ความลึกลับของขบวนเรือ พยุหยาตราศรีสุพรรณหงส์ ที่เป็นของจริง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย The Third Eyes, 17 มิถุนายน 2006.

  1. sabpakit@ego.co.th เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +156
    อยากอ่านต่อจัง! อาจารย์คะทุกครั้งที่อ่านเรื่องราวเหล่านี้ทำให้รู้สึกเกิดความปีติแทนอาจารย์และเพื่อนของอาจารย์จังที่มีชีวิตได้พบเจอความมหัศจรรย์ ตัวหนูเองคงไม่มีโอกาสได้สัมผัสเองแน่ในชีวิตนี้ ขออนุโมทนาด้วยค่ะ
     
  2. The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ต่อมาเป็นเรือพระที่นั่งลำที่สามที่ได้ขึ้นอู่แห้งไว้
    ดูห่างๆๆ ลำค่อนข้างเล็ก เดินไปดูใกล้ๆๆ
    เห็นติดป้ายบอกไว่ว่า " เรือพระที่นั่งเอนก ชาติมงคล"

    ดุห่างๆ ค่อนข้างจะแปลก เพราะ ออกแนว สีแดงอมชมพู
    สลักลายทอง ตลอดสำ ด้วยสี ทอง เป็นรูป พญานาค ตัวเล็กๆๆ
    มีอยู่มากมาย มองสายตาหยาบ คาดว่า น่าจะ มากกว่า 100 ตัว
    จัดได้ว่า เป็นนิคม ของ กลุ่มนาค มีพนักงานประจำเรือ 75 นาย

    หัวเรือ แกะเป็น รูปแท่ง ลิ่มหงายขึ้น
    มีพู่ห้อยสองแก้ม เหมืนตุ้มหูสาวสองข้าง
    แกว่งตุ้ง ติ้ง เหมือนหัวม้า ที่น่ารัก

    เมื่อเดินรอบแล้วก็กลับมายืนตรงหน้า หัวเรือ
    เริ่มมองด้วยตาที่สาม ภาพที่ปรากฏชัด คือ
    พญานาค ตัวเล็กๆๆ นับร้อยตัว มีชีวิตขึ้น

    โยกเยก เอียงไปมา เหมือนเล่น เห่ ชิงช้า
    นาคทั้งหมด มากลุ่มกัน แล้วปล่อยกลุ่มแสงสี ออกมา จนทำให้ ละแวกนั้น เต็มไปด้วย สีแสด และทอง ซึ่งแปลว่า

    เรือ พระที่นั่ง เอนกชาติภุชง เป็นที่สถิตยของหมู่พญานาค นับร้อยตัว ทำหน้าที่เหมือน กองเรือ คอยที่จะจัดกำลังพลไว้เสริม สนับสนุนในกรณีจำเป้น
    และเป็นเรือ ประเภท ดอกไม้ประดับ ที่ ค่อนข้างงาม

    ถัดไป เป็นเรือพระที่นั่งขนาดเล็กและสั้นยิ่งขึ้นไปอีก
    เป็นเรือ ดอกไม้ประดับ เช่นกันอีกลำ

    เดินดูโดยรอบเช่นกัน
    ตลอดภายนอกลำเรือ ทาสีดำสนิท
    เขียนเป็นรูปดอกไม้ช่อยาว สีทอง

    หัวเรือแกะเป็น รูป" ครุฑ ตัวแดง สวมมงกุฆ พร้อมกับอ้าปากกว้าง
    มีเขี้ยวสั้ น แต่คมมาก คัวครุฑ ชูมือสองข้างขึ้นกางแขนแบบนก บิน
     
  3. The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ในมือของครุฑตัวแดง แต่ละข้าง จับ นาค เศียรเดียว สีเขียวไว้ 1 ตัว
    โดยเอากรงเล็บจับเข้าที่ ก้านคอ
    นาคตัวที่ถูกจับไว้ ก็ดิ้น จนตัวเป็นเกลียวพัน
    เหมือนเถาวัลย์ พันหลักต้นไม้

    เป็นการย้ำเรื่อง ดึกดำบรรพ์ว่า
    ในอดีต นั้น นาค คอยรังพวก ครุฑ
    ต่อมาเมื่อครุฑ ได้อำนาจจาก พระพรหม
    จึง สามารถ ป้องกันตัวและเอาชนะ นาคได้

    โดยมีเงื่อนไข ว่า ครุฑ จะจับนาคได้เฉพาะ
    นาค ที่ เป็นนาค ธรรมดา
    ไม่สามารถ จับนาคที่เป็นชั้นระดับสูงได้

