ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

เกิดปัญหาขึ้นอีกเล็กน้อย เนื่องจากตอนยกสัมภาระขึ้นรถ ทุกคนพร้อมใจกันลืม เตาแก๊สปิคนิค ที่จะนำมาต้มน้ำร้อน เพื่อชงกาแฟและมาม่าในตอนดึก ดังนั้น กระบวนการก่อไฟ จึงเริ่มขึ้น โดยมีเจมส์ลูกชายพื้นที่ ไปเก็บเศษไม้แห้งๆ มาหักเป็นเชื้อไฟ ใช้หินสามก้อน มาทำเป็นเตา

จากนั้น กระบวนการ .... เล่นกับไฟ....โดยไม่ทุกข์... ก็เกิดขึ้น

 

ดีจ้า

กระทุนี้เกี่ยวกับการทำอะไรหรอ....
________________________

deeja__a

 

พอจะเข้าใจเรื่องขันธ์ห้าแล้วคับเราเหมือนต้นไม้ผลัดใบแต่ทำไมสลัดใบเก่าไม่ออก ทำท่าเหมือนใบจะหลุดแต่ก็ไม่หลุด ยากจังhello8

 

ประมาณ 20.00 นาฬิกา ก็เริ่มทำวัตรเย็นพร้อมกัน

 

หลังจากนั้น ระบบก็ได้อธิบายการดูขันธ์ห้า ในเวลาที่สัมผัสคลื่นในชั่วโมงประมวลพลัง

กำหนดสถานที่ประมวลพลัง คือลานกองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว

 

ยินดีต้อนรับ คุณปิ่นเมือง ครับ
ลองอ่านย้อนหลังดู ก็คงพอจะทราบได้บ้างนะครับ

;welcome3welcome3:z2

 

คุณไอย และคุณ ukrin จึงได้ไปจัดเตรียมจุดสำหรับนั่งประมวลพลัง ณ สถานที่ลานต่างดาว

ซึ่งคุณไอย เป็นการประมวลพลังครั้งแรก

คุณ ukrin เป็นการประมวลพลังครั้งที่ 4








ในเวลา 21.11 นาฬิกา ทั้ง 2 ท่าน ก็เข้าสู่ช่วงการประมวลพลัง กำหนดเสร็จสิ้นเวลา 23.11 นาฬิกา

ช่วงประมวลพลัง งดบันทึกภาพ

แต่หลังจากเสร็จสิ้นการประมวลพลังแล้ว คุณไอย ได้เล่าประสบการณ์ที่ได้พบเจอในช่วงประมวลพลัง ให้ได้รับทราบด้วย

น่าสนใจทีเดียวค่ะ

 

หามนุษย์ต่างดาว.....
________________
;aa13

 

หลังจากเสร็จสิ้นการประมวลพลังเมื่อเวลา 23.11 นาฬิกา

ทั้งสองท่านก็ลงมาเติมพลัง... ที่โต๊ะอาหารลานระเบียง

ในระหว่างนั้น คุณไอยก็ได้เล่าประสบการณ์ให้ฟัง

เล่าว่า...ในช่วงที่นั่งอยู่ มีคลื่นมาสัมผัสอยู่ช่วงหนึ่งไม่นานนัก

จากนั้นก็ลืมตาขึ้น มองออกไปทางด้านหน้าทางระเบียง ไกลออกไปทางด้านบึงบอระเพ็ด ได้เห็นแสงสีส้ม ซึ่งเป็นวัตถุลำเล็ก ๆ จำนวนมาก บางครั้งรวมกันอยู่เป็นกลุ่ม บางครั้งกระจายกัน และแต่ละดวงก็ส่องลำแสงวาบให้เห็น และเริ่มเรียงตัวลอยสูงขึ้นเป็นรูปโค้ง คล้ายเนินเขา ขึ้นลงสลับไปมา

คุณไอย ได้มองอยู่พักหนึ่ง แล้วก็คิดว่า ถ้าจะให้แน่ใจ ทำไมไม่ทำให้ชัดเจนกว่านี้

หลังจากคิดเสร็จ วัตถุสีส้มแต่ละลำ ก็เปิดไปสลับกันไปมา เปิดไล่กันลำหนึ่ง ต่อไปลำหนึ่ง มีการนำมาเรียงตัวต่อกัน มีการทำหลายรูปแบบ ก็คงต้องรบกวนให้คุณไอย มาเล่าให้ฟังด้วยตนเองน่าจะมีความชัดเจนมากกว่า

และในเวลาเดียวกันกับที่คุณไอย มองเห็นจากลานประมวลพลัง พี่สุดใจที่นั่งบนเก้าอี้ผ้าใบอยู่ที่ลานดูดาวด้านล่าง ก็มองเห็นเช่นกัน หลังจากไม่ได้เห็นวัตถุสีส้มดวงเล็ก ๆ นี้มานานแล้ว

