คุยกับผีตัวที่ ๙ ผีนับหมื่นขอส่วนบุญ อีกครั้งข้อมูลครบ อนุญาตให้เผยแพร่ได้ทุกกรณี

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย JeTo2008, 10 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. JeTo2008

    JeTo2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +1,845
    ได้เวลาที่รอคอยแล้ว วันนี้ก็จะมาเล่าเรื่องราวของผีตัวที่ ๙ เรื่องของเรื่องมันมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีผีทั้งหลายมากมายจะเล่าเรื่องใดก่อนก็จะพิจารณาตามความเหมาะสมเพราะการได้พบกับผีแต่ละตัวมักจะได้ข้อคิดเกี่ยวกับธรรมมะมาด้วยเหมือนกับว่าผีเหล่านั้นมาช่วยแนะนำธรรมมะคือสอนธรรมมะในส่วนที่ยังไม่รู้ไม่เข้าใจ ทำให้เราได้รู้ได้เข้าใจในธรรมมะมากขึ้น เรียกง่ายๆว่าผีมาช่วยสอนธรรมมะมาเป็นเพื่อนกับเรา ร่ายยาวไปแล้วว่าแล้วก็เข้าเรื่องเลยดีกว่า วันนี้คงจะพูดถึงผีอดอยากที่อยู่ตามวัดกันบ้าง เย็นวันนั้นมีควาจำเป็นต้องไปงานศพพ่อของเพื่อนคนหนึ่ง เมื่อไปถึงที่งานเป็นเวลาประมาณ ๑๙.00 น. ก่อนพระสวด พอไปถึงก็ไปเคารพศพตามปกติและก็ไปนั่งที่ที่เขาจัดไว้ให้แขกนั่งพูดคุยทักทายแสดงความเสียใจกับเพื่อนอยู่สักพักก็ขอตัวไห้องน้ำ ทางไปห้องน้ำต้องผ่านหน้าเมรุเผาศพ ขณะที่เดินผ่านไปนั้นมีความรู้สึกหนักไปทั้งตัวเหมือนกับว่ามีอะไรมาจับมาดึงตัวเราไว้พอเสร็จธุระมาจากห้องน้ำแล้วจึงหาที่ที่ปลอดจากคน นั่งสบาย ที่ใต้ต้นไม้ นั่งห้อยขาบนที่นั่งรอบต้นไม้ที่มีอยู่ตามวัดทั่วไป พิจารณาถึงอาการที่เกิดตัวหนักขึ้นมาเฉยๆก็เลยหลับตาลงเพื่อเข้าสมาธิดุสิ่งที่เกิดขึ้น ครั้นพอหลับตาลงชั่วพริบตาเดียวเห็นตามตัวตามแขนตามขาของผู้เขียนนั้นมีมือของคนตั้งมากมายมาจับเต็มไปหมดนับร้อยนับพันมือ ตอนแรกที่ก็รู้สึกตกใจเหมือนกันเพราะไม่เคยเจออย่างนี้ แต่พอทุกอย่าชัดเจนขึ้นเริ่มเห็นเจ้าของมือทั้งหลายชัดเจนขึ้นมือเหล่านั้นก็ค่อยๆปล่อยออกจากตัวผู้เขียนไป ทั้งหมดนั้นเป็นมือของผีหรือวิญญาณที่อยู่ที่นั่น ผีทุกตัวค่อยลงไปนั่งพับเพียบเรียงกันเป็นแถวเป็นแนวอย่างเป็นระเบียบทีละตัวสองตัวนั่งลงนั่งลงด้วยอาการสงบพวกที่นั่งลงได้แล้วก็ประนมมือขึ้นไหว้ผู้เขียนแล้วก็ประนมไว้อยู่อย่างนั้นตลอดเวลาที่อยู่ตรงหน้าผู้เขียน มาเรื่อยๆไม่ขาดสายตัวแล้วตัวเล่าตัวแล้วตัวเล่าค่อยขยายออกไปจนเต็มลานหรือบริเวณนั้นแล้วลนออกไปสุดหูสุดตา นับประมาณด้วยตาแล้วน่าจะเกินหมื่นตัวอย่างแน่นอน และรูปร่างหน้าตาของผีแต่ละตัวนั้นสุดที่จะบรรยายทั้งหน้าตาเหวอะหวะ เสื้อผ้าขาดวิ่น ผอมโซ เลือดเกรอะกรัง กลิ่นเหม็นจนน่าสะอิดสะเอียน