จะไปดู นรก สวรรค์ พรหม นิพพานได้อย่างไร?

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย paang, 3 ตุลาคม 2005.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,325
    [​IMG]



    เมื่อหลวงพ่อได้ยืนยันให้ข้าพเจ้าทราบ อย่างแน่ชัดแล้วว่า นรก สวรรค์ พรหม และนิพพาน มีจริงตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ ก็ทำให้ข้าพเจ้าอยากที่จะได้ไปรู้ไปเห็นกับเค้าบ้าง จะได้ไม่ต้องมาเป็นมนุษย์หลงโลก หรือปลาหลงหนองน้ำเน่าอย่างที่หลวงพ่อว่าอีกต่อไป ดังนั้นข้าพเจ้าจึงรีบถามหลวงพ่อต่อในทันใดว่า

    “ ถ้านรก สวรรค์ พรหม นิพพาน มีจริง แล้วผมจะไปดูกับเขาบ้างได้ไหมครับหลวงพ่อ?”

    หลวงพ่อหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ถามข้าพเจ้าว่า “เออ ที่คุณอ่านหนังสือออก เขียนหนังสือได้มาจนทุกวันนี้นั้น เป็นเพราะคุณเชื่อตามครูที่เขาสอนคุณใช่หรือไม่?”

    ข้าพเจ้านิ่งคิดเพราะไม่ทราบว่าหลวงพ่อจะมารูปใดแน่ แต่ก็ตอบว่า “ครับ ต้องเชื่อครู”

    “ ถ้าครูสอนว่า ก.ไก่ ต้องเขียนอย่างนี้ ข.ไข่ ต้องเขียนยังนี้ แต่คุณไม่สนใจ กลับหนีไปเล่นหยอดหลุม ทอยกองเสีย คุณจะรู้ไหมว่า ก.ไก่ เขียนอย่างไร ข.ไข่ เขียนอย่างไร?” หลวงพ่อถามไปเรื่อยๆ

    “คงไม่ทราบครับ” ข้าพเจ้าตอบอย่างระวัง

    “ถ้าครูสอน กอ-อะ-กะ,กอ-อา-กา แล้วคุณไม่ฟังไปเล่นหยอดหลุม ทอยกองอีก คุณจะอ่านออกเสียงกับเขาได้ไหม?” หลวงพ่อถามต่อ

    “คงไม่ได้ครับ” ข้าพเจ้าตอบตามความเป็นจริง

    “คราวนี้ถ้าครูสอนให้อ่าน ตาดี ตีงู....แล้วคุณก็ยังหนีไปเล่นหยอดหลุม ทอยกองอีก คุณคิดว่าคุณจะผสมคำอ่านไปกับเขาได้ไหม?” หลวงพ่อถามยิ้มๆ

    “คงไม่ได้ครับ” ข้าพเจ้าตอบ

    “รวมความว่าที่คุณอ่านหนังสือออก เขียนหนังสือได้ เพราะคุณเชื่อตามที่ครูสอนแน่นะ”หลวงพ่อถามย้ำ

    “ครับต้องเชื่อครู”

    นั่นแหล่ะ เหมือนกัน ถ้าคุณอยากจะไปดูว่า นรก สวรรค์ พรหม และนิพพานมีจริงหรือไม่ คุณก็ต้องเชื่อและปฏิบัติตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซิ คราวนี้คุณลองถามตัวเองดูซิว่า คุณเคยในทานไหม เคยรักษาศีลไหม เคยเจริญพระกรรมฐานไหม เคยเจริญวิปัสสนากรรมฐานไหม เคยบูชาพระหรือไหว้พระสวดมนต์เป็นประจำไหม เคยรู้จักระงับนิวรณ์ 5 บ้างไหม เคยทรงพรหมวิหาร 4 บ้างไหม...เป็นต้น ถ้าคุณไม่ตอบ ฉันก็จะตอบแทนให้ในหลักใหญ่ๆ ว่าทานนั้นคุณอาจทำบ้างโดยเต็มใจบ้างไม่เต็มใจบ้าง ศีล ของคุณเอาแต่ศีล 5 เฉยๆ ก็รู้สึกว่าจะกระพร่องเต็มที โดยเฉพาะศีลข้อ 5 ของคุณนั้นขาดกระจุย ยิ่งการเจริญภาวนาด้วยแล้ว คุณไม่มีเลยนะ นี่ฉันพูดชี้ให้คุณเฉพาะแค่ทาน ศีล ภาวนา ซึ่งเป็นบันได 3 ขั้น เท่านั้นนะ เมื่อเป็นเช่นนี้คุณก็คงตอบตัวเองได้ใช่ไหมว่า คุณนั้นหาได้เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งสอน ขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาอย่างจริงจังไม่

