"ความฝัน เทพสังหรณ์" สัญญานเตือนจากเบื้องบน

จะเริ่มระบบล้างเมื่อ พ.ศ.2562 จะล้างเยอะเลยจ้ะ คนจะตายเยอะมาก



สานส์เตือนจากเบื้องบน ภัยพิบัติและสงคราม

วันนั้นหลังจากที่เมย์ปิดร้านแล้ว ระหว่างกำลังนั่งรถกลับบ้าน เมย์ปวดหัวเหมือนจะเป็นไข้ ในหัวเห็นภาพระเบิด คลื่นยักษ์ และเสียงดังกัปนาท โหวกเหวกโวยวายของผู้คนอะไรไม่รู้จ้ะ เยอะแยะมากมายเข้ามาให้ได้ยินและได้เห็นภาพต่างๆสลับกันเข้ามา ดังก้องอยู่ในหัวเต็มไปหมด จดจับต้นชนปลายอะไรไม่ได้เลย

พอกลับมาถึงบ้านก็เที่ยงคืนกว่าแล้ว ด้วยความที่เมย์เหมือนจะเป็นไข้เลยได้แค่ล้างมือล้างเท้า เปลี่ยนชุดนอนแล้วเข้านอนเลย ก่อนจะหลับเมย์ก็กำหนดจิตจับภาพพระ (นอนสมาธิ) แล้วจากภาพองค์พระสีทองก็กลายเป็นสถานีรถไฟของไทยทางภาคใต้ แต่ในสมาธินั้นเมย์มองเห็นป้ายไม่ชัด ไม่กล้าบอกว่าจังหวัดอะไรอ่ะจ้ะ ในตอนนั้นที่เมย์เห็นภาพนั้นทุกอย่างสงบเรียบร้อยดี ผู้คนเดินทางกันคึกคักมากมาย บ้างนั่งรอ บ้างไปเป็นกลุ่มและกำลังถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน ก็ดูมีความสุขกันดีตามอัตภาพ

แต่แล้วในระหว่างที่ตัวรถไฟ กำลังจะเคลื่อนขบวนออกจากชานชาลา ก็มีสัญญาณหวอเตือนภัยดังขึ้น ว่าสึนามิกำลังมา ให้ประชาชนอพยพขึ้นที่สูง เสียงโฆษกประกาศเตือนมาตามสาย ในขณะที่โฆษกกำลังประกาศไม่ทันจบ จู่ๆก็แผ่นดินไหว จากตอนแรกไหวนิดหน้อย ก็เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนเกิดอลหม่าน วุ่นวายมาก ด้วยความกลัวตายต่างพากันกระโดดขึ้นรถไฟ ที่กำลังเคลื่อนขบวนออกจากชานชาลา แต่เพราะความวุ่นวายนี้ บางคนก็พลาดล่วงลงไปข้างล่าง ถูกล้อรถไฟทับบดขยี้เสียชีวิตคาที่ บางคนก็ไม่เป็นอะไร

บางคนก็โยนลูกเล็กๆขึ้นรถไฟ แต่ตัวเองกลับขึ้นตามไม่ทัน แล้วทันใดนั้นตึกต่างๆ อาคารต่างๆ บริเวณรอบๆ ก็พากันถล่มลงมา พื้นที่ต่างๆ ถูกปกคลุมไปด้วยควัน แล้วแผ่นดินก็หยุดไหว แต่สัญญาณหวอเตือนภัยยังดังอยู่อย่างต่อเนื่อง แล้วน้ำก็ทะลักเข้ากวาดล้างทุกสิ่ง คลื่นยักษ์โหมกระหน่ำรุนแรงหนักกว่า "สึนามิ" ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตหลายเท่า

แล้วภาพก็ตัดไป กลายเป็นภาคเหนือของไทย ที่แผ่นดินกำลังสั่นสะเทือนพร้อมกันภาคใต้ วัดวาอาราม ยอดช่อฟ้าหักพังทลายลงมา พระพุทธรูปปฏิมากรรมต่างหักล้มลง บ้านเรือนพังเสียหาย เกิดหลุมยุบขนาดยักษ์ขึ้นในหลายพื้นที่ ผู้คนวิ่งหนีตายหลบปฏิมากรรมก่อสร้างทั้งหลายที่กำลัวพังทลายลงมากันอย่างอลหม่าน ทั้งสองเหตุการณ์จะมีผู้เสียชีวิตไม่น้อยเลย ไม่ใช่เฉพาะเหนือกับใต้ แต่อีสานกับภาคกลางเองก็จะมีสภาพไม่ต่างกัน

แล้วภาพก็ตัดไปเป็นประเทศฝั่งยุโรป กำลังมีสงคราม ระเบิดเสียงดังกัปนาท อาวุธนิวเคลียร์ถูกนำมาใช้ ประเทศต่างๆ ต่างรบราฆ่าฟันกัน ไม่เหลือสภาพของความงดงามอย่างที่เคยเป็นมา ลูกเล็กเด็กแดง ประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งหญิงชาย นอนตายเกลื่อน ในโรงพยาบาล ขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์ แพทย์ไม่พอ คนท้องนอนร้องครวญครางรอคลอดลูกจนขาดใจตาย ผู้บาดเจ็บหนักถูกปล่อยให้นอนรอความตาย เพราะต้องรักษาคนที่บาดเจ็บน้อยให้รอดก่อน

แล้วภาพก็ดับไป ก่อนที่เมย์จะลืมตาออกจากสมาธิ ได้มีเสียงนึงที่ไม่บ่งบอกว่าเป็นหญิงหรือชาย แต่ชวนให้เมย์รู้สึกเย็นยะเยือกและขนหัวลุกเป็นอย่างมากว่า ระบบทำลายล้างกำลังเริ่มทำงาน เมย์เลยรีบลืมตาขึ้นมาเลย เมย์ไม่รู้ว่าทุกอย่างนี้จะเริ่มเกิดเมื่อไหร่ เพราะเห็นภาพแค่ 5 นาที แต่มันเหมือนยาวนานมาก แต่เมย์คิดว่าคงจะเร็วๆ นี้แล้วแหละจ้ะ เพราะ ผู้มีหน้าที่ทำลายล้างได้ลงมาถึงโลกมนุษย์ในรูปกายทิพย์แล้ว เมื่อคืนนี้เมื่อเวลา 2 ทุ่ม (มีผู้รู้อีกท่านนึงบอกกล่าวมาจ้ะ)

ทุกอย่างจะเกิดขึ้นทีละจุด ทีละจุด ผู้คนจะนิ่งนอนใจว่าคงไม่ร้ายแรงอะไร ไม่ส่งผลกระทบอะไร แต่หารู้ไม่ว่าเมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นที่นึง ผลมันก็จะกระทบไปทั่วโลกเหมือนล้มโดมิโน่ สัญญาณการสื่อสารจะเริ่มมีปัญหา เริ่มสื่อสารกันไม่ได้และทุกคนจะได้รับรู้รสชาติของความกลัวตายทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ขอบอกว่าเริ่มตั้งแต่เดือนเมษานี้เป็นต้นไป ประเทศไทยจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ แล้วจะเริ่มระบบล้างเมื่อ พ.ศ.2562 จะล้างเยอะเลยจ้ะ คนจะตายเยอะมาก

เราเหลือเวลาอีกไม่มากแล้วอย่าได้ประมาท ให้รีบสร้างสมบุญบารมีปฏิบัติธรรมกัน เพราะถ้าถึงเวลานั้นมีเพียงบุญและสติเท่านั้นที่จะช่วยเราได้ ใครที่มีลูกเล็กๆ พ่อแม่ที่แก่ชรา หรือภรรยาที่กำลังตั้งท้อง ต้องเตรียมกำลังใจและฝึกสติสมาธิของตนให้มากๆ เพราะจะได้เจอเรื่องราวที่บีบคั้นหัวใจสุดๆ เบื้องบนให้โอกาสแล้ว เตือนแล้ว บอกแล้ว เราทุกคนอย่าได้ประมาทกันนะจ้ะ

เมย์ 3/2/2015

ที่มา https://sites.google.com/site/jantimema/mey-thida-phrhm/san-s-teuxn-cak-beuxng-bn

 

ถ้าจะเกิดสงครามโลกจริง ก็เตรียมตัวกันได้เลยค่ะ ภัยธรรมชาติจะเล่นงานก่อนเกิดสงครามโลกจริง ภัยพิบัติจะเกิดขึ้นมากน้อย ช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับจิตใจของมนุษย์ในโลก และผู้นำที่จะเปลี่ยนโลกให้เลวร้าย ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่จิตใจที่บกพร่องแค่นั้น พวกเขายังมี มนตด ที่เป็นฝ่ายมืดควบคุมอีก สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้จงใจที่จะทำลายโลกหรือมนุษย์ แต่ต้องการเปลี่ยนโลกให้ดีขึ้น ขอเพียงแค่มนุษย์ร่วมมือร่วมใจกัน ก็แล้วแต่เวรกรรมค่ะ

