ข้อความจากต่างมิติ - การดาวน์โหลด และ การผสานรวมเข้ากับตัวตนหลากมิติของตัวเราเอง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 25 พฤษภาคม 2013.

  1. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความจากไกอา เรื่อง การปรับตั้งค่าใหม่ให้กับจักระของคุณ
    (Recalibrating Your Chakras)


    ที่มา: http://www.multidimensions.com/Superconscious/super_intuition_home.html

    ตอนที่ 3: การเปลี่ยนแปลงคลื่นความถี่ของตัวคุณเอง
    (Changing Your Frequency)



    จักระแต่ละจักระจะสั่นสะเทือนอยู่ในคลื่นความถี่ที่แตกต่างกัน
    ซึ่งจะสอดคล้องกับคลื่นสมองของพวกคุณ ในแต่ละสภาวะความตระหนักรู้/จิตสำนึก

    คลื่นสมอง ก็เหมือนกับคลื่นชนิดอื่นๆ ที่จะวัดค่าได้ 2 วิธี วิธีแรกคือการวัดค่า “ความถี่” ของมัน
    หรือการวัดความเร็วของพัลส์ทางไฟฟ้า (electrical pulses) ของมัน

    ความถี่ของคลื่นสมอง จะวัดค่าออกมาเป็น รอบต่อวินาที หรือ เฮิร์ซ (cps หรือ Hz)
    ซึ่งจะมีช่วงตั้งแต่ 0.5 Hz ไปจนถึง 38 Hz

    ส่วนวิธีที่สองที่ใช้ในการวัดค่าคลื่นสมองก็คือการวัดค่าความสูงของคลื่น
    หรือการวัดค่า amplitude ของมัน หรือก็คือค่าความแรงของคลื่นสมองนั่นเอง

    เมื่อใดที่สมองจดจ่ออยู่กับโลกภายนอก คลื่นสมองจะมีความถี่สูงกว่า และมีความแรงของคลื่นต่ำกว่า
    แต่ถ้าเมื่อใดที่สมองจดจ่ออยู่กับโลกภายใน คลื่นสมองก็จะมีความถี่ที่ต่ำกว่า และมีความแรงของคลื่นมากกว่า


    คลื่นสมองมีอยู่ 4 ระดับ ได้แก่

    1. คลื่นเบต้า (Beta waves): จะเกี่ยวกับการจดจ่ออยู่กับโลกภายนอกล้วนๆ
    มีความถี่อยู่ระหว่าง 13 – 39 รอบต่อวินาที

    2. คลื่นแอลฟ่า (Alpha waves): จะผสมผสานระหว่างการจดจ่ออยู่กับโลกภายนอกและโลกภายใน
    มีความถี่อยู่ระหว่าง 8 – 12 รอบต่อวินาที

    3. คลื่นธีต้า (Theta waves): จะเกี่ยวกับการจดจ่ออยู่กับโลกภายในเป็นหลัก
    มีความถี่อยู่ระหว่าง 4 – 7 รอบต่อวินาที

    4. คลื่นเดลต้า (Delta waves): จะเกี่ยวกับการจดจ่ออยู่กับโลกภายในล้วนๆ
    มีความถี่อยู่ระหว่าง 0.5 – 4 รอบต่อวินาที

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - ปล.ตัวเลขอาจจะไม่ตรงกับในข้อความทั้ง 100% นะครับ)


    จากภาพวาด พวกคุณจะเห็นว่า ความสูงของคลื่น หรือ ความแรงของคลื่น
    จะเพิ่มมากขึ้นเมื่อความถี่ของคลื่นลดลง และเมื่อใดที่ตัวตนหลากมิติของพวกคุณ
    สามารถบูรณาการเข้ากับร่างกายเนื้อของพวกคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
    พวกคุณก็จะสามารถใช้คลื่นสมองทั้ง 4 แบบนี้ ผสมผสานกันได้

    ความจริงแล้ว มันยังมีคลื่นสมองที่มีความถี่สูงและต่ำกว่านี้อยู่อีก
    ที่พวกคุณจะสามารถเข้าถึงได้ เมื่อจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณ ขยายตัวมากขึ้นแล้ว
    ซึ่งจะช่วยให้พวกคุณท่องเที่ยวระหว่างมิติได้

    ตอนนี้ พวกคุณได้ดาวน์โหลดเอาคลื่นความถี่ของมิติที่ 5 และ 6
    เข้ามาไว้ในจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของตัวเองแล้ว
    ดังนั้น จักระของพวกคุณ จึงจำเป็นจะต้องได้รับการปรับตั้งค่าใหม่ด้วย
    เพื่อให้มันยอมรับ, บูรณาการเอา และใช้งาน คลื่นความสั่นสะเทือนระดับสูงเหล่านี้ได้
    ในชีวิตประจำวันของพวกคุณ

    และเมื่อใดที่จักระต่างๆของพวกคุณสามารถยอมรับและบูรณาการเอาคลื่นความถี่จากมิติที่สูงๆกว่าเหล่านี้ได้แล้ว
    จักระของพวกคุณก็จะสามารถบูรณาการเอาคลื่นความถี่ระดับสูงเหล่านี้
    เข้ามาไว้ในร่างกายเนื้อของพวกคุณเองได้ อย่างช้าๆและอย่างปลอดภัย

    และเพราะว่าจักระแต่ละจักระของพวกคุณนั้น
    ทำหน้าที่ควบคุมส่วนต่างๆ
    ของร่างกายเนื้อของพวกคุณไม่เหมือนกัน
    ดังนั้น การบูรณาการเอาแสงสว่างระดับสูงกว่าเหล่านี้
    เข้ามาในแต่ละจักระของพวกคุณ
    จึงจะทำให้เกิด “อาการแห่งการเปลี่ยนรูปแบบ” ขึ้นมากมาย
    ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณ
    และภายในโลกแห่งความเป็นจริง
    ในชีวิตประจำวันของพวกคุณด้วย

    คลื่นสมองที่จดจ่ออยู่กับโลกภายใน ที่มีความถี่ต่ำที่สุด และมีแอมพลิจูดสูงที่สุดนั้น
    จะอยู่ใกล้ๆกับกะหม่อมบนศรีษะของพวกคุณ
    ส่วนคลื่นสมองที่จดจ่ออยู่กับโลกภายนอกเพียงอย่างเดียว ที่มีความถี่สูงที่สุด
    และมีแอมพลิจูดต่ำที่สุดนั้น จะอยู่ที่บริเวณใกล้ๆกับฐานของกระดูกสันหลังของพวกคุณ

    จักระทั้ง 7 ของพวกคุณแต่ละจักระ จะตั้งอยู่ในบริเวณที่แตกต่างกัน
    ตลอดความยาวของกระดูกสันหลังของพวกคุณ
    และแต่ละจักระ ก็จะต่อประสานอยู่กับ “ต่อมไร้ท่อ” และ “ร่างแหเส้นประสาท”
    ที่อยู่ในบริเวณที่จักระนั้นๆตั้งอยู่

    และเพราะว่าต่อมไร้ท่อและร่างแหเส้นประสาททั้งหลาย
    คือศูนย์กลางการติดต่อสื่อสารของปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นภายในร่างกายทั้งหมด
    ดังนั้น การบูรณาการเอาแสงสว่างจากมิติที่สูงกว่า
    เข้ามาในต่อมไร้ท่อและร่างแหเส้นประสาทเหล่านี้
    จึงสามารถช่วยในการบูรณาการเอาแสงสว่างจากมิติที่สูงกว่า
    เข้ามาในร่างกายเนื้อทั้งร่าง ได้อย่างมากด้วย

    ..............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2014
  2. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความจากไกอา เรื่อง การปรับตั้งค่าใหม่ให้กับจักระของคุณ
    (Recalibrating Your Chakras)


    ที่มา: http://www.multidimensions.com/Superconscious/super_intuition_home.html

    ตอนที่ 4: ผสานรวมความเป็นขั้วเข้าด้วยกัน (Blending Polarities)


    จักระแต่ละจักระจะเป็นตัวแทนของแต่ละส่วนของตัวคุณเอง
    รวมถึงจะเป็นตัวแทนของคุณสมบัติ แต่ละคุณสมบัติ
    ของโลกแห่งความเป็นจริงในมิติที่ 3 ที่มีความเป็นขั้วนี้ของพวกคุณด้วย

    เมื่อใดที่แต่ละจักระ สามารถบูรณาการเข้ากับความสั่นสะเทือนของมิติที่ 5 และ 6 ได้แล้ว
    จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณ ก็จะถูกบูรณาการเข้ามาด้วย
    และขั้วทั้งสองของจักระนั้นๆ ก็จะเริ่มหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน...

    ........................................

