คำพูดของเทพเทวดาน่าเชื่อถือได้ขนาดไหน?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย เฮ้งตงเอี๊ยง, 20 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. ป้าแมวดาวพระศุกร์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +3
    ใช่เจ้าค่ะ พวกพระอินทร์ เทวดา สันตดุสิตบุรีนี่แหละเจ้าคะ ตัวดีเลย

    ตัวมาขวางธรรมะของพระพุทธองค์

    พระพุทธองค์ประกาศศาสนาแล้ว ก็ยังไม่เลิกมาขัดขวางอีกนะเจ้าค่ะ

    เที่ยวมาเกณฑ์คนไปทำบุญ ออกห่างพระนิพพาน เอาโพธิสัตว์มาล่อ

    เอาสร้อยส้มตำไก่ย่าง ชุดอลังการมาหรอกคนออกไปจากพุทธเกษตร

    ของพระองค์ มาหลอกให้ทำบุญ แล้วก็จะไปเกิดเป็นเทวดากัน

    กว่าจะกลับมาจุติเบาะๆ ก็สองพันปีโลก ก็เลย 5000 ปีของพระพุทธ

    องค์โคตมแน่นอนเจ้าค่ะ เล่นขวางกันง่ายๆ แบบนี้แหละเจ้าค่ะ เอา

    เรื่องบุญมาหลอกล่อสารพัด เพื่อให้ติดบุญ จะได้ไม่ต้องมุ่งปฏิบัติธรรม

    เพื่อพระนิพพาน ให้ผัดผ่อนนิพพานออกไปไกลๆ

    พวกเทวดามิจฉาทิฏฐิพวกนี้ ต้องฆ่าด้วยสัมมาทิฏฐิให้สิ้นเจ้าค่ะ
     
  2. ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    พวกท่านเชื่อเรื่องอย่างนี้ด้วยหรือ
    แสดงว่าพวกเทวดาชั้นสูง ก็เป็นมารไปหมดนะซิ
    แล้วจะมีเหล่ามารไปทำอะไร ว่างงานหรือไรครับ
    ผมว่าเอาเวลาที่เหลือไปสร้างคุณค่าให้กับสังคมเถอะ
    จงอยู่กับความเป็นจริง ณ ปัจจุบัน
     
  3. นักรบโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +973
    โอ้...กรรมแท้ๆจริงหนอ

    ที่ผมทราบ องค์อินทราธิราชเจ้า เคารพในพระพุทธเจ้าและพระธรรมเป็นที่สุด

    ไหงกล่าวกันอย่างนี้เล่า......อย่าเลย....อย่าทำอย่างนี้เลย
     
  4. k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ผู้ที่ยังถูกกิเลสครอบงำอยู่ ย่อมมีเหตุให้กระทำความผิดได้เสมอ เพราะอวิชชาความไม่รู้ มันบดบังจิตเกิดโลภ โกรธ หลง ครอบงำความคิด ทำให้กระทำการขัดแย้งต่อคุณธรรมส่วนตน และความดีงามส่วนตนได้
     
