ความเชื่อเรื่อง พระสมเด็จสองคลอง พระสมเด็จฝากกรุ

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย thachapol, 31 สิงหาคม 2014.

  1. thachapol

    thachapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,138
    ค่าพลัง:
    +1,903
    สวัสดีครับวันอังคารที่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ ๒๕๕๙.....ขออนุญาติเข้ามาอัพเดทข้อมูลอัตชีวประวัติของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี..เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลศึกษาค้นคว้าหาข้อเท็จจิงต่อไป......ในบันทึกฉบับของพระยาทิพโกษา สอน โลหนันทน์(ฉบับปี ๒๔๗๕).กล่าวไว้ว่า...ครอบครัวของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯพื้นเพเป็นชาวเมืองกำแพงเพชร เมื่อครั้งเสียกรุงวงศ์วานญาติพี่น้องได้กระจัดกระจายแยกย้ายไปอยู่ตามหัวเมืองต่างๆ จนเมื่อมีการสถาปนาตั้งกรุงธนบุรีขึ้นเป็นราชธานีมั่นคงแล้ว ครอบครัวของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯจึงได้อพยพย้ายลงมาตั้งบ้านเรือนอยู่ ณ ตำบลบางขุนพรหม ประกอบสัมมาอาชีพค้าขายซื้อสินค้าจากปากใต้ล่องขึ้นไปขายตามหัวเมืองเหนือ..ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯเกิดเมื่อวัน ๑๗ เมษายน พ.ศ ๒๓๓๑(ในบันทึกฉบับพระยาทิพโกษา สอน โลหนันทน์ บันทึกว่าท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯเกิดในปี พ.ศ ๒๓๑๙).มารดาชื่อนางงุด บิดาไม่ทราบชื่อ ยายชื่อลา ตาชื่อชัย.....ตอนเป็นเด็กเล็กแบเบาะแม่อุ้มไปถวายยกให้เป็นบุตรบุญธรรมพระอาจารย์แก้ว วัดบางลำภูบน ท่านพระอาจารย์แก้วผูกแขนพรมน้ำมนต์รับหนูโตไว้เป็นบุตรบุญธรรม เป่ากระหม่อมนวดเสกไล่พิษไข้ตานซาง พระอาจารย์แก้วฝากนางงุดให้เลี้ยงดูหนูโตสามปี ค่าเบี้ยเลี้ยงดูปีล่ะ๑๐๐ บาท.....ต่อจากนั้นครอบครัวท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯได้ย้ายขึ้นไปรวมกับญาติๆ ณ.แขวงเมืองพิจิตร ประกอบอาชีพค้าขาย...เด็กชายโตมีอายุถึงเกณฑ์ต้องเรียนหนังสือ แม่พาไปฝากให้เรียนหนังสือประถมกับท่านพระครู วัดใหญ่เมืองพิจิตร..จนอายุถึงเกณฑ์บรรพชาเป็นสามเณร แม่ได้นิมนต์ท่านพระครู วัดใหญ่ฯทำพิธีบรรพชาให้หนูโต..จากนั้นสามเณรโตเรียนหนังสือประถมมูลกัจจายน์ในสำนักท่านพระครู วัดใหญ่ฯ...ต่อจากนั้นสามเณรโตได้ย้ายไปเรียนในสำนักท่านพระครู วัดเมืองไชยนาทบุรี..ต่อมาสามเณรโตได้ย้ายลงมาเรียนกับพระอาจารย์แก้ว วัดบางลำภูบน. พระอาจารย์แก้วได้ฝากสามเณรโตให้ไปเรียนกับพระโหราธิบดี พระวิเชียร กรมราชบัณฑิต...ต่อมาประมาณปี พ.