กลวิธี "ลดประชากร” ของ "ระเบียบโลกใหม่"
หลักฐานมัด องค์การอนามัยโลกจงใจใช้วัคซีนทำให้สตรีไม่ได้บุตร
รายงานการประชุมปี 1992 หลุดลอดออกทางอินเตอร์เน็ต เป็นรายงานประชุม ระหว่าง WHO องค์การอนามัยโลก , UNDP โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ, UNFPA กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ และ ธนาคารโลก ในกรุงเจนีวา สวิสเซอร์แลนด์ เขาถกเรื่องผลิตวัคซีนทำให้สตรีมีลูกไม่ได้
หากใครอ่านหัวข้อผ่าน ก็ดูเหมือนว่า (WHO) ถกเรื่องงานวางแผนครอบครัวในประเทศด้อยพัฒนาทั่วๆไป แต่ถ้าอ่านอย่างจริงจังจะรู้ว่าเป็นเรื่องน่ากลัว
มีคนร่วมประชุม 20 คน เป็นนักวิทย์ หรือแพทย์ 10 ท่าน จากออสเตรเลีย ยุโรป อินเดีย อเมริกัน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสนับสนุนงานวิจัยและเงินทุน “ผลิตวัคซีนทำให้ไม่มีลูก” (Fertility Regulatory Vaccines ) 10 คนที่เหลือเป็นผู้หญิง จาก อาฟริกา อเมริกาเหนือและใต้ เอเชีย ยุโรป ที่ทำงานวิจัยการแพทย์และระบบภูมิคุ้มหันของร่างกาย และบุคคลากรที่ทำงานด้านสตรี
หน้าที่12 ในรายงานประชุม ถกกันถึงวัคซีนต่อต้านฮอร์โมน hCG ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สร้างโดยเซลล์รอบตัวอ่อนเมื่อครรภ์ยังอ่อน พอตั้งครรภ์ได้ระยะหนึ่งรกจึงจะทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนนี้
ในเอกสาร WHO ระบุว่า ฮอร์โมน hCG นี้ช่วยรักษาให้ครรภ์คงอยู่ได้ ดังนั้นถ้าเราฉีดวัคซีนต้าน hCG จะทำให้ตัวอ่อนในครรภ์ตาย
ข้อที่เรากำลังกังวลคือในรายงาน เขาไม่ได้บอกว่าวัคซีนต้านฮอร์โมนที่ว่าจะทำให้ไม่มีลูก แค่ชั่วคราวหรือตลอดชีวิต
ในที่ประชุมระบุแหล่งผลิตวัคซีนต้านฮอร์โมน มี 3 แห่งคือ 1 สถาบันอิมูโนโลยีแห่งชาติในนิวเดลลี่, 2 Population Council ในนิวยอรค์ และ 3 Development and Research Training in Human Reproduction (HRP)
หน้าทื่15 ระบุว่าวัคซีนต้าน hCG ต้องการอีกเวลา 5-10 ปีเพื่อทดสอบกับสตรีในคลีนิคก่อนที่จะผลิตออกสู่ท้องตลาด
หน้าที่ 17 อันนี้ซิดูไม่ชอบมาพากล วัคซีนที่เขาว่าต้องทดสอบนี้ ( prototype) จะทดลองกับสตรีเมื่อมารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค คอตีบ และบาดทะยัก !!!(diphtheria toxoid DT และ tetanus TT )