บ้างตาถลนออกนอกเบ้า บ้างหัวขาด บ้างไส้ทะลัก มีมากมายหลายแบบล้วนแล้วแต่ไม่น่าดูน่าชมเลย ผู้เขียนเห็นดังนั้นจึงถามขึ้นว่า พวกทานเป็นใครทำไมจึงมากันมากมายเพียงนี้ แล้วปรารถนาสิ่งใดจากเราจึงมาหาเราผีตนหนึ่งที่ดูว่ามีอาวุโสที่สุดในจำนวนผีทั้งหมดลักษณะเป็นหัวหน้าก็พูดตอบมาว่า ข้าแต่ท่านผู้ใจบุญ พวกกระผมเป็นผีเร่ร่อนที่อยู่แถวนี้ยังไม่ได้ไปผุดไปเกิดด้วยแรงกรรมบางอย่างของแต่ละตัวที่แตกต่างกันไป พวกเราอยู่ไปทั่วบริเวณรอบๆวัดนี้แหละ ที่ต้องออกมาพบท่านอย่างนี้ก็เพราะว่า เรารู้มาว่าวันนี้จะมีผู้มีบุญและมีเมตตามาที่นี่พวกเราจึงตั้งใจมารอท่านมารอกันทำไม ผู้เขียนถามกลับไป ผีตัวนั้นตอบว่าเพราะว่าเรารู้ว่าท่านช่วยพวกเราได้ยังไง ผู้เขียนถามต่อ ก็ท่านเป็นผู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกุศลผลบุญและเป็นผู้เจริญเมตตาบารมีอย่างมาก พลังแห่งความเมตตาที่เป็นรัศมีออกมาจากตัวท่านแผ่ไปทั่วไม่ว่าท่านจะไปที่ใดสรรพวิญญาณทั้งหลายก็จะเห็นพลังอันนั้นของท่าน ผีตัวนั้นหยุดพูดสักพักหนึ่งแล้วจึงพูดต่อว่า พวกเราเดือดร้อนกันมานานแล้ว เราอดอยากกันมากทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสเพราะไม่มีใครอุทิศส่วนกุศลถึงพวกเราเลย แม้มีบ้างก็ไม่บริบูรณ์เพราะท่านผู้ที่อุทิศนั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้ไม่มีศีลไม่มีธรรม ทานที่ส่งให้ไปจึงน้อยมากไม่เพียงพอแก่พวกเรา แล้วส่วนมากก็ระบุแค่ญาติของตนของตนเท่านั้นพวกเราจึงอดอยากแต่พวกท่านก็อยู่ในวัดกันนี่นา พระท่านก็แผ่เมตตาจิตให้ทุกวันแล้วไม่ได้รับหรือ ผู้เขียนย้อนถามไป ได้รับบ้างแต่น้อยดังที่บอกไปนั่นแหละ เพราะพระคุณเจ้าในปัจจุบันนี้ไม่ค่อยเจริญพระกรรมฐานให้ถึงจุดที่พอจะช่วยสรรพวิญญาณได้แล้วเรื่องศีลและวินัยก็ย่อหย่อนจึงเป็นผลที่ทำให้ไม่สามารถแผ่เมตตาไปได้มาก ยิ่งฆราวาสยิ่งไปกันใหญ่จะหาคนดีมีศีล ๕ บริสุทธิ์สักคนหนึ่งก็หาอยากไม่ต้องไปพูดถึงศีล ๘ เลย นั่นเฉพาะเรื่องของศีล ยังมีเรื่องของสมาธิ อีก ขนาดศีลยังไม่เต็มแล้วจะมีกำลังสมาธิกำลังของจิตได้อย่างไร ผู้เขียนนิ่งฟังอยู่สักพักหนึ่งก็พิจารณาตามที่ผีตัวนั้นพูด เห็นจะจริงดังที่ท่านพูดมา เป็นอย่างนั้นจริงๆแม้เราเองที่อยู่ในสังคมมนุษย์เมื่อเราพูดเรื่องศีล ๕ มีแต่คนเดินหนี เฮ้อ มนุษย์หนอมนุษย์ แย่มากๆให้ผีดูถูกกันได้ อ้าวแล้วพวกท่านปรารถนาอะไรจากเรา จงบอกมาเถิดถ้าเราช่วยได้เราจะช่วย ผู้เขียนพูดและถามความต้องการของผีเหล่านั้น ผีตัวที่เป็นหัวหน้าก็พูดขึ้นมาว่า เราปรารถนาทานบารมีของท่านทั้งอาหารทิพย์ น้ำทิพย์ และ ยาทิพย์ เครื่องนุ่งห่มทิพย์ จากท่าน ขอท่านจงโปรดเมตตาแผ่พลังจิตอันเป็นทิพยสมบัติของท่านแก่พวกเราด้วยเถิด แล้วเมื่อพวกเราได้รับแล้วพวกเราบางตัวก็จะได้ไปเกิดในภพภูมิใหม่ที่ดีกว่า ขอท่านจงปลดปล่อยพวกเราด้วยเถิด แล้วผีนับหมื่นนั้นก็พร้อมใจกันกราบลงตรงหน้าของเราผู้เขียนเป็นการขอความเมตตา เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ขอให้ท่านทั้งหลายจงตั้งปรารถนาในสิ่งที่ตนปรารถนาตามสมควรแก่ตน แก่ตนเถิด เราจะแผ่เมตตาจิต และความเป็นทิพย์ไปสู่พวกท่านทั้งหลาย พูดจบผู้เขียนก็ลุกขึ้นยืนประนมมือแล้วอธิษฐานจิตไปว่า ด้วยบุญบารมีที่เราได้บำเพ็ญมาอย่างดีแล้วขอความเป็นทิพย์ทั้งหลายจงบังเกิดขึ้นตรงหน้าแล้วแจกจ่ายไปสู่สรรพวิญญาณทั้งหลายนี้โดยทั่วกัน แม้วิญญาณดวงใดปรารถนาไปสู่ภพภูมิใหม่ขอให้จงได้ไปเกิดในภพภูมิที่ตนปรารถนาตามกำลังบุญที่ตนนั้นได้เคยสั่งสมมา ขอความปรารถนาของเราจงสำเร็จดังที่ได้อธิษฐานไปนี้ทุกประการเทอญสาธุ เสียงสาธุของสรรพวิญญาณทั้งหลายนั้นดังกึกก้องไปทั่วบริเวณนั้น สิ้นคำอธิษฐานได้บังเกิดอัศจรรย์ในสมาธิของผู้เขียนที่ยืนหลับตาประนมมืออยู่ในขณะนั้น ภาพที่เห็นคือ เบื้องบนเหนือศีรษะของผู้เขียน เกิดสายน้ำทิพย์พุ่งขึ้นโปรยปรายไปทั่วบริเวณประดุจสายฝน ครั้นเมื่อสายฝนนี้ไปถูกต้องกายของผีตัวใดสภาพของผีที่น่าเกลียดเหล่านั้นกลับมีผิวพรรณสวยงามกันทุกตัวตน เสื้อผ้าที่ขาดวิ่นกระรุ่งกระริ่งนั้นกลับเป็นชุดผ้าไทยใหม่ที่สีสันสดใสสวยงามประดุจนางฟ้าเทพเทวาก็มิปาน อีกด้านหนึ่งนั้นต่ำลงไปที่ปลายเท้าของผู้เขียน มีสายน้ำใหญ่ไหลเป็นธารน้ำประดุจการไหลของธารน้ำใหญ่ ไหลไปสู่สรรพวิญญาณทั้งหลาย เปลวไฟแห่งความแห้งแล้งทรมานผีทั้งหลายมานานนั้นถูกสายน้ำนี้ดับหมดแล้วเมื่อธารน้ำนี้ไหลไปถูกผีตัวใดก็บังเกิดเป็นสรรพอาหารทิพย์มากมายขึ้นตรงหน้าผีตัวนั้นๆ พลันผีเหล่านั้นก็กินอาหารนั้นกันเป็นการใหญ่ บ้างก็ดื่มน้ำนั้นด้วยการใช้มือทั้งสองข้างวักขึ้นมาดื่มกันอย่างมีความสุขต่างร่าเริงบันเทิงใจไปทั่วบริเวณ ประดุจดังว่าคนหิวโหยมานานแล้วได้มาพบสิ่งที่ตนปรารถนา ได้ดื่ม ได้อาบ ได้กินกันอย่างมีความสุข ผีทั้งหลายต่างกลับกลายงดงามตามสภาพของตน ต่างพร่ำบนกันด้วยความสุข ผู้เขียนเองก็ไม่วายที่จะมีความสุขไปพร้อมกับผีเหล่านั้น แล้วสักพักผีบางตัวก็ลอยขึ้นไปบนฟ้า แล้วก็พูดออกมากันว่า ไชโย เราจะได้ไปเกิดแล้ว ไชโย เราจะได้ไปเกิดแล้ว พูดร้องตะโกนกันอยู่อย่างนั้น ผู้เขียนปล่อยให้เวลาผ่านไปสักพักหนึ่งเพื่อให้ผีเหล่านั้นได้รับผลบุญกันเต็มที่ ครั้นเห็นว่าสมควรแก่เวลาที่จะต้องไปฟังสวดพระอภิธรรมแล้ว จึงพูดขึ้นว่า ได้เวลาที่เราต้องไปแล้วขอท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ที่ไม่ประมาทในการสร้างสมบุญบารมีเพื่อประโยชน์ของตนของตน และขอให้ท่านทั้งหลายจงมีความสุขสวัสดีอันสมควรแก่อัตภาพของตนถ้วนทุกท่านเทอญสาธุ สาธุ สาธุ เสียงสาธุดังพร้อมกันอีกครั้ง แล้วผีตัวที่เป็นหัวหน้าก็พูดขึ้นว่า ตั้งแต่ข้าพเจ้าตายจากความเป็นมนุษย์นี่เป็นความสุขแรกที่ข้าพเจ้าได้รับเป็นอย่างมาก ข้าพเจ้าจะไม่ลืมบุญคุณอันนี้ของท่านเลยตลอดไป ขอท่านจงเป็นผู้บริบูรณ์ในบุญบารมีทั้งหลาย สิ่งใดท่านปรารถนาจงสำเร็จดังมโนปณิธานที่ท่านตั้งไว้ในทุกเรื่องใดใดก็ตาม ขออำนาจความสำเร็จทั้งหลายจงมีแก่ท่านตลอดไป สาธุ แล้วผีทั้งหลายก็ก้มลงกราบผู้เขียนอีกครั้งหนึ่ง เป็นการลา แล้วผู้เขียนก็ออกจากสมาธิ นั่งพิจารณาเรื่องราวทั้งหลายที่เกิดขึ้นอยู่สักพักหนึ่งก็ได้เวลาฟังพระสวดอภิธรรมพอดี เรื่องก็มีเท่านี้ ขอฝาข้อคิดสะกิดเตือนใจท่านผู้อ่านทั้งหลาย เรื่องบุญบารมีที่ทุกท่านสั่งสมกันอยู่มากน้อยก็ตาม หาได้เป็นประโยชน์เฉพาะตนเพียงเท่านั้นก็หาไม่วันหนึ่งเมื่อมันมีมากมันก็สามารถใช้ช่วยเหลือผู้อื่นได้ด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่เกิดกับผู้เขียนมาประมาณ 10 ปีมาแล้วเห็นจะได้ หลังจากวันนั้นเป็นต้นมาจวบจนวันนี้เมื่อใดก็ตามที่ผู้เขียนได้มีโอกาสไปที่วัดหรือที่ที่มีวิญญาณในลักษณะนี้ผู้เขียนก็จะแผ่บุญบารมีช่วยสรรพวิญญาณทั้งหลายตลอดมาและคงจะทำไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ เรื่องราวของผู้เขียนในลักษณะนี้จึงมีมากมายแตกต่างกันก็ที่สถานที่ ในแต่ละที่ก็มีความทุกข์ร้อนแตกต่างกันไปไม่ผิดอะไรกับมนุษย์ที่มักจะมีความทุกข์ร้อนไปทั่วนั่นก็เพราะทั้งผีและมนุษย์ทั้งหลายนั้นประมาทไม่ยอมสร้างสมคุณงามความดี บุญบารมีเฉพาะตนไว้ให้มากๆเลยต้องเดือดร้อนกันทั้งตอนที่ยังมีชีวิตและแม้กระทั่งตายไปเป็นผีก็ยังเดือดร้อน ท่านผู้อ่านถ้าไม่อยากเดือดร้อนทั้งในโลกนี้และโลกหน้าก็เร่งสร้างสมคุณงามความดี บุญบารมีเอาไว้ก่อนจะสายเกินไปเพราะท่านอาจจะไม่โชคดีเหมือนกับผีผีที่เล่ามาแล้วนั้นก็ได้ ที่บังเอิญมีคนมีบุญผ่านมาช่วยเหลือพวกเขาซึ่งก็คงหาได้ยากในสังคมปัจจุบัน ยิ่งไม่ใช่พระหรือนักบวชผู้ทรงศีล ทรงอภิญญาด้วยแล้วยิ่งหาไม่ได้และไม่ต้องหวังเลย เอาหล่ะคงต้องขอจบเรื่องราวของผีตัวที่ ๙ เอาไว้เพียงเท่านี้ แล้วคอยพบกับผีตัวที่ ๑๐ กันต่อไปนะครับffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
     
