ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สุดใจเขากะลา, 9 สิงหาคม 2007.

  1. MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    KAOKALA PARTY HAPPY NEW YEAR 2009 10-01-2009


    กำหนดการเดินทาง

    12.00 น. พร้อมกันที่อาคารฝักข้าวโพด 1 รามคำแหง 40
    .............จากนั้นเริ่มออกเดินทาง

    16.00 น. ร่วมกันถวายพระพุทธรูปบูชาปางสมาธิ ซุ้มเรือนแก้ว (พี่เทพกัญญา ฝากถวาย)แก่วัดเขากะลา พร้อมถวายสังฆทาน 1 ชุด

    17.00 น. ขึ้นเขากะลา
    ....................................................................

    1. juksawat
    2. เทพบุตรชาวดิน
    3. ทานะบารมี<!-- / message -->
    4. ukrin
    5. คุณป้าศจี
    6. *April*
    7. Dalink
    8.MOUNTAIN
    9.คุณ O.A.T.
    10. 11. เพื่อนจารย์โม่
    12.13.14.คณะพี่เทพกัญญา

    รถคันแรก รถจารย์โม่ รับได้ 4 คน
    รถคันที่สอง รถคุณอนันต์(รถแวน) รับได้ 6 คน
    รถคันที่สามรถ คุณ yai_93 รับได้ 4 คน

    .....................................................................
    เพื่อนอาจารย์ป้าพิมพ์ศจี จะไปร่วมงานพร้อมคุณประคอง(คุณประคองช่วยขับรถให้) รวม 2 ท่าน
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  2. mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ขอไปเที่ยววันเด็กด้วยคนครับพี่เม้าท์ ไม่ได้เจอกันนานคิดถึง อิอิ
     
  3. Digital เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +612
    ขออนุโมทนาค่ะคุณkingkaewmath

    ที่คุณบอกว่า
    "ฝึกบ่อยๆ ชีวิตจะมีความสุข มากขึ้น"
    "
    โดยที่เราไม่ต้องเปลี่ยนแปลง อะไรภายนอกเลย"

    ใช่แล้วค่ะ ในขณะที่เราไม่ทุกข์ เรื่องอะไรภายนอกที่คุณบอก มันก็ยังเป็นของมันอย่างนั้น มันก็ดำเนินไปตามเหตุและปัจจัยอย่างนั้นเอง เราไปบังคับอะไรภายนอกให้เป็นไปตามที่เราอยากให้มันเป็น หรือไม่อยากให้มันเป็นไปตามความต้องการของเราไม่ได้เลย

    ขออนุโมทนากับ อะไรภายนอก ของคุณคุณkingkaewmath อีกครั้งค่ะ
     
  4. sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    อนุโมทนาด้วยคนค่ะ _/ \_
    อนุโมทนาบุญและสวัสดีปีใหม่พี่วรรณและอาจารย์ (the other half) ด้วยค่ะ

    ฝรั่งบ้านนี้กำลังโดนบททดสอบให้วางอัตตาและออกมาดูขันธ์ บททดสอบดุเดือดมากค่ะมาทุกวันเลย เจ้าตัวไม่ทุกข์นัก คนดูแลฝรั่งตะหากที่เห็นทุกข์
    พรรคพวกบอกว่า ไม่ใช่วิบากสามีอ. ไก่หรอก วิบากอ. ไก่เองตะหาก..
    เฮ้อ เป็นงั้นไป
     
  5. Thepkanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2008
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +10,071
    ขอเรียนเชิญ .........ร่วม กิจกรรม ที่ "สถานธรรม In house"
    ในวันจันทร์ ที่ 26 มกราคม 2552
    พบ "พระ ดร. สิงห์ทน นราสโภ"
    เวลา 07.00 น. ถวายภัตตาหารเช้า (ท่านฉัน มื้อเดียว)
    เสร็จแล้วรับประทานทานอาหารเช้า ร่วมกัน
    08.00 น. - พระอาจารย์ เล่าเรื่องประสบการณ์ "พบมนุษย์ต่างดาว"
    (สถานปฎิบัติธรรม ใกล้กับ ถ้ำเชียงดาว เป็นที่ที่ผู้มาจาก
    ดาว ๆ ใช้มาประชุมหารือกัน)