    จิตไร้สำนึก, จิตสำนึก และ จิตเหนือสำนึก
    (Unconscious, Conscious and Superconscious Minds)



    กระบวนการบูรณาการเอาแสงสว่างจากมิติที่สูงกว่าเข้ามาสู่จักระของพวกคุณนั้น
    จะแบ่งโลกแห่งความเป็นจริง 3 มิติของพวกคุณออกเป็น 3 ส่วน
    ซึ่งได้แก่ ส่วนที่อยู่ในจิตไร้สำนึก, ส่วนที่อยู่ในจิตสำนึก, และส่วนที่อยู่ในจิตเหนือสำนึก
    ดังนั้น มันจึงจะไม่ท่วมท้นมากจนเกินไป

    ซึ่งการปรับตั้งค่าใหม่ให้กับจักระของพวกคุณนี้ จะเริ่มต้นที่จักระที่ 1, 2 และ 3 ของพวกคุณก่อน
    ซึ่งโดยปกติแล้วจักระที่ 1 และ 2 จะเป็นจักระที่อยู่ในส่วนของ “จิตไร้สำนึก”
    ของโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณ ส่วนจักระที่ 3 นั้น จะเป็นจักระที่คาบเกี่ยวอยู่ระหว่าง
    ส่วนที่เป็นจิตสำนึกและจิตไร้สำนึก ของโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณ

    จากนั้น พวกเราจึงจะไปต่อกันที่ โลกแห่งความเป็นจริงส่วนที่อยู่ในจิตสำนึกของพวกคุณ
    ซึ่งได้แก่จักระที่ 4 และ 5 ของพวกคุณ และสุดท้าย พวกเราถึงจะไปเปิดตาที่ 3
    และบูรณาการเอาแสงสว่างจากมิติที่สูงกว่าเข้ามาในตาที่ 3 ของพวกคุณ

    ซึ่ง ณ.จุดนั้น พวกเราก็จะเปลี่ยนไปดาวน์โหลดเอาจักระของพวกคุณ
    เข้าไปใส่ไว้ในดาวเคราะห์โลก เพื่อที่พวกคุณจะได้กราวด์อยู่กับดาวเคราะห์โลก
    ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ก่อนที่พวกคุณจะไปกระตุ้นให้ “แท่นลงจอด” (landing pad)
    ของตัวตนหลากมิติของพวกคุณ ซึ่งก็คือ จักระที่ 7 ของพวกคุณเอง
    เกิดการทำงานขึ้นมา

    ซึ่งการบูรณาการเข้ากับจักระที่ 7 นั้น จะทำให้พวกคุณมีพลังอำนาจ
    ในการเปิดประตูสู่ “การทำภาระกิจของตัวเองให้สำเร็จลุล่วง” ได้

    ………………..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2013
  3. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    บางส่วนข้อความจากไกอา
    เรื่อง: สรุปเรื่องจักระ (Chakras Summary)


    ที่มา:
    http://www.multidimensions.com/Superconscious/super_intuition_home.html


    ...จักระแต่ละจักระจะทำหน้าที่เป็นประตูสู่ประสบการณ์
    และ เป็นช่องทางสำหรับติดต่อสื่อสารกับมิติต่างๆ
    เพื่อปรับจูนพวกคุณให้เข้ากับตัวตนหลากมิติของตัวเอง

    จักระที่ 1 หรือ Root chakra คือจุดเชื่อมต่อของพวกคุณ กับดาวเคราะห์โลก

    ส่วนจักระที่ 7 หรือ Crown chakra นั้น คือจุดเชื่อมต่อของพวกคุณ
    กับตัวตนอันไร้ขีดจำกัดของตัวพวกคุณเอง

    ส่วนจักระที่ 4 หรือ Heart chakra นั้น คือจุดที่โลกแห่งความเป็นจริง 3 มิติ
    ที่มีความเป็นขั้วทั้งสองโลกนี้ มาพบกัน

    ส่วนจักระที่ 2 หรือ Novel chakra คือ lower octave ของจักระที่ 5 หรือ Throat chakra

    เช่นเดียวกับที่จักระที่ 3 หรือ Solar Plexus chakra ที่เป็น lower octave ของจักระที่ 6
    หรือ Third eye chakra

    เมื่อพวกคุณบูรณาการเอาแสงสว่างจากมิติที่สูงกว่าเข้ามาในระบบจักระของพวกคุณแล้ว
    พวกคุณก็จะสามารถแผ่กระจาย และ ผสานรวมคลื่นความสั่นสะเทือนที่สูงกว่านี้
    ให้ไปอยู่ทั่วร่างกายเนื้อของตัวเองได้

    และเมื่อใดที่พวกคุณเสร็จสิ้น “การเสียบปลั๊ก” ของตัวเองเข้ากับดาวเคราะห์โลกแล้ว
    และได้เปิดตัวเองสู่จักรวาลแล้ว พวกคุณก็จะสามารถกระตุ้นจักระอื่นๆที่นอกเหนือจากนี้
    ที่กายแห่งแสงสว่าง ที่กำลังขยายตัวขึ้นของพวกคุณต้องการได้

    และเมื่อใดที่ร่างกายเนื้อของพวกคุณได้เปลี่ยนไปแล้ว
    จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณ ก็จะเปลี่ยนไปด้วย
    รวมถึงคลื่นสมอง, ประสบการณ์ชีวิต
    และโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณ
    ก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย

    และเมื่อใดที่พวกคุณสามารถเปลี่ยนคลื่นความถี่ของพลังงาน
    ที่พวกคุณแผ่ออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงของตัวเองได้แล้ว
    โฮโลแกรมส่วนตัวของพวกคุณ ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย
    เพื่อสะท้อนถึงระดับความสั่นสะเทือนใหม่ที่สูงขึ้นนี้


    แล้วฉันจะกลับมาใหม่เร็วๆนี้
    ไกอา


    …………………….

     
  4. ศารทวิศุวต

    ศารทวิศุวต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    249
    ค่าพลัง:
    +368
    เป็นเรื่องบังเอิญหรืออะไรดลใจไม่ทราบได้ เมื่อ2-3วันก่อนได้อ่านบทความเกี่ยวกับคลื่นความถี่ในสมองและการปรับคลื่น ตามเว๊บต่างๆนี่แหละครับ คลื่นสมองกับพลังพิเศษในตัวคุณ คลื่นสมอง, คลื่นเบต้า, คลื่นอัลฟ่า, คลื่นเธต้า, คลื่นเดลต้า,
    BrainWave คลื่นสมอง | magicboxaudio.com และยังมีอีกหลายเว๊บ คืออยากจะโพสถามความเห็นคุณชยุตแต่กลัวจะเป็นการรบกวน ก็พอดีคุณชยุตโพสขึ้นมา
    คือมีเครื่องมือสร้างคลื่นความถี่สมองด้วยการใช้เสียงเพลงกระตุ้น ตัวอย่างในนี้เลยครับ มายด์แมชีน เครื่องเพิ่มประสิทธิภาพสมอง สัญชาติไทย คืออยากถามว่าหากจะเริ่มต้นสัมผัสกับประสบการณ์เกี่ยวกับสมาธิต่างๆ เครื่องมือที่ว่านี้จะมีประโยชน์หรือเปล่าครับ
    ขอความเห็นด้วยครับ ขอบคุณครับ หลายๆท่านที่มีความเห็นแบ่งปันด้วยครับ
    rabbit_run_away: Boo; K01
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2013
  5. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เครื่องมือพวกนี้ เกิดจากการคิดค้นและวิจัยมาแล้ว
    ของนักวิทยาศาสตร์ทางจิตทั้งหลาย
    และรวมถึงต่างมิติหลายท่านก็เคยพูดเอาไว้หลายครั้ง ในหลายโอกาส
    ว่ามันจะสามารถเหนี่ยวนำให้เราเข้าสู่สมาธิได้เร็วขึ้น
    และรวมถึง ปกติคลื่นเสียง ไม่ว่าชนิดใดก็ตาม
    ก็จะมีอิทธิพลต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆมากอยู่แล้ว

    ดังนั้น ลองดูเลยครับ แต่ก็อย่าไปเข้าใจผิดว่า
    พอฟังปุ๊บ มันจะทำให้เคลื่อนสมองของเรา
    เปลี่ยนไปเป็นคลื่นระดับนั้นๆทันที
    เพราะว่ายังไงเสียคลื่นสมองปกติของเรา
    มันก็ยังจดจ่อกับภายนอกอยู่ คืออยู่ในระดับเบต้าอยู่
    แม้ว่าคลื่นที่เราฟังอาจจะเป็นคลื่นแอลฟ่าหรือธีต้าก็ตามที

    ดังนั้น ผมถึงใช้คำว่ามันจะเหนี่ยวนำ ไงครับ
    แต่จะสำเร็จหรือไม่ก็แล้วแต่สมาธิของเราเองด้วยครับ

    แต่ผมก็ฟังไฟล์คลื่นเสียงแบบนี้มาหลายปีแล้วหละครับ
    และโดยส่วนตัวก็ชอบมากด้วยครับ เพราะรู้สึกถูกฉโลก
    กับการใช้คลื่นเสียงช่วยในการทำสมาธิแบบนี้มาก
    มันลุ่มลึกดี และ รู้สึกดีๆบอกไม่ถูกครับ แต่ว่า
    ต่างคนก็อาจจะมีประสบการณ์ต่างกันได้นะครับ

    ....................................................
    แหล่งดาวน์โหลดไฟล์คลื่นเสียงฟรี มีอยู่หลายที่
    แต่ที่ๆผมรู้จักมีอยู่เวปหนึ่ง คือที่นี่ครับ..


