คำสอนหลวงพ่อว่าจะไปนิพพานเขาทำยังไง?

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 17 กันยายน 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>จะไปนิพพานเขาทำยังไง?</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER></CENTER>
    จิตตัด โลภะ ไม่เห็นว่าทรัพย์สินทั้งหลายในโลกมีประโยชน์สำหรับเราต่อไปในวันหน้า วันนี้จำจะต้องอาศัยมันไม่เป็นไร มีแล้วก็แล้วกันไป แต่ว่าไม่สนใจ เราตายแล้วเราไม่ห่วง

    ตัดกามฉันทะ ความเป็นอยู่ในการครองคู่ไม่ได้เกิดประโยชน์ เป็นปัจจัยของความทุกข์ ไม่ต้องการมันอีก

    ตัดโทสะ เห็นว่าโทษของโทสะเป็นปัจจัยของความทุกข์ มีเมตตาพรหมวิหาร เป็นเบื้องหน้าก็ไม่มีโทสะ

    ตัดโมหะ เห็นว่าร่างกายเป็นเพียงธาตุ ๔ ประชุมกัน มันมีการเกิดขึ้นแล้วก็มีการตายไป ร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา ไม่สนใจร่างกายของเราด้วย ไม่สนใจร่างกายของคนอื่นด้วย ไม่สนในสรรพวัตถุทุกอย่างในโลกด้วย

    ในเมื่อตายคราวนี้แล้วขึ้นชื่อว่าโลกทั้งสาม คือ มนุษยโลก เทวโลก พรหมโลก เราไม่ต้องการ เราต้องการอย่างเดียวคือ พระนิพพาน


    นี่นักธุดงค์ที่เขาต้องการพระนิพพานน่ะ เขาตื่นขึ้นมาเขาใช้อย่างนี้ คุมอารมณ์ตั้งแต่ต้น ทรงพรหมวิหาร ๔ ตัดอารมณ์ปลิโพธิ ตัดนิวรณ์ แล้วก็ตัดขันธ์ ๕

    นักธุดงค์..ถ้ายังต้องการฌานโลกีย์ เสียแรงเดิน ไม่ได้ประโยชน์ นักธุดงค์เขาต้องการพระนิพพาน เขาไม่ต้องการฌานโลกีย์ เราต้องเป็นผู้ชนะเลิศ ถ้าเราเดินธุดงค์ครั้งหนึ่ง ถ้าได้แค่พระโสดา สกิทาคา เราต้องนึกว่าเราเลวเต็มที ควรจะได้อนาคามี หรือ อรหันต์

    เพราะอะไร เพราะเดินธุดงค์เข้าป่า มันต้องนึกถึงความตายทุกขณะลมหายใจเข้าออก เพราะเราไม่แน่ใจนี่ว่าความตายมันจะเข้ามาเมื่อไร ตายจากการมีโรค ตายจากสัตว์ร้ายที่ขบกิน อันตรายมันมีทุกด้าน เลยนั่งตัดขันธ์ ๕ มันเสียเล่นโก้ ๆ มันจะตายเมื่อไรสบายเมื่อนั้น ตายแล้วไปไหน..ฉันก็ไปนิพพาน จิตจับนิพพาน ตัดโลภะ ตัดโทสะ ตัดโมหะมันให้เกลี้ยง

    พอตัดในป่าได้ก็เข้ามาในบ้าน เข้าบ้านเขาเมืองมาดูซิว่า ราคะ มันกำเริบไหม โลภะ ความโลภ อยากรวยมันยังกำเริบไหม โทสะ กำเริบหรือเปล่า โมหะ กำเริบหรือเปล่า ถ้ายังมีอยู่ในจิตแม้แต่นิดหนึ่ง จงประฌามตัวเองว่าเลวเกินไป สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ เรายังไม่สามารถจะชำระได้ ฉะนั้น เมื่อกลับมาอยู่ที่ชุมชนก็ต้องเริ่มต้นปราบปราม ราคะ โทสะ โมหะ กันใหม่ ปราบไปอีกครั้งหนึ่ง ให้มันพินาศไปด้วย อำนาจของป่า คือ "กิเลส" ป่าคือ "หมู่ชน"




    ที่มา http://www.putthawutt.com/html/thudong03.html#nirvana
     
  2. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    สาธุ อนุโมทนาครับ

    ตัดได้ทุกอย่าง จึงนิพพาน หลวงพ่อท่านฯ เป็นแบบอย่างที่ดีมากครับ

    แต่ตอนนี้ตัดไม่ได้เลยสักอย่าง ทุกวันนี้ต้องถือ ศีล๕ ไม่ทำผิดในกรรมบท ๑๐ ฝึกฝนให้ใจมีพรหมวิหาร ๔
    (แค่นี้ก็ยากแล้วครับ)
     