ลิงค์รายงานการประชุม http://apps.who.int/iris/bitstream/10665/61301/1/WHO_HRP_WHO_93.1.pdf
หลังประชุม 2 ปีผ่านไป องค์การอนามัยโลกถูกจับได้ว่าใช้สาวประเทศด้อยพัฒนาเป็นหนูทดลอง
ฉีดวัคซีนกันบากทะยักและคอตีบผสม ฮอร์โมน hCG
ปี คศ 1994 WHO มีโครงการฉีดวัคซีนบาดทะยัก tetanus vaccine สูตรพิเศษผสมฮอร์โมน hCG ในสตรีวัยเจริญพันธุ์ อายุ 15-45 ปีให้ประเทศด้อยพัฒนาหลายประเทศ เช่นอินเดีย เม๊กซิโก ฯลฯ
ก่อนอื่นให้ความรู้เรื่อง hCG ก่อน hCG ฮอร์โมนตัวที่เมื่อผู้หญิงทดสอบว่าตัวเองตั้งท้องหรือไม่ จะปัสสาวะบนแท่งตรวจ ถ้าต้องครรภ์จะมีhCG มากแท่งตรวจสอบจะเปลี่ยนสี
งานวิจัยทำให้พวกเขาเรียนรู้ว่าในสภาพธรรมชาติร่างกายจะไม่สร้าง antibodies เพื่อต่อต้านฮอร์โมน hCG นี้ แต่ไม่เหนือความสามารถนักวิทยาศาสตร์ พวกเขาค้นพบว่าหากให้ฮอร์โมน hCG พร้อมกับวัคซีนกันบาดทะยัก หรือ คอตีบ (tetanus toxoid หรือ diphtheria toxoid DT)......ร่างกายสตรีจะสร้าง antibodies ขึ้นมาต่อต้าน hCG ด้วย.......เมื่อ antibodies ต้าน hCG มีปริมาณมากขึ้น สตรีก็ไม่ตั้งท้อง
เมื่อมีการระดมฉีดวัคซีนบาดทะยักและคอตีบ โดยเลือกฉีดเฉพาะสาว 15-45 ปี ไม่รับฉีด เด็ก และผู้ชาย ทั้งๆที่บาดทะยัก ใครๆก็เป็นได้ทั้งนั้น ทำให้องค์การ Comite Pro Vida de Maxico สงสัย องค์การดังกล่าวจึงเอาขวดวัคซีนหลายๆ หลอดไปทดสอบ .....นั่นแหละจึงตรวจพบฮอร์โมน hCG ทั้งที่ไม่ควรปนเปื้อนในวัคซีนบาดทะยักหรือคอตีบหากไม่ตั้งใจ
รายละเอียดและลิงค์อื่นๆ ใน
WHO Caught Recommending Vaccinations Known To Render Primates Infertile | The Liberty Beacon
คั่นข่าว:"บุกยิงการ์ตูนนิสต์ในฝรั่งเศส" เผย VDO ยิงรึ ???? หน้า 6
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย thai123, 9 มีนาคม 2014.
หน้า 4 ของ 6
-
คอมพิวตอร์เจ๊งจร้า ข้อมูลมนุษย์ต่างดาวที่เก็บไว้หายเกลี้ยง ก็ดีข้อมูล มนุษย์ต่างดาวไฮบริด ที่แปลค่อนจะเอ๊กซ์ ก็เลย ดีเหมือนกันแหะที่หายไป จะได้ไม่เสี่ยงถูกด่า ...กะว่าบ๊าย บาย การกระทู้นี้แล้ว แต่พอมาอ่านบทความนี้ สงบปากสงบคำไม่ได้แล้ว ต้องแชร์ เราไม่รู้ว่าเกิดในประเทศไทยแล้วยัง......ใครมีข้อมูลมาแชร์สู่กันฟังบ้าง..........