    รวมดนตรีบำบัดปรับจูนคลื่นสมอง - Buddhism Audio

    เสียงดนตรีเพิ่มพลัง จักระ - Buddhism Audio

    "Healing Music" - Buddhism Audio
    .....................................
     
  6. ศารทวิศุวต

    ศารทวิศุวต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    249
    ค่าพลัง:
    +368
    ขอบคุณครับ คุณชยุต เนื่องจากผมเป็นคนสมาธิสั้น และ ค่อนข้างยุ่งเหยิง จริงแล้วจุดประสงค์หลักของผมคือ ผมกำลังจะหาวิธีติวข้อสอบให้ได้ผล เพราะกำลังจะสอบ ภาค ก.ในเดือน กค.นี้ และอีกอย่างหนึ่งคือ ผมมีอาการได้ยินเสียงวี๊ดๆจี๊ดๆเหมือนคลื่นความถี่สูงๆในกระโหลกผมเนี่ย เผื่อว่าเครื่องมือที่ว่านี้จะไป กระตุ้นให้มันระเบิดออกมาได้ จะสติแตกหรือคลุ้มคลั่งเป็นไงจะได้รู้ รักษาทัน ( ไม่รู้นะ แต่รู้สึกว่ามันอาจจะเกี่ยวๆกันก็ได้ ) เพลงบรรเลงเพื่อผ่อนคลายผมก็ชอบฟังมากโหลดเก็บไว้ฟังหลายเพลงจนไม่ได้ฟังเพลงตามท้องตลาดเลย
     
  7. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ลองเข้าไปอ่านกระทู้นี้โพสต์ที่ 5 หรือ ตอนที่ 4 ดูหน่อยนะครับ
    เพื่อจะได้ไอเดียอะไรบ้าง


    "ข้อความจากต่างมิติ-–-การกระตุ้น-light-body-ทั้ง-12-ระดับ-เพื่อเลื่อนระดับขึ้นไปสู่มิติที่-5"

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...-เพื่อเลื่อนระดับขึ้นไปสู่มิติที่-5-a.302490/

    ..............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2014
  8. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    Blossom Goodchild - May 19, 2013

    Blossom Goodchild - May 19, 2013


    อยากให้เข้าไปอ่านกันหนะครับ ตอนแรกผมก็กะว่าจะ copy ภาษาอังกฤษ
    มาแปะไว้ในนี้ให้อ่านกันหนะนะครับ แต่ว่าดูแล้วยาวมาก ก็เลยเปลี่ยนใจ
    ก็เลยว่าจะสรุปย่อๆให้ฟังเลยดีกว่า เพราะว่าคงไม่มีเวลาแปลแน่ๆ

    ชาว Arcturian พูดอยู่เสมอ ทั้งในกระทู้นี้และกระทู้อื่นๆของผม
    ว่ามนุษย์โลก และ โลกมนุษย์นี้ คือการทดลองอย่างหนึ่งของเบื้องบน
    พวกเขากำลังต้องการทดลองดูว่า

    "วิญญาณ จะสามารถอาศัยอยู่ในวัตถุธาตุทางกายภาพได้ไหม?"

    และข้อความของท่านมหาเทพเมตาตรอน ก็พูดว่าโลกในมิติที่ 3 ของเรานี้
    คือการทดลองอย่างหนึ่งเหมือนกัน แต่ผมจำไม่ได้ว่าพูดเอาไว้ที่ไหนบ้าง

    และผมจำได้ไม่ชัดนักว่า ท่านซาลูซ่าเคยพูดเอาไว้แบบนี้ด้วยหรือเปล่านะ
    แต่คลับคล้ายคลับครา..

    และเมื่อเร็วๆนี้ อันที่จริง เขาก็พูดมาตลอดเรื่อยๆหนะแหละ คือรูปธรรมชีวิตต่างมิติ
    ที่สื่อสารมาถึงนาง Blossom Goodchild เขาพูดไว้เมื่อ วันที่ 19/5/13 นี้ว่า
    โลกมนุษย์ของเรา คือการทดลองอย่างหนึ่ง ที่เกิดจากการร่วมมือกันหลายฝ่าย
    ของรูปธรรมชีวิตชั้นสูงแห่งแสงสว่างทั้งหลาย ซึ่งการทดลองที่ว่านี้ ก็เริ่มตั้งแต่
    การออกแบบ และ สร้างมนุษย์ขึ้นมา โดยอาศัยเทคโนโลยี-ความรู้
    ที่แต่ละดวงดาว แต่ละพวกเชี่ยวชาญอยู่ ร่วมกัน แล้วจากนั้น ก็นำมนุษย์มาไว้ที่โลกนี้

    (และอันที่จริงแล้ว ดาวเคราะห์โลกดวงนี้ จากข้อมูลของชาว Arcturian และจากไกอาเองแล้ว
    ไกอาคือรูปธรรมชีวิตที่อยู่ในมิติที่ 6 มาก่อน และเป็นดวงดาวที่อยู่ในกลุ่มของ
    ดาวลูกไก่มาก่อน แต่เพราะไกอาอยากจะมาหาประสบการณ์ที่ท้าทาย
    ก็เลยอาสามาเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยให้กับสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากการทดลองในครั้งนี้
    จนกระทั่งถึงทุกวันนี้)

    ผมก็เลยเห็นว่า มันเป็นประเด็นน่าสนใจดี เพราะว่าใครๆก็พูดแบบนี้กันทั้งนั้น
    แล้วความจริงแล้วมันคืออะไรกันแน่ แล้วถ้ามันเป็นอย่างที่พวกเขาพูดมาจริงๆหละ
    เราที่พวกเราหลงยึดติดกันนักกันหนากับสิ่งต่างๆทางโลก กับบทละครชีวิตทางโลก
    และกับสัมพันธภาพทางโลกอยู่นี้หละ มันหมายความว่าอย่างไร

    นี่ยังไม่นับความเชื่อทางศาสนาที่เหนียวหนึบของพวกเราอีกนะครับ
    ที่ยึดติดเหนียวแน่น จนเครียดไปหมด จนเห็นชีวิตเต็มไปด้วยทุกข์
    เต็มไปด้วยบาป เต็มไปด้วยกรรม ซะหมด จนอยากจะหนีไปซะให้พ้นๆ
    ในที่ไหนซักแห่งหนึ่ง ที่จะไม่ต้องมาเกิดอีกแล้ว..

    ดูซิ..ทัศนคติระหว่างความเชื่อทางศาสนา กับของต่างมิติ ต่างกันลิบลับเลย

    ...............................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2013
  9. ศารทวิศุวต

    ศารทวิศุวต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    249
    ค่าพลัง:
    +368
    ขอบคุณครับคุณชยุต นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ได้อ่านกระทู้นี้ ครั้งที่แล้วก็คุณชยุตนี่แหละแนะนำไห้อ่าน ยอมรับว่าอาการ และ เหตุการณ์ต่างๆหลายๆข้อเกิดขึ้นจริงๆ แต่ไม่มีเห็นเป็นสมการทางเรขาคณิตวิ่งอยู่ในความคิด และจะต่างกันก็ตรงที่ว่า ระดับที่9เกิดขึ้นก่อนระดับที่8 แต่ผมก็ยังไม่สรุปอะไรนะครับขอเฝ้าสังเกตุดูก่อน rabbit_run_away : Boo ; K01
    ตอนที่ 4: Light Body - ระดับที่ 8

    ระดับที่ 8 ของกายแห่งแสงสว่าง จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอย่างรุนแรงในบางเรื่อง
    ซึ่งอาการโดยทั่วไปของร่างกาย ก็จะคล้ายๆกับการติดเชื้อไวรัสบางชนิด และในระหว่างที่อยู่ในระดับนี้
    พวกคุณอาจจะสังเกตได้ว่าพวกคุณจะเป็นไข้หวัดเดือนละครั้ง

