~!~คำถามเปลี่ยนชีวิต~*~

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย สนังกุมารพรหม, 28 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. สนังกุมารพรหม

    สนังกุมารพรหม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +992
    ~!~คำถามเปลี่ยนชีวิต~*~

    [​IMG]

    มีปริศนาที่อยากให้ช่วยกันเฉลยหน่อย "ทำไมนกกระยางจึงยืนขาเดียวเวลาหลับ"

    ขอบอกว่านี่เป็นปริศนาประลองเชาว์ ไม่เกี่ยวกับความรู้รอบตัว ถ้าผ่านไป 5

    นาทีแล้วคุณยังคิดไม่ออก (หรือยังตอบได้ไม่ถูกใจทั้งคนถามและคนฟัง)

    นั่นเพราะคุณมัวแต่จะถามตัวเองใช่ไหมว่า... ทำไมมันยืนขาเดียว ทำไมมันไม่ยืนสองขา[​IMG]

    ลองเปลี่ยนมาถามตัวเองใหม่สิว่า.. ทำไมมันหดขาเดียว ทำไมมันไม่หดสองขา เท่านี้แหละ

    คำตอบก็ออกมาทันทีว่า "ถ้ามันหดทั้งสองขา มันก็ล้มน่ะสิ" ปริศนาข้อนี้ตอบได้ง่าย

    หากเราเปลี่ยนมุมมอง หรือตั้งคำถามเสียใหม่ นกกระยางยืนขาเดียว กับนกกระยางหดขาเดียว

    [​IMG]ที่จริงก็คือสิ่งเดียวกัน แต่เป็นภาพอันเกิดจากมุมมองที่ต่างกัน

    และสามารถชักนำความคิดของเราไปคนละทิศละทางได้ การเปลี่ยนคำถามหรือมุมมอง

    ไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่ช่วยให้เรารอดพ้นจากอาการหน้าแตก เวลาถูกจู่โจมด้วยปริศนาแบบนี้ (ซึ่งบางคนเรียกอย่างเจ็บแค้นว่า ปริศนาปัญญาอ่อน) ที่จริงมันมีประโยชน์มากกว่านั้น

    เชื่อหรือไม่ว่า มันอาจจะมีผลถึงกับเปลี่ยนวิถีชีวิตของคุณได้
    [​IMG]
    คงมีหลายครั้งที่คุณรู้สึกเศร้าสร้อยน้อยใจ เฝ้าบ่นในใจว่า "ทำไมเขาไม่เข้าใจเราเลย" ไม่ว่าเขา

    (หรือเธอ) คนนั้นเป็นเพื่อนหรือคู่รักของคุณก็ตาม การตอกย้ำกับตัวเองด้วยความคิดอย่างนี้

    บางทีก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย นอกจากตัวเองจะทุกข์แล้ว ยังอาจหมางเมินเขามากขึ้น

    ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์แย่ลงไปอีก ลองเปลี่ยนมุมมองหรือตั้งคำถามใหม่สิว่า "แล้วเราล่ะ

    เข้าใจเขาบ้างหรือเปล่า" การถามแบบนี้อาจช่วยให้เราพบสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาก็ได้

    [​IMG] เพราะอันที่จริง เราเองก็คงไม่ได้เข้าใจเหมือนกัน

    สัมพันธภาพของผู้คนมักมีปัญหาก็เพราะทุกคนคิดแต่จะเรียกร้องให้คนอื่นเข้าใจตนเอง

    แต่ไม่พยายามหรือแม้กระทั่งคิดที่จะเข้าใจคนอื่น ถึงตรงนี้ คำถามไม่ได้อยู่ที่ว่า

    "ทำไมเขาไม่เข้าใจเรา" แต่อยู่ที่ "ทำไมเราถึงไม่เข้าใจเขา" และ"ทำอย่างไร[​IMG]

    เราถึงจะเข้าใจเขาได้" ในทำนองเดียวกัน สำหรับคนที่ชอบบ่นในใจว่า "ทำไมฉันถึงซวยอย่างนี้"

    หากเปลี่ยนมาถามตัวเองว่า "ทำไมฉันชอบบ่นอย่างนี้" เขาอาจได้คิดและลุกขึ้นมาสู้ใหม่

    ไม่ทดท้อหรืองอมืองอเท้าเหมือนเก่า การรู้จักตั้งคำถามเป็นศิลปะสำคัญอย่างหนึ่งของชีวิต

    [​IMG] ทุกวันนี้เราถูกสอนให้สนใจคำตอบ จนลืมว่าคำถามนั้นสำคัญกว่าคำตอบมาก

    คำถามนั้นเป็นตัวกำหนดคำตอบ พูดอีกอย่างก็คือ

    คำถามเป็นตัวกำหนดความคิดและการกระทำของเรา ถ้าตั้งคำถามผิดา

    ก็พาความคิดของเราเข้ารกเข้าพง ซ้ำอาจพาชีวิตหลงทางไปด้วย เด็ก (และผู้ใหญ่) หลายคน

    ชอบถามในใจเวลามีงานมากองอยู่ข้างหน้าว่า "ฉันจะทำได้หรือ" คำถามอย่างนี้ชวนให้ท้อ[​IMG]

