คติสอนใจ (หมาขี้เรื้อน) ไม่รู้มีใครเคยอ่านบ้างยังครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ไม้ขีด, 28 พฤศจิกายน 2012.

  1. ไม้ขีด

    ไม้ขีด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,421
    ค่าพลัง:
    +3,023
    > หมา ขี้เรื้อน
    ลูกชายนักธุรกิจใหญ่มีชื่อเสียงระดับประเทศคน หนึ่ง
    เพิ่งสำเร็จการศึกษากลับมาจากเมืองนอก
    ยังไม่ทันทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันก็ถูกผู้เป็นแม่ขอร้องให้บวชเรียนเสีย
    ก่อน** **
    เพื่อเห็นแก่แม่..บัณฑิตใหม่หมาดๆจากเมืองนอกจึงบวชอย่างเสียไม่ ได้** **

    เมื่อบวชที่วัดใหญ่ในกรุงเทพฯแห่งหนึ่งเสร็จแล้ว** **
    ผู้เป็นแม่จึงพาไปฝากให้จำพรรษาอยู่กับพระวิปัสสนาจารย์รูปหนึ่ง
    ที่วัดป่าแถวภาคอีสาน** **
    พระหนุ่มการศึกษาสูงมาจากตระกูลผู้ดีมีแต่ความสุขสบาย** **
    เมื่อมาอยู่วัดป่ากว่าจะปรับตัวได้จึงใช้เวลานานเป็นแรมเดือน

    แต่ก็นั่นแหละกว่าจะนิ่งก็ทำเอาพระร่วมวัดหลาย
    รูปพลอยอิดหนาระอาใจไปตามๆกัน** **
    ปัญหาที่ทำให้พระทั้งวัดเหนื่อยหน่ายจนนึกระอาก็เพราะพระใหม่มี
    นิสัยชอบจับผิด* * **
    และชอบอวดรู้ยกหู ชูหางตัวเองอยู่เป็นประจำ** **
    วันแรกที่มาอยู่วัดป่าก็นึกเหยียดพระเจ้าถิ่นทั้งหลายว่าไม่ได้
    รับการศึกษาสูงเหมือนอย่างตน
    ออกบิณฑบาตได้อาหารท้องถิ่นมาก็ทำท่าว่าจะฉันไม่ลง * *
    **

    เห็นที่วัดใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าดแทนไฟฟ้าก็วิพากษ์วิจารณ์เสีย
    เป็นการใหญ่หาว่าล้าสมัย** **
    ไม่รู้จักใช้เทคโนโลยี่ ตอนหัวค่ำมีการทำวัตรสวดมนต์เย็นก็บ่นว่า** **

    ท่านรองเจ้าอาวาสทำวัตรนานเหลือเกินกว่าจะสิ้นสุดยุติได้ก็นั่ง จนขาเป็นเหน็บชา

    ครั้นพอถึงเวรตัวเองล้างห้องน้ำเข้าบ้างก็ทำท่าจะล้างอย่างขอไป
    ทีล้างไปบ่นไป** **

    ประเภทตูจบปริญญาโทมาจากเมืองนอกต้องมาเข้าเวรล้างห้องน้ำร่วมกับใครก็ไม่รู้**
    **
    โอ้ชีวิต! ความสำรวยหยิบโหย่งทำให้พระใหม่ไม่พอใจสิ่งนั้นสิ่งนี้ถือดี !** **
    ว่าตัวเองมีชาติตระกูลสูง มีการศึกษาสูงกว่าใครในวัดนั้น** **
    ผิวพรรณก็ดูสะอาดสะอ้านชวนเจริญศรัทธากว่าพระรูปไหนทั้งหมด** **
    มองตัวเองเปรียบกับพระรูปอื่นแล้วช่างรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่า ทุกประตู** **
    นึกแล้วก็ยิ้มกระหยิ่มอยู่ในใจ
    กลับเข้ากุฏิเมื่อไหร่ก็เอาปากกามาขีดเครื่องหมายกากบาทบนปฏิทิน
    นับถอยหลังรอวันสึกด้วยใจจดจ่อ** **

    อยู่มาได้พักใหญ่พระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็สังเกตเห็นว่าท่านเจ้า
    อาวาสวัดป่าแห่งนี้ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา ซ้ำนานๆครั้งจะออกมาให้
    โอวาทกับลูกศิษย์เสียทีหนึ่ง** **

