...ว้า...ไม่ค่อยเห็นด้วยนะ สงสัยคนที่ไม่ค่อยมีใครอยากอยู่ใกล้เช่นข้าพเจ้าก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ดีนะ...ไม่ค่อยถูก...ไม่ค่อยถูก..
เพราะคนบางคนออร่าที่เปล่งออกมาจากร่างนั้นรุนแรงเกินไป มาจากหลายปัจจัย มีคนพูดกับข้าพเจ้าอยู่ด้วยแล้วอึดอัด
...บางคนเป็นกระแสร้อน ไม่ได้หมายความว่าไม่ดีนิ...
...บางคนกระแสเย็น ..กระแสเมตตาชอบช่วยเหลือ
คนที่มีคุณธรรมสูง สังเกตง่ายนิดเดียว
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย กุญแจไขปริศนา, 27 กุมภาพันธ์ 2009.
หน้า 2 ของ 2
-
-
เออ..ถึงว่า
เข้าใจแล้ว
ปฏิบัติต่อไปเถิด
มันน่าพิศวงจริงๆน่ะหรือ..
-
-
ก็ไปหั่นศพกับเพื่อนที่เป็นหมอ.. เพื่อนยังบอกว่าเลยแกไม่ไปสอบอีกรอบนะดีแล้ว เจอกันครั้งสุดท้ายก็เรียนจบต่างประเทศจับปากกาไม่ต้องจับมีดหมอ -
และก็ที่ขีดเส้นใต้ไว้นี้อีกเช่นเดิม ที่แปลกประหลาด เพราะไม่เข้าใจธรรม หลงตัวเอง
เพราะถ้าได้กล่าวอ้างไปแล้วโดยมองไม่เห็นผลที่จะเกิดตามมานี่แปลก
แปลกสำหรับผู้ที่คิดว่าเจริญแล้ว ไม่เคยบัญญัติไว้ว่าผู้ปฏิบัติต้องเมื่อปฏิบัติแล้วต้องทำเหมือนมีอะไรๆ ทั้งๆที่จริงๆไม่ได้มีอะไรๆ..
นี่ไงหลงตัวเอง..
เจริญสติให้มากเถิด -
ทำตัวเหมือนบ้ามองโลกไปในแง่ดีเสมอนิ่งเหมือนน้ำบนใบบัว
สุดยอด โมธนาสาธุ -
เท่าทีดิฉันสัมผัสได้นะค่ะ จะเป็นบุคคลที่ เข้าใกล้แล้วเราจะรู้สึกเย็นๆ
ดิฉันชอบสัมผัสคนจาก ดวงตา ก่อนอันดับแรก เพราะดวงตาสามารถสื่ออะไรออกมาหลายอย่าง ดวงหน้า ผิวพรรณ จะสดใส ส่วนใหญ่ใบหน้าจะออกยิ้มๆ
บางครั้งเค้าไม่ได้ยิ้ม แต่เรามองว่าเข้ายิ้ม มันน่าจะออกมาจากในใจและยิ้มด้วยสายตา เกิดจากจิตเป็นสุข มองดูสำรวมๆ สงบนิ่ง ประมาณนั้นค่ะ
เท่าที่เห็น ดิฉันก็เห็น ท่านทะไลลามะ และพระอริยสงฆ์หลายองค์
หลวงพ่อจรัญ หลวงพ่อเจ้าคุณอลงกต (พระบาทน้ำพุ )เมตตาท่านสูงมาก
และอีกหลายองค์
ส่วนคนทั่วไป ก็จะเป็นประมาณนั้นค่ะ มองดวงตา เห็นไปถึงใจเลย
อ่านจากจิตเข้าถึงจิต (อย่าอคติอย่าคิดไปเอง มองด้วยใจที่เป็นกลางๆ) -
-
ตอนไปกราบหลวงพ่อจรัญฯ ชอบมองท่าน รู้สึกสบายใจ มองได้ไม่เบื่อ
ทั้งการเดิน นั่ง เยื้องกาย นุุ่มนวล สงบ เย็น -
แล้วถ้าเวลาที่เราเจอคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็รู้สึกไม่ชอบคนนี้แล้วทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรให้ จะเรียกว่าไม่ถูกชะตากันหรือเปล่า แต่บางคนก็รู้สึกชอบมากดูเป็นมิตรน่าเลื่อมใส
-
คนที่มีคุณธรรมสูง หากท่านไม่บอก เราจะไปรู้ได้เหรอ ในเมื่อคุณธรรมท่านสูงกว่าเรา ^-^
-
