ขอบคุณบทความที่เติมเต็ม และประสบการณ์ที่คุณเดรดเล่ามาครับ
เรื่องรอยประทับ เคยมีประสบการณ์ เหมือนเราไปนั่งอยู่ในเหตุการณ์ แล้วก็นั่งดูวีดีโอ แต่ประสบการณ์ที่คนอื่นเล่าให้ฟัง เค้าก็บอกว่า มานั่งคุยกัน เหมือนคนปกตินี่แหละ
พอมาอ่านบทความตอนที่ 10 ก็เลยเก๊ทขึ้นมาเลย
เมื่อหลายปีก่อน ได้ไปนั่งสมาธิรวมหมู่กับอาจารย์ท่านนึง วันนี้ท่านจะสอนว่า สิ่งที่เราไม่เห็น ไม่ใช่ไม่มี ที่ที่เราอยู่ มีมิติที่ซ้อนทับกันมากมาย มีเส้นแสง หรือ คลื่นความถี่แบ่งกันอยู่ เหมือนกับคลื่นวิทยุที่คุณเดรดว่าไว้ แต่เรารับรู้แค่ช่วงความถี่เดียวเท่านั้น
จากนั้นก็เข้าไปนั่งในห้องมืดสนิท แล้วให้ใช้ผ้าปิดตาอีกชั้น แล้วก็นั่งสมาธิ โดยใช้ภาวนาเร็วๆ เพื่อไม่ให้จิตมีช่องว่างในการคิด จะได้รวมสมาธิได้เร็ว อาจารย์คุมกรรมฐาน จะใช้รังเหล็กไหลเป็นเครื่องมือ ในการนำจิตทะลุเส้นแสง ไปรับรู้มิติที่ซ้อนทับกันอยู่
ภาวนาไปได้ซักพัก พอจิตรวมดิ่งแล้วซักครู่ จะได้ยินเสียงเหมือนระเบิด แล้วแสงก็วาบเข้ามาที่หน้าผาก จากนั้น ความรู้สึกรับรู้รอบตัวจะเปลี่ยนไปหมด รู้สึกว่าไปนั่งอยู่ในที่กว้างๆสุดลูกหูลูกตา ด้านขวาออกไปไกลๆ มีกำแพงเมืองรอบๆ ด้านหน้าไกลๆ มีเสียงกลองโบราณใหญ่ๆ ข้างๆมีผู้หญิงนั่งร้องไห้ อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่
ก่อนนั่ง อาจารย์ท่านก็บอกว่า ถ้าไปรับรู้อะไร ก็ให้เฉยไว้ ดูเฉยๆ ระหว่างที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่นั้น รู้สึกว่า คนข้างๆกำลังเอามือ ตีขาตัวเอง
ซักพัก ได้เสียงระฆังให้สัญญาณว่า จะออกจากมิตินี้ ก็คลายสมาธิออกมา
เสร็จแล้วก็มานั่งคุยกัน กับเหตุการณ์ที่ไปรับรู้ ซึ่งบางคนก็ไม่เห็นอะไร (อาจยังขึ้นขบวนรถไม่ทัน) บางคนที่ตีตัวเอง ก็บอกว่าผีเข้า (นั่นเพราะความเชื่อที่เค้าสร้างขึ้นมา)
จากนั้น อาจารย์ก็จะให้ใช้น้ำเป็นสื่อในการแผ่เมตตา อย่างที่เราชาวพุทธรับรู้กันอยู่แล้ว เหมือนการส่งพลังงานความรัก เข้าไปแทนที่ รอยประทับเดิม
ตรงนี้เป็นประสบการณ์ยามตื่น ที่รับรู้โดยมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน
ส่วนในความฝัน เมื่อหลายเดือนก่อน ที่ยังจำได้ไม่ลืม
ฝันว่า ไปอยู่ในยานที่ใหญ่มากๆ แล้วไปยืนคุยกับผู้ชายคนนึง ที่ด้านหน้ามองออกไปดูอวกาศที่อยู่นอกยาน และหันหลังให้
จากนั้นก็คุยกันซักพัก สรุปใจความได้ว่า
หน้าที่ของเราทั้งหลาย ก็คือ การสอน และขัดเกลาจิต ให้เหมือนกับเรา ยกตัวอย่างง่ายๆ ว่าจิตแบ่งเป็นสองส่วน (ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว จิตไม่มีแบ่งเป็นดวงๆ ) เราก็คือจิตผู้รู้ หรือ จิตวิญญาณ ที่ต้องคอยสอน และขัดเกลาจิตสำนึก ที่คิดว่า เป็นตัวเรา ให้มีคุณสมบัติเดียวกันกับจิตวิญญาณดั้งเดิม เมื่อทำสำเร็จก็คือเสร็จกิจ
ตัวเรา ก็คือ เป็นทั้งจิตวิญญาณ และก็จิตสำนึก แต่เรามักทึกทักเอาว่า จิตสำนึกภายนอกนี้ ความคิดนี้ คือ ตัวตนของเราอย่างเดียว จริงๆแล้ว เรามีชีวิตอยู่แค่เดี๋ยวนี้ ไม่เคยไปไหน ไม่เคยเกิด ไม่เคยตาย ที่เราคิดว่า เราเกิด เราตาย เราเป็นโน่น เป็นนี่ ทุกข์ สุข สารพัดนั้น ก็คือ ความคิดจากจิตสำนึก ที่สร้างขึ้นมา เป็นตัวตน ว่าเรานั้นมีตัวตนอยู่
หน้าที่เรา เหมือนเครื่องฟอกอากาศเลยเนอะ ที่ไม่ว่า พลังงานใดๆที่ผ่านเข้ามาให้รับรู้ เป็นความคิด ความรู้สึก ทั้งหลาย ให้รู้ไว้เสมอว่า นั่นไม่ใช่ตัวเราเพียงอย่่างเดียว ที่โลดแล่นไปตามบทบาทนั้นๆ ให้พลังงานเหล่านั้นชักจูงไปหมด จนหาตนเอง อีกส่วนนึงไม่พบ แต่ต้องรับรู้ว่า ตัวตนเราที่เป็นจิตวิญญาณที่คอยเฝ้าดูตลอดนั้น ก็คือ ตัวเรา ที่จริงแท้แน่นอนกว่า ที่ต้องคอยเป็นผู้สอน ผู้ขัดเกลา พลังงานเหล่านี้ ที่ผ่านช่องทางการรับรู้ของเรา
เมื่อไรที่เราสัมผัสกับจิตวิญญาณของเรา ก็คือ ภาวะที่เรียกว่า ปัจจุบันขณะ คือ ขณะเดียว ที่เรามีชีวิตอยู่จริงๆ
ข้อความจากต่างมิติ - การเปลี่ยนแปลงข้อมูลข่าวสารใน DNA, ผี-คือข้อมูลข่าวสารข้ามมิติ
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 8 มีนาคม 2011.