    ตัวเรือ มีกำลังพล เพียง 41 นาย
    เมื่อเดินดูจนตรบแล้ว เราก็มายืนตรงหน้า หัวเรือ
    ที่เป็นรูปแกะ ของ ครุฑ ยุดนาคหิ้ว

    มองด้วยตาที่สาม

    เห็นสีหน้าพญาครุฑ มีความปรีดา
    ที่สามารถ จับนาคไว้ใด้ ในกรงเล็บข้างละตัว
    เป็นการประกาศ ชัยชนะ เหนือ นาค

    ส่วนนาคคัวเขียวที่ถูกจับยึดไว้ ก็พยายามดิ้นเพื่อเอาชีวิตรอด
    จนตัวนาคพันช่วงแขนของพญาครุฑ
    ยาวเป็นเกลียว ตลอด ช่วง แขนของครุฑ อันแข็งแกร่ง

    เราจึงยืนดู เฉยๆๆ เพราะเป็นภาพการต่อสู้กันเพื่อเอาชนะ
    ทำให้ใจเราไม่สงบไปด้วย เพราะ เราเป้นผู้อยู่ฝ่าย รักสันติ รักสงบ

    เรือพระที่นั่งลำนี้ ชื่อ " เรือพระที่นั่ง ครุฑเหินเห็จ"
     
  4. The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เราจึงเดินมายังเรือพระที่นั่งลำต่อไป
    มองดูแต่ไกล เรือนั้นค่อนข้างยาว และงดงามเป็นพิเศษ
    คออันระหงส์ และเป็นนางเอก ตลอดกาล
    นี่คือ " เรือพระที่นั่งสุพรรรหงส์" ที่ดังไปทั่วโลก
    เป็นจุดไคลแมกซ์ ของการแสดงตัวทุกครั้ง

    เดินดูด้านนอก ตลอด ลำเรือ
    พื้นผิวด้านนอก ทาสีดำ
    มีฉลุลายทองตลอดลำเรือ เป็นลาย กนก แบบไทยๆๆ
    หัวเรือ เป็นส่วนที่สูงชลูด เหมือนหัวหงส์ ตามที่พวกเราเข้าใจกัน

    ที่ต้นคอมีแผงปีกเล็กๆๆ อันเป้นสัญญลักษณ์ว่า เป็นสัตว์ที่บินได้
    ช่วงคอที่ยาวตลอดจนถึงส่วนหัว ประดับด้วยพลอยขนาดใหญ่ มีหลากสี
    ใบหูค่อนข้างใหญ่และยาว
    ช่วงปากยาวเหมือน ตะโขง หรือ จรเข้น้ำเค็ม
    มีเขี้ยวโผล่ออกมา ด้านข้างปาก ข้างละ 2 ซี่ สั้นๆ
    ที่ปลายจมูก มีก้อนโป่งโปะอยู่หนึ่งก้อน
    อย่างที่เราเรียกว่า ๐ก้อนขี้หมา" ที่อยู่ปลายจมูก ตะโขง

    ปลายปากส่วนล่าง มีส่วนยึด และห้อยภู่ยาวอันสวยงาม
    ภู่เป็นพุ่มสั้นๆๆ สลับด้วยแท่งแก้วคริสตัลแบบโคมไฟใหญ่ ที่ห้อยไว้ตามกลางห้องโถงใหญ่ในโรงแรม

    นัยตาเป็นพลอย กลมขนาดใหญ่ สีเหลือง อมเขียว
    ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งประกอบประดับความสวยงามโดดเด่น
    ให้แก่ "เรือพระที่นั่ง สุพรรณหงส์"
    เรือลอยลำ อย่างสง่างาม เพราะช่วงคอ อันระหงส์
    มีอุบะพวงมาลัยใหญ่ห้อยคอ

    ในเรือมีฉัตร ทองติดตั้งอยู่ 6 ชุด
    เรือยาว 46.15 เมตร กว้าง3.17 เมตร
    เจ้าหนัประจำเรือทั้งหมด 64 นาย
    เป็นเรือเอก ที่ พระมหากษัตริย์จะทรงประทับ
    ในการทอดกฐินทางชลมารค ไปยัง วันอรุณราชวราราม
     
  5. The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    หลังจากเดินดูโดยรอบจนละเอียดเป็นพิเศษ
    เพราะเป็นเรือ สำคัญ อันดับหนึ่ง