 

วันนี้เห็นมีข่าวการสั่นสเทือน ในกรุงเทพนี่ครับไม่รุ้ว่าที่อื่นมีการตายไหม

 

เด็กๆ ออกมาเตือนผู้ใหญ่ เรื่องภัยสึนามิ 2
​

เผยแพร่เมื่อ 21 ม.ค. 2013​

รายการวิตามินข่าว ออกอากาศทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 17.55-18.00 น. ทางช่อง ThaiPBS การเตรียมพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติ สามารถทำได้โดยไม่ต้องรอให้เกิดภัยขึ้น แต่เราสามารถเตรียมตัวได้ตั้งแต่ก่อนเกิดภัย ช่วงเกิดภัย และหลังเกิดภัย รับรองว่าปลอดภัยแน่นอน ติดตามในวิตามินข่าว ตอน สึนามิ 2 จ้าาา

 

วิตามินข่าว : กระเป๋ายังชีพ​

เผยแพร่เมื่อ 8 พ.ย. 2011​

 

ในยามนี้ บอกได้คำเดียวว่า พุทธศาสนิกชนทุกท่าน ต้องกราบไหว้บูชาหลวงปู่อุปคุต

​

พระอุปคุต 5000

ในยามนี้ บอกได้คำเดียวว่า พุทธศาสนิกชนทุกท่าน ต้องกราบไหว้บูชาหลวงปู่อุปคุต..นี่ไม่ใช่การบังคับกะเกณฑ์ แต่ขอบอกว่า..ต้อง..เพราะ จำเป็นอย่างสูงสุด ทั้งนี้.. เพื่อสร้างศรัทธา เสริมบารมี ก่อเกิดโชคลาภ และที่สำคัญยิ่ง คือ เพื่อปกป้องตัวท่านเองให้พ้นจากภัยพิบัติ

ถ้าไม่มากราบไหว้ ท่านจะไม่รู้ว่า ปาฏิหาริย์ที่แท้จริง ประจักษ์แจ้งจริง สามารถนำพาทุกท่านให้ สิ้นเคราะห์ หมดโศก ไร้โรคภัย..คืออะไร? เรามาดูปาฏิหาริย์ขั้นเบื้องต้นที่หลายคนไม่ทราบกันก่อน

- ประจวบฯ เคยแล้งน้ำ การประปาต้องจ่ายน้ำเป็นเวลา เพราะฝนไม่ตก หรือ ตกไม่มากพอ ต่อเนื่องกันเป็นเวลานานหลายปี เพียงเริ่มต้นวางศิลาฤกษ์เพื่อจะสร้างองค์หลวงปู่ ฉับพลันก็บังเกิดอัศจรรย์ ฝนตกลงมาเป็นจำนวนมากทันที ทำให้อ่างเก็บน้ำทุกแห่งเต็มบริบูรณ์ สามารถจ่ายน้ำได้ตามปกติ ไม่ประสบภาวะแล้งน้ำอีกเลยจนกระทั่งทุกวันนี้

- เมื่อสร้างองค์หลวงปู่อุปคุตสำเร็จ ภูมิทัศน์ชายหาดประจวบฯเปลี่ยนแปลงดีขึ้น สวยงามขึ้น อย่างรวดเร็ว จากเดิมเคยเป็นสะพานปลาที่ค่อนข้างสกปรกปราศจากอนามัย และ เป็นดินแดนปาณาติบาต บัดนี้กลายเป็นถนนแห่งธรรมะ มีการปรับปรุงบูรณะสร้างสะพานใหม่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม เศรษฐกิจการทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างผิดหูผิดตา

- กลุ่มเพ็ญพุธ คณะศรัทธาต้นบุญหลวงปู่สวดมนต์ "อุปปาตะสันติ"ทุกวันพุธไม่เคยขาด ต่อเนื่องมา 3 ปี แล้ว..จึงปัดเป่าพิบัติภัย เช่น น้ำท่วม พายุ คลื่นซัดรุนแรง ไปได้หลายครั้ง ในขณะที่จังหวัดชายทะเลฝั่งอ่าวไทย หลายจังหวัด ถูกคลื่นซัดรุนแรง ทะลุกำแพง หรือบางแห่งกำแพงพัง เรือแตก แต่ประจวบฯ ปลอดภัย

บัดนี้เกิดลางร้าย มีพายุงวงช้างปรากฏกลางทะเลหน้าองค์หลวงปู่ 2 ครั้งติดต่อกัน เสมือนมาเตือนว่า ภัยพิบัติใหญ่ร้ายแรงกว่าที่ผ่านมา กำลังจะเกิด ถ้าท่านไม่มาร่วมกันขยายพลังศรัทธาให้เพิ่มขึ้น..ก็น่าหวาดหวั่นว่า ต่อไป เราจะอยู่กันอย่างไร? เพราะลำพังเพียงคนกลุ่มน้อยที่สวดมนต์กันอยู่ประจำ ย่อมช่วยชนกลุ่มใหญ่ไม่ได้

ญาณฌานขององค์หลวงปู่ จึงขอเชิญชวนทุกท่านให้ช่วยกันกระจายข่าวสารนี้ออกไปให้มากที่สุดในทุกวิถีทาง เพื่อสร้างฐานศรัทธาให้เป็นกลุ่มก้อนใหญ่ เมื่อภัยพิบัติมาเราจะได้รวมพลังช่วยเหลือกันได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ

มาร่วมกันสวดมนต์ กราบไหว้บูชา เวียนเทียน ปฏิบัติกรรมฐานต่อหน้าองค์หลวงปู่อุปคุต ณ ชายหาดประจวบคีรีขันธ์ หน้าเทศบาลเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทุกวันพุธที่กลุ่มเพ็ญพุธ จัดให้มีการสวดอุปปาตะสันติ หรือ วันศุกร์-เสาร์ ที่มีตลาดนัดหน้าองค์หลวงปู่ หรือ ทุก ๆ วัน ให้บ่อยครั้งที่สุด

ภัยใหญ่มหาศาล รุนแรงระดับมหากาฬกำลังจะมา มัวลังเลรอช้า ประมาทอยู่ไม่ได้แล้ว พลังบุญกุศลจากการปฏิบัติบูชาหลวงปู่ เท่านั้น จึงจะช่วยทุกท่านและชาติบ้านเมืองของเราได้ เพราะหลวงปู่ คือ พระอรหันต์องค์เดียวเท่านั้น ที่ได้รับพุทธพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า ให้เป็นอนุพุทธะทำภารกิจสืบทอดพระศาสนาแทนพระพุทธเจ้าไปจนถึง พ.ศ. 5000

หลวงปู่อุปคุตจึงมีทั้งอิทธิฤทธิ์ และ บุญฤทธิ์ อิทธิฤทธิ์ คือ ขจัดภัยพาล ปกป้องคนดีมีศีลธรรม บุญฤทธิ์ คือ บันดาลโชคลาภแก่คนดีมีศีลธรรม บัดนี้..หลวงปู่อธิษฐานจิตทรงสภาวะธาตุขันธ์ชั้นละเอียดเหนือยิ่งกว่าความเป็นทิพย์ ประดิษฐานอยู่ในมณฑปแก้ว ณ สะดือทะเล

แม้หลวงปู่หมดกิเลสแล้ว แต่ยังไม่เข้าสู่ปรินิพพาน เพราะมหาพรหมวิหารเมตตากรุณาที่ท่านมีต่อชาวโลก ท่านจึงทรงกายไว้ในสภาวะเหนือทิพย์เพื่อช่วยเรา แต่เราต้องปฏิบัติขัดเกลาเข้าสู่ศีลธรรม เข้าสู่วิถีจิตที่ประณีตงดงาม ท่านจึงจะช่วยเราได้

ใครไม่เข้าสู่วิถีนี้ แม้หลวงปู่ต้องการจะช่วยก็ไม่อาจช่วยได้ เพราะหลวงปู่ต้องต่อรองเยื้อยุดกับพญามาร ที่ต้องการผลาญพล่าทุกสิ่งอย่าง ถ้าคนดีเพิ่มจำนวนจนมีมากกว่าคนชั่ว มารก็จะกวาดล้างคนชั่วช้าไปสู่โลกที่สมควรไป ส่วนคนดีมีศีลธรรมมีจิตใจงามที่ถูกฝึกฝนอย่างดีแล้วเท่านั้น หลวงปู่จึงจะยื้อแย่งเอามาจากพญามารได้ โลกนี้จึงจะรอดพ้นภัย ไม่ถูกมารครอบงำ