  3. หนูแว่น

    หนูแว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +3,207
    อนุโมทนาค่ะ จะเพียรพยายามต่อไปให้ได้น้อยบ้างก็ยังดี
    ค่อยๆพัฒนากันไป
     
  4. s_thit

    s_thit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2007
    โพสต์:
    785
    ค่าพลัง:
    +3,027
    ปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อ จิตนึกถึงพระนิพพานเป็นอารมณ์ ไปได้แน่นอน โมทนาครับ
     
  5. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
    ร่วม [​IMG] อนุโมทนาบุญด้วยครับ.^./|\.^. [​IMG]
     
  6. lasomchai

    lasomchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +2,035
    อนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งครับ

    สุขไปสวรรค์ ทุกข์ไปนรก ปล่อยวางไปนิพพาน

    นิพพานัง ปรมัง สุขัง
    นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
  7. noi

    noi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,120
    ค่าพลัง:
    +47,442
    ราคะ มันกำเริบไหม (b-evil)
    โลภะ ความโลภ อยากรวยมันยังกำเริบไหม
    โทสะ กำเริบหรือเปล่า (b-no)
    โมหะ กำเริบหรือเปล่า
    ถ้ายังมีอยู่ในจิตแม้แต่นิดหนึ่ง จงประฌามตัวเองว่าเลวเกินไป (b-cry)
     
  8. kobporn

    kobporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    279
    ค่าพลัง:
    +782
    อนุโมทนาค่ะ เมื่อยังอยู่ในวัฏฏพึงเพียรทำดี ละชั่ว

    ทำจิตให้ประภัสสร เท่านี้ก็มีเสบียงไปนิพพานได้ค่ะ
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,672
    ค่าพลัง:
    +51,946
    ฝึกตัดวันละอย่าง
    บอกกับตัวเองให้ชัดเจน
    คือ สัจจะ...สัญญาใจตนเอง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  10. สุภัทร เชิงหอม

    สุภัทร เชิงหอม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +26
    ควรจะทำตัวให้มีสมาธิปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อ จิตนึกถึงพระนิพพานเป็นอารมณ์ ไปได้แน่นอน <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="โพส 712117" vAlign=top><TD class=alt2> เมื่อยังอยู่ในวัฏฏพึงเพียรทำดี ละชั่วทำจิตให้ประภัสสร เท่านี้ก็มีเสบียงไปนิพพานได้ค่ะ</TD></TR><TR><TD class=thead colSpan=2>วันนี้ 11:24 AM</TD></TR></TBODY></TABLE>โมทนาครับ(b-no)
     
  11. rivercrow

    rivercrow สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +20
    การที่เราจะบรรลุ นิพพาน เราต้องใช้บุญบารมีเท่าไรหนอถึงจะใช้ได้ครับ
    เมื่อสมัยเด็กๆได้ทำลายชีวิตไปหลายชีวิตแล้วอ่ะ แต่ก็รู้สึกตกใจและเสียใจที่ทำไป
     
  12. looknoi

    looknoi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +67
    อนุโมทนาด้วยครับ
    แล้วเราจะต้องฝึกให้หนักขึ้นเพื่อไปนิพพาน
     
  13. สุวรรณหงส์

    สุวรรณหงส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +572
    นิพพานัง ปรมัง สุขัง.....พระนิพพาน เป็นสุขอย่างยิ่ง...เรายังเป็นบัวปริ่มน้ำ เราต้องทำตัวของเราให้พ้นน้ำให้ได้.....สาธุ สาธุ สาธุ
     
  14. frank0826

    frank0826 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +737
    ขออนุโมทนา ด้วยครับสำหรับความรู้ดีๆ ตอนนี้ก็กำลังพยายามทำอยู่
     
  15. grisana-2006

    grisana-2006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +450
    ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ นั่งสมาธิเป็นกิจวัตร์ สวดมนต์เย็นทุกวัน ทำใจให้เป็นกลาง ตื่นเช้าจิตใจก็เบิกบาน ตั้งมั่นอยู่ในความดี สาธุ อนุโมทนาครับ
     
  16. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,224
    ค่าพลัง:
    +15,636
    พิจารณาตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยปัจจุบัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาชีวิตเราได้ประสบความทุกข์เข็ญอย่าง หรือที่คิดมีความสุข มันสุขมากน้อย ยั่งยืนหรือไม่ มิตรสหายเพื่อนเราอยู่ครบทุกคนหรือไม่ เปล่าเลยหลายคนล้มหายตายจากไปตามวาระผลกรรมที่ทำมา มันเป็นไปตามกรรมลิขิต เคยดูสภาพศพ ญาติ เพื่อน ที่ตายไปบ้างไหม แล้วจะเข้าใจมากยิ่งขึ้น
     
  17. Master mind

    Master mind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2007
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +429
    อนุโมทนาครับ