    - สวดมนต์ ทำสมาธิ ให้ธรรมะ
     
  6. Thepkanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2008
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +10,071
    ขอเรียนเชิญ .........ร่วม กิจกรรม ที่ "สถานธรรม In house"
    ในวันจันทร์ ที่ 26 มกราคม 2552
    พบ "พระ ดร. สิงห์ทน นราสโภ"
    เวลา 07.00 น. ถวายภัตตาหารเช้า (ท่านฉัน มื้อเดียว)
    เสร็จแล้วรับประทานทานอาหารเช้า ร่วมกัน
    08.00 น. - พระอาจารย์ เล่าเรื่องประสบการณ์ "พบมนุษย์ต่างดาว"
    (สถานปฎิบัติธรรม ใกล้กับ ถ้ำเชียงดาว เป็นที่ที่ผู้มาจาก
    ดาว ๆ ใช้มาประชุมหารือกัน)
    -
    - สวดมนต์ ทำสมาธิ ให้ธรรมะ
     
  7. Thepkanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2008
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +10,071
    ขอเรียนเชิญ .........ร่วม กิจกรรม ที่ "สถานธรรม In house"
    ในวันจันทร์ ที่ 26 มกราคม 2552
    พบ "พระ ดร. สิงห์ทน นราสโภ"

    07.00 น. ถวายภัตตาหารเช้า (ท่านฉัน มื้อเดียว)
    เสร็จแล้วรับประทานอาหารเช้า ร่วมกัน

    08.00 น. เป็นต้นไป (คาดว่า เสร็จบ่าย 2 - 3)
    - พระอาจารย์ เล่าเรื่องประสบการณ์ "พบมนุษย์ต่างดาว"
    (สถานปฎิบัติธรรม ใกล้กับ ถ้ำเชียงดาว เป็นสถานที่ที่ผู้มา
    จากดาวต่าง ๆ ใช้ประชุมหารือกัน และที่นั่น เป็น "ปลาย"
    ของเทือกเขาหิมาลัย)
    - ให้ความรู้ เรื่อง "พลังรังษีธรรม"
    - ให้ธรรมะ "สวดมนต์ ทำสมาธิ"

    .......เมื่อกี้นี้ ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น อยู่ดี ๆ ข้อมูลก็ถูกโพสต์เข้าไปเอง ทั้ง ๆ ที่ยังพิมพ์ไม่เสร็จ ....ลูก และสามี เลยแซวว่า "ระบบ เขาโพสต์ให้ละมั้ง"
    ....ก็มือทั้งสองของข้าพเจ้า ยังกอดอกอยู่เลย ไม่ได้อยู่กับแป้นพิมพ์สักหน่อย เพราะกำลังคิดว่า จะให้พระอาจารย์บรรยาย หัวข้ออะไรบ้าง รู้สึกต๊กใจ กระโดด เข้าไปได้ไง/. ตั้ง 2 โพสต์ งง....สงสัยอยู่ข้าง ๆ
     
  8. Digital เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +612
    สวัสดีปีใหม่ค่ะ อ.ไก่และ ดร.ซิลวิโอ เช่นเดียวกันค่ะ

    the other half = Alex

    ฝรั่งบ้านอ.ไก่กำลังโดนบททดสอบ ส่วนอ.ไก่ก็ต้องโดนระบบส่งเวบมาให้แยกขันธ์ ๕ จึงเป็นโอกาสทอง ที่เราต้องรีบฉวยโอกาสนี้แยกขันธ์ ๕ ตามกำลังวิปัสนาญาณที่มีอยู่ มนุษย์ต่างดาวบอกว่า "เห็นทุกข์มีค่ามากกว่าได้ทอง"


    อ.ไก่ : คนดูแลฝรั่งตะหากที่เห็นทุกข์

    พี่วรรณ : พี่วรรณก็ต้องเป็นคนดูแลฝรั่งเช่นกัน ก็ดูแลแบบใช้ขันธ์ ๕ ดูแลขันธ์ ๕ กันไปในชีวิตประจำวัน โดยที่ไม่เข้าไปยึดว่าเป็นสามีของเรามากนักค่ะ
     
  9. vijit_j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    739
    ค่าพลัง:
    +2,866
    สงสัย คนโพสต์เขายืนอยู่ข้างๆ แต่เราไม่เห็น และเวลา 12:11 พอดีละมั้ง
     
  10. vijit_j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    739
    ค่าพลัง:
    +2,866
    แผนที่ทางไป เขากะลา ค่ะ
    จากสถานีรถไฟนครสวรรค์ไปถึงทางแยกหัวครัก ประมาณ 13 กม.
    จากทางแยกหัวครักเข้าไปถึงเขากะลา ประมาณ 6 กม.
    เลี้ยวเข้าข้างวัดคีรีสวรรค์

