ข้าพเจ้า คือศรีอาริยะเมตไตย เพราะเหตุใด

ศาสนาเสื่อมโทรม จิตใจคนก็เสื่อมทราม ความคิดอ่านก็ต่ำช้า
มัวแต่เถียง มัวแต่กล่าวร้ายว่าแอบอ้าง และบ้างก็ทำเป็นแสนรู้เกี่ยวกับเรื่องข้าวของเครื่องใช้และครอบครัว ปัญญานิ่มนะ คิดเหมือนไอ้คางคกอยู่ในกะลา ไม่รู้สายสนกลในแล้วทำเป็นแสนรู้

ใครก็ตามที่กล่าวว่าข้าพเจ้าแอบอ้าง ก็ให้มาพิสูจน์ได้ ในเมื่ออ่านหลักการแล้วยังไม่เข้าใจ เพราะข้าพเจ้าไม่ได้แยกแยะรายละเอียด ไม่เป็นไร ให้ไปคิดใหม่ คิดผิดคิดใหม่ได้
สำหรับคุณคนที่ว่าพระไตรปิฏกไม่บิดเบือน และใช้ให้ข้าพเจ้าปฏิบัติตาม หลักการหรือธรรมะในพระไตรปิฏก
ข้าพเจ้าว่า คุณมาดูความแตกต่าง ระหว่างข้าพเจ้ากับบุคคลผู้อยู่ในพุทธศาสนา ทุกท่าน เลยดีกว่าว่า ความแตกต่างมันมีเยอะมาก
ความแตกต่างในที่นี้ ไม่ใช่ความแตกต่าง ในการนุ่งห่มนะ แต่ความแตกต่างนั้น คุณสามารถมองเห็นได้ด้วยตาของคุณเอง คุณจะได้หายสงสัยว่า ทำไม ข้าพเจ้าจึงประกาศตัวว่า ข้าพเจ้าคือ ศรีอาริยะเมตไตย
และอย่าใช้คำว่าแอบอ้างกับข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้ากล้าให้พวกท่านพิสูจน์ได้ทุกเวลา ที่สมควรอยู่แล้ว
การพิสูจน์ในตัวหลักการหรือธรรมะ ก็มีในกระทู้นี้อยู่แล้ว อย่าเถียงแบบ พวกสัตว์นรก ที่ไม่มีความคิดในทางที่ถูกที่ควร อย่าเถียงทั้งๆที่ยังไม่ได้แยกแยะรายละเอียดในหลักการหรือธรรมะของข้าพเจ้า
คุณลองเอาหลักการของข้าพเจ้า กับหลักการหรือมรรคอันมีองค์ 8 ของพระไตรปิฏก เปรียบเทียบกันซิว่า
อย่างไหนถูกต้องกว่ากัน อย่างไหน เป็นเหตุแห่งทุกข์
อย่างไหน เป็นเหตุทีทำให้เกิดทุกข์
อย่างไหน เป็นเหตุที่ทำให้ถึงความดับทุกข์
อย่างไหน เป็นหนทางแห่งความดับทุกข์
พวกท่านรู้ไหมว่า พระไตรปิฏกของศาสนาพุทธถูกบิดเบือนไป ก็เพราะ มรรคที่มีอยู่ ไม่ใช่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ซึ่ง ไม่ถูกต้อง
และธรรมชาติของมนุษย์สัตว์ พืชฯลฯเป็นอย่างไร ลองคิดพิจารณาดู แล้วเอาคำสอนหรือหลักการหรือ ธรรมะของข้าพเจ้านำเข้าพิจารณาซิว่า มนุษย์สัตว์ พืช ฯลฯ เป็นอย่างนั้น มีอย่างนั้น จริงหรือไม่
ถ้าจริง
ข้าพเจ้าคือ "ศรีอาริยเมตไตย" ไม่ใช่การแอบอ้าง
และก็อย่าเอาสุ่มว่าข้าพเจ้าเป็นอย่างโน้น อย่างนี้ พวกคุณไม่มีความรู้ ไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับ การครองเรือน ไม่เข้าใจในระบบ สรีระร่างกายของตัวคุณเอง
เพราะฉะนั้น อย่าทำเป็นสัตว์แสนรู้

 

เฮ้อ...อีกใจอยากหัวเราะ...ให้อุจจารแตก...อุจจาระแตน...