-
เป็นยาคุมกำเนิดรึเปล่าท่าน
-
ลดจำนวนประชากรโลกผมเห็นด้วยเลย ลดให้เหลือซัก 2000-3000 ล้านคนได้ยิ่งดี เพราะโลกนี้มันรับไม่ใหว เเต่ไม่ใช่วิธีในการทำลาย หรือ ฆ่านะ เเต่ใช้วิธีคุมกำเนิดผ่านอาหารต่างๆเเทน ทุกวันนี้ องค์กรลับเค้าก็เริ่มเเล้ว สังเกตหรือเปล่าหละว่า ตอนนี้ มีเเต่เด็กผู้หญิงมาเกิด ส่วนเด็กผู้ชายรุ่นใหม่ก็ เป็นตุดเป็นกระเทยกัน ถ้าทำเเบบนี้เห็นด้วย เเต่ไม่ใช่ไปปล่อยโรคทำลายคนที่เกิดมาเเล้ว
-
ข้าวโพดพันธุ์โจมตีอสุจิ (GMO spermicidal corn)
ข้าวโพดปรับแต่งพันธุกรรม เป็นอีกโครงการที่ กระทรวงเกษตรของสหรัฐสนับสนุนเงินทุนวิจัยให้แก่บริษัท Epicyte ในซานดิเอโก แคลิฟอเนี่ย
ประธานบริษัท Epicyte ในปี 2001 จัดงานเชิญนักข่าวแถลงถึงความสำเร็จตัดแต่งพันธุกรรมข้าวโพดของพวกเขา จนได้ “ข้าวโพดโจมตีอสุจิ”
Mike Hein อธิบายว่า พวกเขาค้นคว้าหา “แอนตี้บอดี้ของมนุษย์” ตัวหนึ่งที่ไม่ได้พบกันบ่อยๆ คือ” แอนตี้บอดี้โจมตัวอสุจิ” พวกเขาคัดเลือกว่ายีนส์ตัวใดที่มีหน้าที่สร้าง”แอนตี้บอดี้โจมตีตัวอสุจิ” เมื่อได้มันแล้วพวกเขาก็จับยัดเจ้ายีนส์ตัวเนี่ยใส่ในเมล็ดข้าวโพด......ข้าวโพดพันธุ์คุมกำเนิดสำหรับเพศชายจึงกำเนิดขึ้น ( ไม่ได้โจมตีเฉพาะตัวอสุจิมนุษย์ ไม่ว่าหมู วัวฯลฯ ส่งผลหมด)
Mike Hein คุยว่าตอนนี้
“เรามีเรือนกระจกเต็มไปด้วยต้นข้าวโพดที่มีสร้างแอนตี้บอดี้โจมตีตัวอสุจิ”
และบรรยายวิธีทำงานของมันว่า: “แอนตี้บอดี้ตัวนี้จะเกาะเกี่ยวกับผิวของตัวอสุจิ ทำให้ตัวอสุจิหนัก แทนที่จะวิ่งได้อย่างที่เคย เราจะเห็นตัวอสุจิสั่นคล้ายเต้นลัมบาด้า” และ “นี่จะเป็นอีกวิธีหนึ่งช่วยแก้ปัญหา ประชากรล้นโลก”
http://beforeitsnews.com/conspiracy-theories/2012/07/genocidal-cereal-killer-released2390133.html
Children of the Corn: GMOs Don't Qualify As Food - Salem-News.Com
____________________________________
หลายๆท่านอาจคิดว่างั้นต่อไปเราจะไม่กินข้าวโพดต้ม ข้าวโพดคั่ว......มันไม่ง่ายอย่างนั้น มาดูซิว่าอาหารอะไรบ้างมีข้าวโพดเป็นองค์ประกอบ
แป้งแฮมเบอร์เกอร์
น้ำมันทอดเฟรชฟราย( French Fried) ส่วนมาก
นัตเก็ต nuggets
น้ำอัดลม ทั้งปรกติและ diet
Ketchup ที่บ้านเราเรียกผิดๆหันว่าซอสมะเขือเทศ
น้ำผลไม้
โยเกริตร์
ซุป (ทั้งแห้ง ทั้งน้ำ)
มายองเนส
น้ำสลัด
พุดดิ้ง
แจมเนยถั่ว peanut butter
นมสด ที่ผสมวิตามิน D
คุกกี้
ขอให้หนุ่มๆโชคดีเลี่ยงอาหารพวกนี้ได้นะคะ
You'll Pay More For These Surprising Items As Corn Prices Soar - Business Insider -
มิน่า ว่าแล้ว ทำไมประชากรเกย์ ตุ๊ด ถึงได้เยอะขึ้น อย่างน่าแปลกใจ
มันมิใช่เรื่องบังเอิญ แต่คือความตั้งใจของกลุ่มทุนที่ต้องการครองโลกนี่เอง -
ถึงคุณ ไชคอฟสกี้
ถ้ายาคุมกำเนิด คุณไชฯ คงต้องการความมั่นใจในประสิทธิผลสูง และราคาต่ำ วิธีการไม่ยุ่งยาก
วัคซีนตัวที่พูดถึงต้องฉีดหลายครั้ง สูตรวัคซีนบาททะยัก คือ 3 ครั้งในปีแรก แต่ถ้าต้องการให้ สร้างแอนตี้บอดี้ต่อต้าน hCG แนะนำการฉีดมากกว่า 3 ครั้ง ส่วนฉีดไปแล้วแอนตี้บอดี้จะขึ้นเมื่อไร ขึ้นมากเท่าไหน แล้วแต่รายๆ ไป ผู้หญิงแต่ละคนตอบสนองไม่เหมือนกัน ถ้าจะดูว่าแอนตี้บอดี้ต้าน hCG ขึ้นไม๊ ต้องอาศัยเจาะเลือดทดสอบ.....