    ถ้าไปไม่ถูกโทรมาที่ 086-9220169
    พี่สมจิตรยินดีต้อนรับค่ะ




    <!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
    </FIELDSET>
    ขอนำมาลงอีกครั้ง สำหรับผู้ที่ไม่เคยไป
     
  11. MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081

    เมื่อปีที่แล้วได้เจอคุณ mead หลายครั้ง
    แต่ปีนี้ยังไม่ได้เจอกันเลย
    ดีใจครับ ที่จะได้เจอกันในปีนี้เป็นครั้งแรก ที่เขากะลา

    หัวหน้าห้องวิทย์ +ห้องยูเรอัส อย่าลืมพาเพื่อนร่วมห้องไปงานวันเด็กเขากะลา พร้อมฉลองปีใหม่อีกงาน ด้วยนะครับ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 10.gif
      ขนาดไฟล์:
      10.4 KB
      เปิดดู:
      319
    • 11.gif
      ขนาดไฟล์:
      389.8 KB
      เปิดดู:
      373
  12. MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Thepkanya
    ขอเรียนเชิญ .........ร่วม กิจกรรม ที่ "สถานธรรม In house"
    ในวันจันทร์ ที่ 26 มกราคม 2552
    พบ "พระ ดร. สิงห์ทน นราสโภ"

    07.00 น. ถวายภัตตาหารเช้า (ท่านฉัน มื้อเดียว)
    เสร็จแล้วรับประทานอาหารเช้า ร่วมกัน

    08.00 น. เป็นต้นไป (คาดว่า เสร็จบ่าย 2 - 3)
    - พระอาจารย์ เล่าเรื่องประสบการณ์ "พบมนุษย์ต่างดาว"
    (สถานปฎิบัติธรรม ใกล้กับ ถ้ำเชียงดาว เป็นสถานที่ที่ผู้มา
    จากดาวต่าง ๆ ใช้ประชุมหารือกัน และที่นั่น เป็น "ปลาย"
    ของเทือกเขาหิมาลัย)
    - ให้ความรู้ เรื่อง "พลังรังษีธรรม"
    - ให้ธรรมะ "สวดมนต์ ทำสมาธิ"




    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ขออนุโมทนากับพี่เทพกัญญา ด้วยครับ

    พอดีวันจันทร์ที่ 26 ม.ค. 2552 ตรงกับวันขึ้นปีใหม่ของจีน คือวันตรุษจีน
    ใครว่างก็ไปร่วมฟังธรรม ปฏิบัติธรรม ในวันและเวลาดังกล่าวที่
    "สถานธรรม In house" นะครับ



    <CENTER>
    </CENTER>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 9122.gif
      ขนาดไฟล์:
      21.7 KB
      เปิดดู:
      306
  13. kingkaewmath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +773
    ค่ะ เมื่อก่อนทุกข์เพราะ คิดว่าเราเองไม่เป็นดังใจที่คนอื่นต้องการให้เป็น
    ทุกข์เพราะ เราต้องการให้สิ่งนั้นสิ่งนี้ คนนั้นคนนี้เป็นเหมือนที่ใจเราต้องการ
    พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้มันออกมาดี แต่เหตุปัจจัยก็ทำให้มันเป็นไปไม่ได้เหมือนที่เราต้องการ จึงเรียนรู้ว่า การปล่อยวาง วางเฉย อุเบกขา
    (แต่ไม่ปล่อยปะละเลย) ก็เป็นทางหนึ่งที่ดีที่สุด สำหรับหลายๆสิ่ง
     
  14. MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    รถคุณ yai_93 ได้จำนวนสมาชิกครบแล้วครับ คือ.-
    1.ทานะบารมี
    2.จารย์จุก
    3.จารย์หนุ่ย
    4.MOUNTAIN

    รถคันนี้จะออกเดินทางจากฝั่งธนบุรี เวลาประมาณ 10.00 น.ไม่แวะที่ฝักข้าวโพด
    ........................................................................

    ส่วนที่เหลือ นัดขึ้นรถที่ฝักข้าวโพด คือ รถจารย์โม่,รถคุณอนันต์
    ตามเวลาเดิม (12.00 น.)

    1. ukrin
    2. คุณป้าศจี
    3. *April*
    4. Dalink
    5.คุณ O.A.T.
    6. 7. เพื่อนจารย์โม่
    8.9.10. คณะพี่เทพกัญญา
     
  15. กรึงไกร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    179
    ค่าพลัง:
    +295
    สุขสันต์วันเด็กล่วงหน้าทุกท่านครับ...........

