คำสอนหลวงพ่อจรัญ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย สันโดษ, 10 ธันวาคม 2008.

  1. สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    วิธีแก้ง่วง และนอนไม่หลับ

    1. เวลาง่วงอยากจะหลับ แต่จำเป็นจะต้องดูหนังสือต่ออีกสักหนึ่งชั่วโมง เอาจิตมาไว้ที่หน้าผาก กำหนดที่หน้าผากว่า ง่วงหนอ ๆๆๆ เดี๋ยวตาจะแข็ง สติดีขึ้น จะเขียนหนังสือได้เลย กำหนดให้ถูกที่ ทำความดีให้ถูกทาง
    2. บางคนนอนไม่หลับ ด้วยเหตุผลประการใดก็ตาม ถ้าเรามีสมาธิดี นอนหงายหายใจยาว ๆ เอาสติปักไว้ที่ลูกกระเดือกหรือคอหอย เพ่งตรงนี้ หายใจยาว ๆ เดี๋ยวจะหลับทันที นักกรรมฐาน กำหนดให้ถูกต้อง
     
  2. สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    วิธีแก้ปัญหาได้ดีที่สุด

    กรรมฐานนี่แก้ปัญหาได้ดีที่สุด พระพุทธเจ้าไปอยู่ในป่า ๖ ปี ไปหลับตาดู ศึกษาวิชาแก้ทุกข์เท่านั้นเองนะต้องใช้เวลาถึง ๖ ปี พอท่านได้แล้ว ท่านก็ลืมตาดูโลก ท่านไม่เคยไปนั่งหลับตาในป่าอีกเลยนะ โลกนี้มันมืดเหลือเกิน ท่านจึงทำโลกให้สว่าง เรียกว่า โลกวิทู ท่านทำโลกให้แจ้ง ประชาชนมืดมนอาทร ร้อนจิตด้วยอำนาจกิเลสนานาประการ ฆ่ารันฟันแทงกันอยู่มิได้พัก โลกมันมืด

    ตั้งแต่นั้นมา พระพุทธเจ้า จึงได้สร้างพุทธกิจ ๕ ประการ ทำโลกมืดให้สว่าง (พุทธกิจ ๕ ประการ คือ พุทธกิจที่พระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญประจำ ในแต่ละวัน มี ๕ อย่าง คือ
    ๑. ปุพฺพณฺเห ปิณฑปาตญฺจ เวลาเช้าเสด็จบิณฑบาต
    ๒. สายณฺเห ธมฺมเทสนํ เวลาเย็นทรงแสดงธรรม
    ๓. ปโทเส ภิกฺขุโอวาทํ เวลาค่ำประทานโอวาทแก่เหล่าภิกษุ
    ๔. อฑฺฒรตฺเต เทวญฺหนํ เที่ยงคืนทรงตอบปัญหาเทวดา
    ๕. ปจฺจุสฺเสว คเต กาเล ภพฺพาภพฺเพ วิโลกนํ จวนสว่างทรงตรวจพิจารณาสัตว์ที่สามารถและที่ยังไม่สามารถ
    บรรลุธรรมอันควร จะเสด็จไปโปรดหรือไม่)


    ถ้าโยมมีสติปัญญา สะสมหน่วยกิตไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เวลามีทุกข์มันจะออกมาแก้ ไม่ใช่ว่านั่งกรรมฐาน ได้ปัญญาเดี๋ยวนี้นะ ไม่ใช่ ต้องสะสมก่อนเป็นการสำรวมเข้าไว้ สำรวม คือ รวบรวมไว้ เรียกว่า สติ เป็นการระลึกก่อน สังวร คือ สัมปชัญญะ รู้ตัวอยู่ตลอดเวลากาลในปัจจุบัน นั่นแหละ คือ สมาธิของวิปัสสนาญาณ ถ้านั่งงุบหน้างุบหลัง สั่นไปสั่นมาใช้ไม่ได้ สมาธิเกินคาดสติขาดไป ก็เอาสติยัดเข้าไป มันจะดิ่งพสุธามีปัญญาแล้ว

    เรียกว่าตัวสังวร ไปไหนก็ไม่ประมาทเรียกว่าตัวระวัง เรียกว่าปัญญา มันจะเกิดมาอย่างนี้นะ ถึงจะได้ผลได้อานิสงส์




     
  3. สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    <TABLE height=255 cellPadding=15 width="96%" border=0><TBODY><TR><TD class=white width="90%" bgColor=#ffffff height=205>วิธีการรู้กฎแห่งกรรม

    มีอยู่คนหนึ่งเป็นชาวมาเลเซีย ปวดขามา ๗ ปีแล้ว ทรมานเหลือเกิน พูดไทยไม่ได้ มานั่งกรรมฐานที่วัดนี้ กำหนดปวดหนออย่างเดียว ปวดจนน้ำตาร่วง ปวดหนักตั้งสติไว้ ปวดหนอนี่อุปาทาน ยึดการศึกษา
    เรียกว่าสมถวิธี เป็นการศึกษาให้รู้แจ้งเห็นจริง พอเห็นจริงแล้ว เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป วูบเลย เวทนาหายไปเลย จิตก็เป็นกุศลเกิดปัญญา นั่งงอขา พับเพียบได้ทันที เดิมงอขาไม่ได้ นั่งไม่ได้ ต้องเหยียดขาโด่ออกไป ภาวนาก็ผุดขึ้นมาทันที บอกเหตุการณ์ของกฎแห่งกรรม

    คนจะรู้กฎแห่งกรรมได้ต้องผ่านเวทนา เวทนาทำให้รู้กฎแห่งกรรม ไม่ใช่มานั่งหลับตาเห็นกรรมนะ ปวดหนอ ปวดหนอ ปวดหนอ ปวดจังเลย ตายให้ตาย จิตยึดมั่นเป็นสมถะ ศึกษาเวทนาจบรายการ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปเลย เพราะรู้จริงเสียแล้วจิตจะไม่ยึดถือ ขอให้นักกรรมฐานโปรดจำข้อนี้ไว้ รู้จริงจะไม่ยึด รู้จริงยิ่งสงบ คนไหนรู้ไม่จริง จิตไม่สงบ รู้แต่วิชาการใช้ไม่ได้ เลยก็เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ขางอได้เลย และไม่ปวดจนบัดนี้

    </TD></TR><TR><TD class=white width="90%" bgColor=#ffcc66 height=29>กฎแห่งกรรมโผล่ออกมาว่า ไปขว้างขาหมู หนอนกินแล้วจับขายให้เขาฆ่าตาย เอามีดไปข้างขามัน ตัวเองต้องไป
    เข้าขามาจนบัดนี้ ตั้งแต่รุ่นสาว ขณะนี้ ๕๐ กว่าปีแล้ว เลยก็แผ่เมตตาให้หมู ลูกชายเขามาด้วย เห็นเป็นเรื่องอัศจรรย์ดลบันดาลว่า หายภายใน ๗ วัน ขางอนั่งพับเพียบได้ ลูกชายก็ปฏิญาณตนกับอาตมาว่า จะเลิกเลี้ยงหมู จะสร้างวัดแบบจีน และจะสอนแบบที่วัดนี้ เมื่อก่อนต้นตระกูลเขาเป็นคริสต์ บัดนี้เป็นพุทธเต็มตัวแล้ว

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    นั่งกรรมฐานและมีคนมาขอส่วนบุญ