  5. ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398

    อเวจีนะจ๊ะป้า ถ้าไม่ทราบเรื่องกฎแห่งกรรมดีพออย่าไปหาทางตกนรกเลย ใครเขาทำบุญก็เรื่องของเขา เขาอยากไปสวรรค์ก็เรื่องของเขา แต่ถ้าเราห้ามหรือขัดขวาง นรกแน่นอนจ๊ะ ความคิดแบบนี้ไม่มีแบบอย่างในพระพุทธศาสนา อย่าคิดเอาเอง
    ยกตัวอย่าง สมัยพระเจ้าปเสนทิโกศลสร้างอสทิสทานคือทานที่อลังการยิ่ง ก็มีอำมาตย์สองคน คนหนึ่งคิดว่าเป็นพระราชานี่ดีนะ ได้มีโอกาสทำบุญใหญ่ชนิดคนธรรมดาหมดโอกาสทำ อีกคนคิดว่า พระราชาทำบุญมากอย่างนี้ พระคลังคงร่อยหรอแน่ สิ้นเปลืองเปล่าๆ พระพุทธองค์ทรงทราบวาระจิตของคนทั้งสอง จึงไม่อนุโมทนาบุญของพระเจ้าปเสนทิโกศลอย่างพิสดาร ได้แต่กล่าวคาถาสั้นๆเท่านั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลสงสัยว่าตนคงทำอะไรผิด ภายหลังได้กราบทูลพระพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ก็บอกถึงความคิดของอำมาตย์ทั้งสองให้ทราบ ถ้าอนุโมทนาบุญอย่างพิสดาร อำมาตย์คนที่ติเตียนบุญก็จะศรีษะแตกเป็นเจ็ดเสี่ยง พระราชายินดีในอำมาตย์คนแรกจึงสถาปนาเขาให้เป็นพระราชา 7 วันจะได้สร้างบุญใหญ่ ส่วนอำมาตย์คนที่สองถูกเนรเทศ ซึ่งพระพุทธองค์ทรงพยากรณ์ว่าอำมาตย์คนแรกที่อนุโมทนาก็จะไปสวรรค์ ส่วนอำมาตย์คนที่สองต้องไปตกนรกอีก
    ทุกประเด็นที่ถกเถียงกันในปัจจุบัน มีคำชี้ขาดจากพระพุทธองค์มาหมดแล้ว อย่าไปเชื่อคนที่ถูกเชื่อว่าเป็นปราชญ์แต่ความจริงเป็นพาล ลองพิจารณาจิตตนเองดูว่าตนเองเป็นอย่างอำมาตย์คนไหน ใจมีความชุ่มเย็นหรือรุ่มร้อนเวลาเห็นคนอื่นทำบุญ หลักการที่พระพุทธเจ้าวางไว้ก็คือ ใครทำบุญ เราก็ควรอนุโมทนา แต่ถ้าไม่เลื่อมใสก็ควรเฉยไว้ อย่าคิดว่าคำพูดหรือการกระทำใดๆจะไม่มีผล ทุกการกระทำมีผลทั้งสิ้น แม้บุญบาปเพียงเล็กน้อยก็ย่อมมีผลทั้งสิ้น ใครจะสวรรค์ก็เรื่องของเขา แต่ทำไมเราต้องไปอบายภูมิเล่า
     
  6. สมรปราง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2008
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +263
    โห..โห..พูดถูกใจ..ไม่สนได้ป๊ะ......ไม่สนทั้งนั้นว่าใครจะมาทดสอบ อะไร ไม่สน.....เราก็ อยู่ของเราไป โม้ของเราไป ไม่ขัดข้อง ขัดขวาง

    ....ก็พวกเทพฝ่ายขาวที่นับถือพระพุทธองค์นะจะทำอะไรหรือพูดอะไรก็ต้องมีการขอขมาลาโทษ พูดผิดไป ทำผิดไปด้วยกาย วาจา ใจ เพราะการฟังแล้วเอามาเล่าต่อนั้น ปัญญาไม่ถึงก็เล่าผิดพลาดไปบ้างก็อย่าถือโทษกัน

    จะเปรียบกับมนุษย์อ่านตำราเล่มเดียวกันแท้ๆๆ ยังแปลความหมายไม่เหมือนกันนับประสาอะไรกับการเรียนด้วยการฟังหรือลองประพฤติปฏิบัติดู..จะพูดผิดบ้างทำผิดบ้างก็ไม่แปลก ถ้าเห็นตามนี้ด้วยก็..สาธุ..สาธุ..สาธุ..
     
  7. สมรปราง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2008
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +263
    ....อ่านดูแล้วสนุกดีท่าน...แต่ขอเขียนเรืองใหม่คล้ายๆ กันนะค่ะ.....

    วันนั้นอสูรถูกกักอยู่ไม่มีใครมาช่วย..องค์นเรศวรและร่างมนุษย์สองคนช่วยกันต่อต้านอยู่ (จริงแล้วเป็นร่างทรงองค์เทพทั้งคู่) อสูรพยายามดิ้นรนเพื่อให้รอด ก็ไม่รอด เพราะโดนมนต์กัก 2 ชั้น

    ก่อนหน้านี้อสูรก็ได้แทรกพลังเข้าในทุกสิ่งทุกอย่างและให้คนที่เป็นลูกศิษย์เอามาฝากเพื่อทำลายพระพุทธศาสนา... พอฝ่ายเทพตรวจพบว่าเป็นพลังอสูรจึงทำลายทั้งหมด อสูรก็ไม่ยอมแพ้ก็อัดพลังเข้าอีก หลายรอบ ..ไม่ชนะสักกะที

