คำทำนายของเด็กชายปลาบู่ (อาจ) ไม่ได้หมายถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2554

หากท่าน Leeporter ...เชื่อว่า...แกโกหก...เสียแล้ว

ก็ไม่มีประเด็นที่ต้องค้นคว้า...ข้อมูล...ต่อไปครับ

แต่หาก...เราเริ่มต้นเรื่อง...ว่า...ข้อมูลนี้มีกว่า 30 ปี...อันนี้ถึงจะน่าค้นคว้าต่อ เช่น

- คุณยายและชาวบ้าน...บอกว่า...แกพูดมากว่า 30 ปี (ในคลิบช่อง 7)

- ในปี 1992 แกเขียนรูป...กระเพาะหมู...อธิบายเรื่องการแก้ปัญหาน้ำท่วม (ในคลิบช่อง 7)

ขอบคุณที่สนทนากัน...นะครับ

.

 

แสดงว่าท่านกำลังเข้าใจจุดยืนของผมผิดครับ
กาลามสูตรที่หลายคนชอบอ้างนั้นพระพุทธองค์ท่านสอนว่าไม่ให้ด่วนเชื่อ

ผมจึงไม่ใช่กลุ่มคนที่ด่วนสรุปเชื่อว่าปลาบู่เป็นเรื่องจริง
และก็ไม่ใช่กลุ่มคนที่ด่วนสรุปเชื่อว่าปลาบู่เป็นเรื่องไม่จริง
ผมไม่ได้สุดโต่งด้านใดด้านหนึ่ง

การที่ผมวิเคราะห์ถึงการตีความว่าอาจจะผิดพลาดนั้น
เพราะผมเห็นเป็นเรื่องที่เห็นได้เด่นชัด วิเคราะห์ง่าย
แต่แปลกใจที่ในตอนนั้นไม่มีใครพูดถึงเลย
(ลองดูจากวันที่ของการโพสต์ข้อความนะครับ)

ที่ว่าวิเคราะห์ได้ง่ายเนื่องจากเป็นแค่เพียงการวิเคราะห์จากคำพูดและการตีความ
เราก็ลองตั้งสมมุติไว้ทางหนึ่งก่อนว่าถ้าเรื่องเด็กชายปลาบู่เป็นเรื่องจริง
คำว่าสมมุติก็บอกอยู่แล้วว่ายังไม่แน่นอนว่าจะจริงหรือเปล่า
เป็นเรื่องต้องรอการพิสูจน์

ส่วนประเด็นเรื่องว่าเด็กชายปลาบู่พูดจริงหรือเปล่านั้น
มันเป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ยาก เพราะเหตุการณ์ก็ล่วงเลยมานาน
ผมไม่มีความสามารถที่จะวิเคราะห์ได้ครับ

เรื่องผ่านมาตั้ง 38 ปี เทปก็ไม้่ได้บันทึกไว้
การวิเคราะห์ก็เพียงทำได้ แค่สงสัยว่าคนนั้นคนนี้อาจจะโกหก
สุดท้ายสรุปได้แค่เพียงว่า "ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเด็กชายปลาบู่พูดจริง"
ซึ่งนั่นก็ไม่ได้เป็นหลักฐานยืนยันว่า "เด็กชายปลาบู่ไม่ได้พูด"

การพิสูจน์นั้นหนักแน่นจริงจังกว่าการวิเคราะห์
ต้องลงพื้นที่จริง ๆ รวบรวมข้อมูลหลักฐานจริง ๆ
ไม่ใช่การนั่งอยู่หน้าแป้นคีย์บอร์ดแบบนี้
เอาเข้าจริง ๆ แล้ว พวกเราที่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ต่างก็เป็นเพียงคนที่คาดคะเนเอาอย่างมีหลักการแต่ไม่ได้มีหลักฐาน

อันที่จริงโดยส่วนตัวผมไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าปลาบู่จะพูดเองหรือเปล่า
เพราะไม่ได้ต้องการหรือมีหน้าที่จะจับผิดหรือจับโกหกใคร
เรื่องติดกระดุมเม็ดแรกผิดจึงอาจไม่สำคัญกับผมแต่ควรใช้กับการสืบสวนคดี
เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ ที่จะต้องพิสูจน์ ไม่ใช่วิเคราะห์

หน้าที่ของผมคือการเตือนเรื่องภัยพิบัติ
และแก้ไขความเข้าใจผิดเกี่ยวกับธรรมะบางประการ
เท่าที่ผมจะมีสติปัญญาและความสามารถทำได้

ในความเห็นของผมถ้าเด็กชายปลาบู่ไม่มีตัวตน หรือเด็กชายปลาบู่ไม่ได้พูด
หรือคุณลุงทองใบมีเจตนาแต่งเรื่องหลอกลวง
ผมก็ถือว่ากรรมเป็นของคุณลุงทองใบที่จะต้องรับไป
เพราะผมเชื่อในกฏแห่งกรรม และเชื่อว่าเจตนาคือกรรม