ศ ๒๓๔๘--๔๙ สามเณรโตอายุย่าง ๑๗--๑๘ ท่านพระโหราธิบดี พระวิเชียร และเสมียนตราด้วง พาสามเณรโตเข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร กรมพระราชวังบวรสถานมงคล(ในรัชกาลที่๑).สมเด็จเจ้าฟ้าฯกรมพระราชวังบวรฯมีความปลื้มปิติโสมนัสเป็นยิ่งนัก ทรงโปรดสามเณรโตเป็นอย่างมาก ทรงรับสามเณรโตไว้ในอุปถัมภ์ รับสั่งมอบให้พระโหราธิบดี พระวิเชียร และเสมียนตราด้วง รับเป็นโยมอุปัฎฐากอบรมสั่งสอนดูแลสามเณรโตแทนฟ้า...มีพระหัตถเลขารับสั่งให้ย้ายสามเณรโตจากวัดบางลำภูบนย้ายลงมาอยู่กับสมเด็จพระสังฆราช(ศุข) วัดมหาธาตุฯ จะได้อยู่ใกล้ๆฟ้า......ถึงปี พ.ศ ๒๓๕๑ สามเณรโตอายุถึงเกณฑ์อุปสมบท สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร โปรดฯให้ท่านพระโหราธิบดี พระวิเชียร และเสมียนตราด้วง นำสามเณรโตขึ้นไปบวชนาคที่วัดตะไกร เมืองพิษณุโลก.มอบเงิน ๔๐๐ บาทให้พระโหราฯไว้เป็นค่าใช้จ่าย รับสั่งให้แต่งตัวเวียนเทียน ทำขวัญนาคอย่างแบบนาคหลวง รับสั่งให้เสมียนตราด้วงแต่งท้องตราบัวแก้วเชิญขึ้นไปวาง ณ.จวนเจ้าเมืองพิษณุโลก รับสั่งให้สังฆการีในกรมพระราชวังฯวางฎีกาอารธนาสมเด็จพระพนรัตน(นาค เปรียญเอก)เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามฯ เป็นพระอุปัชฌาย์ นิมนต์พระอาจารย์แก้ว วัดบางลำภูบน เป็นพระคู่สวด นิมนต์พระอธิการ วัดตะไกร เป็นพระคู่สวด...จากนั้นสมเด็จพระพนรัตน(นาค) ประธานฝ่ายสงฆ์ พระโหราธิดีประธานฝ่ายฆารวาส นำคณะขบวนบวชนาคสามเณรโตล่องขึ้นไปเมืองพิษณุโลกตั้งแต่ข้างขึ้นอ่อนๆ....พอถึงเมืองพิษณุโลกแล้ว เจ้าเมืองฯลงไปอารธนานินมต์สมเด็จสมเด็จพระพนรัตน(นาค)ขึ้นมาประทับบนจวน เจ้าเมืองพิษณุโลกแต่งคนไปแจ้งให้พระอธิการวัดตะไกรทราบว่าสมเด็จพระพนรัตนมาถึงแล้ว และจะออกไปประทับที่วัดตะไกร ให้พระอธิการเตรียมสถานที่รับรองด้วย เจ้าเมืองพิษณุโลกแต่งคนขึ้นไปแจ้งโยมแม่และญาติโยมนาคโต ณ.แขวงเมืองพิจิตร บอกกำหนดนัดหมายให้ลงมาพร้อมเพียงกัน เจ้าเมืองพิษณุโลกสั่งให้จ่าเมือง รองจ่าเมือง หลวงวิจารณ์ รองหลวงวิจารณ์ ดูแลเลี้ยงดูรับรองชาวฝีพายบางกอก ลากจูงเรือเข้าโรงจอด ตรวจตราความสงบเรียบร้อย.....สมเด็จพระพนรัตน(นาค)เรียกประชุมกำหนดหาฤกษ์วันทำพิธีบวชนาค ทุกฝ่ายเห็นตรงกันให้ทำพิธีบวชนาคในวันขึ้น๑๕ ค่ำ เดือน๖ ปี พ.ศ ๒๓๕๑..สมเด็จพระพนรัตน(นาค) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา พรหมรังสี.....หลังเสร็จพิธีบวชนาคเรียบร้อยแล้ว พระโตลงมาอยู่วัดมหาธาตุฯ ข้ามไปเรียนพระปริยัติธรรม พระธรรมวินัย และพระไตรปิฎกกับสมเด็จพระพนรัตน(นาค)พระอุปัชฌาย์ ที่วัดระฆังโฆสิตารามฯ...........
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 ตุลาคม 2016
  2. atist