    ถ้าโยมทำบุญได้บุญ นั่งเจริญกรรมฐานได้ที่ มีคนมาขอส่วนบุญนะ ค้าขายไม่ได้เลยไม่มีใครมาทวงหนี้ ยิ่งขายดิบขายดี มีคนมาทวงหนี้ คือกฎแห่งกรรม ต้องมีเรื่องมีเหตุอิจฉา มานั่งกรรมฐานถ้ามีบุญวาสนา เดี๋ยวก็มีเปรตมาขอส่วนบุญ มีเรื่องเล่ากันที่วัดนี้
    แพทย์หญิงบุญเยี่ยม มานั่งเจริญกรรมฐานที่วัดนี้ ตอนตี ๔ ไฟสว่าง อาตมาจะไปสวดมนต์ที่โบสถ์ มานั่งคอยที่กุฏิบอกว่า หลวงพ่อคะ หนูมาเจริญกรรมฐานได้ ๓-๔ วันแล้วค่ะ หนูขอถามอะไรหน่อย มีพระเดินมาที่หน้ากุฏิ
    รูปร่างใหญ่โต บอกว่า โยมขอส่วนบุญหน่อย จีวรไม่มีห่ม จีวรขาดรุ่งริ่งหมด พระองค์นี้ชื่อเฟื่อง มีไหมหลวงพ่อ ท่านบอกว่า ท่านบวชที่นี่ และท่านตายไปแล้วด้วย หมอบุญเยี่ยมก็ไม่รู้จัก พระเฟื่องนั้นก็คือ จ่าตำรวจนครราชสีมา บ้านอยู่ข้างวัดนี้ มาบวชที่นี่ ตายเป็นเปรต เดี๋ยวนี้พระเป็นเปรตอยู่ที่นี่ หลายองค์ แพทย์หญิงบุญเยี่ยมกำลังจะไปเดินจงกรม ไฟสว่างมองเห็นชัด บอกว่า ขอเจริญพรโยม คุณหมอมาเจริญกรรมฐานได้ผลดี อาตมาขอ ไปขอหลายกุฏิแล้วเขาไม่ให้ อาตมาขอลาไปก่อน แล้วก็ค่อย ๆ จาง ๆๆๆ แล้วหายไป แพทย์หญิงบุญเยี่ยมก็ถามว่า หลวงพ่อจะทำอย่างไร ก็เลยบอกให้ถวายสังฆทานอุทิศส่วนกุศลให้ ซื้อผ้าไตรมาถวายด้วย เหลือ ๒ วัน หมอบุญเยี่ยมจะกลับ ผีเปรตห่มจีวรสวยมาอีกแล้ว มาขอบคุณ อนุโมทนา ยถาให้ หมอบุญเยี่ยมก็รับพร รับพรเสร็จแล้วท่านก็ค่อย ๆ หายไป ก่อนจะหายไปบอกว่า ขอบพระคุณคุณหมอมาก ขออนุโมทนากับโยมด้วย
    เหตุใดจึงเป็นเปรต จะตอบให้โยมฟัง หลวงตาอ้อนปลูกต้นน้อยหน่าไว้เยอะที่วัดนี้ เดี๋ยวนี้ไม่มีสวนน้อยหน่าแล้ว เวลาเย็นหลวงตาเฟื่องก็ไปลักน้อยหน่า เอาไปให้หลานในบ้านทุกวัน อย่าลืมว่า น้อยหน่าหลวงตาอ้อนปลูก แต่ที่ดินเป็นของวัด เป็นของสงฆ์นะ เอาไปไม่ได้ต้องให้สงฆ์อนุญาตก่อน ตายที่ศาลาห้องเล็ก อาตมาทำศพให้เสร็จ เดี๋ยวนี้ยังอยู่ที่นี่
     
  5. สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ตัวอย่างเด็กหญิงที่เจริญกรรมฐาน และแม่หายป่วย

    เด็กหญิงทัศนีย์ ตัวนิดเดียว มีศรัทธามาก แม่เป็นโรคมะเร็ง จะต้องตายภายใน ๓ เดือน แต่เด็กกตัญญูกตเวที มีศรัทธาอย่างแรงกล้า มานั่งเจริญกรรมฐานเอาจริงเอาจัง ขออุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของคุณแม่ แม่หายได้อย่างน่าอนุโมทนา แต่บอกใครไม่มีทาง เพราะไม่มีบุญ บอกคนบาปจะไปได้เรื่องอะไร แล้วแต่บุญวาสนา ของท่านเอง ไม่บังคับบัญชา พระพุทธเจ้าไม่เคยบังคับใครนะ
     
  6. สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    วิธีช่วยพ่อแม่

    การแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศล เจริญกรรมฐานดีที่สุด สามารถจะช่วยพ่อช่วยแม่ยังมีชีวิตอยู่ได้ พ่อแม่มีชีวิตอยู่ แต่อยู่ไกลแสนไกล ลูกสามารถทำให้พ่อแม่ได้ด้วยการเจริญวิปัสสนา ไม่ต้องใช้สตางค์ เอาบุญมาใส่ใจให้อิ่มเอิบ ขอแผ่ส่วนบุญนี้ให้บิดาของข้าพเจ้า หรือให้ลูกก็ได้ ถึงทันทีนะ
    ถ้าโยมทำบุญถวายสังฆทาน ถ้าไม่เคยนั่งกรรมฐานบุญนั้นจะไม่สัมฤทธิ์ผล มีแต่ทานไม่มีศีล ทานนั้นท่านจะไม่ได้รับผล ทานธรรมดา เช่น ทานช่วยเหลือกันธรรมดามันไร้ผล ต้องมีสติ มีศีลก่อน

    เราจะเห็นได้ว่าเวลาจะถวายทานหรือทำงานกุศล ต้องรับศีลก่อน ต้องการเป็นหลักสูตร ทำอะไรต้องมีสติสัมปชัญญะเต็มแล้วค่อยทำ รับรองได้ผล อย่างสมคาดปรารถนาทุก ประการ ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญ มีศีลก่อน มีสติสัมปชัญญะก่อน
    นั่งเจริญกรรมฐานมีพลังสูง พ่อแม่อยู่ไหน ลูกอยู่ที่ไหน ส่งไปเหมือนเราไปเครื่องบินฉะนั้น นี่เรียกว่าภาวนา ทานธรรมดาไปเรือพาย มีศีล ทานเราก็ไปรถยนต์ ถ้ามีภาวนาผุดขึ้นใสสะอาด ทานนั้นได้สัมฤทธิ์ผล เหมือนเราไปเครื่องบิน ไว เห็นทันตาเลย ออกมาในลักษณาการอย่างนี้จะมีประโยชน์มาก ถ้าโยมสมาธิเข้าขั้นแผ่ไปให้ลูกที่สหรัฐอเมริกา เขาจะได้รับหรือไม่ได้รับ เดี๋ยวจะสะท้อนย้อนมาหาจิตเรา อ๋อ ลูกอยู่เย็นเป็นสุข ได้รับบุญกุศลของพ่อแม่แล้ว มันจะบอกอย่างนี้ได้ แต่ฝึกไม่ถึงขั้นมันก็ไม่รู้เรื่อง
     
  7. สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ตัวอย่างคนนั่งกรรมฐาน ช่วยแม่ขึ้นมาจากนรก


