คาถาเลิกบุหรี่ และวิธีเลิกบุหรี่โดยตุ๊พ่อพระมหาสิงห์ วิสุทฺโธ

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย สิงหนาท, 31 มีนาคม 2013.

  1. สิงหนาท

    สิงหนาท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    673
    ค่าพลัง:
    +4,805
    คาถาเลิกบุหรี่ และวิธีเลิกบุหรี่โดยหลวงพ่อสิงห์ วิสุทฺโธ

    [​IMG]

    มีอยู่ครั้งหนึ่งองค์ท่านเล่าว่า มีผู้ชายคนหนึ่งมาจากกรุงเทพฯ มาบ่นให้
    ครูบาเจ้าอินสม สุวีโร วัดพระธาตุจอมทอง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ฟังว่า ขณะนี้ติดบุหรี่มาวันละซอง สองซอง เมียก็บ่นลูกก็บ่นจนรำคาญอยากจะเลิก
    แต่ก็เลิกไม่ได้เพราะมันหิวจริง ๆ หิวบุหรี่นี่จะทำให้หงุดหงิด ทานอาหารไม่ได้ด้วย คือบุหรี่มันมาเป็นมิตรใจที่สนิทที่ดีที่สุดแล้ว
    ชนิดที่ว่า รักยิ่งกว่าลูกกว่าเมียรักยิ่งกว่าร่างกายของตนเอง สูบบุหรี่รสเลิศเลอก็ต้องเป็นบุหรี่พระจันทร์
    แต่เขาไม่สูบบุหรี่พระจันทร์เขาว่ารสมันเบาไปหน่อยว่างั้นนะ แต่สูบอย่างอื่นสูบชนิดที่สละชีวิตคิดว่าตายช่างมัน ฉันต้องสูบเธอให้ได้

    องค์ครูบาเจ้าอินสม ถามเขาว่าคุณอยากเลิกจริง ๆ เหรอ เขาตอบว่าจริง ๆ ขอรับ แต่กระผมอดไม่ได้
    ถ้าเช่นนั้นคุณเอาบุหรี่ซองที่คุณกำลังสูบอยู่มาให้ครูบาซิ เขาก็เอาบุหรี่ซองนั้นให้ ซึ่งเขาสูบไปแล้วไม่กี่มวน
    ครูบาก็เอาบุหรี่ของเขามาเพ่งบริกรรมสักครู่หนึ่ง แล้วครูบาก็บอกว่า “เอ้า! เอาไปสูบเหมือนเดิมนะ”
    พอเขาเอาบุหรี่นั้นไปสูบ มันก็เหม็นก็ขื่นอยากจะอ้วกจะราก สูบต่อไปไม่ได้เสียแล้วทีนี้
    เขาก็พ้นจากความเป็นขี้ยาเพราะครูบาเจ้าอินสมสงเคราะห์
    ตุ๊พ่อสิงห์ขี้สงสัยก็เลยถามครูบาเจ้าว่า “ใช้คาถาบทไหนเสกบุหรี่ให้เขาเลิกได้” ครูบาเจ้าก็เลยบอกว่า
    “ก็อธิษฐานคุณพระศรีรัตนตรัย ขอให้คน ๆ นี้กับบุหรี่จากกัน เบื่อกันชนิดที่ไม่อยากพบอยากเจอกันอีกเลย
    แล้วเราก็ทำใจให้ผ่องใส เพ่งไปที่บุหรี่ให้บุหรี่ขาวใส” แล้วครูบาเจ้าก็บริกรรมว่า
    “พุทโธจาก ธัมโมจาก สังโฆจาก ขอให้คน ๆ นี้และบุหรี่จงจากกันตลอดไปเน้อ” ก็เท่านี้แหละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2013
  2. สิงหนาท