    atist เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,070
    ค่าพลัง:
    +293
    นานๆมาทีครับท่านจัวน้อย ผมมารบกวนท่านหน่อย ผมมีพระสมเด็อีกหนึ่งองค์ อยากให้ดูว่า เก่าจริงไหมครับ และน่าจะแท้ไหมช่วยวิเคราะห์ให้หน่อยนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. thachapol

    thachapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,138
    ค่าพลัง:
    +1,903
    สวัสดีครับท่านatist ดูตามภาพพิมพ์ทรงใช้ได้ครับ แต่เนื้อหาแบบนี้ผมไม่ชอบเลยครับ...:cool:
     
  4. atist

    atist เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,070
    ค่าพลัง:
    +293
    ขอบคุณนะครับ แสดงว่า ยังไม่ใช่ใช่ไหมครับ5555
     
  5. thachapol

    thachapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,138
    ค่าพลัง:
    +1,903
    สวัสดีวันอาทิตย์ครับ ขออนุญาติอัพเดทข้อมูลอัตชีวประวัติของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ต่อเป็นตอนที่๒.น่ะครับ...ถึงปี พ.ศ ๒๓๕๒ พระโต พระโหราธิบดี พระวิเชียร และเสมียนตราด้วง เข้าเฝ้าถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่๒. พระโตศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม พระธรรมวินัย และพระไตรปิฎกจนแตกฉาน เป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาของเจ้าฟ้า เจ้านาย และญาติโยมสาธุชนทั่วไป วัดระฆังฯเป็นสำนักการเรียนการสอนเทศนาที่มีชื่อเสียงมาก เป็นที่เลื่องลือไปทั่วแผ่นดิน พระโตได้ศึกษาเล่าเรียนฝ่ายคันถธุระเป็นหลัก เรียนศึกษาเป็นภาษามคธ และเรียนการเทศนาจนมีความสามารถรอบรู้ในการเทศน์ รับกิจนิมนต์ญาติโยมไปบรรยายธรรมะหรือเทศนาจนมีชื่อเสียงทั้วทั้งพระนคร ศึกษาเล่าเรียนภาษามคธจนแตกฉาน...ไม่มีบันทึกว่าพระมหาโตไปเรียนหนังสือ หรือไปเรียนวิธีสูตรทำผงทำพระพิมพ์กับสมเด็จพระญาณสังวร สุก ไก่เถื่อน ในสำนักวัดราชสิทธารามฯ(วัดพลับ) มีแต่ชั้นเจ้านายชั้นสูงเท่านั้นที่มีบันทึกว่าได้เสด็จไปเรียนในสำนักวัดราชสิทธารามฯหลายพระองค์. ถึงปี พ.ศ ๒๓๖๐ พระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามกุฎฯ ทรงผนวชเป็นสามเณร เสด็จมาประทับ ณ.วัดมหาธาตุฯเป็นเวลา ๗ เดือนจึงลาสิขา สันนิฐานว่าพระมหาโตได้เป็นพระพื่เลี้ยงทูลกระหม่อมสามเณรเจ้าฟ้ามกุฎฯจนลาสิขา.....ถึงปี พ.ศ ๒๓๖๘ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามกุฎฯ ทรงผนวชที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามฯ แล้วเสด็จไปประทับที่วัดสมอราย และวัดราชสิทธาราม จากนั้นเสด็จมาประทับ ณ.วัดมหาธาตุฯ ๕ ปี เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมในสำนักพระอาจารย์ซี่งมีเกียรติคุณอยู่ในเวลาคือ พระวิเชียรปรีชา(ภู่) ทรงศึกษาภาษามคธจนแปลพระปริยัติธรรมได้แตกฉาน สันนิฐานว่ามีพระมหาโตเป็นพระพี่เลี้ยงถวายงานพระ วชิรญาณภิขุ(รัชกาลที่๔)....มีบันทึกไว้ว่า กิติศัพพระปรีชาญาณของพระวชิรญาณภิขุทราบถึงพระกรรณ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๓ จึงมีรับสั่งถามว่าจะเเปลหนังสือถวายให้ฟังเฉลิมพระราชศรัทธาได้หรือไม่ พระวชิรญาณภิขุรับจะแปลหนังสือถวาย ล้นเกล้ารัชกาลที่๓ จึงโปรดให้ประชุมพระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่เป็นผู้สอบไล่พระปริยัติธรรม ณ.