คาถา บูชาเสด็จเตี่ย (กรมหลวงชุมพร) - เอื้ออังกูร

ในห้อง 'รวมบทสวดมนต์และคาถา' ตั้งกระทู้โดย torphak, 1 กุมภาพันธ์ 2021.

  1. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +293
     
  2. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +293
    ที่มา : youtube T 3D
    จักรดาวอาลัย (สุนทราภรณ์) - บุษยา รังสี ต้นฉบับเดิม
    www.youtube.com/watch?v=IqLmszB2w00

    คำร้อง : ธาตรี ทำนอง : เอื้อ สุนทรสนาน เพลงของโรงเรียนเตรียมทหาร
     
  3. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +293
  4. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +293
    ที่มา : youtube Carabao Official
    คาราบาว - คนล่าฝัน (Official Music Video)
    www.youtube.com/watch?v=miUr9xKjxo4
    #สู้ต่อไปอย่าได้ถอย มาตั้งครึ่งทางแล้ว เป้า 1 หมื่น ขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน อาจหลงทางมาบ้างก็ยินดีต้อนรับค่ะ
     
  5. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +293
    "สัจจะ" แปลว่า ความสัตย์ ความซื่อ ถ้าขยายความตามศัพท์แยกได้ 3 ลักษณะคือ มีความจริง ความตรง และความแท้ จริง คือ ไม่เล่น ตรง คือ ความประพฤติทางกาย วาจา ตรงไม่บิดพลิ้ว ไม่บ่ายเบี่ยง แท้ คือ ไม่เหลวไหล ตรงข้ามกับคำว่า อสัจ ซึ่งแปลว่า ไม่จริง บิดพลิ้ว แต่ถ้าในทางปฏิบัติสัจจะ คือ ความรับผิดชอบ หมายความว่า ถ้าจะทำอะไรแล้ว ต้องตั้งใจทำจริง ทำอย่างสุดความสามารถให้เป็นผลสำเร็จ การที่ใครจะสามารถสร้างตัวขึ้นมาได้นั้น ต้องมีสัจจะเป็นพื้นฐาน เพราะคนที่มีสัจจะ เป็นพื้นฐานจะมีความรับผิดชอบต่องานที่ทำทุกอย่าง ไม่ปล่อยผ่านกับสิ่งที่ได้รับมา จะทำทุกสิ่ง ที่มาถึงมืออย่างสุดกำลัง และเต็มความสามารถ

    ลักษณะของสัจจะ มีด้วยกัน 5 ประการ คือ
    ประการที่ 1 สัจจะต่อความดี
    คือ การประพฤติตนเป็นคนที่เที่ยงแท้ มั่นคงต่อความดีไม่หันเหไปในทางชั่ว ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นไร ในทางปฏิบัติ การจะมีสัจจะต่อความดีได้นั้น ต้องคิดให้เห็นถึงคุณความดีได้อย่างแจ่มแจ้ง และเห็นโทษของความชั่วได้ชัดเจน พยายามรักษาความดีในตนไว้ ถ้าเป็นฆราวาสก็ต้องละ กรรมกิเลส 4, อคติ 4, อบายมุข 6 และต้องปรับความเห็นของตนให้ถูก ให้เป็นสัมมาทิฏฐิให้ได้ หากเป็นพระก็ต้องรักษาสิกขาวินัย สืบทอดพระพุทธศาสนา หากเป็นฆราวาส ก็ต้องทำมาหากินตั้งตนให้ได้ สร้างหลักฐานให้กับวงศ์ตระกูล ใครจะอยู่ในหน้าที่อะไรก็ต้องพยายามหาดีของตนให้ได้ หากหาดีนอกทางเสียแล้วก็จะเสียความจริงต่อความดี
    ประการที่ 2 สัจจะต่อหน้าที่
    คือ การที่ใครก็ตามที่เกิดมาย่อมมีหน้าที่ติดตัวมาด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้น จึงควรมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตน ใครเป็นสามีก็รับผิดชอบต่อหน้าที่สามี เลี้ยงครอบครัวให้ดี ไม่ปันใจให้หญิงอื่น จริงใจกับภรรยา ใครเป็นภรรยาก็จริงใจต่อหน้าที่ของภรรยา ดูแลการงานในบ้านให้เรียบร้อย ไม่เที่ยวเตร่ ไม่เล่นการพนันเผาผลาญทรัพย์ เป็นลูกก็ต้องมีความรับผิดชอบว่า เราเป็นลูกมีหน้าที่รักษาวงศ์ตระกูลให้ดี ถ้าพ่อแม่แก่เฒ่า ก็ต้องเลี้ยงดูท่าน ทหารก็จริงใจลงไปในหน้าที่ทหาร เป็นตำรวจก็รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตำรวจ ไม่ว่าใครจะเป็นอะไร ก็ทุ่มไปกับหน้าที่ของตัวให้เต็มที่ หากทำเช่นนี้ได้จึงเรียกว่า มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่
    ประการที่ 3 สัจจะต่อการงาน
    สัจจะต่อการงาน ก็คือการตั้งสัจจะลงไปในงาน หมายถึงการทำงานนั้นต้องทำจริง เมื่อมีหน้าที่แล้วก็ย่อมมีงานตามมา คนที่ไม่จริงต่อการงาน มีอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน คือ
    1. พวก "ทุจฺจริต" คือ พวกที่ทำงานเสีย
    2. พวก "สิถิล" คือ พวกที่ทำงานเหลาะแหละ
    3. พวก "อากุล" คือ พวกที่ทำงานคั่งค้าง
    ประการที่ 4 สัจจะต่อวาจา
    สัจจะต่อวาจา คือ จริงต่อวาจา นั่นก็คือคำพูดของเราเอง ไม่ว่าจะเป็นการพูดด้วยปาก หรือการเขียน ตลอดจนการแสดงอาการที่เป็นการปฏิญาณต่อผู้อื่นก็ตาม สัจจะต่อวาจามีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ
    1. พูดอย่างไรทำอย่างนั้น คือ เมื่อพูดออกไปแล้วก็ต้องพยายามทำให้ได้จริงตามที่พูด
    2. ทำอย่างไรพูดอย่างนั้น คือ การพูดคำจริง เมื่อเราทำอะไรลงไปก็พูดไปตามนั้น การกระทำต้องตรงกับคำพูดของตัวเองเสมอ