    เมื่อเร็ว ๆ นี้มีเรื่องเล่า กรรมฐานอุทิศส่วนกุศลช่วยแม่ผูกคอตายขึ้นมาจากนรกได้
    มีโยมคนหนึ่ง ไม่ต้องออกชื่อรับราชการ ซี.๗ ยังไม่มีครอบครัว อยู่กับแม่ ๒ คน บ้านใหญ่โตแถวบางกะปิ
    เขาไม่ทราบแม่เขาแท้ที่จริงเป็นน้าสาว เลี้ยงเขามาตั้งแต่ยังเล็ก ๆ และไม่ทราบว่าพ่ออยู่ที่ไหน แต่ก็รู้ว่าอยู่แถว ๆ
    ถนนสุขุมวิท พ่อเลิกกับแม่เขาไป เขามานั่งกรรมฐานที่วัดนี้ ๒ ครั้ง ๆ ละ ๗ วัน ลาพักร้อนมาโยมไม่ทราบเหตุการณ์อื่นใดทั้งสิ้น นั่งกรรมฐาน ๗ วัน ครั้งแรกยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ครั้งที่สอง มานั่งกรรมฐานกลับไปได้เรื่องออกมาเลย แม่ตัวจริงมาเข้าฝัน แต่งนุ่งขาวด้วย มาตอนตี ๓ ตี ๔ มากอดลูกบอกว่า ลูกเอ๋ย แม่ได้ขึ้นจากนรกแล้ว นี่แม่ตัวจริงของเจ้า เจ้ารู้ไหมว่าแม่ผูกคอตายที่เตียงที่เจ้านอน แม่ผูกคอตาย ได้ลูกมานั่งเจริญกรรมฐานทำให้แม่ขึ้นมา จากนรกได้ อาตมาจับได้หลายรายการแล้ว ถ้าฆ่าตัวตาย ไม่ต้องไปทำบุญให้ ไม่ถึงแน่นอน

    บุญสูงสุด คือ บุญจากกรรมฐานแน่นอน คุณโยมคนนี้ก็เล่าให้ฟังต่อไปว่า แม่มากอดลูก บอกว่าแม่จะเล่าความจริงให้ฟัง พ่อเจ้าไปมีเมียใหม่ กลับมาบ้าน น้าเจ้าเอาปืนขับยิงพ่อเจ้า พ่อเจ้าจึงเข้าบ้านไม่ได้ น้าเจ้าดุเป็นผู้ครองสมบัตินี้ ชื่อของน้าเจ้าทั้งนั้น พ่อเจ้าจึงไม่มาเลย ไปมีภรรยาใหม่ที่ถนนสุขุมวิท
    เจ้ามาเจริญกรรมฐาน แม่ขึ้นจากนรกแล้ว แม่ลำบากเหลือเกินลูกเอ๋ย เขาก็ทำโทษ ให้ขุดดินขุดทราย กินอาหารก็ไป กินที่กองขยะ ทรมานอย่างที่สุดลูกเอ๋ย พอเจ้ามาเจริญกรรมฐาน แม่ขึ้นจากนรกแล้ว บัดนี้แม่มาบอกขอบคุณขอบใจเจ้า นี่ตำรา ได้ที่วัดนี้หลายเจ้า เช่น ตาเล่งฮ้วยผูกคอตาย พระสมภารชื่อหลวงตามด วัดกลางพรหมนคร ผูกคอตาย เช่นเดียวกัน เดี๋ยวนี้ยังไม่ไปเกิด ยังอยู่ตรงนั้น ไม่มีใครเจริญกรรมฐานให้ บรรดาญาติก็ไม่มีแล้ว
    โยมคนนี้ก็เล่าต่อไปว่า ลูกเอ๋ย ทอง ๔ เส้น แหวนเพชร ๓ วง แม่ฝากน้าเจ้าไว้ เขาให้เจ้าหรือยัง
    และก็ขอให้ลูกไปใช้หนี้ให้แม่หน่อยได้ไหม ก่อนตายแม่ไปขอยืมเพื่อนที่โรงเรียนสวนกุหลาบ ๔๘๐ บาท
    เจ้าเอาไปใช้แทนแม่หน่อยนะ



    โยมจำไว้อย่างหนึ่ง เวลาตายรูปร่างอย่างไร เวลามาเข้าฝันก็รูปร่างเหมือนเดิม ไม่มีแก่ เป็นรูปร่างของเปรตวิสัย
    มีรูปอยู่ที่บ้านเขา เขาก็ไม่รู้ว่าเป็นแม่ของเขา เข้าใจว่าน้าเป็นแม่ เพราะรูปร่างเหมือนกัน
    พอตกใจตื่นก็ไปปลุกน้า บอกว่า แม่เนี่ยะเป็นน้าหนูใช่ไหม น้าก็ตกใจ เอ๊ะ รู้ได้ยังไง เขาก็เล่าให้ฟัง น้าน้ำตาร่วงเลย แม่บอกว่า ฝากของน้าไว้ ยังอยู่ไหม แม่น้าบอกว่า ยังอยู่ ยังไม่ให้เจ้าหรอก เจ้ายังไม่มีครอบครัว
    เขาก็ลางาน ๑ วัน ไปสืบหาเพื่อนแม่ จนพบและเล่าเรื่องที่แม่ให้นำเงินมาใช้ เขาบอกว่า หนูไม่ต้องใช้ แม่เจ้าตาย
    ได้รับพระราชทานเพลิงศพที่วัดโสมนัส แม่ให้อโหสิกรรมแล้ว บอกดวงวิญญาณของแม่เจ้า ไม่เอาโทษ ยกโทษให้เลย เขาโทร.มาบอกอาตมาเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วก็มาที่วัดเขาบอกว่า นั่งกรรมฐานให้แม่ทุกวัน
    นี่เห็นไหม

    ขอฝากญาติโยมไว้ เวลาใครตายจะอุทิศส่วนกุศล ไม่มีอะไรดีเท่ากรรมฐาน อุทิศให้ได้ผลอย่างสมคาด ปรารถนา จะได้รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน ถ้าไปอยู่บนสวรรค์ เราทำบุญสังฆทานไป เขาก็รับอนุโมทนา แต่เขารับอาหารนี้ไม่ได้ เขากินอาหารทิพย์ ถ้าไปตกนรกโลกันต์ ขุมนรกที่ลึกมาก เราก็อุทิศให้ไม่ถึง ต้องเจริญกรรมฐานถึงจะได้ถึงนะ
     
  8. สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    สัจจะตัวเดียวมีทั้งอภินิหารทาน ศีล ภาวนา


    สัจจะตัวเดียวนี้มีอภินิหารทั้งทาน ศีล ภาวนา สัจจะตัวเดียวมีอภินิหารมาก อภินิหารแผลงฤทธิ์ได้ด้วย อยู่ยงคงกระพันเสียด้วย แล้วสามารถจะทำงานสำเร็จทั้งคดีโลกคดีธรรม ตัวอย่างว่าญาติโยมมีสัจจะไหม มีความจริงในชีวิตไหม ถ้าไม่มีขอให้สร้างเสียแต่บัดนี้ ไม่ใช่มานั่งหลับหูหลับตาเลย ข้าพเจ้าจะเดินจงกรม ข้าพเจ้าจะนั่งภาวนา ๑ ชั่วโมงไม่ถึง ๑ ชั่วโมงข้าพเจ้าจะไม่เลิก วันนี้ข้าพเจ้าตั้งใจจะตักน้ำซัก ๒ หาบ ต้องตักให้เต็ม ๒ หาบ ถึงจะมีสัจจะ
    คนชาวพุทธส่วนมากทำอะไรไม่ได้ผลเพราะเสียสัจจะ
    สัจจะตัวเดียวเท่านั้น ไม่ต้องไปเอาตักบาตร ทำบุญให้ทานมากมายหรอก