    เราก็มายืนตรงหน้า สิ่งที่เรียกว่า " สุพรรณหงส์"
    เงยหน้าขึ้นมองภู่ห้อย และส่วนหัวของ สุพรรณหงส์
    ที่อยู่สูงขึ้นไปมากกว่า 5 เมตร หนือ ประมาณ ตึกสูง สองชั้น
    กำหนดจิตมองด้วยตาที่สาม เพื่อมอง อีกมิติที่ซ่อนอยู่

    สิ่งแรกที่เห็นคือ ตลอดทั้งลำเรือ มีสีทองอันงดงามเพียงสีเดียว
    ไม่ได้มีพื้นสีดำอย่างที่ ตาปกติได้เห็น
    อันเป็นความหมาย ของอำนาจและ ความสมบูรณ์
    หันมาจ้องที่ส่วนหัว ของ สุพรรณหงส์

    เมื่อจ้องดู
    ดูเหมือน สุพรรณหงส์ จะรู้สึกตัว
    จึงค่อยๆๆก้มหัวลดระดับลงมาอย่างช้าๆๆ เหมือนจะดูว่า มีใครมา
    ลดลงมาจนระดับสายตา ของทั้งสองฝ่ายชนกัน
    นัยตาที่เป็นพลอยสีเหลืองอมเขียว เป็นประกายระยิบระยับ เหมือนจะแสดงความยินดี ที่ได้พบกัน

    เราจึงตอบไปทางจิตว่า
    " ยินดีที่ได้พบกัน ขอพรและ พลังให้แก่เราด้วย"
     
  6. The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ดูเหมือนจะได้ผล
    สุพรรณหงส์ ปากเริ่มอ้ากว้างขึ้น เหมือนจะยิ้มอย่างพอใจ
    แล้วค่อยๆๆยกหัวขึ้นสูง ชูขี้นไปบนฟ้า
    แล้วค่อยๆๆ ก้มลงมา อ้าปากกว้างจนเห็น แนวฟะนที่ยาวตลอดปาก
    ภานในปากเป็นสีแดงจัด

    ทำท่าเหมือนจะก้มลงมา งับเรา
    เป็นท่าทางที่น่ากลัว
    แต่ใจจิตบอกเราว่า ไม่ต้องกลัว เป็นท่าทางที่ดี
    พอสุพรรณหงส์ ลดระดับหัวลงมา ห่างจากเรา ในระดับสูง 2 เมตร

    สุพรรณหงส์ พ่นเปลวไฟสีทองออกมาเหมือนมังกรพ่นไฟ
    เปลวทองนั้น พุ่งออกมาท่วมตัวเราทั้งต้ว
    ทำให้ตลอดทั้งกายเราสองคน มีความรู้สึกซาบซ่า ชาไปทั้งตัว
    เป็นพลังที่ให้ ความสมบูรณ์ ในพลังแห่ง ความเจริญ
    ในทุกๆด้านที่เป็นกิจกรรมของ มนุษย์

    เป็นการพ่นไฟเพียงครั้งเดียว
    เมื่อจบ สุพรรณหงส์ ก็หุบปากอันยาวนั้นลง
    ยิ้มด้วยสองกระพุ่มแก้ม
    รู้สึกด้วยจิต ที่ ถามมาว่า
    " ดีใหม ชอบใหม"

    เรารูว่า เป็นพลังที่ดีและเป็นสิ่งที่ดี
    จึงแสดงความขอบคุณ และแผ่เมตตากลับไปให้เธอ เป็นการตอบแทน
     
  7. The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    จากการสัมผัสอย่างใกล้ชิดในครั้งนี้
    ได้ความรู้ใหม่ ว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา
    เราเข้าใจกันว่า สุพรรณหงส์ เป็นสัตว์บินได้
    อยู่ในประเภทเดียวกับ นกหงส์
    ที่จะมีปากยาวและแบน แบบ ปาก ห่าน หรือ ปากเป็ด

    แต่นี่ไม่ใช่ กลับมี ปากยาวแบบจรเข้น้ำเค็ม หรือ ที่เรียกว้า "ตะโขง"
    ตามเพลงโบราณที่เราร้องเล่นกันตอนเด็กๆๆว่า
    "ตะเฆ่ ตะโขง มะโรงไม้สัก จรเข้ ฟันหักกัดคนไม่เข้า"

    สามารถพ่นไฟได้เหมือนมังกรไฟ ในหนังฝรั่ง

    หรือเป็นสัตว์ในยุคล้านปี ที่บินได้
    ที่เรียกว่า"โทโรแด็ก ทิล" Pterodactyl
    ดังนั้น สุพรรณหงส์ จึงไม่ใช่ สัตว์ในตระกูลหงส์
    แต่เป็นสัตว์ยักษ์ที่บินได้
    เป้นสัตว์ชั้นสูงชนิดหนึ่ง ที่อยู่ใน ป่าหิมพานต์
    ทุกคนเข้าใจผิดกันหมด
    เพราะติดอยู่กับคำที่ว่า " หงส์" นั้นเอง
     