    สุดท้ายฝ่ายเทพตกลงกันว่าต้องตัดรากถอนโคน...มนุษย์สองคนนั้น + องค์นเรศวรจึงใช้ไฟอัคคีทำลาย โดยการเผา

    องค์เทพหนึ่งในนั้น ก็เริ่มไม่พอใจเพราะอสรูทนไม่ยอมไหม้ไฟก็เลยเรียกใช้มนต์วายุเสริมมนต์อัคคีโหมกระหน่ำเข้าไปเอาให้สิ้นซาก+ทำหน้าที่เปิดอเวจีลึกลงไป 18 ขุมเพื่อไม่ต้องกลับมาทำร้ายมนุษย์หรือพุทธศาสนาอีก

    ...สนุกไหม?แต่คนทำเหนื่อยและถูกผลกระทบเหมือนกัน...
    ต้องเสียสละอย่างสูง..ใช้เวทย์อัคคี + เวทย์วายุก็โดนเวทย์ย้อนกลับเหมือนกัน ..ไม่มีใครเห็นความดี มีแต่โดนว่า...พวกเราก็เลยต้องคอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพราะมนุษย์ธรรมดาพิสูจน์ไม่ได้ นอกจากเทพและอสรูจะรับรู้ถึงการรบพุ่งกันทั้งสองฝ่าย
     
  8. phurithat สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    ้ขอให้เป็นคำพูดที่เป็นความจริง ไม่พูดเท็จผมก้เชื่อหมดทุกคำแล้วครับ สาธุ.....
     
  9. llxE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2008
    โพสต์:
    523
    ค่าพลัง:
    +2,896
    "ทาน ศีล ภาวนา"

    เป็นรากฐานแห่ง
    พระนิพพาน


     
  10. ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398

    ข้อกล่าวหานี้ จำเป็นต้องชี้แจง เพราะสิ่งที่คุณทราบเกี่ยวกับพระอินทร์นั้นผิวเผินยิ่งนัก แต่กลับนำมาก่อกรรมตั้งเป็นข้ากล่าวหาขึ้นมาได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องชี้แจงแก้ข้อหาไปทีละประเด็น

    กรณีแรกคือ วิสัยหเศรษฐี ที่เป็นอดีตชาติของพระบรมโพธิสัตว์ของเราที่สร้างบารมีในหลายกัปป์มาแล้ว พระอินทร์ในยุคนั้นเป็นคนละองค์กับยุคนี้ สมัยนั้นไม่มีพระพุทธศาสนา เทวดาเป็นพาลก็ไม่แปลก เพราะมาจากมนุษย์นั่นเอง กรณีนี้จึงไม่อาจยกมาตั้งเป็นข้อกล่าวหาได้

    กรณีที่สอง เรื่องของสุปปะพุทธะที่ถูกพระอินทร์เอาทรัพย์มาล่อให้กล่าววาจาลบหลู่พระรัตนตรัย จนถูกตะเพิดไล่ พอไปกราบทูลพระพุทธเจ้า ก็ถูกตำหนิอีก พระอินทร์องค์นี้ถือว่าเป็นองค์เดียวกันกับองค์ปัจจุบัน แต่ก็ถือว่าไม่ใช่องค์เดียวกันกับองค์ปัจจุบัน เพราะขณะที่พระอินทร์มาหาสุปปะพุทธะนั้น พระองค์ยังไม่ได้บรรลุเป็นพระโสดาบันเลย จึงไม่รู้ถึงคุณธรรมของโสดาบัน ดังนั้นจึงคิดสนุกไปลองทดสอบสุปปะพุทธะ ต่อมาพระอินทร์ก็ถึงวาระที่หมดบุญ เกิดคตินิมิตแจ้งให้รู้ว่ากำลังจะจุติ จึงมาหาพระพุทธเจ้าให้ทรงช่วย เมื่อได้ฟังเทศน์จบลง บุญที่ส่งมาให้เป็นพระอินทร์ก็หมดลงพอดี จึงทรงจุติในที่นั้น แต่ก็ทรงเกิดใหม่เป็นพระอินทร์อีกครั้งพร้อมกับความเป็นพระโสดาบัน กลายเป็นพระอินทร์องค์ใหม่ที่หนุ่มขึ้น มีรัศมีสว่างกว่าเดิม จะเห็นว่ากรณีนี้ผมตำหนิพระอินทร์องค์ก่อนที่ไม่ได้เป็นพระโสดาบัน แต่มิได้ตำหนิพระอินทร์องค์ใหม่ที่เป็นพระโสดาบันแต่อย่างใด