    วันๆไม่เห็นท่านทำอะไรเอาแต่กวาดใบไม้เก็บขยะ** **
    ซักผ้าเอง** (**เณรน้อยก็มีไม่รู้จักใช้) สอนก็ไม่สอน** **
    การบริหารวัดก็มอบให้ท่านรองเจ้าอาวาสเป็นคน** **
    จัดการไปเสียทุกอย่าง เห็นแล้วเลยนึกร้อนวิชา** **
    เสนอให้ปรับโน่นลดนี่สารพัดที่ตัวเองเห็นว่าไม่เข้าท่าล้าสมัย** **
    รวมทั้งให้เสนอให้วัดใช้ไฟฟ้าแทนตะเกียงด้วยอีกข้อหนึ่ง
    เพราะตนเห็นว่ายุคสมัยก้าวไกลมามากแล้ว
    ไม่ควรจะทำตนเป็นคนหลังเขาให้คนอื่นเขาดูถูก** **

    อีกหนึ่งในข้อวิจารณ์จุดด้อยของวัดทั้งหลายเหล่านั้นพระใหม่เสนอ ให้** **
    หลวงพ่อเจ้าอาวาสมีปฏิสัมพันธ์กับพระลูกวัดให้มากขึ้นกว่านี้**
    ! **สอนให้มากขึ้นเทศน์ให้มากขึ้น**
    และแนะนำว่าคนระดับผู้บริหารไม่ควรจะทำงานอย่างการซักจีวรเอง
    เป็นต้นด้วยตนเอง* * **
    ควรจะกระจายอำนาจมอบ งานให้คนอื่นทำดีกว่า

    เย็นวันนั้นเป็นวันพระสิบห้าค่ำ** **
    หลวงพ่อเจ้าอาวาสมานั่งทำวัตรที่โบสถ์ธรรมชาติกลางลานทรายด้วย** **
    ท่านไม่ลืมที่จะหยิบข้อเสนอแนะจากพระใหม่มาอ่านให้พระหนุ่ม สามเณรน้อย** **
    ทั้งหลายฟังแต่ท่านไม่บอกว่าพระรูปไหนเป็นคนเขียน** **
    อ่านจบแล้วหลวงพ่อก็ยิ้มอย่างมีเมตตาพลางหยิบไมโครโฟนขึ้นมา** **
    แล้วชี้ให้ภิกษุหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลายดูหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่ง** **
    ที่นอนอยู่ใต้ม้าหินอ่อนตัวหนึ่ง จากใต้ต้นอโศกที่อยู่ใกล้ๆ **


    เธอ ทั้งหลายเห็นหมาขี้เรือนตัวนั้นหรือไม่
    เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันเป็นขี้เรื้อน* * **
    คันไป ทั้งตัว ฉันเห็นมันวิ่งวุ่นไปมาทั้งวัน** **
    เดี๋ยว ก็วิ่งไปนอนตรงนั้นเดี๋ยวก็ย้ายมานอนตรงนี้** **
    อยู่ ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้นานเพราะมันคัน แต่พวกเธอรู้ไหม** **
    เจ้า หมาตัวนั้นน่ะมันไปนอนที่ไหนมันก็นึกด่าสถานที่นั้นอยู่ในใจ** **
    หาว่า แต่ละที่ไม่ได้ดั่งใจตัวเองสักอย่าง นอนที่ไหนก็ไม่หายคัน** **
    สถานที่เหล่านั้นช่างสกปรกสิ้นดี **

    คิด อย่างนี้แล้วมันจึงวิ่งหาที่ที่ตัวเองนอนแล้วจะไม่คัน** **
    แต่ หาเท่าไหร่มันก็หาไม่พบสักที** **
    เลย ต้องวิ่ งไปทางนี้ทางโน้นอยู่ทั้งวัน
    เจ้าหมาโง่ตัวนั้นมันหารู้สักนิดไม่ว่า** **
    เจ้า สาเหตุแห่งอาการคันนั้นหาใช่เกิดจากสถานที่เหล่านั้นแต่อย่างใดไม่** **
    แต่ สาเหตุแห่งอาการคันอยู่ที่โรคของตัวมันเองนั่นต่างหาก** **
    พูดจบแล้วหลวงพ่อก็วางไมโครโฟนลงเป็นสัญญาณให้รู้ว่า** **
    ได้เวลาภาวนาหลังการทำวัตรสวดมนต์เย็นแล้ว

    ขณะที่ทุกรูปนั่งหลับตาภาวนาอย่างสงบนั้น** **
    ในใจของพระใหม่กลับร้อนเร่าผิดปกติ นอกสงบ แต่ในวุ่นวาย** **
    นึกอย่างไร** **ก็ มองเห็นตัวเองไม่ต่างไปจากหมาขี้เรื้อน**
    **ที่หลวงพ่อชี้ให้ดู **
    ยิ่ง นั่งสมาธินานๆ ยิ่งคันคะ เยอในหัวใจ ทั้งอายทั้งสมเพชตัวเอง**