    อาตมาเคยเห็นมาหลายคนแล้ว ตั้งใจว่าข้าพเจ้าจะเดินจงกรม ๑ ชั่วโมง นั่งภาวนา ๑ ชั่วโมง พอนั่งไปได้สัก ๔๐ นาที ก็ว่าสายหน่อยค่อยนั่งต่อไป หลายคนบางทีนั่งไปก็ว่านอนก่อนเถอะ หรือให้เด็กมันหลับก่อนค่อยปฏิบัติต่อเถอะ อย่างนี้ไม่ได้อะไรเลยนะ ไม่ได้จริง ๆ ด้วย เพราะเสียสัจจะ สัจจะลบหมดเลย ไม่ต้องไปสร้างที่ไหนแล้ว แล้วไม่ต้องสร้างบารมีต่อไป ทานก็ไม่มี ศีลก็ไม่เกิด นี่ธรรมะก็ไม่เกิดด้วย ปัญญาบารมีจะเกิดได้อย่างไร เพราะขาดสัจจะ เดี๋ยวนี้ขาดตัวนี้
    ไต้องไปเอาอะไรอย่างอื่นหรอก สัจจะไม่มีเลย คนที่มีสัจจะนี่ปืนยิงไม่ออก ระเบิดก็ไม่ระเบิดเสียด้วย นี่ ตัวสัจจะ สำคัญมาก
    ญาติโยมโปรดทราบเถิดว่า หัวใจของเราคือสัจจะ มรรคสัจจะ สัจจะในองค์มรรค ถ้าเราไม่มีสัจจะ มรรคไม่เกิด ไม่เกิดแน่ จะนั่งวิปัสสนา มรรคไม่เกิดแน่

    อาตมาเคยเดินธุดงค์กับหลวงพ่อดำในป่า ก็ต้องใช้สัจจะอีก หลวงพ่อดำอายุกี่ร้อยปีนะ อาตมาก็เคยเดินธุดงค์ไปกับท่านในป่า อาตมายังไม่เชื่อ ก็ต้องเชื่อแล้ว ท่านบอกว่าคุณเป็นคนจริงหรือเปล่าเราก็ยังไม่รู้ความหมาย ก็ตอบท่านว่าไม่ทราบ ท่านจึงบอก จำไว้ถ้ามีสัจจะ เป็นคนจริง ถ้าไม่มีสัจจะ จะใช้อะไรไม่ได้เลย ทุกอย่างเสียหมดแล้ว ไม่ต้องอธิษฐานอะไร ไม่ขึ้นจริง ๆ ท่านว่าอย่างนี้ นี่โยมคงเคยได้ยินชื่อหลวงพ่อดำ ท่านไม่ได้ชื่อดำหรอกนะ ไม่ทราบว่าท่านชื่ออะไร แต่อาตมาเรียกท่านอย่างนั้นเอง ไม่ทราบว่าอายุกี่ร้อยปี แล้วยังอยู่ด้วยนะ มีสัจจะก็จะเห็นนะ ไม่มีสัจจะก็จะไปไม่ถึง องค์นี้หรือ อาตมาจะไม่ขอกล่าวต่อไป

    คนไหนไม่มีสัจจะจะเกิดมรรคไม่ได้ มรรคมรรคาไม่ได้ ต้องมีมรรค ๘ ในทฤษฎี แต่โยมขาดสัจจะก็มีมัก ๒ มักเกิดเลย โยมรู้ไหมว่า มัก ๒ มัก คืออะไร คือมักง่าย กับมักได้แน่นอน

    คนไม่มีมรรคสัจจ์ คนนั้นมี ๒ มัก โยมไปสังเกตดู คนไหนทำอะไรง่าย ๆ ส่งเดชไป
    ก็มักจะมักได้เสียด้วย เอาแต่ได้แต่ไม่ยอมเสีย แต่พอหันมุมกลับ คนไหนเสียสละได้
    เสียสละเพื่อได้ ได้อะไร ได้บุญ ได้คุณประโยชน์ นี่ถึงอย่างงี้นา เห็นแก่ได้เลย ๒
    มักนั้นแทนจำไว้ มรรคสัจจ์ คือสัจจะเป็นมรรค ถ้าคนไหนไม่มีสัจจะ ไม่มีความจริงแล้ว ไม่ได้มรรค ไม่ได้ผล ไม่ได้นิพพาน ไม่ต้องไปหานะ จะเห็นผลไปเรื่อย ๆ โยมนั่งเป็นยังไง สบายมากเลย นั่งถึงหนึ่งชั่วโมงไหม ฉันก็ตั้งสัจจะทุก ๑ ชั่วโมง เวลาจะเลิกไม่ถึงทุกที
    นี่ไม่มีสัจจะ จะตายก็ให้มันตายซิ เลือดเนื้อจะเหือดแห้งไป ข้าพเจ้าขอยอมตาย
    เอาปณิธานของพระพุทธเจ้ามาใช้สิ
     
  9. สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    วิธีการค้าขาย

    เราจะทำการค้าเราจะทำธุรกิจ อย่าจับมั่น คั้นให้มันตายนะ นี่มันเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แล้วท่านจะฉลาดในการทำงาน ต้องรู้จักปรับปรุงและเปลี่ยนแปลง เราซื้อของสินค้ามาขายดิบขายดี และต้องรู้เหตุการณ์ว่าปีหน้าขายไม่ได้ ต้องเปลี่ยนสินค้าเลย นี่อนิจจังใช่ไหม มันเที่ยงแท้แน่นอนที่ไหนเล่า มันไม่เที่ยง เป็นอนิจจัง จึงเป็นทุกข์ ถ้าเรายิ่งค้าขายซื้อซ้ำ ๆ ไป ไม่รู้จักเปลี่ยนแปลง ไม่รู้จักปรับปรุง ไม่รู้จักแก้ไข ไม่รู้อนิจจังจริง รับรองจะมีทุกขัง จะมีแต่ความทุกข์ ไม่มีความสนุกในการค้าขายแต่ประการใด ค้าขายอะไรอย่าให้จำเจจนเคยชิน สร้างความดีต้องรู้จักเปลี่ยนแปลงว่า จะชั่วขึ้นมาแล้ว ก็แก้ไขไป เรียกว่า อนิจจัง แปลอย่างนี้น่าจะเข้าใจ
    จะเป็นนักธุรกิจค้าขายที่ดิน ขายดิบขายดี ซื้อเข้าไปซื้อไว้ ระวังขายไม่ได้ ขายไม่ได้เป็นทุกขัง มันก็เกิดความทุกข์ในใจใช่ไหม ไม่รู้จักเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม โยมนั่งเจริญกรรมฐานจะรู้ความเปลี่ยนแปลงของโลก รัฐบาลชุดนี้เขาบอกว่าราชาที่ดิน ซื้อไว้ ซื้อไว้ สร้างอุตสาหกรรม ไม่ดูเหนือดูใต้ ไม่ได้นั่งกรรมฐานเลย ปีหน้าต่อไปเลยเสื่อมไม่มีคนซื้อ และขายก็ไม่ได้ต่อไป โยมจะมีทุกข์ไหม
    นี่แหละมันจำเจ สร้างความดีไม่ถูกที่ ทำความดีไม่ถูกทาง เลยแก้ไขปัญหาไม่ได้ จึงมีทุกขัง มีแต่ทุกข์ระทมขมขื่นอยู่ในหัวใจ จะขาดทุน เป็นหนี้สินเขาไม่พัก เดี๋ยวจะล้มละลายต่อไปเรียก อนัตตา ควรจะแปลว่าล้มละลาย สูญหมดเลย ถ้าพูดธรรมสูงกว่านั้นอนัตตา คือ ปลอดภัย อนัตตาแปลว่าไม่มีกิเลส มันคนละชั้นกัน
     