    แต่ความรู้สึกของเขาจะเปลี่ยนไป หากเขาถามตัวเองใหม่ว่า "ทำไมฉันจะทำไม่ได้" อย่างไรก็ตาม

    บ่อยครั้งอุปสรรคไม่ได้อยู่ตรงที่ว่าทำได้หรือไม่ได้ หากอยู่ที่แรงจูงใจ

    มีคำถามหนึ่งซึ่งคุณหมอประเวศ วะสี บอกว่า เป็นคำถามที่น่าเกลียดที่สุด

    แต่เป็นคำถามที่กำลังระบาดไปทั่วสังคมไทย นั่นก็คือ คำถามว่า "ทำแล้วฉันจะได้อะไร"

    [​IMG] คำถามอย่างนี้ทำให้คนเห็นแก่ตัวมากขึ้น ทำให้จิตใจแคบลง และหาความสุขได้ยาก

    จะไม่ดีกว่าหรือ หากเราถามใหม่ว่า "ทำแล้วส่วนรวม (หรือสังคม) จะได้อะไร"

    การคำนึงถึงส่วนรวมโดยเริ่มต้นจากคำถามแบบนี้ จะช่วยให้สังคมไทยน่าอยู่มากขึ้น

    และคนที่เสียสละเพื่อส่วนรวมก็จะได้ไม่ต้องมาคอยตอบคำถามของญาติมิตรว่า

    "ทำแล้วเธอได้อะไร" หรือถูกตั้งข้อสงสัยว่า "ได้ไปเท่าไหร่" การถามว่า ใคร กับ ทำไม

    ก็ให้ผลที่แตกต่างกันมาก เวลาเกิดเหตุร้ายขึ้นมา คนส่วนใหญ่มักสนใจว่า ใครทำ
    [​IMG]
    แต่ไม่ค่อยถามว่า ทำไมเขาจึงทำ คำถามแรกนั้นเพียงแต่สนองความอยากรู้อยากเห็น

    แต่คำถามหลังช่วยให้เห็นสาเหตุของปัญหา และอาจนำมาเป็นบทเรียนแก่ตนเองได้ คุณโสภณ

    สุภาพงษ์ เล่าว่า ตอนที่ไปบริหารโรงกลั่นน้ำมันบางจากใหม่ๆ โรงกลั่นอยู่ในสภาพทรุดโทรมมาก

    อุบัติเหตุเกิดขึ้นประจำ ขาดทุนมหาศาล ขณะที่ขวัญของพนักงานก็ไม่ดี

    เพราะมีปัญหาสืบเนื่องจากเจ้าของเดิม คุณโสภณเล่าว่า เวลาเกิดอุบัติเหตุในโรงกลั่น

    [​IMG] จะไม่ถามพนักงานว่า "ใครทำ" แต่จะถามว่า "ทำไมถึงเกิดขึ้น" วิธีการดังกล่าวมีผลคือ

    ทำให้พนักงานช่วยกันหาสาเหตุและวิธีป้องกันแก้ไข แทนที่จะซัดทอดหรือกล่าวโทษกัน

    ซึ่งมีแต่จะทำให้แตกความสามัคคีกันมากขึ้น ในเวลาไม่นานโรงกลั่นก็แทบไม่มีอุบัติเหตุเลย

    [​IMG] กำไรก็เพิ่มมากขึ้น จนมีสถานะมั่นคง[​IMG]

    ส่วนพนักงานก็ทำงานอย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม

    คงไม่มีคำถามใดสำคัญเท่ากับคำถามเกี่ยวกับชีวิตจิตใจของเราเอง

    ถ้าเราเริ่มรู้สึกเหนื่อยอ่อนกับการถามตัวเองไม่รู้จบว่า "เมื่อไหร่ฉันถึงจะรวยเสียที"

    ลองเปลี่ยนมาเป็นคำถามว่า "เมื่อไหร่ฉันถึงจะพอใจกับความรวยของฉันเสียที"

    [​IMG] ลองเหลียวดูรอบตัวเถิด ตอนนี้คุณอาจร่ำรวยอยู่แล้วก็ได้ แต่ยังไม่พอใจเสียที

    เพราะเอาแต่ชะเง้อมองคนอื่นที่รวยกว่า แต่ถึงแม้คุณจะยังไม่รวย

    พยายามบ่มเพาะความพอใจในสิ่งที่ตนมี แล้วคุณจะพบกับความรวยชนิดที่ไม่มีใครมาแย่งชิงได้

    แม้จะอิจฉาตาร้อนจนลุกเป็นไฟก็ตาม

    [​IMG]
    [​IMG]
     
  2. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047

แชร์หน้านี้

Loading...