    ;aa27 ;aa2 ;k02 ;aa41
     
  16. ceta64 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +87
    เข้าไปเยี่ยมชมบล็อกของคุณ Neemo หัวข้อศาลหลักเมือง
    http://astroneemo.blogspot.com/2009/01/2_130.html
    ไม่รู้ว่าจะฝากข้อความยังไง เลยขออนุญาตโพสไว้ที่นี่

    อยากทราบว่าเป็นศาลหลักเมืองที่ไหนครับ และมีอะไรแปลกหรือเปล่าครับ เหมือนกับหลักเอียง หรือมีอะไรมาค้ำ (ถ้าเข้าใจผิดต้องขออภ้ยในความไม่รู้ของผมด้วย)
     
  17. Thepkanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2008
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +10,071
    กลุ่ม พี่ Thep แจ้ง คุณ Mountian แล้ว ล่าสุด (เย็น 8 ม.ค.52) รวม 4 คน
    1. เทพกัญญา
    2. วราทิพย์
    3. ครูจุน
    4. ตุ๊กใหญ่ (น้องสาว พี่เทพกัญญา)
    พบกันที่ ฝักข้าวโพด ไม่เกินเที่ยง พร้อม พระพุทธรูป และ ขนมกล้วยใส่มะพร้าวน้ำหอม สงสัยงานนี้ แม้ "ขนม" ก็ฝึกให้กิน แบบอยู่ง่ายกินง่าย เพราะ ทั้งกล้วย ทั้งมะพร้าวน้ำหอม ยังกะถูกจัดวาง เพราะ มีคนตัดกล้วยสวนมาฝาก หลายหวี ส่วนมะพร้าวน้ำหอมมีรอ อยู่แล้วที่บ้าน

    เวลา 12.11 ที่ คุร วิจิตร บอกน่ะ พอเลื่อนมาดู พี่เห็นเป็น
    # 6149 เวลา 11.11
    # 6150 เวลา 11.11
    # 6151 เวลา 11.45
    แต่หลังจากนั้น จะโพสต์กลับ ว่า คุณวิจิตร ดูผิด ไม่ใช่ 12.11
    ตอนดึก ก่อนจะโพสต์เลยเลื่อนกลับไปดูอีกครั้ง กลายเป็น
    # 6149 เวลา 12.11
    # 6150 เวลา 12.11
    # 6151 เวลา 12.45

    งงงงงงงงงง.........อะไรกันนี่
     
  18. MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    สรุป รถที่จะเดินทางไปเขากะลา

    1.รถคุณ yai_93 มีผู้โดยสารคือ
    - ทานะบารมี
    -จารย์จุก
    -MOUNTAIN

    2. รถเพื่อนจารย์ป้าศจี (พี่ต๋อย)
    -คุณประคอง
    -จารย์ป้าศจี
    -จารย์หนุ่ย
    -April
    -dalink

    3. รถคุณอนันต์
    4. รถจารย์โม่

    -เพื่อนจารย์โม่
    -คณะพี่เทพกัญญา 4 ท่าน
    -O.A.T.


    รถคันที่ 1,2 จะแวะรับผู้โดยสารตามจุดนัดพบ ไม่แวะฝักข้าวโพด และจะมุ่งตรงไปเขากะลา

    รถคันที่ 3,4 จะรอจอดรับผู้โดยสารที่อาคารฝักข้าวโพด ตามกำหนดการเดิม

    แจ้งมาเพื่อทราบครับ
     
  19. สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451

    ขออนุโมทนา กับคุณ kingkaewmath ด้วย

    กับการค้นพบ .. ทุกข์ ของท่าน แล้วพิจารณาไตร่ตรองหาแนวทาง เพื่อที่จะดับทุกข์เหล่านั้น

    ขออนุโมทนาด้วยอย่างยิ่งค่ะ


    เพราะนี่คือข้อแรกสุด ... ของขบวนการ หรือวิถีทางที่จะพ้นจากทุกข์ได้

    ก็คือ ต้องรู้ก่อนว่า เรากำลัง...ทุกข์ ... อยู่

    นี่คือข้อแรกของอริยสัจ 4 ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค

    เมื่อมีความรู้สึกหดหู่ เศร้าหมอง วิตกกังวล ไม่สบายกายไม่สบายใจ อึดอัด ขัดเคือง ขุ่นข้องหมองใจ คับแค้นใจ

    สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่บีบรัด ให้วิตกกังวล ทุรนทุราย อยู่ในข่ายความทุกข์ทั้งสิ้น

    หากแต่บุคคลนั้น จะรู้หรือไม่ว่า ตนเองกำลัง...ทุกข์

    หากไม่รู้ตัวว่ากำลังทุกข์อยู่ กำลังวิตกกังวลอยู่ กำลังร้อนอกร้อนใจอยู่ และไม่รู้นี่คือทุกข์ ที่มันกำลังเกิดขึ้นแล้วในจิตตนเอง