    จะไปนิพพานนี่ต้อง ตัด รักโลภโกรธหลงให้หมดเลยนะนี่ ยากจังแฮะ
     
  18. artant999

    artant999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2006
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +934
    วันนี้ยังทำไม่ค่อยได้ แต่ก็พยายามทำอยู่ครับ
     
  19. เกสรช์

    เกสรช์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +1,398
    อนุโมทนา สาธุ!!
    คำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม ได้สอนหนทางไปพระนิพพาน คือ
    (1) ระลึกถึงความตายทุกลมหายใจเข้า-ออก ทุกวินาทีเพราะร่างกายที่เรามีอยู่นี้คือธาตุทั้ง4(ดิน,น้ำ,ลม,ไฟ) มารวมตัวกันเดี๋ยวมันก็ดับขันธ์แตกดับ ไม่ใช่ของเรา ไม่มีอะไรเป็นของเรา ตายไปก็เอาไปไม่ได้แม้ฟันที่เลี่ยมทองคำแท้ เดี๋ยวมันก็เป็นซากศพเหม็นเน่าเปื่อย ไม่มีคนกล้ากอด กล้ารัก กล้าหอมแก้ม ไม่มีใครอยากเข้าใกล้แล้วเพราะมันเน่าเปื่อย และเพื่อจะได้ไม่ประมาทเร่งสร้างบุญกุศลบารมีมากขึ้น
    (2) เคารพและระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ โดยศรัทธาแท้(ด้วยความจริงใจเลื่อมใสศรัทธาจริงๆ)
    (3) มีศีลบริสุทธิ์เป็นปกติ และ ปฏิเสธการเกิดเป็น มนุษย์ เทวดา นางฟ้า และพรหมในชาติต่อๆไป
    (4) ตั้งใจไปพระนิพพานได้ในที่สุด
     
  20. วิมลเกียรติ์

    วิมลเกียรติ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    588
    ค่าพลัง:
    +2,123
    เมื่อนิพพานเป็นที่สุดแห่งโลก เทวดาจะเหาะไปถึงที่สุดนั้นได้ไหม?

    พระพุทธเจ้าทรงตรัสตอบ “นิพพานถึงไม่ได้ด้วยการไป”


