรงพระ-กรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานเนื่องในมงคลวโรกาสต่างๆ มาจัดทำเป็นสารคดี และได้นิมนต์พระสงฆ์ กราบเรียนเชิญ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ นักวิชาการและบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิสาขาต่างๆ เพื่อร่วมถ่ายทอดประสบการณ์และความรู้สึก อันเกิดจากการนำพระบรมราโชวาทหรือพระราชดำรัสเกี่ยวกับหลักธรรมมาใช้ในการ ดำเนินชีวิตส่วนหนึ่งด้วย
“ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสารคดีชุดนี้จะมีประโยชน์ ต่อเยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา และพุทธศาสนิกชน ทุกท่านในการน้อมนำพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัส ไปประพฤติปฏิบัติและเป็นเครื่องชี้ทางในการดำเนินชีวิต อันจะนำปสู่ความผาสุกของตนเองและสังคมอย่างยั่งยืนต่อไป”
นางจุฬารัตน์ กล่าวว่า สารคดีดังกล่าวมีความยาว 1 นาที รวม 120 ตอน จะออกเผยแพร่ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลาประมาณ 17.28 - 17.29 น. ทางสถานี โทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2550-เดือนพฤศจิกายน 2551
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 84 พ.ย 50 โดยมรรคา)