กรรมลบล้างได้ด้วยนิพพาน
กรรมหลีกหนีได้ด้วยสติ
ความเข้าใจผิดๆ เรื่องจิต จิตไมใช่วิญญาณขันธ์ และวิญญาณขันธ์ก็ไม่ใช่จิต
ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 10 กรกฎาคม 2009.
หน้า 11 ของ 13
-
-
กรรมบางประเภทไม่สามารถลบล้างได้ ต้องได้รับการชดใช้เท่านั้น
อย่างเช่นกรรมฆ่าบิดา มารดา -
อนุโมทนา -
การเปิดใจ ยอมรับความคิด ความเห็นของคนอื่น
ถึงแม้เราจะชอบหรือไม่ชอบ ก็แสดงถึงความไม่เป็นกลางในใจของเรา
และขาดสติเกิดประกอบในจิต ที่เกิดในใจได้
การพูดจากความเข้าใจของตนคือการแสดงปัญญาในตน
แต่การพูดโดยการอ้างความรู้ในตำรา คือการพูดจากสัญญาที่เป็นความคิด ไม่ใช่ปัญญา
(ซึ่งบางทีก็พูดถึงสิ่งเดียวกัน ความหมายเหมือนกัน แต่ใช้คำพูดไม่เหมือน ก็ยอมรับกันไม่ได้แล้ว)
สติ คือเจตสิกประเภทหนึ่ง เป็นปรมัติถธรรม เป็นเครื่องปรุงแต่งจิตฝ่ายกุศล เกิดเป็น กุศลจิต
ถ้าจิตเกิดโดยขาดสติ แสดงว่าไม่มีสติเจตสิกเกิดประกอบจิตเกิดในขณะนั้น ถือเป็นอกุศลจิต -
-
ชำเรืองดูใจไปเรื่อยๆนะ ชอบสังเกตุไปไม่ชอบก็สังเกตุไป
-
ฉะนั้นสิ่งที่ท่านพูดด้วยการท่องจำหรืออวิชชาครอบงำให้พูดก็ตาม
เมื่อผมถามโดยมารยาทท่านแล้ว ท่านควรตอบคำถามผมสิครับ
แต่ท่านกลับอธิบายในสิ่งที่อยากพูดออกมาเพิ่มเติมเท่านั้น
ผมก็ย่อมมีคำถามเพิ่มเติมอยู่ดี ตกลงเข้ามาเพื่อพูดหรือค้นหาความจริงกันแน่
จิตเป็นธรรมชาติที่รู้รับอารมณ์ แล้วจิตรู้โดยไม่รับอารมณ์ได้มั้ย?
เราพูดถึงพุทธศาสนาเรื่องจิตก็สุดยอดอยู่แล้ว จะพูดถึงท่านอื่นเพื่ออะไร?
จุดที่สติสัมผัสนั้น เพียงแค่มีสัมมาสติจริงๆเพียงจุดแรกจิตก็ปล่อยวาง
ไม่ต้องมีจุด๒-๓-๔ แสดง ให้รู้เฉพาะสัมผ้สแล้วไม่รับได้มั้ย?
กำหมดสติดูจิต แล้วสติตั้งอยู่ที่ไหน?
สัมมาสมาธิในอริยมรรค๘ ควรศึกษาให้ถ่องแท้มั้ย?
ดูจิตให้ดูที่ไหน? รู้จักจิตแล้วหรือยัง?
พุทธศาสนาไม่มีอะไรซับซ้อนหรอกครับ ตรงไปตรงมามีเหตุมีผล
ยากหรือง่าย ขึ้นอยู่กับความเพียรพยายามเพ่งรู้ เพื่อรู้จักที่จะละอารมณ์เหล่านั้น
เพียงศึกษาอริยสัจจ์๔ อริยมรรคมีองค์๘ สติปัฏฐาน๔
ด้วยการลงมือปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนาอย่างยิ่งจริงจังก็เพียงพอ
มัวแต่ศึกษาจากตำราจนละเอียดยิบ
ผลที่ออกมาตรงตามตำราที่คิดเองเออเองเลยใช่มั้ย?