    ส่วนอาการอื่นๆ ก็เช่น ปวดหัว (บริเวณหลังลูกตา) เพราะว่าเส้นประสาทตา ที่เป็นเส้นทางเดินของแสง
    ถูกเปิดการทำงานขึ้น และต่อมไพเนียล (pineal grand) ถูกกระตุ้นให้ทำงานขึ้น

    พวกคุณอาจจะมีอาการปวดหู เพราะว่าโครงสร้างของหูของพวกคุณ ถูกต่อสายใหม่
    ให้สามารถถอดรหัสข้อมูลแห่งแสงสว่างได้ และพวกคุณอาจจะมีอาการเหงื่อออกมาก หรือท้องเสีย
    เพราะว่าเซลในร่างกายของพวกคุณ มีความหนาแน่นน้อยลง

    อีกนัยยะหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็คือ พวกคุณกำลังเพิ่มเกลียวทางกายภาพของ DNA เกลียวที่ 3 เข้าไปอยู่

    พวกคุณบางคน อาจจะมีอาการต่อต้านการลดลงของความหนาแน่นของร่างกาย
    อันเกิดจากการเลื่อนระดับลงมาของวิญญาณดังกล่าวนี้ ซึ่งอาการก็จะแสดงออกมาในรูปแบบของการมีน้ำหนักเพิ่ม

    เพราะว่าร่างกายของมนุษย์ มักจะพยายามรับมือกับการลงมาของวิญญาณ ด้วยการทำให้ตัวเองใหญ่โตขึ้น
    เพื่อที่จะรองรับน้ำหนักของวิญญาณ ที่กำลังลงมาและเข้ามาอยู่นั้นได้

    มันมีวิธีที่ได้ผลอยู่เพียงวิธีเดียว ที่จะหยุดยั้งการเพิ่มขึ้นของน้ำหนัก เมื่อมันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
    นั่นก็คือการออกกำลังกาย เราหมายถึงการออกกำลังกายอย่างหนัก เช่น การยกน้ำหนัก, การปั่นจักรยาน,
    การวิ่ง หรือการว่ายน้ำอะไรแบบนั้นนะ



    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


    เพราะว่าการออกกำลังกาย จะต้องเป็นการออกกำลังกาย ที่เพียงพอที่จะทำให้ร่างกาย สร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาเพิ่มได้ด้วย
    ซึ่งการสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมานี้ จะไปช่วยป้องกันระบบประสาทของพวกคุณ


    เพราะว่าเมื่อความเข้มข้นของพลังงาน อันเกิดจากการลงมาของวิญญาณ เพื่อเข้ามาอยู่ในร่างกายแต่ละครั้งนั้น
    สูงเกินกว่าที่ระบบประสาทของพวกคุณคุ้นเคยอยู่ เนื้อเยื่อไขมัน จะไม่สามารถช่วยปกป้องระบบประสาทเอาไว้
    ได้ดีเท่ากับกล้ามเนื้อ เพราะว่ากล้ามเนื้อ จะช่วยรับเอาพลังงานส่วนเกินจากระบบประสาทนี้เอาไว้แทน

    แต่เนื้อเยื่อไขมันจะ “ถูกทอด” เมื่อถูกพลังงานส่วนเกินนี้ไหลบ่ามาสู่ และผลก็คือจะทำให้ตัวรับอินซูลิน (Insulin receptor)
    ภายในเซลเกิดความเสียหายขึ้น และจะส่งผลให้กระบวนการเผาผลาญพลังงาน หรือ เมตาโบลิซึ่มของเซลขาดความสมดุลย์
    และจะส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นๆเรื่อยๆ

    กล้ามเนื้อที่ถูกสร้างขึ้นมาจากการออกกำลังกายนี้ จะช่วยแบกรับพลังงานส่วนเกินมาจากระบบประสาท
    และจะไปบอกให้จิตสำนึกของร่างกายเชื่อว่า “มันใหญ่โตพอแล้ว” ที่จะรองรับจิตวิญญาณ (spirit) ได้


    พวกคุณอาจจะเริ่มสังเกตเห็นแสงสีต่างๆ กระพริบว๊อบๆแวมๆ เวลาที่พวกคุณหลับตา
    หรืออาจจะเห็นเป็นสมการทางเรขาคณิตวิ่งอยู่ในความคิด หรือไม่ก็ได้ยินเสียงฮัมเบาๆอยู่ในหู

    อาการเหล่านี้ คืออาการที่บ่งบอกว่า พวกคุณเริ่มจะมี “อุปกรณ์การแปล” แล้ว ซึ่งจะช่วยให้พวกคุณ
    สามารถแปลรหัสแห่งแสงสว่างไปเป็นภาษาที่พวกคุณสามารถเข้าใจได้ได้

    โครงข่ายแม่เหล็กโลก ที่ครอบคลุมอยู่ทั่วโลกนั้น กำลังถ่ายทอดข้อความต่างๆ
    มาถึงสิ่งมีชีวิตที่กำลังอยู่บนโลกในขณะนี้อยู่ตลอดเวลา ข้อความเหล่านี้ จะมาในรูปแบบของ “กลุ่มข้อมูลของแสง”
    (light packet) ซึ่งมันอยู่ในรูปของรหัสข้อมูล ที่เราเรียกมันว่า “รหัสแสงสว่าง” (light code)

    ข้อมูลเหล่านี้ จะต้องถูกถอดรหัสออกมา หรือ ถูกเปลี่ยนให้ไปอยู่ในรูปของกระแสความคิดในระดับจิตสำนึก
    เพื่อให้พวกคุณสามารถเข้าใจมันได้ และนำมันไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อชีวิตของพวกคุณได้

    ข้อความเหล่านี้ ถูกออกแบบมาเพื่อให้คำแนะนำ และเพื่ออธิบายว่า กำลังเกิดอะไรขึ้นกับพลังงาน
    ในระดับคลื่นความถี่ของมิติที่สูงกว่าอยู่?

    ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่ง ที่มีความรู้สึกไวและกำลังได้ยินเสียงฮัมเบาๆอยู่
    โปรดตอบรับและขอบคุณเรื่องนี้กับเทพผู้นำทางของพวกคุณ
    เพราะว่าพวกเขากำลังพยายามช่วยให้คุณได้รับ “รหัสแสงสว่าง”
    ที่กำลังถูกถ่ายทอดมาอยู่ แต่ว่าพวกเขาก็ไม่สามารถรับรู้ได้ว่า
    คุณได้ยินมันหรือไม่ จนกว่าพวกคุณจะตอบสนองกับพวกเขา

    เหล่าเทพผู้นำทางของพวกคุณจะพยายามช่วยพวกคุณ โดยการปรับจูนระดับความดังของเสียง ขึ้น
    และ ปรับจูนคลื่นความถี่ของเสียงช่วงที่สามารถในยินได้ ของ “รหัสแสงสว่าง” ขึ้นอีก
    จนกว่าพวกเขาจะเห็นการตอบสนองจากพวกคุณ ดังนั้น รหัสแสงสว่างที่เป็นเสียงฮัมเบาๆนั้น
    อาจจะ เปลี่ยนไปเป็นเสียงที่ดังจนหนวกหูมากๆ และอาจจะเปลี่ยนไปเป็นแม้กระทั่ง
    เสียงที่ทำให้เกิดความไม่สบายทางกายได้

    ถ้าพวกคุณมีอาการแบบนี้ จงขอร้องให้เทพผู้นำทางของพวกคุณลดความดังของเสียงลง
    แล้วปรับตั้งคลื่นความถี่ของเสียงนั้นซะใหม่ เพื่อไม่ให้มันมาก่อความรำคาญ
    หรือความอ่อนเพลียให้แก่พวกคุณได้


    การเปลี่ยนแปลงต่างๆในระดับที่ 8 นี้ สามารถกินเวลานานถึง 2 ปีสำหรับมนุษย์แต่ละคน
    และมันก็ได้ใช้เวลาไปแล้ว 3 ปี สำหรับดาวเคราะห์โลก
    ตอนที่ 5: Light Body - ระดับที่ 9

    ระดับที่ 9 จะเป็นการผสมผสานระหว่างการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตวิญญาณในระดับที่ 7
    กับการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายในระดับที่ 8 เข้าด้วยกัน ในระดับที่ 9 นี้
    จะมุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงด้าน “ความสัมพันธ์” (relationship)

    เพราะว่าความสัมพันธ์คือสิ่งที่พวกคุณใช้เพื่อทดสอบตัวเอง และการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น
    ก็ถูกทำให้เกิดขึ้นอย่างตั้งใจ ภายในพวกคุณแล้ว

    พวกคุณอาจจะพบว่า ความสัมพันธ์ใดก็ตาม
    ที่มีรากฐานตั้งอยู่บนการควบคุม หรือการบงการ
    จะทนรับไม่ได้อีกต่อไป ดังนั้น ความสัมพันธ์กับหลายๆคน
    จึงจะจบสิ้นลงในระยะนี้

    พวกคุณอาจจะพบด้วยว่า การงานของพวกคุณในโลก ก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย
    เมื่อพวกคุณเปลี่ยนบุคลิกลักษณะใหม่แล้ว


    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


    ช่องว่างตรงปลายระดับที่ 9 ของกายแห่งแสงสว่างนี้ อาจจะเป็นความเจ็บปวด
    เพราะว่าเป็นช่วงหลังจากที่ได้ทุ่มเทให้กับความสัมพันธ์เหล่านั้นมากจนเกินไปนั่นเอง

    ช่องว่างดังกล่าวนี้ ต้องการให้พวกคุณได้อยู่คนเดียวตามลำพังในท้ายที่สุด
    เพราะว่าในท้ายที่สุดแล้ว ความสัมพันธ์ที่พวกคุณมีกับตัวเอง
    ก็คือความสัมพันธ์ที่มีความสัมคัญมากที่สุดอยู่ดี หรือว่าไม่ใช่?