    ประการที่ 5 สัจจะต่อบุคคล
    สัจจะต่อบุคคล คือ ต้องจริงต่อบุคคล ในที่นี้คือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับตัวเรา จริงต่อบุคคลนั้น หมายถึง การเป็นผู้ที่ประพฤติต่อคนอื่นอย่างสม่ำเสมอ ไม่กลับกลอก และความจริงต่อบุคคลจะเกิดขึ้นได้นั้น ต้องอาศัยความจริงใจต่อกัน ถ้าเราอยากให้คนอื่นเขาจริงใจต่อเรา เราก็ต้องให้ความจริงกับเขาด้วย

    ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/สัจจะ
     
  6. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +293
  7. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +293
  8. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +293
    61a139e6d17a2bfe3f9666f7_gallery_0_1619797295547.png

    ศูนย์การแพทย์แผนไทยหมอพร รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า

    โดย มูลนิธิสมเด็จพระปิ่นเกล้า
    เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านไทยและการแพทย์ทางเลือกให้เป็นระบบบริการสุขภาพหลักของประเทศคู่ขนานไปกับการแพทย์ปัจจุบัน ตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุขและเป็นการเทิดพระเกียรติ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (หมอพร) ที่ท่านได้ใช้หลักวิชาแพทย์แผนไทย รักษาโรคให้ประชาชนชาวไทยในอดีตและได้เขียนตำรับยารักษาโรคด้วยฝีพระหัตถ์ของพระองค์เอง โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้าจึงได้จัดตั้งศูนย์การแพทย์แผนไทยหมอพรและการแพทย์ผสมผสาน รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า พร. ขึ้น เพื่อให้บริการแก่ข้าราชการและประชาชนทั่วไป โดยปรับปรุงอาคารรังสีวิทยาซึ่งเป็นอาคารเก่าของโรงพยาบาล จัดหาอุปกรณ์การแพทย์ รวมทั้งบุคลากร โดยจะเริ่มเปิดให้บริการแพทย์แผนไทยเบื้องต้นภายในปี 2564และขยายศักยภาพในการให้บริการส่วนผดุงครรภ์ไทย เภสัชกรรมไทย การสร้างสวนสมุนไพรหมอพร การผลิตยาสมุนไพรและจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในส่วนที่เหลือภายในปี 2566 เพื่อพัฒนาให้รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้าเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมและสนับสนุนการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสานที่ได้มาตรฐานและให้บริการการแพทย์แผนไทยอย่างมีประสิทธิภาพ


    สามารถร่วมบริจาคในโครงการ
    โดย มูลนิธิสมเด็จพระปิ่นเกล้า

    105 ดวงใจ 105 ปี กรมแพทย์ทหารเรือ
    โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ได้เปิดบริการผ่าตัดหัวใจให้กับผู้ป่วย ตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน ได้ผ่าตัดหัวใจแบบเปิด (Open heart surgery) ให้ผู้ป่วย จำนวน 900 ราย จากสถิติผู้ป่วยโรคหัวใจที่มารับบริการมากขึ้นทุกปี ทำให้อัตรา การรอคอยการผ่าตัดของผู้ป่วยในปัจจุบันยาวนานถึง1ปี ซึ่งทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยง ที่จะเกิดอันตรายระหว่างรอคอยการผ่าตัด ในโอกาสที่กรมแพทย์ทหารเรือจะครบรอบ 105 ปีในปีพ.ศ. 2565 โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า จึงจัดโครงการ "105 ดวงใจ 105 ปี กรมแพทย์ทหารเรือ" โดยจะเปิดทำการผ่าตัดหัวใจให้กับผู้ป่วยนอกเวลาราชการ เพื่อลดระยะเวลารอคอยการผ่าตัด และลดอัตราการเสียชีวิตระหว่างรอคอยการผ่าตัดหัวใจ ในผู้ป่วยของโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ

    ศูนย์การแพทย์แผนไทยหมอพร รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า
    โดย มูลนิธิสมเด็จพระปิ่นเกล้า

    เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านไทยและการแพทย์ทางเลือกให้เป็นระบบบริการสุขภาพหลักของประเทศคู่ขนานไปกับการแพทย์ปัจจุบัน ตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุขและเป็นการเทิดพระเกียรติ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (หมอพร) ที่ท่านได้ใช้หลักวิชาแพทย์แผนไทย รักษาโรคให้ประชาชนชาวไทยในอดีตและได้เขียนตำรับยารักษาโรคด้วยฝีพระหัตถ์ของพระองค์เอง โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้าจึงได้จัดตั้งศูนย์การแพทย์แผนไทยหมอพรและการแพทย์ผสมผสาน รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า พร. ขึ้น เพื่อให้บริการแก่ข้าราชการและประชาชนทั่วไป โดยปรับปรุงอาคารรังสีวิทยาซึ่งเป็นอาคารเก่าของโรงพยาบาล จัดหาอุปกรณ์การแพทย์ รวมทั้งบุคลากร โดยจะเริ่มเปิดให้บริการแพทย์แผนไทยเบื้องต้นภายในปี 2564และขยายศักยภาพในการให้บริการส่วนผดุงครรภ์ไทย เภสัชกรรมไทย การสร้างสวนสมุนไพรหมอพร การผลิตยาสมุนไพรและจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในส่วนที่เหลือภายในปี 2566 เพื่อพัฒนาให้รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้าเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมและสนับสนุนการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสานที่ได้มาตรฐานและให้บริการการแพทย์แผนไทยอย่างมีประสิทธิภาพ

    มูลนิธิสมเด็จพระปิ่นเกล้าโครงการปันบุญ
    โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ขอเชิญร่วมบริจาคสมทบทุนเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นการเร่งด่วน เนื่องจากขณะนี้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อมีอัตราการเพิ่มจำนวนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน แต่ทางโรงพยาบาลยังขาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สำคัญหลายรายการสำหรับการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงขอเชิญชวนทุกภาคส่วน รวมทั้งภาคประชาชนร่วมบริจาคสมทบทุนเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์เพื่อผู้ป่วยไวรัสโควิด-19โดยบริจาคเงินผ่าน รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า “เพื่อผู้ป่วยไวรัสโควิด-19” ขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้กับแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ทุกท่าน

    สนใจเข้าร่วมปันบุญ หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
    ศูนย์บริการลูกค้าธุรกิจ ทีทีบี โทร. 0 2643 7000
    วันจันทร์ - เสาร์ เวลา 8.00 – 20.00 น.
    ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์และวันหยุดธนาคาร

    ที่มา : https://www.punboon.org/foundation/projects/01085003
     
  9. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +293
  10. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +293
    ที่มา : youtube สุดใจ วงศ์ดี
    ตะวันยอแสง - สุเทพ วงศ์กำแหง
    www.youtube.com/watch?v=It04hCd9Gh8

    ตะวันยอแสง - สุเทพ วงศ์กำแหง ขับร้อง คำร้อง
    ชาลี อินทรวิจิตร ทำนอง สมาน กาญจนะผลิน
    เพลงประกอบภาพยนต์เรื่อง ตะวันยอแสง ปี พ.ศ.2505
     
  11. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +293
    วัดหงษ์ทอง (จังหวัดฉะเชิงเทรา)

    upload_2021-8-17_12-9-51.jpeg images?q=tbn:ANd9GcSMr5CYIlfRdecESe54gZHp2ZxbqbWwFLIqMg&usqp=CAU.jpg
    upload_2021-8-17_12-11-32.jpeg upload_2021-8-17_12-12-38.jpeg
    osm-intl,13,a,a,270x200.png?lang=th&domain=th.wikipedia.png

    วัดหงษ์ทอง
    เป็น
    วัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่าย มหานิกาย ตั้งอยู่ใน ตำบลสองคลอง อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ 21 ไร่ 80 ตารางวา

    วัดหงษ์ทอง หรือชาวบ้านเรียก วัดกลางน้ำ ตั้งเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2526 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2529 เขตวิสุงคามสีมากว้าง 20 เมตร ยาว 32 เมตร ภายในวัดได้ก่อสร้างศูนย์พัฒนาจิต ศาลาปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ศรนิลอนุสรณ์ ตั้งยื่นไปในทะเล[1] มีการสร้างเจดีย์ที่บรรจุพระธาตุในทะเลใช้ชื่อว่า พระธาตุคงคามหาเจดีย์ปรีชาประภากรณ์ปราชญ์ศรนิลอนุสรณ์ ซึ่งบรรจุพระธาตุอรหันต์ในทะเลเป็นแห่งแรกของโลก[2] ภายในองค์พระเจดีย์ ชั้นล่างประดิษฐานหลวงพ่อโสธร ส่วนชั้นที่สองประดิษฐานหุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนจริงของพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) แห่งวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ชั้นนี้ยังประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกตองค์จำลอง ชั้นบนสุดนั้นเป็นที่บรรจุพระอรหันต์ธาตุไว้ในเจดีย์สีทอง ทุกชั้นมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงเรื่องราว พุทธประวัติ ภาพวาดของพระมหากษัตริย์ตั้งแต่อดีตจนถึงรัชกาลปัจจุบัน รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ วัดมีกุฏิหลวงปู่ ด้านบนมีเจดีย์สีทองขนาดย่อมอยู่