แต่ถ้าคนดีมีจิตใจงาม มีจำนวนน้อย หลวงปู่ก็จะช่วยได้เพียงนำจิตวิญญาณคนดีที่ประสบภัยพิบัติไปสู่โลกใหม่ ภพภูมิใหม่ที่ดีกว่าโลกนี้..นั่นก็แสดงว่า โลกนี้จะถูกมารครอบครองเต็มรูปแบบ เพราะคนชั่วมีมากกว่า คนดีมีน้อย ไม่สามารถต้านทานความชั่วได้ นั่นเอง

ฉะนั้น..อย่ากระทำผิดพลาด อย่าระเริงประมาทอีกต่อไปเลย เวลาไม่คอยท่าแล้ว เร่งรีบมาเติมบุญเติมกุศลเป็นพลังชีวิตกันให้มากเข้าไว้ เมื่อภัยมา เราจะได้พรั่งพร้อมที่จะรับมือ หรือ ถ้าชาวพุทธเกินครึ่งร่วมกายร่วมใจกัน สวดมนต์เจริญสมาธิภาวนา ทำจิตให้เป็นมหากุศล ปราศจากการเบียดเบียนทำร้ายกัน ก็อาจจะปัดเป่าภัยพิบัติร้ายแรงให้สูญสิ้นไป แต่จะเป็นดังเช่นที่กล่าวมา ได้หรือ? คำตอบอยู่ที่ทุกท่าน

มาร่วมกันปฏิบัติบูชาหน้าองค์หลวงปู่อุปคุต ณ ชายหาดประจวบคีรีขันธ์กันเถิด สิ่งประเสริฐจะเกิดขึ้นแก่ทุกท่านแน่นอน อย่าลืมแชร์ข่าวสารนี้บอกกล่าวกันต่อ ๆ ไป เพื่อเป็นธรรมทานมหากุศลนะจ๊ะ๚ ด้วยรักและห่วงใยทุกท่าน ขอความรอดพ้นพิบัติภัย ความเจริญรุ่งเรืองทั้งทางธรรมและทางโลก จงบังเกิดแก่ทุกท่าน

[จากครูกฤษฏิ์ เสภา อาเซี่ยน ; ฌานญาณหลวงปู่อุปคุต]
๑๔.๐๙ น. ๑๗ ธ.ค. ๒๕๕๗

ที่มา https://sites.google.com/site/jantimema/rwm-bthkhwam/phra-xup-khut5000

 

คาถาบูชาพระอุปคุต​

เผยแพร่เมื่อ 14 ก.ค. 2015
คาถาบูชาพระอุปคุต ของวัดกลางเวียง จังหวัดเชียงราย​

 

อันนี้ผมเจอกับตัวเองครับท่านมาป้องกันคุณไสยไห้ครับและสท้อนกลับไส่ผุ้ปล่อยมาไส่ครับ

 

โลกแปรปรวนเพราะคนปรวนแปรค่ะ

 

ความดีงามในจิตใจ ยังไงเราก็ยืนหยัดอยู่ได้ค่ะ อนุโมทนาในความดีงามในหัวใจของท่านสุภาธรณ์นะค่ะ ชื่นชมอยู่ในใจมาตั้งนานแล้วค่ะ

 

สาธุ เช่นเดียวกันเลยค่ะ(แอบตามอ่านของท่านjityimตลอดค่ะ) ก็ตกอยู่ในโลกธรรม๘ สิ้นพุทธันดรเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดที่คนเราไม่เคยคิดถึงกัน กว่าจะถึงพระศรีอริยะเมตไตรก็นานแสนนาน ยุคนี้เหมาะที่สุดที่พวกเราจะหาทางหลุดพ้นค่ะ

 

ขอไห้ป้าต้อยพ้นทุกข์ไวๆแล้วอย่าลืมส่งกำใจมาไห้ผมบ้างนะครับ

 

ดร.แพททริเซีย กรีน จะแบ่งปันคำพยากรณ์ที่ยิ่งใหญ่ เพื่อเผยให้เห็นสิ่งที่พระเจ้ากำลังจะทำ

เผยแพร่เมื่อ 10 มี.ค. 2017

ในวิดีโอ 8:50 นาที ด้านบน ดร. แพททริเซีย กรีน จะแบ่งปันคำพยากรณ์ที่ยิ่งใหญ่เพื่อเผยให้เห็นสิ่งที่พระเจ้ากำลังจะทำ เธอเป็นนักเขียนและผู้ก่อตั้ง Joy กระทรวงทั่วโลก เธอเล่าว่าดวงตาของเธอเก็บไว้ที่ 11:11 และตัวเลขอื่น ๆ บางอย่าง ดังนั้นเธอจึงถามพระเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ และนี่คือคำตอบที่เธอได้รับจากพระองค์:

"ฉันจะเปิดเผยให้คุณเห็นว่า เหตุใดคุณจึงถูกดึงไป 11:11 เช่นเดียวกับ 111, 222, 333, 444 และ 555 เด็ก ๆ คุณเป็นหนึ่งในผู้พยากรณ์วันสุดท้ายของฉัน คุณกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเพิ่มขึ้นของบทบัญญัติการครอบครองและคำทำนาย เกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของบทบัญญัติ ฉันกำลังปลดปล่อยความมั่งคั่ง ทางการเงินที่ยิ่งใหญ่ให้กับลูกหลานของฉัน เกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของการครอบครองฉันให้ที่ดินแก่ลูก ๆ ของฉัน นี่เป็นทั้งที่ดินทางกายภาพและดินแดนแห่งจิตวิญญาณ

จงเข้าไปในแผ่นดินและยึดครองแผ่นดินซึ่งเราได้ให้แก่เจ้า อย่ากลัวพวกยักษ์ในแผ่นดิน พวกเขาปรากฏตัวใหญ่ แต่ก็เป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้นที่จะหลอกลวง ฉันจะเปิดตาเพื่อดูพวกเขาอย่างที่เป็นจริง พวกยักษ์เป็นพลังแห่งปีศาจ แต่พวกเขาไม่สามารถแข่งขันกับพลังและกำลังของเราได้ เกี่ยวกับการเพิ่มคำทำนายข้าพเจ้าจะแสดงให้เด็ก ๆ เห็นว่าข้าพเจ้ากำลังจะทำอะไรในโลกนี้ ผ่านผู้พยากรณ์ของข้าพเจ้า บรรดาผู้พยากรณ์ของเราจะเกิดขึ้นพร้อมกับคำประกาศนี้

"จงหาทางของการเสด็จกลับมาของโยชูวา เตรียมทาง เตรียมใจของคุณ พระองค์จะทรงเขย่าฟ้าสวรรค์ และพระองค์จะทรงกระทำให้แผ่นดินโลกสั่นสะเทือนด้วยพระหัตถ์กางพระพักตร์พระองค์ การสั่นสะเทือนครั้งยิ่งใหญ่นี้จะนำพาการฟื้นตัวอันยิ่งใหญ่ คริสตจักรที่ฐานรากของเขาไม่ได้ตั้งขึ้นบนศิลาโยชูวาจะล้มลง หลายคนจะตกใจที่คริสตจักรที่ตกเพราะคริสตจักรเหล่านี้วางหน้าดี แต่ปฏิเสธที่จะอยู่ในความศักดิ์สิทธิ์ ฉันจะเปิดเผยความโลภ การล่วงประเวณี การบูชารูปปั้นของโบสถ์เหล่านี้ มีการสั่นสะเทือนที่ดีมาและฉันจะเปิดเผยความบาป จงกลับใจใหม่ก่อนที่จะสายเกินไป "

************************************************************************
เหตุการณ์กำลังจะมาถึงเร็ว ๆ นี้ - ผู้หญิงที่คาดการณ์ว่าคนที่กล้าหาญจะชนะตอนนี้เตือนว่า "การเขย่า" กำลังจะมาถึงและโบสถ์จะตก

ถ้า ดร. แพทริเซียกรีน ถูกต้อง อเมริกากำลังจะเขย่าอย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน และการพิจารณาประวัติของเธอ ฉันจะใช้สิ่งที่เธอพูดอย่างจริงจัง เธอได้พยากรณ์อย่างถูกต้องล่วงหน้าว่าโดนัลด์ทรัมพ์จะชนะการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน ถ้าคุณไม่คุ้นเคยกับคำทำนายนี้คุณสามารถพบวิดีโอได้ที่นี่ที่เผยแพร่ในวันที่ 28 กันยายน นอกจากนี้เธอยังทำนายชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งแรกของ Barack Obama อย่างถูกต้อง และในเวลาที่ฮิลลารีคลินตันคาดว่าจะได้รับ การสรรหาประชาธิปไตย ดังนั้นต่างจาก "ผู้เผยพระวจนะ" อื่น ๆ ที่ลอยอยู่รอบ ๆ วันนี้เธอจึงมีประวัติที่ยาวนานมากว่าถูกต้อง ในวิดีโอล่าสุดของเธอ เธอบอกว่าพระเจ้าตรัสกับเธอว่าการสั่นสะเทือนที่ยิ่งใหญ่ จะมาถึงอเมริกาและโบสถ์หลายแห่งจะล้มลง ข้อความที่ตัดตอนมาจากคำทำนายของเธอ

ที่มา https://www.charismanews.com/opinio...reat-shaking-is-coming-and-churches-will-fall

 

อาจารย์ปริญญา ตันสกุล แจ้งข่าวสารการชำระโลกให้รู้กันทำไม?