ซึ่งเมื่อคนเหล่านี้มีความคิดภายในใจแบบนี้คนอื่นก็จะสัมผัสได้และทำให้คนอื่นๆที่อยู่รอบๆไม่อยากเข้าใกล้ หรือว่าอยากไปตามรังควานคนๆนั้นนั่นเอง ถ้าเราคิดดีกับผู้อื่นเป็นพลังงานด้านบวกคนอื่นก็จะรู้สึกครับ แต่ถ้าเราอยู่ในอารมณ์ด้านลบคนอื่นก็จะรู้สึกไม่ดีเช่นกันครับ
แต่ถ้าคนที่มีอารมณ์ด้านลบได้อยู่ใกล้ผู้มีคุณธรรมสูงก็จะทำให้คนๆนั้นรู้สึกกับตัวเองขึ้นดีเพราะพลังความดีของผู้ที่มีเมตตาช่วยพยุงให้คนๆนั้นรู้สึกดีขึ้นได้นั่นเอง -
-
เคยออกความเห็นไปแล้ว นึกว่าจะเลยไปแล้วกระทู้ยังย้อนกลับมาอีก เลยต้องออกความเห็นเพื่อเตือน ผู้ไม่มีประสบการณ์และยังอ่อนต่อโลก ให้เห็นความเป็นจริงของสังคมในยุคปัจจุบันซึ่งมีแต่ความหลอกลวง ใช้เครื่องมือสารพัดรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า
หน้าตา คำพูด มาหลอกลวงเอาเปรียบบุคคลอื่น ซึ่งคนพวกนี้ที่โดนหลอกได้ง่ายเพราะ
ชอบจินตนาการสร้างภาพ หลงเพ้ออยู่กับความฝัน ไม่อยู่กับความเป็นจริง ดูคนที่หน้าตาและความรู้สึก ซึ่งมันใช้ไม่ได้ มันสวนทางกับคำสอนที่ให้เด็กเล็กระวังตัว อย่าเชื่อใจและไว้ใจใครง่ายๆมันจะเป็นอันตราย ผมกลัวจริงๆถ้าเด็กมาอ่านข้อความของคุณเข้าและเชื่อตามที่คุณบอก สุดท้ายผมไม่อยากกล่าวแต่ต้องกล่าวเพื่อเตือนสติกัน คราวหลังจะตั้งกระทู้หรือออกความเห็น กรุณาเหลี่ยวมองดูสังคมลอบข้างและความเป็นจริงด้วย อย่าเอาความคิดเห็นที่ผมเห็นว่ามันไร้เดียงสามากเลย มาแสดงในเวบซึ่งเป็นเวบสาธารณะคนเข้ามาอ่านกันมาก หวังว่าคุณคงจะเข้าใจ. -
+ฮ่าๆ
อย่าเถียงเลยดีกว่า
เพราะต่อให้คุณเถียงผมยังไงมันก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณไว้ใจใครมากขึ้นหรือให้คนอื่นมาดีขึ้นกับคุณได้หรอกนะครับ ขอให้ปรับปรุงตัวด้วย -
ข้อความของผมไม่ได้ชวนเถียง แต่เป็นการชี้แนะ มิให้หลงไหล ไปกับเปลือกนอกที่ปิดบังจิตใจอันแท้จริงไว้ คนเลวนะดูง่าย ส่วนคนดีมีคุณธรรมนั้นดูยาก เพราะมันอยู่ในส่วนลึกของใจ ต้องอาศัยดูจากการกระทำของเขา และต้องดูเป็นเวลานานๆด้วย คุณรู้จักอาจารย์ ยันตระ มั๊ย ตอนเป็นสงฆ์มีคนนับถือมากมาย มีบางคนถึงกับบอกว่าเป็นพระอรหันต์ แต่สุดท้ายจับได้มั่วกับสีกาโดนสึกเพราะเป็น ปาราชิก(เรื่องของท่านนำมากล่าวได้เพราะเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์) ดาราบางคนได้รางวัลคนดีของสังคม ไม่ทันไร ก็มีคลิปในเน็ต นั่งกินเหล้าสูบบุหรี่ในผับ
คุณลองเอาคำพูดของผม ไปปรึกษาผู้รู้หรือผู้มีคุณธรรมจริงๆ กับคำพูดที่ว่า ดูคนอย่าดูที่หน้าตาหรือความรู้สึก คนดีดูได้ที่การกระทำ ว่าผมพูดถูกหรือผิด
หน้า 2 ของ 2