ข้อคิดสำหรับการดำเนินชีวิต

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย วิญญาณนิพพาน, 8 พฤษภาคม 2020.

  1. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    อย่าหยุดยั้ง แต่อย่าอยู่อย่างอยาก
    ความพยายามที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้ประสบความสำเร็จอาจดูเหมือนเป็นยาขม ที่กินยากในเบื้องต้น แต่ยาขมชื่อว่าเป็นยาดีที่ช่วยให้โรคหายขาดได้ ความพยายามที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ด้วยความมุ่งมั่นก็เช่นเดียวกัน เบื้องแรกก็อาจลำบากที่จะทำความเข้าใจ แต่รสชาติที่ได้รับจากความพยายามที่ได้มานั้นย่อมเป็นความหอมหวานที่ชีวิตใฝ่หาเสมอ ดังนั้น “ เกิดเป็นคนควรพยายามอย่างสุดความสามารถจนกว่าความตายจะมาพรากความพยายามนั้นไปจากเรา ”

    คุณธรรมของผู้ยิ่งใหญ่
    ให้กำเนิดโดยมิอ้างเป็นเจ้าของ
    บำรุงเลี้ยงโดยมิถือเป็นบุญคุณ
    เกื้อกูลโดยมิก้าวก่าย
    ไม่นำความยิ่งใหญ่ไปแทรกแซงขู่เข็ญบังคับใคร
    เมื่อได้รับการเทิดทูน ท่านไม่ทะนงตน
    เมื่อได้รับการทักท้วง ท่านไม่ท้อแท้
    เมื่อกิจการงานอันยิ่งใหญ่สำเร็จลง...ท่านถอนตัวออกไป.

    สุภาษิตจีนโบราณสอนว่า...
    สงบได้ จะสำนึกในความวุ่นวายของตน
    เงียบเป็นจะสำนึกในความเพ้อเจ้อของตน
    มีน้ำใจจะสำนึกในการด่วนสรุปคนอื่นของตน.

    - คบคนเช่นใด เป็นเช่นนั้น

    “ คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล ” เป็นนิยามของการฟ้องว่า หากเราคบสิ่งใด โอกาสที่เราจะกลายพันธุ์เป็นสิ่งนั้นย่อมมีสูง เพราะอิทธิพลที่เกิดจาการเสพสิ่งที่เราใกล้ชิดมักจะคอยซึมซาบเข้าไปในชีวิตอย่างไม่รู้สึกตัว ถึงแม้บางครั้งอาจจะรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างที่เป็นความงดงามมักจะเหลือน้อยเต็มที ด้วยเหตุนี้สิ่งที่เราต้องใส่ใจในการสร้างสิ่งที่คอยเกาะกุมชีวิตให้มีกำบังสำหรับตัวเองก็คือ “ กัลยาณมิตร” ผู้ชื่อว่าเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรผู้ดีงาม เพราะการเสพส้องกับสิ่งดี ๆ โอกาสที่สิ่งดีนั้นจะซึมซับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตก็มีสูงเช่นกัน ดังนั้นก่อนที่จะเลือกให้ใครผ่านเข้ามาในชีวีของเราสง่างามหรือไม่ แล้วค่อยตัดสินใจที่จะเกี่ยวก้อยร้อยดวงใจ มอบให้แก่กัน....

    ธาตุอดทน
    “ คนเรามีธาตุของความอดทนอยู่ในตัวทุกคน แต่ก็มีน้อยคนที่จะยอมให้ความอดทนนั้นเข้ามาอยู่ประจำในชีวิตจิตใจ เพราะสังเกตได้จากการที่เวลาอารมณ์เข้ามากระทบทีไร เรามักจะตอบโต้ด้วยความรู้สึกต้องการเอาคืนเสมอ เรื่องที่ควรจะจบลงในเวลามี่สั้นจึงยืดยาวออกไป แต่ถ้าเรียนรู้ที่จะให้ความอดทนเฝ้าประจำ ด้วยความเข้าใจ อดทนที่จะศึกษาอารมณ์ของตัวเองผ่านการกระทบจากสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามา เบื้องต้นอาจจะดูเหนื่อยล้าจากสิ่งที่ทำให้เจ็บตัว แต่เมื่ออดทนต่อสิ่งเหล่านั้นอย่างผู้มีปัญญาได้แล้ว ปัญหาที่ยุ่งยากก็มักจะคลายตัวลง เมื่อนั้นเราย่อมสามารถโบยบินไปสู่อิสรภาพของความสุข เพราะการขึ้นไปอยู่เหนืออารมณ์ เหล่านั้นด้วยภาวะที่โปร่ง เบาสบาย...”