ฉะนั้นจึงยังไม่ใช้ในเชิงยาคุมเฉพาะบุคคล แต่ก็กำลังพัฒนาอยู่ แต่นิยมในแง่ mass คือฉีดเป็นล้านๆคน ....คือมันก็ต้องได้ผลกันบ้างหละ
ในกรณีนี้ หลอกผู้หญิงให้มาฉีดกันบาดทะยักนะจ๊ะ ไม่ได้แจ้งให้พวกหล่อนรู้ว่านี่จะฉีดยาคุมกำเนิดพวกหล่อนนะ ....หลอกกันเพราะเห็นว่าผู้หญิงพวกนี้ไร้การศึกษา จน ไร้ค่า ????? -
วานก่อนตั้งคำถามว่าโครงการฉีดบาดทะยักผสมฮอร์โมน hCG มีในบ้านเราไม๊
“หลังจากรีวิว (อ่านเอกสารหลายๆแหล่ง หลายฉบับ) ในเรื่องที่เกี่ยวกับวัคซีนบาดทะยักผสม hCG โดยหลอกลวงว่าเป็นวัคซีนกันบาดทะยักล้วนๆ พบว่าโครงการนี้เกิดขึ้นทั่วทุกภาคของโลกใบนี้ เช่น Mexico, China, Philippines, Nicaragua, Nigeria, Bangladesh, India, Thailand and Yemen.
(จากลิงค์ The Machakil vaccine and the accompanying cruelty)
___________________________________________________
แค่ขอให้ลดปริมาณขยะพลาสติก...ที่ตอนนี้เต็มมหาสุมทรแล้ว....น้อยคนนักจะร่วมมือ.......
ลดประชากรโลก.............เห็นแต่ทางตัน คุณแสงเทียน ว่าจะมีวิธีอะไรบ้าง ที่มีมนุษยธรรม ...ที่คงศักดิ์ศรีของมนุษย์ได้.....อ้อ เห็นวิธีหนึ่งน่าสนใจนะ
ภาพอนุสาวรีย์ที่รัฐจอร์เจีย สหรัฐ
เขียนไว้หลายภาษา 8 ภาษามั้ง......
ควบคุมพลเมืองโลกให้ตำ่กว่า 500,000,000 คน
<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xQW8WuNd3jcoFbuX" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/t/gce/p8fng7.jpeg" /></a> -
การแอบฉีดวัคซีนบาดทะยักผสมฮอร์โมน hCG เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจ และต่อต้าน ด้วยมันเป็นประเด็นเชื่อมโยงกับคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิค ศาสนาหลักในประเทศ แม็กซิโก และ ฟิลิปปินส์ ( คือเรื่อง pro life/ pro choice , กลุ่มต้านการทำแท้งทุกรุปแบบ/กลุ่มเห็นด้วยว่าสิทธิสตรีหากจะเอาเด็กออกหรือเอาไว้ )……
เพราะอะไร??
เพราะ..... เมื่อไข่ผสมกับตัวอสุจิ พวกคอทาลิค จะถือว่าชีวิตได้เริ่มขึ้นแล้ว......การทำหมันโดยวัคซีน hCG อนุญาตให้ไข่ผสมกับตัวอสุจิ. นั่นคือชีวิตได้เริ่มแล้ว ........เมื่อไข่ผสมกับอสุจิเราเรียกมันว่า zygote เจ้า zygote เนี่ยจะต้องค่อยๆหาที่งามๆ ในผนังมดลูกฝังตัว......การฉีด hCG ผสมวัคซีนบาดทะยักรบกวนการสร้างผนังนุ่มๆในมดลูก.....ดังนั้น Zygote จึงไม่มีที่ที่จะฝังตัว เลยฝ่อตายในที่สุด .........เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดในฟิลิปปินส์ แม็กซิโก องค์กรเนื่องด้วยคอทาลิกจึงต่อต้านสุด และมาเปิดโปงให้เราๆท่านได้อ่านกัน...........