  8. The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ถัดจากเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์
    เราได้มายืนต่อหน้าเรือพระที่นั่งทีสำคัญอีกลำ
    " นารายณ์ทรงสุบรรณ"

    เป็นเพระที่นั่งที่ ใหญ่และยาว
    ตลอดลำเรือมีสีแดง และมีฉลุลายทองรูปกนก

    ส่วนหัวเรือ แกะเป็นรูป พญาครุฑ กายสีแดง
    มือสองข้างจับนาคไว้ข้างละตัว

    ในท่าที่เรียกว่า " ครุฑยุดนาคหิ้ว"
    ในท่าเดียวกันเรือพระที่นั่ง "ครุฑ เหินเห็จ"
    ที่แสดงท่า ว่า ครุฑเป็ยผู้ชนะ พวกนาค

    มีรูป องค์พระนารายณ์ สี่กร
    มีกายสีดำ สวมมงกุฏทอง
    ในพระกร ถือ อาวุธ ครบ โดยมี จักร เป็นสำคัญ
    ทรงประทับอยู่บน ปีกหลังของพญาครุฑ

    ด้านใต้มีกระบอกปืนใหญ่โบราณ ขนาด 6 นิ้ว หนึ่งกระบอก
    ลำเรือ ยาว 44.30 เมตร กว้าง3.20 เมตร
    กำลังพลทั้งหมดบนเรือ 64 นาย

    การที่มีองค์พระนารายณ์มาประทับ แสดงว่า มี นัยะที่สำคัญ
    เราจึงต้องเดินรอบๆๆ ดูอย่างละเอียด
    เมื่อ ครบก็มายืนตรงหัวเรือพระที่นั่ง
    กำหนดจิตมองด้วยตาที่สาม

    ภาพที่ปรากฏ คือ พญาครุฑ ยืนยิ้มอย่างมีความสุข ที่ปราบนาคได้
    องค์นารายณ์ ทรงประทับยืน ด้วยพระพักตร์ขรึม
    เหมือนมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ ทอดพระเนตร สัตว์โลก
    ผู้ที่กำลังแสดงการเคารพและบูชาพระองค์
     
  9. The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ข้าพเจ้านั้น กราบบูชา องค์พระนารายณ์ มาตลอด
    ได้พบและได้ติดต่อทางโทรจิต หลายคั้งหลายครา
    จึงมีความปิติที่ได้พบ ท่านอีกครั้ง
    จึงทำการคาระวะอย่างสูงสุดอีกครั้ง

    มีเสียงแว่วเข้ามาทางจิต
    "ดีใจที่ได้พบเจ้าอีกครั้ง
    ขอให้ทำดี ปฏิบิติตนช่วยผู้อื่น ต่อไป
    ขอให้อดทนอีกหน่อย แล้วเจ้าจะได้ดีเอง
    เราขอให้พรแก่เจ้า "

    จบเสียงจากกระแสจิต
    กรข้างขวาที่ ถือจักร ชูสูงขึ้น
    ตัวจักรหมุนจี๋ในแนว นอนขนานไปกับพื้นโลก
    พร้อมมีประกายนั้นกระจายออกมาโดยรอบ
    ขยายเป็นวงกว้างออกไป
    เมื่อมากระทบตัว ทำให้เราสองคน ตัวชาเหมือนถูกไปช๊อต
    แต่เป็นการช็อตที่ ทำให้ กายรู้สึกแข็งแกร่ง มีพลังมากขึ้น และโล่ง
    เมื่อ แสงแวบจากจักร หยุดลง ทุกอย่างก็กลับไปสู่สภาพเดิม

    เมื่อได้รับพลังแล้ว
    เราสองคน จึงก้มลงกราบอีกครั้ง
    ในความกรุณา ของ มหาเทพ ผู้สูงสุด แห่ง ภาคสวรรค์
    องค์พระนารายณ์ หนึ่งใน ตรีมูลติ

    นารายณ์!... นารายณ์!.... นารายณ์!
     
  10. Zantha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +234
    ขอบคุณครับ
     
  11. kepokman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +337
    ..