    เมื่อไม่รู้ว่ากำลัง..ทุกข์ ก็จะจมอยู่แต่ในความทุกข์นั้น หลงติดอยู่ในอารมณ์ขุ่นข้องหมองใจ กังวล ทุรนทุรายสารพัด ก็จะเหมือนวนอยู่ในวงกลม ที่หาทางออกไม่ได้

    แต่ หากเห็นว่า นี่เรากำลังทุกข์อยู่นี่นะ

    เมื่อนั้น ก็จะเริ่มกระบวนการที่ 2 ต่อไปก็คือ

    หาสาเหตุแห่งความทุกข์ (สมุทัย) ทันที

    ว่าที่เราร้อนรน กระวนกระวายใจ วิตกกังวลนี้มีสาเหตุมาจากอะไร

    อ๋อ .. เพราะห่วงเรื่องงาน เพราะห่วงแฟน เพราะห่วงบ้าน เพราะเพื่อนว่า เพราะเขานินทาว่าร้าย เพราะอยากได้อย่างนี้แล้วไม่ได้ เพราะถูกขัดใจสารพัด

    เมื่อเจอสาเหตุ ที่ทำให้เราทุกข์ เราก็จะมีวิธีจัดการกับทุกข์เหล่านั้นได้ ไม่เกินกำลังแน่นอน

    ผลที่เกิดแล้ว ....(ทุกข์) คือสิ่งที่ทนได้ยาก เป็นความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ ซึ่งสิ่งนี้ต้องมาก่อน เกิดขึ้นก่อน และรู้ก่อน เห็นก่อนว่ากำลังทุกข์ กำลังร้อนรน

    เหตุให้เกิดทุกข์ .... (สมุทัย) เมื่อรู้ว่าทุกข์แล้ว จึงเริ่มหาสาเหตุแห่งทุกข์นั้น ทุกข์เพราะถูกเพื่อนว่า คนนินทา ห่วงงาน ห่วงบ้าน ห่วงแฟน สารพัดปัญหา

    ทางดับทุกข์ (นิโรธ) เมื่อเจอเหตุแห่งทุกข์แล้ว ว่าทุกข์เพราะสาเหตุใด คราวนี้ก็เลยต้องหาทางที่จะให้ความทุกข์นั้นเบาบางลง ซึ่งจะมีการแก้ปัญหาในหลายรูปแบบ แต่คนปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่ ก็จะหันมาศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงตรัสสอนไว้ ถึงวิธีปฏิบัติธรรมเพื่อการหลุดพ้นจากวัฏฏะสงสาร คือการพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิงนั่นเอง ซึ่งท่านได้วางแนวทางไว้หลายขั้นตอน หลายระดับ ซึ่งทางหนึ่งที่จะพ้นทุกข์ได้ .... ก็ต้องเดินตามทางของมรรคมีองค์ 8

    ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ (มรรค) ได้แก่ อริยมรรคมีองค์ 8. อริยมรรค แปลว่า ทางอันประเสริฐทางนั้นมีทางเดียวแต่มีองค์ประกอบ 8 ประการ

    เป็นแนวทางที่ผู้แสวงหาทางพ้นทุกข์ ต้องนำมาปฏิบัติเพื่อออกจากทุกข์เหล่านั้น จะมีหลายขั้นตอน หลายระดับ ตามกำลังของตน และเมื่อปฏิบัติในทางที่ถูกตรง ก็จะละจากการยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า อุปาทานขันธ์ห้าก็จะน้อยลง ความทุกข์ก็จะเบาบางลงไปเรื่อย ๆ จนหลุดพ้นจากทุกข์โดยสิ้นเชิงได้นั่นเอง.


    พระพุทธองค์ท่านตรัสสอนในอริยสัจ 4 ซึ่งมีแต่เรื่องของทุกข์ กับการดับทุกข์เท่านั้น

    นั่นแสดงว่า ถ้าเราได้เห็นทุกข์ ได้รู้จักทุกข์ เมื่อนั้น เราก็มีโอกาสที่จะออกจากทุกข์ได้

    แต่ผู้ไม่เห็นทุกข์ ก็จะเวียนว่ายอยู่ในความทุกข์ เพราะไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทุกข์ ก็ยังคงร้อนอกร้อนใจ กระวนกระวาย วิตกกังวล อารมณ์ขุ่นมัว ทะยานอยากแล้วไม่ได้ดังหวัง ก็ทุรนทุราย แย่งชิงกันต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด ย่อมหาทางออกจากทุกข์ไม่เจอนั่นเอง