    ระดับที่ 9 นี้ จะสิ้นสุด (หรือบางครั้งก็เริ่มต้น) ด้วยการลงมาของวิญญาณครั้งค่อนข้างใหญ่
    ทำให้พวกคุณยังต้องมีความสัมพันธ์อีกรูปแบบหนึ่ง ที่จะต้องเกี่ยวข้องด้วยอยู่
    ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการของพวกคุณเอง
     
  10. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    การรวมตัวกัน เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว สำหรับการรวมตัว
    จะเรียกว่า การผสานใจ เมื่อผสานใจครบบริบูรณ์ แล้ว
    จึงจะเรียกว่า มนุษย์ โดยสมบูรณ์ บทความแห่งนี้ ไม่ได้
    กล่าวผิด มนุษย์ ที่ ยังไม่ได้สมบูรณ์ คือ มนุษย์ที่เป็นอยู่
    ในปัจจุบัน เพราะมนุษย์ที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน คือมนุษย์ที่
    แสวงหาความสมบูรณ์บริบูรณ์ แต่ด้วยความไม่รู้ว่า จะต้อง
    รวมภาคต่างๆ ในอดีตทั้งหมด มาเป็นหนึ่งเดียวกัน

    มนุษย์ ในอดีตหนึ่งชาติหนึ่งตัวตน ดังนั้น การรวมภาคต่างๆ
    จึงเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการ

    มนุษย์ในอดีต ในภาคดี ก่ จะซ้อนๆ กันเป็นชั้นๆ แต่ ก่ อยู่แบบแยกกัน
    (ชั้นที่ต่อกันแบบอนุกรม กับ กายทิพย์ปัจจุบัน)

    มนุษย์ในอดีต ในภาคไม่ดี ก่ จะแยกกันออกไปแล้วแต่ จะอยู่ขุมไหน
    (กล่าวถึงนี้แล้วก่น่าจะอนุมานได้หมายถึงอะไร)
    (ชั้นที่ต่อกันแบบขนาน กับ กายทิพย์ปัจจุบัน)

    มนุษย์ที่จะรวมตัวกัน หรือ ผสานใจ เข้าหากันได้ ต้องปรับระบบต่างๆ ให้ Synchronize กัน คือ มีศีลที่บูริบูรณ์ เหมือนๆ กัน เท่าๆ กัน
    หากไม่เท่ากัน จะไม่สามารถ Syn ได้เลย เพราะจะทำให้ตัวตน
    อื่นๆ ได้รับผลกระทบ ต่อกัน

    มนุษย์ที่บริสุทธิ์ เมื่อรวมตัวกันแล้ว จะเรียกว่า อริย
    แต่สำหรับมนุษย์ที่บริสุทธิ์ และเป็นผู้นำด้วย (ภาคทิพย์) เมื่อรวม
    ตัวกันสมบูรณ์แล้ว จะเรียกว่า ศรีอริย

    อริย มีมากมายในอดีต และในกลุ่มที่ไม่ใช่ ทวีปจักรวาลชมพู
    ศรีอริย ก่ มีมากมายเช่นกัน (ฉะนั้นไม่เห็นต้องตื่นเต้นกับเรื่องเหล่านี้)

    อริย อยู่ในระดับ ไหน
    อริย อยู่ในระดับ สมบูรณ์บริบูรณ์ ระหว่าง อรหันต์ กับ ผู้รู้แจ้ง (ก่แล้วกัน)

    อรหันต์ เป็นเพียง กายทิพย์ ปัจจุบัน ได้บริสุทธิ์ เท่านั้น แต่
    ไม่ได้รวมภาคตัวตนในอดีต ....ดังนั้น ภาวะการเป็นอรหันต์
    จึงยังไม่สมบูรณ์ บริบูรณ์

    การรวมภาค การรวมตัวตน การผสานใจ จึงเป็นสิ่งที่มนุษย์ จะต้องปฎิบัติ
    บทความที่สื่อมานี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ต้องลังเล .....
     
  11. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ego แปลว่า การถือตัวตนเป็นศูนย์กลาง

    น่าจะคนละความหมาย คำว่า ตัวตน(ที่แท้)

    โดยความหมายที่ต้องการสื่อ คือ ตัวตน(ในภาคอดีต)
     
  12. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ตัวตนมนุษย์ ในอดีตมีอยู่ แต่จะมีใครบ้างที่ ทำดีอย่างเดียว โดยตลอด
    และจะมีมั๊ยที่เคยตกอยู่ภายใต้ อบายภูมิ

    เมื่อตกอยู่ภายใต้อบายภูมิ ก่ ต้องกระทำให้ศีลเสมอกันก่อน
    คือ การชำระกรรม ให้หมดสิ้น ก่อนจึงจะสามารถ รวมภาค รวมตัวตนได้

    ไม่ชำระกรรม

    การเลื่อนระดับ ก่ ฝันไปก่อน เน้อ

    การเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์บริบูรณ์ ก่ ฝันไปก่อน เน้อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2013
  13. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    หากยังเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ไม่ได้ ไม่ครบ
    ไม่ได้รวมตัวตนจากอดีต ทั้งสุคติภูมิ และ อบายภูมิ(หากมี)
    ผสานเป็นหนึ่งเดียวกัน แล้ว ก่ ยังต้องกลับมาเกิดใหม่

    ในธาตุใหม่

    สำหรับเหล่าอรหันต์ ที่หนีเข้านิพพานไปนั้น คือ ผู้ที่เห็นแก่ตัว

    หนีการรับผิดชอบสิ่งที่ตนเองกระทำไว้ในอดีต

    ปล่อยให้ญาติของตนเอง(ตัวตนในอดีต) ตกอยู่ใน สภาวะที่ดำรง

    อยู่กับสภาวะไม่บริสุทธิ์ทั้งสุคติภูมิและอบายภูมิ ......
     
  14. ศารทวิศุวต

    ศารทวิศุวต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    249
    ค่าพลัง:
    +368
    ดังเช่น องคุลีมาน หรือไม่
     
  15. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ทุกองค์ที่หลีกหนีตนเอง หลีกหนีกรรม(ภาวะตนเองในอดีตที่ตกอยู่อบายภูมิ)

    การหลีกหนีกรรมคือผู้ที่ไม่ยอมรับ กรรมในอดีตของตนเองมีอยู่

    เคยกระทำใครเจ็บชำ ก่ไม่รับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองกระทำไว้

    เคยเบียดเบียนใครที่ทำให้ผู้อื่นต้องตกอยู่ในภาวะของอกุศล

    แต่เมื่อไปนิพพานแล้ว ก่ไม่สามารถกลับมาแก้ไขได้อีก

    อย่างนี้จึงเรียกว่า ผู้ที่เห็นแก่ตัว

    ทำไมเห็นแก่ตัว เพราะว่าละทิ้งตัวตนในอดีตที่ตกอยู่อบายภูมิ

    ละทิ้งความรับผิดชอบที่กระทำให้ผู้อื่นต้องตกอยู่ภายใต้อกุศลจิต

    ทำให้ตกอยู่อบายภูมิ

    นี่คือเหตุของความไม่สมบูรณ์ ของการเป็นมนุษย์ เพราะไม่สามารถ

    รวมตัวเองเป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะธาตุ ของตนเอง ญาติของตนเอง

    ยังหลงอยู่ ยังไม่บริสุทธิ์ อยู่ .....
     
  16. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    การเห็นแก่ตัวคือเห็นแก่ตัวเอง ต่อญาติของตนเอง

    ไม่ได้ว่าเห็นแก่ตัวต่อผู้อื่น....