  10. สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    รับรองวิธีปิดประตูอบาย

    ถ้าบุคคลใดมีสติสัมปชัญญะโดยยึดเอาสติปัฏฐาน ๔ เป็นบทปฏิบัติ เป็นกิจกรรมแล้วรับรองได้เลยว่าคนนั้นจะปิดประตูอบายได้ คือ นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน จะไม่ไปสู่ภูมิต่ำช้าสามานย์แต่ประการใด
    การเจริญสติปัฏฐาน ๔ เจริญกาย เวทนา จิต ธรรม ตั้งพิจารณาโดยปัญญา ตลอดกระทั่ง ยืน เดิน นั่ง นอน จะคู้เหยียด ๆ ขาทุกประการ ก็มีสติครบรับรองได้เลยว่าถ้าโยมทำถึงขึ้น ปิดประตูอบายได้เลย นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน โยมจะไม่ไปภูมินั้นอย่างแน่นอน เพราะเหตุใด เพราะอำนาจกิเลสทั้งหลาย โลภะ โทสะ โมหะ เกิดขึ้น โยมก็กำหนดได้ ไม่มีโลภะ ขณะมีโลภะ ก็กำหนด โลภะหายไป
    จิตวิญญาณตายขณะมีโลภะตายไปเป็นเปรต กำลังมีโทสะตายไปขณะนั้นลงนรก มีโมหะรวบรวมอยู่ในจิตใจไว้มากต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานอย่างแน่นอน
    ถ้ามีสติปัฏฐาน ๔ มีสติสัมปชัญญะดี อบายภูมิก็ไม่ต้องไป ปิด นรก เปรต อสุรกาย
    สัตว์เดรัจฉานทางอายตนะธาตุ อินทรีย์ ดังที่กล่าวมาแล้วนี้ทุกประการ
     
  11. สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    <TABLE cellPadding=10 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD class=white borderColor=#ffffcc width="89%" bgColor=#ffff99 height=348>ถ้าเรามานั่งปฏิบัติมีทรัพย์ภายในดีแล้ว ทรัพย์ภายนอกมันก็มาเอง

    ถ้าเรามานั่งปฏิบัติมีทรัพย์ภายในดีแล้ว ทรัพย์ภายนอกมันก็มาเอง จิตนี้มันเป็นแร่ ถ้าโยมทำจิตดี มีสติดีมันเป็นแร่ดึงดูด ถ้าจิตโยมดี ปากก็ดีด้วย พูดได้เงินได้ทอง ถ้าจิตเลว พูดเสียเงิน เดือนร้อนตน เดือดร้อนเพื่อนฝูง ถ้าจิตโยมดีมีปัญญา มีกรรมฐาน ตั้งสติไว้ทุกอิริยาบถ ปากก็เป็นเงินเป็นทอง
    จะออกมาอย่างนี้ชัดเจน

    ถ้าจิตดี หูโยมก็ดีด้วย มีสติอยู่ที่หู มีทรัพย์อยู่ที่หู ฟังแต่ของดี ไม่ไปฟังของชั่วของใครอีกต่อไปให้เสียสมอง คนที่จิตดีมีกรรมฐาน มีสติสัมปชัญญะ ควบคุมได้เมื่อใด หูโยมจะมีทรัพย์ หูโยมจะมีศีล สติก็ตั้งอยู่ที่หู เดี๋ยวเขาพูดว่าร้ายนินทา ใส่ร้ายป้ายสี ก็ช่างเขาปะไร เดี๋ยวมันก็กลับไปหาเขาเอง
    ขอเจริญพรตอนนี้ว่า วัวควายของใครก็เข้าคอกของเขาไป มันไม่มาเข้าคอกเราหรอก เพราะเราไม่ได้เลี้ยงมัน เราไม่มีวัว ไม่มีควาย ใครเลี้ยงก็เข้าคอกของเขาไป คือหูมีทรัพย์ ไม่ต้องไปฟัง ฟังแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์ ถ้าจิตดี มีปัญญา กำหนด คิดหนอ คิดหนอ รู้หนอ รู้หนอ รู้ไว้เสมอ รู้ปัจจุบัน เข้าใจปัจจุบัน ตาก็มีศีล ตาก็มีทรัพย์ เห็นหนอ อ๋อ คนนี้นิสัยไม่ดี เราก็ทิ้งไป เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป อย่าไปเอาของเขามาใสใจเราทำไม นิสัยไม่ดีก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา
    เห็นหนอ...
    คนนี้มาทำไม ท่าทางเหมือนนักเลงโต แววตาไม่มีเลย เห็นหนอ... หัวขาดไปอีกแล้ว ไม่มีหัว คำนวณได้เลยต้องตายภายใน ๗ วัน ถ้าพิจารณาเห็นต่อไปอีก ไม่มีหัว รับรองตายไม่เกิน ๓ ชั่วโมง ตายยังไง รถชนตาย อุบัติเหตุตายไม่ผิดเลย ตรงนี้นะตาท่านมีทรัพย์ ดูเป็นบางคนดูไม่เป็น ฟังไม่เป็น พูดไม่เป็น
    แถมคิดไม่เป็นอีก คนชั่วชอบคิดของชั่ว คนดีมีปัญญา จะคิดแต่เรื่องเรืองเวทย์วิทยา จะคิดแต่วิชาการ จะคิดแต่หลักฐาน คิดแต่สิ่งที่มีประโยชน์เท่านั้น ตรงนี้ขอเน้นฝากพวกคณะกรรมฐาน ไม่ใช่มาคุยกันนะ มาสร้างความดีให้จิต


    </TD></TR><TR><TD class=white borderColor=#ffffcc width="89%" bgColor=#ffff99 height=33>ขอฝากญาติโยมไว้ ความสำเร็จมันอยู่ที่จิตใจ ถ้าจิตใจโยมไม่ดี ไม่มีพลัง ความสำเร็จจะไม่มี มีแต่ความล้มเหลว มีแต่ความหายนะ ตรงนี้ขอเน้น
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    เกิดมาทำไมกัน

    วันนี้เรามาตีความกัน วันเกิดของพระพุทธเจ้า เรามานึกถึงตัวเราทุกคน นึกถึงตัวเราว่า เกิดมาทำอะไรบ้างเกิดมาแล้วต้องเรียนหนังสือ พระพุทธเจ้าท่านก็เรียนมาถึง ๑๘ ศาสตร์ จบ ๑๘ ดอกเตอร์ ต้องเรียนนะ ไม่ใช่เวียนเทียนส่งเดชไป
    เกิดมาทำไมกัน เกิดมามีกรรม เกิดมาทำอะไร เกิดมาสร้างความดีใช้หนี้เวรกรรมจึงจะถูกต้อง เกิดมาแล้วต้องเรียนหนังสือ ต้องหาวิชาใส่ตัว สอนตามพระพุทธเจ้าในวันวิสาขบูชา ไม่ใช่สอนไปสวรรค์นิพพานอย่างที่เขาสอนกัน เวียนเทียนไปสวรรค์ เป็นไปไม่ได้ เอาตรงนี้ไปใช้หน่อย เป็นธรรมะ
    ลูกเราเกิดมาแล้ว เหมือนพระพุทธเจ้าประสูตินั่นเอง ตีความเข้ามาหาตัวเองว่า เอาลูกเรียนหนังสือ ตั้งใจให้มีวิชาความรู้ต่อไป ในเมื่อมีวิชาความรู้แล้ว ก็หาเหตุผลเจริญธรรม เจริญศีล ถึงจะสำเร็จเสร็จพลันทันเวลา ก็ไปช่วยคนอื่นต่อไปให้เป็นประโยชน์ ไม่ใช่เรียนมาเก็บนะ เรียนให้รู้ ดูให้จำ ทำให้จริง
    - เรียนรู้แล้วจะได้ออกไปสู้งาน ฐานะเราจะได้ดี เราจะได้มีปัญญา เรียกว่าพัฒนาเศรษฐกิจ - ประกอบอาชีพการงานดีแล้วเราก็จะเริ่มแก่จะไปทางไหน ก็เตรียมตัวตาย เหมือนพระพุทธเจ้าไม่มีรอดเลย - เตรียมตัวก่อนตายเจริญพระกรรมฐานให้มาก สร้างผลงานให้มาก ท่านเป็นข้าราชการระวังนะ
    ปลดเกษียณจะว้าเหว่ หาที่พึ่งไม่ได้ อาตมาพูดซ้ำมาเสมอ ถ้าแก่ไปแล้วลูกไม่มาหา หลานไม่มาสู่ มันก็ว้าเหว่ เตรียมตัวก่อนตายนะ