อีกใจก็...สงสารเหลือเกิน...ปลงเถอะโยม!

 

ศาสนาเสื่อมโทรม จิตใจคนก็เสื่อมทราม ความคิดอ่านก็ต่ำช้า
มัวแต่เถียง มัวแต่กล่าวร้ายว่าแอบอ้าง และบ้างก็ทำเป็นแสนรู้เกี่ยวกับเรื่องข้าวของเครื่องใช้และครอบครัว ปัญญานิ่มนะ คิดเหมือนไอ้คางคกอยู่ในกะลา ไม่รู้สายสนกลในแล้วทำเป็นแสนรู้

ใครก็ตามที่กล่าวว่าข้าพเจ้าแอบอ้าง ก็ให้มาพิสูจน์ได้ ในเมื่ออ่านหลักการแล้วยังไม่เข้าใจ เพราะข้าพเจ้าไม่ได้แยกแยะรายละเอียด ไม่เป็นไร ให้ไปคิดใหม่ คิดผิดคิดใหม่ได้
สำหรับคุณคนที่ว่าพระไตรปิฏกไม่บิดเบือน และใช้ให้ข้าพเจ้าปฏิบัติตาม หลักการหรือธรรมะในพระไตรปิฏก
ข้าพเจ้าว่า คุณมาดูความแตกต่าง ระหว่างข้าพเจ้ากับบุคคลผู้อยู่ในพุทธศาสนา ทุกท่าน เลยดีกว่าว่า ความแตกต่างมันมีเยอะมาก
ความแตกต่างในที่นี้ ไม่ใช่ความแตกต่าง ในการนุ่งห่มนะ แต่ความแตกต่างนั้น คุณสามารถมองเห็นได้ด้วยตาของคุณเอง คุณจะได้หายสงสัยว่า ทำไม ข้าพเจ้าจึงประกาศตัวว่า ข้าพเจ้าคือ ศรีอาริยะเมตไตย
และอย่าใช้คำว่าแอบอ้างกับข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้ากล้าให้พวกท่านพิสูจน์ได้ทุกเวลา ที่สมควรอยู่แล้ว
การพิสูจน์ในตัวหลักการหรือธรรมะ ก็มีในกระทู้นี้อยู่แล้ว อย่าเถียงแบบ พวกสัตว์นรก ที่ไม่มีความคิดในทางที่ถูกที่ควร อย่าเถียงทั้งๆที่ยังไม่ได้แยกแยะรายละเอียดในหลักการหรือธรรมะของข้าพเจ้า
คุณลองเอาหลักการของข้าพเจ้า กับหลักการหรือมรรคอันมีองค์ 8 ของพระไตรปิฏก เปรียบเทียบกันซิว่า
อย่างไหนถูกต้องกว่ากัน อย่างไหน เป็นเหตุแห่งทุกข์
อย่างไหน เป็นเหตุทีทำให้เกิดทุกข์
อย่างไหน เป็นเหตุที่ทำให้ถึงความดับทุกข์
อย่างไหน เป็นหนทางแห่งความดับทุกข์
พวกท่านรู้ไหมว่า พระไตรปิฏกของศาสนาพุทธถูกบิดเบือนไป ก็เพราะ มรรคที่มีอยู่ ไม่ใช่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ซึ่ง ไม่ถูกต้อง
และธรรมชาติของมนุษย์สัตว์ พืชฯลฯเป็นอย่างไร ลองคิดพิจารณาดู แล้วเอาคำสอนหรือหลักการหรือ ธรรมะของข้าพเจ้านำเข้าพิจารณาซิว่า มนุษย์สัตว์ พืช ฯลฯ เป็นอย่างนั้น มีอย่างนั้น จริงหรือไม่
ถ้าจริง
ข้าพเจ้าคือ "ศรีอาริยเมตไตย" ไม่ใช่การแอบอ้าง
และก็อย่าเอาสุ่มว่าข้าพเจ้าเป็นอย่างโน้น อย่างนี้ พวกคุณไม่มีความรู้ ไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับ การครองเรือน ไม่เข้าใจในระบบ สรีระร่างกายของตัวคุณเอง
เพราะฉะนั้น อย่าทำเป็นสัตว์แสนรู้
__________________
telwada