    คิดให้รอบ คิดให้ลึกอีก สักหน่อย
    การเห็นแก่ตัวต่อผู้อื่นสิ นี่ ต่ำทราม

    เธอนั่นล่ะจงดูใจ และความรู้สึกที่เกิดขึ้นขณะปัจจุบัน
    เป็นความรู้สึกนึกคิดประเภทใด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2013
  17. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เนื้อหาส่วนต่อไปของกระทู้นี้ จะเป็นเรื่องของการปรับตั้งจักระใหม่นะครับ
    ซึ่งในเอกสารต้นฉบับของเขานั้น มันยาวมากๆหลายร้อยหน้า
    ดังนั้น ผมจึงไม่สามารถที่จะแปลเอามาให้อ่านได้ทั้งหมด
    และท่านก็คงจะอ่านไม่ไหวด้วยใช่ไหมหละครับ..

    เพราะฉะนั้น..เดี๋ยวผมจะโพสต์ตัวอย่างของการปรับตั้งจักระที่ 1
    ให้อ่านอย่างเดียวก่อน ส่วนของจักระอื่นๆนั้น ผมจะขอข้ามไปเลยนะครับ
    เพราะว่าผมก็ว่ามันคล้ายๆกับวิธีการทำสมาธิเพื่อกระตุ้นจักระต่างๆ
    ที่เราจะพบได้ใน Youtube หรือในที่อื่นๆหนะแหละครับ

    ดังนั้น จึงขอให้ท่านไปหาอ่านเอาเองนะครับ..หรือไม่ก็..
    วิธีการทำสมาธิที่ท่านอาจจะกำลังทำอยู่นั้น
    มันก็อาจจะมีส่วนช่วยกระตุ้นจักระของท่าน ให้เปิดได้แล้วด้วยซ้ำไป

    แต่ว่าในส่วนของข้อความที่ผมเห็นว่าสำคัญๆ และน่าสนใจอื่นๆ
    ผมก็จะคัดเลือกมาแปลให้อ่านเป็นระยะๆนะครับ
    แต่อาจจะโพสต์ในกระทู้นี้หรือกระทู้อื่นๆ ก็แล้วแต่เนื้อหาของมันหนะนะครับ

    .................................
     
  18. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความจากไกอา เรื่อง: การปรับตั้งค่าใหม่ให้กับจักระที่ 1
    (Integrating the First Chakra)


    ที่มา:
    http://www.multidimensions.com/Superconscious/super_intuition_home.html



    หน้าที่หลักของจักระที่ 1 หรือ Root Chakra ของพวกคุณ
    ซึ่งตั้งอยู่ที่ส่วนฐานของกระดูกสันหลัง (หรือบริเวณกระดูกก้นกบ – ผู้แปล) ก็คือ


    1. การเชื่อมต่อ หรือการกราวด์ ความตระหนักรู้/จิตสำนึกของพวกคุณให้อยู่กับร่างกายเนื้อของพวกคุณ และ

    2. การเชื่อมต่อ หรือการกราวด์ ร่างกายเนื้อของพวกคุณ ให้อยู่กับโลก


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - ตำแหน่งของจักระต่างๆตามเอกสารชุดนี้)


    (ปล.ในข้อมูลชุดนี้ทั้งหมด ตำแหน่งของจักระที่ 1, 2 และ 3 อาจจะแตกต่างจากของบางตำรานะครับ
    เพราะว่าในข้อมูลชุดนี้ จักระที่ 1 จะอยู่ตรงกระดูกก้นกบ,
    จักระที่ 2 จะอยู่บนกระดูกสันหลังที่ตรงกับตำแหน่งของสะดือ
    และจักระที่ 3 จะอยู่ใต้กระดูกอกลงมานิดหน่อย แต่เหนือสะดือขึ้นไปนิดหน่อย
    ซึ่งก็คงราวๆศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ตามหลักวิชชาธรรมกายนั่นกระมังครับ
    แต่รูปธรรมชีวิตหลากมิติทั้งหลายเรียกจุดนี้ว่า “Solar Plexus”
    และเป็นจุดที่ท่านมหาเทพมิคาเอลก็กล่าวถึงบ่อยมากด้วยครับ – ผู้แปล)


    - จักระที่ 1 (Root Chakra):
    - มิติที่เกี่ยวข้อง: มิติที่ 1 ถึง มิติที่ 2
    - ความหมาย: มิติที่ 1 ก็คือแร่ธาตุต่างๆ และ DNA,
    มิติที่ 2 ก็คือพืชและสัตว์ชั้นต่ำที่เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิด
    - ส่วนของร่างกายที่เกี่ยวข้อง: สะโพก, ขา, เข่า, ข้อเท้า, เท้า
    - หน้าที่ควบคุม: การอยู่รอด (Survival), การกราวด์ (Grounding), การมีชีวิตชีวา (Vitality)

    - ส่วนของจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ที่เกี่ยวข้อง: ส่วนของจิตไร้สำนึก, พลังกุณฑลิณี,
    ความคิดใคร่ครวญอยู่กับดาวเคราะห์โลก

    - คลื่นสมองที่เกี่ยวข้อง: คลื่นเบต้า ถึง แอลฟ่า


    อาการของการเปลี่ยนรูปแบบของจักระที่ 1:

    1). อาการของการเปลี่ยนรูปแบบของจักระที่ 1 ที่แสดงออกมาในจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณ
    ก็คือ การมีปัญหาหรือมีความยากลำบากในการเอาชีวิตให้รอดในแต่ละวัน,
    มีปัญหาเรื่องของพลังชีวิต, หรือมีปัญหาเรื่องของการอุทิศชีวิตเพื่อชีวิตทางกายภาพนี้

    2). อาการของการเปลี่ยนรูปแบบของจักระที่ 1 ที่แสดงออกมาในร่างกายหรือร่างแหเส้นประสาท
    ก็คือ การมีปัญหาเกี่ยวกับโครงกระดูก, ขา, เข่า หรือ เท้า

    3). อาการของการเปลี่ยนรูปแบบของจักระที่ 1 ที่แสดงออกมาผ่านต่อมหมวกไต
    ก็คือ ความประหม่า, ตื่นเต้นมากจนเกินไป (hyperactivity), ความวิตกกังวล และ ความเครียด


    จักระที่ 1 จะเป็นจักระที่เตรียมความพร้อมให้กับร่างกายของพวกคุณ
    ในการดาวน์โหลดเอาคลื่นความถี่จากมิติที่สูงกว่าเข้ามา
    โดยการกราวด์ร่างกายเนื้อของพวกคุณเองเอาไว้กับโลก
    และโดยการรักษาระดับพลังชีวิตและความแข็งแรงของร่างกายเนื้อของพวกคุณเอาไว้
    ให้มีอยู่อย่างเพียงพอ ในระหว่างที่กำลังดาวน์โหลดอยู่นี้ เพื่อที่การดาวน์โหลด
    จะได้สามารถดำเนินต่อไปได้

    จักระที่ 1 นี้ จะเป็นตัวแทนของความเป็นขั้วในเรื่องของ “ฉัน-เธอ”


    อาการแห่งการเปลี่ยนรูปแบบของผู้ที่กำลัง Recalibrate จักระที่ 1 อยู่

    ในระหว่างที่พวกคุณกำลังปรับตั้งจักระที่ 1 ของตัวเองใหม่อยู่นั้น พวกคุณอาจจะรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย
    และ รู้สึกกลัวด้วย พวกคุณอาจจะมีอาการใจลอยด้วย เพราะว่าพวกคุณจะรู้สึกว่าเสียศูนย์หรือไม่มีสติ
    และเพราะฉะนั้นแล้ว พวกคุณจึงมีปัญหาในการตั้งสมาธิหรือการจดจ่อ พวกคุณอาจจะมีปัญหาทางด้านการเงิน
    และมีปัญหาเกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีวิตด้วย ความมั่นคงปลอดภัยใดๆก็ตาม
    ที่เป็นทางด้านวัตถุของพวกคุณ ก็จะถูกคุกคามด้วย และพวกคุณอาจจะมีปัญหากับอะไรก็ตาม
    ที่พวกคุณเข้าใจว่ามันคือ “รากฐานสำหรับปฏิบัติการ” ในโลกทางกายภาพของพวกคุณด้วย

    พวกคุณอาจจะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว, เอาแต่ใจตัวเอง และ/หรือ
    ต้องทนทุกข์เพราะความหดหู่ซึมเซา และความโศกเศร้าด้วย
    และร่างกายเนื้อของพวกคุณก็จะสะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งภายในของพวกคุณ
    ด้วยการป่วยเป็นริดสีดวงทวาร, มีอาการท้องผูก, มีอาการปวดตามส่วนหลัง สะโพก และขา
    เพราะกดทับเส้นประสาท sciatic (sciatic nerve) ด้วย หรือมีปัญหาเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก

