"คุณสมบัติของผู้มุ่งสันตบท" - วศิน อินทสระ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ไมยราพ, 20 มีนาคม 2012.

  1. ไมยราพ

    ไมยราพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2009
    โพสต์:
    495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +201
    สันตบท หมายถึงทางดำเนินแห่งผู้สงบ เมื่อสัตบุรุษให้สิ่งที่ให้ได้ยาก ทำสิ่งที่ทำได้ยากอยู่
    อสัตบุรุษทำตามไม่ได้ เพราะธรรมหรือทางดำเนินของสัตบุรุษทำตามได้ยาก
    เพราะฉะนั้น ทางดำเนินจึงต่างกัน อสัตบุรุษไปทางเสื่อม สัตบุรุษไปทางเจริญ
    หนังสือเล่มนี้ กล่าวถึงคุณสมบัติของผู้ดำเนินสู่สันตบท คือทางแห่งผู้สงบ หรือทางแห่งคนดี
    ตามนัยแห่งกรณียเมตตสูตร ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ ในพระไตรปิฎกเล่ม 25 หน้า 13 ข้อ10

    สารบัญ

    1. สักโก เป็นผู้องอาจ

    2. อุชุ เป็นผู้ซื่อตรง สุหุชุ ซื่อตรงด้วยดี

    3. สุวโจ เป็นคนว่าง่าย

    4. มุทุ เป็นผู้อ่อนโยน

    5. อนติมานี แปลว่า ไม่ดูหมิ่นผู้อื่น

    6. สันตุสสโก เป็นผู้สันโดษ

    7. สุภโร การเป็นผู้เลี้ยงง่าย

    8. อัปปกิจโจ เป็นผู้มีกิจน้อย

    9. สัลลหุกวุตติ ประพฤติตนเป็นผู้เบากาย เบาใจ

    10. สันตริทรีโย มีอินทรีย์สงบ

    11. นิปโก ผู้มีปัญญารักษาตน

    12. อัปปคัพโภ เป็นผู้ไม่คนองกาย วาจา มีจิตสงบ

    13. กุเลสุอนนุคิทโธ ไม่ติดพันในตระกูลทั้งหลาย

    14. อนูปวาโท ไม่กล่าวร้าย



    http://www.ruendham.com/book_detail.php?id=36
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2012
  2. ไมยราพ

    ไมยราพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2009
    โพสต์:
    495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +201
    อรรถกถา ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ กรณียเมตตสูตรในขุททกปาฐะ