มีวัตถุสีส้มดวงเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นในระดับที่สูงกว่าพื้นดิน เป็นกลุ่มหลายลำ แต่ละลำ จะผลัดกันเปิดไฟส่องวาบมาที่เขากะลา และก็เปลี่ยนกันเปิดไฟ ลำนี้เปิด ลำนี้ปิด ลำนั้นเปิด หมุนเวียนกันไป พี่สุดใจจึงนั่งดูอยู่คนเดียว เพราะคุณสมจิตร และเด็ก ๆ ได้เข้าเต้นท์นอนกันหมดแล้ว

พี่สุดใจก็คิดว่า พี่สุดใจเห็นคนเดียว โดยที่ไม่มีใครเป็นพยาน

แต่ปรากฏว่า คุณไอย ที่อยู่ด้านบน ก็เห็นเหมือนกัน แต่คุณ ukrin ไม่เห็น เพราะนั่งหันหน้าไปทางภูเขารูปพระนอน จึงหันข้างให้

ซึ่งวัตถุสีส้มลำเล็ก ๆ นี้ มนุษย์ต่างดาวเคยบอกไว้ว่าเป็นยานสำรวจลำเล็กของเขา เอาไว้สำหรับลาดตระเวณ ภายในยานจะนั่งได้ 1 คนเท่านั้น

ลักษณะที่เห็น จะเป็นสีส้มจัด ไม่ใช่สีส้มสว่างแบบไฟรถ จะมีสีส้มเข้มกว่า และลำจะเล็ก ไม่มีลำแสงยาวออกมาเช่นไฟรถ ลอยได้ไร้ทิศทาง และบางครั้งเปิดไฟสว่างมาก บางครั้งเปิดไฟเรือง ๆ บางครั้งกระพริบ บางครั้งไม่กระพริบ เหมือนคอลโทรลแสงให้สว่างให้หรี่ได้ในดวงเดียวกัน

พี่สุดใจเห็นอยู่ช่วงเดียว ประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วหายไปทั้งหมด ไม่เห็นอีก

แต่คุณไอยเล่าว่า ได้เห็นอยู่ตลอดการประมวลพลัง ร่วม 2 ชั่วโมง โดยมีการเล่นแสง มีการแปรขบวนให้ดูหลายรูปแบบ และเห็นได้ด้วยตาเนื้อในขณะที่ลืมตาอยู่

ค่ะ ก็คงเป็นอุปกรณ์อีกชนิดหนึ่ง ที่ติดตั้งให้เพื่อช่วยให้มองเห็นด้วยตาเนื้อในต่างมิติ ที่เปิดให้ใช้ในช่วงประมวลพลังเท่านั้น

แต่พอหมดชั่วโมงประมวลพลัง ก็ปิดอุปกรณ์ ภาพต่าง ๆ เหล่านั้นก็หายไปจนหมด เหลือแต่ความมืดตามเดิม

เมื่อหมดชั่วโมงการประมวลพลัง ทั้ง 2 ท่านก็เดินลงมาทานอาหารกันอีกรอบด้านล่าง และก็สนทนากันถึงเรื่องนี้ด้วย พร้อมทั้งมองไปยังจุดที่พบแสงเหล่านั้นแต่ไม่มีอะไรให้เห็นอีก

แต่ก่อนที่จะเลิกสนทนากัน ในช่วงหลังเที่ยงคืน ก็เตรียมขึ้นไปนั่งสมาธิบนลานปากทางเข้าเมืองลับแล ก็มีการเปิดให้เห็นวัตถุสีส้มอีกครั้ง แต่แค่ 2 ลำเท่านั้น แล้วหายไป ในตอนนี้เห็นพร้อมกัน 3 คน ซึ่งคุณ ukrin ก็เห็นด้วย แต่ไม่ทันหยิบกล้องวีดีโอ แสงนั้นก็หายไปแล้ว

นับว่า เป็นอุปกรณ์ที่ได้สัมผัสแตกต่างจากคนอื่น ๆ ที่มาประมวลพลังก่อนหน้านี้

แต่ถึงอย่างไร .... จะอุปกรณ์แบบใด ... ก็ยึดไม่ได้อยู่ดี ...