การทำนายแบบหมอดู หรือการพยากรณ์แบบโหรทั่วไป เป็นการใช้ศาสตร์และศิลป์อันเป็น ความสามารถส่วนตัว และอาจมีบางคนก็ใช้ความรู้สึกนึกคิดตนเองคาดเดาหรือคาดหมายเหตุการณ์ หรือสถานการณ์นั้นๆไว้ล่วงหน้า ก่อนที่เหตุการณ์นั้นๆหรือสถานการณ์ดังว่านั้นมันจะมาถึง แต่สำหรับกรณีการแจ้งข่าวสารการชำระโลกของอาจารย์ปริญญา จะมีที่มาที่แตกต่างกันกับหมอดูหรือโหรพยากรณ์เหล่านั้นอย่างสิ้นเชิง!

เพราะเรื่องราว เหตุการณ์ และสถานการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้น เพื่อการชำระโลก ที่อาจารย์ปริญญาเป็นผู้เอ่ยปากบอกหรือเขียนบันทึกไว้ในคัมภีร์จิตจักรวาลให้มนุษย์ทั้งหลายได้รู้กันล่วงหน้าอยู่เป็นระยะๆสืบมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 หรือ ค.ศ.2000 นั้น มิใช่การทำนาย มิใช่การพยากรณ์ มิใช่การคาดเดาด้วยความรู้สึกนึกคิดส่วนตัว และมิใช่การคิดวิเคราะห์ตามหลักวิชาการใดๆ แต่....มันคือ “ข่าวสาร” ต่างหาก!!! เพราะเป็นข่าวสารนี่เอง ทุกสิ่งทุกเรื่องราวที่อาจารย์ปริญญาบันทึกและบอกกล่าว จึงล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น หรือเป็นสัจจะนั่นเอง อาจารย์ปริญญา ตันสกุล แจ้งข่าวสารการชำระโลกที่กำลังเกิดขึ้นและกำลังจะเกิดขึ้น เพื่อบอกให้มนุษย์รู้สำนึกโดยทั่วกันว่า

การชำระโลก คือ การเกิดมหันตภัยพิบัติทางธรรมชาติแวดล้อมที่ร้ายแรง ที่มนุษย์จะต้องเผชิญกันในรูปแบบต่างๆ และการเกิดเชื้อโรคร้ายทั้งเก่าและใหม่ จนยังความเสียหายต่อชีวิตมนุษย์และสัตว์ ทรัพย์สิน และระบบนิเวศน์ของโลกอย่างหนัก

การชำระโลก คือ การเกิดภาวะวิกฤตจากจิตสำนึกมนุษย์ จนนำสังคมมนุษย์ไปสู่สภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ สังคม ศาสนา และการเมือง จนสร้างความสับสน ปั่นป่วน และทุกข์ทนกันไปทั่วทุกหย่อมหญ้า

การชำระโลก คือ การเก็บกวาดทำความสะอาดระบบโลก ให้พลิกฟื้นสู่ความสมดุลทั้งในมิติทางพลังงานและในมิติทางกายภาพโดยเร็ว เพื่อการนำโลกและมนุษย์ที่เหลือรอดก้าวสู่ยุคพลังงานใหม่ที่ศิวิไลซ์ต่อไปอีก 60,000 ปี

การชำระโลก คือ การเก็บกวาดทำความสะอาดสรรพสิ่งทั้งหลายที่เป็น ขยะ อยู่ในระบบโลกทิ้งไป ไม่ว่าสรรพสิ่งนั้นจะเป็นมนุษย์ สัตว์ เทพ เทวดา หรือว่ารูปธรรมทางจิตวิญญาณใดๆก็ตามที่มีความบกพร่องทางจิตสำนึกจนยากเกินเยียวยาแก้ไข และแม้กระทั่งขยะทางวัตถุเท็คโนโลยีที่มนุษย์ใช้สมองขยะคิดสร้างมันขึ้นมาจนรกโลกอยู่กลาดเกลื่อน

การชำระโลก คือ การเก็บกวาดทำความสะอาดระบบโลก ด้วยกรรมวิธีต่างๆทางธรรมชาติ เช่น คลื่นยักษ์ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินยุบ-แยก พายุหมุน น้ำท่วมใหญ่ ความร้อนจัด ความหนาวเหน็บ และรังสีด้านลบจากดวงอาทิตย์ เป็นต้น ซึ่งบรรดาช่างเท็คนิคของจักรวาล คือ กลุ่มเจ้ากรรมนายเวรของมนุษย์โลกจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแห่งการเกิดภัยพิบัติเหล่านี้ ดังนั้น ภัยพิบัติต่างๆที่เกิดขึ้นในระยะนี้และระยะต่อไป ที่นำพาความเสียหายต่อชีวิตมนุษย์คราวละมากๆ และความเสียหายในทรัพย์สินนั้น จึงมิใช่ภัยพิบัติธรรมชาติที่เกิดขึ้นตามปกติทั่วไปแต่อย่างใด

การชำระโลก คือ การเก็บกวาดทำความสะอาดระบบโลก โดยเจ้ากรรมนายเวรหรือช่างเท็คนิคของจักรวาล เป็นปฏิบัติการร้ายแรงที่มันจะเกิดขึ้นตาม “รหัส 11-11” ในวันเวลาที่ชำระโลกด้วยเหตุการณ์ร้ายๆนั้น เช่น เหตุการณ์กรณี 9/11 เครื่องบิน 2 ลำ พุ่งชนตึกสองตึกที่มีรูปลักษณ์เป็นเลข 11 จนตึกถล่มราบคาบ พร้อมกับเอาชีวิตมนุษย์ไปเป็นเรือนหมื่นชีวิตที่ผ่านมา

รหัส 11-11 จากเหตุการณ์นี้มีดังนี้
(1) เหตุเกิดวันที่ 11 จึง หมายถึงเลข 11
(2) เหตุเกิดเดือนกันยายนคือเดือน 9 โดยเครื่องบินก่อเหตุรวม 2 ลำ จึงหมายถึง 9+2 เท่ากับ 11
(3) เครื่องบินพุ่งชนตึกสองตึกเป็นเลข 11 จึง เท่ากับ 11

หมายเหตุ : ถ้าเกิดกรณีเช่นนี้ โดยมีรหัส 11 เข้ามาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ร้ายนี้ตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป มนุษย์จะต้องจบชีวิตเรือนพันเรือนหมื่นขึ้นไป และสูญเสียทรัพย์สินนับร้อยล้านพันล้านแน่นอน

เหตุการณ์กรณีสึนามิ: 26 ธันวาคม 2547 รหัส 11 จากเหตุการณ์นี้มีดังนี้
(1) เหตุเกิด 26 เดือนธันวาคม หมายถึง รหัส 26+12 เท่ากับ 38 หรือ 3+8 เท่ากับ 11
(2) เหตุเกิดปลายปี พ.ศ.2547 หมายถึง 47 หรือ 4+7 เท่ากับ 11
(3) เวลาจริงที่เกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลลึก เท่ากับ 07.40 น. หมายถึง 0+7+4+0 เท่ากับ 11
(4) ความรุนแรงของแผ่นดินไหวครั้งนี้วัดได้เกิน 7.4 ริคเตอร์ จึงหมายถึง 7+4 เท่ากับ 11
(5) ประเทศที่ประสบภัยสึนามิรวมทั้งสิ้น 11 ประเทศ จึง หมายถึง 11 เช่นกัน

หมายเหตุ : เพราะเหตุร้ายครั้งนี้ มีรหัส 11 เข้ามาเกี่ยวข้องมากกว่า 2 ตัวขึ้นไปดังได้แสดงไว้แล้วนั้น ผู้สูญเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้จึงมีจำนวนมากถึงหลักแสนคนเลยทีเดียว