 

อ่า...กู่มั่ยกลับแล้วครับ ยืนยันซะขนาดนี้ .... อามิตะพุทธ ...
ชีวิตเหมือนหนึ่งน้ำค้างหนาว กรรมสิ้น เวรหมด ใจหลุดพ้น

 

เรารู้แล้ว พวกเขากำลังล่อหลอกให้พระศรีตัวจริงเผยออกมาเพื่ออะไรสักอย่าง

แล้วคำทำนายบอกว่าจะมีตัวจริงและตัวปลอม อันนี้ก็ต้องดูต่อไปว่าใครจริงใครปลอม

 

ใช่แล้วครับ ใครจริงใครปลอม มันต้องมีสักวันที่ทั่วโลกจะรู้ ตอนนี้พระศรีอยู่ไหนไม่มีใครรู้

 

อันนี้ก็ต้องดูต่อไปว่าใครจริงใครปลอมครับ 555 เพราะพระศรีอาริย์ตัวจริงอยู่ไหนมั่ยรู้555

 

ศาสนาเสื่อมโทรม จิตใจคนก็เสื่อมทราม ความคิดอ่านก็ต่ำช้าเลวทราม ตามไปด้วย
อย่าทำเป็นโอ้อวดว่า ปกป้องศาสนา คุณพ่อมด โรคจิต คุณปกป้องศาสนาไหนศาสนาอะไรกันละ
คุณไม่ได้ปกป้องศาสนาพุทธดอกนะ เพราะถ้าคุณเป็นผู้รักศาสนาพุทธจริง คุณย่อมต้องรัก และหวงแหน ต้องการให้ศาสนาดี และเจริญ ซึ่งมันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ยกเว้น ธรรมชาติของสัตว์บางชนิด ที่มันไม่รู้ดอกว่า การปกป้องหรือรักษาศาสนานั้นควรทำอย่างไร
คุณคิดว่า ศาสนาที่มีอยู่แก้ไขในตัวหลักการหรือธรรมะไม่ได้หรืออย่างไร ใครไม่ให้แก้ไขกันละ ข้าพเจ้าคือผู้แก้ไขศาสนาทุกศาสนาให้อยู่ในสภาพที่เป็นจริง
คุณนะปกป้องศาสนาอื่นที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ เพราะคุณกลัวว่า ศาสนาอื่นจะตกต่ำลง เพราะคำสอนหรือหลักการของข้าพเจ้าสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีจริง เป็นจริง อีกทั้ง ยังสามารถพิสูจน์ปรากฏการณ์ทางสรีระร่างกายที่เกิดกับตัวข้าพเจ้าได้อย่างแน่นอน และข้าพเจ้ากล้าที่จะให้พิสูจน์ได้ทุกวันเวลาที่เหมาะสม สำหรับการพิสูจน์ในตัวหลักการหรือธรรมะ ก็มีในกระทู้นี้อยู่แล้ว อย่าเถียงแบบ พวกสัตว์นรก ที่ไม่มีความคิดในทางที่ถูกที่ควร อย่าเถียงทั้งๆที่ยังไม่ได้แยกแยะรายละเอียดในหลักการหรือธรรมะของข้าพเจ้า
คุณลองเอาหลักการของข้าพเจ้า กับหลักการหรือมรรคอันมีองค์ 8 ของพระไตรปิฏก เปรียบเทียบกันซิว่า
อย่างไหนถูกต้องกว่ากัน อย่างไหน เป็นเหตุแห่งทุกข์
อย่างไหน เป็นเหตุทีทำให้เกิดทุกข์
อย่างไหน เป็นเหตุที่ทำให้ถึงความดับทุกข์
อย่างไหน เป็นหนทางแห่งความดับทุกข์
พวกท่านรู้ไหมว่า พระไตรปิฏกของศาสนาพุทธถูกบิดเบือนไป ก็เพราะ มรรคที่มีอยู่ ไม่ใช่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ซึ่ง ไม่ถูกต้อง
และธรรมชาติของมนุษย์สัตว์ พืชฯลฯเป็นอย่างไร ลองคิดพิจารณาดู แล้วเอาคำสอนหรือหลักการหรือ ธรรมะของข้าพเจ้านำเข้าพิจารณาซิว่า มนุษย์สัตว์ พืช ฯลฯ เป็นอย่างนั้น มีอย่างนั้น จริงหรือไม่
ถ้าจริง
ข้าพเจ้าคือ "ศรีอาริยเมตไตย" ไม่ใช่การแอบอ้าง และไม่มีการเปลี่ยสรรพนามการเรียกนี้
และก็อย่าเอาสุ่มว่าข้าพเจ้าเป็นอย่างโน้น อย่างนี้ พวกคุณไม่มีความรู้ ไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับ การครองเรือน ไม่เข้าใจในระบบ สรีระร่างกายของตัวคุณเอง
เพราะฉะนั้น อย่าทำเป็นสัตว์แสนรู้
__________________