    เอ้า หลวงพ่ออะไรจำมะได้แล้วครับ อาจจะเป็น หลวงพ่อฤษีลิงดำ ถอดจิตไปหาเทวดา ถามทุกชั้น ไม่มีเทวดา องค์ไหนรู้จัก พระนารายณ์เลยครับ คุณ websnow โพสหรือป่าวจำไม่ได้ครับ ยังไงบอกด้วยนะครับ
     
  12. The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ข้อเขียนของคุณ kepokmanนับว่า ไม่สร้างสรรค์อย่างยิ่ง
    ถ้าไม่รู้จริง อย่าอ้างอิง ตามที่ได้เขียนไว้
    ชาวอินเดีย เชื้อสายฮินดู นับพันล้านคน
    เขานับถือ องค์พระนารายณ์อย่างสูงสุด
    และมีรายละเอียด การอวตาร ถึง 10 ปาง
    เขามีความเชื่อมั่นในพระเจ้าของเขา
    ในประเทศไทย มี วัดแขกมากมาย
    ใหญ่ที่สุด คือ วัดแขกสีลม กทม

    มันไม่ต่างอะไรกับการที่มีใครบอกเราว่า
    พระพุทธองค์โคตมะ นั้น ไม่มีจริง
    เราชาวพุทธจะคิดอย่างไร
    ขอให้ระวัง ไว้ดีกว่า
    กทม มีผู้คน เข้าไปบูชาแต่ละวันมากมาย
     
  13. The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เมื่อ จบจากเรือ พระที่นั่ง นารายณ์ทรงสุบรรณ
    เราก็มาถึงเรืออีกลำ คือ "เรือพระที่นั่งกระบี่ปราบมาร"
    เป็นเรือขนาดเล็กเมื่อเดินดู โดยรอบ
    เรือ ลำนี้ ทาสีดำ ฉลุลายทองเป็นรูปดอกไม้ และใบช่อ
    วาดต่อกันเป็นชุด ซ้ำแบบลายผ้าพับ

    หัวเรือแกะเป็น รูปหนุมาณ ตัวสีขาว
    ยืนยืดคออ้าปากหาว
    มือทำท่าท้าวสะเอว กุมด้ามธงสามเหลี่ยมฉลุลายทอง
    แต่งเครื่องทรงเต็มยศ ตามแบบ ใน " รามเกียรติ์"

    ข้างใต้ เป็นกระบอกปืนใหญ่ ขนาด 6 นิ้ว
    เรือยาว 28.85 เมตร กว้าง 2.10 เมตร
    จำนวนกำลังพลบนเรือ 53 นาย

    เนื่องจากขนาดเรือเล็ก จึงใช้เวลาเดินไม่มากนัก
    ก็กลับมาที่ หัวเรือซึ่งมีรูปแกะ ของหนุมาณ ทหารเอก ของ พระราม
    มองเห็นด้วยตาที่สามว่า หนุมาณ ขยับตัวยึกยัก กระดุ๊ก กระดิ๊ก
    เหมือนที่เห็นในการแสดงโขน ทำท่าเกา หาเหา

    ทำท่ายักคิ้วหลิ่วตา ทำท่าหาวให้ดู
    มองเห็นดาวระยิบลอยออกมาจากปาก
    มีฤทธิ์เดช เพราะเป็นลูกของพระพาย กับนางสวาหะ

    เขาไม่ได้ให้พลังแก่เราทั้งสองคน
    แต่ทำท่าหาวเป็นดาวเป็นดือน อันเป็นสัญญลักษณ์ประจำตัวให้ดู
     
  14. The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ข้าพเจ้าเคยตรวจออร่า และเทพองค์ในของผู้คนมากมาย
    พบว่า มีหลายคน มีการสักยันต์ ตามตัวด้วยรูปสัตว์ ต่างๆ เช่น ลิงลม เสือเผ่น และมีไม่น้อยที่สักรูปหนุมาณ บางคนเวลามีการเชิญเทพออกมา ถ้าใครมีเทพอยู่ในตัว เขาก็จะแสดงอาการเยี่ยงสัตว์ตัวนั้นออกมาให้ผู้คนตกใจเล่น

    ขณะอายุยังน้อย ร่างกายและจิตใจเจ้าของร่างที่สักยันต์ ยังแข็งแกร่ง
    ก็จะไม่มีอาการแต่อย่างใด แต่ได้ พลังและอภินิหารด้านการคงกระพัน

    แต่เมื่อใด ร่างกาย และจิตอ่อนลง จะควบคุมตัวเองไม่ได้
    สัตว์นั้นจะเข้าครอบ ทำให้กลายเป็นคนที่เพี้ยนไป ในที่สุด
    ดังนั้น ถ้าไม่จำเป็นจึงไม่ควรที่จะสักยันต์ จะดีเสียกว่า
     