    นับแต่วันนั้นเป็นต้นมาพระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็เปลี่ยนไปเป็นคน ละคน** **
    จากคนพูดมากกลายเป็นคนพูดน้อย จากคนที่หยิ่งยโสกลายเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน** **
    จากคนที่ชอบจับผิดคนอื่นกลายเป็นคนที่หันมาจับผิดตัวเอง
    เมื่อออกพรรษาแล้วโยมแม่มาขอให้ลาสิกขาเพื่อกลับไปสืบต่อธุรกิจ
    จากครอบครัวท่านก็ยังไม่ยอมสึก **

    " **อาตมา เป็นหมาขี้เรื้อน** **
    ขออยู่รักษาโรคจนกว่าจะหายคันกับครูบาอาจารย์ที่นี่อีกสักหนึ่ง พรรษา"** **
    โยมแม่ได้ฟังแล้วก็ได้แต่ยกมืออนุโมทนาสาธุการกราบลาพระลูกชาย** **
    แล้วก็เดินออกจากวัดไปขึ้นรถพลางนึกถามตัวเองอยู่ในใจว่าคำว่า** **
    หมาขี้เรื้อน ของพระลูกชายหมายความว่าอย่างไรกันแน่หนอ **

    ************ ********* ********* ********* ********* ********* ** **
    ขอบุญจากธรรมทานนี้จงถึงแก่นายเวรและผู้ปกปักรักษาดูแลช่วยเหลือ
    ข้าพเจ้าและครอบครัว** **
    ที่มาถึงตัวทุกภพภูมิ** **
    ขอบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบัน** **
    หากไม่ถึงเพียงใดให้ขอให้คำว่าไม่มี ไม่รู้ในสิ่งที่ดี** **
    จงอย่าได้ปรากฏแก่ข้าพเจ้า** **
    ขอให้เกิด! ในภพภูมิ เขต ประเทศที่มีพระพุทธศาสนาประดิษฐานอย่างมั่นคง** **
    และได้ศึกษาพระธรรมได้อย่างเข้าใจถ่องแท้ ลึกซึ้ง
    ตลอดจนกว่าจะเข้าพระนิพพานด้วยเทอญ.** **
     
  2. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,353
    ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ ที่ใครสักคนที่มีมิจฉาทิฏฐิ

    เมื่อโดนเตือนเข้าแล้ว จะเกิดปัญญารู้เห็นตามจริงได้

    น้อมเข้ามาพิจารณา และแก้ไขมันเสีย

    หนทางยังยาวไกลการสั่งสมบุญกุศลจึงเป็นเรื่องสำคัญนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. ติดบ่วง

    ติดบ่วง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2012
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +771
    ชัดเลย หมาขี้เรื้อนนี่ตัวผมเองเลยครับ กำลังพยายามรักษาอยู่ ช่วงนี้จะกำเริบอีกแล้วครับ ขออนุโมทนาสาธุกับความรู้ครับ ตาว่างขึ้นอีกหนึ่งบทเรียน
     
  4. ไม้ขีด

    ไม้ขีด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,421
    ค่าพลัง:
    +3,023
    “พอ”
    ความคิดอย่างหนึ่งที่สมควรฝึกให้เกิดขึ้นเป็นประจำ
    คือความคิดว่า “ พอ” คิดให้รู้จัก “ พอ”
    ผู้รู้จักพอ จะเป็นผู้ที่มีความสบายใจ
    ส่วนผู้ไม่รู้จักพอจะเป็นผู้ร้อนเร่า แสวงหาไม่รู้จักหยุดยั้ง
    คนรวยที่ไม่รู้จักพอก็เป็นคนจนอยู่ตลอดเวลา
    คนจนที่รู้จักพอก็เป็นคนมั่งมีตลอดเวลา
     
  5. ไม้ขีด

    ไม้ขีด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,421
    ค่าพลัง:
    +3,023
    ขออนุญาตดันกระทู้เก่าเพื่อคนที่เข้ามาใหม่ได้อ่านกันครับ
     
  6. น้องใหม่ 2008

    น้องใหม่ 2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    690
    ค่าพลัง:
    +1,906
    ผมคนหนึ่งแหละครับที่คันเป็นจุดๆ ไม่เยอะ กำลังให้เจ้าของทายาให้อยู่ครับ
     
  7. masshi

    masshi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    312
    ค่าพลัง:
    +553
    ตัวผมบางวันก็เป็น หมาขี้เรื้อน บางวันก็ไม่เป็น ไอ้ที่เป็นแล้วรู้ตัวก็แล้วไป ไอ้ที่เป็นแล้วไม่รู้ตัวนี่ซิ ถ้าเป็นอย่างในเรื่อง แล้วต้องกลายเป็นหมาขี้เรื้อนใส่สูท คงแปลก และสมเพชจริงๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...