    สิงหนาท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    673
    ค่าพลัง:
    +4,805
    เอ้อ! ก็ไม่ยากนะวันหลังตุ๊พ่อแนะนำให้ญาติโยมทางอำเภอปายมาขอองค์ครูบาอินสมทำให้ ก็เลิกได้ ๓ – ๔ คนแต่พอนาน ๆ
    ไปเขาก็ติดกันใหม่ เพราะเขายังไม่อยากเลิกจริง ยังมีเงินซื้อพอที่จะรักษา
    ตำแหน่งขี้ยาได้อยู่ อยู่ต่อมาตุ๊พ่อสิงห์ก็มีนายตำรวจมาบวชอยู่ด้วย
    เขาสูบบุหรี่ทุกวัน ก็อยากจะรู้ว่ารสชาติของบุหรี่สมัยนี้กับสมัยที่เราสูบมันต่าง
    กันไหม ? อยากจะลองจึงขอท่านสูบไป ๑ มวน วันต่อไปก็ขอสูบอีก ๑ มวนเป็น ๒ มวน ๓ มวน จนไม่กล้าจะขอเขาต้องซื้อมาสูบเองอีก เลยเป็นขี้ยาคนใหม่ต่อไปอีก ก็มาคิด ๆ ว่า “เออหนอเราอยู่ดี ๆ ไม่ชอบเสือกไปคบอารมณ์ชั่ว ๆ ที่ไม่เอาไหนเข้าไปอีก” คือก็รู้อยู่ว่าบุหรี่ให้โทษต่อร่างกาย เงินทองก็หามาได้โดยยาก แม้จะเป็นพระภิกษุก็ไม่มีลาภเหมือนองค์อื่น แค่เงินกับทานสงเคราะห์ลูกน้องก็ชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่แล้ว ดันมาเป็นขี้ยาเข้าไปอีก เงินก็ไม่มี บ่ะ! ไม่ไหวแล้วโว้ย ถ้าไม่เลิกเราจะถูกมันทรมานไปจนวันตาย
    จะต้องเป็นขี้ข้าของมันไปตลอด เราไม่ติดสุรายาเมา กาแฟ โอวัลติน ไม่ติดอะไร มียังไงก็ฉันไปยังงั้น แสนที่จะสบาย ไม่มีความกังวลใด ๆ เลย จะไม่มีเงินซักบาทเราก็อยู่ได้ไม่เดือดร้อน ข้าวก็ไปขอเขามากิน ​

    [​IMG]

    ไม่ไหว ๆ เราต้องเลิกละนะ ระยะแรกก่อนจะสูบบุหรี่ก็จับบุหรี่มานึกถึงพระพุทธรูป ครูบาอาจารย์ อธิษฐานว่า “การสูบบุหรี่เป็นของไม่ดี เสียสุขภาพ เสียเงิน ซึ่งข้าพระพุทธเจ้าก็เป็นผู้ไม่มีเงินมากเลย ได้มาแค่นิดเดียวนิดหน่อยชักหน้าไม่ถึงหลัง สูบบุหรี่มีแต่ทุกข์แต่โทษ ข้าพระพุทธเจ้า ขอบารมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง อยากจะเลิกสูบบุหรี่ ขอได้โปรดสงเคราะห์ให้ข้าพระพุทธเจ้าเลิกการสูบบุหรี่ได้โดยด่วนโดยพลันด้วยเถิดเน้อ พุทโธจาก ธัมโมจาก สังโฆจาก” ขอให้ข้าพเจ้าจากเธอได้จริงนะบุหรี่จ๋า เป่าบุหรี่แล้วค่อยสูบ ใช้ความอดทนบวกเข้าไปด้วย ตั้งใจจริงอยากจะเลิกจริง ๆ ก็เลิกได้มาจนถึงปัจจุบันนี้ แต่ไม่กล้าจะกลับไปสูบบุหรี่อีกเลย ถ้าอดีตรำลึกอยากจะเป็นขี้ยาใหม่ตุ๊พ่อสิงห์ก็เอามาคาบเล่นโก้ ๆ ทำท่าให้ลูกหลานทั้งหลายได้ยิ้มหัวเราะกันเท่านั้นแหละ​
     