การชำระโลก คือ การเก็บกวาดทำความสะอาดระบบโลก ซึ่งเป็นความเลวร้ายที่มนุษย์ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แล้ว สาเหตุเกิดจาก ดาวเคราะห์โลกเสียสมดุล เพราะมนุษย์ไม่สามารถใช้จิตสำนึกตนเองค้ำจุนความสมดุลของดาวเคราะห์โลกของตนได้ "เนื่องจากมนุษย์ป่วยเป็นโรคงมงาย และเป็นโรคจิตที่ยึดติดกิเลสตัณหาอย่างเรื้อรังจนยากเกินการแก้ไขเยียวยาแล้ว"

เพราะมนุษย์จำนวนมากในยุคนี้มีอาการป่วยทางจิตสำนึกดังกล่าวแล้ว มนุษย์จึงไม่อาจใช้ความรักความเมตตาที่มีอยู่ภายในจิตใจ กระทำผ่านทางจิตสำนึกของตน เพื่อแสดงออกหรือกระทำต่อเพื่อนมนุษย์ สัตว์ทั้งหลาย และดาวเคราะห์โลกของตนได้ ยังผลให้ดาวเคราะห์โลกทั้งระบบเกิดการเสียสมดุลอย่างรุนแรง เพราะมวลมนุษย์แล้งซึ่ง ความรักและเมตตา นั่นเอง

การชำระโลก คือ การเก็บกวาดทำความสะอาดระบบโลก ในลักษณะของภัยพิบัติที่รุนแรงและโรคร้ายต่างๆที่มนุษย์จะต้องแลกกับความทุกข์ยาก ความสูญเสีย ความตื่นกลัว ความเศร้าหมอง และความเจ็บปวด ครั้งที่รุนแรงที่สุดในชีวิต ไม่ช้าก็เร็ว ซึ่งนับแต่นี้ไปเหตุการณ์ร้ายๆต่างๆจะค่อยๆคืบคลานทยอยกันเข้ามาใกล้ตัวมนุษย์แต่ละคนมากขึ้นเรื่อยๆ ถี่ขึ้นเรื่อยๆ และทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย จนในที่สุดมนุษย์แต่ละคนจะต้องตกอยู่ท่ามกลางสถานการณ์อันไม่พึงประสงค์ต่างๆนั้นด้วยตนเองทั้งสิ้น ไม่มีผู้ใดจะได้รับการยกเว้นเลย ใครจะรอดหรือไม่รอดอย่างไร คือ หนทางเดียวที่เป็นทางเลือกของมนุษย์แต่ละคน

การชำระโลก คือ การเก็บกวาดทำความสะอาดทุกสรรพสิ่งที่เป็นขยะในระบบโลก อันหมายถึง มวลมนุษย์เองด้วย เพื่อปรับความสมดุลของโลกทั้งระบบครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหกหมื่นปีโลก

"ผู้ที่จะรอดชีวิตได้ จะต้องเป็นผู้มีจิตสำนึกที่สมดุล เป็นมนุษย์ที่สมดุล เป็นผู้มีปณิธานแห่งนิพพาน เป็นผู้เข้าถึงสัจธรรมสูงสุดด้วยปัญญาญาณของตนเองได้ และจะต้องเป็นผู้ประพฤติธรรม ที่มีรหัสผลกรรมในรูปของอนุภาคประจุไฟฟ้าลบอยู่ภายในระบบร่างกายตนเองไม่เกิน 30% อีกด้วย"

ที่มา http://www.jitchakraval.com/home/index.php?option=com_content&view=article&id=227&Itemid=259

 

พระศรีอารย์กึ่งพุทธกาล ตามพุทธทำนายเกิดขึ้นแล้ว



รอพระศรีอารย์? จะเกิดอะไรขึ้นหากมีผู้ประกาศตนว่า …เราคือพระศรีอารย์ มาโปรด…” และจะเป็นอย่างไร หากผู้ประกาศตนนั้นเป็นพระ นักบวช หรือนักปฏิบัติภาวนา หรือผู้มีวัตรปฏิบัติ ที่น่าเลื่อมใส

ความโกลาหลของผู้เฝ้ารอ ผู้หมายทางง่าย ความลังเลสงสัยของผู้หมายพิสูจน์ ความหวาดวิตกของผู้มั่นในศีลธรรมที่เกรงการลวงหลอกของอสัตย์ชน ทั้งมวลชน ทั้งสื่อ กระแสการเคลื่อนตัว ความงุนงงสงสัยจะถาโถมดุจดังทะเลคลั่ง กระแสวิพาก ทั้งสนับสนุน ต่อต้าน บ้างจะทั้งเทิดทูนและบ้างที่ยังไม่ทันพิจารณาก็จะปรามาสด่าทอ จักกลายเป็นว่า การปรากฏประกาศตนของท่าน จะนำทั้งมนุษย์ผู้มืดบอดที่มีจิตมืดหนา ให้ดิ่งลงนรก มากกว่าจะพาให้หลุดพ้น กระแสคลื่นแห่งความลังเลสงสัยจะปะทุคั่ง แล้วย้อนกลับมาเล่นงานผู้ส่งกระแสนั้นเอง แล้วใครที่ไหน จะรับกระแสรุนแรงเหล่านี้ได้ ตัวตนที่แท้จริงของพระศรีอารย์กึ่งพุทธกาลจึงถูกปกปิดเป็นความลับ

มนุษย์ยุคนี้จึงอย่าคิดว่าจะได้พบพระศรีอารย์ในแบบที่พระพุทธองค์ทรงประกาศการรู้แจ้งเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยเหตุปัจจัยต่างกัน การมาถึงของท่านเป็นการมาถึงตามพัฒนาการ ท่านมาเพื่อผู้หมายเลือกและถูกเลือก มิใช่มาเพื่อมาอุ้มผู้ไม่ยอมแสวงทางหลุดพ้น ได้แต่ใช้ชีวิตด้วยความลุ่มหลงมัวเมา แล้วคิดว่าสักวันหนึ่งพระศรีอารย์จะมาโปรดตนให้พ้นภัยจากวัฏสงสารโดยที่ตนมิได้มีความปรารถนายิ่งอันใดเลย

อาจารย์ขอยกคำเขียนคำทำนายในพระไตรปิฏก 20 กัณฏ์ ที่กล่าวถึงโดยอจ.ธวัช เที่ยงประภัสสร์ ปธ 9 วัดเบญจมบพิตรรวบรวมไว้เมื่อ พ.ศ. 2489 ที่ส่วนหนึ่งสรุปไว้ดังนี้

พระพุทธองค์ทรงเล่าให้พระอานนท์ฟังต่อไปว่า

“อันชาติหนึ่ง สองเราสหายสนิทช่วยกันคิดเอาบัวมาอธิษฐานเพื่อเสี่ยงทายบารมีพุทธกาลให้บัวบานบอกแจ้งเป็นผู้ใด” ในชาตินั้นเราทั้งสองจึงเอาดอกบัวมาคนละดอก เข้าไปอธิษฐานในพระวิหาร ว่าถ้าใครจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก่อน ก็ขอให้ดอกบัวของผู้นั้นบานก่อน ครั้นวันรุ่งขึ้นตถาคตเข้าไปดูดอกบัวนั้น แต่ยังไม่ทันสว่างแจ้งเห็นดอกบัวของพระศรีบานก่อน ด้วยความที่อยากเป็นพระพุทธเจ้าก่อนพระศรี จึงลักเปลี่ยนดอกบัวของพระศรีมาไว้ที่ตถาคถ สับเปลี่ยนกันเสีย”

“บัวของน้องบานแล้วนะพี่ สัมพุทธาน้องย่อมได้ไปก่อนแน่ แต่ไฉนบัวในมือเดี๋ยวหุบเดี๋ยวก็แบ พุทธยังไม่เที่ยง พุทธน่าอายจริง”

ฝ่ายพระศรีนั้นเขาฌานแก่ รู้ว่ามีการสับเปลี่ยนบัวจึงทำนายว่า

“โอ! สหาย ท่านจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก่อนเราจริง แต่ทว่าฝูงมนุษย์ยุคนั้นจะเป็นคนขี้ลักขี้ล่าย และใช้เงินดำเงินแดง เงินกระดาษกันอย่างพร่ำเพรื่อ มนุษย์จะไม่ซื่อสัตย์ต่อกัน จะทุจริตคิดมิชอบนานาประการ พระสงฆ์องค์เณรพุทธบริษัทในศาสนานั้น จะหาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้ เดี๋ยวบวช เดี๋ยวสึก เดี๋ยวหุบเดี๋ยวแบดังดอกบัวนี้”