  2. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,248
    ค่าพลัง:
    +68,026
    คนธรรมดาๆที่ไม่ได้ปฏิบัติธรรม ก็จะแผ่บุญกุศลให้พวกเขาไม่ได้ใช่ไหมคะ
    น่าเสียดายจัง อยากช่วยพวกเขาค่ะ
     
  3. นักเดินธรรม

    นักเดินธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +2,393
    กฎอย่างหนึ่งของสัมภเวสีผู้รออายุขัยในโลกให้หมดไปตามวาระกรรม และเดินสู่ภูมิที่วิบากกรรม ย่อมเป็นไปด้วยหนึ่งในคำสอนองค์พระพุทธเจ้า คือสัญญาไม่เที่ยง ผีต่างๆเลยมักไม่ตอบรับการกระทำอื่นใด นอกจากการปรากฎตัวซ้ำๆ กระทำแบบเดิมๆ เวลาเดิมๆ ลักษณะเดียวกับคนย้ำคิดย้ำทำขึ้นอยู่กับว่า ก่อนตายจิตผูกพันที่สิ่งใด จะมุ่งมั่นที่สิ่งนั้น...การที่ผีแสดงตัวและพูดได้เยอะแยะมากมาย ย่อมหมายถึงอำนาจสมาธิที่สูงกว่าจิตสมาธิ(มุ่งมั่นเป็นหนึ่ง)ของผีธรรมดา...ซึ่งมีเพียงบุคคลนับได้สี่คู่ แปดบุรุษ จะสามารถแผ่เมตตาให้กับผู้อยู่ในระดับชั้นนี้ได้ด้วยอำนาจเมตตาธรรมเท่านั้น(คนธรรมดาอาจนำพาไปด้วยผ่านอานิสงค์สมาธิของพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี) หากเป็นจริงตามนี้ ผมขออนุโมทนาในบารมีธรรมของเจ้าของกระทู้ครับ
     
  4. xushukung

    xushukung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +465
    กระทู้มีประโยชน์ ช่วยดันครับ
     
  5. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ...........
     
  6. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,612
    ค่าพลัง:
    +2,882
    ในเรื่องก็มีบอกนี่ ว่าได้ แต่ยังไม่พอ

    หรือไม่ก็ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และบุญที่พวกเค้าเคยทำมาก่อน
     
  7. งูขาวพันปี

    งูขาวพันปี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2010
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +146
    ช่างน่าสงสารแท้ วิญญาณทั้งหลาย ขออนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ด้วย
     
  8. นักรบธรรม

    นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    969
    ค่าพลัง:
    +1,174
    เหมาะแล้วที่ท่านจะทำหน้าที่ช่วยเหลือศาสนาสืบสานต่อไป
    ผมก็อยากช่วยแต่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองได้แค่ใหน ทุกวันนี้
    แค่ฝึกให้ใจสบายไปวันๆ อุทิศส่วนกุศลก็ไม่รู้เขาได้รับมากน้อย
    แต่ก็ต้องทำ เหมือนคอยหยอดกระปุกออมสิน
    ไม่รู้ ๗ เดือน ๗ ปี หรือ ๗ ชาติจะได้อย่างท่านบ้างนะ
     
  9. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    ขอบพระคุณมากๆค่ะ............
     
  10. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    โมทนาบุญในธรรมทานนี้และการช่วยเหลือ
    วิญญาณอาภัพทั้งหลายเหล่านั้นด้วยครับ

    ธรรมรักษา
     
  11. JeTo2008

    JeTo2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +1,845
    พบและสนทนาธรรมในแบบเจโต ได้ทุกวันพฤหัสบดี และทุกวันอาทิตย์

    เชิญพบและสนทนาธรรมในแบบเจโต ได้ทุกวันพฤหัสบดี และทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา ๑๓.๐๐ น.- ๑๗.๐๐ น ณ.เรือนธรรม ตั้งอยู่ที่บริเวณ ถนนตัดใหม่สามัคคี-ติวานนท์ ปากเกร็ด สนใจโทร.๐๘๖๕๔๒๒๔๘๖
     

แชร์หน้านี้

Loading...