 

ช่างน่าเหยียดหยามจริงๆ พวกมนุษย์กะจ้อยร่อย ต่ำกว่าสัตว์ ไม่มีวรรณะ ไม่มีสมองปัญญาในการวิจารนญาน ไม่รู้จักให้ความเคารพผู้มีอำนาจ สติปัญญาล้ำเลิศ ผู้ปกครองเป็นเจ้าโลก อย่างคุณเทวดา พวกเราต้องปรับความคิดกันใหม่นะ คุณแกเป็นเจ้าแห่งอำนาจ ตดหนึ่งทีอาจทำให้เกิดสึนามิได้อีก ไม่เห็นแสงฉัพรังสีท่านเหรอ สว่างดังพลุ เจิดจ้าแสบตากว่าดวงอาทิตย์

 

ใครจะเป็นพระศรีอาริย์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการกระทำของผู้นั้น ถ้าผู้นั้นกระทำกาย วาจา ใจของตนอย่างยิ่งยวดในบารมี 10 ประการ และดำเนินสติตนเองอย่างได้ว่างเว้นจากสติปัฐานสี่ และไม่ประพฤติออกนอกทางแห่งอริยมรรคก็ถือว่าปฏิบัติตนเองเพื่อมุ่งสู่สัมมาสัมโพธิญาณเป็นเบื้องหน้าแล้ว

เราผู้ยังต้องเวียนว่ายตายเกิด อย่าได้ประมาท ใครจะเป็นพระศรีอาริย์หรือไม่เราอย่าได้ไปสนใจเลย สนใจตนเอง ปฏิบัติธรรมให้มากๆ อย่าได้ประมาทเพราะชีวิตเรานั้นสั้นนัก อย่าให้เสียชาติเกิดเลย ขอชาติเดียว ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายเถิด

 

หาอ่านกระทู้ที่ข้าพเจ้าตั้งไว้ในเวบฯพลังจิตนี้ เอามารวมๆกันเข้า ก็จะได้ใจความที่ดี เป็นหลักการหรือธรรมะแห่งข้าพเจ้า จะได้เกิดความเข้าใจมากขึ้น ไม่ต้องเถียงข้าพเจ้าดอกนะ ไปคิดพิจารณาไตร่ตรองให้ละเอียดรอบคอบ แล้วคอยมาถาม
ไอ้ประเภทเถียงแบบ ข้างๆคู ไม่ใช้ หลัก ตรรกวิทยา หรือวิชาว่าด้วยเหตุผล มันเซ็งนะคุณ เหมือนกับการสีซอให้ควายฟัง หรือเหมือนพูดกับสุนัขเลยละคุณ