    เราเลือกเอง
    การตัดสินใจที่จะทำอะไรสักอย่างหนึ่งในชีวิต เป็นสิทธิ์ที่คนเราได้มาจากการเกิด และเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ดีและสิ่งเลวร้ายนั้น ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เราต้องเลือกให้ตัวเอง เพราะหากเลือกผิดชีวิตที่ดำเนินไปย่อมเต็มไปด้วยคำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบ เพราะใจที่ตัดสินเลือกโดยอาศัยความไม่รู้ เป็นคู่มือนำทางเป็นเสมือนสิ่งที่คอยผลักไสสิ่งดี ๆ ให้ไกลออกไป “ ชีวิตจึงต้องจมอยู่กับความด้อยค่าโดยเข้าใจว่ามันดีที่สุดแล้ว ” เช่นเดียวกับหนอนที่อยู่ในกองอุจจาระที่สกปรก แต่ก็เข้าใจว่ามันดีที่สุดแล้ว ตรงกันข้าม หากเลือกสิ่งที่ดีเป็นเพื่อนคู่คิดมิตรคู่ชีวิต สิ่งที่ได้มาย่อมมีคุณค่าราคางาม และช่วยต่อยอดให้สิ่งดีงามผลิบานได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้น “ เมื่อชีวิตมีสิทธิ์ที่จะเลือกสิ่งต่าง ๆ ให้กับตัวเอง เราก็ควรเลือกสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตของเรา ” เพราะหากเลือกผิด ชีวิตจะบ่ายหน้าไปสู่ความด้อยค่าเสมอ...

    ทำตามโดยไม่รู้สาเหตุ
    สิ่งที่น่ากลัวในการแสวงหาความสุขให้กับตัวเองคือ “ การไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคนเช่นไร และต้องการอะไรในชีวิตกันแน่ ” เพราะเมื่อมิดบอดจากการมองเห็นตัวเองแล้ว โอกาสที่โลกที่สดใสกว่าจะปิดตัวลงย่อมมีง่ายขึ้น จึงทำให้เราต้องเดินทางสู่เป้าหมายอย่างคนที่ไร้แสงสว่างนำทาง ยิ่งการเดินตามผู้อื่นอย่างไร้ทิศทางแล้วถือว่าเป็นการตามหาสิ่งที่ชีวิตต้องการโดยไม่รู้ว่าเมื่อไรจะเจอ เมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งที่เราได้มาครอบครอง และสิ่งที่พยายามแสวงหาเพื่อตอบสนองตัวเราให้สมบูรณ์ขึ้นย่อมกลายเป็นความบกพร่อง อย่างน่าเสียดาย ดังนั้น “ การรู้ว่าตัวเองเป็นอย่างไร และเป้าหมายที่ช่วยทำชีวิตให้มีความดีงามนั้นเป็นเช่นไร ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง ซึ่งมีหลักซึ่งจะช่วยปูทางให้เราก้าวไปข้างหน้าอย่างมีความหวังและเต็มไปด้วยพลังแห่งความเป็นตัวตนอย่างภาคภูมิ.”

    การกระทำสำคัญกว่าการพูด
    การที่ใครคนหนึ่งจะทำให้ผู้อื่นเชื่อมั่นในตัวเองนั้น สิ่งสำคัญอยู่ที่คนที่เป็นผู้นำนั้นเป็นตัวอย่างที่ดีหรือไม่ เพราะ “ หากใครก็ตามที่ชอบการเป็นผู้นำ แต่ไม่ยอมเป็นตัวอย่างที่ดี การนำนั้นมักจะทำให้คนที่เดินตามไม่ประทับใจ เพราะผู้ที่เขาเดินตาม ไม่นำมาซึ่งความเชื่อมั่นในเส้นทางที่กำลังก้าวไป แต่หากใครก็ตามเรียนรู้ที่จะเป็นผู้นำด้วยความจริงใจ การนำทางของเขาคนนั้นย่อมเป็นการเชื้อเชิญให้ผู้อื่นคล้อยตามอย่างไร้ปัญหา ดังนั้นเมื่อต้องการให้ผู้อื่นเดินตามความคิดของตน ผู้นำก็ต้องกล้าที่จะทำให้เห็นเป็นตัวอย่างในทางที่ถูกต้องด้วย เพราะตัวอย่างที่ดีย่อมก่อให้เกิดความเชื่อมั่นแก่ผู้ตามเสมอ...”