    เราจึงควรรู้จักอริยสัจ 4 อย่างง่าย ๆ ให้ถูกตรงในขั้นต้นก่อน เพื่อเอาตัวรอดจากทุกข์ในวัฏฏะสงสารนั่นเอง

    เมื่อรู้ตัวว่ากำลังทุกข์

    ให้หาสาเหตุว่า กำลังทุกข์จากเรื่องอะไร? หาให้เจอ

    มีวิธีแก้ไขอย่างใดได้บ้าง หรือหากแก้ไขอะไรไม่ได้ การทำตัวเองให้เป็นทุกข์ก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด ดังนั้นก็ต้องใช้ธรรมะมาพิจารณา เพราะการไปอุปาทานว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นตัวเรา ของเรา จึงทำให้ต้องติดข้องอยู่ในวังวนทุกข์เหล่านั้น

    เมื่อเจอแนวทางการปฏิบัติเพื่อปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่นในอุปาทานขันธ์ห้าแล้ว ก็นำมาปฏิบัติเลย ก็จะเห็นว่า ความทุกข์จะเบาบาง จางลงไปเรื่อย ๆ ความยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า ก็จะจางคลายลงไปเรื่อย ๆ เช่นกัน ดังนั้น ความทุกข์ก็จะเกาะกินไม่ได้อีกต่อไป

    ลองดูนะคะ มีแค่ 4 ขั้นตอนเท่านั้น อาจไม่ยากจนเกินไป ก่อนอื่น ต้องคอยตรวจเช็คสภาวะอารมณ์ในขณะนั้นก่อนว่า ตอนนี้อยู่ในข่ายไหน ทุกข์หรือยัง

    ถ้าดูบ่อย ๆ ทำบ่อย ๆ รู้เท่าทันขันธ์ห้าที่คอยแต่จะปรุงอารมณ์ต่าง ๆ เหล่านั้น เห็นบ่อย ๆ ทำบ่อย ๆ เดี๋ยวมันก็จะเขินอายไปเอง

    ขออนุโมทนากับทุกท่าน ให้รู้เท่าทันธรรมชาติ ให้รู้เท่าทันทุกข์ ให้รู้เท่าทันอุปาทานขันธ์ห้า แล้วหาทางจัดการกับอุปาทานเหล่านั้นให้สิ้นซากไป ให้มันหมดเชื้อ ดับไม่ให้เหลือ เพื่อจะได้ไม่ต้องกลับมาเกิดใหม่กันอีก

    ขอความเจริญในธรรม จงมีแด่ทุก ๆ ท่านตลอดกาลเทอญ.
     
  20. สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    <TABLE cellSpacing=0 width="100%" border=1><TBODY><TR bgColor=#4b9339><TD hight="30">[SIZE=+2]<CENTER>อริยสัจ 4</CENTER>[/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%"><TBODY><TR width="100%"><TD colSpan=2>

    อริยสัจ 4
    อริยสัจ 4 หมายถึง ความจริงอันประเสริฐ4 ประการ ได้แก่
    1.ทุกข์
    2.สมุทัย คือเหตุให้ทุกข์เกิด
    3.นิโรธคือคาวมดับทุกข์
    4.มรรค คือข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์


    อริยสัจข้อที่ 1. ทุกข์

    ทุกข์ แปลตามตัวอักษรว่า สิ่งที่ทนได้ยาก ตรงกันข้ามกับสุข ซึ่งแปลว่า สิ่งที่ทนได้ง่ายโดยใจความ หมายถึง ความไม่สบายกาย และความไม่สบายใจ ทุกข์จำแนกเป็น 3 ประเภท คือ
    1.ทุกข์ประจำ ได้แก่ ทุกข์ที่มีแก่ทุกคนตามธรรมชาติ มี 3. ประการ คือ

    -ความเกิด ได้แก่ ความทุกข์ของทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนกระทั่คลอด แม้ทารกจะบอกใครไม่ได้ว่าเป็นทุกข์แต่จากการที่ความเกิดที่มาของความทุกข์ที่ตามมาในภายหลังอีกมากมายจึงถือได้ว่าความเกิดเป็นความทุกข์
    -ความแก่ ได้แก่ ความทุกข์ที่เกิดจากร่างกายเปลี่ยนแปลงไปในทางเสื่อมลง เช่น ผมหงอก ฟันหัก หนังเหี่ยวย่น นัยน์ตาฝ้าฟาง หูตึง กำลังลดน้อยถอยลง มีความปวดเมื่อยทั่วร่างกาย ถึงคนจะยังไม่แก่มาก แต่ความไม่อยากแก่นั่นเอง ทำให้คนเป็นทุกข์ เพราะเป็นความอยากที่ทวนกระแสความเป็นไปตามธรรมชาติ
    -ความตาย ได้แก่ ความทุกข์ที่เกิดจากการสิ้นชีวิต เพราะทวนกระแสความต้องการของคน ทุกคนไม่อยากตาย อยากมีอายุยืน เมื่อถึงคราวจะต้องตาย จึงเกิดความทุกข์อย่างแสนสาหัส