การจะเชื่อเรื่องเด็กชายปลาบู่ไว้บ้างก็ไม่เห็นจะเสียหาย
เช่นเตรียมพร้อมอุปกรณ์ยังชีพไว้
รัฐควรติดตั้งสัญญาณเตือนภัยหรือตรวจเช็คว่ามันยังทำงานได้ไหม
อบรมให้ความรู้ประชาชนในการเตรียมตัว ให้ความรู้ว่าไม่ต้องตื่นตระหนก
ซักซ้อมการอพยพ ทำแผนที่ตำแหน่งที่ปลอดภัย จำลองสถานการณ์ว่าน้ำจะไหลไปทางใด
พากันสวดมนต์ข้ามปี เร่งรัดการปฏิบัติธรรมและอื่น ๆ
คงดีกว่าการไม่เชื่อแล้วไปจัดงานรื่นเริงกันบนเขื่อน หรือบอกประชาชนว่า " เอาอยู่ "

การไม่เชื่อเรื่องเด็กชายปลาบู่ ผมเห็นมีข้อดีเท่าที่นึกได้ก็คือ สบายใจดี
หลงระเริงไปกับโลก มุ่งหน้าตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินให้ร่ำรวยมาก ๆ

แต่จากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เช่น รอยเลื่อนแผ่นดินไหว สถิติการเกิดแผ่นดินไหวในบริเวณใกล้เคียง
ปรากฏการณ์พายุสุริยะที่จะเกิดในช่วงปลายปี 2555 จนถึง กลางปี 2556
ประกอบกับข้อมูลที่นอกเหนือจากวิทยาศาสตร์อื่น ๆ อีกมากมายคอยเตือนว่าเราต้องไม่ประมาท

ขอถามนะครับ ใครที่เข้าวัดปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะสายปฏิบัติ สายพระป่า
สายกรรมฐาน แล้วครูบาอาจารย์ไม่มีเตือนให้ระแคะระคายเรื่องภัยพิบัติบ้าง
ผมว่าหายากมาก ๆ ครับ นอกจากท่านไม่เข้าวัดแนวปฏิบัติเลย

ในทางกลับกันถ้าเกิดว่าเด็กชายปลาบู่พูดไว้จริง แล้วเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นจริง
แต่พวกเราตีความผิดพลาด หรือประมาทไป
หากวันนั้นมาถึงผมไม่รู้ว่าท่านและผมจะรู้สึกผิด หรือได้มีโอกาสรู้สึกผิดไหม

ผมไม่เห็นว่าตัวเองจะมีความรู้สึกดีใจหรือรู้สึกภูมิใจตรงไหนที่จับผิดพ่อปลาบู่ได้
แต่ผมจะดีใจและภูมิใจมากที่บทความหรือคำเตือนของผมกระตุ้นเตือนให้หลาย ๆ คน ไม่ประมาท เร่งปฏิบัติธรรม
และไม่เผลอไปปรามาส (ถ้าเด็กชายปลาบู่เป็นเรื่องจริง)

การไปมัวจับผิดผู้อื่นมีแต่ขาดทุนกับเท่าทุน ที่ได้กำไรนั้นไม่เห็นมี
แต่การไม่ประมาท ระลึกถึงความตายเป็นมรณานุสติ เร่งปฏิบัติธรรมนั้นมีแต่กำไร


.
.

 

อ้าว คุณ ZZ, แหงหล่ะ ก็ผมเชื่อว่าแกโกหกหน่ะสิครับ
หากผมเชื่อเหมือนคุณ ZZ ว่าแกไม่ได้โกหก แล้วเราจะมานั่ง discuss กันทำไม ให้เมื่อยตุ้ม???? :d

งั้นผมพูดบ้างว่า

หากท่าน ZZ ...เชื่อว่า...แกไม่โกหก...เสียแล้ว

ก็ไม่มีประเด็นที่ต้องค้นคว้า...ข้อมูล...ต่อไปครับ

คุณ ZZ อย่ามองเอาตนเองเป็นหลักสิครับ

มีหลักฐานอะไรบ้างครับว่าแกพูดทุกเรื่องมาตั้งแต่ 30 กว่าปีที่แล้ว?

ทำไมแกต้องใช้ ค.ศ. ครับ? ไหนว่าไม่มีความรู้?

โครงการคลองลัดโพธิ์เริ่มในปี 1995

ทราบได้อย่างไรว่าแกไม่ได้มาเขียนเอาในปี 1995 หรือหลังจากนั้น?

ตอนที่แกวาดรูป ทำไมต้องเขียนปี ค.ศ. ที่วาดลงไปด้วย?

แกมีอนาคตหยั่งรู้หรือว่าในปี 1995 จะมีโครงการคลองลัดโพธิ์และจะมีคนมาทักว่าแกทำนายหลังจากมีโครงการแล้ว แกจึงต้องระบุวันที่วาดรูปลงไปด้วย????