เขียนขยายความเผื่อเพื่อนที่เป็นคาทอลิก......ถ้าไม่เหมือนคาทอลิคในบ้านเรา....โปรดบอก
"การทำแท้งคือฆาตกรรม"
"ร่างกายฉัน ประเทศฉัน ทางเลือกของฉัน" -
มาอ่านกระทู้นี้เป็นวิทยาศาสตร์ดี แต่ก่อนชอบมาก เรื่องเหตุการณ์ 9/1 นั้น
เคยอ่านในหนังสือทางการทหารของไทยเล่มหนึ่งหลายปีมาแล้ว ว่าจีนไม่เชื่อเหตุการณ์ดังกล่าว จีนบอกว่าสหรัฐทำเองเพื่ออาศัยความชอบธรรมในการปฏบัติการฮุบบ่อน้ำมันคนอื่น
ส่วนวิธีการทำให้เป็นหมันหรือกลายพันธุ์เป็นเพศท -
ขอเขียนต่อนะคะเดี๋ยวข้อความมันจะขาดหาย เราเชื่อมานานแล้วว่าอาหารที่ดีเกินไปอาจมีการปรับแต่งพันธุกรรม จนมีผลต่อระบบของฮอร์โมนของผู้ที่กินเข้าไปจนทำให้กลายเป็นเพศที่3 เหมือนกับไก่ตอนที่เรากิน ขอบอกว่าไม่มีใครสนใจเรื่องที่เราว่าเลย และเมืองไทยให้ความสำคัญกับงานวิจัยน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นงานวิจัยเชิงสังคมศาสตร์ ยิ่งเด็กเดี๋ยวนี้ฉลาดแบบขาดการรอคอย สมาธิสั้นกันเยอะ คงไม่ค่อยมีใครสนใจกับการทดลองจริงๆสักเท่าไร กระทู้นี้จึงอ่านแล้วจึงรู้สึกว่าค่อยสมชื่อห้องหน่อย
-
เราคงต้องมาดูกันว่าใครกันแน่ที่สร้างอาวุธชีวภาพขึ้นมา
-
CDC ( ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อของสหรัฐ) จดสิทธิบัตร อีโบลา พันธุ์ที่ชื่อว่า EboBun เป็นสายพันธุ์ที่เคยระบาดในอูกันดา คนละสายพันธุ์กับปัจจุบัน
เอกสารสิทธิบัตรระบุชัดว่า CDC ไม่ได้สร้างหรือผลิตไวรัสอีโบลานี้ .....สิทธิบัตรเพียงบอกว่าได้ แยก และบ่งชี้ (isolation& identification) จึงขอความเป็นเจ้าของ .....สิทธิบัตรอนุมัติเมื่อ ค ศ 2010 เลขหมายสิทธิบัตร คือ CA2741523A1
ที่น่าสนใจคือ สิทธิบัตรอีโบลาที่ CDC อ้างความเป็นเจ้าของ ในเนื้อหาได้.....ขยายความ......จนครอบคลุมสายพันธุ์อื่นๆ เพราะ CDC เกิดระบุว่าหากสายพันธุ์อื่นแชร์ห่วงโซ่โปรตีน( protein sequences)กับ EboBun ของ CDC ตั้งแต่ 70% CDC ถือความเป็นเจ้าของด้วย "[CLAIMS] ...a nucleotide sequence of at least 70%-99% identity to the SEQ ID..."