    อารมณ์, พฤติกรรม และปัญหาด้านสุขภาพที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดนี้
    เกี่ยวข้องกับการขาดความสามารถในการ “ปล่อยวาง” โลกแห่งวัตถุธาตุไป
    และเกี่ยวข้องกับการขาดความสามารถในการ “ยอมจำนนต่อจิตวิญญาณ” ไป

    ตัวอย่างเช่น ถ้าพวกคุณมีความยากลำบากในการปล่อยวางปัญหาทางการเงินของตัวเองไป
    มันก็เป็นไปได้มากว่า นั่นก็เพราะว่า พวกคุณกำลังแสวงหาแต่ความสุขสบายที่ได้มาจากวัตถุอยู่
    หรือไม่ก็เป็นเพราะว่าพวกคุณกำลังแสวงหาแต่ความสุขสบายที่ได้มาจากกิจกรรมต่างๆ
    ที่งบทางการเงินของตัวเองไม่เอื้ออำนวยให้อยู่

    และถ้าร่างกายของพวกคุณ กำลังมีปัญหากับเส้นประสาท sciatic หรือหลังส่วนล่าง และ/หรือขา และเท้าอยู่
    นั่นเป็นภาษากายของพวกคุณ ที่มันกำลังบอกว่า “ฉันกำลังติดแหง็กอยู่ ไปไหนต่อไม่ได้”
    ซึ่งในกรณีนี้ พวกคุณจำเป็นจะต้อง “ปล่อยวาง” อดีตทิ้งไปเสีย และก้าวไปสู่อนาคตเสีย

    ปัญหาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะเพศของพวกคุณ ก็อาจจะเกิดขึ้นได้ จากความคับข้องใจ
    เพราะว่าขาดความคิดสร้างสรรค์ในชีวิตของตัวเองไป

    เพราะฉะนั้นแล้ว จงปล่อยวางความรับผิดชอบทางโลกบางอย่างของพวกคุณทิ้งไปเสีย
    และจงปล่อยวางกรอบทางโลกที่มีข้อจำกัดบางอย่างทิ้งไปเสีย
    เพื่อรับเอาความคิดสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่กว่า ที่แสงสว่างจากเบื้องบนประทานมาให้
    สู่จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณแทน

    หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ จงปลดปล่อยสิ่งที่กำลังจะจบสิ้นลงทิ้งไปเสีย แล้วก้าวเข้าไปสู่สิ่งใหม่ๆแทน

    และตลอดทั้งกระบวนการ recalibration จักระต่างของพวกคุณอยู่นี้
    จงเตือน ego หรือจิตมนุษย์ของตัวเองว่า มันไม่ได้กำลังจะถูกแทนที่
    เพียงแต่ว่ามันกำลังจะถูกมอบหมายงานชิ้นใหม่ให้ไปทำเท่านั้นเอง

    จงใช้ความรักแบบไม่มีเงื่อนไข, การยอมรับอย่างไม่มีเงื่อนไข และการให้อภัยอย่างไม่มีเงื่อนไข
    ซึ่งมาจากจิตวิญญาณของพวกคุณเอง เพื่อค่อยๆกระตุ้นให้ ego ของพวกคุณ เข้ามารับหน้าที่ใหม่ของมันให้ได้



    ผลจากการปรับจูนจักระที่ 1 ใหม่แล้ว:

    เมื่อใดที่จักระที่ 1 ได้รับการปรับตั้งค่าใหม่เรียบร้อยแล้ว และบูรณาการเข้ากับมิติที่สูงกว่าได้แล้ว
    พวกคุณก็จะรู้สึกถึงความปลอดภัยมากขึ้น, กราวด์มากขึ้น และมั่นคงมากขึ้น
    เพราะว่าพวกคุณจะรู้สึกถึงการดำรงอยู่ของจิตวิญญาณของตัวเองอยู่ตลอดเวลา
    พวกคุณจะสามารถใช้ “สามัญสำนึก” (common sense) ได้อย่างง่ายดาย
    เพื่อปรับสมดุลให้กับด้านการเงินของตัวเอง เพราะว่าความรู้สึกถึงความปลอดภัยดังกล่าวนี้
    จะไปปลดปล่อยพวกคุณให้หลุดพ้นจากการเสพติดเรื่อง “การรู้สึกดีขึ้นที่ได้ใช้จ่ายมากขึ้น” ได้

    และความคิดสร้างสรรค์ที่พัฒนาขึ้นของพวกคุณ ก็อาจจะทำให้พวกคุณ
    “ก้าวเข้าไปสู่” การผจญภัยทางด้านการเงินอันใหม่ ที่มั่งคั่งร่ำรวยมากขึ้นกว่าเดิมได้ด้วยซ้ำไป

    รวมถึงด้วยการชี้นำอย่างสม่ำเสมอ ของจิตวิญญาณของพวกคุณเอง ก็จะทำให้
    แม้แต่งานในภาระหน้าที่ประจำวันของพวกคุณ ก็อาจจะทำให้พวกคุณ พบกับโอกาสต่างๆ
    ที่จะทำให้พวกคุณสามารถสร้างสรรค์ได้กว้างไกลมากขึ้นกว่าเดิมก็ได้

    ระบบขับถ่ายของพวกคุณ ก็จะทำงานได้ดี, การทำงานของเส้นประสาทในขาและเท้าของพวกคุณ
    ก็จะเป็นไปด้วยดี และความสามารถในการทำกิจกรรมทางเพศของพวกคุณ
    ก็จะเป็นไปอย่างสะดวกสบาย และเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ

    และพวกคุณก็จะถูกกระตุ้นให้ดำเนินชีวิตอยู่อย่างสมดุลด้วย
    ซึ่งนั่นก็จะทำให้พวกคุณมีสุขภาพที่ดีอยู่ตลอดเวลา

    แต่อย่างไรก็ตาม เพราะว่าโลกทางกายภาพภายนอกของพวกคุณ
    ก็จะยังเต็มไปด้วยความไม่สมดุล และ ความไม่สอดคล้องกลมกลืนกันอยู่
    ดังนั้น พวกคุณจึงจำเป็นจะต้องใช้เวลาในแต่ละวัน เพื่อ “รัก” จิตใจ, ร่างกาย
    และ จิตวิญญาณของตัวเองให้ได้ตลอด

    จงอย่าท้อแท้ใจ ถ้าปัญหาเก่าๆมันหวนกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง
    แต่จงจำไว้ว่าคุณเคย “ปลดปล่อย” มันไปได้ครั้งหนึ่งมาแล้ว
    และครั้งนี้คุณก็จะทำได้อีกเหมือนเคย

    และรวมถึง ในฐานะที่เป็นแนวหน้าคนหนึ่ง ของกระบวนการเปลี่ยนรูปแบบในครั้งนี้
    คุณก็จะต้อง ทำ คิด และ รู้สึก ถึงอะไรก็ได้ที่จำเป็นต่อการทำหน้าที่เป็น
    “ผู้พิทักษ์ผืนดิน” (Keepers of Land) ของตัวเองให้ได้

    จงให้เกียรติแก่จิตวิญญาณของตัวคุณเองทุกๆวัน
    เพื่อที่จะได้สื่อสารกับคุณอยู่ตลอดเวลา

    จักระที่ 1 ของพวกคุณ คือบ้านของงูที่หลับไหลอยู่ ซึ่งก็คือพลังกุณฑาลิณีนั่นเอง
    และเมื่อใดที่พวกคุณสามารถเคลียร์จักระนี้และทำให้จักระนี้เข้าสู่สมดุลได้แล้ว
    พลังงานแห่งพระแม่กุณฑาลิณี (Kundalini Shakti) ก็จะตื่นขึ้นมา
    แล้วก็จะไหลขึ้นไปรวมกับองค์พระศิวะซึ่งอยู่ที่จักระที่ 7 ได้อย่างง่ายดาย
    ซึ่งในชั่วขณะนั้น พวกคุณก็จะได้ผสานรวมกับ “ส่วนเติมเต็มอันศักดิ์สิทธิ์ หรือ คู่แท้”
    (Divine Complement) ของตัวเองซะที
    เพื่อกลับคืนไปสู่การเป็นรูปธรรมชีวิตหลากมิติอย่างสมบูรณ์แบบ ที่พวกคุณเป็นอยู่แล้วเสมอมา

    For more about the First Chakra, please click:

    http://www.multidimensions.com/Unconscious/uncon_body_1chakra.html

    For more about Kundalini, please click:

    http://www.multidimensions.com/Unconscious/uncon_body_chakras.html


    ...............................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • chakra-02.jpg
      chakra-02.jpg
      ขนาดไฟล์:
      122.9 KB
      เปิดดู:
      108
    • chakra-02-1.jpg
      chakra-02-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45.1 KB
      เปิดดู:
      1,208
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2014
  19. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความจากไกอา: FIRST CHAKRA MEDITATION