    กรณีที่สามที่พระโมคคัลลานะกำหราบความถือดีของพระอินทร์ก็เป็นช่วงที่พระอินทร์ไม่ได้เป็นพระโสดาบันแต่อย่างใด ยังเป็นเพียงเทวดาธรรมดาที่ไม่มีภูมิธรรมชั้นสูงจึงยังเป็นผู้ประมาท ต่อเมื่อบรรลุเป็นพระโสดาบันแล้วจึงไม่มีความประมาทอีกต่อไป

    เรื่องของพระอินทร์ยังมีอีกมาก การที่มาเป็นพระอินทร์ก็เพราะได้สร้างบุญแบบสาธารณกุศล สร้างถนนหนทางและมีความกตัญญู แต่เพราะไม่มีเนื้อนาบุญอันเลิศจึงไม่มีโอกาสได้สร้างบุญใหญ่ เมื่อมีเทวดาใหม่ๆที่ได้ทำบุญในพระพุทธศาสนาแถมเป็นโสดาบันอีกด้วยมาเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พระอินทร์ก็มีรัศมีสู้ไม่ได้ อับอาย เป็นทุกข์ต้องหลบอยู่แต่ในวิมาน จนต้องลงมาลวงพระมหากัสสปะเพื่อถวายบิณฑบาตร พระอินทร์จึงมีรัศมีพอที่จะไม่อับอาย เมื่อได้บรรลุโสดาบันอีก จึงเป็นจอมเทพแห่งดาวดึงส์ได้อย่างสมภาคภูมิ

    ผมพิจารณาดูแล้ว ข้อเขียนทั้งหมดนับว่ากล่าวโดยธรรมแล้ว ไม่มีความผิดพลาดใดๆ อีกทั้งทุกเรื่องก็มาจากพระพุทธองค์ทั้งสิ้น จึงไม่อาจรับข้อกล่าวหาได้

    ขออโหสิกรรม
     
  11. llxE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2008
    โพสต์:
    523
    ค่าพลัง:
    +2,896

    เทวดาบางส่วนท่านก็เป็นพระอริยเจ้านะครับ ไม่เคยได้ยินเหรอครับพระอินทร์มาฟังเทศน์จากพระพุทธเจ้าในสมัยพุทธกาล จนบรรลุเป็นพระโสดาบัน โทษฐานการปรามาสพระอริยเจ้าย่อมตกนรกอเวจีเลยนะครับ

    ต้องทำความเข้าใจก่อนนะครับเทวดา พรหม ก็สามารถบรรลุธรรมได้ ตอนที่พระพุทธเจ้าแสดงปฐมเทศนา เหล่าเทวดา พรหม ที่มาร่วมฟังธรรมก็บรรลุธรรมเป็นพระอริเจ้าเป็นโกฏิ เป็นแสน

    ส่วนพระอริยเจ้าบางท่าน ที่ยังไม่สำเร็จถึงพรอรหันต์ พอท่านเสียชีวิตลง หากเป็นพระโสดาบันอยุ่ก็ไปที่สวรรค์ชั้นดุสิต หากเป็นพระอนาคามี ก็ไปชั้นสุทธาวาทพรหม อย่างมหาอุบาสิกาวิสาขา พอท่านเสียชีวิตลงท่านก็จุติไปเกิดในสวรรค์ชั้นที่ 5

    หากท่านจะกล่าวเหล่าเทวดา พรหม เป็นมิจฉาทิฏฐิหมด ก็ไม่ได้ บางส่วนก็เป็นพระอริยเจ้า แต่บางส่วนก็เป็นมารเพราะมิจฉาทิฏฐิ
     