    ดังนั้นการที่คนอ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่ได้ เพราะไม่เชื่อครูฉันใด คุณก็ย่อมไม่มีวันได้ไปเห็น นรก สวรรค์ พรหม และนิพพาน เพราะคุณไม่เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าฉันนั้น

    ข้าพเจ้านั่งตาปริบๆ ฟังหลวงพ่ออย่างตั้งอกตั้งใจ แม้ใจซึ่งเต็มไปด้วยมิจฉาทิฐิอยากที่จะโต้แย้งบ้าง แต่ก็อับจนปัญญาไม่ทราบว่าจะโต้แบบใด เพราะหลวงพ่อพูดความจริงทุกอย่าง จึงได้แต่ส่งเสียงอึกอักอยู่ในลำคอ

    หลวงพ่อเห็นข้าพเจ้านั่งฟังด้วยอาการสงบ ก็พูดว่า การที่พระพุทธเจ้าสอนให้รู้จักการให้ทานนั้น ก็เพราะทานเป็นพื้นฐานของบุญขั้นแรก หากเป็นคุณปฏิบัติตามได้จะมีผลอย่างมหาศาล คุณลองพิจารณาดูจะเห็นได้ว่า ทุกครั้งที่คุณควักเงินออกบริจาคเป็นทานจิตของคุณในขณะที่ให้ทานย่อมไม่มีความโลภใช่ไหม เพราะถ้ายังมีความโลภ คุณก็บริจาคทานไม่ได้เงิน 10 บาท 20 บาทก็มีความหมายใช่ไหม และจิตคุณขณะที่ให้ทานก็ย่อมไม่มีความโกรธใช่ไหม เพราะถ้าคุณมีความโกรธอยู่ใครมาขอแค่ 1 บาท คุณก็ไล่ตะเพิดไปแน่ๆ ใช่ไหม และเมื่อจิตไม่มีโลภ ไม่มีโกรธ ก็ย่อมไม่มีความหลงใช่หรือไม่และผลที่ตามมาจากการให้ทานบ่อยๆ นี้เองจะทำให้คุณเกิดพรหมวิหาร 4 ใน 2 ข้อแรกคือ เมตตา( ความรัก) และกรุณา(ความสงสาร) ขึ้นโดยไม่รู้ตัว และเมื่อความเมตตา กรุณาเกิดขึ้นในจิต ก็จะทำให้คุณยิงนก ตกปลา ฆ่าชีวิตคนและสัตว์ไม่ได้ จะลักขโมยของผู้ใดก็เกิดความสงสารเห็นใจ จะเป็นชู้กับลูกเมียใครก็ทำไม่ได้จะโกหกมุสาใครแม้แต่นัดเขาไว้ไม่ไปตามนัดก็สงสารเขา จะเสพย์สุรายาเมาก็สงสารลูกเมียในที่สุดคุณก็จะรักษาศีล 5 ได้โดยไม่ยากเย็น เป็นการก้าวเข้าสู่บันไดขั้นที่ 2 ของบุญได้ใช่ไหมและเมื่อใดศีล 5 ของคุณบริสุทธิ์ การเจริญพระกรรมฐานซึ่งเป็นบันไดขั้นที่ 3 ก็ย่อมไม่มีอุปสรรคมากนัก