มันจับโกหกกันได้ง่ายมากครับ

เพียงแต่คุณ ZZ เชื่อเสียแล้ว และคอยจะหาหลักฐาน (ที่ไม่สามารถพิสูจน์วันเวลาได้) มาแก้ตัวให้แก

คุณ ZZ เลยมองไม่เห็นพิรุธมากมาย

 

ก็ผมกำลังจะบอกว่ามันเป็นเรื่องเท็จ เป็นเรื่องที่พ่อปลาบู่แต่งขึ้นมา

คุณ Karan ไม่ให้ผมจับผิดแล้วจะให้ผมไปทำอะไรหล่ะครับ???

วิ่งหาที่หลบภัยหรือ?

จะให้ผมไปพยายามตีความเรื่องเท็จ มันทำได้ยังไงครับ??

ก็ถ้ามันเป็นเรื่องเท็จเสียแล้ว มันก็ไม่มีการตีความผิดให้ต้องวิเคราะห์

ถูกไหม

ผมไม่ได้รู้สึกภูมิใจตรงไหนหรอก ที่ไปจับผิดเขาได้

คุณ Karan มองว่ามีแต่ขาดทุนกับเท่าทุน เพราะไม่ได้มองในแง่เวลาทีเสียไปไง

หากคุณมองในแง่ "เวลาที่เสียไป" การสรุปว่ามันเป็นเรื่องเท็จเสียตั้งแต่ขั้นแรก ก็ไม่ต้องไปเสียเวลาในการตีความให้ถูก มันไม่ใช่การกำไรเวลาหรือ?

 

บางทีการที่เราหันมามองตัวเองบ้าง แทนที่จะมองแต่คนอื่นๆว่าเป้นอย่างนั้นอย่างนี้ ตามอัตโนมติของตนเอง แต่ไม่เคยมองตัวเองเลย ควรจะคิดว่าว่าควรจะเสี้ยมสอนตนเองได้หรือยัง หรือมากพอแล้ว....พูดกลางๆแล้วแต่จะตรงกะใครๆ

 

ครับ....ดังนั้นผมเชื่อว่าเราต่างก็คงทราบจุดยืนของแต่ละคนแล้ว

เราสามารถเห็นต่างกันได้ครับ และต่างก็ทำหน้าที่ของตนอย่างเป็นมิตรที่ดีต่อกัน
ท่านก็ทำหน้าที่ของท่านต่อไป แต่ผมอาจทำหน้าที่ของผมนี้อีกไม่นาน
ส่วนผู้อ่านจะเลือกรับสิ่งใดไปใช้ประโยชน์ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่าน

มองในแง่ 'เวลาที่เสียไป' วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว อีกไม่นานก็กลางปี อีกไม่นานเท่าไหร่ก็สิ้นปี
เราอาจเหลือเวลาอีกไม่นานแล้วครับ....ขอทุกท่านเป็นผู้ไม่ประมาท

 

ตามความเข้าใจส่วนตัวนะคะ เหตุมันเกิดแน่ แต่มันไม่เกิดตามคำบอกเล่าหรอก เพราะคนที่เชื่อแล้วหนีภัยไปมันก็มี เพราะงั้น รอจนกระแสดาวน์ แล้วเลิกเชื่อนั่นแหล่ะ คงได้เจอกัน

อยู่ที่ไหนอย่าได้ลืมว่ากายตนเองประกอบจากขันธ์ 5 ทุกหนแห่ง แค่นี้ก็ไม่ถือว่าประมาทในชีวิ

 

สวัสดีครับคุณมู ความจริงผมคิดว่าจะเข้ามาเขียนแค่ครั้งเดียว แล้วจะไม่เขียนอะไรอีก ถ้ายังไม่มีข้อมูลใหม่ๆ และจะไม่ตอบโต้การเขียนตําหนิ หรือมาด่าว่าการเขียนของผม ถ้าคนที่เขียนตําหนิผมมีเหตุผลมากพอและถูกต้อง ไม่ได้เขียนด้วย อารมณ์

 

สวัสดีครับคุณมู ความจริงผมคิดว่าจะเข้ามาเขียนแค่ครั้งเดียว แล้วจะไม่เขียนอะไรอีก ถ้ายังไม่มีข้อมูลใหม่ๆ และจะไม่ตอบโต้การเขียนตําหนิ หรือมาด่าว่าการเขียนของผม ถ้าคนที่เขียนตําหนิผมมีเหตุผลมากพอและถูกต้อง ไม่ได้เขียนด้วย อารมณ์

ในกรณีของคุณมู ความจริงผมจะปล่อยผ่านเลยไปก็ได้ แต่ที่ผมต้องเขียนตอบก็เพราะอยากอธิบายให้ผู้อ่านบทความที่ผมเขียนเกิดปัญญา ผมขอเขียนเพิ่มเติมอีกครั้ง แล้วไม่ว่าคุณมูหรือท่านอื่นจะมาเขียนตําหนิผมหรือด่าผมอีก ผมจะไม่เขียนอะไรตอบอะไรอีกแล้ว ผมจะถือว่าผมทําหน้าที่ของผมดีที่สุดแล้ว และสิ้นสุดแล้ว ตัวอย่างเช่น เพื่อนสนิทผมที่ดื่มเหล้า ผมจะแนะนําว่าโทษของเหล้าทั้งในทางโลกและทางธรรมเป็นอย่างไร ผมจะพูดบอกเขาแค่ 2 ครั้ง จะไม่พูดเป็นครั้งที่ 3 ไม่ว่าเขาจะหยุดดื่มหรือดื่มต่อ ผมถือว่าผมทําหน้าที่เพื่อนที่ดีแล้ว ชีวิตใครก็ชีวิตใคร กรรมของใครก็ของใคร