    อรรถกถาเมตตสูตร

    ประโยชน์ของการตั้งสูตร
    บัดนี้ ถึงลำดับการพรรณนาความของเมตตสูตร ซึ่งยกตั้งไว้ในลำดับต่อจากนิธิณฑสูตร.
    ในที่นี้ ข้าพเจ้าจักกล่าวประโยชน์ของการตั้งเมตตสูตรนั้นแล้ว ต่อจากนั้น พึงทราบการชี้แจงบทเหล่านี้ว่า เมตตสูตรนั้น ผู้ใดกล่าว กล่าวเมื่อใด กล่าวที่ใดและกล่าวเพราะเหตุใด ชำระนิทานแล้ว จึงจักทำการพรรณนาความของเมตตสูตรนั้น.
    ในเมตตสูตรนั้น เพราะเหตุที่ตรัสบุญสัมปทามีทาน ศีลเป็นต้นด้วยนิธิกัณฑสูตร. เมื่อบุคคลทำเมตตาในสัตว์ทั้งหลาย บุญสัมปทานั้น ย่อมมีผลมาก จนถึงสามารถให้บรรลุพุทธภูมิได้ ฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงยกเมตตสูตรขึ้นตั้งในที่นี้ เพื่อแสดงว่าเมตตาเป็นอุปการะแก่บุญสัมปทานั้น หรือเพราะเหตุที่ข้าพเจ้าครั้นแสดงกรรมฐานอันสามารถละโทสะด้วยทวัตติงสาการ สำหรับชนทั้งหลายผู้นับถือพระศาสนาด้วยสรณะ แล้วตั้งอยู่ในศีลด้วยสิกขาบททั้งหลาย และสามารถละโมหะด้วยกุมารปัญหา จึงแสดงว่าความประพฤติสรณะเป็นต้นนั้นเป็นมงคล และรักษาตนเองด้วยมงคลสูตร แสดงการรักษาผู้อื่นอันเหมาะแก่มงคลนั้นด้วยรัตนสูตร แสดงการเห็นภูตบางพวกในบรรดาภูตทั้งหลายที่กล่าวไว้ในรัตนสูตร และความวิบัติของเหล่าชนที่ประมาทในบุญสมบัติดังที่กล่าวแล้ว ด้วยติโรกุฑฑสูตร และแสดงสมบัติอันเป็นปฏิปักษ์ต่อวิบัติที่กล่าวไว้ในติโรกุฑฑสูตร ด้วยนิธิกัณฑสูตร แต่ยังมิได้แสดงกรรมฐานที่สามารถละโทสะ ฉะนั้น เพื่อแสดงกรรมฐานอันสามารถละโทสะนั้น ข้าพเจ้าจึงยกเมตตสูตรนี้ขึ้นตั้งในที่นี้. เมื่อเป็นดังนั้น ขุททกปาฐะจึงย่อมจะบริบูรณ์ด้วยดี ข้อที่กล่าวมาดังนี้ เป็นประโยชน์แห่งการตั้งเมตตสูตรนั้นไว้ในที่นี้.

    การชำระนิทาน
    บัดนี้ ข้าพเจ้ายกมาติกาหัวข้อนี้ใดไว้ว่า
    พึงทราบการชี้แจงบทเหล่านี้ว่า เมตตสูตรนี้ผู้ใด
    กล่าว กล่าวเมื่อใด กล่าวที่ใด และกล่าวเพราะเหตุใด
    ข้าพเจ้าชำระนิทานแล้วจึงจักทำการพรรณนาความ
    แห่งเมตตสูตรนั้น ดังนี้.
    ในมาติกาหัวข้อนั้น พึงทราบการชี้แจงบทเหล่านี้และการชำระนิทานโดยสังเขปอย่างนี้ก่อนว่า
    เมตตสูตรนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์เดียวตรัส พระสาวกเป็นต้นมิได้กล่าว.
    ก็แต่ว่า เมื่อใด ภิกษุทั้งหลายถูกเทวดาทั้งหลายรบกวนข้างภูเขาหิมวันต์ จึงพากันมาเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสเมตตสูตรนั้น เพื่อป้องกันและเพื่อเป็นกรรมฐานสำหรับภิกษุเหล่านั้น.
    ส่วนโดยพิศดาร พึงทราบอย่างนี้.
    สมัยหนึ่ง ใกล้ดิถีเข้าจำพรรษา พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่กรุงสาวัตถี. สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายจากชาวเมืองต่างๆ จำนวนมาก รับกรรมฐานในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ประสงค์จะเข้าจำพรรษาในที่นั้นๆ จึงเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า.
    ได้ยินว่า สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกรรมฐานทั้งหลายที่อนุกูลแก่จริตจำนวน ๘๔,๐๐๐ ประเภท โดยนัยนี้คือ อสุภกรรมฐาน ๑๑ อย่าง คือ อสุภที่มีวิญญาณและไม่มีวิญญาณ สำหรับคนราคจริต, กรรมฐานมีเมตตากรรมฐานเป็นต้น ๔ อย่าง สำหรับคนโทสจริต, กรรมฐานมีมรณัสสติกรรมฐานเป็นต้น สำหรับคนโมหจริต, กรรมฐานมีอานาปานัสสติและปฐวีกสิณเป็นต้น สำหรับคนวิตกจริต, กรรมฐานมีพุทธานุสสติกรรมฐานเป็นต้น สำหรับคนสัทธาจริต, กรรมฐานมีจตุธาตุววัตถานกรรมฐานเป็นต้น สำหรับคนพุทธิจริต.
    ลำดับนั้น ภิกษุประมาณ ๕๐๐ รูปเรียนกรรมฐานในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้า กำลังแสวงหาเสนาสนะที่เป็นสัปปายะและโคจรคาม เดินไปตามลำดับ ได้พบภูเขาพื้นศิลาคล้ายมณีสีคราม ประดับด้วยราวป่าสีเขียวมีร่มเงาทึบเย็น มีภูมิภาคเกลื่อนด้วยทรายเสมือนแผ่นเงินข่ายมุกดา ล้อมด้วยชลาลัยที่สะอาดเย็นดี ติดเป็นพืดเดียวกับป่าหิมวันต์ ในปัจจันตประเทศ.