    ข้าพเจ้าฟังหลวงพ่ออธิบายอย่างเพลิดเพลิน และคิดตามไปด้วยเหตุและผลโดยตลอด แม้จะยืดยาวเพียงไรข้าพเจ้าก็จดจำได้อย่างแม่นยำและจำได้ตลอดกาลด้วย (สำหรับเรื่องการจำแม่นนี้ อาจเป็นเพราะข้าพเจ้าเคยสร้างสมมาแต่ปางก่อนก็ได้ เพราะตั้งแต่เด็กข้าพเจ้าข้าพเจ้าสอบได้ที่ 1 มาโดยตลอดก็เพราะสามารถอ่านหนังสือครั้งเดียวจำได้ โดยไม่ต้องนั่งท่องจำเหมือนคนอื่นให้เสียเวลาเลย)

    หลวงพ่อก็คงรู้ว่าข้าพเจ้าเข้าใจที่ท่านพูด และยังมีความในใจที่จะฟังต่ออย่างไมรู้สึกเบื่อหน่าย จึงอธิบายต่อว่า

    “การที่จะนั่งพิสูจน์ค้นคว้า เกี่ยวกับ นรก สวรรค์ พรหม และนิพพาน หรือหลักสูตรพระพุทธศาสนาในเรื่องต่างๆ นั้น จะมาค้นคว้าหากันในด้านวัตถุของโลกวิทยาศาสตร์นั้ย่อมไม่มีทางสำเร็จ เพราะเป็นการค้นหาและพิสูจน์ที่ไม่ตรงจุด ถ้าจะให้ตรงจุดก็จะต้องหัดทรงอารมณ์ดีขั้นต้นๆ 3 ประการให้ได้เสียก่อน คือ


    1. เลิกสนใจกับความดีความชั่วของคนอื่น สนใจแต่อารมณ์ของตนเองให้
    ทรงอยู่ในความดีโดนเฉพาะ


    2 .ทรงศีล 5 บริสุทธิ์ตลอดกาล ไม่แนะนำให้ผู้อื่นทำลายศีล และไม่ยินดีเมื่อคนอื่นทำลายศีล


    3 . ระงับนิวรณ์ 5 ให้ได้เมื่อทรงอารมณ์ดี 3 ประการได้แล้วก็พยายามทรงพรหมวิหาร 4 (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา) ให้ครบถ้วนตลอดเวลาที่มีลมปราณอยู่ และให้ทรงได้เป็นปกติด้วยต่อจากนั้นไป คุณก็ฝึกจิตจับนิมิตด้วยกสินอย่างใดอย่างหนึ่ง 3 อย่างนี้ คือ

    1.เตโชกสิณ(เพ่งไฟ)

    2. โอทาตกสิณ (เพ่งสีขาว)

    3. อาโลกกสิณ(เพิ่งแสงสว่าง) การเพ่งนั้นเมื่อคุณทรงอารมณ์ขั้นต้นจนเป็นปกติ ผลของการเพ่งไม่มีอะไรยากใช้เวลาอย่างช้าไม่เกิน 7 วัน ก็จะทรงนิมิตเป็นฌานได้อย่างสบาย และใช้นิมิตนั้นเป็นสื่อ นรก สวรรค์ และพรหมโลกได้ และเมื่อใด หากคุณทรงวิปัสสนาญาณได้ อารมณ์ถึงโคตรรภูญาณเป็นอย่างน้อยคุณก็จะสามารถพิสูจน์ได้ว่า พระนิพพานนั้นมีจริงอีกด้วยและถ้าจะให้ดีอีกสักนิด เห็นชัดอีกสักหน่อย คุณก็พยายามละโลกธรรม 8 ประการเสียเลยเรื่องได้ลาภเสื่อลาภ ได้ยศเสื่อมยศ สุข ทุกข์ สรรเสริญ นินทา จงปล่อยไป ไม่สนใจเอามาเป็นอารมณ์ หากทำได้เช่นนี้แล้ว คุณก็จะสามารถพิสูจน์ความจริงได้ว่า นรก สวรรค์ พรหม และพระนิพพาน นั้นมีจริง อ้าวนั่นคุ๕นั่งหลับไปแล้วรึ”


    “ป่าวครับหลวงพ่อผมเข้าสมาธิฟังครับ ผมถนัดในการนั่งหลับตาฟังเพราะจำได้แม่นยำดี อ้อ หลวงพ่อครับ โคตรภูญาณ คืออะไรครับ?” ข้าพเจ้าตอบแล้วถามต่อ