ก่อนเข้าเรื่อง ขอให่อ่านที่ผมเขียนอีกครั้ง ผมเริ่มว่า ถ้าเรื่องที่คุณลุงทองใบเล่า เป็นเรื่องจริง ผมเชื่อว่า ดช ปลาบู่ คือพระโพธิสัตว์ศรีอริยเมตตรัยจริง และคนแถวบ้านคุณลุงทองใบ ก็เคยได้ยินเรื่องนี้มานานเป็น 10 ปี แล้ว ดังนั้นเรื่องที่คุณลุงทองใบเล่าน่าจะเป็นเรื่องจริง ขอให้คุณไปอ่านนิตยสารผู้จัดการรายสัปดาห์ฉบับที่หน้าปกเป็นรูป ดช ปลาบู่ จะมีการไปสอบถามคนแถวนั้นมาด้วย

คราวนี้มาตรงประเด็นที่คุณมูเขียนมาเอาเป็นรายบรรทัดเลยแล้วกัน

คุณมูเขียนว่า " สรุปว่ายังบ้ากันไม่เลิก ยังไงๆก็ต้องลุ้นให้มันเกิดขึ้นให้ได้ใช่ไหม " ผมขอตอบว่า ผมไม่ได้บ้า และไม่ได้ลุ้นให้เขื่อนแตก แต่เข้ามาเขียนวิเคราะห์ว่า ถ้าเขื่อนจะแตกตามคําทํานาย น่าจะแตกช่วงวันไหน แม้แต่คุณลุงทองใบก็พูดในวิดิโอว่า ไม่ได้อยากให้เขื่อนแตก และถ้าไม่เป็นไปตามคําทํานายก็ดี และผมคิดว่าไม่มีใครอยากให้เขื่อนแตกแน่นอน

คุณมูเขียนว่า "ถามหน่อยเถอะ ถ้าเชื่อว่า ปลาบู่เป็นพระศรีย์จริงๆ แล้วเวลานี้พ่อปลาบู่ออกจากคุกหรือยังนี่ " ผมตอบว่า คุณลุงทองใบ คําสี คุณพ่อของ ดช ปลาบู่ เซ็นรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว เมื่อ 31 ธค 54 แต่เรื่องติดคุก ผมยังไม่เห็นข่าวที่ไหนลงว่าคุณลุงติดคุกอยู่ครับ แต่ถ้าติดคุกจริงก็ขออภัย และโปรดนําข่าวการติดคุกมาให้อ่านด้วยครับ

คุณมูเขียนว่า " เฮ้อ!เป็นถึงพระผู้โปรดสัตว์โปรดโลก พ่อตัวเองยังไมีปัญญาช่วยไม่ได้เลย แล้วจะช่วยสัตว์ช่วยโลกได้หรือนี่ " ผมตอบว่า
อยากให้คุณมู ไปอ่านหนังสือเรื่องพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าให้ละเอียด ท่องแท้ก่อน รวมถึง 10 ชาติสุดท้ายก่อนที่พระองค์จะมาตรัสรู้ว่าเรื่องในแต่ละชาติเป็นอย่างไร ผมจะเล่าเรื่องย่อๆให้อ่านแล้วกัน ชาติที่ 8 ก่อนพระองค์ตรัสรู้ ชื่อ สุวรรณสาม เกิดเป็นลูกของฤาษีชายหญิงชื่อทุกูล กับ ปาริกา เมื่อสุวรรณสามอาบุ 16 ปี บิดามารดา ไปหาอาหารในป่าแล้วโดนงูเหาพ่นพิษใส่ตาจนตาบอด 2 ข้างทั้งบิดา มารดา แต่สุวรรณสาม ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์สมณโคดม ก็ไม่สามารถช่วยให้บิดามารดา หายจากตาบอดได้ แต่สุวรรณสามก็ได้เลี้ยงดู บิดามารดาเป็นอย่างดี จนวันหนึ่งสุวรรณสามก็ถูกพรานป่ายิงธนูใส่จนเสียชีวิตเพราะเข้าใจผิด แต่ด้วยบุญบารมีเดิมของสุวรรณสาม ของแม่ในชาติก่อน และของพ่อแม่ที่เป็นฤาษี ได้อธิฐานด้วยบุญฤทธิ์ทําให้สุวรรณสามฟื้นขึ้นมาได้