    2.ทุกข์จร หรือความทุกข์ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว มี 8 ประการ คือ
    -ความโศก ได้แก่ ความเศร้าใจ หรือความแห้ใจ
    -ความพิไรรำพัน ได้แก่ ความคร่ำครวญ หรือความบ่นเพ้อ
    -ความทุกข์ทางกาย ได้แก่ ความเจ็บไข้ หรือความบาดเจ็บ
    -ความโทมนัส ได้แก่ ความไม่สบายใจ หรือความน้อยใจ
    -ความคับแค้นใจ ได้แก่ ความตรอมใจ หรือความคับอกคับใจ
    -ความประสบกับสิ่งที่ไม่รัก ไม่ชอบใจ
    -ความพรัดพรากจากสิ่งที่รัก ที่ชอบใจ
    -ความปรารถสิ่งใด แล้วไม่ได้สิ่งนั้น
    3.ทุกข์โดยรวบยอด ทุกข์ที่กล่าวข้างต้นทั้งหมดสรุปได้เพียงประการเดียว คือ การยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ 5 เป็นทุกข์


    อริยสัจข้อที่ 2 สมุทัย
    ทุกข์สมุทัย(สมุทัย-เหตุให้เกิด) แปลว่า เหตุให้เกิดทุกข์ ได้แก่ ตัณณหา หรือความทะยานอยาก ซึ่งจำแนกได้ 3 ประการ
    1. กามตัณหา ความทะยานอยากในกาม กาม หมายถึง รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสที่น่าใคร่ น่าปรารถนา น่าพอใจ ความทะยานอยากในกาม จึงหมายถึง ความดิ้นรนอยากเห็นสิ่งที่สวยงาม อยากฟังเสียงที่ไพเราะ อยากดมกลิ่นที่หอม อยากลิ้มรสที่อร่อย อยากสัมผัสที่น่าใคร่น่าปรารถนา น่าพอใจ
    2. ภวตัณหา ความทะยานอยากในความเป็น คือ ดิ้นรนอยากเป็นบุคคลประเภทที่ตนชอบ เช่น นักร้อง นักแสดง นักการเมือง หรืออยากได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งก่อนใครๆ
    3. วิภวตัณหา ความอยากในความไม่มีหรือไม่เป็น คือ ดิ้นรนอยากไม่เป็นสิ่ที่เขาให้เป็นหรืออยากจะพ้นไปจากตำแหน่างที่เป็นอยู่แล้ว รวมทั้งอยากให้สิ่งนั้นสิ่งนี้หมดไป
    ตัณหาทั้ง 3. ประการนี้เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ทุกข์ที่เกิดจากตัณหาต้องเป็นทุกข์ที่เกี่ยวข้องกับจิตใจ ไม่ใช่ทุกข์เพราะคงอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ของสิ่งที่ไม่มีมีชีวิต ตัณหาเป็ฯปัจจัยให้เกิดความยึดมั่นถือในตัวเอง และสิ่งต่างๆ ของตัวเอง ความยึดมั่นถือมั่นนี้เองเป็นตัวทุกข์


    อริยสัจข้อที่ 3 นิโรธ
    ทุกข์นิโรธ(นิโรธ-ความดับ)แปลว่า ความดับทุกข์ หมายถึง การดับ หรือการละตัณหา 3 ประการดังกล่าวแล้วได้ ตัณหาเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ถ้าดับเหตุได้ ทุกข์ซึ่งเป็นผลก็ดับไปเองเหมือนการดับไฟต้องดับที่เชื้อเพลิง เช่นฟีนหรือน้ำมัน นำเชื้อออกเสีย เมื่อเชื้อหมดไปไฟก็ดับเอง