  3. สิงหนาท

    สิงหนาท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    673
    ค่าพลัง:
    +4,805
    [​IMG]

    เอ้า! บรรดาขี้ยาทั้งหลายพระคาถาบทนี้ครูบาเจ้าอินสม
    ตุ๊พ่อสิงห์ไม่หวงนะยินดีรับทุกคนเป็นศิษย์เน้อ แช่งบุหรี่ก่อนสูบทุกมวนเน้อ
    อย่างสูบตอนเช้าที่ยังไม่ได้รับประทานอาหารนะ ถ้าสูบตอนเช้าท้องยังว่าง น้ำก็ยังไม่ได้กิน อาหารยังไม่ได้กิน ป้อนบุหรี่เข้าไปก่อนก่อนแบบนี้มันเลิกยาก
    เพราะมันมาก่อนมันเป็นบิดามารดาในวิถีชีวิตเรา เป็นผู้ปกครองชองร่างกายเรา อย่าสูบเชียว เราไม่ย่อมเชื่อความอยากอย่าเด็ดขาดบอกบุหรี่ว่า
    ยังไม่ได้เวลาโว้ย คอยก่อนซิ กูกินข้าวก่อนแล้วกูจะให้มึงสูบ เราต้องคิดว่ามันไม่ใช่มิตร มันเป็นศัตรูของเรา มันทำลายสุขภาพของเรา มันทำลายทรัพย์ของเรามันทำลายสุขภาพคนในครอบครัวของเรา เราคบมันไม่ได้
    มีแต่เสียกับเสีย เราจะต้องเลิกคบมันอย่างเด็ดขาด เราต้องตั้งเป้าหมายไว้อย่างนี้ พยายามจากมัน ลดมันลงไป ลดมันลง แล้วก็ตัดใจทิ้งมันไปเลย
    แค่เราไม่หยิบมันมาใส่ปากมันก็หมดเรื่อง อีแค่บุหรี่สุรามันไม่มีแข้งมีขา
    มันไม่มีมือนี่หว่า ถ้าเราไม่จับมันมาแล้ว แค่นี้เราก็จะชนะ
    ไม่เชื่อทดลองดูนะ ตุ๊พ่อเคยติดบุหรี่มาตั้ง ๓ ครั้ง ตัดได้ทั้ง ๓ ครั้ง

    ...ครั้งแรกเป็นเด็กเลี้ยงควาย สูบบุหรี่ใบตองกล้วยเพื่อไล่ลิ้นไล่ยุง มันก็เลยติดต้องสูบทุกวัน ประมาณอายุ ๑๔ ปีจะมาเรียนหนังสือที่จังหวัดเชียงใหม่ ไม่มียาและใบตองจะมาสูบต่อไปได้ก็เลยตัดสินใจเลิก ก็เอาบุหรี่มาเท่ากับอายุ ๑๔ มวน คุยกับเขาว่า บุหรี่สุดที่รักจ๋า เธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน ฉันและเธอคบกันมามีแต่ความสุขสดชื่นยิ่งนัก แต่ตอนนี้ฉันจะต้องไปอยู่ไกลไม่มีความสะดวกที่จะสูบ จะคบเธอต่อไปได้ เพราะยาไม่มี ใบตองก็ไม่มี หรือที่โน้นอาจจะมีแต่ฉันก็ไม่มีสตางค์จะไปซื้อเขามา เพราะฉะนั้นวันนี้ฉันจะสูบเธอเพื่ออำลาเธอ ๑๔ มวนนะจ้ะ หมดแล้วเลิกกันนะ เธอก็อยู่ของเธอ ฉันก็อยู่ของฉัน เราจะไม่คบกันอีก บุหรี่มันก็เฉย มันไม่พูดอะไรสักคำ ตุ๊พ่อก็สูบเป็นครั้งสุดท้าย ๑๔ มวน แล้วก็เลิกเลย
     