ต่อมาชาติสุดท้ายก่อนตรัสรู้ เกิดเป็นลูกกษัตริย์ชื่อพระเวสสันดร ทรงบริจาคทานเพือ่สร้างบารมี มีชูชกมาขอลูก กัณหา ชาลี แต่กัฌหา ชาลี ไม่ยอมไปกับชูชก ชูชกก็เฆี่ยนตี กัณหา ชาลี ต่อหน้าพระเวสสันดร แต่พระเวสสันดรก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ ได้แต่สงสารลูก ยืนดูด้วยความเศร้าเสียใจจนนําตาไหล

ต่อมาในขาติ ที่ทรงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ก็ถูกพระเทวทัตกลิ้งหินใหญ่จากเขา จนเกิดสะเก็ดหินกระเด็นโดนเท้าห้อเลือด

และตระกลูศากยวงศ์ที่เป็นพระญาติของพระพุทธเจ้า ก็โดนพระเจ้าวิฑูฑภะซึ่งมีเชื้อสายศากยวงศ์เหมือนกันเป็นผู้ทำลายพระญาติหลายองค์ และทําลายกรุงกบิลพ้สด์ พระพุทธเจ้าทรงเสค็จไปห้ามทัพของพระเจ้าวิฑูฑภะได้ 7-9 ครั้ง แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถห้ามได้

สรุปคือ ถึงจะเป็นพระโพธิสัตว์ที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทําหรือช่วยคนทุกคน ทุกเรื่องได้ ถ้าทําได้ ดช ปลาบู่คงจะไปดามเขื่อนด้วยรางเหล็กรถไฟให้แล้ว แต่ทําได้แค่มาเตือน เพราะทุกอย่างมี กรรม เป็นตัวกําหนด

คุณมูเขียนว่า " แล้วกาลามสูตรที่พระพุทธเจ้าสอนว่าไม่ให้เขื่ออะไรง่ายๆ ท่านหมายถึงเวลาให้เชื่อในความสมเหตุสมผล ถ้าแปลง่ยๆเลย เวลาจะเชื่ออะไร ให้ตรึกตรองให้ถี่ถ้วนก่อน แล้วปัจฉิมโอวาสของพระพุทธเจ้า ที่ว่า " จงดํารงตนให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท " มันคนละเรื่องกันนะ " ผมตอบ ความไม่ประมาท นี้หมายถึงไม่ประมาทในทุกเรื่อง ใช้ได้กับทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องที่คุณลุงทองใบ เล่า ก็ควรฟังด้วยความไม่ประมาท ถ้าไม่เชื่อก็ต้องเข้าไปค้นคว้าหาเหตุผล ว่าไม่เชื่อมีเหตุผลอะไร
แล้วถ้าเชื่อมีเหตุผลอะไร

คุณมูเขียนว่า " ให้ตรึกตรองให้ถี่ถ้วนก่อน แล้วปัจฉิมโอวาสของพระพุทธเจ้า ที่ว่า " จงดํารงตนให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท " มันคนละเรื่องกันนะ ตัวอย่าง คนกับหมาเป็นสัตว์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คนกับหมาจะเหมือนกันนะครับ " ผมตอบ ที่ผมเขียนเรื่องความไม่ประมาท นี่คือเรื่องเดียวกัน กับเรื่องคําทํานาย แต่เรื่องที่คุณมูเขียน คนกับสัตว์ อันนี้ต่างหากที่คนละเรื่อง ไม่เห็นมีอะไรเกี่ยวกันเลย


คุณมูเขียนว่า " เฮ้อ!ยิ่งอ่านยิ่งคิดตูยิ่งกลุ้ม!กุ้มจายไม่ โลกหนอทำไมถึงมีคนเพี้ยนเช่นนี้หนอ " ผมตอบ การที่คนมีความคิดเห็นไม่เหมือนเรา และเขามีเหตุผลสนับสนุน อ้างอิง ไม่ได้แปลว่าเขาเพี้ยน นอกจากเขาเขียนเรื่องที่เห็นขัดแล้วว่าไม่มีทางเป็นจริง ค่อยไปเรียกเขาว่าเพี้ยน เช่น ถ้ามีคนมายืนคุยกับคุณมู แล้วเขาพูดว่า ตอนนี้ตัวเขามีทหารพม่ามาตามฆ่าเป็นพันๆคน ทั้งๆที่จริงๆไม่มี แบบนี้ค่อยเรียกว่า เพี้ยน ครับ
แต่เรื่องคําทํานาย ไม่ใช่เพี้ยน ชื่อก็บอกแล้ว ว่าเป็นคําทํานาย ไม่ได้บอกว่าเป็นเรื่องที่จะเอาเป็นเอาตายว่าจะต้องเกิด แต่เป็นการเตือน ให้ระวังว่า มีการทํานายแบบนี้ ไม่เชื่อก็ไม่เชื่อ ไม่เห็นจะต้องกลัวอะไร ส่วนคนเชื่อ เขาก็เตรียมตัวหาทางป้องกัน ก็แค่นี้เอง