    โรหิตัสสสูตรที่ ๑
    [๔๕] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล โรหิตัสสเทวบุตร เมื่อปฐมยามล่วงไปแล้ว มีรัศมีงามยิ่งนัก ยังพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่างไสว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทแล้วยืน ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า
    <O:p</O:p
    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สัตว์ย่อมไม่เกิด ย่อมไม่แก่ ย่อมไม่ตาย ย่อมไม่จุติ ย่อมไม่อุบัติ ในโอกาสใดหนอแล พระองค์อาจหรือหนอเพื่อจะทรงทราบ เพื่อจะทรงเห็น หรือเพื่อจะทรงถึงซึ่งที่สุดแห่งโลกด้วยการเสด็จไปในโอกาสนั้น พระผู้มีพระภาค
    <O:p</O:p
    ตรัสตอบว่า ดูกรอาวุโส สัตว์ย่อมไม่เกิด ย่อมไม่แก่ ย่อมไม่ตาย ย่อมไม่จุติ ย่อมไม่อุบัติ ในโอกาสใดแล เราย่อมไม่กล่าวโอกาสนั้นว่าเป็นที่สุดแห่งโลก ที่ควรรู้ ควรเห็น ควรถึงด้วยการไป
    <O:p</O:p
    (ในจุดนี้ข้าพเจ้าอยากจะเตือนท่านทั้งหลายที่ยังคงหลงถอดกายทิพย์ไปเมืองนิพพานกันอยู่ว่า พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้เหาะหรือถอดกายทิพย์ไปนิพพานแต่อย่างใดเลย นิพพานไม่อาจถึงได้ด้วยการ “ไป” ต่อให้เหาะไปที่สุดแห่งโลกแล้ว นั่นก็ไม่ใช่นิพพาน นิพพานไม่ใช่สถานที่แต่อย่างใดเลย)<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    โร. อัศจรรย์ พระเจ้าข้า สิ่งไม่เคยมีได้มีขึ้น พระเจ้าข้า เท่าที่พระผู้มีพระภาคตรัสพระดำรัสนี้ว่า ดูกรอาวุโส สัตว์ย่อมไม่เกิด ย่อมไม่แก่ ย่อมไม่ตาย ย่อมไม่จุติ ย่อมไม่อุบัติ ในโอกาสใดแล เราย่อมไม่กล่าวโอกาสนั้น ว่าเป็น ที่สุดแห่งโลก ที่ควรรู้ ควรเห็น ควรถึง ด้วยการไป เป็นอันตรัสดีแล้ว ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เรื่องเคยมีมาแล้ว ข้าพระองค์เป็นฤาษีชื่อโรหิตัสสะ เป็นบุตรนายบ้าน มีฤทธิ์ไปในอากาศได้ ความเร็วของข้าพระองค์นั้นเปรียบได้กับ นายขมังธนู ผู้มีธนูอันมั่นเหมาะ ศึกษาดีแล้ว เชี่ยวชาญ เคยแสดงให้ ปรากฏแล้ว พึงยิงลูกศรอันเบาให้ผ่านเงาตาลด้านขวางไปได้โดยไม่สู้ยาก ฉะนั้น การยกย่างเท้าแต่ละก้าวของข้าพระองค์ เปรียบด้วยสมุทรด้านตะวันตกไกลจากสมุทรด้านตะวันออก ฉะนั้น ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ความปรารถนาเห็น ปานนี้ว่า เราจักถึงที่สุดแห่งโลกด้วยการไป เกิดขึ้นแล้วแก่ข้าพระองค์นั้น ผู้ประกอบด้วยกำลังเร็วเห็นปานนั้น และด้วยการยกย่างเท้าเห็นปานนั้น ข้าพระองค์นั้นแล เว้นจากการกิน การดื่ม การเคี้ยว การลิ้ม เว้นจากการถ่าย อุจจาระ ปัสสาวะ เว้นจากการหลับและการบรรเทาความเหน็ดเหนื่อย เป็นผู้มี ชีวิตอยู่ตลอดร้อยปีในคราวที่มนุษย์มีอายุร้อยปี ไปตลอดร้อยปี ไม่ทันถึงที่สุด แห่งโลก ได้ทำกาละเสียในระหว่างทีเดียว น่าอัศจรรย์ พระเจ้าข้า สิ่งไม่เคยมี ได้มีขึ้นพระเจ้าข้า เท่าที่พระผู้มีพระภาคตรัสพระดำรัสนี้ว่า ดูกรอาวุโส สัตว์ย่อมไม่เกิด ย่อมไม่แก่ ย่อมไม่ตาย ย่อมไม่จุติ ย่อมไม่อุบัติ ในโอกาส ใด เราไม่กล่าวโอกาสนั้น ว่าเป็นที่สุดแห่งโลก ที่ควรรู้ ควรเห็น ควรถึง ด้วยการไป เป็นอันตรัสดีแล้ว
    <O:p</O:p
    (ฤษีผู้ที่ชื่อว่าโรหิตัสสะ เคยทำมาแล้วด้วยการใช้ฤทธิ์เหาะไปหาที่สุดแห่งโลก เป็นเวลาร้อยปี ไม่ได้หยุดพักกินดื่มหลับนอนใดๆ เลย ทั้งที่ตนเหาะได้เร็วก้าวหนึ่งลัดข้ามฝั่งทะเลได้ ในที่สุด ยังไม่ทันถึงที่สุดแห่งโลก จึงได้ทำกาละ “ตายลง” ไปด้วยการกระทำอันนี้เอง นี่คือเหตุสงสัยถึงที่สุดแห่งโลก)<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    พ. ดูกรอาวุโส สัตว์ย่อมไม่เกิด ย่อมไม่แก่ ย่อมไม่ตาย ย่อม ไม่จุติ ย่อมไม่อุบัติ ในโอกาสใด เราไม่กล่าวโอกาสนั้น ว่าเป็นที่สุด แห่งโลก ที่ควรรู้ ควรเห็น ควรถึง ด้วยการไป และเราย่อมไม่กล่าวการกระทำ ที่สุดแห่งทุกข์ เพราะไปไม่ถึงที่สุดแห่งโลก แต่เราย่อมบัญญัติโลก เหตุเกิด แห่งโลก ความดับแห่งโลก และปฏิปทาเครื่องให้ถึงความดับแห่งโลก ในอัตภาพ อันมีประมาณวาหนึ่ง มีสัญญาและมีใจนี้เท่านั้น

    <O:p</O:p(นิพพานอันเป็นที่สุดแห่งโลกนั้น ถึงที่ใจ ดับที่ใจ ไม่ใช่ถึงได้ด้วยการ “ไป”)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ในกาลไหนๆ ที่สุดแห่งโลก อันใครๆ ไม่พึงถึงด้วยการไป และการเปลื้องตนให้พ้นจากทุกข์ ย่อมไม่มีเพราะไม่ถึงที่สุดแห่งโลก เพราะฉะนั้นแล ท่านผู้รู้แจ้งโลก มีเมธาดีถึงที่สุดแห่งโลก มีพรหมจรรย์อยู่จบแล้ว เป็นผู้มีบาปอันสงบ รู้ที่สุดแห่งโลกแล้ว ย่อมไม่หวังโลกนี้และโลกหน้า

    จบสูตรที่ ๕
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2007

แชร์หน้านี้

Loading...