  12. นักรบโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +973
    ขอบคุณทุกท่านครับ ที่ช่วยมาชี้แจงแถลงไข

    ก็คงถูกต้องตามที่ท่านทั้งหลายได้กล่าว

    ผมเพียงทราบว่าตำแหน่งนี้กว่าจะก้าวขึ้นมาได้.......บำเพ็ญบารมีมายาวนานทีเดียว

    การก้าวข้ามมาทีละขั้นย่อมมี ผิดบ้าง ถูกบ้าง สั่งสมเป็นตบะ เดชะจนถึงจุดหนึ่ง

    สายใยแห่งกรรมพัวพันในงานพระศาสนา ผมเกี่ยวข้องอยู่

    ขอบคุณท่าน "ถิ่นธรรม" ด้วยครับที่อนุเคราะห์ช่วยอธิบายในรายละเอียด
     
  13. สมรปราง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2008
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +263
    ดีค่ะ.. ดีค่ะ สรุปกันแล้วชอบการถกปัญหาและจบ Happy Ending กันเป็นที่สุดเพราะพวกเรามาเล่น Web นี้เพื่อเรียนรู้จากคนอื่นเพื่อมาเสริมความรู้ของตนเองว่าเข้าใจถูกต้องไหม?

    ..ตำแหน่งนี้กว่าจะก้าวขึ้นมาได้บำเพ็ญบารมีมายาวนานทีเดียวตามที่ท่านบอกแต่ก็เปลี่ยนตำแหน่งตามวาระกันด้วยล่ะ...ไม่เคยถามว่าเท่าไร?
    เอาอะไรเป็นเกณฑ์?

    แต่ที่สำคัญรัศมีกายสุดยอดไม่ต้องใช้แสงหรือ Effect เข้าช่วย..
    พลังก็เพียบแค่พลังงานบางส่วนที่ถูกส่งมาจิตที่รับได้หรือซึมซับพลังงานรอบตัวได้ยังทนไม่ไหวเลยพวกเราเรียกท่านว่า "องค์อินทร์"

    ท่านสำคัญมากๆๆ เวลาทำพิธีใหญ่หรือสอนขั้นตอนพิธีที่ถูกต้องก็ต้องเชิญท่านหรือถามท่านนั่นแหละ...
     
  14. คุณ วัชรพงษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +30
    ทุกอย่างล้วนอยู่ที่จิตท่าน เมื่อจิตถึงจุดกำหนด ท่านก็จะรู้เองว่า การทดสอบจะทำให้ท่านไปถึงปลายทางได้หรือไม่ หรือว่าจะแหกโค้งเพราะเทวดาพาไป ขอย้ำว่าทุกท่านจะได้รับข้อสอบกันทุกคนอยู่ที่ว่าท่านจะทำข้อสอบนี้ได้หรือไม่เท่านั้นเอง หากท่านใดที่ไม่ได้ปฏิบัติก็น่าเสียดายนะ ที่พลาดโอกาสในการทำข้อสอบอันแสนวิเศษนี้....
     
  15. ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398

    จริงๆแล้วที่พวกเราเรียกว่าองค์อินทร์นั้น จริงๆแล้วไม่ใช่ชื่อของท่านเลย บนสวรรค์ท่านไม่ได้ใช้ชื่อนี้ และพระองค์ก็ไม่เคยใช้ชื่อนี้ จริงๆแล้วท่านมีชื่ออีกมากมายดังที่ยกมา แต่ที่เราเรียกกันว่าองค์อินทร์นั้นเป็นเทวดาของทางฮินดูที่เป็นประมุขของดาวดึงส์ แต่ชื่อจริงท่านใช้ชื่อว่าท้าวสักกะเทวราช และตำแหน่งนี้ได้มาเพราะประพฤติวัตตบท 7 ประการในสมัยที่เป็นมนุษย์ ประพฤติเพียงชาติเดียวก็ได้มาเป็นพระอินทร์แล้ว รายละเอียดของวัตตบท 7 ประการนั้นมีดังต่อไปนี้

    ____________________________

    เจ้าลิจฉวีนามว่า มหาลิ อยู่ในเมืองเวสาลี. พระองค์ทรงสดับเทศนาในสักกปัญหสูตร<SUP>๑-</SUP> ของพระตถาคตแล้ว ทรงดำริว่า
     
