ความเสื่อมแห่งพระธรรม

เอกวีร์ ทำนิสัยนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

ขุดของ วิสุทโธขึ้นมาบ้าง
ยุแยง ให้ทะเลาะกับ ฐานัฎฐ์

เรื่องไร้สาระ คุณนิวรณ์ มันไม่มีใครใส่ใจหรอก

 

ถ้าไม่เคยคิด ว่าจะมีคนหวังดี กับตนเองจริงๆ

แสดงทัสนะการมองโลก คนอื่นมีแต่คนคิดร้าย จ้องแต่ทำลายตน

แล้วจะเห็นอะไรได้บ้างในโลกนี้ ท่านผู้มีธรรม

 

อยากขอบคุณเหลือเกิน
กับความดีของเธอ
กับชีวิตนี้ที่เธอให้ไว้
ชีวิตที่เคยไม่มีค่า
ก็กลับมีความหมาย
ชีวิตที่ยืนขึ้นใหม่
ได้ด้วยมือของเธอ

เอ่อ ไม่รู้จะพูดอะไร เลยร้องเพลงให้ฟัง เฉย ๆ

 

ทองอยู่ที่ไหนก็เป็นทอง
ธรรมอยู่ที่ไหนก็เป็นธรรม

แต่ทองถ้าอยู่กับไก่กับลิง ก็ย่อมเป็นสิ่งไร้ค่าเพราะมองไม่เห็นคุณ
ส่วนธรรมถ้าสิงสถิตในปุถุชน ย่อมเป็นธรรมปลอม เฉกเช่นกัน

ฉะนั้นทองแท้ ย่อมไม่กลัวการพิสูจณ์

 

ตัวเอง ถกธรรมสู้คนอื่นไม่ได้ งอแงเป็นเด็ก เที่ยวไปยกข้อความต่างๆ บิดเบือนให้มันดูน่ารังเกียจ
ทั้งๆ ที่กิเลสตนเองมีมากมาย ไม่ดูใจตนเอง
เดี๋ยวอ้าง ว่า สร้างบารมีบ้าง เดี๋ยวอ้างนั่นอ้างนี่
คนที่หลงหนักนี่ คือ เอกวีร์ ใครเป็นกัลยาณมิตร ต้องเตือน เอกวีร์ ให้มาก

 

คุณขวัญ มันไปเกี่ยวอะไรกับ การไปมองคนอื่นไม่ดี
คุณตั้งสติหน่อย แล้วก็ดูว่า ตอนนี้ มีคนทำอะไรอยู่ เรื่องของเรื่องคือมันไม่เข้าท่า

แล้วจะไปอ้างว่า มีคนหวังดี คุณอย่าเพ้อเจ้อเลย
เลอะเลือนจริงๆ

 

การจะบอกว่า ทำไม่ดีอยู่ แล้ว บอกว่า มันคือ การหวังดี ด้วยเหตุผลกลไกอะไรก็ตาม
มันคือ การหลอกตัวเอง
เพราะว่า เมื่อชั่วโมงก่อนยังถกธรรมกัน ตำหนิกันมา สามเดือน ตอนนี้จะมาบอกว่า หวังดี

หวังดี ต้องดูตนเองก่อนว่า ตนเองนั้น ดีแค่ไหน ยังเลอะเลือนอยุ่จะไปมองคนอื่น ไปสอนคนอื่น ไปรู้คนอื่นอย่างไร

 

ท่านขันธ์ ไม่เห็นเจตนาดี บ้างเลยหรือ

 

ผู้มีธรรม ย่อมอภัย ให้ผู้ไม่รู้

 

จะเจตนาดีหรือไม่ดี ให้ดูกิเลสตัวเองก่อน คนยังมีกิเลส จะมาบอกว่า มีเจตนาดีอย่างไรในเมื่อ สิ่งที่ทำมามันไร้สาระ
ไป ดูตัวเองก่อน ไม่ต้องดูคนอื่น

 

ลักษณะของกิเลส คือ ทำใจให้เศร้าหมอง เป็นธรรมอกาลิโก

 

คนเขาหวังดี เผื่อว่าท่านจะเห็นความจริง ที่ซ่อนอยู่
ท่านอ่านโพสท์ของตัวเอง แล้วรู้สึกว่าดีอยู่หรือไม่
เพราะทุกโพสท์ มันก็เป็นของมันอยู่อย่างนั้น มีผู้เห็นอยู่ทุกวัน
ท่านทำไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นคนอื่นเห็นท่าน แต่ท่านไม่เคยเห็นตนเอง

 

<!-- google_ad_section_start -->

คุณ ขวัญ มาเตือนอะไรคนอื่น
ก็บอกอยู่ว่า ตัวเองมองตัวเองไปสิ

ดูเหตุก่อน ว่า
1 นิสัยคนนั้นเป็นอย่างไร
2 อะไรทำให้เขาพูดแบบนั้น
3 เขาพูดกับใคร

ไม่ใช่ อวดอุตริจะมาเตือนคนอื่น แต่ตัวเองไม่ได้ดูตัวเอง แล้วอีกอย่างหนึ่ง คือ เวลาคุยกัน ไม่เคยตั้งสติมาคุย แต่จะทำมาแสร้งเป็นตักเตือนด้วยความหวังดี วิธีการมันมีมากกว่านัน้ แต่นี่คือ กิเลส ของตนเอง เพราะฉะนั้นอย่าอำพรางมัน

<!-- google_ad_section_end -->

 

มีกิเลส ที่ทำให้ใจเป็นสุข ฟูฟ่อง เหมือนกันนะ
เขาเรียกว่า กิเลสฝ่าย ลาภ ยศ สรรเสริญ
แต่สุดท้ายก็คงเศร้าหมองอยู่ดี แต่มันละเอียดจนเห็นได้ยาก

 

กิเลสตัวเอง ยกคำของคนอื่นมา ขุดของคนอื่นมา
ทั้งขุด ของวิมุตติมา
ขุดของ วิสุทโธ มา
ขุดของใครต่อใครมา

ยังจะมาแก้ต่างว่า ทำไปเพราะความหวังดี

คุณ ขวัญ มีกรรมมากอยู่แล้ว ก็เลิกเล่นไปเถอะ อ่านอย่างเดียวพอ อย่าให้มันทำให้จิตใจคุณ หลงไปกว่านี้เลย
ไปเสริมทัพ สร้างกรรมอีกทำไม

 

อยู่ที่วิธีคิด และมุมมองต่อโลกภายนอก และผู้อื่น
ถ้ามองด้านบวก ก็เป็นเห็นแต่ความดี
ถ้ามองด้านลบ ก็สร้างแต่เรื่องลบๆ เห็นแต่เรื่องร้ายๆ
ท่านไม่ลองมองว่า เขาทำด้วยความปรารถนาดี บ้างล่ะ

 

มองว่า นายขันธ์ คิดดีต่อคุณให้เป็นเสียก่อน

 

<table style="width: 524px; height: 86px;" class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"> <tbody><tr> <td class="thead"> ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 8 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> <center>[ แนะนำเรื่องเด่น ] </center> </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%">nanakorn*, jinny95 อ่านเพลินเลยนะ
</td> </tr> </tbody></table>