  15. The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เรือพระที่นั่ง ลำสุดท้ายที่เก้บไว้ ณ โรงเก็บแห่งนี้
    คือ เรือพระที่นั่ง เอกชัยเหิรหาว
    เป็นเรือขนาดเล็ก ยาวเพียง 29.76 เมตร กว้าง2.00 เมตร
    กำลังพลประจำเรือ 44 นาย

    ตลอดลำเรือ ทาสีดำ มีปฉลุลายทอง เป็นรูปตัว เหรา
    ซึ่งเป็นสัตว์หิมพานต์ ชนิดหนึ่ง เป็นครึ่งนาค ครึ่งมังกร
    มีหัวและลำตัวเป็นอย่างนาค แต่มีขาเหมือน จรเข้
    ตัวยาวมีเกล็ดตลอดตัว

    เมื่อเราไปวัด บางทีเราจะเห็นสัตว์นิดหนึ่ง หัวเป็นพญานาค ลำตัวยาวเหมือนงู
    แต่มีอะไรอีกตัว กำลัง อมพญานาคไว้ครึ่งตัว
    เหมือนสัตว์สองตัวกำลังกลืนกินกัน ตัวที่มีตีนนั้นคือ ตัว เหรา

    เนื่องจากเป็นลำสุดท้ายและเป็นลำขนาดเล็ก
    เราจึงไม่ได้เดินดูโดยรอบโดยละเอียด เหมือนลำอื่นๆ
    และเพื่อเป็นการรวบรัด เราจึงมายืนทำจิตตรงหน้า
    หัวเรือที่แกะเป็นรูปตัว เหรา

    เมื่อดูด้วยตาที่สาม ก็ต้องตกใจ เพราะภาพที่ปรากฏ
    เห็นเป็นสัตว์ใหญ่ชนิดหนึ่ง ที่เหมือนครึ่งนาคครึ่งมังกร
    เขาทำท่ายกตัวโหย่งขึ้นสูง เหมือนยืนบนสี่ขา
    ยกตัวโหย่งขึ้น ประมาณ เมตรครึ่ง นัยตาจ้องมาที่เราสองคน

    เราก็จ้องตอบ เขาก็ทำตาปริบๆๆ เหมือนจะพยายมปรับสายตา
    มีกระแสพลังอุ่นๆๆ ลอยออกมากระทบเรา
    ทำให้รู้สึก อุ่นใจ และคิดว่า ไม่มีอันตราย

    ลำดับต่อมา ตัวเหรา ยืดตัวขึ้นสูงถึงระดับ 3 เมตร
    เขาอยู่ห่างจากเรา ประมาณ 2.00 เมตร
    จึงเหมือนจะยืนชโงกงุ้ม อยู่เหนือศีรษะ ดูน่ากลัว
    เขาส่งจิตมาสั้นๆๆว่า จะส่งพลังมาให้

    เราก็เดาเอาว่า คงจะอ้าปาก พ่นไฟออกมา
    เพราะปากกับลักษณะของหัว เหมือนมังกรจะพ่นไฟ เช่นเดียวกับ สุพรรณหงส์
    ก็มองดูว่า จะพ่นไฟพลังให้เราตอนไหน
    แต่กลับผิดคาด เขากลับตวัดลิ้นฉกออกมา เหมือนกิ้งก่า ลิ้นยาว
    ตวัดลิ้นอันยาวออกมาจับแมลงที่บินผ่านหน้า อย่างรวดเร้ว

    แวบแรกเราก็ตกใจ คิดว่า เขาคงตวัดลิ้นเอาตัวเราเข้าไปในปาก
    ซึ่งเป็นเรื่องไม่ดีแน่ เขาตวัดลิ้นสีแดงฉานออกมายาวกว่า 3.00 เมตร
    ลิ้นนั้นออกมาพันตวัดรอบตัวเราทั้งสองคนพร้อมกัน สามรอบ

    เป็นการพันที่แห้ง และนิ่ม ให้กระแสแห่งความเย็น ความสะบาย
    พันอยู่นานประมาณ 5 วินาที ลิ้นนั้นก็คลายถอยกลับไป เข้าสูปากดังเดิม
    นี่เป็นการให้พลังแก่เรา ใน รูปแบบแบบของตัวเหรา
    เราจึงขอบคุณ เขาไปในที่สุด
     