  4. สิงหนาท

    สิงหนาท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    673
    ค่าพลัง:
    +4,805
    ทีนี้มาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ประมาณปี ๒๔๙๙ เพื่อน ๆ เขาก็ชวนสูบบุหรี่พระจันทร์ก็ลองดูซิ ทีนี้มีความรู้สึกว่าความมันละเอียดอ่อนกว่ายาเส้น รสชาติก็ดีกว่าเดิม ก็เลยต้องติดงอมแงม ชนิดที่เรียกว่าท้องฟ้าต้องมีพระจันทร์ ชีวิตของฉันก็ต้องมีบุหรี่ โอ๊ย! เป็นทุกข์แท้เน้อ ทุกข์เพราะไม่มีเงินจะซื้อนะซิ มีอะไรพอจะขายได้ก็ขาย เพื่อให้ได้ซื้อบุหรี่สูบ ดีนะที่เป็นผู้ชายสูบ ถ้าเป็นผู้หญิงอาจจะขายร่างกายเพื่อแลกยาไปแล้วก็ไม่รู้เน้อ ตั้งสติได้คิดจะเลิก อด ๆ แล้วไม่สูบแล้วเรา อดไปใจมันก็ร่ำร้องคร่ำครวญว่าขออีกสักมวนเถิดนะ มวนเดียว ๆ เราก็เชื่อมันสูบไป ๑ มวน แล้วมันก็ไม่หยุดแค่นั้น มวนแรกมันก็ชวนเพื่อนมันมาอย่างต่อเนื่อง

    ... ปี ๒๕๐๐ เราจะต้องเอาชนะความเป็นขี้ยาให้ได้ ที่ผ่านมาเราแพ้เพราะอะไร ๑. เพราะเรายังมีมันครอบครองอยู่ ๒. เมื่อมันขอเราก็ต้องยอมมัน นำมันมาสูบ เราเลยชนะไม่ได้
    แต่การต่อสูยาต่อไปนี้ เราจะต้องเด็ดขาด ตัดสินใจยอมตายดีกว่า ตกเป็นทาส เป็นขี้ยาไปตลอดชีวิต เลยเอาบุหรี่ที่มีอยู่มาเผาไฟ เหมือนเราเผาศพแฟนที่ตายจากเราไปแล้ว ทำใจว่า

    “เธอจ๋า เธอกับฉันหมดกันแค่นี้นะ ต่อไปนี้เราทำต้องเจอะเจอกันอีก เธอก็ไปตามทางของเธอ ไปอยู่กับขี้ยาเก่า ขี้ยาใหม่โน้นเถิดเน้อ ฉันขอเลิกกับเธออย่างเด็ดขาด ขอสละชีวิตเข้าแลกกับความโหยหาอาลัยนี้นะ”

    แล้วก็งดสูบ ฮือ ๆ ทีนี้มันโหยหาจริง ๆ เจ้าพระคุณเอ๋ย...! มันทรมานจริง ๆ มันอยากมาก ๆ ทันทุกข์ทรมานเหมือนคราวแฟนทรยศ บรรยายความหิว
    ไม่ถูกว่ามันหิวแบบไหน มันงึด ๆ ที่คอนั้นนะมากที่สุด ใจมันร่ำร้องว่า เอามา ๆ หงุดหงิด ขี้โมโห ตุ๊พ่อก็ได้แต่ดูอาการของมัน คิดว่ามันจะทรยศสักกี่วัน ทรมานสักกี่วันก็ช่าง ถ้าเราไม่เลิกคบมัน
    มันจะทรมานไปตลอดชีวิต ถ้าอดบุหรี่แล้วตายก็ให้มันตายไปเลย
    จะได้เป็นตำนานเล่าขานกันสืบ ๆ ไปว่า มีคนตายเพราะอดบุหรี่ ตั้งใจแน่วแน่ ทรมานรู้ว่าทรมาน อยากรู้ว่าอยากท้องพระคาถาว่าถ้าไม่สูบจะตายก็ตายไปเลย ตายไปเลย ตายไปเลย บอกมันแบบนี้ตลอดเวลาที่อยาก มันทรมานมาก ๆ ที่สุดอยู่ประมาณ ๕ วัน แล้วความอยากความทรมานก็ค่อย ๆ ลดลง ๆ ประมาณ ๑๐ วันก็หายเป็นร่างกายปกติไม่ต้องไปพึ่งบุหรี่อีก