    บางส่วนจาก :
    http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=10
     
  3. ไมยราพ

    ไมยราพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2009
    โพสต์:
    495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +201
    อาจจะเคยผ่านตา หรือเคยสวดภาวนา มาบ้าง

    กับ บทกรณียเมตตสูตร ครับ

    เนื้อหาสาระยาวๆ ก็ประเดิมตามลิ้งล่ะครับ
     
  4. ไมยราพ

    ไมยราพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2009
    โพสต์:
    495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +201
    กรณียเมตตสูตรพร้อมคำแปล

    กะระณียะเมตตะสูตร

    [FONT=Tahoma !important][FONT=Tahoma !important]กะระณียะมัตถะกุสะเลนะ ยันตัง สันตัง ปะทัง อะภิสะเมจจะ [/FONT][/FONT]
    กิจอันใด อันพระอริยเจ้าบรรลุบทอันกระทำแล้ว กิจอันนั้นกุลบุตรผู้ฉลาดในประโยชน์พึงกระทำ


    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]สักโก อุชู จะ สุหุชู จะ [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]กุลบุตรนั้นพึงเป็นผู้อาจหาญ และซื่อตรงดี[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]สุวะโจ จัสสะ มุทุ อะนะติมานี [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]เป็นผู้ว่าง่าย อ่อนโยน ไม่มีอติมานะ[/FONT]
    [/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]สันตุสสะโก จะ สุภะโร จะ [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]เป็นผู้สันโดษ เลี้ยงง่าย[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]อัปปะกิจโจ จะ สัลละหุกะวุตติ [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]เป็นผู้มีธุรกิจน้อย ประพฤติเบากายจิต[/FONT]
    [/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]สันตินทริโย จะ นิปะโก จะ [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]มีอินทรีย์อันระงับแล้ว มีปัญญา[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]อัปปะคัพโภ กุเลสุ อะนะนุคิทโธ [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]เป็นผู้ไม่คะนอง ไม่พัวพันในสกุลทั้งหลาย[/FONT]
    [/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]นะ จะ ขุททัง สะมาจะเร กิญจิ เยนะ วิญญู ปะเร อุปะวะเทยยุง [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]วิญญูชนติเตียนชนทั้งหลายอื่นด้วยกรรมอันใด ไม่พึงประพฤติกรรมอันนั้นเลย[/FONT][/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]สุขิโน วา เขมิโน โหนตุ สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตา [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ขอสัตว์ทั้งปวง จงเป็นผู้มีสุข มีความเกษม มีตนถึงความสุขเถิด[/FONT]
    [/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]เย เกจิ ปาณะภูตัตถิ [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]สัตว์มีชีวิตทั้งหลายเหล่าใดเหล่าหนึ่งมีอยู่[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]ตะสา วา ถาวะรา วา อะนะวะเสสา [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ยังเป็นผู้สะดุ้ง ( คือมีตัณหา ) หรือเป็นผู้มั่นคง ( ไม่มีตัณหา ) ทั้งหมดไม่เหลือ[/FONT]
    [/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]ทีฆา วา เย มะหันตา วา มัชฌิมา รัสสะกา อะณุกะถูลา [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]เหล่าใดยาวหรือใหญ่ หรือปานกลางหรือสั้นหรือผอมพี[/FONT][/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]ทิฏฐา วา เย จะ อะทิฏฐา [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]เหล่าใดที่เราเห็นแล้ว หรือมิได้เห็น[/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]เย จะ ทูเร วะสันติ อะวิทูเร [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]เหล่าใดอยู่ในที่ไกลหรือที่ไม่ไกล[/FONT][/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]ภูตา วา สัมภะเวสี วา [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ที่เกิดแล้ว หรือแสวงหาภพก็ดี[/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตา [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ขอสัตว์ทั้งปวงเหล่านั้น จงเป็นผู้มีตนถึงความสุขเถิด[/FONT][/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]นะ ปะโร ปะรัง นิกุพเพถะ [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]สัตว์อื่นอย่างพึงข่มเหงสัตว์อื่น [/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]นาติมัญเญถะ กัตถะจิ นัง กิญจิ [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]อย่าพึงดูหมิ่นอะไรๆ เขา ในที่ไรๆ เลย[/FONT][/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]พยาโรสะนา ปะฏิฆะสัญญา นาญญะมัญญัสสะ ทุกขะมิจเฉยยะ [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ไม่ควรปรารถนาทุกข์แก่กันและกัน เพราะความกริ้วโกรธด้วยความคับแค้นใจ[/FONT]
    [/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]มาตา ยะถา นิยัง ปุตตัง อายุสา เอกะปุตตะมะนุรักเข [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]มารดาถนอลูกคนเดียว ผู้เกดในตนด้วยยอมพร่าชีวิตได้ฉันใด[/FONT][/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]เอวัมปิ สัพพะภูเตสุ มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]พึงเจริญเมตตา มีในใจ ไม่มีประมาณในสัตว์ฉันนั้น[/FONT]
    [/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]บุคคลพึงเจริญเมตตา มีในใจไม่มีประมาณไปในโลกทั้งสิ้น[/FONT][/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]อุทธัง อะโธ จะ ติริยัญจะ [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ทั้งเบื้องบน เบื้องต่ำ เบื้องเฉียง[/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]อะสัมพาธัง อะเวรัง อะสะปัตตัง [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]เป็นธรรมอันไม่คับแคบ ไม่มีเวร ไม่มีศัตรู[/FONT][/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]ติฎฐัญจะรัง นิสินโน วา [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ผู้เจริญเมตตาจิตนั้น ยืนอยู่ก็ดี เดินไปก็ดี นั่งแล้วก็ดี[/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]สะยาโน วา ยาวะตัสสะ วิคะตะมิทโธ [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]นอนแล้วก็ดี เป็นผู้ปราศจากความง่วงนอนเพียงใด[/FONT][/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]เอตัง สะติง อะธิฏเฐยยะ [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ก็ตั้งสติอันนั้นไว้เพียงนั้น [/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]พรัหมะเมตัง วิหารัง อิธะมาหุ [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]บัณฑิตทั้งหลาย กล่าวกิริยาอันนี้ว่า เป็นพรหมวิหาร ในพระศาสนานี้[/FONT][/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]ทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ สีสะวา [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]บุคคลที่มีเมตตา ไม่เข้าถึงทิฏฐิ เป็นผู้มีศีล[/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]ทัสสะเนนะ สัมปันโน [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ถึงพร้อมแล้วด้วยทัศนะ ( คือโสดาปัตติมรรค)[/FONT]
    [/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]กาเมสุ วิเนยยะ เคธัง [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]นำความหมกมุ่นในกามทั้งหลายออก [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=Tahoma !important]นะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะเรตีติฯ [/FONT][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ย่อมไม่ถึงความนอน ( เกิด) ในครรภ์อีก โดยแท้ทีเดียว[/FONT]

    http://www.gmwebsite.com/webboard/Topic.asp?TopicID=Topic-070428165909341[/FONT]

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...