  16. The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    บัดนี้เราได้เดินชมเรือพระที่นั่งในขบวนพยุหยาตรา ครบเก้าลำที่ได้จัดเก็บแสดง ไว้ ณ ที่ โรงเก็บที่ทำเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่ ปากคลองบางกอกน้อยแล้ว
    เป็นเก็บรักษา โดยกองทัพเรือ

    ถ้ามาดูธรรมดา เราก็จะเห็นความสวย ความสง่างามของขบวนเรือ
    ที่เป็นศิลปของไทย ที่ไม่มีที่ใดในโลกเหมือน เป็นศิลปประจำชาติที่ พิเศษสุด

    แต่ถ้าไปดูด้วยตาที่สาม ในอีกมิติ หนึ่ง ก็จะ พบว่า เป็นคนละเรื่อง
    เรือพระที่นั่งแต่ละลำ มีเบื้องหลัง และมีความอัศจรรย์ แฝงอยู่
    ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด โดยเฉพาะลำที่เด่นที่สุด คือ " สุพรรณ์หงส์ "ที่เป็นสัตว์จากป่าหิมพานต์ ไม่ใช่ สัตว์ประเภทนกในตระกูลหงส์ อย่างที่เราเข้าใจ
     
  17. armest สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2005
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +13
    -

    ไร้สาระทั้งเพ


    พระนารายณ์ ไม่มีกิจกำเป็นไม่ประทับหลังครุฑหรอก จะเห็นได้อยากไร

    ผมว่าเอาเวลาที่ตะลอนๆไปเช็คสมองที่ สีธัญญาดีกว่านะครับ



    อ่อผมไม่ได้ลบหลู่นะ ถ้ามีพลังจิตจริงๆ ช่วยบอกได้มั้ยว่า


    เหตุใด ถึงต้องมีการเกิด เพราะการเกิดมาพร้อมกับกรรม ชดใช้เสร็จมาเกิด แล้วสร้างกรรม เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ ตอบได้ผมจะเชื่อคุณ
     
  18. The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    หลังจากนั้นเรามองไปยังบริเวณโดยรอบ พบว่า ด้านหลัง มีอาคาร
    และมีแสงสว่าง จึงเดินเข้าไปดูใกล้ พบว่า มีการจัดทำเป็นห้องสมุด
    และมีการแสดง นิทรรศการ เกี่ยวเรือพระที่นั่ง ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน

    เป็นการแสดงที่ช่วยให้ อนุชนรุ่นหลัง จะได้มีความรู้เรื่องประวัติของเรือพระที่นั่งแต่ละลำตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน

    ช่วงที่กำลังเดินไปยัง อาคารห้องสมุด เรามองเห็นเสา ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ มีหิ้งชั้นตั้งอยู่บนเสา มีการถวายพวงมาลัย ดอกไม้ธูปเทียนสักการะ
    มองเห็นแต่ไกล ก็คิดว่า น่าจะมีของศักดิ์สิทธิ์ อยู่ที่นี่

    เมื่อเข้ามาใกล้ ก็เป็นไปตามที่ได้คาดไว้
    เป็นหัวเรือ พระที่นั่งเก่าที่ได้ตัด เอามาเก็บรักษาบูชา
    เนื่องจาก เก่า หมดสภาพ
    เป็นส่วนของเรือพระที่นั่ง "นารายณ์ทรงสุบรรณ "
    ที่ลำเดิมสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่สามและรัชกาลที่สี่
    และได้สร้างขึ้นมาใหม่ ในรัชกาลที่ เก้า
    พอเราเดินเข้ามาใกล้ ก็สัมผัสได้กับพลังอันรุนแรง
    ที่แรงมากกว่า หัวเรือลำที่สร้างขึ้นมาใหม่

    แสดงว่า ของเก่า นี้เป็นของจริง และเป็นที่สถิตย์อย่างแท้จริง ของเทพ และพญาครุฑ ตัวแดง แสดงว่า ในขณะที่เราเข้ามาในครั้งแรก และขออนุญาตเข้าชม พญาครุฑผู้ดูแลพื้นที่ ได้บินไปจากจุดนี้ และเมื่อได้อนุญาตให้เราเข้ามา พญาครุฑก็บินกลับมายังจุดนี้นั่นเอง

    บัดนี้การชมกระบวนเรือพยุหยาตราบางส่วนได้จบสิ้นลงแล้ว
    เราทั้งสองคน จึงมายืนสงบต่อหน้าศาล ที่สถิตย์ขององค์นารายณ์
    และพญาครุฑ ผู้เป็นใหญ่ และดูและสถานที่แห่งนี้
    เราจึงได้กล่าว ขอบคุณ และลาต่อ เทพ ทั้งสอง ณ จุดนี้
     