เพราะกรรมที่พระพุทธเจ้าโคดมได้สับเปลี่ยนบัว ถึงแม้ว่าพระองค์และเหล่าพระอรหันต์สาวกจะเข้านิพพานไปแล้วก็ตาม แต่กรรมนั้นยังติดอยู่ในศาสนาของพระองค์ตราบเท่าทุกวันนี้ ที่เหลือไว้แต่สมมติสงฆ์ในศาสนาของพระองค์ จึงรู้จริงบ้างไม่จริงบ้าง พุทธศาสนาเสียหายสามส่วน คือ ถูกพราหมฌ์ผู้ไม่รู้จริง เอาไปผสมผสานกับลัทธิพรามฌ์ส่วนหนึ่ง ยักษ์เอาพุทธศาสนาไปทำมาหากินส่วนหนึ่ง มารเปลี่ยนแปลงคำสอนให้เกิดความผิดเพี้ยนเสียหายยิ่งอีกส่วนหนึ่ง เหลือส่วนที่เป็นจริง มีเพียงส่วนเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อข้อวัตรปฏิบัติถูกปนจนแยกแยะไม่ออก ผู้คนเกิดมาสมัยหลังจึงไม่เข้าใจทางศึกษาปฏิบัติที่ถูกมรรคผลนิพพานอย่างแท้จริง…

พระพุทธเจ้าโคดมทรงเล่าอดีตกรรมจบลง พร้อมพยากรณ์เหตุการณ์สืบไปอีกว่า เมื่อพระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์จะมาช่วยสืบพระพุทธศาสนาในกึ่งพุทธกาลของพระตถาคตนั้น จะมีสรรพวัตถุทั้งหลายบังเกิดขึ้นแก่โลกอย่างแปลกประหลาดเหลือคณานับ ทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์นานาชนิดก็จะไม่ได้ปั่นและทอด้วยมือเหมือนในศาสนาของตถาคต…

ในยามนั้นผู้หญิงจะนุ่งซิ่นเสื้อลายเหมือนหนังแย้ จะนุ่งเสื้อผ้าแขนกุดขาก้อม หญิงชายจะนุ่งเป็นอย่างเดียวกันจะว่าชายก็ไม่จริง จะว่าหญิงก็ไม่ใช่ ผู้หญิงจะหวีผมปกหน้า จะใส่ต่างหูยาวง้ำหน้า ผู้ชายจะใส่หมวกหุ้มหน้า สิ่งที่ไม่รู้จะได้รู้ สิ่งที่ไม่พบเห็นก็จะได้เห็น พร้อมด้วยบุรพนิมิตอันชั่วร้ายต่างๆ จะบังเกิดแก่โลกมากมายยิ่งดังนี้

1.ราชภัย ท้าวพระยาจะเบียดเบียนพลเมือง
2.โจรภัย จะบังเกิดโจรผู้ร้ายปล้นสะดมทั่วไป
3. อัคคนีภัย ไฟจะไหม้บ้านเมืองไม่ขาดสาย
4. อสุนีบาต ฟ้าจะผ่าสัตว์และคนล้มตายบ่อยๆ
5. เมทนีภัย แผ่นดินไหวสะท้านและแยกออกจากกัน
6. วาตภัย ลมพายุพัดพาบ้านเมืองพินาศ
7. อุทกภัย น้ำท่วมบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นา
8. ทุพภิกขภัย จะเกิดข้าวยากหมากแพง
9. พยาธิภัย เกิดโรคระบาด
10. สัตภัย จะรบราฆ่าฟันกันล้มตายร้ายแรง

ในขั้นสุดท้ายแผ่นดินจะไหวเดือนละหลายๆครั้งและจะมีสุริยคราสและจันทราสบ่อยครั้ง….ครั้นแล้วถึงกาลที่องค์พระเมตไตรยโพธิสัตว์จะปรากฏเป็นที่พึ่งแก่โลกตามบุรพกรรมสัญญา เหตุการณ์ที่กล่าวถึงการมาปรากฏของพระศรีอารย์ในกึ่งพุทธกาล มีอยู่เช่นเดียวกับพุทธทำนายที่แกะสลักไว้บนศิลาในเขตมหาวิหาร สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย
….................................................................................................

เหล่านี้คือคำถ่ายทอดคำทำนาย ที่ขอให้พิจารณาเหตุปัจจัยกันด้วยหลักกาลามสูตร

การเขียนคำสอนครั้งนี้ เกิดมีกระแสบันดาลใจจากเบื้องบนให้เขียน เพราะไม่ว่า จะพยายามเขียนเรื่องอื่นใด จิตก็ไม่รับ ทั้งนี้ ก็ด้วยกระแสพระรัตนตรัย หมายให้แจ้งว่า กระแสดวงจิตพระศรีอารย์ว่าท่านมาถึงแล้วผสานมาแล้ว พระศรีอารย์กึ่งพุทธกาล ตามพุทธทำนายเกิดขึ้นแล้ว แต่จะปรากฏตัวหรือประกาศตนไม่ได้ เพราะกระแสความมืดมิดของโลกกึ่งพุทธกาลรุนแรงยิ่งนัก ความคาดหวังของมหาชนว่าจะมีพระศรีอารย์ลงมาจากสวรรค์ราวกับภาพวาดในสมัยโบราณอย่าพึงหมาย โลกปัจจุบันมีกายสมมติอยู่กันแบบไหนท่านก็เป็นเช่นนั้น กิจสำคัญของพระศรีอารย์ คือการกอบกู้แก้ไขหมู่สงฆ์ให้มีความเห็นที่ถูกต้อง ให้เป็นบรรพชิตที่เที่ยงตรงในธรรม ส่วนพระธรรมิกราชท่านจะมาพยุงพระพุทธศาสนาโดยมุ่งตรงมาที่ฆราวาสเป็นหลัก

การมาถึงของพระมหาโพธิสัตว์ ขึ้นอยู่กับว่าจะมีผู้ใดได้มีบุญวาสนาได้เข้ามา สู่ข่ายกระแสของท่าน แต่ที่แน่ก็คือท่านจะประกาศตัวไม่ได้ ผู้มีวาสนาต้องพิสูจน์ธรรม และพิสูจน์ทางของท่านเอาเอง ในคำทำนายที่ว่า ในยุคของพระศรีอารย์ ผู้คนจะมีศีลธรรมจะเข้าถึงนิพพานได้โดยง่าย นั่นหมายถึง ในหมู่ของผู้ที่มีวาสนาได้เข้ามาสู่ข่ายของท่าน จะเป็นผู้หนักแน่นในศีลธรรม และจะสามารถบำเพ็ญจนเข้าถึงนิพพานได้โดยง่าย หาใช่คนทั่วทั้งปฐพีจะเป็นคนมีศีลธรรมขึ้นมาหมด

หากอยากได้พบพระศรีอารย์ ต้องยังจิตให้มั่นคงในนิพพาน ต้องปฏิบัติบำเพ็ญอย่างจริงจัง และเมื่อนั้นจิตรู้จะบอกปริศนาธรรมนั้นขึ้นมาเอง ผู้ที่จะได้รับกระแสจากพระศรีอารย์ คือผู้ที่ไม่หวังพึ่งท่านและเป็นผู้ที่มีจิตหนักแน่น มั่นคงปรารถนาในนิพพาน ดังนั้น อย่าหวังว่าจะมีผู้ใดปรากฏตัวแล้วประกาศตนเช่นนั้น ผู้ปรารถนาเกาะกระแสบุญของท่านต้องแสวงหาธรรมด้วยตน หากตั้งจิตให้แม่นมั่นแล้วท่านย่อมได้เกาะ กระแสบุญของพระศรีอารย์ได้ และหากมีอภิญญาที่ประกอบด้วยวิปัสสนาญาณขั้นสูงไม่ใช่โลกียะอภิญญา ย่อมรู้ได้ว่ากระแสจิตของท่านที่ส่งพลังประสานมายังมนุษย์โลกยามนี้ อยู่ที่ไหนและผสานมากับท่านผู้ใด….

