คาถาพระมงกุฏเจริญลาภ

คาถาพระมงกุฏเจริญลาภ

นะโม3 จบ

อิติปิโส วิเสเสอิ
อิเสเส พุทธนาเมอิ
อิเมนา พุทธตังโสอิ
อิโสตัง พุทธปิติอิ

อิติมะมะ มีมามูล
พูลมามี มามะมะ
นะมะพะทะ นะมามีมา มหาลาภา
อิติพุทธัสสะ สุวัณณัง วา ระชะตัง วา มณี วา
ธะนัง วา พีชัง วา อัตถัง วา ปัตถัง วา
เอหิ เอหิ อาคัจเฉยยะ อิติมีมา นะมามิหังฯ

------------------------------------

นะ อะ นะ อุ นะ มะ

มะ อะ มะ อุ มะ นะ

อะ นะ อะ มะ อะ อุ

อุ นะ อุ มะ อุ อะ

ว่าทั้งหมด เช้า 9 จบเย็น 9 จบ

ได้มาจากฆราวาสผู้เก็บตัวภาวนาท่านได้มาจากสมาธิ
เป็นนิมิตเป็นครูบาอาจารย์มาบอกเล่าสนทนากันแล้วลงมติเป็น
พระคาถาให้ไปสวดเสริมชีวิต ท่านว่ามีสุขแคล้วคลาดเจริญลาภเจริญตัวเป็นเมตตา ให้พนมมืออยู่หว่างคิ้วสวดครบ9 จบให้ลูบศรีษะขึ้น สร้างภาพมงคลประดุจมีพระพุทธรูปทองคำมาสถิตย์ครอบส่องรัศมีไว้ ให้ทรงเจตนาไว้ว่าเราคือถุงรับทรัพย์ที่มีเข้ามาตลอดไม่มีที่สิ้นสุด.

 

ท่านบอกเป็นคาถาสำหรับผู้มีสมาธิที่ดีครับโดยกำหนดสวด 9 จบเช้าและเย็นประจำ ทั้งนี้เพื่อเป็นการหาเวลาเจียดมาทำสมาธิที่กำหนดตามขั้นตอนแล้วจะเห็นผล เนื่องจากความศักดิ๋สิทธิ์ของคาถาและจิตที่กำหนดทำตามขั้นตอนประจำๆเป็นไปเพื่อฝึกสมาธิจิตไปในตัวครับจะมีพลังในตัวเอง มีพระและมีมงคลลาภผลแห่งตน ท่านบอกอิติคือพระอันสูงสุดคือพระพุทธเจ้าโดยมีคาถา
มงกุฏพระพุทธเจ้าเป็นองค์ประทานก่อน ตรงอิติคือคำแสดงอำนาจแห่งพระครับ

กำหนดภาพพระทองคำเปล่งแสงบนศีรษะเราโดยให้สลับนึกถึงตัวเราเป็นถุงไว้ใส่เงินแห่งทรัพย์สินเงินทองที่เข้ามาตลอด ถ้าพระชัดเปล่งแสงดีผลจะอัศจรรย์ยิ่งขึ้น เมื่อชำนาญแล้วยามว่างจะกำหนดทำไปเรื่อยๆพร้อมสวดตลอดก็ได้(ฝึกสมาธิอีกระดับนึง)

หากทำจนชำนาญทั้งหมดแล้วเห็นผลแล้วทุกอย่างแล้ว อยากเริ่มมีชีวิตเหนือวิถีสามัญขึ้นมาบ้าง(ยกระดับชีวิต )ให้ทรงภาพพระทองคำอย่างปกติ แล้วเปลี่ยนคำภาวนาว่า " อิติ ติอิ " หากฝึกสำเร็จจะมีเหตุรู้ขึ้นเอง จะมีชีวิตที่ไม่ต้องอยู่ภายใต้ใครๆให้มากความ จึงสะดวกต่อการปฏิบัติธรรมอื่นๆต่อไป

ทั้งหมดนี้หากมีความตั้งใจย่อมสำเร็จ ของดีคู่กับคนดีและมีศีลนะครับ(ไม่ใช่ของมักง่ายฉาบฉวยเอามาโพสท์) ทำไปเพื่อให้ได้สมาธิและได้ผลดีทางโลกควบคู่กันไปมิใช่เพียงสวดไปเฉยๆท่านจึงกำหนดอย่างต่ำ 9 จบเช้าและเย็นครับจิตเดินคาถาดี ไม่สั้นจนเกินเหตุ วันนึงตื่นเช้ามาเจียดเวลาทำ เย็นๆเจียดเวลาทำแค่นั้นครับ