หน้า 2 ของ 2
-
-
(f) -
เรื่องของ "รอยประทับของพลังงาน" หรือ Energy imprint นี้
ในข้อความของท่านเทพเมตาตรอน ก็มีพูดไว้เหมือนกันแฮะ
กำลังแปลอยู่ครับ...
................................................................. -
เค้าเรียกว่า กริดสติ
หาอ่านได้ของอาจารย์ ปริญญาครับ
เค้ามีเขียน เรื่องสนามพลังแห่งกริดไว้
กริดสติ -
อ่านจบไป 16 เล่มแล้วครับ
ตั้งแต่เมื่อหลายปีที่แล้ว...
ก่อนที่จะมาทำสิ่งที่กำลังทำอยู่นี้
ขอบคุณครับ
................................... -
คุณได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่อง อภิปรัชญา
แสดงว่าคุณเป็น light worker
นักรบแห่งแสงสว่าง -
thx1 thx1 thx1
-
และถ้าคุณได้ดื่ม สิ่งนี้
คุณคือ โคบาล -
ถึง พี่ชยุต หนูติดตามอ่านบทความของพี่โดยตลอด ขอบคุณในทุกบทความที่นำมาให้อ่านและเข้าใจในความหวังดีของพี่ชยุต เรา รอการมาเยือนอย่างสันติ และขอให้เปิดใจมองเราด้วยใจที่บริสุทธิ์ เราอ่านที่จิตอย่าคิดจะทำร้ายเราเพราะเราไม่ต้องการทำให้ใครต้องลำบากทั้งกายและใจ ขอสันติและรักที่แบ่งปันกันให้กับทุกสรรพสิ่งจงเกิดกับโลกใบนี้ด้วย(ทุกอย่างคือความคิดเห็นโดยส่วนตัวนะคะ)
-
-
ทุกสิ่ง ทุกอย่าง คือของขวัญทั้งนั้น
รักทุกคนเหมือนทุกวันค่ะ
แต่ความรู้สึกที่ต่างกันคือ หากเราเปิดรับทำความเข้าใจ
คนที่จะมีความสุขจากของขวัญเหล่านั้น ไม่ใช่ใครแต่คือเรานะคะที่จะมีความสุขได้จากทุกสิ่ง
มุมมองที่เปิดกว้างสร้างสุขได้ค่ะ อยู่ที่ใครจะเลือกนะคะ
ขอให้มีความสุขทุกคนค่ะ
ลองเปิดใจรับสิ่งใหม่กันวันนี้ก็ยังไม่สาย
รัก รัก รัก
สู้สู้สู้ อิอิอิ
:cool::cool::cool:<!-- google_ad_section_end --> -
เลิกเริงรูปรสกลิ่นเสียง สำเนียงจิตพินิจถ้วนถี่
มารร้ายฤๅอาจย่ำยี "กริชสติ" นี้มีไว้คู่กาย -
อ่านจบอีกชุดหนึ่ง ช่วยกระตุ้นกระทู้ครับครับ
-
เพราะเจอคนแบบนี้ที่นึง..
อะไรก็แล้วแต่ เขาว่าเป็นเพราะของ ผีปอบ กระสือ กระหัง สารพัด...ฯลฯ
ที่จะโทษ แต่ ไม่เคยโทษตัวเอง
ขอบคุณนะจ๊ะ :cool:
จะเก็บไว้ปริ้นอ่าน เก็บเป็นบางอัน
คนแปลขยันจัด ตามเก็บไม่ทัน
มีภาระเพิ่มจ้า..มีหลาน เลยไม่ค่อยว่าง -
ข้อมูลอื่นๆเท่าที่ผมเคยอ่านและแปลมา ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของ DNA ทั้งหมด
อยู่ในลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ
1). "การเปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรมและซ่อมแซม-dna-ด้วยคลื่นเสียง"
http://palungjit.org/posts/8413967
.................................[/COLOR][/B] -
ขออนุญาตดันหน่อยนะครับ
เพราะว่าอาจจะกำลังมีคนควานหาคำตอบอะไรบางอย่าง
ที่อาจจะอยู่ในนี้อยู่
................................
-
หน้า 2 ของ 2