    ท่านทั้งหลายอย่าประมาทนะ สังขารกำลังเสื่อม กำลังแก่ ร่างกายกำลังโทรม เวลาหนุ่มสาวก็โลดเต้นได้ อายุ ๔๕ ไปแล้วต้องยกบั้นท้ายขึ้นก่อน เพราะมันหนัก อายุ ๕๐ ปี ๕๕ ปี เลือดจะไปลมจะมา หงุดหงิดจะเกิดแก่ท่านเอง อายุ ๖๐ แล้ว หูก็จะตึง ฟังอะไรไม่ชัดเจนเหมือนหนุ่มสาวแต่ประการใด
    หนุ่มสาวทั้งหลายจ๋า โปรดคิดถึงตัวเอง คิดว่าจะอยู่ถึงเฒ่าชะแรแก่ชราหรือ เมื่อเร็ว ๆ นี้ รถทับตายกันหมด ยังเด็ก ๆ ทั้งนั้น มะม่วงลูกมันแก่ มันก็หล่นที่ลูก แต่น่าเสียดายเหลือเกิน ลูกกำลังอ่อน ๆ ถูกพายุพัดหล่นมาเป็นกระบุง น่าจะป้องกันภัยไว้ ไม่ให้โดนลมถึงขนาดนั้นเลย ป้องกันภัยคือความชั่ว อย่าเอามาเข้าตัว อย่าเอามาเข้าตัวอีกต่อไปเลย สร้างความดีวันคล้ายวันประสูติก็อย่างนี้
     
  13. สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    สิ่งที่หลวงพ่อขอฝาก


    1. ขอให้ท่านหมั่นสวดมนต์ภาวนากัน แก้ปัญหาไปในตัวด้วย เดี๋ยวปัญญามันจะบอกเอง ถ้าท่านเจริญกรรมฐานมีสติ ปํญญาสูง ปัญญาจะออกมาช่วยแก้ปัญหาของตัวเองได้
    ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมาแก้ปัญหา เพราะเขาไม่รู้จุดปัญหาของเรา เราผู้ทำและผู้สร้างปัญหา เรารู้จุดของเราเองว่า ปัญหามันเกิดขึ้นอย่างไร เราก็ต้องแก้ปัญหาต่อไป เราสร้างบาปสร้างความชั่ว จะโอนความชั่วไปให้พี่น้องได้ไหม เอาความชั่วความร้าย เอาความทุกข์ไปให้เขา ก็ไม่มีใครอยากได้ ทั้งนั้น มีคนอยากได้แต่ของดีมีสุข ของดีมีทุกข์ไม่มีใครต้องการ ต้องการอยู่เย็นเป็นสุขด้วยกันทั้งนั้น

    2. ขอฝากญาติโยมที่จะนมัสการลากลับไป หมั่นสวดมนต์ไหว้พระด้วย ต้องกำหนดจิต ทำให้ติดต่อกันไป อาตมาคิดว่าต้องได้ผล ๑๐๐% ทำอะไรติดต่อกันไป สร้างความดีแค่ ๒-๓ วัน ทำชั่วตั้งหลายวัน มันจะลบล้างกันไม่ได้ ก็ขอฝากไว้
    3. ทำความเคารพตัวเอง พูดตั้งใจแล้วต้องทำ ว่าพรุ่งนี้เช้าจะต้องทำอะไรบ้าง อย่าเสียสัจจะ ต้องทำให้เสร็จ ทำด้วยความตั้งใจแล้วเสร็จหมด ขอฝากญาติโยมไว้ทุกคนอย่าทำแบบซังกะตายไปวัน ๆ หนึ่ง จะขายของก็ไม่ได้ ต้องเคารพตัวเอง พรุ่งนี้จะต้องขายของให้ได้เท่านั้น ต้องให้ได้ ตรงนี้ขายไม่ได้ต้องหาบไปที่อื่น ก็ไปขายคนที่เขาซื้อ
    4. ขอฝากญาติโยมไว้ด้วยในที่นี้ ทำอะไรทำให้จริงหน่อย ทำไม่จริงไม่มีความอดทน พอเดินเข้าหน่อยก็ขี้เกียจแล้ว พอนั่งหน่อยก็ขี้เกียจทำขี้เกียจกำหนดจิต เพราะจิตมันเคยตามใจมันมา ตามใจตัวเองมาตลอด ในเมื่อตามใจตัวเองเช่นนี้แล้วไม่มีโอกาสที่จะดีได้ คนจะดีได้ต้องละชั่วได้หมด ละทิฐิมานะจะทานอะไรเลี้ยงก็ง่าย ไปไหนก็ถือกันเอง มีอะไรก็หยิบกินหยิบใช้กัน มันก็ไม่เสียหายประการใด เราไม่ไปหวงกันกินหวงกันใช้แต่ประการใด ขอให้ตั้งใจและอดทน แล้วสร้างความเพียรให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ต้องได้สำเร็จแน่ เคยบอกพระภิกษุนวกะที่บวชน้อย ๆ ตั้งใจปฏิบัติเต็มที่แล้วก็ให้ศึกษา นวโกวาท แล้วก็ตั้งใจทำ ตั้งใจปฏิบัติกิจวัตร รับรองได้ผลแน่ ๆ ถ้าหากว่าเธออยู่เฉย ๆ ระวังบาปนะ บาปแล้วก็สึกหาลาเพศชนักติดหลังไปด้วย เลยก็ทำอะไรไม่ขึ้น
    5. ขอฝากญาติโยมไว้ ยิ่งให้ก็ยิ่งได้ ยิ่งหวงก็ยิ่งอด หมดไม่มา เราไม่หวง เราไม่อด หมดมาเรื่อย ๆ รวยแน่ ๆ โยมหญิง โยมชาย อยู่กับอาตมาเป็นพันก็ยอมเลี้ยง ขอให้อยู่จนข้าวสารหมดค่อยกลับบ้าน จะอยู่ไหมรับรองไม่ได้กลับหรอก ข้าวสารวัดนี้ไม่มีหมด ข้าวสารภาคอีสานจะมากอีกแล้ว
     