  19. The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    กลับออกมาทางด้านหน้าโรงเก็บ ผ่านประตูยามรักษาการออกไป
    เดินไปตามเส้นทางแคบๆๆเหมือนขามา
    สวนกับกลุ่มผู้มาใหม่ อีก 2-3 กลุ่ม
    มีทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ

    ชาวไทย คงจะได้พบเห็น สิ่งที่เป็นของไทยๆๆ
    คงจะภูมิใจในสิ่งที่ประเทศเรามี ของศักดิ์สิทธิ์และสวยงาม

    ชาวต่างประเทศ ก็คงจะได้พบ กับผลงานที่เป็นศิลป วัฒนธรรมที่แตกต่างไปจากที่เขาเคยได้ พบได้เห็น เขาจะได้เห็นความละเอียดอ่อน ของงานศิลปะของไทย ที่ได้สะสมมาตั้งแต่ ยุคกรุงสุโขทัย

    จะมีบ้างใหม ที่จะมาเยี่ยม ชมกองเรือ พระที่นั่งในกระบวนพยุหยาตรา
    ในแง่ของวิญญาณ และความศักดิ์สิทธิ และเบื้องลึกของเรือแต่ละลำ
    ว่า มี อำนาจทิพย์ และวิญญาณ เทพอันศักดิ์สิทธิ์
    และทรงฤทธิ อย่างยิ่งยวดแฝงอยู่

    เป็นกองเรือที่หมู่สัตว์แห่งป่าหิมพานต์ และสัตว์แห่งเทพ เช่น พญานาค
    หนุมาณ พญาครุฑ ตัวเหรา สุพรรณหงส์ ฯลฯ มารวมอยู่ด้วยกันทำให้เป็นกองเรือราชพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก โดยการนำของ" องค์ นารายณ์"

    เป็นการสดุดี และเป็นกองเรือเกียรติยศแก่ พระเจ้าแผ่นดิน ผู้ทรงปกครอง แผ่นดินตลอดมา ด้วยคติธรรมอันสูงส่ง ตามหลักการ" ทศพิธ ราชธรรม"

    เป็นกองเรือที่วิเศาษและมีเพียงแห่งเดียวในโลก ที่คนไทยทุกคนควรจะภูมิใจ

    เราสองคนมีความภูมิใจที่ได้พบได้เห็น ความศักดิ์สิทธิ์ และได้นำมาเล่าสู่กันฟัง ผู้ใดที่คิดว่า ตัวเองมีตาที่สาม มีพลังจิตสัมผัสที่ดี มีสัมผัสที่หก หรือ
    มีคาทิพย์ น่าจะลองไปเยี่ยมชม เพื่อ ทดสอบตัวเอง เมื่อไปแล้ว ก็ขอให้กลับมาเล่าสู่กัยฟัง ว่า จะเหมือนกันใหม

    ขอให้สันติสุข จงมีต่อแผ่นดินตลอดไปด้วยเทอญ

    สาธุ ! สาธุ ! สาธุ!
    ทรงพระเจริญ !...ทรงพระเจริญ!... ทรงพระเจริญ
     
  20. The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เพิ่งมาอ่านย้อนต้นก็พบว่ามีบางท่าน โปสขึ้นมา ว่า เป็นเรื่องเหลวไหล ไร้สาระ
    เราเขียนเราเล่าในสิ่งที่เราเห็น และคนอื่นบางคนไม่เห็น ก็จะได้รู้ไว้ไม่เสียหลาย
    เราไม่ได้บอกให้ท่านเชื่อ แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละบุคคล
    ท่านใดที่ไม่เชื่อ ก้ขอให้คิดว่า เป็นนิยาย เรื่องหนึ่ง
    เหมือนนิยายต่างๆๆที่กำลังลงในหนังสือรายวันต่างๆๆมากมาย
    ไม่มีใครว่า ไร้สาระ

    เวปนี้เป็นเรื่อง ของ "วิทยาศาสตร์ลึกลับ คำว่า ลึกลับ คือ พิศูจน์ไม่ได้
    ด้วยวิธีธรรมดา ถ้าไม่ลึกลับ จะเอามาเล่าทำไม
    เมื่อไม่เชื่อ และคิดว่า เหลวไหล ก็อย่ามาอ่านจะดีเสียกว่า
    ควรจะอ่านแต่เพียงเรื่อง " สว่างๆๆ" จะได้ ไม่ปวดหัว
    ครับ
     

แชร์หน้านี้