แต่การรู้ก็ไม่สำคัญเท่าการที่บุคคลตัดสินใจกำหนดชีวิตของตนให้เดินทางสู่การหลุดพ้นโดยไม่หวังพึ่งใครมาโปรด ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่ โอกาสในการเป็นไทจากวัฏสงสารเกิดขึ้นได้เสมอหากมีศรัทธาที่เด็ดเดี่ยวและมั่นคง เปิดทางให้พระศรีอารย์ท่านมุ่งแก้ปัญหาใหญ่ในหมู่สงฆ์เพื่อความยั่งยืนของพระพุทธศาสนาเถิด ผู้ที่มีความเข้มแข็งจงเพียรด้วยตน ให้สมกับการได้เป็นพุทธสาวกของพระพุทธศาสดาผู้ทรงป็นจอมทัพ ทรงเด็ดเดี่ยวต่อนิพพานที่สุดแห่งจักรวาลพิภพ เมื่อต่างคนต่างทำหน้าที่ พระศาสนาจึงจะเข้มแข็งขึ้นมาได้ จงรักษาหน้าที่ของตนให้มั่นเถิด

อ.อัจฉราวดี วงศ์สกล
1 ก.ค. 2558

ที่มา http://www.techovipassana.org/web/blogsingle.php?blogId=1435723066

 

สื่อสนทนาธรรมกับหลวงพ่อพระฤาษี ลิงดำ​

เช้าวันพุธที่ 16 มีนาคม 2559 เป็นวันที่อาจารย์ต้องเขียนโพสต์สอนศิษย์ในTechoblog.org แต่วางแผนไว้แล้วว่า เขียนไม่ได้แน่นอนเพราะต้องเร่งตรวจปรู๊ฟหนังสือฆราวาสบรรลุธรรม Breaking the Code ที่มี deadline ต้องส่งภายในก่อนเที่ยงวันนี้ เพื่อให้วางจำหน่ายให้ทันงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติในสิ้นเดือนมีนาคม การตรวจปรู๊ฟหนังสือ 300 กว่าหน้าทำมา 3 วันแล้วก็ยังไม่เสร็จ เพราะแม้จะมีผู้ช่วยแก้แล้วก็ยังมีพลาดและผู้เรียงพิมพ์ก็มีพลาดเช่นกันเป็นเรื่องธรรมดา

ขณะที่กำลังขมักเขม้นอยู่บนโต๊ะทำงาน ซึ่งคือโต๊ะทานอาหาร และโต๊ะสารพัดนึก เมื่อตรวจอ่านไปถึงบทการบรรลุธรรม 3 ระดับ คือระดับสัพพัญูผู้รู้แจ้ง ระดับโพธิญาณของพระโพธิสัตว์ และระดับอรหันต์.....เมื่อมาถึงระดับที่สองคือ ระดับโพธิญาณ จิตได้เชื่อมถึงกระแสคำว่า “จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง"...ทำให้จิตนึกถึงพระราชพรหมยาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ผู้เขียนคำทำนายนั้น และในทันที กระแสจิตของหลวงพ่อฤาษี ลิงดำ ก็สื่อส่งมาถึงอาจารย์ พร้อมด้วยกระแสพระรัตนตรัยแผ่ซ่าน ท่านกล่าวว่าเพราะจิตอาจารย์พุ่งไปหาท่าน จึงได้มีการสื่อสารทางวิถีจิตชั่วขณะ
..
เมื่อเห็นว่า เป็นโอกาสอันดีและจะได้ขอคำแนะนำจากหลวงพ่อก่อนจะส่งหนังสือเข้าพิมพ์ ด้วยท่านเป็นผู้มีบารมีญาณสูงมาก หนังสือเล่มนี้ก็เผยธรรมชั้นสูงและมีผลต่อการหลุดพ้นของฆราวาส อาจารย์ได้วางงานตรวจชั่วขณะ แล้วตั้งจิตได้สื่อยังดวงจิตหลวงพ่อฤาษีลิงดำอย่างเป็นทางการและเป็นเรื่องเป็นราว สำหรับผู้ที่เป็นศิษย์สายท่าน หากเข้ามาอ่านก็ขอให้อ่านด้วยใจที่ไม่มีอคติ ท่านจะได้ความรู้ดีๆ ไป

หลังจากนมัสการด้วยความยินดีปรีดาที่ได้สื่อสารทางวิถีจิตถึงท่านตรงๆ เพราะแต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยคิดจะส่งจิตถึงท่าน แต่มีความเคารพนับถือในวัตรปฏิบัติและปรีชาญาณรวมถึงความเป็นปูชนียบุคคลที่ท่านมีเจตนารมย์แรงกล้าในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา เมื่อมีสังขารอยู่ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ท่านได้ เผยแพร่สายธรรมมโนยิทธิ (ฤทธิทางใจ) เพื่อให้คนที่พอมีวาสนาเดิมมา ได้รู้ได้เห็นว่านรกสวรรค์มีจริงจะได้ทำตนมีศีลมีสัตย์ อีกทั้งยังสอนให้มุ่งสู่นิพพาน หลวงพ่อพระอรหันต์เจ้าท่านละสังขารไปเมื่อปี 2535 สิริอายุขัย 76 ปี ยามนี้ด้วยมีเหตุเชื่อมถึงจึงกราบเรียนถามท่าน….. (หมายเหตุ อาจารย์สื่อถึงท่านด้วยสถานะทางจิต ไม่ใช่แบบสมมติทางกายเนื้อ หลวงพ่อท่านก็กล่าวแก่อาจารย์ด้วยสถานะทางจิตเช่นกัน ความที่ถ่ายทอดมาจึงเป็นเนื้อหาล้วนๆ ไม่มีการใช้คำนำ หรือคำพูดแบบมนุษย์โลกเช่น ค่ะ แบบโยมผู้หญิง ท่านก็มิได้ใช้คำว่าอาตมาหรืออื่นใด เป็นการคุยกันทางจิต แบบไร้เพศจริงๆ)

“ หลวงพ่อฤาษีเขียนคำทำนายนี้เองหรือไม่อย่างไร ท่านรู้มั้ยว่า ในทางโลกมีคนกล่าวอ้างว่าท่านไม่ใช่ผู้เขียนคำทำนายนี้ โดยกล่าวว่ามีคนเอาชื่อท่านไปแอบอ้าง” ....หลวงพ่อพระฤาษีกล่าวว่ายืนยันว่า ท่านเขียนเองและผู้ที่ไปอ้างเช่นนั้นก็จะต้องได้รับผลกรรมของเขาเอง

“แล้วหลวงพ่อฤาษีรู้เรื่อง นารีขี่ม้าขาวได้อย่างไร ว่าเป็นใครและจะมาเมื่อไหร่”

“รู้จากหลวงปู่เทพโลกอุดร (เป็นการประสานกันทางจิต)”

หลวงปู่เทพโลกอุดรท่านเป็นผู้สำเร็จตั้งแต่ยุค 500 ปีหลังพระพุทธกาล มีข่ายพระญาณสูงมาก สถานะทางโลกวิญญาณของท่านสูงกว่าที่คนในโลกคิดว่าท่านเป็นมากนัก หากไปอ่านในหนังสืออาจารย์จะเข้าใจได้

อาจารย์กราบเรียนถามความอีกมาก พร้อมทั้งขอคำแนะนำในการรับมือกับสิ่งที่จะตามมาหลังจากหนังสือนี้ออกไป ท่านได้เมตตาให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์มากโดยพุ่งไปที่ศิษย์ฆราวาสที่มีจิตเป็นอริยะ หลวงพ่อฤาษีได้กล่าวถึงการจะส่งศิษย์ของท่านมาเป็นศิษย์อาจารย์ และได้กล่าวถึงเรื่องราวต่างๆ หลายเรื่องเกี่ยวด้วยสภาวะธรรมขั้นสูง ส่วนการสื่อสนทนา ที่พอนำมาเผยได้โดยขออนุญาตแล้วมีดังนี้

อาจารย์เรียนท่านไปว่า ศิษย์มโนยิทธิเมื่อมีมาเรียนกับอาจารย์ ก็ไม่เคยเรียนให้ได้มรรคผล เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ท่านเมตตาตอบว่า เพราะเขามาเรียนแค่มาหาอาหาร ไม่ได้มุ่งมั่นต่อนิพพานอย่างแท้จริง คือส่วนมากติดอภิญญา มาเรียนเพื่อแสวงหาทางเพิ่มอภิญญาของตน

“ หลวงพ่อฤาษีรู้สึกอย่างไร ที่ศิษย์ที่ไปปฏิบัติในสายท่านเป็นจำนวนมาก กลายเป็นผู้ลุ่มหลงแสวงอภิญญา มีคนเดินเข้าออกไปเรียนชนิดหัวบันใดไม่แห้ง คนที่พอได้ก็ไม่ตั้งอยู่ในโลกของความจริง มัวแต่ท่องนรกสวรรค์เที่ยวเล่นอยู่ ไม่เป็นตามปณิธานของท่านที่เผยแพร่ธรรมนี้เพื่อให้คนมีความละอายชั่วกลัวบาป ตระหนักตื่นในคำสอนเรื่องนรกสวรรค์ของพระบรมศาสดา”…ท่านเมตตาตอบว่า