  14. สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    บารมีคืออะไร

    บารมีชั้นประถมอนุบาล แปลว่า ความเพียร วิริเยน ทุกฺขมจฺเจติ บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร ต้องมีความเพียร อุตสาหะ พยายาม ต้องขยัน อย่าขี้เกียจ คนขี้เกียจนี้ไร้คุณธรรม ไม่มีกิจกรรมในชีวิต คนดีมีกิจกรรมในชีวิตต้องขยันหมั่นเพียร เรียนหนังสือ นี่คือบารมีชั้นอนุบาล
    บารมีชั้นมัธยม แปลว่า ตั้งใจทำงาน อย่าทิ้งงานและหน้าที่ที่รับผิดชอบ จะทำงานอะไรก็ทำด้วยศรัทธา ทำด้วยความเคารพทำด้วยจิตสงบ และทำด้วยความถูกต้อง
    1. ทำด้วยศรัทธา หมายความว่า พอใจในการทำงาน มีความยินดีต่องานของเขา เรียกว่า วิชาเอกในการทำงาน
    2. ทำด้วยความเคารพ
    2.1 เคารพตัวเอง มีสัจจะ เมตตา สามัคคี มีวินัยหรือไม่ มีความจริงไหม พูดแล้วต้องทำ ถ้าพูดแล้วไม่ทำไม่เคารพตัวเอง คนที่ไม่มีธรรมะ ชอบผลัดเดี๋ยวเรื่อยเลย เคารพตัวเอง คือพูดแล้วต้องทำ
    2.2 เคารพสถานที่ เราเคยไปสถานที่ ที่น่าเคารพน่าบูชาไหม สถานที่นั้นมีสัปปายะ 4 เห็นแล้วมีระเบียบเพียบพร้อมด้วยวินัย การเคารพสถานที่ก็คือว่า
    ถ้าท่านทำงานต้องเคารพสถานที่ทำงาน สำนักงานนั้นต้องมีระบบมีระเบียบ เพียบด้วยวินัย ทำอะไรให้ถูกแบบถูกทาง หมดจดเหมาะเจาะ
    2.3 เคารพกฎหมายบ้านเมือง อย่าฉ้อราษฎร์บังหลวง ต้องเคารพกฎหมาย ถ้าท่านอยู่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ต้องเคารพกฎหมายกรุงปารีส
    ถ้าท่านไปสหรัฐอเมริกา รัฐใดก็ตามต้องเคารพกฎหมายของรัฐนั้น กฎหมายแต่ละรัฐไม่เหมือนกัน เขามีขนบธรรมเนียมประเพณีอย่างไรต้องเคารพด้วย
    ผู้น้อยต้องเคารพผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ต้องเมตตาต่อผู้น้อย

    3. ทำด้วยจิตสงบ ทำงานทุกอย่างด้วยจิตสงบ อย่าวุ่นวาย จะเป็นหัวหน้าสำนักงานอะไรก็แล้วแต่ ถ้าหัวหน้าจิตไม่สงบแล้ว จะทำให้ลูกน้องวุ่นวายไปด้วย เพราะหัวหน้าจิตไม่สงบ
    4. ทำด้วยความถูกต้อง การทำงานทุกอย่างด้วยจิตสงบแล้ว ผลที่ตามมาคือความถูกต้อง ซึ่งพิสูจน์ได้ด้วยกรรมฐาน
    เดี๋ยวนี้มีแต่ถูกใจ ถ้าถูกใจแล้ว เป็นคนดีหมด เอาแต่กิเลสทั้งนั้น

    ถ้าท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่และทำงานไม่ถูกต้องแล้วนั้น บารมีจะไม่เกิดอีกเลย ท่านจะเป็นใหญ่เป็นโตไม่ได้ อย่าไปตีโพยตีพาย ไปคิดถึงวาสนาว่ากรรมทำงานแทบตายไม่ได้สองขั้น ทั้งนี้เพราะท่านทำด้วยความไม่เสมอต้นเสมอปลาย ทำด้วยความไม่ถูกต้อง ใครเขาจะให้ ขี้เกียจทำงาน เลี่ยงงานเก่ง คนประเภทนี้ขยันนอกหน้าที่การงาน การงานของตนไม่ขยัน แต่ไปเอางานของคนอื่นมาทำ
    บางคนไม่รู้ว่าเกิดมาทำอะไรก็น่าจะคิดถึงตัวเอง เกิดมาสร้างความดีใช้หนี้เขาไปซิ เรามีกรรมด้วยกันทุกคน ต้องอยู่สร้างความดี ใช้หนี้เขาให้หมดไป ไปสร้างเวรสร้างกรรมมาแล้ว อย่าปฏิเสธทุกข้อหานะ นี่แหละบารมีชั้นมัธยมสำหรับทำงาน ทำงานด้วยความถูกต้อง

    บารมีชั้นมหาวิทยาลัย มี 2 ข้อ บารมีชั้นนี้ได้ธรรมหมดแล้ว วิปัสสนาเต็มแล้ว จิตใจอดทนแล้ว มีขันติ คือ ความอดทน อดกลั้น อดออม ประนีประนอมยอมความแล้ว
    1. ไม่กลัว ข้าพเจ้าจะไม่กลัวใครทั้งหมดจะสร้างแต่ความดี ไม่ต้องกลัวใครมาว่านินทา
    2. กล้าทำความดี ข้าพเจ้าจะอาจหาญในธรรมสัมมาปฏิบัติในหน้าที่ ไม่ต้องกลัวใครนินทา
    ถ้าท่านนั่งเจริญกรรมฐานได้ ท่านจะมีบารมีชั้นสูง 2 ข้อนี้ เข้าที่ไหน อาจหาญในธรรม สัมมาปฏิบัติในหน้าที่ จะไม่เกรงกลัวใคร ไม่กลัวที่จะสร้างความดี ไม่เกรงใจใครเขาว่าให้เข้าถูกระเบียบ

     
  15. สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    แก่นแท้ของศาสนา

    มรรค 8 คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ย่อเหลือ 2 ได้แก่ สติสัมปชัญญะ ผนวกเหลือ 1 คือยอดเจดีย์ทอง เรียกว่า ความไม่ประมาท แก่นแท้หลักศาสนาอยู่ตรงนี้
    คนที่ไม่มีศีล สมาธิ ปัญญา คนที่ขาดสติ ขาดสัมปชัญญะ มีแต่ความประมาทแล้วนั้น จะกลายเป็นคนมักง่าย มักได้ เอาแต่ได้ เสียไม่เอาด้วย เกิดโลภ โกรธ หลงในตัวเองมาก เห็นแก่ตัวมาก นิสัยดีไม่ได้ตรงนี้เอง
     
  16. สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ความสุขเกิดจากอะไร

    ความสุขเกิดจากอะไรขอเจริญพรว่า
    1. เกิดจากการทำใจให้สะอาดทำให้ใจปรกติ ทำใจให้สงบ ทำใจให้สบายมีอารมณ์ดี จะได้มีปัญญา ความสุขอยู่ตรงนี้
    2. เกิดจากความสงบ นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี ถ้าวุ่นวายจะไม่มีความสุขเลย คนเราจิตไม่สงบ จะเกิดความสุขไม่ได้เลย
     
  17. สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    คนมีทุกข์มาวัด มี 5 ประเภท