 

ความหลงทะนงตน

ความหลงทะนงตนเป็นสาเหตุหลักที่หล่อเลี้ยงความเครียด จากการสร้างภาพพจน์ให้ผู้อื่นยอมรับ มากกว่าการเรียนรู้จักตนเองอย่างถูกต้องว่ามีคุณสมบัติพื้นฐานอย่างไร และอะไรคือเป้าหมายชีวิต จึงอยู่อย่างผิดธรรมชาติ ไม่สามารถมีความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับผู้ใด เต็มไปด้วยการคาดหวังและผิดหวัง จนกระทั่งเกิดความลังเล สับสน วนเวียนอยู่ในปัญหานานัปการ ความเคารพในตนเองและความหลงทะนงตนเป็นบุคลิกภาพที่ตรงกันข้าม ดังตารางเปรียบเทียบต่อไปนี้

ความเคารพในตนเอง
- พิจารณาตนเอง แก้ไขข้อบกพร่อง ให้อภัย
- มีความสุข พอใจในตนเอง สร้างบรรยากาศรอบตัวให้ดีขึ้น
- เรียนรู้จากสถานการณ์ได้รวดเร็ว ไม่ยึดมั่นผู้ใด สิ่งใด มีอิสระที่จะพัฒนา
- อ่อนน้อมถ่อมตน เห็นประโยชน์ของคำแนะนำตักเตือน
- ยอมรับและปรับตัวได้ ไม่หวั่นไหว มีความอดทน อดกลั้น
- มีทัศนคติที่ดีต่อผู้อื่น จึงไม่มีศตรู แต่รู้ค่าและพร้อมจะให้ความรัก-เคารพ
- ไม่ต้องการพิสูจน์ว่าตัวเองถูกต้อง ไม่ประณาม เปรียบเทียบ แข่งขันว่าร้ายใคร
- ช่วยเหลือให้ความร่วมมือกับทุกคนอย่างบริสุทธิ์ใจ
- รักษาสมดุลของการกระทำอย่างสม่ำเสมอ เป็นธรรมชาติด้วยสำนึกของการเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี
- เผชิญอุปสรรคอย่างมั่นใจ มั่นคง สงบเยือกเย็น กล้าแสดงออกในทางที่ดี
- มีความรู้ที่ถูกต้อง มองโลกในแง่ดี ไม่คาดหวัง จึงอยู่อย่างผู้ชนะ
- ซื่อสัตย์ จริงใจต่อตนเองและผู้อื่น
- เข้าใจธรรมชาติดั้งเดิมที่ดีงามของตนเอง มีกำลังใจเสริมสร้างความดี
- รับผิดชอบ รอบคอบ ตอบสนองวัตถุประสงค์เป็นอย่างดี
- มีศรัทธาในสิ่งสูงสุด จึงมีพลังในการปฏิบัติตามหนทาง ที่ทำให้ตนสูงส่ง และก้าวหน้าจนถึงที่สุด