    “เมื่อคุณเจริญสมถกรรมฐานด้วยการเพ่งกสิณจนได้ทิพจักษุญาณแล้ว คุณก็จะต้องเจริญวิปัสสนาญาณให้เข้าถึงโคตรภูญาณ ยังไงล่ะ โคตรภูญาณนั้นจะอยู่ระหว่างโลกียะกับโลกุตระ คือ ส่วนหนึ่งของใจยังเป็นโลกียชน แต่อีกส่วนหนึ่งของใจจะเป็นโลกุตรชน คือใกล้เป็นพระโสดาบันนั่นแหละ”


    หลวงพ่อตอบ “เป็นยังไงยังงงๆ ใช่ไหม ไม่เป็นไร ต่อไปฉันจะเขียนคู่มือปฏิบัติพระกรรมานให้ อ่านดูแล้วปฏิบัติตามไปสักวันหนึ่งไม่นานเกินรอคุณก็จะเข้าใจที่ฉันพูดมานี้ทุกอย่างได้เอง”


    “หลวงพ่อครับ แล้ว มโนมยิทธิ ล่ะครับไปดูนรก สวรรค์ พรหม นิพพานได้ไหม?” ข้าพเจ้ารีบถามเพราะเคยได้ยินบางท่านพูดถึงกัน


    “คุณจะต้องเข้าใจก่อนนะว่ามโนมยิทธินั้น หมายถึงอะไร มโนมยิทธิแปลว่าฤทธิ์ทางใจ ถ้ามโนมยิทธิแบบเต็มกำลังแล้ว ท่านหมายถึงการถอดจิตออกกจากร่างแล้วท่องเที่ยวไปในภพต่างๆ และผู้ที่จะสามารถทำได้ จะต้องทรงวิชชาสาม หรือ ทรงอภิญญา 6คุณไม่เข้าใจอีกละซิ เห็นนั่งทำหน้างงๆ ไม่เป็นไรถ้าอยากจะรู้ว่าวิชชาสาม หรืออภิญญา 6 มีอะไรบ้าง ฉันจะเขียนไว้ในคู่มือปฏิบัติพระกรรมฐานแล้วคุฯไปอ่านเอาเองก็แล้วกัน เอาเป็นว่าถ้าหากคุณทางฌาน 4 ได้ในกสิณอย่างใดอย่างหนึ่งกสิณ 3 อย่างที่ฉันว่าแต่ขอแนะนำให้เอาอาโลกกสิณ คือเพ่งแสงสว่าง จะเป็นการดีเพราะเป็นกสิณที่สร้างทิพยจักษุญาณโดยตรง เมื่อได้ทิพยจักษุญาณแล้วก็ทำจิตให้โปร่งสว่างไสว แล้วกำหนดจิตว่าของร่างกายนี้จงเป็นโพรงก็จะเห็นว่าร่างกายเป็นโพรงใหญ่ต่อจากนี้ก็กำหนดจิตว่า ขอร่างอีกร่างหนึ่งจงปรากฏขึ้นภายในกายนี้ กายอีกกายหนึ่งก็จะปรากฏขึ้นต่อจากนี้ก็ค่อยบังคับกายนั้นให้เคลื่อนไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายอาทิเช่น ตับไตไส้ปอด เส้นเลือดทุกเส้น ลำไส้ทุกส่วน ประสาททุกส่วนบังคับให้กายนั้นเดินไปตรวจให้ถ้วนทั่วทั้งร่างกาย จะเห็นว่าแม้เส้นเลือดฝอยเล็กๆ ร่างนั้นก็เดินไปได้อย่างสบาย เสมือนเดินอยู่บนถนนสายใหญ่ เห็นร่างกายเรานี้เป็นโพรงใหญ่คล้ายเรือหรือถ้ำขนาดใหญ่เมื่อท่องเที่ยวในรางกายจนชำนาญแล้ว ก็ควรหาความรู้ในสภาพของอวัยวะต่างๆ ตลอดจนสภาพความสกปรกโสมมในร่างกายของเราไปด้วยเมื่อมีความชำนาญในการเที่ยวและการตรวจสอบสภาพร่างกายของเราดีแล้วก็กำหนดจิตว่าเราจะไปนรกขุมใด สวรรค์ชั้นใด พรหมชั้นใด หรือ พระนิพพาน หรือบ้านใด เมืองใด ดาวดวงใด ก็พุ่งกายออกไปก็จะถึงถิ่นที่ประสงค์ทันที ให้เวลาไม่ถึงครึ่งวินาที เมื่อถึงแล้วจิตจะบอกเองว่าสถานที่นั้นเป็นภพภูมิใด บ้านเมืองใด ใครบ้างที่พบโดยไม่ต้องมีคนบอกเพราะสภาพของจิตเป็นทิพย์ กิเลสไม่ได้หุ้มห่อไปด้วย จึงรู้อะไรได้ตามความเป็นจริงเสมอ