    คนที่มีทุกข์มาวัดมี ๕ ประเภท อาตมาจดเป็นตำราไว้เลย ประเมินผลทุกวัน เมื่อปี ๒๕๓๖ มีเรื่องอะไรมาก ปีนี้ก็เหมือนกัน ไม่รู้จักดำเนินงานแก้ไขเปลี่ยนแปลงแต่ประการใด
    อันดับ ๑ ครอบครัวทะเลาะกันมามากเป็นอันดับหนึ่งของวัดอัมพวัน
    อันดับ ๒ ผิดหวังในชีวิตเป็นโรคทันสมัยมาก (โรคประสาท)
    อันดับ ๓ ลูกไม่เรียนหนังสือเถียงพ่อเถียงแม่
    อันดับ ๔ เศรษฐกิจไม่พอปากพอท้อง เป็นหนี้กันไม่พักไม่รู้จักจะใช้หนี้เขา แล้วไปหาให้พระช่วย
    อันดับ ๕ มีแล้วไม่พอ ยังตะเกียกตะกายไปยากจนมีเงินเอาไปให้เขาหมด

    อาตมาจดทุกวันว่ามามากน้อยเรื่องใดขอเจริญพรโยมให้ประเมินผลชีวิตของเราแต่ละวันเวลา ว่าตัวเองอารมณ์มาก อารมณ์น้อย เป็นประการใด มันจะเป็นกฎแห่งกรรมที่เราจะได้อะไรเกิดขึ้นในตัวเอง ในกิจประจำวัน บางคนไม่รู้เลยนะทำงานตะพึด ผิดถูกข้าไม่เข้าใจ เอาแต่ใจของตัวเอง เข้าข้างตัวเองตลอดเวลา ความถูกต้องจะหมดไป ความถูกใจจะเข้ามาแทนที่ สร้างความดีไม่ได้ จุดมุ่งหมายอยู่ตรงนี้ ฝรั่งยอมรับแล้ว แต่คนไทยไม่ยอมรับ คนไทยชอบบุญช่วย ไปให้คนอื่นช่วยตลอดรายการ ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าต้องการให้ช่วยตัวเอง (อตฺตาหิ อตฺตโน นาโถ)
     
  18. สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ศีลไม่ได้หมายความว่าต้องมารับกับพระ


    ศีลนี้ไม่ได้หมายความว่าต้องไปรับกับพระวัดโน้นวัดนี้แต่ประการใด ท่านมี สติ ไหม หนึ่งนาที ห้านาทีของท่าน ท่านมีสติควบคุมจิตบ้างไหม มี สัมปชัญญะ รู้ตัว รู้นอก รู้ใน รู้จิต รู้ใจ รู้สิ่งที่มีประโยชน์ รู้กาลเทศะ กิจจะลักษณะ รูปบาป รู้บุญ รู้คุณ รู้โทษ รู้สิ่งที่เป็นประโยชน ์หรือไม่เป็นประโยชน์หรือไม่ประการใด ตรงนี้คือ ศีล คนมี สติสัมปชัญญะ จะมีแต่ สติ จะมีแต่ ปัญญา แก้ไขปัญหาได้ บางคนไม่สนใจ สนใจแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง ไปสนใจคนอื่นทำไม
    สติตัวเดียว ท่านระลึกได้ไหม ที่นั่งกรรมฐานกัน สวดมนต์ ไหว้พระ ทำให้มีสติสัมปชัญญะ เป็นประโยชน์เหลือเกิน ใครมีบุญวาสนามาเอง ที่วัดเดี๋ยวนี้มี ๓๐๐ กว่าคน เมื่อเช้าแคทอลิกออกไปแล้ว ๘ คน มาจาก อเมริกา ไม่ใช่ว่าจะให้แคทอลิกมาเป็นพุทธ แต่เขาต้องการจะมาปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้า มีประโยชน์แก่เขามิใช่น้อย
    เมื่อวันวาน อิสลาม จาก สหรัฐอเมริกา ก็ออกจากกรรมฐานไป ๓คน มาจากรัฐลอสแอนเจลิส บัดนี้ไปตั้งร้านขายของ ขายดิบขายดี มั่งมีศรีสุขตลอดเวลากาล

    เราจะไปเอาคาถาเวทมนตร์ ดลบันดาลที่ไหนเล่า ไม่มีเลยนะ มีแต่สติสัมปชัญญะ รำลึกก่อน ปากอย่าไว ใจอย่าเบา เรื่องเก่าอย่าเอามารื้อฟื้น เรื่องของคนอื่นอย่านำมาคิด กิจที่ชอบทำให้เสร็จไป อยู่กับปัจจุบัน
    อนาคตอย่าจับให้มั่นคั้นให้ตาย จะผิดหวังจะเสียใจตลอดชีวิต ปัจจุบันตรงนี้ซิเป็นของเราแน่ อดีตหรือมันก็ผ่านพ้นไปแล้ว จะไปรื้อฟื้นมันทำไมเล่า

    เรื่องของคนอื่นเอามาคิดทำไม คิดเรื่องของตัวเองว่า วันนี้จะทำอะไรกัน จะต้องทำให้เสร็จอะไรบ้าง อนาคตอยู่อีกยาวนาน วันพรุ่งนี้ เดือนหน้าต่อไปจะอยู่ถึงหรือเปล่า จะไปรำพึงระพันให้เสียสมอง ให้สมองฝ่อ จิตตกทำไมเล่า เดี๋ยวพระอาทิตย์ก็เลี้ยวลัดอัศดงหมดไป ๑ วันแล้ว ท่านจะได้อะไรหรือ
     
  19. สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า


    วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทำอย่างไร ญาติโยมที่เคยนั่งกรรมฐานจะรู้ได้ เกิดปัญญาขึ้นมา ตัวเองจะแก้อย่างไร
    เราต้องรู้ว่า พัฒนาจิตก่อน จิตนี้เป็นธรรมชาติ ต้องคิดอ่านอารมณ์ รับรู้อารมณ์ ไว้ได้เหมือนเทปบันทึกเสียง

    1. จิตเกิดทางตา ตามีทรัพย์ไหม ตาดูเป็นไหม เราก็ตั้งสติไว้ที่ตาเท่านี้เอง
    2. หูได้ยินเสียง ตั้งสติไว้ที่หู เขาด่าเราตั้งสติไว้คำด่าอย่าไปรับมาไว้ในสมองให้มันฝ่อ คำด่าจะกลับไปหาเขาเอง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ที่หูนี่
    3. และปากนี่ไปไหนอย่าเอาไปนะตั้งสติก่อนจะพูด ตาดู หูฟัง ปากนิ่ง เพราะปากนี่พูดแล้วมันเสียนะ ตา หู เป็นครูใหญ่ ตาดู หูฟัง ปากนิ่ง ตื่นรีบวิ่ง มือทำแต่ความดี มีปัญญา มีหลักฐานที่จะต้องชี้แจงแสดงกันต่อไป มีเหตุผลหลายประการ ขอฝากไว้ในวันนี้ด้วย นี่คือวิธีแก้
     
  20. สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    สอนเด็กให้ส่งกระแสจิต

    อาตมาสอนเด็กเวลาครูอาจารย์สอน ให้ส่งกระแสจิตทางหน้าผาก จุดประสาทอยู่ตรงนี้ เพ่งไปเลยดูที่ครูสอน จำแม่นไม่ลืม จะไม่เสียสมาธิด้วย
    โหงวเฮ้งอยู่ตรงหน้าผากนะ ใครมีสมาธิดูหน้าคนจะรู้เลย จะขึ้นหรือไม่ขึ้น รวยหรือไม่รวย เจ๊งหรือไม่เจ๊ง มันจะบอกที่หน้าผาก คนมีบุญวาสนามันอยู่ที่หน้าผาก ไม่ใช่หน้าผากกว้างหรือแคบนะ หน้าผากจะมีแสง มีรัศมีนะ
     

แชร์หน้านี้