    จุดเด่นของวัด คือ อุโบสถกลางทะเล ภายในมีพระประธานสีทองและมีจิตรกรรมฝาผนังเป็นเรื่องราวพุทธประวัติ ด้านหลังอุโบสถมีรูปหล่อเสด็จเตี่ยหรือพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ นอกจากนี้แล้วที่วัดหงษ์ทองแห่งนี้ ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์, หลวงพ่อโต, ศาลพ่อปู่ชีวกโกมารภัจจ์, พระแม่คงคา เป็นอาทิ[3]

    ในช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปีจะเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนมาบวชเนกขัมมะ (ชีพราหมณ์)

    ที่มา :
    1. https://th.wikipedia.org/wiki/วัดหงษ์ทอง_(จังหวัดฉะเชิงเทรา)
    2. ภาพจาก www.google.co.th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +293
    ภาพจิตรกรรมไทยฝีพระหัตถ์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชมพรเขตอุดมศักดิ์
    1.jpg

    พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5
    ปัญจวัคคีย์ คือ กลุ่มนักบวชที่ตั้งขึ้นมา เป็นนักบวชที่ปรากฏอยู่ในศาสนาพุทธในฐานะภิกษุชุดแรกที่เข้ามาบวชเป็นสาวก มีทั้งหมด 5 รูป ได้แก่ โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัสสชิ แต่เดิมปัญจวัคคีย์ เป็นนักบวชที่ออกบวชติดตามปรนนิบัติพระพุทธเจ้าตั้งแต่เสด็จออกผนวชใหม่ ๆ ทั้งหมดเป็นชาวกรุงกบิลพัสดุ์ และได้ฟังปฐมเทศนาเป็นรุ่นแรกเฉพาะโกณฑัญญะเป็นผู้เคยทำนายลักษณะพระพุทธเจ้าตั้งแต่ตอนประสูติใหม่ ส่วนอีก 4 ท่าน เป็นบุตรของพราหมณ์ที่ทำนายลักษณะของพระพุทธเจ้าร่วมกับโกณฑัญญะ เพราะมีความเชื่อว่าเจ้าชายสิทธัตถะจะต้องได้เป็นพระพุทธเจ้าจึงได้ออกบวชตาม

    ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 พระพุทธองค์ได้แสดงปฐมเทศนา หรือเทศนากัณฑ์แรกที่พระองค์ทรงแสดงจบลง คือ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แปลว่า
    พระสูตรแห่งการหมุนวงล้อธรรม โกณฑัญญะก็ได้ดวงตาเห็นธรรม บรรลุโสดาบัน โกณฑัญญะได้รับการยกย่องจากพระพุทธองค์ให้เป็นเอตทัคคะในด้านรัตตัญญู เรียกว่า มีราตรีนาน คือเป็นผู้รู้ธรรมก่อนใคร และได้บวชก่อนผู้อื่นในพระพุทธศาสนา จากนั้นพระพุทธองค์ทรงประทาน ปกิณณกเทศนา สั่งสอนที่เหลืออีก 4 ท่าน ให้บรรลุโสดาบันแล้วประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาให้

    ชื่อ วันที่ได้ธรรมจักษุ
    วัปปะ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8
    ภัททิยะ วันแรม 2 ค่ำ เดือน 8
    มหานามะ วันแรม 3 ค่ำ เดือน 8
    อัสสชิ วันแรม 4 ค่ำ เดือน 8
    ในวันแรม 5 ค่ำ เดือน 8 พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเทศนาอนัตตลักขณสูตร ซึ่งมีใจความดังนี้

    ภิกษุทั้งหลาย ขันธ์ 5 มีดังนี้
    1. รูป คือ ร่างกาย
    2. เวทนา คือ ความรู้สึกสุข ความทุกข์
    3. สัญญา คือ ความจำมั่นหมาย
    4. สังขาร คือ ความคิดปรุงแต่ง
    5. วิญญาณ คือ ความรู้อารมณ์ต่าง ๆ
    ภิกษุทั้งหลาย สิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่เขา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ของเขา ไม่ใช่ตัวตนของเรา ไม่ใช่ตัวตนของเขา สิ่งเหล่านี้มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดา

    “ภาพจิตรกรรมไทยฝีพระหัตถ์” พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชมพรเขตอุดมศักดิ์ ภายในอุโบสถวัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท
    ภายในอุโบสถของวัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สำคัญอย่างมาก โเขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่๕ ราวปี พ.ศ.๒๔๖๔ โดยประมาณ ตั้งอยู่ในส่วนของผนังหุ้มกลองด้านหน้าพระประธาน คือภาพจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ของ “กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” พระองค์ทรงเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ ตอนมารผจญ ด้วยฝีพระหัตถ์ของพระองค์เองร่วมกับข้าราชบริพาร ส่วนผนังด้านล่างระหว่างช่องประตูเขียนภาพจิตรกรรมเรื่องพุทธประวัติ ตอนนางสุชาดาถวายข้าวมธุปายาส โดยมี หม่อมเจ้าจารุภัตรา อาภากร พระธิดาองค์โต ของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ มีส่วนร่วมในการเขียนภาพจิตรกรรมนี้ด้วย

