"เฮียเม้ง" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากบางโพ
กระบวนคนโดนผีหลอกด้วยกันแล้ว ผมเชื่อว่าตัวเองไม่ได้น้อยหน้าใครเด็ดขาด พูดแล้วก็จะหาว่าคุยนะครับ แต่ผมน่ะโดนผีหลอกมาตั้งแต่เด็กยันหนุ่ม เรียกว่านับครั้งไม่ถ้วนก็แล้วกัน สงสัยว่าตัวเองอาจจะประสาทไวอย่างที่เขาเรียกว่าซิกธ์เซนส์นั่นละมั้ง?
ผมเป็นเด็กซอยไสวสุวรรณ บางโพนี่เองครับ สมัยก่อนยังห่างไกลจากความเจริญเอาการ ถนนหนทางยังเป็นดินลูกรัง หน้าฝนเฉอะแฉะอย่าบอกใคร ตอนบ่ายจะมีแผงขายขนม ผลไม้ ส้มตำ ไก่ย่าง หนุ่มๆ สาวๆ เดินจีบกันน่าอิจฉาชะมัด
ตอนที่ผมจำความได้น่ะ นอกจากพ่อแม่กับพวกพี่ๆ แล้ว ผมยังเคยเห็นคนแปลกหน้าทุกเพศทุกวัยเข้ามาเดินคึ่กๆ อยู่ในบ้าน บางคนก็มาเล่นกับผม หัวเราะเอิ๊กอ๊ากกันสนุกไป..เล่าให้แม่ฟังก็ถูกหาว่าเพ้อเจ้อตามประสาเด็ก แต่ผมน่ะรู้แน่แก่ใจว่าโดนผีหลอก!
เมื่อผมเรียนหนังสือที่โรงเรียนแถวบางซ่อน ตอนเย็นๆ ลงรถเมล์สีโกโก้เข้าซอยบ้าน...นอกจากคนทั่วๆ ไปในย่านนั้นแล้ว ผมยังเห็นพวกที่เคยเข้าไปเดินพลุกพล่านในบ้านสมัยก่อน...พอผมหันไปมองเขาก็ยักคิ้วหล
ิ่วตาให้
จะว่ากลัวก็ไม่เชิง เพราะเคยคุ้นหน้ากันมาก่อนหลายปี
พอเริ่มแตกเนื้อหนุ่มยิ่งสนุกใหญ่ เพราะคนที่ตายในซอยเห็นๆ ที่ยังฝังอยู่ก็มี เผาจี่ไปแล้วก็มี มาเดินลอยหน้าผ่านบ้านผมเป็นสายเชียว ส่วนมากตอนเย็นๆ ใกล้จะพลบค่ำ ...จะว่าตาฝาดก็เห็นนับครั้งไม่ถ้วน
ไอ้โย่ง-ขี้เมาจนผอมโกรก สูงโย่งสมชื่อ เพื่อนผมที่อยู่บ้านซอยเดียวกันก็เล่าว่า มันเคยเห็นผีที่มันไปเผามาแท้ๆ เดินปร๋อไปปร๋อมาในซอยตอนค่ำๆตั้งหลายคน ...เอ๊ย! หลายตัว
เห็นไหมล่ะครับ ว่าผมเห็นผีจริงๆ ไม่ใช่ตาฝาด หรืออุปาทานไปเอง!
เราพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ หาว่าขี้โม้ไปโน่น...แต่มีครั้งหนึ่งที่คนในซอยยอมซูฮกให้ คือผียายเผื่อนที่เพิ่งเผาไปหยกๆ ตอนเย็น พอตกค่ำแกออกมาเดินให้คนเห็นตั้งครึ่งค่อนซอยแน่ะ
วันนั้นผมนั่งซดเหล้าอยู่กับตากรี ลุงหนุ่ย เจ้าโย่งอยู่หน้าร้านกาแฟ เสียงผู้หญิงร้องวี้ดว้ายดังระงม เราหันไปเห็นร่างยายเผื่อนนุ่งผ้าลาย สวมเสื้อคอกระเช้าสีขาวแก่...แม้ว่าจะเป็นภาพจางๆ ดูโปร่งใส แต่ก็เห็นว่าเดินเอ้อระเหย หันมาเอียงคอยิ้มกับพวกเราเหมือนสาวรุ่นๆ ก่อนจะละลายหายไปต่อหน้าในบัดดล
ตากรีหงายหลังตึงลงไปคลุกฝุ่น ลุงหนุ่ยกำลังยกแก้วจะเทเหล้าเข้าปากกลับชะงักกึกเหมือนหนังขาด มือสั่นพั่บๆ จนเหล้าหกเลอะเทอะเสื้อผ้าหมดแก้ว ร้องแต่ เฮ้ย...โฮ้ย...ฮ้าย...เหมือนสติสตังแตกกระเจิง
มีไอ้โย่งกับผมเท่านั้นที่หันมองสบตากันแล้วกลืนน้ำลาย ไอ้โย่งถอนใจเฮือก...นั่นไง กูบอกแล้วไม่เชื่อว่าซอยเราผีดุจะตายชัก!