    อริยสัจข้อที่ 4 มรรค
    ทุกข์นิโรธคามินีปฏิปทา(นิโรธ-ควาามดับ . คามินี-ให้ถึง. ปฏิปทา-ข้อปฏิบัติ)แปลว่า ข้อปฏิบัติให้ถึงความดัมทุกข์ ได้แก่ อริยมรรคมีองค์ 8. อริยมรรค แปลว่า ทางอันประเสริฐทางนั้นมีทางเดียวแต่มีองค์ประกอบ 8 ประการ ซึ่งดังต่อไปนี้
    1.สัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบ หมายถึงการรู้การเห็นอริยสัจ 4 อย่างถูกต้อง คือรู้ว่า ทุกข์ได้แก่อะไรบ้าง และเป็นทุกข์อย่างไร รู้ว่าตัณหาเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ และตัณหานั้นควรละเสียรู้ว่าทุกข์จะดับไปเพราะว่าดับตัณหา และรู้ว่าอริยมรรคเป็นทางให้ดับตัณหาได้
    2.สัมมาสังกัปปะ ความดำริชอบ หรืความคิดชอบ คือ มีความคิดออกจากกาม ไม่หลงใหลกับรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส มีความคิดที่ไม่พยาบาทปองร้ายผู้อื่น และมีความคิดที่จะไม่เบียดเบียนผู้อื่น
    3.สัมมาวาจา การพูดชอบ ได้แก่ การเว้นจากการพูดเท็จ เว้นจากการพูดส่อเสียด คือ การพูดยุยงให้เขาแตกกัน การเว้นจากการพูดคำหยาบ และการพูดเพ้อเจ้อ หรือการพูดไร้สาระ
    4.สัมมากัมมันตะ การกระทำชอบ ได้แก่ การเว้นจากการฆ่าสัตว์ การเว้นจากการลักทรัพย์ การเว้นจากการประพฤติผิดในกาม หรือการเว้นจากการกิจกรรมทางเพศ
    5.สัมมาอาชีวะ การเลี้ยงชีพชอบ ได้แก่ การเว้นมิจฉาชีพที่สุจริตไม่ผิดกฎหมายและศีลธรรม
    6.สัมมาวายามะ ความพยายามชอบหรือความเพียรชอบ ได้แก่ ความเพียรระวังไม่ให้ความชั่วเกิดขึ้น ความเพียรละความชั่วที่เกิดขึ้นแล้วให้หมดไป ความเพียรทำความดีให้เกิดขึ้น และความเพียรรักษาความดีที่เกิดขึ้นแล้วให้คงอยู๋
    7.สัมมาสติ ความระลึกชอบ ได้แก่ ความมีสติระลึกได้ถึงความเป็นไปของร่างกายระลึกได้ถึงความเป็นไปของเวทนา ว่ามีความรู้สึกเป็นสุข เป็นทุกข์ หรือเฉยๆ ระลึกได้ถึงความเป็นไปของจิตว่าเศร้าหมองเพราะกิเลสชนิดใด หรือผ่องแผ้วเพราะปราศจากกเลสเหล่านั้น ระลึกได้ถึงธรรมต่างๆ ทั้งฝ่ายดีฝ่ายชั่ว และฝ่ายกลางว่า ธรรมชนิดใดผ่านเข้ามาในจิต
    8.สัมมาสมาธิ ความตั้งจิตมั้นชอบ ได้แก่ การทำจิตให้เป็นสมาธิ ผ่านระดับต่ำ ระดับกลาง ถึงระดับสูง ซึ่งมี 4 ระดับ คือ ฌานที่1 ฌานที่2 ฌานที่ 3. ฌานที่ 4
    อริยมรรคมีองค์ 8 นี้ สามารถสังเคราะห์ลงเป็นศีล สมาธิ ปัญญาได้ ดังนี้คือ
    การพูดชอบ การกระทำชอบ การเลียงชีพชอบ จัดเป็นศีล
    ความพยายามชอบความระลึกชอบ ความตั้งจิตมั่นชอบ จัดเป็นสมาธิ
    ความเห็นชอบ ความดำริชอบ
    จัดเป็นปัญญา


    อริยสัจ 4 ประการ เป็นเหตุผล 2 คู่
    อริยสัจ 4 ประการ เป็นเหตุผล 2 คู่ คือ
    คู่ที่ 1. ทุกข์ เป็นผลของตัณหา
    ทุกข์สมุทัย เป็นเหตุให้เกิดทุกข์
    คู่ที่ 2. ทุกข์นิโรธ เป็รผลของการปฏิบัติตามอริยมรรค
    ทุกข์นิโรธคามินีปฏิปทาเป็นเหตุให้เกิดความดับทุกข์




    อ้างอิงที่มา

    http://www.pantown.com/board.php?id=3854&area=1&name=board2&topic=4&action=view








    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้