    ทั้งสองพระองค์ได้ทรงเขียนภาพโดยใช้เทคนิคจิตรกรรมไทยแบบประเพณี ผสมผสานกับการเขียนภาพจิตรกรรมเทคนิคแบบตะวันตกจะเห็นได้จากมีการใช้แสงเงาเข้ามาเขียนภาพ การจัดองค์ประกอบภาพทำได้อย่างลงตัวมีการเขียนสอดแทรกภาพเหมือนข้าราชบริพารที่ตามเสด็จด้วย เช่น นายทหารแม่ครัว เป็นต้น ส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ไม่เหมือนจิตรกรรมฝาผนังที่อื่นๆ คือในส่วนลายชายริ้วด้านซ้าย และขวาของภาพจิตรกรรม มีการจารึกอักษรขอมตัวบรรจง ซึ่งกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ทรงมีความรู้ความสามารถในด้านคาถาเป็นอย่างมาก โดยมีพระครูวิมลคุณากร หรือที่รู้จักกันคือ หลวงปู่ศุข เกสโร เป็นพระอาจารย์ที่กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก คาถาที่เขียนไว้คือ คาถา “ชัยมังคะละอัฏฐะกะคาถา”หรือเรียกกันสั้นๆว่า คาถาพาหุง ซึ่งเป็นคาถาที่แปลว่า “การชนะมารทั้ง ๘ ประการ อันเป็นมงคลสูงสุดของพระพุทธเจ้า” จารึกอักษรขอมเป็นคาถาที่สอดคล้องกับจิตรกรรม และเรื่องราวของภาพมารผจญเป็นอย่างมาก และมีจารึกต่อท้ายด้วยตัวอักษรไทยความว่า พระเจ้าพี่ยาเธอกรมหมื่นชุมพรเขตอุดมศักดิ์ นายเทียบ นายรังสี นายแฉล้ม นายผ่อน ได้เขียนไว้ ลงท้ายความว่าเพื่อศุขประโยชน์ภายหน้า นิพพาน ปัจโย โหตุ


    ที่มา :
    1. wikipedia.org
    2. https://www.finearts.go.th/promotion/view/18333-ภาพจิตรกรรมไทยฝีพระหัตถ์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ-กรมหลวงชมพรเขตอุดมศักดิ์
     
  13. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +293
    XAHW81574590743.gif

    u9RmY1574590764.gif

    C1wnc1574590779.gif

    พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระนามเดิมว่า “พระองค์เจ้าอาภากร เกียรติวงศ์”

    ประสูติเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๓ ตรงกับวันอาทิตย์ แรม ๓ ค่ำ เดือนอ้าย ปีมะโรง จุลศักราช ๑๒๔๒ เวลา ๑๕.๕๗ น. พระองค์ทรงเป็นพระราชโอรส องค์ที่ ๒๘ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕ ในพระบรมจักรีวงศ์) และเจ้าจอมมารดาโหมด ป.จ. (ธิดาพระยาสุรวงศ์ ไวยวัฒน์ วร บุนนาค) เป็นพระมารดา

    พระองค์ได้ทรงเป็นนักเรียนในโรงเรียนหลวง ณ พระตำหนักสวนกุหลาบอยู่จนถึงโสกันต์ ในปีพ.ศ.๒๕๓๖ มีพระชนมายุได้ ๑๓ พรรษา ได้เสด็จไปทรงศึกษาวิชา ณ ประเทศอังกฤษ พร้อมกับพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ต่อมาได้ทรงแยกไปศึกษาเฉพาะวิชาการทหารเรือ ซึ่งนับเป็นพระองค์แรกในบรรดาพรเจ้าลูกยาเธอของรัชกาลที่ ๕

    ในขณะที่ทรงเป็นนักเรียนนายเรือที่ประเทศอังกฤษนั้น ประจวบกับเวลาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสยุโรปครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๐๐ พระองค์ได้ทรงขอลาทางโรงเรียนมารับเสด็จฯ พระบรมชนกนาถและได้เข้าร่วมกระบวนเสด็จที่ซีลอน (เกาะลังกา) และได้ทรงถือท้ายเรือพระที่นั่งมหาจักรี มาด้วยพระองค์เอง พระองค์ทรงศึกษาจนสอบไล่ได้ตามหลักสูตรสูงสุดของโรงเรียนนายเรืออังกฤษ ได้เสด็จกลับประเทศไทยถึงปากน้ำเจ้าพระยา จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๔๓

    ก่อนที่พระอง๕จะทรงสำเร็จการศึกษานั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมชนกนาถได้โปรดให้สร้างวังขึ้นใหม่ที่ริมคลองผดุงกรุงเกษมใกล้สะพานชมัยมรุเชษฐ์ ทำเนียบรัฐบาลปัจจุบันนี้ ตรงที่โรงเรียนพาณิชยการพระนครตั้งอยู่เดี๋ยวนี้

    การทหารเรือไทยเดิมนั้นยังล้าสมัยอยู่ อุปกรณ์การเดินทางน้ำจะเป็นการขนส่งบรรทุก หรือการยุทธสงครามก็ตาม จะต้องใช้เรือพายเรือแจว และเรือกรรเชียง เป็นต้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ได้ปฏิวัติกองทัพเรือไทยเพื่อให้ทันสมัย เริ่มในปี พ.ศ. ๒๓๙๔ นี้เอง โดยมีนโยบายต้อนรับชาวยุโรป ให้เข้ามาสู่ประเทศสยามในรูปการให้ความช่วยเหลือประเทศสยาม มีนักการทูต การทหาร นักวิชาการต่างๆ และพวกพ่อค้าพาณิชย์ เข้ามาทำการค้าขาย มีเรือกลไฟ เรือกำปั่นใหญ่ เข้ามาสู่อ่าวไทยเป็นอันมาก ทำให้เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง
    พวกชาวยุโรปจึงได้เข้ารับราชการ เป็นครูสอนทหารเรือไทย กิจการทหารเรือสมัยนั้นยังรวมอยู่กับการทหารบก