 

ดู่ดู๋ดู ดูเธอทำ ทำไมถึงทำต่อหน้าฉันด้ายยยยย

 

ในการไปนั่งสมาธิ ณ จุดที่เป็นประตูเมืองลับแลนั้น คุณไอย ได้เดินทางขึ้นไปนั่งคนเดียวก่อน เพราะคุณ ukrin บอกว่าจะตามขึ้นไปนั่งสมาธิด้วยในตอนหลัง

พี่สุดใจจึงยกเก้าอี้พับ มากางอยู่ข้าง ๆเป็นเพื่อน แต่อยู่ภายนอกสี่เหลี่ยมทางเข้าเมืองลับแล ซึ่งคุณไอย ได้นำเสื่อเข้าไปปูนั่งสมาธิด้านในกรอบสี่เหลี่ยม

ในระหว่างนั้น บรรยากาศภายนอกเงียบสนิท เพราะดึกมากแล้วน่าจะประมาณ 01.00 นาฬิกาของวันใหม่

ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็เห็นคุณไอยกราบพระ และออกมาจากลานเมืองลับแล

ได้เดินลงมาลานดูดาวด้านล่าง พบคุณ ukrin นั่งส่องกล้องอยู่ และถามว่าเป็นไงบ้าง

คุณไอยก็บอกว่า มองเห็นเป็นแสงสว่างอยู่ไกล ๆ แต่ไม่ได้เข้าไปใกล้ ๆ เหมือนยังไม่เปิดให้ไปดู ก็เลยถอยออกมา แต่พบว่ามีเหมือนนก หรือวัตถุอะไรสักอย่าง บินผ่านเฉียดศรีษะไปในระยะที่ใกล้มาก จนลมพัดถูกศรีษะอย่างแรง ได้ยินเสียงชัดเจน ก็เลยตกใจลืมตาขึ้น หันไปจะถามพี่สุดใจที่นั่งบนเก้าอี้อยู่ข้าง ๆ ก็เห็นพี่สุดใจนั่งเฉย ๆ ก็เลยยังไม่ถาม

แต่พอออกจากลานลับแลมาแล้ว ก็เลยถาม แต่พี่สุดใจไม่เห็นมีอะไรบินมาใกล้ และไม่ได้ยินอะไรเลย ในความเงียบ ถ้ามีเสียงดังขนาดนั้น และนั่งใกล้ขนาดนั้น ก็ต้องได้ยินบ้าง แต่ทุกอย่างก็ไม่เห็นมีอะไร

คงต้องรอให้คุณไอย มาเล่ารายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง

ค่ะ คืนแห่งการประมวลพลังก็ผ่านพ้นไป พร้อมประสบการณ์ของแต่ละท่านที่ผ่านเข้ามา ในขันธ์ห้าของแต่ละท่าน

ขอให้มองเข้าไปในขันธ์ห้า ว่ามันกำลังคิดอะไร กำลังทำอะไร กำลังรู้สึกอย่างไร และเกิดการยึดติดในอุปกรณ์เหล่านั้นหรือไม่ ?

สิ่งอื่นเมื่อผ่านมาก็ให้มันผ่านไป

.....ไม่ต้องไปทำอะไร.....

แต่การรู้ให้เท่าทันกลไกขันธ์ห้า ที่มันกำลังปรุงแต่งนั่นแหละ

....เป็นสิ่งที่ควรทำ....

 

รุ่งอรุณที่ ..เขากะลา

เช้าแล้ว จากการที่นอนดึกในช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้แต่ละท่านนอนหลับสนิท จึงตื่นขึ้นมาไม่ทันบันทึกภาพบรรยากาศในยามเช้า









โดยเฉพาะคุณ ukrin เหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าจากการเดินทาง(เดินจริง ๆ) และจากการถากถางต้นไม้ใบหญ้าเมื่อวานที่ผ่านมา จึงนอนตื่นสายเป็นพิเศษ








แล้วแต่ละท่าน ก็เก็บเต้นท์ของตนเอง ที่กระจายกันนอนอยู่แต่ละสถานที่ทั้งด้านบนและด้านล่าง เพื่อพับเก็บ

 

ห้องอาหารลานระเบียง มีการเสริฟอาหารเช้า โดยมีกาแฟ โอวัลติน ขนมปัง และขนมนานาชนิดบนภูกะลา โดยมีพนักงานชงกาแฟหน้าตาคุ้น ๆ มาชงกาแฟบริการค่ะ









แต่.... เรามีเบื้องหลังมาฝาก

ก่อนที่จะมีการเสริฟกาแฟ ให้สมาชิกรับประทาน ก็ต้องมีการปฏิบัติการเบื้องหลังของการผลิตน้ำร้อนเพื่อชงกาแฟก่อน คือแผนกพื้นที่ ต้องก่อไฟเพื่อต้มน้ำร้อน เพราะลืมเอาเตาแก๊สขึ้นมา

 

เมื่อสมควรแก่เวลา แต่ละท่านก็ไปกราบลาพระประธาน ซึ่งในวันนี้ การเดินทางลงจากเขากะลาเป็นช่วงที่สายกว่าทุกครั้ง ดังนั้น ภาพพระประธานที่กระทบกับแดดยามเช้า ทำให้องค์พระสว่างไสวไปทั้งองค์ สวยงามไปอีกแบบหนึ่ง