มากกว่านั้น สิทธิบัตรยังอ้างความเป็นเจ้าของไวรัสอีโบลาทุกตัวที่ “อ่อนแอ” “ตาย ( "weakened" or "killed,")….. ก็การทำวัตซีนก็ทำจากเชื้อที่อ่อนแอ .....เท่ากับว่าไม่มีบริษัท หรือประเทศใด จะทำวัคซีนอีโบลาได้เลย เพราะจะละเมิดสิทธิบัตร หรือทำไปเถอะ แต่ รัฐบาลสหรัฐสามารถเรียกร้องค่าละเมิดสิทธิบัตรจากคุณได้
หรือรัฐบาลสหรัฐอาจใช้อ้างสิทธิบัตร หยุดยั้งงานวิจัยใด ๆที่เกี่ยวเนื่องกับอีโบลา
ในอดีตมีกรณี ยีนส์ BRCA1 ซึ่งพบว่าเกี่ยวโยงกับการทำให้สตรีเป็นมะเร็งเต้านม บริษัทที่จดสิทธิบัตรเป็นเจ้าของยีนส์ BRCA1 อ้างความเป็นเจ้าของ ปิดงานวิจัยของบริษัทอื่นๆ ที่ค้นคว้า /ตรวจสอบ/วินิจฉัย .................
ข้อพิพาทถึงศาลฎีกา...........ศาลตัดสินปกป้องบริษัทผู้ถือสิทธิบัตร.
ก็ติดตามดูสถานการณ์อีโบลาไปเรื่อย เราคงรู้กัน บริษัทยาในความร่วมมือกับ CDC จะได้กำไรแค่ไหนจากการขายวัคซีนอีโบลา......จะร่ำรวยอื้อซ่าเหมือนไข้หวัด H1N1 ปี 2009 หรือไม๊ คือถ้าประชาชนหลงตื่นกลัว และเชื่ออย่างปี 2009 หรือประชาชนฉลาดขึ้น แต่ องค์การอนามัยโลกบังคับให้ฉีดวัคซีน ( mandatory) อย่างที่บังคับนักเรียน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข มิฉะนั้นจะไม่รับเข้าเรียน รับเข้าทำงาน
หรืออาจใช้เพื่อผลการเมืองระหว่างประเทศ ประเทศใดไม่ทำตามสหรัฐร้องขอ ก็ไม่ขายวัคซีนให้.................
It's all scripted! Ebola outbreak and impossibly rapid vaccine response clearly scripted; U.S. govt. patented Ebola in 2010 and now owns all victims' blood - NaturalNews.com -
ตอนนี้ก็เริ่มมีกระแสข่าวต่อต้านออกมาบ้างแล้ว คงต้องติดตามสถานการณ์กันต่อไป โรคระบาดแปลกๆใหม่ๆ อย่างอีโบล่า ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไปอีกมาก
-
ขอแทรกด้วย Breaking News : อีโบลาที่ เท็กซัส
(ภาพถ่ายจากเฮลิคอปเตอร์ chopper#5, และ # 8 ของ WFAAtv)
(http://toprightnews.com/?p=6269)
ภาพพนักงานทำความสะอาด "อาเจียน" ของคนไข้ติดอีโบลา ในเท็กซัส สหรัฐ คนไข้คนนี้อาเจียนหน้าอพาร์ทเม้นท์ก่อนถูกหิ้วปีกไปโรงพยาบาล(รอบที่ 2) .....เห็นความผิดปรกติไม๊ ??
ชายนายนี้ตอนไปเยี่ยมบ้านในประเทศแหล่งแพร่อีโบลา ได้ช่วยพาหญิงท้องที่ติดเชื้ออีโบลาไปโรงพยาบาล แต่โรงพยาบาลไม่รับไว้เพราะเตียงเต็ม เขาจึงหอบหิ้ว/ อุ้มเธอกลับ.... .เมื่อนายคนนี้เดินทางกลับมาสหรัฐในวันที่ 20 กย เขายังไม่มีอาการไข้ แต่วันที่ 26 กย 57 อาการเริ่มปรากฏ เขาจึงไปโรงพยาบาลและรายงานว่าเขากลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลให้ยาปฎิชีวนะมา และส่งกลับบ้าน..............2 วันถัดไป อาการเขาทรุดหนัก ต้องเรียกรถพยาบาลมารับตัวที่อพาร์ทเม้นท์ นายคนนี้อาเจียนรดพื้นหน้าอพาร์ทเม้นท์ก่อนจะขึ้นรถ.................
.
ใครก็รู้ว่าสารคัดหลั่งจากร่างกายคือแหล่งติดเชื้อ เลือด เหงื่อ อาเจียน.!!!!!..