ความหลงทะนงตน
- มองความผิดของผู้อื่น หวังให้ผู้อื่นแก้ไขก่อน ไม่ให้อภัย คิดแก้แค้น
- มองหาสิ่งภายนอกและผู้อื่น เพื่อให้ความพอใจแก่ตนเอง ทำลายบรรยากาศที่ดี
- พัฒนาอย่างมีขีดจำกัด ยึดมั่นในความคิดเห็นของตนเอง รวมทั้งบุคคล สิ่งของด้วยสำนึกที่ครอบครองเป็นเจ้าของ
- หลงในความรู้ ความสามารถของตนเอง ชอบแนะนำตักเตือนผู้อื่น แต่ปฏิเสธจะรับฟัง
- ไม่อดทน อดกกลั่น ไม่ยอมรับปรับตัว ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึก
- ดูหมิ่นผู้อื่น จึงรู้สึกโดดเดี่ยว และปฏิเสธการเกี่ยวข้อง ที่ต้องเป็นฝ่ายให้ความรัก-เคารพ แต่กลับเรียกร้องต้องการ
- ต้องการเกียรติยศ ชื่อเสียง พยายามพิสูจน์ตัวเองว่าถูกต้อง ทนการดูถูกดูหมิ่นไม่ได้ ชอบประณาม
- ช่วยเหลือให้ความร่วมมืออย่างผิวเผิน เพราะคาดหวัง ไม่จริงใจ
- ทำอะไรเกินเหตุหรือน้อยไปไม่สม่ำเสมอ ไม่เป็นธรรมชาติจากการมีทั้งปมเด่น และปมด้อย
- ไม่กล้าเผชิญอุปสรรค ล้มเหลว ปกปิดความอ่อนแอ ความไม่มั่นคงภายในด้วยการใช้อำนาจ และความสามารถในทางที่ก้าวร้าว ไม่ถูกต้อง
- ขาดความรู้ที่ถูกต้อง-สมบูรณ์ มองโลกในแง่ร้าย คาดหวัง ผิดหวัง ไม่พอใจ จึงอยู่อย่างผู้พ่ายแพ้
- ไม่ยอมรับความจริง อยู่อย่างหลอกลวงด้วยการอวดอ้าง โกหก ปกปิด
- ไม่มีศรัทธาในสิ่งที่ดีงาม ตามธรรมชาติของตนเอง แต่สำคัญตนผิด จึงไม่สามารถเป็นอย่างที่คิดได้ หรือแม้แต่จะแก้ไขข้อบกพร่องอ่อนแอ ภายใน
- พลาดพลั้ง ไม่ระมัดระวัง ไม่ตั้งใจจริงให้ทุกสิ่งสำเร็จตามวัตถุประสงค์
- ไม่ยอมรับ การศรัทธาต่อสิ่งสูงสุด และยึดติดในสิ่งที่มีขีดจำกัด ไม่สามารถปฏิบัติตามที่คิดได้ การดำเนินชีวิตจึงผิดพลาด
Om Shanti
บทความจากเอกสารแผ่นพับของ ศูนย์ ราชาโยคะ ปี พ.ศ.2534

 

สิ่งที่คุณนำเอามาแสดงความคิดเห็นนั้น เป็นเพียงความคิดเห็นของคนที่ไม่รู้จักธรรมชาติที่แท้จริงของสิ่งมีชีวิต ไม่รู้สภาพจิตใจที่แท้จริง ของสรรพสิ่ง และทั้งยังไม่รู้ไม่เข้าใจ ในหลักการอุปมาน อันเป็นหลักวิทยาศาสตร์อย่างดีพอ
มนุษย์ และสิ่งมีชีวิต(เอาแต่สิ่งมีชีวิต) ล้วนย่อมมีความ ทะนงตัว หรือทระนงตัว คำว่า ทะนง หมายถึง ความถือตัว หรือหยิ่งในเกียรติ ของตัว หรือ ถือดีในตัวของตัว(พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน)
เป็นสิ่งที่ได้รับจากกรรมพันธ์ การขัดเกลาทางสังคม และสภาพสิ่งแวดล้อม
การทะนงตัวนั้น บางครั้งก็ดีมีประโยชน์ ไม่เกิดโทษ มีแต่คุณ
การทะนงตัวนั้น บางครั้ง ก็ไม่ค่อยดี ไม่มีประโยชน์ มีแต่โทษ ไม่มีคุณ
อันนี้ ก็แล้วแต่สภาพกาล สภาพแวดล้อม สภาพบุคคล และอื่นๆ
ในเมื่อ ความทะนงตัว เป็นธรรมชาติของมนุษย์และสิ่งมีชีวิต ใครๆก็หลีกหนีไม่พ้น ก็ต้องมีวิธีแก้ เพราะความทะนงตัว นั้น มีต้นตอมาจาก ระลึก ดำริ คือมีต้นตอมาจากความคิดถึงอดีต มีความคิดในปัจจุบัน และมีความคิดถึงอนาคต
ไม่มีผู้ใดไม่ทะนงตนเลย แม้แต่การที่คุณนำเอาบทความมาลง ก็เป็นการทะนงตัวของคุณอย่างหนึ่งเหมือนกัน โดยที่คุณไม่รู้ตัวและคิดเป็นอย่างอื่น คือมีจุดประสงค์อย่างอื่น แต่แท้ที่จริงแล้ว มันก็เกิดจากความทะนงตัว ทะนงตน และหลงในตน ของคุณนั่นเอง
อย่าทำเป็นโอ้อวด ถ้าไม่มีความรู้จริง ก็อย่าสะเออะ