    ต่อมาสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้มีเหตุการณ์ขยายอิทธิพลของฝรั่งเศส เกิดกรณีพิพาทฝรั่งเศสกับไทยยิงกันที่ปากน้ำ ปัญหามาจากเรื่องดินแดนลำน้ำโขง เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนากองทัพเรือไทยให้สามารถป้องกันประเทศทางด้านทะเล จึงได้ทรงส่งพระเจ้าลูกยาเธอไปศึกษาวิชาการทหารเรือ และทหารบก ณ ต่างประเทศ เมื่อเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ได้ทรงเข้ารับราชการทหารเรือ พระองค์ได้ทำการฝึกสอนทหารเรือ ทั้งทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธี ทำให้กองทัพเรือไทยเป็นที่ยอมรับของนาๆ ประเทศ ดังนั้นพระองค์จึงได้รับการยอย่องว่า ทรงเป็นพระบิดาแห้งกองทัพเรือสยาม เรื่องของเสด็จในกรมฯ หรือเสด็จเตี่ยนี้ เป็นที่ยอมรับว่าพระองค์เป็นผู้มีความรอบรู้ ความสามารถในทุกๆ ด้าน แม้ทางไสยศาสตร์ พระองค์ก็ทรงศึกษาอย่างแตกฉาน เป็นศิษย์ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท

    สำหรับความเกี่ยวข้องกับวัดเขางูนั้น จากหลักฐานที่คุณแฉล้ม อุศุภรัตน์ ได้บันทึกไว้ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๒ ได้กล่าวถึง วันที่ในหลวงรัชกาลที่๕ ให้สร้างเพื่อเป็นที่ประทับของพระราชโอรส ณ ตรงที่โรงเรียนพาณิชยการพระนคร

    ต่อมาทางโรงเรียนต้องการใช้ที่ดินปลูกสร้างอาคารเป็นตึก ได้รื้อถอนอาคารไม้ ก็คงรวมทั้งตำหนักอาภากรด้วย แล้วนำมาสร้างถวายให้กับพระที่สำนักสงฆ์เขางู เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๙ นอกจากนี้ คุณแฉล้มฯ ท่านยังมีบันทึกกล่าวถึงอาจารย์วิภา เกษมศรี อาจารย์ผู้หนึ่งในวิทยาลัยพาณิชยการพระนคร ได้ป่วยเป็นเนื้องอกหรือมะเร็ง ว่าเช้าวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๑๖ ก่อนเข้าโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ก็มาที่วิทยาลัย มาถึงก็
    จุดธูปเทียนถวายสักการะพระรูปเสด็จพ่อฯ

    ขณะนั้น พระรูปเสด็จพ่อฯ หล่อเสร็จแล้ว นำมาประดิษฐานไว้ที่หน้ามุขตึก ๑ เป็นการชั่วคราว รอประดิษฐานในที่ถาวร ซึ่งกำลังปรับปรุงตกแต่งอยู่ต่อไป อาจารย์วิภาฯ มาที่วิทยาลัยนั้น ตั้งใจจะมากราบทูลลาเสด็จพ่อฯ โดยตรง นำพวงมาลัยมาถวายด้วยพวงหนึ่งอธิษฐานลูกจะเข้าโรงพยาบาลวันนี้ ขอให้เสด็จพ่อคุ้มครองและขอให้หายจากโรคภัยด้วย อธิษฐานเสร็จก็มองไปที่พระพักตร์เห็นทรงยิ้ม

    หลังจากการผ่าตัด ปรากฏว่าอาจารย์วิภาปลอดภัย และหายขาดจากโรคมะเร็ง ซึ่งเหตุการณ์หลังจากการผ่าตัด ได้มีการบันทึกไว้อย่างละเอียดด้วย นอกจากนี้ คุณแฉล้มฯ ยังกล่าวถึงเสด็จพ่อฯ ในโลกวิญญาณว่าพระองค์ได้รับตำแหน่ง พระสยามเทวาธิราชองค์ที่ ๑๑ (อาภากร) คอยทำหน้าที่ปกปักษ์ รักษาบ้านเมือง และคุณแฉล้มฯ ได้หล่อพระรูปองค์พระสยามเทวาธิราชองค์ที่ ๑๑ (อาภากร) แต่ยังไม่ได้นำไปประดิษฐาน โดยเก็บไว้ที่ห้างแฉล้มนิมต ต่อมาเจ้าอาวาสวัดเขางูไปเห็นและได้ขอนำมาประดิษฐานไว้บนเขาที่วัดเขางู

    เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำหนักอาภากรและพระรูปที่คุณแฉล้มฯ ได้นำมาจากโรงเรียนพาณิชยการพระนครมาไว้ที่เขางู โดยหม่อมเจ้าหญิงเริงจิตรแจรง อาภากร พระธิดาของเสด็จในกรมฯ ได้ติดตามหาตำหนักอาภากร และพระรูปของเสด็จพ่อ โดยได้มาพบเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๕ นับได้ว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพระบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ที่น่าศึกษาตอนหนึ่ง