    เป็นยังไงล่ะ นั่งฟังเพลินเลย น่าสนุกนะ หากฝึกได้ละก็คุณได้เที่ยวสนุกแน่ ไม่ต้องเสียค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พักและค่าใช้จ่ายอื่นใดเลยนะ ไม่ต้องไปเที่ยวยืมใครหายใจ ไม่ต้องขออนุญาตเจ้าของบ้านเจ้าของสถานที่ สามารถเข้าไปตรวจสอบอะไรต่ออะไรได้หมดเลยนะ”

    “ครับ ผมจะพยายามฝึก” ข้าพเจ้าตอบ


    เป็นยังไงครับ ท่านผู้อ่านท่านใดอยากรู้ว่า นรก สวรรค์ พรหม และนิพพานมีจริงหรือไม่ จะไม่ลองพิสูจน์โดยการฝึกปฏิบัติตามที่หลวงพ่อสอนบ้างหรือ ยิ่งในปัจจุบันนี้ หนังสือคู่มือปฏิบัติพระกรรมฐานของหลวงพ่อก็ยังมีการจัดพิมพ์ขึ้นมาแล้ว มิหน้ำซ้ำหลวงพ่อยังได้เมตตาฝึกมโนมยิทธิให้ลูก หลาน ญาติ มิตร อยู่อย่างสม่ำเสมอทุกเดือนที่บ้าน พลอากาศโท ม.ร.ว.เสริม ศุขสวัสดิ์ ณ ซอยสายลมอีกด้วย จึงนับเป็นโอกาสดีอย่างยิ่งของท่านที่สนใจทั้งหลาย


    อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าก็แอบภาคภูมิใจอยู่มิใช่น้อยที่คำถามข้อนี้ของข้าพเจ้ามีส่วนช่วยผลักดัน ให้หลวงพ่อต้องจัดทำหนังสือคู่มือปฏิบัติพระกรรมฐานขึ้นมา เพราะหลวงพ่อคงได้พิจารณาแล้วว่าหากไม่จัดทำขึ้น ก็คงต้องนั่งตอบคำถามของข้าพเจ้าซึ่งเป็นคนขี้สงสัยอยู่อย่างไม่มีวันจบสิ้นนั่นเอง และแม้ข้าพเจ้าจะหมดสงสัย ลูกหลานญาติมิตรของหลวงพ่ออีกไม่รู้กี่หมื่นกี่แสนคนก็คงจะต้องสงสัยโน่นสงสัยนี่กันอีก และหลวงพ่อก็คงจะต้องตอบคำถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
    อยู่ดี


    ดังนั้นหากท่านผู้อ่านไม่เข้าใจในศัพท์บางคำที่ข้าพเจ้าเขียนก็ดีหรือปฏิบัติไปแล้วติดขัดในขั้นตอนใดก็ดี ขอจงได้อ่านในคู่มือปฏิบัติพระกรรมฐานบ้าง ไตรภูมิ บ้าง มหาสติปัฏฐาน 4 และหนังสืออื่นๆ ที่หลวงพ่อเขียนเอาไว้เถิด ก็จะเข้าใจได้เอง ยิ่งปฏิบัติ ปัญญาก็จะยิ่งเกิดจนในที่สุดท่านจะสามารถถามเองและตอบเองได้อย่างน่าพิศวง