“รู้สึกสลดสังเวช ที่คนสมัยนี้เอาธรรมของพระพุทธเจ้า มาเรียนรู้เป็นของเล่น อย่างไม่มีความเคารพในธรรม บางคนยังเอาไปสู่การทำมาหากิน สร้างลาภยศสรรเสริญใส่ตัวเอง สลดสังเวชใจ”

อาจารย์กราบเรียนว่า ศิษย์ของท่านได้สื่อจิตไปเฝ้าจิตท่านเสมอ หลวงพ่อได้เตือนเขาเหล่านั้นเพียงใด ..ท่านว่า เตือนแล้วแต่ก็มีผู้ลุ่มหลงมาก การที่ท่านไม่มีกายเนื้อแล้ว ทำให้การสื่อจิตออกไปสู่นรกสวรรค์ ซึ่งเป็นโลกียะภูมิ ระหว่างทางที่ไป จิตที่มีกิเลสและลุ่มหลงในอภิญญา ทำให้ติดกับดักของกิเลส ทำให้เกิดมีการสำเนากายทิพย์ให้เห็นเป็นจิตท่านขึ้นมามากมาย ผู้ที่ได้พบดวงจิตท่านจริงๆ มีน้อยมาก ท่านย้ำว่า ผู้ที่ได้เข้าถึงกายทิพย์ของท่านจริงๆ หากกล่าวเป็นเปอร์เซนต์แล้วจะน่าตกใจ ท่านยังเมตตาอีกว่า อีกหน่อย เมื่ออาจารย์เองละสังขารไปแล้ว ก็จะถูกสำเนากายทิพย์ขึ้นมาด้วยอำนาจของกิเลส เพื่อมาลวงให้ธรรมเสียหาย ผิดเพี้ยน และต่อไปก็จะแตกสายไปและถูกทำให้ผิด เสื่อมเสียหายไปในที่สุด เพราะเมื่อไม่มีกายเนื้อแล้ว ก็ควบคุมยาก

การมีกายเนื้อนั้นสำคัญมากเพราะเป็นสะพานเชื่อมที่ทำให้สายธรรมนั้นเข้มแข็งอยู่ได้ พระรัตนตรัยต่างมีความห่วงใยในกายสังขารของอาจารย์ยิ่งนัก ต้องการให้รักษาธาตุขันธ์ไว้ไม่ให้ทรุด สรุปท้ายท่านเมตตาทิ้งท้ายไว้ว่า . “..มันเป็นอนิจจัง ไม่เที่ยง”

อาจารย์น้อมนมัสการทำความเคารพท่าน ท่านก็ให้เกียรติสภาวะจิตของอาจารย์ อาจารย์ได้กราบเรียนแก่หลวงพ่อฤาษีว่า ขอให้ท่านโปรดเห็นอาจารย์เป็นดั่งลูกหลาน หากมีอันใดที่จะเมตตาชี้แนะขอนิมนต์ท่านอย่าได้เกรงใจผู้มาถึงใหม่ และต้องมารับภาระอันหนักมาก
…..................................................................................................................

ในทางโลกมนุษย์ เรามักแตกแยกสายกันเอง รวมกันไม่ได้ ต่างมีความคลางแคลงสงสัย ชิงดีชิงเด่นกันตามวิถีโลกียะ แต่ทางธรรมนั้น พระอรหันต์เจ้าครูบาอาจารย์ ท่านไม่มีการแยกสาย มีสายเดียวกันหมดคือสายธรรมแห่งพระบรมศาสดา แต่ละองค์ละรูปที่ละสังขารแล้ว ดวงจิตท่านก็จะขมักเขม้นคอยเกื้อหนุนผู้ที่มีกายเนื้อ ที่ยังทำหน้าที่ค้ำชูธรรมให้พระบรมศาสดา ได้ทำงานให้สำเร็จ โดยไม่ได้แยกว่า นี่เป็นศิษย์ฉัน นี่เป็นสายฉัน เหมือนทางโลกที่ตีกันจนขาดพลัง

กล่าวดังนี้ อาจารย์ขอนำบท คำนำที่อาจารย์เขียนไว้ในหนังสือให้อ่าน เพราะไม่อาจเขียนสอนธรรมได้ เนื่องจากหมดแรงไปกับการตรวจหนังสือ
......................................................................................................................

คำนำผู้เขียน...หนังสือ ฆราวาสบรรลุธรรม

ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป หากมีใครบอกว่ามีผู้บรรลุธรรม ข้ามโคตร โลกธาตุคว่ำผลที่ได้รับกลับมาจากการประกาศนั้นคือ …การรุมถล่มว่า อวดอุตริมนุสธรรมแล้วอ้างพระพุทธพจน์ว่าทรงตรัสไว้เช่นนั้น เช่นนี้โดยที่ตนได้แต่อ่านจากตำราทั้งสิ้น

ข้าพเจ้าสอนศิษย์วิปัสสนาว่า เหตุที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ต้องบอกเล่าประสบการณ์การภาวนาหรือการถึงธรรมให้ศิษย์หรือผู้ติดตามได้รู้ว่า เมื่อปฏิบัติภาวนาไปแล้วจะได้ผลอย่างไร การบรรลุธรรมมีอาการอย่างไร มีสภาวะเช่นใด แม้จะไม่ได้พูดตรงๆแต่ก็ต้องมีบอกเล่าเพราะหากไม่บอกเล่าแล้วจะมีใครที่ไหนปฏิบัติภาวนาหรือแม้แต่ตั้งจิตปรารถนานิพพาน ในเมื่อไม่เห็นมีใครทำได้สำเร็จอีกแล้ว

เมื่อบอกเล่าประสบการณ์การภาวนาของตัวเองอย่างเข้มข้นไป ข้าพเจ้าก็ย้อนมาถามตนให้ชัดอีกครั้งว่าที่เขียนหนังสือเล่มนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร คำตอบนั้นยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

1. เพื่อปลุกจิตคนให้ตื่นจากความเมา…

2. เพื่อให้ฆราวาส ที่ถูกหลอกมาทั้งชีวิตว่าตนบรรลุธรรมไม่ได้ ให้ตื่นรู้ว่าถูกหลอก…

3. เพื่อให้ผู้ที่ตื่นแล้ว มาเป็นกำลังช่วยกันค้ำชูพระพุทธศาสนา…

เมื่อหนังสืออยู่ในมือของท่านแล้ว ก็ขอเชิญให้ท่านอ่านด้วยจิตที่ไร้อคติ หากยิ่งไม่เคยรู้จักว่าข้าพเจ้าเป็นใครมาก่อนยิ่งดีที่สุด ข้าพเจ้าเชื่ออย่างยิ่งว่า จิตท่านจะตื่นยิ่งกว่าตื่นเมื่ออ่านจบ หนังสือเล่มนี้ จะไม่เขียนก็ไม่ได้เสียแล้ว เพราะพระพุทธองค์ทรงมีพระบัญชาตรงมาทางจิตแก่ข้าพเจ้าว่า

“ จงรีบเขียนหนังสือเถิด…. บอกเล่าการเดินทางข้ามภพของเธอสิ”

ข้าพเจ้าได้ถวายงานตามพระบัญชาแล้ว จะเป็นการอวดอุตริหรือไม่แค่ไหน ในสายตาของโลกอย่างไร ข้าพเจ้าก็มิอาจขัดพระประสงค์ของพระองค์ได้ เพราะโลกนี้ กำลังมืดมิดจนจะหาทางออกไม่ได้อีกแล้ว สำหรับผู้ปรารถนานิพพาน

อาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล

วิปัสสนาจารย์สายเตโชวิปัสสนา
16 มีนาคม 2559

ที่มา http://www.techovipassana.org/web/blogsingle.php?blogId=1458228511

 

คัมภีร์ธรรมแห่งกึ่งพุทธกาล

 

รอแม่ชีจิตยิ้มมาเพิ่มเติมไห้ครับ

 

เขาให้ย้ายออกจากพื้นที่ ก่อนที่ภัยจะมา เตือนกันมานานแล้ว !!



สนทนากับหลวงพี่ที่เราเคารพนับถือ เรื่องส่วนใหญ่เป็นเกี่ยวกับธรรม อื่นๆทั่วไป จู่ๆหลวงพี่ก็เตือนเกี่ยวกับภัยพิบัติ?! เพิ่งคิดได้ว่าหมอกหรือควันที่มันเกิด ที่บังตา?

ที่มา สัญญาณมหากลียุค Signs of the end in Current Events

 

เห็นเป็นข่าวอยู่ครับหมอกเป็นสัญญาณเตือนไหมครับอาจารย์เกษม