    ที่มา : https://www.siamlocalnew.com/464-wat-khao---ngu/view/2073/
     
  14. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +293
  15. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +293
    ที่มา : youtube COLORPiTCH Official
    เพลงราชบุรีมิตรผล เอฟซี Ratchaburi Mitr Phol FC Official Song
    www.youtube.com/watch?v=st4SHWBXE4E


    เพลงประจำสโมสรราชบุรีมิตรผล เอฟซี
    Executive Producer: ธนวัชร์ นิติกาญจนา
    Producers: จิตติพล ถาวรกิจ & จีระยุทธ จอมปวง Music & Lyrics: จิตติพล ถาวรกิจ & จีระยุทธ จอมปวง จีระยุทธ จอมปวง:
    กีต้าร์ & ร้องนำ จิตติพล ถาวรกิจ:
    คีย์บอร์ด & ร้องประสาน อดิศักดิ์ สายบัว:
    กลอง & ร้องประสาน พลเชษฐ์ กำเนิดเพชร:
    เบส Edited, Mixed and Mastered by วรพจน์ รัตนสัญญา
    Recorded at ShiningStar Studio
     
  16. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +293
    พิธีประดิษฐานพระบรมรูปกรมหลวงชุมพรฯ ที่วัดสิงห์

    h899j58hj7jfadef566hb.jpg

    วัดสิงห์ ต.พระงาม อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี เป็นวัดเก่าแก่ สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย อยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา
    มีปูชนียวัตถุที่สำคัญคือ “พระพุทธฉาย” ประดิษฐานอยู่หน้าอุโบสถ

    พระพุทธรูปองค์นี้มีความศักดิ์สิทธิ์ปรากฏอย่างต่อเนื่องตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นด้านแคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม และโชคลาภ โดยผู้ที่ไปกราบไหว้ขอพร เมื่อประสบความสำเร็จสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา มักจะนำ “ข้าวหลาม” มาแก้บน ซึ่งมีให้เห็นเป็นประจำในทุกวันนี้

    สมัยก่อน ผู้ที่มาสักการบูชาขอพรพระพุทธฉาย วัดสิงห์ นอกจากชาวบ้านสามัญชน ข้าราชการทั่วไปแล้ว ยังมีเชื้อพระวงศ์ ราชนิกุลก็เคยเสด็จมา และหนึ่งในบุคคลเหล่านั้นคือ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ พระราชโอรสองค์ที่ ๒๘ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.๕) โดยพระองค์ทรงได้รับการยกย่องให้เป็น “พระบิดาแห่งราชนาวีไทย”

    เป็นที่ทราบกันดีว่า เสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ ทรงเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท แทบทุกครั้งที่เสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ เสด็จไปวัดปากคลองมะขามเฒ่า พระองค์จะทรงแวะพักเรือยนต์พระที่นั่งบริเวณวัดสิงห์แห่งนี้เป็นประจำ เพื่อขึ้นไปทรงสักการบูชาพระพุทธฉาย โดยมีหลักฐานชิ้นสำคัญที่ยืนยันเรื่องนี้ คือ การค้นพบแผ่นป้ายทองแดง จารึกพระนาม “กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” ที่กุฏิหลังเก่า ซึ่งเสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ ได้จัดสร้างถวายให้วัดสิงห์ ต่อมาได้ชำรุดทรุดโทรมลงตามกาลเวลา จึงได้รื้อออกและก่อสร้างขึ้นใหม่เมื่อปี ๒๕๕๑

    ต่อมาเมื่อปี ๒๕๕๖ พระอธิการสว่าง อภินันโท เจ้าอาวาส พร้อมทั้งคณะกรรมการวัดและชาวชุมชนแถบวัดสิงห์ มีความประสงค์ที่จะจัดสร้าง “พระบรมรูปกรมหลวงชุมพรฯ” ขึ้นเพื่อประดิษฐานในมณฑปภายในวัดสิงห์ ให้สาธุชนที่เคารพศรัทธาได้สักการบูชาขอพร ถือได้ว่าเป็นการจัดสร้างพระบรมรูปของพระองค์ขึ้นเป็นแห่งแรกของ จ.สิงห์บุรี

    พระบรมรูปกรมหลวงชุมพรฯ ได้จัดสร้างขึ้นด้วยโลหะรมดำ ในพระอิริยาบถประทับยืน ขนาดเท่าพระองค์จริง ซึ่งได้จัดสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๖ ปัจจุบันได้ประดิษฐานไว้ชั่วคราวที่หน้ากุฏิของเจ้าอาวาส

    ต่อมาทางวัดวัดสิงห์ได้ดำเนินการจัดสร้างมณฑปเพื่อจะใช้เป็นที่ประดิษฐาน พระบรมรูปกรมหลวงชุมพรฯ ดังกล่าวเป็นการถาวร ซึ่งในขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีกำหนดการอัญเชิญพระบรมรูปกรมหลวงชุมพรฯ ประดิษฐานในมณฑปดังกล่าว เมื่อวันเสาร์ที่
    ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๘ เริ่มพิธีเวลา ๐๙.๐๐ น. ซึ่งตรงกับวันประสูติกาลของพระองค์พอดี

