ความเมตตาแห่งพระโพธิสัตว์ ... นิทานก่อนนอนครับ!

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย หล่อลำน้ำ, 8 พฤศจิกายน 2008.

  1. หล่อลำน้ำ

    หล่อลำน้ำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +40
    ความเมตตาเป็นแรงบันดาลใจเพียงประการเดียวของพระโพธิสัตว์สุเมธดาบส ในการเสียสละการตรัสรู้ธรรมของท่านเอง เพื่อสร้างบารมีเป็นพระพุทธเจ้า ด้วยพระเนตรที่เปี่ยมด้วยพระมหากรุณา เมื่อพระองค์ทรงเห็นมวลหมู่สัตว์ที่ต้องทนทุกข์ทรมาน ในการดำเนินการที่ผิด ครั้งกระนั้นพระโพธิสัตว์สุเมธดาบส จึงได้อธิษฐานจิตที่จะสร้างให้กับมวลมนุษย์ชาติในโลกนี้ ได้มีปัญญา เพื่อสั่งสมบารมีสำหรับการช่วยเหลือมวลมนุษย์

    แต่ความเมตตาจะต้องนำไปสู่การปฏิบัติด้วย หาใช่เก่งแต่ในเชิงปริยัติไม่ เช่นนั้นเองพระพุทธองค์ทรงยอมเวียนว่ายในวัฏสังสารมาแล้วเนิ่นนาน พระองค์ท่านมีความอดทนแม้นจะถูกว่ากล่าว ดูถูกเหยียดหยาม ดูหมิ่น ถึงกระทั่งทำร้ายร่างกาย พระพุทธองค์ทรงอดกลั้น

    กล่าวกันว่า หากจะรวมความเมตตาของมารดาทั้งหลายในโลกนี้ที่มีต่อบุตร ยังไม่อาจเปรียบได้กับพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธองค์ เด็กบางคนก้าวร้าว (โดยเฉพาะพี่หล่อฯ .. อิๆๆ) และทำผิดอย่างสม่ำเสมอ (โดนแบน ประจำ) แต่ความผิดเหล่านี้ถึงแม้นจะไม่ร้ายแรง แต่ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกฏกติกาแห่งสังคม ด้วยหัวใจแห่งแม่นั้นพร้อมที่จะอภัยให้กับลูกๆเสมอ สำหรับน้ำพระทัยของพระพุทธองค์นั้น พระพุทธองค์มีการให้อภัยที่เหนือชั้นยิ่งกว่า เนื่องด้วยว่าเป็นการให้อภัยที่ไร้ขอบเขต อภัยทานนี้เป็นการแสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ยิ่งใหญ่ กว่าสิ่งใดๆ

    เอาหล่ะครับ ... คราวนี้ถึงเวลาที่ผมจะเล่านิทานให้ฟัง ต่อไป
     
  2. หล่อลำน้ำ

    หล่อลำน้ำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +40
    ครั้งหนึ่ง พระมหาโพธิสัตว์ได้เสวยพระชาติเป็นพญาวานร ขณะที่กำลังห้อยโหนอยู่ในป่า ก็ได้พบกับพราหมณ์คนหนึ่ง ตกอยู่ในหลุม (ช่วยตัวเองไม่ได้) จึงเกิดความสงสาร เนื่องด้วยพระโพธิสัตว์เจริญพระเมตตามหาบารมีมาแล้วหลายชาติ

    พระโพธิสัตว์เตรียมที่จะกระโดดลงไปในหลุม เพื่อช่วยชีวิตของพราหมณ์ แต่ยังไม่แน่ใจว่าพระองค์จะมีแรงที่จะอุ้มพราหมณ์ออกมาจากหลุมได้หรือไม่ แล้วพระองค์ก็เกิดปัญญาว่า ควรที่จะทดสอบกำลัง ด้วยการยกก้อนหินที่วางอยู่ข้างๆหลุมแห่งนั้น เมื่อก้อนหินที่หนักเหล่านี้ยกขึ้นมาได้ ก็ย่อมที่จะแสดงให้เห็นว่า พละกำลังของตนเองนั้นมีเพียงพอ สำหรับการช่วยเหลือพราหมณ์นั้น

    พระโพธิสัตว์ปีนลงไปในหลุมอย่างกล้าหาญ แล้วอุ้มพราหมณ์นั้นขึ้นมาในสู่ที่ๆ ปลอดภัย หลังจากที่อุ้มพราหมณ์ขึ้นมาแล้ว ท่านก็หมดแรงล้มลงไปในเวลานั้น พราหมณ์นั้นแทนที่จะระลึกถึงบุญคุณที่ท่านพระโพธิสัตว์ได้ช่วยชีวิตไว้ กลับยกก้อนหินที่อยู่ข้างๆหลุมแห่งนั้นทุบหัวพญาวานร เพื่อเอาเนื้อกลับไปเป็นอาหาร แต่โชคดีที่พญาวานรนั้นไม่ตาย ก็ท่านพญาวานรก็ได้พบว่า ตัวเองกำลังจะตายในไม่ช้า เมื่อรู้ความจริงว่าจิตของพราหมณ์ท่านนั้นเป็นอย่างไร พญาวานรเองก็มิได้ถือโทษโกรธเคืองประการใดไม่ เนื่องด้วยพระโพธิสัตว์ท่านได้สร้างพระบารมีในการให้อภัยมาดีแล้ว จึงได้ตรัสกับพราหมณ์ผู้นั้นว่า "สมควรแล้วหรือ ที่ท่านจะฆ่าเรา เมื่อเราเพิ่งช่วยชีวิตท่าน"

    พระโพธิสัตว์ระลึกได้ว่า พราหมณ์นั้นหลงป่ามา และคงไม่อาจกลับบ้านเองได้โดยปราศจากผู้นำทาง ความเมตตาของพระโพธิสัตว์นั้นไม่สิ้นสุด พญาลิงยอมกัดฟัน ทั้งๆที่หัวโชกเลือดอยู่ และพยายามนำพราหมณ์ออกจากป่า ถึงแม้ว่าเลือดแห่งพญาวานรจะไหลริน ดั่งสายนธี ถึงแม้นว่าจะเจ็บปวดปานใดก็ตาม ในที่สุดท่านพญาวานรก็หาทางให้พราหมณ์ออกจากป่าแห่งนั้นได้

    เพียงแค่เสวยพระชาติเป็นพญาวานร พระพุทธองค์ยังทรงมีพระเมตตา และพระปัญญาญาณถึงปานนั้น ลองพิจารณาดูเถิดว่าเมื่อพระพุทธองค์ได้ทรงสร้างบารมีจนบริบูรณ์ และพระองค์ท่านได้ตรัสรู้แล้ว จะทรงมีพระเมตตาคุณ และ พระปัญญาคุณที่ยิ่งใหญ่สักปานใด
     

แชร์หน้านี้

Loading...