    ... ประมาณปี ๒๕๐๘ มีลูกมีเมียแล้ว ก็ดันไปสูบบุหรี่กำลังจะเป็นทาสเขาอีกแล้ว ทำบัญชีรายรับรายจ่าย ดูเอ๊ะ... ค่าบุหรี่มันชักมากขึ้น ๆ ซึ่งไม่มีประโยชน์อันใดเลย ทั้งลูกทั้งเมียก็ไม่ได้รับประโยชน์ เราก็ไม่ได้รับประโยชน์อันใดเลย ประโยชน์ก็จะมีแต่พ่อค้าปลูกยา โรงยาสูบ รัฐบาลเก็บภาษีก็เท่านั้น คนผู้เป็นขี้ยาทั้งหลายมีแต่อานกับอานลูกเมีย อานทั้งร่างกาย อานทั้งทรัพย์สิน โอ๊ย! อยากจะให้ฟันต้นยาสูบตายให้เรียบ คนค้าคนขาย เสพยาทั้งหลายย้ายออกไปอยู่เมืองนอกเสียให้หมดให้สิ้น อยากให้รัฐบาลที่สนับสนุนยาเสพติดตั้งตัวอยู่ไม่ได้นานแล้วอย่ามีวาสนากลับมาเป็นรัฐบาลอีก ถ้าเลิกบุหรี่ได้อย่างเดียว คนทั้งหลายจะมีความสุขขึ้นมามาก ๆ เลย ไม่ว่าพระสงฆ์ องค์เณร หมด ครู ชาวบ้านเป็นขี้ยากันเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมดแล้ว แม้แต่นักเรียนยังแบมือของเงินพ่อแม่อยู่ยังหาเงินเองไม่ได้ ก็พากันเป็นขี้ยาไปตั้งเยอะเลย อารมณ์

    ตุ๊พ่อตอนนั้นรู้สึกรังเกียจต้นยา คนปลูกยา คนผลิตบุหรี่ และคนสูบบุหรี่ทั้งหลาย เพราะความรู้สึกมันเห็นว่ามีแต่โทษกับโทษ
    แต่มันกำลังระบาดอย่างหนัก แต่ไม่มีหนอ ไม่มีอะไรมายับหยั่งมันได้เลย มันเริ่มระบาดมากขึ้น ๆ นับวันนับคืนขี้ยาจะมีมากทั่วผืนแผ่นดินไทย
    เรามีเงินน้อยเราต้องหยุดมันให้ได้นะ ตัดสินใจอีกเลิกอีก ตอนสุดท้ายที่เล่าให้ฟังตอนบวชเป็นพระแล้วนี่นะ! ยังเสือกไปลองอีก
    ติดอีก โอ้โห! แล้วคนที่เป็นขี้ยาเก่าแก่แบบเรานี้ มันจะมีบ้างไหมหนอ ขณะนี้ปีนี้เดือนนี้ วันนะ อายุตุ๊พ่อก็ ๗๕ แล้ว
    เห็นขี้ยาบางคนตายอย่างมีความทุกข์ความทรมาน ก็เคยเห็นมาอย่างเต็มหูเต็มตาเลยแหละ


     

แชร์หน้านี้

Loading...