    ที่มา : http://www.geocities.com/magic_angelth/index16.htm
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2006
  2. จันทร์เจ้า

    จันทร์เจ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,948
    ขออนุโมทณาแก่บทความดีๆครับ
     
  3. โลกันต์

    โลกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    357
    ค่าพลัง:
    +620
    วิธีตรวจจักรวาล ภพ ๓ และโลกันต์



    [​IMG]
    ลักษณะภพ ๓ และโลกันต์[​IMG] วัตถุประสงค์และวิธีตรวจ [​IMG] ภูมิ ๓๑


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="45%" border=0><TBODY><TR><TD style="BORDER-TOP: 2px solid" align=middle>อรูปภูมิ ๔</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>อากิญจัญญายตนภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>วิญญาณัญจายตนภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid"></TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 2px solid" align=middle>


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>สุทธาวาสภูมิ ๕ ชั้น</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>อกนิฏฐภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>สุทัสสีภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>สุทัสสาภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>อตัปปาภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid"></TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 2px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid"></TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 2px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid"></TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 2px solid">
    ทุคคติภูมิ ๔





    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">


    </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- / message -->
     
  4. nat

    nat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +24
    จะพยายามปฎิบัติให้ได้อย่างมากๆตามที่หลวงพ่อกล่าวไว้ค่ะ สาธุ.....
     
  5. อภิเดช

    อภิเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +910
    อนุโมทนา ด้วยนะครับ
     
  6. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,173
    โมทนาบุญด้วยครับ
     
  7. nay_ohho

    nay_ohho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +120
    ขอนุโมทนาครับ
     
  8. สุวรรณา รัตนกิจเกษม

    สุวรรณา รัตนกิจเกษม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    311
    ค่าพลัง:
    +772
    อนุโมทนาสาธุ ค่ะ .....
     
  9. สุวรรณา รัตนกิจเกษม

    สุวรรณา รัตนกิจเกษม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    311
    ค่าพลัง:
    +772
    ท่านผู้รู้บอกกับเราและชี้ให้เราเห็นกรรมที่เคยทำไว้....เราเคยทำร้ายจิตใจผู้ที่มีพระคุณของเรา ผู้ที่เค้าดีต่อเรา...ด้วยความจริงใจ..มาก่อน..ทำให้ตอนนี้มีผลกรรมเกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมมาตามสนอง...ทำให้สภาพจิตใจของเราย่ำแย่ทุกวัน ๆ ๆ ๆ เราเจอเหตุการณ์ร้าย ๆ ทุกวัน ๆ ๆเหมือนตกอยู่ในนรก...เลย..แต่ละวันไม่เคยมีความสุข ...อยู่บ้านก็คนมาให้ร้าย ..ไปทำงาน ก็มีคนมาให้ร้าย ไปที่ไหน ก็เจอ ..แม้แต่ญาติหรือเพื่อนสนิท ที่เคยดีต่อกัน ก็เข้าใจเราผิด คิดร้ายและ ให้ร้ายเรา ทำเจอแต่ความเสียใจทุกวัน ๆ ๆ ทุกวันนี้เราได้แต่รอให้กรรมนี้หมดไป และเราพยายามสร้างกุศลผลบุญให้มากที่สุด เพื่ออนาคตชีวิตจะได้มีความเจริญรุ่งเรือง...(แต่พอเราจะทำบุญ เข้าวัด พ่อแม่ก็คิดว่าเรางมงาย ...เราร้องไห้และพยายามจะทำบุญให้ได้เพราะเห็นถึงความชั่วร้ายของเราเองที่เคยทำคนอื่นไว้...ได้รับผลกรรมชั่วแล้ว..ก็อยากทำดีเพื่อได้รับผลกรรมดีบ้าง..เราไม่อยากเป็นคนไม่ดี เราอยากจะทำแต่สิ่งที่ดีเพื่ออนาคตในวันข้างหน้าจะได้ดีขึ้น)...ผลกรรมที่เราทำขึ้นนั้น ...ก็คือการละเมิดศีล 5 นั่นแหละ ...ข้อที่บอกว่า การโกหก สมัยก่อนเราเป็นคนอารมณ์ร้ายพูดจาไม่ดีทำให้คนอื่นเสียใจทำร้ายจิตใจคนที่เขาจริงใจต่อเราและเราทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์มากมายเพราะว่าเราเห็นแก่ประโยชน์ของตัวเราเองด้วย...(ผลกรรมที่ย้อนกลับมาทำให้เราทรมานมาก..นอนทุรนทุราย น้ำตาไหล กลุ้มใจ คลุ้มคลั่ง กรีดร้อง เสียใจ..ทำให้เราเกือบคิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง) ตอนนี้เราพยายาม ทำแต่ความดี รักษาศีล 5 และพยายามไม่โกรธใคร พยายามไม่ทำร้ายใคร ด้วยกาย วาจา ใจ เพราะเราไม่อยากสร้างกรรมชั่วและรับกรรมชั่วของตัวเองอีกแล้ว
     