หน้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เป็นครั้งแรกในประวัตศาสตร์ที่มีเจ้านายชั้นสูงได้เข้าแปลพระปริยัติธรรม พระวชิรญาณภิขุแปลพระธรรมประโยค ๑ ก็ปรากฎพระปรีชาญาณว่าทรงทราบพระปริยัติธรรมแตกฉาน รัชกาลที่ ๓ ดำรัสว่าเห็นความรู้แล้วอย่าต้องแปลพระธรรมบทต่อไปอีก ๒ ประโยคอย่างเปรียญสามัญเลย ให้แปลมงคลทีปนีประโยค ๔ ทีเดียวเถิด พระวชิรญาณภิขุก็ทรงแปลได้โดยสดวกอีกประโยค๑.แต่มีเหตุเกิดขึ้นเมื่อหม่อมไกรสรถามพระพุทธโฆษาจารย์(ฉิม) เวลานั้นยังเป็นพระเทพโมลี กรรมการผู้สอบไล่ว่า นี่จะให้ปล่อยกันไปถึงใหน ความนี้ทราบถึงพระวชิรญาณภิขุ ทรงขัดเขืองพระทัยจนไม่ยอมเข้าแปลหนังสือต่อ ให้กราบทูลล้นเกล้ารัชกาลที่๓ ว่าที่เข้ามาแปลหนังสือตั้งพระทัยจะแปลสนองพระเดชพระคุณเฉลิมพระราชศรัทธา มิใช่มีความประสงค์ยศศักดิ์ลาภสักการอย่างใด ได้แปลถวายสมพระราชประสงค์แล้ว ขออย่าให้ต้องแปลต่อไปเลย ล้นเกล้ารัชกาลที่๓ ทราบถึงพระอัธยาศัยก็มิได้ให้ทรงเข้าแปล จึงพระราชทานพัดยศเปรียญเอกให้ทรงอยู่คราวหนึ่ง ต่อมาไม่นานพระวชิรญาณภิขุเสด็จเข้าไปถวายเทศน์ที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย รัชกาลที่๓ โปรดให้ทำพัดแฉกปักเลื่อมเตรียมไว้ พอทรงธรรมจบแล้วจึงพระราชทานพัดแฉกนั้นแก่พระวชิรญาณภิขุ มีรับสั่งว่า สีต้นบวชมานานแล้ว เป็นพระราชาคณะเสียเถิด ตั้งแต่นั้นมาก็โปรดให้พระวชิรญาณภิขุเสด็จประทับในที่ประชุม เป็นผู้สอบไล่พระปริยัติธรรมด้วยอีกหนึ่งพระองค์....สันนิฐานว่าในช่วงปลายสมัยรัชกาลที่๓ พระมหาโตได้ตามคณะของพระวชิรญาณภิขุ ออกธุดงค์สำรวจหัวเมืองเก่าโบราณ เช่นเมืองสุโขทัย ลพบุรี สุพรรณบุรี กำแพงเพชร พิษณุโลก และอยุธยา การสำรวจครั้งนี้ได้ค้นพบโบราณวัตถุสำคัญๆ เอกสารคำภีร์บันทึกต่างๆมากมาย ค้นพบหลักศิลาจารึกที่มีความสำคัญต่อชนชาติไทยเป็นอย่างมาก คคนพบพระแท่นศิลาอาสน์ และอัญเชิญมาประดิษฐานในพระบรมราชวังฯ ค้นพบพระพุทธรูปศิลปยุคสมัยต่างๆมากมาย โปรดให้เชิญลงมาประดิษฐานในพระอารามหลวงในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะที่วัดมหาธาตุฯ การสำรวจโบราณสถานของพระวชิรญาณภิขุ สันนิฐานว่าได้ค้นพบซากโบราณสถานในบริเวณรทุ่งเศรษฐี เมืองกำแพงเพชร ค้นพบกรุพระพิมพ์เนื้อดิน ชิน และพระโลหะอื่นๆมากมาย ค้นพบคำภีร์บทพระคาถาชินบัญชรและบันทึกอื่นๆบันทึกเป็นภาษามคธ....ในช่วงปลายรัชกาลที่๓ ได้โปรดให้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดมหาธาตุขึ้นใหม่หมดทั่วทั้งพระอาราม.....ถึงปี พ.ศ ๒๓๙๔ พะบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๓ เสด็จสวรรคต พระวชิรญาณภิขุทรงลาสิขาแล้วเสด็จขึ้นครองราชย์สถาปนาเป็น พระบาทสมเด็จพระจองเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๔.....ถึงปี พ.ศ ๒๓๙๕.โปรดฯให้ก่อสร้างพระเจดีย์ พระศิราศนเจดีย์ และพระศิรจุมภฎเจดีย์ไว้หน้าพระอุโบสถวัดราชสิทธาราม เพื่อเป็นพระบรมราชนุสรณ์ในรัชกาลที่๓ และในพระองค์เอง...ในปี พ.ศ ๒๓๙๕ สมเด็จพระพนรัตน(ฤกษ์)เจ้าอาวาสวัดระฆังฯสิ้นพระชนม์ลง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๔ สถาปนาพระมหาโต วัดมหาธาตุฯขึ้นเป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่พระเทพกวี(โต พรหมรังสี) โปรดเกล้าตั้งขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามฯ..พระมหาโตอยู่วัดมหาธาตุฯรวม ๔๖ ปี (๒๓๔๙--๙๕) อยู่ตั้งแต่เป็นสามเณรอายุ ๑๗--๑๘ ปี จนถึงอายุ ๖๔ ปี. ไม่มีบันทึกว่าพระมหาโตได้เข้าแปลหนังสือ พระมหาโตอยู่วัดมหาธาตุฯนานกว่าอยู่วัดระฆังโฆสิตารามฯ แต่ไม่มีบันทึกประวัติช่วงที่ท่านฯจำพรรษาอยู่วัดมหาธาตุฯเลยแม้แต่บรรทัดเดียว น่าเสียดายจิง................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 พฤศจิกายน 2016
  6. thachapol

    thachapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,138
    ค่าพลัง:
    +1,903
    สวัสดีวันจันทร์ ขออนุญาติอัพเดทอัตชีวประวัติของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี. ตอนที่๓....ถึงปี พ.ศ ๒๔๐๔.พระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ฯ ได้รับโปรดเกล้าสถาปนาขึ้นเป็นเจ้าฟ้าต่างกลมที่ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมหมื่นพิฆเนศวรสุรสังกาศ..สันนิฐานว่าพระเทพกวี(โต พรหมรังสี) ได้รับโปรดเกล้าสถาปนาขึ้นเป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่พระธรรมกิตติ(โต พรหมรังสี).......ต่อมาถึงปี พ.ศ ๒๔๐๗ สมเด็จพระพุฒาจารย์(สน)วัดสระเกศสิ้นพระชนม์ลง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๔ จึงโปรดเกล้าสถาปนาพระธรรมกิตติ(โต พรหมรังสี)ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฎที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี....ต่อมาถึงปี พ.ศ ๒๔๐๙--๑๐ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมหมื่นพิฆเนศวรสุรสังกาศ ได้รับโปรดเกล้าสถาปนาให้เฉลิมพระนามาภิไธยขึ้นเป็น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมขุนพินิตประชานาถ(รัชกาลที่๕)..ในวาระนี้สันนิฐานว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๔ ได้โปรดเกล้าสถาปนาพระอาจารย์แสง พระครูแสง หลวงตาแสง หรือขรัวตาแสง วัดโสมนัสราชวรวิหาร กรุงเทพฯให้ขึ้นเป็น พระครูมหิทธิเมธาจารย์ โปรดเกล้าตั้งขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดเกาะแก้ว เมืองลพบุรี....และในวาระนี้สันนิฐานว่าวัดไชโยฯได้บูรณะปฏิสังขรณ์เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมขุนพินิตประชานาถ(รัชกาลที่๕). โดยเชื่อว่าท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯเป็นผู้ขึ้นมาบูรณะปฏิสังขรณ์และสร้างพระหลวงพ่อโต และเชื่อว่าท่านฯได้สร้างพระพิมพ์เนื้อผงแบบเจ็ดชั้นฯ แบบหกชั้นฯและแบบอื่นๆจำนวนเกือบแสนองค์บรรจุในองค์หลวงพ่อโต ในบันทึกประวัติวัดไชโยฯฉบับปี พ.ศ ๒๔๘๐ บันทึกไว้ว่าท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่นั่งกลางแจ้ง สร้างแบบก่ออิฐสอดิน จวนใกล้จะเสร็จองค์พระก็พังเสียหายถึงสองครั้ง..ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯจึงสร้างขึ้นใหม่จนแล้วเสร็จ เป็นช่างฝีมือชาวบ้านพระพุทธรูปจึงไม่งามมากนัก ชาวบ้านเรียกว่า พระหลวงพ่อโต......ถึงปี พ.ศ ๒๔๓๐ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๕ โปรดให้บูรณะปฏิสังขรณ์วัดไชโยฯทั้งอาราม โปรดให้เจ้าพระยารัตนบดินทร์(บุญรอด กัลยณมิตร) สมุหนายกฯเป็นแม่กองงาน. ในปี พ.ศ ๒๓๓๑ ล้นเกล้ารัชกาลที่๕ มีดำริหาพระภิษุมีความรู้ ความสามารถมาปกครองวัด จึงได้นิมนต์พระมหาเกตุ(ป.ธ ๓)วัดบรมวงษ์อิศรวราราม อยุธยา โปรดสถาปนาให้เป็น พระมหาพุทธพิมพาภิบาล(เกตุ)โปรดตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดไชโยฯ ระหว่างช่างได้กระทู้งงตอกเสามณฑปครอบ องค์หลวงพ่อโตทนแรงกระเทือนไใม่ไหว แตกหักพังทลายลงมา ล้นเกล้ารัชกาลที่๕ จึงโปรดให้ช่างรื้อองค์หลวงพ่อโตลงมาทั้งหมด.ไม่มีบันทึกว่าพบพระพิมพ์แบบใดๆในองค์หลวงพ่อโตเลยแม้แต่องค์เดียว จากนั้นจึงโปรดให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ นายช่างฝีมือดีเป็นแม่กองก่อสร้างพระพุทธรูปองค์ใหม่ จำลองแบบมาจากพระประธานในวัดกัลยณมิตร การก่อสร้างพระพุทธรูปองค์ใหม่แล้วเสร็จในระหว่างปี พ.ศ ๒๔๓๔--๓๕ โปรดให้ปิดทองคำเปลวทั้งองค์ ต้องใช้แผ่นทองคำเปลวประมาณ ๗๐๐,๐๐๐ แผ่น มีในพระคลัง ๓๒๔,๖๗๐ แผ่น ซื้อเพิ่ม ๖๐๐,๐๐๐ แผ่น ชาวบ้านบริจากคสมทบ ๑๙,๕๐๐ แผ่น.....การบูรณะปฏิสังขรณ์วัดไชโยฯเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ในปี พ.ศ ๒๔๓๗--๓๘ . พระบาทสมเด็จพะระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ล้นเกล้ารัชกาลที่๕ โปรดให้ยกวัดไชโยฯขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร โปรดเกล้าพระราชทานนามพระพุทธรูปว่า พระมหาพุทธพิมพ์ โปรดเกล้าสถาปนา พระมหาพุทธพิมพาภิบาล ขึ้นเป็นพระราชาคณะในสมณะศักดิ์เดิม ชาวบ้านจึงนิยมเรียกท่านว่า ท่านเจ้าเกตุ. โปรดฯให้มีงานฉลองขึ้นวัดใหม่ ๓ วัน ๓ คืน พระราชทานหนัง ๑ โรง ละคร ๑ โรง และอื่นๆช่วยงานสมโภช..วัดไชโยวรวิหารได้หล่อรูปเหมือนท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯขึ้นหนึ่งองค์ สันนิฐานว่าทางวัดได้สร้างพระพิมพ์เนื้อผงแบบเจ็ดชั้นฯ แบบหกชั้นฯ และแบบอื่นๆแจกชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินเป็นค่าบำรุงดูแลรักษาวัด สันนิฐานว่าทางวัดไชโยฯลงมาขอยืมบล็อคแม่พิม์แบบเจ็ดชั้นฯจากวัดระฆังโฆสิตารามฯขึ้นไปสร้างแจกชาวบ้านในช่วงงานฉลองวัดใหม่ และสร้างแจกชาวบ้านในงานประจำปีนมัสการองค์พระมหาพุทธพิมพ์ วัดไชโยฯสร้างพระพิมพ์เนื้อผงพิมพ์ทรงต่างๆแจกชาวบ้านทุกๆปี ถือเป็นประเพณีธรรมเนียมปฏิบัติของวัดไชโยฯที่ได้ทำสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบันนี้. พระพิมพ์เนื้อผงวัดไชโยวรวิหาร เป็นพระที่สร้างแจกชาวบ้านอย่างแท้จิง ทำไปแจกไป แจกหมดแล้วก็สร้างใหม่ สภาพเนื้อหาจึงไม่เหมือนกันนทุกองค์ รูปแบบพิมพ์ทรงก็มีหลากหลายพิมพ์ทรง แต่ชาวบ้านนิยมสูงสุดคือพิมพ์แบบเจ็ดชั้นฯ และแบบหกชั้นฯ.........
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 พฤศจิกายน 2016
  7. thachapol

    thachapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,138
    ค่าพลัง:
    +1,903
    ประวัติวัดไชโยวรวิหาร.....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. thachapol

    thachapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,138
    ค่าพลัง:
    +1,903
    ประวัติวัดไชโยวรวิหาร.........
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 95du8R.jpg
      95du8R.jpg
      ขนาดไฟล์:
      408.3 KB
      เปิดดู:
      158
    • dha7TG.jpg
      dha7TG.jpg
      ขนาดไฟล์:
      376.2 KB
      เปิดดู:
      117
    • U2zOUU.jpg
      U2zOUU.jpg
      ขนาดไฟล์:
      409.7 KB
      เปิดดู:
      83
    • YyfNAw.jpg
      YyfNAw.jpg
      ขนาดไฟล์:
      455.5 KB
      เปิดดู:
      93
    • U8n70C.jpg
      U8n70C.jpg
      ขนาดไฟล์:
      451.8 KB
      เปิดดู:
      85
    • 27WSHd.jpg
      27WSHd.jpg
      ขนาดไฟล์:
      453.9 KB
      เปิดดู:
      95
    • 6RrZVj.jpg
      6RrZVj.jpg
      ขนาดไฟล์:
      460.3 KB
      เปิดดู:
      96
    • v55N9W.jpg
      v55N9W.jpg
      ขนาดไฟล์:
      442.6 KB
      เปิดดู:
      105
    • 7fPf6e.jpg
      7fPf6e.jpg
      ขนาดไฟล์:
      461.6 KB
      เปิดดู:
      115
  9. thachapol

    thachapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,138
    ค่าพลัง:
    +1,903
    สวัสดีวันพุธครับ.ขออนุญาติอัพเดทข้อมูลอัตชีวประวัติของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เป็นตอนที่ ๔.........ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯมาบูรณะปฏิสังขรณ์วัดอินทร์ บางขุนพรหมตั้งแต่เมื่อใดไม่มีบันทึกหลักฐานไว้.ท่านฯตั้งใจจะสร้างพระพุทธรูปปางป่าเลไลย์องค์ใหญ่นั่งกลางแจ้ง สันนิฐานว่าท่านฯสร้างขึ้นถึงช่วงเอว..ถึงปี พ.ศ ๒๔๑๑ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๔.ได้เสด็จสวรรคต ตรงกับวันพฤหัสบดีที่๑.ตุลาคม พ.ศ ๒๔๑๑..สันนิฐานว่าหลังจากเสร็จงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๔.เสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯพร้อมด้วยชาวบ้านบางขุนพรหม สร้างวัดเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลล้นเกล้ารัชกาลที่๔. ณ.ขณะนั้นท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯมีอายุ ๘๐ ปีชราภาพมากแล้ว เดินทางไปมาไม่สะดวก ดังนั้นชาวบ้านบางขุนพรหมจึงได้ถวายที่ดินห่างจากวัดอินทร์ประมาณเส้้นกว่าๆให้ท่านฯสร้างวัด. สันนิฐานว่าท่านฯลงมือสร้างวัดระหว่างปี ๒๔๑๒--๑๔ สร้างตามแบบวัดพระอารามหลวงในสมัยรัชกาลที่๔ เช่นวัดบวรนิเวศวิหาร วัดโสมนัสราชวรวิหาร และวัดมกุฎษัตริยารามราชวรวิหาร มีเจดีย์ใหญ่เป็นประธานหนึ่งองค์ หลังจากสร้างวัดสร้างเจดีย์เสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์แล้ว ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯจึงได้จัดสร้างพระพิมพ์เนื้อผงพิมพ์ทรงต่าางๆจำนวนปะมาณ ๘๔,๐๐๐ องค์บรรจุในองค์เจดีย์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและสืบอายุพระศาสนา ตามคตินิยมความเชื่อมาแต่โบราณ หลังทำพิธีบรรจุพระพิมพ์เนื้อผงบรรจุในเจดีย์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯจัดให้มีงานฉลองขึ้นวัดใหม่มีมหรสพสมโภชตลอดงาน ชาวบ้านนิยมเรียกชื่อวัดใหม่นี้ว่า วัดใหม่บางขุนพรหม..ต่อจากนั้นสันนิฐานว่าระหว่างปี พ.ศ ๒๔๑๔--๑๕ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯได้ไปบูรณะฯวัดระฆังฯเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลล้นเกล้ารัชกาลที่๔.สันนิฐานว่าท่านฯนำมวลสารที่เหลือจากวัดใหม่บางขุนพรหม มาสร้างพระพิมพ์เนื้อผงขึ้นชุดหนึ่ง มีมวลสารเท่าไหร่ก็สร้างเท่านั้น ส่วนพระพิมพ์เนื้อผงเจดีย์ เกศบัวตูม และฐานแซม เป็นพระเหลือ หรือตั้งใจไม่เอาลงบรรจุในเจดีย์ตั้งแต่แรก.. สันนิฐานว่าท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯบูรณะฯวัดระฆังฯช่วงสั้นๆ เพราะท่านฯต้องกลับไปควบคุมการก่อสร้างพระพุทธรูปปางป่าเลไลย์ที่วัดอินทร์ให้แล้วเสร็จ สันนิฐานว่าช่วงนี้ท่านฯมีอาการอาพาธบ้างแล้ว จนถึงคืนวันที่ ๒๒ มิถุนายน พศ ๒๔๑๕ สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามฯ ก็ได้สิ้นพระชนม์บนศาลาใหญ่วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม.....ต่อมาถึงปี พ.ศ ๒๔๖๐ วัดใหม่บางขุนพรหม ได้เปลี่ยนชื่อนามวัดเป็น วัดใหม่อมตรส หรือ วัดใหม่อมตะรังสี โดยเอานามฉายาของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี มาตั้งเป็นชื่อนามวัด เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ระลึกนึกถึงเกียรติคุณของท่านฯผู้เป็นสุดยอดอมตะเถระแห่งแผ่นดินกรุงรัตนโกสินทร์ตลอดไป................
     
  10. atist

    atist เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,070
    ค่าพลัง:
    +293
    แล้วสมัยที่หลวงปู่โตอยู่ทีวัดมหาธาตุ ท่านสร้างพระเครื่องไหมครับ
     
  11. thachapol

    thachapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,138
    ค่าพลัง:
    +1,903
    เขาว่าสังเกตุเส้นทึบในแบงค์ร้อยชุดใหม่......????
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. thachapol

    thachapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,138
    ค่าพลัง:
    +1,903
    สมัยที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯอยู่วัดมหาธาตุฯ ท่านฯไม่เคยสร้างพระพิมพ์หรือเครื่องรางของขลังอะไรเลย ตอนที่ท่านฯมาบูรณะปฏิสังขรณ์วัดอินทร์ บางขุนพรหม ท่านฯก็ไม่ได้สร้างพระพิมพ์หรือพระเครื่องรางของขลังขึ้นซักชิ้นเลย ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯท่านฯเป็นพระบวชเรียนมาทางฝ่ายคันถธุระ ไม่ใช่เรียนฝ่ายวิปัสสนากรรมฐาน ท่านฯจึงไม่ใล่เกจิอาจารย์เจ้าสำนักที่จะสร้างพระพิมพ์พระเครื่องแจกชาวบ้าน มีคนบอกว่าท่านฯสร้างพระสร้างเครื่องรางของขลังตั้งแต่ท่านฯยังเป็นเณร พวกนี้มันโกหกตอแหลโป้ปดมดเท็จครับ บอกให้มันหาหลักฐานมีแสดงสิครับ. อย่าปล่อยให้มันมากล่าวอ้างมั่วๆลอยๆแบบนี้.....ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯสร้างวัดใหม่บางขุนพรหมถวายเป็นพระราชกุศล รัชกาลที่๔ ในระหว่างปี พ.ศ ๒๔๑๒--๑๔ สร้างตามแบบพระอารามหลวงในรัชกาลที่๔ คือวัดบวรฯ วัดโสมฯ และวัดมกุฎฯ มีเจดีย์เป็นประธาน ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯจึงได้สร้างพระพิมพ์เนื้อผงพิมพ์ทรงต่างๆบรรจุุในเจดีย์ ถวายเป็นพุทธบูชาและสืบอายุพระศาสนา ตามคตินิยมความเชื่อมาแต่โบราณ จิงๆท่านฯไม่ต้องสร้างพระพิมพ์เนื้อผงบรรจุในเจดีย์ก็ได้ แต่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯมีศรัทธามากที่จะสร้างพระพิมพ์บรรจุในเจดีย์ เจดีย์วัดบวรฯ เจดีย์วัดโสมฯ เจดีย์วัดมกุฎฯพระอารามหลวง ก็ไม่มีบันทึกว่าได้สร้างพระพิมพ์บรรจุ หรืออาจจะสร้างบรรจุก็ได้ครับ เพราะการสร้างพระพิมพ์บรรจุในเจดีย์คงไม่ใช้ขั้นตอนสำคัญเท่าไหร่ คงจะขึ้นอยู่กับศรัทธาของผู้สร้างวัดเป็นสำคัญ....ครับ
     
  13. คนเมืองยศ

    คนเมืองยศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    504
    ค่าพลัง:
    +327
    ฝากแนะนำด้วยนะคับ ท่านจัวน้อย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_4726.JPG
      IMG_4726.JPG
      ขนาดไฟล์:
      414.7 KB
      เปิดดู:
      100
  14. คนเมืองยศ

    คนเมืองยศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    504
    ค่าพลัง:
    +327
    หลัง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_4727.JPG
      IMG_4727.JPG
      ขนาดไฟล์:
      322.1 KB
      เปิดดู:
      79
  15. thachapol

    thachapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,138
    ค่าพลัง:
    +1,903
    สะบายดีครับพี่คนเมืองยศ ผมกะเป็นคนเมืองยศสุนทรคือกัน อยู่กุดชุมเด้อครับ..ดูตามรูปเนื้อหาพิมพ์ทรงเป็นพระสร้างยุคหลังครับ จิงๆพิมพ์นี้แกะทำได้ใกล้เคียงกับพิมพ์เกศทะลุซุ้ม แบบพิมพ์มาตรฐานสากล(องค์ลุงพุฒิ) จนตอนแรกผมเข้าใจว่าเอาบล็อคแม่พิมพ์องค์ลุงพุฒิมาแต่งแก้ไขใหม่....:cool:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 พฤศจิกายน 2016
  16. thachapol

    thachapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,138
    ค่าพลัง:
    +1,903
    สวัสดีวันอังคาร ครับ..สังเกตุเห็นมานานแล้ว ก็สงสัยว่าด้านหลังพระสมเด็จวัดระฆังฯพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เจดีย์ มีรอยบุ๋มตื้นๆคล้ายๆเป็นรอยนิ้วมือกดลงไป...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. thachapol

    thachapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,138
    ค่าพลัง:
    +1,903
    สวัสดีวันพฤหัสบดี..ครับ....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. thachapol

    thachapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,138
    ค่าพลัง:
    +1,903
    สวัสดีวันเสาร์ ครับ. สังเกตุรอยบู๋มตื้นๆด้านหลัง สงสัยว่าเป็นรอยนิ้วมือกดหรือเปล่า??........:cool:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 พฤศจิกายน 2016
  19. thachapol

    thachapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,138
    ค่าพลัง:
    +1,903
    สวัสดีวันอังคารที่ ๑๕ พฤศจิกายน ครับ...สังเกตุุรอยบุ๋มตื้นๆด้านหลังพระสมเด็จฯองค์ครู สงสัยว่าเป็นรอยนิ้วมือกด??..............:cool:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 พฤศจิกายน 2016
  20. thachapol

    thachapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,138
    ค่าพลัง:
    +1,903
    สวัสดีวัพฤหัสบดี ครับ........สังเกตุดูรอยบุ๋มตื้นๆสงสัยจะเป็นรอยนิ้วมือกด..??
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...