 

ธรรมะของคุณมันก็แค่เอาธรรมชาติของมนุษย์มาอ้าง คุณคิดว่าคุณเข้าใจจิตใจกับร่างกายของคุณดี แต่นี่ไม่ใช่ศาสนาครับ และการที่เค้ามาเถียงคุณก็ไม่ใช่การทะนงตน แต่สงสารคุณ อยากให้คุณได้รับความคิดที่ถูกต้องในการดำรงชีวิต ไม่ใช่สักแต่ขวางโลก เดินย้อนทางที่คนอื่นเดิน แล้วมานั่งบอกว่าทุกคนเดินผิดทาง พอทุกคนพยายามจูงกลับ คุณก็ด่าเสียเทเสีย เหยียดหยาม จูงควายเดิน ยังง่ายกว่า อย่างคุณมันหลงตัวเองทะนงตัวเอง หน้ามืดตามัว ไม่มีทางได้พบความสว่างแห่งชีวิต ความทะนงตนก็คือทุกข์ ทำไมไม่เอาวิธีดับทุกข์ที่คุณตรัสรู้มาดับความทะนงตนของคุณ ไอ้โง่

 

หากคุณมั่นใจ ในตน มากนัก ลอง แสดง สิ่งที่คุณ มั่นใจออกมา ให้ ชาวเว็ป พลังจิต ได้แจ้ง ชัด ไม่ใช่นำเพียง คำ บาง คำที่ใครสามารถ คิด ได้แต่ไม่เวอร์เท่าคุณ มาพิมพ์ หรอกนะครับ

 

หากคุณมั่นใจ ในตน มากนัก ลอง แสดง สิ่งที่คุณ มั่นใจออกมา ให้ ชาวเว็ป พลังจิต ได้แจ้ง ชัด ไม่ใช่นำเพียง คำ บาง คำที่ใครสามารถ คิด ได้แต่ไม่เวอร์เท่าคุณ มาพิมพ์ หรอกนะครับ
หากตน ไม่คิดที่อยากจะให้เป็นอยากจะให้เกิด มันก็ไม่เกิดความอยาก ในตนเองหรอก

 

หากคุณมั่นใจ ในตน มากนัก ลอง แสดง สิ่งที่คุณ มั่นใจออกมา ให้ ชาวเว็ป พลังจิต ได้แจ้ง ชัด ไม่ใช่นำเพียง คำ บาง คำที่ใครสามารถ คิด ได้แต่ไม่เวอร์เท่าคุณ มาพิมพ์ หรอกนะครับ
หากตน ไม่คิดที่อยากจะให้เป็นอยากจะให้เกิด มันก็ไม่เกิดความอยาก ในตนเองหรอก

 

พระศรีอาริย์ ไม่ต้องดู ดอกว่า ผู้ใด จริงผู้ใด ปลอม อีก 500 ปีรู้กัน

 