    ที่มา : https://www.komchadluek.net/news/lifestyle/218758

    *********************************************************************************************************************************************
    "มาแวะสักการะ บรมครูหมอชีวกโกมารภัจจ์และหมอสมหมาย ทองประเสริฐ"
    ๓๒, บางมัญ, สิงห์บุรี, จ.สิงห์บุรี, ๑๖๐๐๐ ประเทศไทย สิงห์บุรี

    upload_2021-8-18_12-18-14.jpeg
    images?q=tbn:ANd9GcQjL9knaTOt6Sse3k0JvKp_FgPI_0_ljx1oKA&usqp=CAU.jpg


    ที่สวนป่า นายแพทย์สมหมาย ทองประเสริฐ ขับรถผ่านไปผ่านมายังไม่เคยเข้าชมเลยลองเข้ามาสักการะชมสักครั้ง สวนป่าแห่งนี้ มีนายแพทย์สมหมาย เป็นเจ้าของ (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเชียขาเข้าก.ท.ม. ก่อนเลี้ยวเข้าตัวจังหวัดสิงห์บุรี ๑ กิโลเมตร

    ลักษณะพื้นที่กว้างขวาง มีต้นไม้ ร่มรื่น และ สวนหย่อมจัดเป็นระเบียบ สวยงาม ก่อนขึ้นไปสักการะจะมีซุ้มทางเข้าจะพบเจ้าหน้าที่คอยบริการ ดอกไม้ เครื่องสักการะ บูชาครูอย่างครบถ้วนตามธรรมเนียมปฎิบัติ

    ณ ซุ้มประดิษฐานหุ่นจำลองหมออาชีวก จะมีรูปหล่อของหมอสมหมาย หรือ หมอเทวดาชื่อดังของจังหวัดสิงห์บุรีตั้งอยู่คู่กับรูปหล่อของหมออาชีวกอย่างน่าเกรงขาม ถัดจากองค์หมออาชีวก ซ้ายมือต่อมาจะมีวิหารที่ประทับ"หลวงพ่อพระร่วง" ซึ่งเป็นพระปฎิมากรขึ้นในรูปแบบของการแกะสลักจากไม้อย่างวิจิตร งดงาม ซึ่ง"พระร่วง" นี้ เป็นพระปาง ห้ามสมุทร โดยเป็นศิลปะของยุคลพบุรีในช่วงขอมเรืองอำนาจ

    ลึกเข้า ไปด้านใน มีศาลาซุ้มเตี้ยชั้นเดียวแต่มีความยาวหลายสิบเมตร ภายใน วางโต๊ะและเก้าอี้เรียงยาว เหมาะสำหรับไว้นั่งพักผ่อน ซึ่งมองจากศาลาลงด้านทิศตะวันออกจะวิวทุ่งนาเขียวขจีของเกษตรกร สุดลูกหูลูกตา นอกจากศาลาชมวิว ยังมีห้องน้ำไว้สำหรับประกอบกิจธุระหนัก-เบาตั้งอยู่ข้างๆกัน

    สอบถามจากเจ้าหน้าที่ผู้ดูแล จะเปิดให้ชมและสักการะแบบฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายและเปิดให้ชมทุกวัน จนถึงเวลา ๑๘.๐๐ น.

    ที่มา :
    ๑. http://www.tong-en.com/travel/แหล่งท่องเทียวสิงห์บุรี/content/144/
    ๒. รูปภาพจาก google.co.th
     
  17. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +293
  18. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +293
  19. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +293
    ธงแสดงยศสำหรับทหารเรือ
    • 120px-Flag_Thai_Admiral_of_the_Fleet.svg.png
      ธงหมายยศจอมพลเรือ


    • 120px-Flag_Thai_Admiral.svg.png
      ธงหมายยศพลเรือเอก


    • 120px-Flag_Thai_Vice_Admiral.svg.png
      ธงหมายยศพลเรือโท


    • 120px-Flag_Thai_Rear_Admiral.svg.png
      ธงหมายยศพลเรือตรี


    • 120px-Flag_Thai_Commodore.svg.png
      ธงหมายยศพลเรือจัตวา
    ธงแสดงยศสำหรับทหารเรือ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส พื้นธงสีขาบมีรูปจักรสีขาวสลับเทาเป็นจักรแปดแฉก แฉกของจักรเวียนไปทางซ้าย มี 5 ชั้น คือ
    1. ธงจอมพลเรือ มีรูปจักร 5 จักร อยู่ที่มุมธงทั้งสี่มุม มุมละ 1 จักร และอยู่ตรงกลางของผืนธงอีก 1 จักร
    2. ธงพลเรือเอก มีรูปจักร 4 จักร อยู่ที่มุมธงทั้งสี่มุม มุมละ 1 จักร
    3. ธงพลเรือโท มีรูปจักร 3 จักร เรียงเป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่าอยู่ตรงกลางของผืนธง ให้ด้านฐานของรูปสามเหลี่ยมด้านเท่าอยู่ด้านล่างขนานกับขอบล่างของผืนธง
    4. ธงพลเรือตรี มีรูปจักร 2 จักร เรียงกันในแนวดิ่งอยู่ตรงกลางของผืนธง
    5. ธงพลเรือจัตวา มีรูปจักร 1 จักร อยู่ตรงกลางของผืนธง
    ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/ธงแสดงยศทหาร_(กองทัพไทย)
     
  20. torphak

    torphak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    4,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +293

แชร์หน้านี้

Loading...