แล้วผมขอแนะนําคุณมู ด้วยความปรารถนาดี ไปกล่าวคําขออโหสิกรรมต่อพระรัตนตรัยด้วยครับ


ส่วนเรื่อง ทิพยจักษุญาน การมองเห็นภาพในอนาคต มีจริงแน่นอน แต่ภาพจะชัดเจน มากหรือน้อย แม่นยํา ทั้งภาพและเวลา มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับระดับพลังสมาธิและระดับของญานของท่านนั้นๆ


ท้ายนี้ ผมอโหสิกรรมให้คุณมู ที่ว่าผมบ้าไม่เลิก ผมไม่โกรธ ไม่จองเวร และขอให้คุณมู จงมีความสุข ปลอดภัยจากภัยต่างๆ ขอให้กรรมที่ผมมีต่อคุณมู จงสิ้นสุดในชาตินี้ อย่าได้มีการต้องมาพบเจอกันอีก อย่าได้มีกรรมต่อกันอีกทุกภพทุกชาติครับ

และผมจะไม่เขียนตอบอะไรกับคุณมูอีกแล้วนะครับ ถึงแม้คุณมูหรือท่านอื่นจะเขียนตําหนิหรือด่าผมอีกรอบ ผมจะไม่เขียนตอบอะไรอีกแล้ว หมดหน้าที่ผมแล้วครับ แล้วผมอโหสิกรรมเผื่อให้อีกครั้งเลยครับ


ข้างล่างนี้ สําหรับท่านที่ติดตามเรื่องคําทํานาย

ผมคิดว่าจะไปที่เขาสอยดาว เพื่อหาข้อมูลจากคุณลุงทองใบ และชาวบ้านใกล้ๆแถวนั้น ในเดือน กพ หรือ มีค ถ้ามีเวลาว่างพอ ถ้าได้ไปจริงจะมาเขียนข้อมูลให้อ่านกันครับ

Paul 711

http://www.gold2gold.com/webboard/index.php/topic,75.new.html#new

 

แอบกรี๊ดคุณ Paul711 เบาๆฮ่ะ

 

ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ติดตามกระทู้ต่างๆในเวปนี้มานาน รวมทั้งคลิป...(ปลาบู่) ดิฉันมีความเห็นว่าคนที่อ่านในกระทู้ต่างๆในแต่ละวันมีมากมาย หลายๆคนเชื่อ เตรียมตัวเตรียมพร้อมและมองแนวทาง ถ้าหากเกิดเหตุการณ์จริงเกิดขึ้นเราจะรับมืออย่างไร หลายๆคน(รวมทั้งดิฉัน) เมื่อรับข่าวสารหรือเหตุการณ์ที่เตือนมาแล้ววิเคราะห์ความเป็นไปได้แต่ก็ตั้งตนไม่ให้ประมาท แล้วคุณคิดว่าเหตุการณ์ทางธรรมชาติในปัจจุบันนี้มันปกติหรือคะ? น้ำแข็งขั้วโลกที่มันละลายคุณว่ามันไม่มีผลต่อโลกเหรอคะ? ดิฉันว่านะคะ...ถ้าหากใครไม่เชื่อไม่เห็นด้วยก็ออกไปจากกระทู้นี้เถิดนะคะคุณก็ไปอยู่ในที่ๆคุณชอบและมีความสุขเถอะนะคะ เพราะ มันเหมือนการมาทะเราะกันว่าไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน
ไม่มีใครชนะหรอกนะคะเพราะมันเป็นการมองต่างมุม คุณรู้มั้ยคะว่ายังมีคนอีกมากมายที่เฝ้าติดตามสถานการณ์และข้อมูลข่าวสารทั้งทางวิทยาศาสตร์ทางสายธรรมที่มีคำเตือนมาให้เราดำรงตนอยู่โดยไม่ประมาท พระท่านสอนและเตือนให้เราเร่งทำความดีเร่งปฏิบัติ และทุกๆท่านมาเอนก็ไม่ได้มาขอเรี่ยไรเงินทองไม่ใช่หรือคะ เพราะฉนั้นคุณอย่าไปว่าลุงทองใบท่านเลย เพราะถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆคุณจะไม่มีโอกาสพูดคำว่า...ขออภัย

 

ข้างล่างนี้ สําหรับท่านที่ติดตามเรื่องคําทํานาย

ผมคิดว่าจะไปที่เขาสอยดอย เพื่อหาข้อมูลจากคุณลุงทองใบ และชาวบ้านใกล้ๆแถวนั้น ในเดือน กพ หรือ มีค ถ้ามีเวลาว่างพอ ถ้าได้ไปจริงจะมาเขียนข้อมูลให้อ่านกันครับ[/QUOTE]

หนึ่งเสียงขอให้กำลังใจและขอปรบมือดังๆให้ค่ะ
;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ

 