    สวยนอก สวยใน
    ถ้าชีวิตติดอยู่กับความพอใจ ในสิ่งที่เห็นแต่เพียงภายนอกอย่างเดียว เราจะต้องแสวงหาสิ่งที่ต้องการอย่างไม่มีสิ้นสุด เพราะสิ่งที่อยู่ภายนอกที่ตาแลเห็น ย่อมมีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเปลี่ยนสภาพไปตามกาลเวลา ความต้องการที่อยากไขว่คว้ามาครอง ก็จะเคลื่อนไหวตามไปอย่างไม่มีสิ้นสุดเช่นกัน แต่หากรู้จักพิจารณาอย่างแยบคาย ปรับทัศนคติหรือมุมมองให้เป็นบวกกระทั่งก้าวสู่ความแจ่มใสในใจ ย่อมทำให้เราได้รับรู้รสชาติของความสุข และคุณค่าของสิ่งที่ปรารถนาอย่างแท้จริง เพราะ “ สิ่งที่ซ่อนอยู่ในมิติของจิตใจ ภายในนั้นมีมวลของความสุขรอคอยให้เชยชมอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเสมอ...”

    ค้นเหตุ หาผล
    “ การจะรู้อะไรสักอย่างหนึ่งนั้น เราควรรู้จักที่มาที่ไปของเรื่องนั้น ๆ ให้ชัดเจน ซึ่งเกิดจากการเรียนรู้ที่ถูกทาง แล้วปัญญาชนิดไหนก็จะปรากฏแก่เรา ที่สำคัญ การค้นเหตุหาผล ไม่ควรมองข้ามผู้มีประสบการณ์ที่ผ่านการใช้ชีวิตมานาน แต่ควรรู้จักเรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ จากท่านด้วยความเคารพ เพราะประสบการณ์ชีวิตของคนที่ผ่านการใช้เวลามาอย่างยาวนาน ย่อมช่วยสะท้อนเหตุแห่งความจริงที่มี เพื่อนำไปสู่ผลที่ถูกต้องได้ด้วยภาวะที่ลงตัว การค้นเหตุหาผลในเรื่องต่าง ๆ จึงจำเป็นที่เราจะต้องอาศัยสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทั้งการตระหนักรู้ในตัวเอง และการรับรู้จากผู้อื่นด้วยความอ่อนน้อม ถ่อมตน จึงจะทำให้สิ่งที่ได้รับมา เป็นเครื่องฟ้องคุณค่าที่ควรแก่การจดจำ...”

    เริ่มต้นได้ไม่มีวันสาย
    คนเรามักคิดว่า บางสิ่งที่อยากทำมักสายเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการทำความดี หรือการกลับไปแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดในอดีตที่ผ่านมา เพราะเกิดความรู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง และอายุของตัวเองไม่อำนวย แต่สำหรับปราชญ์ท่านกลับมองว่า การเริ่มต้นทำสิ่งดีหรือแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดนั้นไม่มีวันสาย เพราะแม้จะเริ่มต้นด้วยความเหนื่อยยากเพราะชาชินกับสิ่งเดิมที่เคยเป็นมา แต่อย่างน้อยสิ่งที่ได้รับจากการรู้จักเริ่มต้นย่อมทำให้ความดีที่ได้ก่อตัวมา เติบโตขึ้นมากกว่าเดิมได้ แม้นความผิดที่เคยสร้างไว้ ย่อมมีโอกาสกลับมาเป็นบทเรียน สอนให้รู้ว่า ความดีและสิ่งที่ไร้ค่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ทุกอย่างจึงไม่มีวันสายหากรู้จักเริ่มต้นอย่างคนที่ใช้ปัญญา...< เกิดมาทั้งที... ตายฟรีได้ไง >

    เอกสารนี้ ข้าพเจ้าได้มาจาก นาย ชีวทัศน์ รัตนะพันธ์ ในปี 2550 ซึ่งมีพระภิกษุนำมาเผยแผ่ ข้าพเจ้าเห็นว่ามีประโยชน์สำหรับการดำเนินชีวิตเลย นำมาเผยแผ่อีกที
    หากผู้ที่ได้อ่านเห็นว่า มีประโยชน์ ก็สามารถนำมาเผยแผ่ได้ ไม่มี ลิขสิทธิ์แต่ประการใด..

    http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=26913
     

แชร์หน้านี้

Loading...