  10. พล

    พล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +137
    ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  11. แคท

    แคท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2005
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +1,666
    ขออนุโมทนา
     
  12. ผู้ศึกษา

    ผู้ศึกษา เจ้าชายสีฟ้าคราม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +167
    ช่วยตอบทีครับ

    ขออนุโมธา สาธุ ด้วยน่ะครับ
    แล้ว สวรรค์ ที่สูงที่สุดนี่ คือ
    นิพพาน ใช่ไหมครับ คือ พ้น 3 ภพ ออกไปอีกหน่ะครับ
    [b-wai] [b-wai] [b-wai]
     
  13. ไอ้ใบ้

    ไอ้ใบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,254
    ค่าพลัง:
    +7,241
    เมื่อวาน ผมทะเลาะกับแม่ เรื่องเงินๆทองๆ ผมใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม ทำให้แม่เสียใจ ผมรู้สึกผิดและเป็นทุกข์ในใจอย่างมาก นี้แหละคือ นรก..... รุ่งเช้าผมไปกราบขอโทษท่าน ในเรื่องคำพูดที่ไม่เหมาะสมทำให้แม่เสียใจ แม่ให้อภัยผม นี้แหละคือ พรหม... หลังจากนั้นผมชวนแม่ไปทำบุญที่วัดใกล้บ้านด้วยความสุขใจ นี้แหละ สวรรค์.... ระหว่างที่อยู่ในวัด แม่อบรมสั่งสอนผมว่า แม่ไม่เข้าข้างลูกคนใดคนหนึ่งหรอก แม่รักลูกทุกคนเท่่ากันหมด อย่าน้อยใจไปเลย แม่เป็นกลางและยุติธรรมเสมอ นี้แหละ นิพพาน (ความเป็นกลาง) จบเท่านี้ จากผมเอง สายพระพุทธเจ้าโดยตรง
     
  14. imaginary

    imaginary Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +73
    ขอบคุณมากๆๆๆๆครับ
    ขออนุโมทนาด้วยครับ
     
  15. Toniz

    Toniz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +2,065
    อนุโมทนาครับ
     
  16. nupee

    nupee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +20
    ดีมากเลยครับ
    ขอบคุงกั๊บ
     
  17. chankmit

    chankmit สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    กลับบ้าน เจอว่าเมียอยู่ในบ้าน นั่นแหล่ะครับ "นรก"
     
  18. pattarawat

    pattarawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,671
    ค่าพลัง:
    +7,981
    คำสอนของหลวงพ่อเฉียบมากครับ ต้องกลับอกกลับใจกันใหญ่
     
  19. ชลัท

    ชลัท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +109
    ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ได้จัดหาข้อมูลในเรื่องราวทางการปฏิบัติธรรม
    ให้กับสมาชิกได้ทราบได้ศึกษากัน เหมือนกับข้าพเจ้าที่ได้รับ ต้องขอขอบคุณ
    และขออนุโมทนาด้วยครับ
     
  20. supitchar

    supitchar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +639
    สาธุ สาธุ สาธุ (คิดถึงหลวงพ่อจังเลย)[​IMG][​IMG][​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...