ท้ายนี้ ผมอโหสิกรรมให้คุณมู ที่ว่าผมบ้าไม่เลิก ผมไม่โกรธ ไม่จองเวร และขอให้คุณมู จงมีความสุข ปลอดภัยจากภัยต่างๆ ขอให้กรรมที่ผมมีต่อคุณมู จงสิ้นสุดในชาตินี้ อย่าได้มีการต้องมาพบเจอกันอีก อย่าได้มีกรรมต่อกันอีกทุกภพทุกชาติครับ

อ้าว..ใครที่คิดว่าตัวเองไม่บ้าก็เรียญเชิญให้ไปอยู่ในที่ๆคุณควรอยู่เถิดอย่าได้มายุ่งเกี่ยวกับพวกเราเลย(อย่าเถียงกันกับคนที่คุยกันคนละเรื่อง..เพราะคุณจะไม่ชนะ)

 

ถ้าใครคิดว่า...เราบ้า เรางมงาย เราโง่ที่หลงเชื่ออะไรง่ายๆเกินไป ขาดสติ จนปัญญา ต่างๆนานาน แต่ถ้าถึงวันนั้น แล้ว รอด ...เราจะยอมบ้าต่อไป ...ใครจาทำมายยยย

 

คำทำนายเด็กชายปลาบู่ เป็นกรณีศึกษา การเตรียมการป้องกันรับมือภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น ทุกคนควรรับทราบข่าวสารภัยธรรมชาติ กันไว้ดีกว่าแก้ ป้องกันก่อนที่วัวจะหาย เมื่อไหร่จะเอาเหล็กรางรถไฟไปเสริมสันขอบเขื่อนเพื่อให้แข็งแรง

 

ผมไปมาแล้วครับ เมื่อวันอังคารที่ 27 ธ.ค. 54

หนึ่งเสียงขอให้กำลังใจและขอปรบมือดังๆให้ค่ะ
;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ[/QUOTE]

ผมไปมาแล้วครับไปกับพี่ที่เขาเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อคง วัดเขาสมโภชน์ครับ ได้รู้อะไรเพิ่มเติมมาอีกหลายอย่างทั้งด้านบวกและด้านลบ
ผมขับรถไปเช้าเย็นกลับครับ ตอนขับรถไปกว่าจะเลี้ยวเข้าไปได้เล่นเอาเหนื่อย ขับวนไปวนมาอยู่สามรอบ สมกับชื่อที่เขาตั้งไว้เลยว่า สำนักสงฆ์เขาลับแล

 

ผมไปมาแล้วครับไปกับพี่ที่เขาเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อคง วัดเขาสมโภชน์ครับ ได้รู้อะไรเพิ่มเติมมาอีกหลายอย่างทั้งด้านบวกและด้านลบ
ผมขับรถไปเช้าเย็นกลับครับ ตอนขับรถไปกว่าจะเลี้ยวเข้าไปได้เล่นเอาเหนื่อย ขับวนไปวนมาอยู่สามรอบ สมกับชื่อที่เขาตั้งไว้เลยว่า สำนักสงฆ์เขาลับแล[/QUOTE]
--------------------------------------------------------------------------------------

สวัสดีครับคุณ poon-pon
ช่วยเขียนให้อ่านได้มั๊ยครับทั้งด้าน + และ - บวกอย่างไร ลบอย่างไร ครับ
ผมจะได้ไปหาข้อมูลเพิ่มทั้ง 2 ด้าน เวลาผมไปเขาสอยดาว

Paul711

 

ติดตามข้อมูลเรื่องภัยพิบัติจากเวปนี้มาตลอด แต่พึ่งจะสมัครสมาชิกค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้คนที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการเตรียมตัวรับมือกับภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้น เพราะทุกวันนี้โลกได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว สิ่งไหนที่ไม่เคยเกิดก็อาจจะเกิดขึ้นได้ ยกตัวอย่างกรณีเกิดสึนามิภาคใต้ ภาพของความสูญเสียยังคงจดจำได้อย่างติดตา ทั้ง ๆ ที่ได้มีการเตือนภัยจากผู้รู้ แต่คนก็ยังประมาทในการใช้ชีวิต ประสบการณ์ที่ผ่านมาจะเป็นครูสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะทำอย่างไร ในกรณีของปลาบู่เอง เป็นเพียงการเตือน แต่ไม่ได้บังคับให้คนเชื่อ หรือไม่เชื่อ คนที่มีสติ เมื่อรับข้อมูลข่าวสารแล้ว ก็ควรจะพิจารณาต่อไปว่าโอกาสหรือเหตุการณ์ดังกล่าว มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ข้อมูลต่าง ๆ หาได้จาก google ข่าวการเปลี่ยนแปลงของระบบธรรมชาติทั่วโลก มีเหตุการณ์อะไรบ้าง ข้อมูลการเกิดแผ่นดินไหว ทางภาคเหนือเกิดถี่ขึ้น ทราบกันหรือเปล่า เหตุใดเมื่อปลายปีที่ผ่านมาน้ำถึงท่วมมากขนาดนั้น ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