  16. สมรปราง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2008
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +263
    ก็จริงเห็นด้วย...แต่ลืมบอกไปว่าทางสายฮินดูช่วงนี้ก็มากันเข้มข้นกันเหลือเกิน.....
    พอถามสายพุทธ...กว่าจะเอื้อนพระนามแต่ละท่านก็เรียกยากส์เหลือเกิน...
    ฟังแล้วก็มึนก็แล้วแต่จะเรียกกันแล้วกัน

    ......พวกท่านจะสื่อสารกันทางกระแสจิตและก็จะใช้เรียกง่ายๆๆ กันเป็นที่เข้าใจว่าใครเป็นใคร ไม่ยุ่งยากแบบมนุษย์หรอก
    ชื่อนั้นสำคัญไฉน? อยู่ที่การช่วยป้องกันพระพุทธศาสนาตามพันธะสัญญาไม่ให้เสื่อมกันดีกว่า...ท่านทั้งหลาย....สาธุ
     
  17. เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    [music]http://www.oknation.net/blog/home/video_data/523/13523/video/24912/24912.wma[/music]
     
  18. ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +780
    การมองอะไรทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้ามองในแง่ลบ ผลที่ตามมามันก็จะลบไปด้วย ใครจะเชื่อได้หรือไม่ได้ ยังไม่สำคัญเท่าเราเชื่อตัวเองหรือเปล่า เชื่อแบบไหน เทวดาท่านก็คือเทวดา ถ้าไม่มีความดีเป็นเทวดาไม่ได้ เทวดาหรืออสูร ก็อยู่สูงกว่ามนุษย์มาก เขามีเหตุให้ต้องรบกัน ก็ต้องรบกันไป ท่านอสุรินทร์ราหู เป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง ใน10 อนาคตวงศ์ในพระพุทธศาสนา ความดีท่านมีไม่ใช่น้อย แต่ไม่ทราบว่าท่านตง เป็นองค์ที่เท่าไหร่ ถึงไปเทียบเท่าท่านครับ สงสัยเกิดมาเป็นคนดีมากเลยนะ บ่อยครั้งที่ผมรู้สึกตัวว่ากูจะเป็นมารแล้วนะ เพราะชอบขวางโลกเหลือเกิน แต่เจอท่านตงนี่ ผมรู้ตัวเลยว่ายังอนุบาล เลิกทำแบบนี้เถอะครับ ลงทุนจังนะ ระวังตัวจะหนัก ถ้าคบใครไม่ได้ก็อยู่คนเดียวไปซิ ทำให้คนอื่นโกรธมันก็บาปนะ บาปรออยู่ในอนาคต หลายคนรอกินโต๊ะอยู่นะ คิดว่าจะไม่หลุดวงโคจรบ้างหรือไง ระวังไว้บ้าง จงทำกิจทั้งหลายด้วยความไม่ประมาท แต่ท่านตงนี่เล่นปรามาสเขาตลอดเลย เวรกรรม เวรกรรม
     
  19. เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    ก็อาจดีแบบ "โอรสมณีแดง" มังครับ
    ไมได้แค่ปรามาสเสียด้วยสิ จะฆ่ากันหลายทีอยู่ แต่ก็ปล่อยไป ไม่อยากทำ
     
  20. จรัล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +406
    ภพภูมิที่โกหกนั้นมีเพียงภพภูมิเดียวคือภพภูมิของคนเรานี่แหละ นอกนั้นแม้สัตว์นรกก็ยังไม่โกหก แต่เรื่องการพูดเพื่อลองใจนั้น ลองหันไปดูกุศลกรรมบถ 10 ถ้าเทวดาท่านแกล้งพูดลองใจแล้วทำให้คนเข้าใจอะใรๆผิดไปจากความเป็นจริงนั้น ผู้ที่ได้ชื่อว่ามี หิริ โอตตัปปะ ประพฤติกุศลกรรมบถ 10 ท่านจะทำมั๊ย ? นี่ผมไม่ได้หมายความว่าท่านจะทำหรือไม่ทำนะครับ แต่เราต้องมาพิจารณากันดูเอาเอง
     

แชร์หน้านี้