คาถาคืออะไร?(www.suriyunjuntra.com)

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย พญายา, 26 กันยายน 2015.

  1. พญายา

    พญายา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,265
    ค่าพลัง:
    +8,171
    ส่วนตัวจขกท. อ่านแล้วเพลินดีเหมาะสำหรับนักแสวงหา มือใหม่ บางท่านอาจจะโหลดมาอ่านยาก กระทู้นี้ จขกท.นำบทความตัดทอนมาเพียงบางส่วน ท่านที่สนใจก็ลองค้นดูในกูเกิ้ลอีกที
    คาถาคืออะไร พุทธศาสนิกชนสวนใหญถูกหลอกลวง หลงเชื่อกันกันมาชานานแลววา พระประธานในโบสถ พระบูชา พระเครื่อง เปนสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีอิทธิฤทธิอภินิหารบันดาลใหผูที่อธิษฐานขอพรบังเกิดความโชคดีไดรับในสิ่งที่ตนปรารถนา ไปที่วัดไหนก็จะเห็นคําแนะนําเขียนบอกไววาใหทองคาถา อยางนั้นอย่างนี้ ผูที่นับถือศาสนาพุทธเกือบไมมีใครรูวาคาถาในภาษาอินเดีย แปลวาขอความที่ผูกแตงขึ้นเพื่อบอกเลาเรื่องราวในศาสนาพุทธ
    ถาผูกแตงขึ้นเปนภาษาสันสกฤต เรี
    ยกวาพระสูตร
    ถาผูกแตงเปนภาษาบาลี เรียกวาคาถา

    ดังนั้นคําวาคาถาจึงหมาย ถึงขอความที่ภิกษุของศาสนาพุทธผูกแตงขึ้นเพื่อ
    บอกเลาเรื่องราวพุทธประวัติ หรือบทสวดสรรเสริญพระพุทธเจา หรือนําหลักธรรมคําสอนของพระพุทธเจามาผูกแตงเรียบเรียงเปนบทสวดมนตรเพื่อใหภิกษุทองจําไดงาย
    คนโบราณถูกหลอกลวงหลงเชื่อวาคาถาเปนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผูใดทองจําบริกรรม
    แล้วจะทำใหมีฤทธาอภินิหารตัวอยางเชนวรรณคดีไทยเรื่อง ขุนชางขุนแผนอวดอางวาคาถาบทนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งใหญใครทองบนจนเจนจบแลวสามารถสะเดาะโซตรวนที่พันธนาการอยูใหหลุดได
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กันยายน 2015
  2. พญายา

    พญายา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,265
    ค่าพลัง:
    +8,171
    ดวยเหตุที่พุทธศาสนิกชนสวนใหญไมรูวา สิ่งอันควรเคารพนับถือในพุทธศาสนา ตามที่พระพุทธเจาทรงพุทธานุญาตไวกอนเสด็จดับขันธปรินิพพานนั้น ในภาษาอินเดียเรียกวา พุทธเจดียมีอยู ๔ ประการ คือ
    ๑.พระธาตุเจดีย ๒.พระธรรมเจดียพระ
    ๓.บริโภคเจดีย ๔.พระอุเทสิกะเจดีย
    พระพุทธเจาทรงมีพุทธานุญาตไวมิไดมีความมุงหมายใหพุทธ ศาสนิกชนกราบไหวนับถือวาเปนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไปอธิษฐานขอใหชวยเหลือตนใหไดรับในสิ่งที่ปรารถนา พระพุทธเจาทรงสั่งสอนวาพุทธศาสนิกชนตองพึ่งตนเอง ดังมีพุทธภาษิตกลาววา
    “อัตหิอัตโนนาโถ" แปลวา ตนเปนที่พึ่งของตนเอง
    พระธรรมคําสอนของพระพุทธเจาจะตองนําไปปฏิบัติดวยตนเองก็จะชวยดับทุกขไดรูไดดวยตนเอง พุทธเจดีย ๔ ประการ พระพุทธเจาทรงมีพุทธานุญาตใหมีไวเพื่อเปนเครื่อง “ปลงธรรมสังเวช”ใหนึกถึงความไมเที่ยงแทแนนอนของสิ่งทั้งหลาย ยอมตองผันแปรไปตามกฏ “พระไตรลักษณ”ผูที่เขาใจหลักธรรมคําสอนของพระพุทธองคเทานั้นจึงรูวา “พุทธเจดีย”คืออะไร พระพุทธเจาจึงทรงตรัสวา“ผูใดเห็นธรรม ผูนั้นเห็นเรา”หลักธรรมคําสอนของพระพุทธเจาเกิดจากการตรัสรูอริยสัจ จึงเปนความจริงอันประเสริฐ ไมสามารถลบลางดวยเหตุผลได พระพุทธเจาไมเคยอวดอางวาหลักธรรมของพระองคบทใดศักดิ์สิทธิ์ แตทรงสั่งสอนวาใหนําหลักธรรมไปปฏิบัติดวยตนเองแลวจะเห็นผลดวยตนเอง เรียกวา “ปตจัตตัง”พระพุทธเจาทรงเกรงวาในวันหนาภิกษุจะนําหลักธรรมคําสอนไปหลอกลวงพุทธศาสนิกชน เพื่อแสวงหาผลประโยชน จึงทรงหามภิกษุไมให “อวดอุตริมนุษยธรรม”คือ หามไมใหภิกษุอวดวิเศษ “โออวดแสดงอิทธิปาฏิหาริย” “ไมใหเรียนวิชาทางโลก”ภิกษุรูปใดฝาฝนพระธรรมวินัยเหลานี้เปนความผิดสถานหนัก เปนอาบัติปราชิก ขาดจากความเปนสงฆสาวกของพระพุทธเจาดังนั้นการที่ภิกษุบางรูปตั้งตัวเปนพระเกจิอาจารย อวดอางวามีคาถาอาคมขลัง ทําพิธีปลุกเสก หรือ พุทธาภิเษก เพื่อใหวัตถุมงคลเกิดความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งพบเห็นกันอยูทั่วไปในบานเมืองของเราลวนแตเปน“การอวดอุตริมนุษยธรรม”โกหกหลอกลวงใชศาสนาเปนเครื่องมือบังหนาเพื่อหาผลประโยชน นําความเสื่อมเสียมาสูพุทธศาสนาอยางรายแรง พระพุทธเจาทรงตรัสวา เปนการกระทําของพวกมหาโจร ความจริงความลับความสงสัยในเรื่อง “คาถา”ทําใหรูชัดเจนวา สิ่งอันควรเคารพนับถือของพุทธศาสนาที่แทจริงนั้นเรียกวา
    “พุทธเจดีย๔ประการ”
    พระประธานในโบสถ พระบูชา พระเครื่อง ไมใช “พุทธเจดีย”
    ตามที่พระพุทธเจาทรงมีพุทธานุญาตไว ดังนั้นเมื่อไปทําบุญที่วัดไหน หากพบเห็นขอความบอกวาใหทองคาถาอยางนั้นอยางนี้ ก็รูไดในทันทีวาเปนวิธีการหาเงินดวยการตมตุนหลอกลวงของพวกมารศาสนา ดูถูกดูแคลนสติปญญของพุทธศาสนิกชน หากคิดจะทําบุญก็คงไมไดบุญตามที่ตั้งใจ ควรนําเงินไปบริจาคชวยเหลือเด็กกําพรา คนพิการ คนดอยโอกาส หรือสาธารณกุศล จะได้บุญสมความตั้งใจยิ่งกวา
     

แชร์หน้านี้

Loading...