บันทึกภาพร่วมกันบนลานดูดาวด้านล่าง ก่อนเตรียมขึ้นรถยนต์พร้อมบรรทุกสัมภาระ ลงจากเขากะลา โดยมีพี่สุดใจเป็นพลขับเช่นเดิม

 

ผู้โดยสาร 2 ท่าน ยังไม่ยอมขึ้นรถยนต์<O</O
<O</O

คุณ ukrin ชวนคุณไอย ไต่เขาลงไปด้วยกันทางลงด้านข้างเขาที่เพิ่งถางใหม่ด้วยมือตัวเองเมื่อวานนี้<O</O

คุณไอยหลงเชื่อก็เลยตามไปปรากฏว่า .... สภาพทางของคุณ ukrin ก็เป็นดังที่เห็นนี่แหละค่ะ<O</O













คุณไอย โมโหจนหัวเราะออกมา เพราะคุณ ukrin ลุยนำหน้าไปไม่รอกันเลย

หรืออาจเจอ wave หัวเราะแบบอาจารย์ MOUNTAIN ก็เป็นได้









สุดท้าย... ทบทวนแล้วว่า .... ขึ้นรถลงไปท่าจะดีกว่า...

ภาพสวย ๆ ส่งท้ายขณะขับรถออกจากเขากะลา

เป็นการอำลา ..... อย่างน่าประทับใจทีเดียว​

 

ลงจากเขากะลาแล้ว แวะทานก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อย แต่คุณไอย สนใจข้าวเหนียวไก่ย่างร้านข้าง ๆ มากกว่า เลยสั่งมาทานแทนก๋วยเตี๋ยว

สรุปว่า คนมาใหม่อย่างน้อยไอย... ไม่ได้ทาน แต่...คนหน้าเก่า ๆ อย่างคุณ ukrin และคนนครสวรรค์ ทานกันอย่างเต็มที่

 

ทานเสร็จเรียบร้อย มีโปรแกรมปลอบใจ พาคุณไอยไปเที่ยว รอยพระพุทธบาทเขากะลา ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนักจากจุดนี้

นำภาพการเดินทางไปไหว้รอยพระพุทธบาทเขากะลา มาให้ชมกันค่ะ

 

จากนั้นก็ได้เดินทางไปส่งคุณไอย ขึ้นรถตู้เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ

คุณไอย เดินทางกลับในวันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2551

โดยรถตู้นครสวรรค์ เที่ยว 10.00 นาฬิกา ถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ ประมาณเวลา 13.00 นาฬิกา

ขออนุโมทนากับคุณไอย ในการเดินทางมาประมวลพลังในครั้งนี้ค่ะ





ส่วนคุณ ukrin ยังไม่ยอมกลับ บอกจะกลับรถเที่ยวสุดท้าย 20.00 นาฬิกา
จึงได้พาคุณ ukrin กลับมาที่สันคูด้วย

 

คุณ ukrin ได้นอนพักผ่อนจนกระทั่งช่วงเย็น ก็ได้พาไปเที่ยวรอบ ๆ นครสวรรค์

พาเที่ยวชมเทศบาลนครนครสวรรค์ ซึ่งสร้างใหญ่โต สวยงาม

เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ณ สถานที่แห่งนี้ กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ได้เคยเดินทางมา ณ สถานที่แห่งนี้ และเข้าพบกับนายกเทศมนตรีนครนครสวรรค์คนเก่า เพื่อขอจัดนิทรรศการมนุษย์ต่างดาวที่หาดทรายต้นแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อเดือนปลายเดือนมกราคม 2541







เวลาผ่านไปไม่กี่นาทีจากนั้น ท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสี มีสีสันสวยงามมาก
ทำให้เทศบาลนครนครสวรรค์แห่งนี้ ดูสวยงามอย่างยิ่ง
จึงบันทึกภาพมาให้ชมกัน









และทานอาหารร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยรถตู้เที่ยวสุดท้าย เวลา 20.00 นาฬิกา





เสร็จสิ้นภารกิจ ต้อนรับผู้มาประมวลพลังในวันที่ 22 พย. 51 แต่เพียงนี้

อนุโมทนากับทุกท่าน ที่ได้ติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่องตลอดมา

แล้วพบกันค่ะ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2551 นี้ ที่.....เขากะลา

 

ขออวยพรให้ผู้ที่จะเดินทางไปประมวลพลังในวันเสาร์นี้ ได้บรรลุในสติปัฏฐาน 4 อย่างครบถ้วนบริบูรณ์ด้วยเถิด