;aa24 -
ยิ่งรู้มาก ยิ่งเข้าใจน้อยลง
พวกรู้น้อย ชอบอ้างว่าตัวเองเข้าใจมาก
นี่หละ "อัสมิมานะ" ยังไม่รู้ตัวอีก
;aa24 -
นั้นนะซินะ
-
สำคัญว่ากำลังของอัปนาสมาธิ เป็นนิพพานหรือเปล่า เลยเข้าใจไปว่าข้ามฐานะ ท่านพี่ธรรมภูต
-
บางที กลับมาอ่านโพส อีกที จากเครียด มาเป็นขำก็มี
สภาวะมันเปลี่ยนได้ ไม่คงที่ ....
หากเล่นตามบทบาทที่สมมุติ เขาเรียกว่า ว่าหอบฟาง -
ก็มัวแต่เอาแต่ความเชื่อศรัทธาเท่านั้น ไม่เคยเทียบเคียงว่าลงกับพุทธวจนะหรือไม่
;aa24 -
กำลังของอัปปนาสมาธิ ยังไม่ใช่พระนิพพานหรอกครับ
ผลจากความคล่องแคล่วชำนิชำนาญจนเป็นวสีในอัปปนาสมาธินั้น
จึงมีผลให้เข้าใกล้พระนิพพาน
มีพระบาลีซึ่งพระพุทธโฆษาจารย์รจนาไว้ว่า:
“นตฺถิ ฌานํ อปญฺญสฺส นตฺถิ ปญฺญา อฌายิโน, ยมฺหิ
ฌานญฺจ ปญฺญาจ นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก แปลว่า
ฌานย่อมไม่มีในผู้ที่ไม่มีปัญญา ปัญญาย่อมไม่มีในผู้ที่ไม่มีฌาน
ผู้ที่มีทั้งฌานและปัญญาจึงจะอยู่ใกล้นิพพาน”.
;aa24
-
กำลังสมาธิพี่คงกล้าแข็งรุดหน้าจนนำปัญญาไปไกลโขแล้วมั่ง ผมเดาว่านะ ก็ขออย่าถือโทษโกรธเคืองกันนะ ผมก็ทักไปตามประสา เด็กน้อยพูดมาก
เจริญธรรม ^-^ -
-
ปัญญาที่ผมว่าไม่ได้อยู่ที่การรู้สูตร รู้ธรรมบรรยาย ทั้งของศาสดา และครูบา แต่เป็นปัญญาในการทำความเข้าใจกับสิ่งที่ดำรงประชุมเป็นตัวเป็นตนของพี่ธรรมภูต
ผมก็ไม่ได้รู้มากนะ ก็ยังมีสิ่งที่ติดขัด ละไม่ได้ไม่ออกอยู่ แต่ไม่เคยเห็นพี่ติดขัดตรงไหนเลย รู้สาธยายได้หมดเกือบทุกเรื่อง เกือบทุกคน และตอบได้เกือบทุกคำถาม
ถามหน่อยนะ มีเรื่องที่ไม่รู้บ้างไหมครับ ^-^ -
-
-
ขอโทษทุกท่านที่กระผมล่วงเกินด้วยความรู้อันน้อยนิดครับ
และขอบพระคุณทุกท่านสำหรับข้อวิจารณ์
ผมจะนำมาปรับปรุงความรู้ที่มีอยู่เดิมให้พัฒนาเพิ่มขึ้นอีก
ถ้าบางสิ่งบางอย่างเข้าใจไม่ตรงกัน เพราะตีความแตกต่างกัน
ท่านมีแนวทางแก้ไขอย่างไร เพื่อให้ทุกคนในศาสนาเราเข้าใจ
ในปรารถนาของพระพุทธองค์ โดยไม่ยึดติดกับความยึดมั่นถือมั่นในตนเอง
คำสอนของพระพุทธเจ้ายิ่งใหญ่ระดับจักรวาล กับความรู้ที่ผมมีนั้นแค่ควาร์ก
*เมื่อหมุนรอบตัวเองจะรู้ว่า รอบตัวเรามี 360 องศา
แต่เมือ่เราหยุดหมุนจะเห็นโลกแค่เพียง 90 องศา
ฉันใดก็ฉันนั้น เหมือนที่พระพุทธเจ้าทรงสัพพัญญู
ลองมองใจกระผมหน่อย มิได้ต้องการล่วงเกิน แต่ด้วยความเข้าใจของผม
ผมจึงสื่อด้วยความเข้าใจนั้น แล้วท่านเข้าใจอย่างไรหรือ
หน้า 11 ของ 13