มนุษย์ย่อมมีทั้ง โง่ และไม่โง่ คนโง่คือ คนที่เมื่อผู้ที่รู้บอกให้ มันกลับไม่คิดในทางที่ถูกที่ควร กลับไปคิดในทางที่ไม่ถูกไม่ควร แถมยังกลัวเขาไม่รู้ว่าโง่ แสดงความโง่ แบบสมองหมาปัญญาควายมาให้เห็นอีก
แต่ไม่เป็นไร ในเมื่อคุณคิดว่า หลักการหรือธรรมะของข้าพเจ้าดีแต่พูดถึงธรรมชาติของมนุษย์และธรรมชาติของสิ่งต่างๆ
แล้วธรรมะของศาสนาที่คุณนับถืออยู่นะ มันสอนเกี่ยวกับอะไรกันละ ไม่ได้สอนเกี่ยวกับธรรมชาติของสรรพสิ่งหรือ
ศีล 5 ไม่ได้สอนเกี่ยวกับธรรมชาติของการเป็นอยู่ร่วมกันของมนุษย์ดอกหรือคุณ
แล้วที่ข้าพเจ้ากล่าวไปทั้งหมด ทุกอันทุกกระทู้ ทุกตอน ก็ล้วนเป็นการแสดงธรรมแสดงหลักการแบบพิศดาร คือ แสดงธรรมแบบแยกแยะรายละเอียดให้ได้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ แล้วพวกคุณยังไม่คิดอีก
ถ้าข้าพเจ้าจะด่าพวกคุณ พวกคุณก็อย่าเอามาเป็นข้ออ้างอีกว่า พระศรีอารย์ต้องไม่เป็นอย่างที่ข้าพเจ้าทำอยู่ พวกคุณอย่ากล่าวอย่างนั้นนะ เพราะพวกคุณไม่เคยเห็น และไม่รู้ด้วยซ้ำว่า พระศรีอารย์มีรูปร่างหน้าตา และอุปนิสัยใจคอเป็นอย่างไร
พวกคุณอย่าอ้างเอาสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในการเป็นมนุษย์มาเขียน เพราะศาสดาแห่งศาสนาทุกพระองค์ล้วนเกิดมามีรูปร่างเป็นมนุษย์ มีรูปร่างหน้าตาเหมือนบิดามารดา ปู่ย่าตายาย นี้เป็นหลักธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ถ้าคุณว่าหลักการของลัทธิที่คุณนับถืออยู่ไม่สอนเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์ ข้าพเจ้าก็จะไม่เถียง เพราะมันเป็นลัทธิไม่ใช่ศาสนา
ศาสนา ล้วนเกี่ยวข้องกับธรรมชาติต่างๆแห่งสรรพสิ่งทั้งที่มีชีวิต และไม่มีชัวิต
ไอ้อีพวกสมองหมาปัญญาควายเอ๋ย

 

ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า เราไม่โกรธและโมโห เราจะไม่โง่และไม่บ้า ต่างคนต่างจัย ทุกคนมีเส้นทางชีวิตที่ไม่เหมือนกัน
แต่สุดท้ายจุดหมายที่เราอยากไปก้อมีสถานที่เดียวที่เหมือนกัน ไม่ว่าเราจะไปเส้นทางไหนสุดท้ายเราก้อจะไปบรรจบกันที่จุดหมาย นั้นคือ แดนนิพพาน
วันพรุ่งนี้ไม่มีคัยรู้ แต่ฉันจะทำวันนี้ให้ดีที่สุด ..จิงมะ คนดี.. หลับให้สบายนะ
แม้กาลเวลาจะพรากพวกเราไป แต่ฉันไม่เคยลืมเทอเลยสักวัน เทออาจจะมองดูฉันจากที่ไหนสักแห่ง ขอให้เทอเชื่อจัยฉัน ฉันจะไม่ทำให้เทอผิดหวัง ฉันจะเป็นคนดี จะยังคอยเป็นผู้ชายที่แสนดี ตลอดไป...
ทุกคนจงจำไว้ ความตายไม่ได้หนีเราไปไหนเลย จงจำไว้ให้ดีๆ ความตายกำลังไล่เรามาเรื่อยๆ เมื่อมันมาถึงแล้ว ไม่มีอะไรที่จะช่วยเราได้ นอกจาก บุญ-บาปที่เราสะสมมา ...