หากดิฉันเป็นคนจังหวัดตาก ดิฉันคงจะผลักดันให้ทาง การไฟฟ้า หามาตรการอะไรที่จะสร้างควา<WBR></WBR>มเชื่อมั่นให้กับชาวบ้าน มากกว่าคำยืนยันว่าเขื่อนแข็ง<WBR></WBR>แรง รองรับได้ 7 ริกเตอร์ แล้วถ้ามันเกิดรุนแรงกว่านั้น<WBR></WBR>ล่ะ มีแผนรองรับเรื่องนี้หรือยั<WBR></WBR>ง อีกอย่างปลายปีที่ผ่านมาเขื่อนก็รับน้ำไว้จำนวนมาก ซึ่งก็ไม่เคยรับมากแบบนี้มาก่อน ถ้ามันเกิดขึ้นจริงไม่ว่าจะเกิดจากแผ่นดินไหว หรือการรับน้ำที่มีปริมาณมากเกินไป คุณจะสามารถรับผิดชอบชีวิตและความสูญเสียเหล่านั้นได้ไหวเหรอค่ะ เหมือนที่น้ำท่วมที่ผ่านมา รัฐบาลไม่เคยมีการวางแผนรองรับเหตุการณ์ต่าง ๆ ไว้ก่อนจึงเกิดความเสียหายมากมายอย่างนี้ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ หรือเวลามาพิสูจน์ความจริงที่มันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมา แต่เราควรจะคิดว่า ถ้ามันเกิดอย่างนั้น อย่างนี้แล้วเราจะมีหนทางหรือวิธีการรับมืออย่างไรมากกว่า

 

เบื่อไอ้พวกที่อวดรู้ อวดฉลาดจริงๆ คนอื่นๆเขาก็ว่ากันไปตามภูมิและธรรมที่เขามี leeo ก็คงคิดว่ากูรู้ ต้องไปให้การศึกษาพวกนี้สักหน่อย บอกตรงๆ เบื่อเอียน พวก psudo intellectual เหมือนจะรู้เยอะ แต่โง่ พวกฉลาด เกิน มันมีทุกยุคทุกสมัยจริงๆ ที่เหมาะกับคนอย่าง leo คือกระทู้พวก พิสูจน์พญานาคไม่มีจริงใน พันทิปเทือกนั้น ฉลาดแบบโลกๆ โง่ในทางธรรม

 

คุณลุงทองใบออกมาเตือน เพื่อจะให้คนได้ตระหนักและเตรียมตัวรับกับสิ่งต่างๆ ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้น ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ คนจะได้หันมามองว่าตอนนี้ธรรมชาติมันได้เปลี่ยนไปแล้ว กลายเป็นว่าลุงแกถูกติดคุก เสียค่าปรับ โดนด่าต่างๆ นานา

ลองกลับไปมองอีกฝั่ง ตอนที่เกิดภัยน้ำท่วมเมื่อปลายปี ใครกันหนอบอกกับประชาชนว่ามั่นใจในสถานการณ์น้ำไม่ท่วม ประชาชนที่ไม่ได้พิจารณาถึงความเป็นไปได้ ก็ชะล่าใจไม่ได้เตรียมตัว ผลออกมาสร้างความเสียหายมากมาย พนักงานชาวบ้านหนีน้ำออกจากนิคมนวครกันอย่างชุนมุน ความเสียหายตามมามากมาย แต่แลกกลับคืนมาด้วยคำว่า ขอโทษ ไม่คิดว่ามวลน้ำจะเยอะมากเพียงนี้ ลองไปดู link นี้กันน่ะค่ะ [ame="http://www.youtube.com/watch?v=ENCFzZ0JTNA&feature=related"]http://www.youtube.com/watch?v=ENCFzZ0JTNA&feature=related[/ame]

ฝากคำสอนของ ท่าน ว.วชิรเมธีไว้เตือนใจหน่อยนะค่ะ

วิธีที่ดีที่สุด “ให้มองปรากฏการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ว่าเป็นครูที่มาเตือนเราให้เราตื่น” เราอาจจะพากันหลับใหลอยู่ในความประมาท พอน้ำไหลบ่ามาปลุกให้เราให้ตื่น มองวิกฤติเป็นครูแล้วอยู่ด้วยกันแบบไม่ประมาท เพราะว่าน้ำมาแต่ละปี ก็จะทำให้เรามีความเชี่ยวชาญในการรับมือมากยิ่งขึ้น


นี่คือมองให้บวก "มองวิกฤติเป็นครูอยู่ด้วยความไม่ประมาท เติบโตจากความผิดพลาด เฉลียวฉลาดขึ้นมาจากความทุกข์ "

พวกที่ไม่ยอมรับฟังคำเตือนจากผู้อื่น

เปรียบเสมือน "กบที่ตกอยู่ในหม้อต้มน้ำ กำลังเพลิดเพลินกับน้ำที่อุ่น ๆ หากรู้ตัวกระโดดออกมาก่อนก็รอด แต่ถ้ายังคงหลงระเริงกับความอุ่นสบาย อีกไม่นานน้ำเดือดก็คงจะไม่มีเรี่ยวแรง กระโดดหนี