    ที่มา:
    http://www.multidimensions.com/Superconscious/super_intuition_home.html



    การ Recalibrate จักระที่ 1: การทำสมาธิกระตุ้นจักระที่ 1


    สวัสดีชาวโลกผู้เป็นที่รักของฉัน

    ฉันคือไกอา ฉันกลับมาอีกครั้งเพื่อมาช่วยพวกคุณปรับตั้งค่าใหม่ (Recalibration)
    ให้กับจักระที่ 1 ของพวกคุณ จงใช้เวลาสักครู่เพื่อสัมผัสถึงความรัก
    และความเอื้ออาทรที่ฉันกำลังส่งไปให้พวกคุณอยู่นี้

    ฉันอยากจะขอขอบคุณพวกคุณที่กำลังให้ความช่วยเหลือฉันอยู่
    ในกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นแบบทั้งโลกของพวกเราในครั้งนี้
    และในทางกลับกัน ฉันมาอยู่ที่นี่ก็เพื่อที่จะช่วยพวกคุณในกระบวนการเลื่อนระดับขึ้น
    ของพวกคุณแต่ละคนด้วย

    พวกเรากำลังจะได้กลับไปสู่ความเป็นตัวตนที่แท้จริงของพวกเราเองด้วยกันแล้ว
    ตอนนี้พวกคุณพร้อมหรือยังที่จะ recalibrate จักระที่ 1 ของตัวเอง?

    ดีมาก! พวกคุณอาจจะพบว่ามันจะช่วยได้มากถ้าหากจะออกกำลังกายซะก่อน
    หรือยืดเส้นยืดสายซะก่อน ก่อนที่จะเริ่มทำสมาธินี้
    เพราะว่ามันจะช่วยให้ร่างกายของพวกคุณสงบมากขึ้น
    และมันจะช่วยเตรียมความพร้อมให้แก่พวกคุณสำหรับการจดจ่อที่มากขึ้นอีกด้วย

    1. จงหาสถานที่ๆสะดวกสบายสักที่หนึ่ง เพื่อนั่งสมาธิ ซึ่งพวกคุณอาจจะนั่งอยู่บนพื้นดินโดยตรง
    หรือจะนั่งให้เท้าสัมผัสกับพื้นดินก็ได้ เพราะว่าหน้าที่หลักของจักระที่ 1 ก็คือ การกราวดิ้ง (grounding)

    2. ธาตุประจำจักระที่ 1 ก็คือ ธาตุดิน ดังนั้น พวกคุณอาจจะต้องไปหาคริสตัลมาซักอัน
    หรือหินซักก้อน มาเพื่อใช้เป็นจุดเพื่อในการเพ่งสมาธิในครั้งนี้

    3. และเนื่องจากจักระที่ 1 คือจักระที่ควบคุมเกี่ยวกับการได้กลิ่น
    ดังนั้น พวกคุณอาจจะต้องจุดธูปหอม หรือ เทียนหอมด้วย และ/หรือ
    อาจจะทำสมาธิอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีกลิ่นหอมก็ได้

    4. จากนั้น ก็ให้เริ่มด้วยการหายใจเข้าสูดเอาสีแดงเข้าไปในส่วนฐานของกระดูกสันหลังของพวกคุณ
    (บริเวณก้นกบ – ผู้แปล) แล้วเปล่งเสียง “เอ” ออกมา อย่างที่มันปรากฎอยู่ในคำว่า Red

    5. จากนั้นก็ให้จินตนาการเห็นตัวเองกำลังนั่งอยู่ในสถานที่ตามธรรมชาติที่ตัวเองชอบซักแห่งหนึ่ง
    แล้วให้ทำความรู้สึกถึงพลังงานแห่งความรักจากดาวเคราะห์โลก
    ที่กำลังไหลขึ้นไปสู่ส่วนฐานของกระดูกสันหลังของพวกคุณอยู่
    และในทางกลับกัน ก็ให้ส่งกระแสพลังงานแห่งความรักจากหัวใจของพวกคุณลงมา
    แล้วให้ไหลลึกลงไปในพื้นโลกของฉัน

    แล้วให้ทำความรู้สึกว่า “หาง” ที่เป็นพลังงานที่พวกคุณส่งลงมานั้น
    เชื่อมต่อแนบสนิทกับพื้นโลกพอดี (จากนั้นก็ให้ทำสมาธิต่อไปเรื่อยๆ – ผู้แปล)

    6. และเมื่อใดที่พวกคุณทำสมาธิเสร็จแล้ว ก็ให้ใช้เวลาอีกสักครู่หนึ่ง
    เพื่อรู้สึกถึง “หาง” ของตัวเอง ที่กำลังเชื่อมต่ออยู่กับพื้นโลกของฉันอยู่ตลอดเวลา
    ไม่ว่าในขณะนั้นๆพวกคุณจะกำลังนั่ง ยืน และ/หรือเดินอยู่ก็ตาม
    ให้ทำความรู้สึกเช่นนี้ไปเรื่อยๆตลอดทั้งวัน

    และในระหว่างวัน เพื่อที่จะเตือนตัวเองให้ไม่ลืมถึงการเชื่อมต่อนี้
    ให้ท่องมนต์ในใจหรือพูดออกมาว่า

    “ฉันได้เชื่อมต่อและกราวด์อยู่กับโลกอย่างสมบูรณ์แบบเรียบร้อยแล้ว”

    .......................
     
  20. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    บางส่วนของข้อความจากชาว Arcturian

    ที่มา:
    http://www.multidimensions.com/Superconscious/super_intuition_home.html



    ...ในความเป็นจริงแล้ว พวกคุณก็คือดาวเคราะห์โลกนั่นเอง
    เพราะว่าถ้าปราศจากมายาการแห่งความเป็นขั้วแล้ว
    มันก็จะไม่มีการแบ่งแยกใดๆเหลืออยู่เลย
    แม้แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงในมิติที่ 3 นี้ก็ตาม
    พวกคุณก็ยังมีความเชื่อมต่อแบบที่มองไม่เห็น
    อยู่กับสถานที่ๆพวกคุณอาศัยอยู่
    และอยู่กับผู้คนที่พวกคุณอาศัยอยู่ร่วมด้วยเลย

    และนอกจากนี้ แม้ในขณะนี้ และก็ตลอดเวลาอีกด้วย
    พวกคุณก็ยังกำลังเชื่อมต่ออยู่กับตัวตนหลากมิติ
    ซึ่งเป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวคุณเองอยู่

    และเมื่อใดที่พวกคุณสามารถตระหนักรู้ถึงความเป็นจริงข้อนี้ได้หละก็
    พวกคุณก็จะได้ประจักษ์ว่า “พวกคุณไม่มีวันตาย”
    เพราะว่าพวกคุณเป็นหนึ่งเดียวกับความเป็นนิรันดร์
    พวกคุณเพียงแค่เลือกที่จะ “log-on” เข้ามาในแมทริกซ์
    ของประสบการณ์ 3 มิติ บนดาวเคราะห์ต่างๆ, ในกาแล็กซี่ต่างๆ,
    และในมิติต่างๆเท่านั้น รวมถึงในภพชาตินี้ของพวกคุณ
    ที่พวกคุณกำลังอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงในมิติที่ 3
    บนดาวเคราะห์ที่ชื่อว่าไกอานี้ด้วย

    ดังนั้น มันจึงเป็นภาระกิจของพวกเรา และเป็นความมุ่งมั่นของพวกเรา
    ที่จะต้องช่วยเหลือพวกคุณ เพื่อให้พวกคุณจดจำให้ได้ว่า
    แท้ที่จริงแล้ว พวกคุณก็เหมือนกับพวกเราชาว Arcturian นี่แหละ
    คือเป็น “จิตสำนึกหลากมิติอันบริสุทธิ์”
    (pure Multidimensional Consciousness)

    ซึ่งเมื่อใดที่พวกคุณสามารถประจักษ์ชัดถึงความเป็นจริงที่ว่านี้ได้แล้ว
    แม้ว่าพวกคุณจะกำลังอยู่ท่ามกลางมายาการและบทละครชีวิต
    ของโลกแห่งความเป็นจริงในมิติที่ 3 นี้อยู่ก็ตาม
    พวกคุณก็จะสามารถกลับคืนไปสู่ตัวตนที่แท้จริงของตัวเองได้
    เพราะว่าเมื่อใดที่มายาการทั้งหมดทุกปลดปล่อยไปแล้ว
    สิ่งที่เหลืออยู่ทั้งหมด ก็จะเป็นเพียง
    “ความจริง” หรือ “สัจธรรม” (the TRUTH) เท่านั้น...


    ........................
     

แชร์หน้านี้

Loading...