ถึงแม้ผมจะเคยโดนผีหลอกมาแค่ไหน ชินชายังไงก็ตามเถอะเอ้า! แต่แล้วคืนหนึ่งผมก็ต้องเจอะเจอกับคืนมหาโหด เขย่าขวัญสั่นประสาท สุดสยองจนแทบจะช็อกตายคาที่ไปเลย
วันนั้น ผมไปหาเพื่อนที่วงศ์สว่างตอนบ่าย บ้านอยู่ใกล้อู่รถเมล์ศิริมิตร ไม่ต้องบอกก็ได้นะครับว่าตั้งวงเหล้ากันครึกครื้นแค่ไหน พูดคุยสนุกเฮฮาไร้สาระ พอชักมึนๆ ก็ขอตัวกลับ แต่คนนั้นฉุด คนนี้รั้ง แหม...ไอ้ผมก็คนใจอ่อนซะด้วยเลยพลอยติดลมไปง่ายๆ
บังเอิญเหลือบไปเห็นรถเมล์คันสุดท้ายสตาร์ตเครื่อง ผมต้องเผ่นละครับ งานนี้! ย่านนั้นอย่าฝันหาแท็กซี่ซะให้ยาก ถ้าพลาดรถเมล์คันนั้นมีหวังต้องค้างบ้านเพื่อน...วันรุ่งขึ้นกลับบ้านมีหวังโดนพ่อด่
าหูตูบแน่
จนกระทั่งมาถึงจดหมายที่ปากซอยไสวสุวรรณ!
อากาศยามดึกเย็นยะเยือก ผมจ้ำอ้าวเข้าซอยที่ไม่มีฝุ่นฟุ้งเหมือนตอนกลางวัน หมูหมาเห่าหอนตามปกติ ไฟถนนก็ยังไม่มี แต่โชคดีที่เดือนหงายกระจ่างฟ้า บ้านเรือนที่หนาตาขึ้นก็ดับไฟนอนกันหมดสิ้นแล้ว ...ยอมรับว่าเปลี่ยวน่าดูสำหรับคนแปลกหน้า แต่ผมย่ำมาตั้งแต่เด็กจนโตเลยไม่หวั่นอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าคนหรือผี
อ้าว? ใครเดินโย่งๆ อยู่ข้างหน้า ...แค่เห็นด้านหลังก็จำไอ้โย่งได้แล้ว ผมร้องไปว่ารอด้วยโว้ย มันหันขวับมามองแล้วยิ้มกว้าง บอกว่า...กูกำลังเสียวสันหลังอยู่พอดี!
พอเดินไปทันกันผมก็เล่าว่าเกือบพลาดรถเที่ยวสุดท้าย ไอ้โย่งบอกว่าไม่รู้เป็นไง คืนนี้กูเกิดกลัวผีหลอกขึ้นมา...เดี๋ยวเจอยายเผื่อนเดินยิ้มแต้เข้ามามีหวังกูวิ่งหื
ดจับแน่ๆ เลยว่ะ
ผมกระเดือกน้ำลายเหลียวซ้ายแลขวาด้วยความหวาดระแวง ...เออ! ทำไมเกิดนึกกลัวขึ้นมาก็ไม่รู้ ...หมาเจ้ากรรมก็โก่งคอหอนไม่หยุดหย่อน...พอดีถึงบ้านไอ้โย่งก่อน มันหันมาถามว่าจะให้เดินไปส่งไหม? ผมส่ายหน้า บอกเพื่อนให้เข้าบ้านเถอะ พรุ่งนี้ค่อยเจอกัน
ไอ้โย่งย่นคิ้วก่อนพยักหน้าช้าๆ เลี้ยวขวาไปทางกอกล้วยหน้าบ้าน...ก่อนจะจางหายไปต่อหน้าต่อตา ผมร้องเฮ้ย! ตกใจสุดขีดจนออกวิ่งเตลิดไม่คิดชีวิต ...ถึงบ้านแล้วถึงรู้ข่าวว่า มันขาดใจตายคาวงเหล้าเมื่อตอนค่ำนั่นเอง! บรื๋ออออ....
คืนอุบาทว์
ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย ถือศิลแต่เมาCess, 24 สิงหาคม 2008.
-
-
วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด
ผีมีจริงจริงๆครับ www.myspace.com/friendofghost เพลงผีๆ
-
ใช่ๆ
ผีมีจริง
ไม่เคยเจอแต่เชื่อ -
555555555
-
จิตดิ้นรน กลับกลอก ป้องกันยาก ห้ามยาก
คนมีปัญญาสามารถทำให้ตรงได้
เหมือนช่างศรดัดลูกศร
พุทธวจนะ -
แต่ยังดีที่มาแบบไม่น่ากลัว
-
คุยกันซะรู้เรื่องเลย ดีนะ ไม่ได้ให้ไปส่ง
-
เหอๆ
-
ชอยนี้เมี่อตอนป้าเป็นเด็ก เพี่อนป้าก็อยู่ที่นันเเต่ก่อนชาวบ้านเขาเรียกกันว่า ..ชอย อีเตี้ย..เพราะ ไสวสุวรรณ เป้นภรรยา จอมพล ประภาส เธอตัวเตี้ย พอหลัง ๑๔ ตค ชาวบ้านเลยเรียกว่า ชอย อีเตียกันคะ