(.วงวิชาการเสียงข้างมากยังไม่เชื่อว่าอีโบลาจะ airborne แต่น่าจะ aerosol (คือไม่ติดทางอากาศที่หายใจ ยกเว้นละอองจากการจาม ไอ...ซึ่งรัศมีอาจถึง 2 เมตร!...
รูป :
1 พนักงานไม่ใส่ผ้าปิดปาก ถุงมือ เสื้อแขนยาว ฯลฯ
2 น้ำที่ล้างอาเจียน ....เห็นสาวอินเดียที่กำลังจะเดินเหยียบ....แล้วเดินเข้าบ้านไม๊
3 ทำไม CDC ศูนย์ควบคุมโรค ของสหรัฐไม่มาฆ่าเชื้อที่กองอาเจียน -
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=9qqHOKUXY5U"]Coughs and sneezes travel farther than you think - YouTube[/ame]
งานศึกษาจากสถาบันดัง MIT ว่า:
ละอองจากการไอจาม ขนาด 100 ไมครอนจะพุ่งกระจายได้ไกลกว่างานศึกษาในอดีตถึง 5เท่า
ละอองไอจามขนาด 10 ไมครอนจะไปได้ไกลกว่า 200 เท่า
ทีมวิจัยพบว่าละอองไอจาม ขนาดเล็กกว่า 50 ไมครอนจะลอยละล่องในอากาศนานพอเพียงที่จะถูกดูดเข้าสู่ช่องระบายอากาศบนเพดาน
และสามารถไปได้ไกล 2 เมตร "If you ignored the presence of the gas cloud, your first guess would be that larger drops go farther than the smaller ones, and travel at most a couple of meters"
http://www.medicalnewstoday.com/articles/275309.php -
ตอนนี้แพทย์ไทยก้าวหน้ากว่าแพทย์สหรัฐ เพราะไทยไม่ไก่กา
-
จากภาพมีการวิเคราะหฺ์หลายแนว เช่น สาธารณสุขเท็กซัส และ CDC ทำงานผิดพลาด หรือ มีความจงใจต้องการให้อีโบลาแพร่ระบาดกว้างขวาง หรือ นายคนนี้ไม่ได้ติดอีโบลาแต่อย่างใด แค่สร้างข่าวให้คนกลัว.....เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เช่นกัน....
เราเอาข่าวนี้มาให้อ่านเล่น
Ebola in the US: “Disaster Teams Were Notified Months Ago They Would Be Activated in October” | Global Research
็เป็นข่าวที่นำเอาหลักฐาน(ทวีต tweet ) ที่พวกพนักงานดับเพลิง ที่ทีมงานช่วยเหลือและตอบสนองภาวะแุกเฉิน ( DART, Diaster Assistance Response Team )เขาคุยกัน......เขาว่า ......... พวกเขาถูกบอกกล่าวจากหน่วยเหนือว่างานจะเข้าในเดือนตุลาคม(activate) กลิ่นจัดฉากมันเลยเกิดเพราะหน่วยเหนือสามารถทายภาวะฉุกเฉินได้แม่นยำขนาดระบุเดือนได้ และรู้ล่วงหน้า 1 เดือนกว่า -
อ่านข่าวว่าแพทย์ไทยใช้เชื้ออีโบลาสังเคราะห์??...........กำลังจะต้องไปทดสอบที่ต่างประเทศกับเชื้ออีโบลาตัวจริง ต้องไปต่างประเทศเพราะไทยไม่มีห้องแลปความปลอดภัยระดับ 4 ขอเอาใจช่วยให้แพทย์ไทยสามารถช่วยคนทั้งโลกนี้ได้.........คนไทยใจดี
-
ที่ไลบีเรีย มีข่าวว่า พบเหยื่ออีโบลาที่ตายแล้ว ลุกขึ้นมาเดินได้อีกครั้ง เป็นรายที่สาม
มีใครได้อ่านข่าวนี้บ้าง มีข้อเท็จจริงประการใด
นี้สหรัฐ กำลังเปลี่ยนโลกนี้ ให้เป็นอย่างในหนัง walking dead รึไง
หน้า 4 ของ 6